98 ตอน ตอนที่ 98 อันตรายก่อนขึ้นชั้น 20
โดย YukiCoCo
ตอนที่ 98 อันตรายก่อนขึ้นชั้น 20
เสียงฝีเท้าดังกึกกักตามเดินยาวหินอ่อนตรงไปสู่ตึกสูงตระหง่านตรงหน้าของพวกเขาทั้งสามคน ตึกตรงหน้าเอ็มไพร์สเตทที่สูงยิ่งกว่าตึกไหน ๆ แล้วยังเป็นจุดที่เชื่อมต่อสู่เขาโอลิมปัส เอเดอร์กำลังเดินนำพาเด็กทั้งสองคนไปยังสถานที่พวกเขาจะประชุมกันนั้นก็คือชั้นที่ยี่สิบของที่นี่ แต่ตัวเขานั้นไม่คาดคิดว่าเด็กตรงหน้าที่มีหน้าตาเหมือนน้องสาวเขาจะไม่ได้น้องจริง ๆ แต่พอเขาสังเกตรูปลักษณ์และท่าทางของทั้งสองโฟกัสนั้นไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนไปยกเว้นทรงผมที่สั้นลง แต่คนเป็นพี่มีความเปลี่ยนเยอะที่สุด ตั้งแต่ทรงผม บาดแผลและสายตาการมองเขานั้นเหมือนนักล่าที่จ้องมองเหยื่อไม่มีผิด ต่างจากน้องสาวเขาที่เหมือนกระต่ายเปราะบาง
‘ทำไมยัยนี้ดูน่ากลัวว่าโพรเทียของเรามากเลยเนี่ย?’ เอเดอร์คิด
เอเดอร์คิดอยู่สักพักก่อนจะหันไปสอบถามทั้งสองคน “เอ่อ...พวกเธอไม่ใช่น้องเรา...แล้วน้องเราอยู่ไหน?”
“ข้อนี้เราไม่มีคำตอบให้นายหรอกนะ เพราะว่าการที่เรามาอยู่นี้ เรายังงุนงงอยู่เช่นกันว่าทำไมเรามาที่นี่แล้วต้องมาทำอะไรที่นี่กัน?”
โพรทาเลียเอ่ยตอบอย่างสุภาพ เพราะตัวเธอกับน้องสาวก็ยังไม่แน่ใจว่าพวกเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง แล้วมีเหตุผลอะไรกันแน่ เอเดอร์ได้ยินคำตอบนั้นก็ครุ่นคิดอย่างสงสัยว่าคำพูดอีกฝ่ายนั้นช่างหาคำตอบไม่ได้ แต่ก็สงสัยอีกอย่างว่าทำไมทั้งสองมาที่นี่กันล่ะ
“แล้วพวกเธอมาทำอะไรแถวนี้ล่ะ?”
“อาจารย์ไครอนบอกว่าคำถามน่าจะอยู่กับผู้ใหญ่ที่อยู่ที่นี่นะสิ เราถึงออกมากัน...”
“หลังจากโดนพวกไททันโจมตีค่ายนะ” โฟกัสพูดเสริมขึ้น
“ว่าไงนะ!?” สีหน้าของเอเดอร์ตื่นตระหนกตกใจในทันที “แล้วสถานการณ์ในค่ายล่ะ?”
“ก็ดีขึ้นแล้วนะ พี่โพรทาเลียเขาจัดการ”
“เอ๋?”
เอเดอร์ได้ยินก็หันไปมองโพรทาเลียที่ยกยิ้มให้ ทำเอาเขาขนลุกเลยว่าน้องสาวในอีกโลกหนึ่งโคตรโหด การจัดการไททันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่อีกฝ่ายกับจัดการได้เขาคงต้องห้ามพวกพี่ ๆ ไปยุ่งกับเด็กคนนี้เสียแล้ว
“แล้วพวกเธอจะทำไงต่อล่ะ? ถ้าได้คุยกับพวกผู้ใหญ่แล้วนะ?”
