86 ตอน ตอนที่ 86 ต้องไปช่วยให้ได้
โดย YukiCoCo
ตอนที่ 86 ต้องไปช่วยให้ได้
แคร้ง!!
เสียงดาบกระทบกันอย่างรุนแรง เสียงดังก้องไปทั้งตึกบริเวณนั้น การต่อสู้ระหว่างสายเลือดแซเทิร์นกับสายเลือดโพไซดอนกำลังปะทะกันอย่างดุเดือด เพอร์ซีย์ไม่ยอมให้อีกฝ่ายมาวุ่นวายกับครอบครัวถึงแม้ตอนแรกอีกฝ่ายเล่นพุ่งใส่ลูก ๆ ของเขาก็ตามที่เขาก็จะตั้งรับทุกครั้งที่อีกฝ่ายโจมตี เพอร์ซีย์ตะโกนสั่งไปด้วยให้ลูกคนโตพาทุกคนออกจากที่แห่งนี้ โอราอุสได้ยินก็รีบพาคุณย่า อาสาว แล้วน้อง ๆ ออกจากที่แห่งนั้น แต่ภายใต้การต่อสู้ที่เคร่งเครียดนั้นก็มีสายตาสองคู่กำลังจับจ้องการต่อสู้นั้นก็คือ โพรทาเลียกับโฟกัสที่มองอย่างแน่นิ่งไม่ขยับเลยสักนิด แต่ข้างในของทั้งสองเอาแต่พูดอย่างหวาดกลัวตลอดเวลาเมื่อเห็นคนเป็นพ่อโดนโจมตีจนบาดเจ็บ
‘ไม่นะ!! พ่อกำลังบาดเจ็บ!! ใครก็ได้...ใครก็ได้ ตัวของพวกเราได้โปรดตื่นขึ้นมาเสียที!!’ โพรทาเลียกับโฟกัสคิด
เสียงโทนสูงตะโกนพร้อมกันอย่างเสียงดังไปทั่วทั้งห่วงแห่งจิตใจ ทำให้โพรทาเลียเริ่มกังวลมากกว่าเดิมว่าตอนนี้ไม่มีใครสามารถช่วยพ่อได้เลยสักนิด แล้วยิ่งเวลากำลังดำเนินไปอย่างรวดเร็วจนทำให้เธอหวาดกลัวจนตัวสั่นไปหมดว่าถ้าไม่รีบกลับร่างเดิมพ่อจะต้องตายเพราะวากาเน็ทแน่ ๆ
‘ทำไงดี!! ฉันอยู่ที่นี่มีแต่ไร้ประโยชน์สุด ๆ ถ้าฉันออกไปไม่ได้ล่ะ...พ่อก็คงจะ...’ โพรทาเลียคิด
ความหวาดกลัวกำลังครอบงำโพรทาเลีย เธอจ้องมือตัวเองอย่างสั่นกลัวจนคิดอะไรไม่ออกว่าตอนนี้จะต้องทำอะไร แต่แล้วมือที่มีรอยแผลเป็นค่อย ๆ ยื่นมาจับมือของโพรทาเลีย จนเธอเงยหน้าขึ้นจ้องมองเจ้าของมือก็คือน้องสาวของเธอ โฟกัสทำสีหน้าที่ดูเศร้าแต่ก็ยิ้มออกมา แต่ความรู้สึกบางอย่างกำลังบอกว่าน้องสาวกำลังมองพี่สาวด้วยสายตาเป็นห่วงกับความรู้สึกของพี่สาวที่กำลังหวาดกลัวต่อสิ่งที่ข้างนอกกำลังจะเกิด โฟกัสลูบมือพี่สาวเบา ๆ แล้วเอ่ยพูดบางอย่าง
“เราต้องทำสำเร็จแล้วไปช่วยทุกคนได้แน่ ๆ ค่ะ” โฟกัสปลอบใจพี่สาวเพื่อให้พี่สาวดึงสติกลับมา
คำพูดแค่ประโยคเดียวของอีกฝ่าย ทำให้เธอได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว ทำเอาโพรทาเลียละอายใจเลยที่ตนเองนั้นไม่ตั้งสติให้มันดี ๆ ก่อนที่เธอจะหายใจเข้าออกช้า ๆ ก่อนจะตั้งสติได้อย่างดี เธอก็มองน้องสาวแล้วยิ้มให้อีกฝ่าย
“โฟกัส...ขอบใจนะ...”
“ค่ะ”
ทั้งสองคนยิ้มให้กันและกัน พวกเฟอร์ร่าก็เตรียมตัวคนอื่น ๆ เสร็จแล้ว เธอก็หันไปมองทั้งสองกันที่กำลังยืนอยู่คู่กัน
“เอาล่ะ ครั้งนี้มันอาจจะทำให้พวกเจ้ารับพลังมากเกินไปในคราวเดียว ตลอดเวลาที่พวกเจ้าทำการทดสอบพวกเราให้พวกเจ้าทั้งสองรับพลังไปอย่างทีละช้า ๆ เพื่อให้รับพลังเราได้อยากเข้ากัน แต่ตอนนี้พวกเราต้องเร่งในการให้พลังพวกเจ้า”
“แบบว่าตลอดมาพวกคุณส่งพลังให้เราอย่างช้า ๆ เหรอ?” โฟกัสถาม
“ใช่ ไม่งั้นพวกเจ้าจะใช้พลังให้ตอนสุดท้ายตลอดเหรอ?”