“ก็คง...ตามหาจุดเชื่อมและแก้ไข เพื่อให้พวกเรากลับไปโลกเดิม” โพรทาเลียเอ่ยอธิบายให้อีกฝ่ายฟัง
เอเดอร์ฟังอีกฝ่ายอธิบายจนพวกเขาเดินเข้ามายังตึก แล้วตรงดิ่งไปที่ลิฟต์ เอเดอร์กดปุ่มให้ลิฟต์ลงมา แล้วหันไปหาทั้งสองคนด้วยความสงสัยอีกเรื่อง
“แล้วโลกเดิมของพวกเธอ มันเป็นแบบไหนหรือว่าเหมือนกับโลกที่เราอยู่กันล่ะ?”
“เอ่อ...ก็...บางอย่างก็อธิบายไม่ค่อยได้ แต่ว่าสถานที่...โลกนี้เหมือนกับโลกเดิมของเรา แต่มีบางอย่างที่ต่างบาง...”
“อย่างเช่น?”
“เหตุการณ์...สถานที่บางแห่ง...”
“ครอบครัวพวกเรา!” โฟกัสพูดเสริมขึ้นมา
“ครอบครัว?”
“จากที่ได้ยินในค่าย ตัวพวกโพรเทียในโลกนี้เป็นน้องเล็กของบ้านใช่ไหม?”
“ใช่...ทำไมเหรอ?”
“โลกของเรา พวกเราไม่ได้เป็นน้องเล็ก”
“หมายถึง...?” เอเดอร์ฟังแล้วรู้สึกแปลก ๆ “อย่าบอกนะว่า....พวกเธอ...มีน้องเหรอ?”
“ใช่ น้องแฝดสามคนเป็นน้องสุดท้ายของบ้านนะ”
“อะไรกัน?” เอเดอร์ตกใจที่พวกเขานั้นมีน้องอีกสามคนที่พวกเขาไม่รู้จัก “แบบนี้...รู้สึกแปลก ๆ จังนะ....”
“แน่ล่ะ...พอกับสถานการณ์ที่เราไม่อยากให้เกิด...เช่นเดียวกัน...”
“เหตุการณ์...?”
“โลกของเรา...ยังมีพ่ออยู่...แต่ตอนนี้มันไม่มีแล้ว...”
เอเดอร์ได้ยินก็ตะลึงที่โลกของทั้งสองคนนั้นยังมีพ่ออยู่ แต่โลกของพวกเขานั้นไม่มีพ่ออยู่แล้ว
“พ่อ...พ่อยังอยู่...นั้น...ที่พวกเธอ...ถูกส่งมานี้...เพราะมีสิ่งที่เปลี่ยนโลกของเธอจนต้อง...”
“ใช่...พวกเราต้องหาต้นเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องนี้...แล้วเอาทุกอย่างกลับมา...” ใบหน้าของโพรทาเลียขมวดคิ้วจนมันจะกลายเป็นโบอยู่แล้ว “ถ้าไม่เปลี่ยน...โลกของเราที่ตอนนี้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มันเกิดพังขึ้นมา...แล้วพ่อแม่เราจะเป็นยังไงมั้งก็ไม่รู้ พวกพี่ ๆ น้อง ๆ กำลังทุกข์อยู่หรือเปล่า...แล้วก็...”
โพรทาเลียนึกถึงลูกของเธอ ยิ่งอยู่ห่างมันยิ่งกลัวเหลือเกินว่าลูก ๆ กำลังจะเจอกับอะไรมั้ง กำลังร้องไห้หรือเปล่าที่เธอไม่อยู่ข้าง ๆ
“ขอโทษนะ...ฉันไม่รู้ว่าพวกเธอกำลังเจอกับอะไร แต่ว่า...ถ้ามีอะไรที่พวกเราจะช่วยได้ก็บอกละกัน พวกเราก็เป็นพี่น้องกันก็ต้องช่วยกันล่ะนะ”
ทั้งสองมองอีกฝ่ายที่พูดแบบนั้น ทำให้นึกถึงพี่ชายที่อยู่โลกของพวกเธอที่จะขอให้พวกเธอพึ่งพา
“งั้นพาพวกเราขึ้นไปหาพวกผู้ใหญ่ดีกว่านะ พี่เอเดอร์”
“อ๊ะ...จริงด้วย!”
เอเดอร์ได้ยินแบบนั้นก็รอสักพักก่อนที่ประตูลิฟต์จะเปิดออกแล้วพวกเขาก็เข้าไปข้างในนั้น ภายในลิฟต์มีแค่พวกเขาสามคน เอเดอร์กดชั้นลิฟต์ที่พวกเขาจะไป ก่อนที่เขาจะเอ่ยถามบางอย่างออกไป
“แล้วในโลกพวกเธอมีเหตุการณ์ที่แตกต่างกว่านี้อีกไหม?”
“เหตุการณ์ที่แตกต่างเหรอ? ก็คงเป็นเรื่องของ...คราวิลกับโฟกัสไม่ได้เป็นแฟนกันในโลกนี้”
“พี่!!” โฟกัสได้ยินถึงกับหน้าแดงก่ำทันที
“หือ?” เอเดอร์ได้ยินก็ตาโตขึ้นมา ”เดียวนะ!! จะบอกว่าในโลกของเธอ คราวิลกับโฟกัสเป็น...”
โฟกัสเห็นสีหน้าของพี่ชายก็เขินหน่อย ๆ แต่เธอก็ยอมที่จะพูด เพราะมันเป็นเรื่องจริงสำหรับเธอ
“ใช่ ฉันกับเขาเป็นแฟนกัน แต่พ่อแม่ก็ไม่ชอบเท่าไหร่ พวกพี่ชายก็เหมือนกัน”
“เหอะ ๆ นึกแล้ว...พวกเราไม่ค่อยสนิทกับหมอนั้นอยู่แล้ว ยังสงสัยว่าเธอไปเป็นแฟนหมอนั้นได้ไง?”
“ก็...เขากับพี่โอราอุสเป็นเพื่อนกันนะ”
“เอ๋...?” เอเดอร์ได้ยินแบบนั้นก็มองอย่างครุ่นคิดก่อนจะนึกถึงอายุของคราวิล ”อ๋อ...หมอนั้นอายุ 20 นี่น่า”
“ใช่...คราวิลเป็นเพื่อนพี่โอราอุส นั้นเลยเหมือนใบเปิดทางที่ทำให้เจอกับน้องสาวพี่ จริงไหมนะ?” โพรทาเลียเขยิบเข้าไปใช้ข้อศอกสะกิดน้องสาวเบา ๆ
“พอเลย พี่!” โฟกัสเห็นท่าทีของคนเป็นพี่ก็ทำเอาเธอเขินอายสุด ๆ
เอเดอร์เห็นทั้งสองคน ทำให้เขาคิดเลยว่าน้องสองคนนี้ดูมีความสุขกว่าน้องของตนอีก
“พวกเธอดูมีความสุขจังเลยนะ ตลอดมาคงมีความสุขมากเลยสินะ”
“ซะที่ไหนล่ะ!!”
โฟกัสตะโกนเสียงดังจนก้องไปทั้งลิฟต์ เอเดอร์ถึงกับตกใจกับเสียงตะโกนของอีกฝ่าย เขางุนงงเลยว่าตนเองทำให้ผิดถึงโดนตะโกนแบบนั้น โพรทาเลียเห็นว่าโพรทาเลียมีสีหน้าไม่พอใจคนเป็นพี่ชาย เธอจึงแตะไหล่น้องสาวเบา ๆ
“โฟกัส...”
“อ๊ะ...ขอโทษค่ะ...ฉันไม่ชอบคำพูดของพี่เขานะ...”
“ทำไมล่ะ? ฉันพูดอะไรผิดกัน? พวกเธอไม่มีความสุขงั้นเหรอ?”
“พวกเราไม่เคยมีความสุขหรอกนะ...”
โฟกัสกล่าวขึ้นมาเมื่อเธอนึกถึงอดีตที่มีแต่ความขัดแย้งระหว่างพวกเขากับโพรทาเลียตัวปลอม ทำให้บางครั้งก็ทะเลาะกันมั้งจนเธออยากหนีออกจากบ้าน แต่เพราะพ่อแม่ทำให้เธอยอมทน แต่พอรู้สถานการณ์ยิ่งทำให้เคืองยิ่งกว่าเธอ โพรทาเลียเห็นน้องสาวขมวดคิ้วจนเธอเห็นแล้วคิดว่าน้องสาวนั้นก็น่ารักจริง ๆ เวลาที่โกรธ เธอเข้าไปใกล้ ๆ น้องสาวแล้วเอามือไปจับตรงบริเวณคิ้วของน้องสาวเบา ๆ
“ไม่ขมวดคิ้วสิ หน้าตาน่ารัก ๆ ของเธอมันจะไม่น่ารักนะ”
“โธ่ พี่คะ!” โฟกัสพองแก้มทันทีที่สาวเข้ามาจับคิ้วของเธอ
สายตาของบางคนกำลังมองสองกำลังดูแลกันและกัน แต่ทว่าสายตาของเอเดอร์กับรู้สึกเหมือนสองคนนี้กำลังจู๋จี๋กันชอบกล
“พวกเธอเคยโดนคนมองว่าเป็นแฟนกันไหมเนี่ย?”
“หือ? ถ้าตอนเป็นผู้ชายก็โดนคิดแบบนั้นนะ”
“พี่!”
“เป็นผู้ชาย?”
“เรื่องมันยาวนะ” โพรทาเลียเอ่ยตอบอีกฝ่าย ก่อนที่จะหันไปมองน้องสาว “เรื่องมันผ่านไปแล้วก็อย่าเอาไปคิดมากดีกว่านะ”
“พี่ค่ะ...”
“ถือว่าพี่ขอนะ เพราะพี่ก็...ไม่อยากจำมัน ถึงมันจะเข้ามาในหัวมั้งก็ตามที...”
“ก็ได้ค่ะ...”
“เอ่อ...มันเกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ? โลกของเธอมีอะไรเกิดขึ้นเหรอ?”
“ก็...เมื่อ 8 กว่าปีก่อนนั้น...ฉันโดนเทพเจ้าองค์หนึ่งลักพาตัวไปนะ”
“เอ๋? ว่าไงนะ!?”
คำพูดที่ออกมาจากปากของอีกฝ่าย เอเดอร์ไม่อยากจะเชื่อว่าอีกฝ่ายนั้นเคยโดนเทพองค์ใดองค์หนึ่งลักพาตัวไป แต่สถานการณ์ตอนนี้มันก็ช่างแปลกไปทุก ๆ วัน แต่เขานึกไม่ออกเลยว่าถ้าคนในครอบครัวโดนลักพาตัวไปแล้วจะรู้สึกยังไง แต่ข้างในหน้าอกของเขานั้นรู้สึกโหว่ง ๆ ชอบกล ระหว่างที่พวกเขานั้นกำลังพูดคุยอยู่ภายในลิฟต์นั้น การระเบิดอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยก็บังเกิดขึ้น
ตู้มมมมมมมมม!!
แรงสั่นสะเทือนทำให้ทุกคนที่ได้ยินต่างแตกตื่นจนวิ่งหนีตายกันอย่างสุด ๆ แต่ทว่าคนที่อยู่ภายในลิฟต์อย่างทั้งสามคนต่างสะดุ้งจนย่อตัวกันไปตาม ๆ กัน พวกเขามองกันอย่างสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น แต่สถานการณ์นี้เป็นใครก็เข้าใจนั้นก็คือการโดนบุกโจมตีนั้นเอง แต่ก็ยังมีคนตกใจว่าเกิดอะไรขึ้นอยู่
“เกิดอะไรขึ้นนะ!?”
เอเดอร์มองซ้ายมองขวาอย่างสงสัย แล้วลิฟต์ที่พวกเขากำลังใช้มันก็หยุดชะงักเสียอย่างนั้น เอเดอร์ลองกดปุ่มขอความช่วยเหลือ แต่กดไปก็ไม่มีสัญญาณหรือใครตอบกลับมาเลย
“ซวยแล้ว เราติดอยู่ในนี้ซะแล้ว!”
สองสาวมองคนเป็นพี่ชายพูดแบบนั้นออกมาทำให้โพรทาเลียหันไปมองน้องสาวแล้วใช้สายตามองถามว่าเข้าใจสถานการณ์นี้หรือไหม โฟกัสก็พยักหน้าให้อย่างเข้าใจว่าตอนนี้พวกเธอเจออะไรกัน
“รู้สึกว่าตึกเอ็มไพร์สเตทจะโดนโจมตีนะ!”
“จะบ้าเหรอ? จะมีใครหน้าไหนกล้ามาโจมตีกลางวันแสก ๆ แบบนี้”
“ก็พวกวายร้ายตามหนังไงล่ะ!”
สองคนต่างพูดพร้อมกันด้วยสีหน้านิ่งเฉยกับคำพูดพี่ชายที่ไม่เชื่อว่ามีคนโจมตีสถานที่แห่งนี้ แต่พวกเธอสัมผัสได้ว่าการโจมตีเมื่อกี้ไม่ใช่การโจมตีธรรมดา แต่ตอนนี้ต้องมาคิดก่อนว่าจะออกไปจากตรงนี้ยังไง ระหว่างที่กำลังรอลิฟต์ขึ้นไปชั้นยี่สิบ ตอนนั้นพวกเขากำลังอยู่ชั้นที่สิบเก้า แปลว่าตอนนี้พวกเธออยู่ในระหว่างชั้นที่สิบเก้ากับชั้นยี่สิบ
“น่าว่าพวกเราอยู่ระหว่างชั้น 19 กับ 20 ฉันว่าเราต้องเปิดประตูออกไปโดยด้วยเลยล่ะ!”
เอเดอร์ได้ยินแบบนั้นก็ขัดขึ้นมา “จะไม่รอความช่วยเหลือเหรอ?”
“ถ้าคนข้างนอกเขาต้องการความช่วยเหลือจากเราล่ะ? มาห่วงรอคนมาช่วยได้ตายกันในนี้พอดี!”
คำพูดของโพรทาเลียทำเอาเอเดอร์ไม่กล้าเถียงเลยก่อนที่จะเอ่ยพูดบางอย่างขึ้นมา
“แต่...พี่ไม่ได้มีแรงพอที่จะดึงประตูลิฟต์ได้นะ”
“แต่เรามี!”
ทั้งสองเอ่ยออกมาพร้อมกันจนไม่ต้องบอกว่าเป็นฝาแฝดกัน เพราะการพูดพร้อมกันมีแต่คนที่ใจตรงกัน ทั้งสองมองหน้ากันและกันก่อนจะเดินตรงไปที่หน้าประตูลิฟต์
“พร้อมกับโฟกัส”
“พร้อมยิ่งกว่าพร้อมอีก!”
พวกเขาบิดตัวและวอร์มร่างกายกันสุดฤทธิ์ ทั้งสองคนพร้อมกันเต็มทีก่อนที่จะใช้มือทั้งสองข้างรับไปที่รอยแยกกึ่งกลางของประตู ทั้งสองมองหน้ากันแล้วเตรียมตัวออกแรงเต็มที
“เริ่ม!! อึ้ก!!”
“อื้มมมม!!”
พละกำลังที่งัดออกมาทั้งหมดจนประตูลิฟต์เปิดออกอย่างเสียงดัง ทำให้บางคนที่อยู่แถวนั้นที่เป็นเจ้าหน้าที่ต่างมองลิฟต์ที่เปิดออก แล้วทางออกนั้นมันถูกเปิดอยู่แค่ครึ่งเดียวเนื่องจากลิฟต์หยุดอยู่ระหว่างกลางชั้นสิบเก้ากับยี่สิบทำให้ขึ้นด้านบนของลิฟต์เห็นชั้นที่ยี่สิบ พวกเจ้าหน้าที่ต่างเรียกให้พวกเขาออกมาจากลิฟต์ โพรทาเลียได้ยินแบบนั้นเธอก็หันไปทางน้องสาวที่อยู่ด้านข้าง
“โฟกัส น้องออกไปก่อน!!”
“เอ๋? หนูเหรอ?” โฟกัสชี้นิ้วใส่ตัวเองอย่างตกใจ
“ใช่! ออกไปเร็ว!” โพรทาเลียจับแขนน้องสาวแล้วดันตัวให้ปีนออกไป
เจ้าหน้าที่คนหนึ่งช่วยพยุงโฟกัสออกมา แต่ตัวของโฟกัสก็ร้องโวยวายระหว่างออกไปด้วย
“อ๊า! พี่ใจร้าย!!”
“ใครใจร้ายกัน” โพรทาเลียส่ายหน้าแล้วหันไปมองพี่ชายที่อยู่ด้านข้างเธอ แล้วเธอก็ยื่นมือไปทางพี่ทันที
“พี่เอเดอร์ เร็วเข้า!!”
“เธอออกไปก่อนสิ เดียวพี่ตามออกไป”
“ไม่! ถ้าเกิดอะไรขึ้น ฉันไม่อยากให้ตัวเองในโลกนี้ต้องเสียใครอีก!”
“อ๊ะ...เธอพูดแบบนี้...หมายความว่า...อ๊ะ!!”
เอเดอร์กำลังจะถามอีกฝ่าย แต่แล้วลิฟต์ก็เกิดสั่นสะเทือนขึ้นจนทั้งสองล้มไปกับพื้น โพรทาเลียตื่นตระหนกเล็กน้อยว่าเกิดอะไรขึ้น แต่มีเสียงบางอย่างดังเข้ามาในโซนประสาทของเธอ เอเดอร์ก็ได้ยินจนเขารู้ว่าอะไร
“ซวยแล้ว!! สลิงจะขาดแล้ว โพรทาเลียออกไปเร็ว!!”
ไม่ทันได้ขยับตัวสลิงก็ขาดสะบัดลิฟต์ตกลงอย่างรวดเร็ว โฟกัสเห็นภาพตรงหน้าใบหน้าของเธอก็ซีดเผือดก่อนจะวิ่งไปทางช่องว่างของลิฟต์
“พี่ค่ะ!!!”
เสียงตะโกนของโฟกัสไม่ได้ยินถึงทั้งสองคน แต่ตอนนี้ทั้งสองคนกำลังเผชิญกับแรงโน้นถ้วนที่กำลังกดร่างกายของพวกเขาทั้งสองอยู่
“เชี่ย อะไรเนี่ย!!” เอเดอร์สบถออกมา
โพรทาเลียได้ยินคำพูดของพี่ชายก็อยากจะพูดเหมือนกัน แต่ตอนนี้ต้องหาทางออกจากจุดนี้ไปให้ได้ เธอมองรอบ ๆ ก็เห็นแต่ผนังสีเงินจนไม่รู้ว่าจะหาทางออกจากไหน
“พี่! มีจุดไหนพาเราออกไปได้มั้ง!? ไม่งั้นเราแบนเป็น...เอ่อ...”
“ไม่ต้องต่อคำแล้ว! ข้างบนมีทางออก จะทำอะไรก็รีบทำเถอะ พี่ลุกไม่ไหวแล้ว!!”
”โอเค!!”
โพรทาเลียได้ยินแบบนั้นก็พลิกตัวให้หน้าปะทะกับเพดาน เธอมองว่ามีทางออกตรงไหนจนเธอเห็นช่องว่างเล็ก ๆ สี่เหลี่ยมมันน่าจะเป็นช่องให้ออกไป โพรทาเลียยกมือขึ้นยันกับพื้นแล้วยกขาตัวเองขึ้นแล้วดีดตัวเองทะลุออกไปนอกลิฟต์จนเอเดอร์ตกใจที่อีกฝ่ายเล่นแบบนั้นจริง ๆ โพรทาเลียตีลังกาออกมายืนที่บนลิฟต์ เธอเห็นว่าตัวเองออกมาแล้วก็ยื่นมือเข้าไปข้างใน
“ยื่นมือมาเร็วเข้า!!”
“อ๊ะ! อืม!!”
เอเดอร์พยายามพยุงตัวไปหาอีกฝ่ายแล้วเขาก็กระโดดสุดแรงเพื่อเอื้อมมือไปอีกฝ่ายจนเขาจับมืออีกฝ่ายได้ โพรทาเลียก็พาอีกฝ่ายลอยขึ้นในทันใด แล้วทั้งสองก็หลุดออกมาจากลิฟต์ทันการ ก่อนที่ลิฟต์จะตกลงไปแล้วระเบิดทันทีทันใด ทั้งสองคนต่างมองกันอย่างหวาดเสียวอีกนิดหน่อยพวกเขาจะเป็นมนุษย์ย่างเสียแล้ว แต่ว่าเอเดอร์สงสัยว่าบอกเขาลอยได้ไง จนเขาเงยหน้ามองอีกฝ่ายก็เห็นว่าอีกฝ่ายนั้นลอยได้จากสิ่งบางอย่างที่อยู่ที่เท่านั้นก็คือรองเท้ามีปีก
“เดียวนะ รองเท้านั่น? อย่าบอกนะว่า...”
“ใช่ รองเท้าเฮอร์มีส...” โพรทาเลียพูดแล้วยกเท้าขึ้นมาให้ดู
“ไปได้มาได้ไงกัน?”
“พ่อทูนหัวให้ล่ะนะ”
“พ่อทูนหัว? เดียวนะ เธอมีเฮอร์มีสเป็นพ่อทูนหัวได้ไง?”
“เรื่องมันยาว แต่ว่าเรารีบขึ้นไปข้างบนดีกว่า ก่อนที่ยัยตัวเล็กจะเป็นห่วงมากกว่าเดิม”
“จริง...ชักอย่างรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น”
โพรทาเลียพยุงตัวอีกฝ่ายให้เหมาะแก่การพยุงอีกฝ่ายขึ้นข้างบน เธอก็ลอยตัวขึ้นยังชั้นที่ต้องการตั้งแต่ต้น โฟกัสเห็นว่าทั้งสองยังปลอดภัยก็ดีใจจนน้ำตาไหลด้วยความดีใจ โพรทาเลียรู้เลยว่าน้องสาวเป็นห่วงพวกตนแค่ไหน แต่ตอนนี้พวกเขามาถึงชั้นที่ยี่สิบ เอเดอร์ก็สอบถามจากเจ้าหน้าที่ชั้นยี่สิบว่าเกิดอะไรขึ้นจนได้รู้ว่ามีเรื่องเกิดขึ้นข้างใน พวกโพรทาเลียได้ยินก็มายืนอยู่ตรงหน้าประตูที่ว่า
“มันโดนล็อกเหรอ?”
“น่าจะใช่...แต่จะเข้าไปยังไง?”
“งั้นฉันจัดการเอง!”
จบตอนที่ 98 โปรดติดตามตอนที่ 99 ต่อไป
Comments (0)