“แบบนี้น่าให้เราพักแล้วส่งพลังมากกว่านะ” โพรทาเลียพูดอย่างไม่ชอบใจว่าจะให้เปลืองพลังทำไม
“ถ้าทำแบบนั้นพวกเจ้าก็ไม่ได้รู้วิธีการใช้พลังของเรานะสิ!!” ลักซ์ทำสีหน้าเซ็งกับร่างจุติมาก ๆ จนโพรทาเลียเห็นก็เล่นถีบอีกฝ่ายในทันใด “อ๊ากกก!! โพรทาเลีย”
“หมั่นไส้! ปากมากนั้น!!” โพรทาเลียกล่าวอย่างไม่พอใจ
“พอ ๆ เลิกทะเลาะกันได้แล้ว เอาล่ะ โพรทาเลีย โฟกัส เธอทั้งสองต้องผ่านการรับพลังของอีกสองคนให้ได้ แล้วพวกเจ้าก็จะได้กลับร่างเดิม”
“ง่ายไปไหมนะ?”
“แต่ขึ้นกับว่าพวกเจ้าจะยอมรับพลังนี้ได้ไหม?”
“ถ้าไม่ล่ะ?”
“ความเจ็บปวดจะเล่นงานพวกเธอจนทุกข์ทรมานมาก ๆ เลยล่ะนะ”
ทั้งสองคนต่างนิ่งเงียบไปเลย ก่อนที่โพรทาเลียจะเอ่ยพูดออกมา
“เรื่องแค่นี้เองง่าย ๆ”
“เรื่องง่ายบ้าพี่สิ!!” โฟกัสใช้หลังมือตีแขนพี่สาว
“ทำไงได้ล่ะนะ” โพรทาเลียไม่สนอยู่แล้วว่าตัวเองจะเจ็บปวดแค่ไหน “แต่ฉันจะไม่ยอมให้พลาดเด็ดขาด!! มาเริ่มกันเลย!!”
พวกเฟอร์ร่าพยักหน้าให้ทั้งสองพวกก็ให้คนที่เหลือที่ยังไม่ได้ทำการทดสอบออกมาจัดการกับขั้นตอนต่อไป เซเรน่ากับลักซ์เดินเข้ามาใกล้โพรทาเลียพร้อมกับยื่นมือไปจับมืออีกฝ่ายคนละข้าง โพรทาเลียถอนหายใจเข้าออกอย่างช้า ๆ ความรู้สึกเหมือนนิ้วชาอย่างรู้สึกประหม่าไปหมด พวกไดแอนก็มาจับมือของโฟกัส ถึงน้องสาวจะเข้มแข็งแค่ไหน โพรทาเลียก็เห็นว่าน้องสาวดูกลัวมาก ๆ ก่อนจะพูดบางออกไป
“ขอโทษนะ...ที่พี่เหมือนลากเธอมาเกี่ยวกับเรื่องบ้า ๆ พวกนี้นะ”
“เอ๋?” โฟกัสหันไปมองพี่สาวก่อนจะทำหน้าเคร่งเครียด “ไม่ต้องขอโทษ พี่...ฉันเคยบอกแล้วนะ ทุกอย่างไม่ใช่ความผิดพี่นะ...”
“แต่...”
“จะเป็นอะไรก็ต้องเจ็บปวดไปด้วยกันนะ”
“!!”
คำพูดของโฟกัสทำให้อดีตชาติแต่ละคนจำอดีตของตนเองกันที่ต่างฝ่ายต่างเคยพูดประโยคเดียวกับโฟกัส มันทำเจ็บปวดยิ่งกว่าอะไรเหตุการณ์ต่าง ๆ ทำให้พวกเขาต้องเจอแต่เรื่องที่แสนเจ็บปวด เฮเลนจ้องมองโฟกัสก่อนจะนึกถึงพี่ชายที่เคยพูดประโยคนั้นกับตน ทำให้นึกถึงพี่ชายจริง ๆ ก่อนที่ไดแอนจะพูดขึ้นมา
“เลิกพูดเถอะ เราจะเริ่มส่งพลังแล้วนะ”
“อ๊า โทษที ๆ” โพรทาเลียกล่าวขอโทษก่อนจะเตรียมตัว
พวกไดแอนเตรียมตัวหลับตาลงก่อนที่เฟอร์ร่าจะให้สัญญาณว่าเริ่มการส่งพลังอดีตชาติทั้งสี่เริ่มทำการส่งพลังให้แก่ร่างจุติทั้งสอง พลังบางอย่างกำลังไหลเวียนเข้าสู่ร่างกายของทั้งสองคน แต่สิ่งที่ไหลมานั้นรู้สึกอบอุ่นข้างในร่างกาย แต่แล้วมันกับเป็นความร้อนกำลังไหลเข้ามาข้างในร่างกายของทั้งสองอย่างรวดเร็ว ทำให้รู้สึกเจ็บปวดไปทั้งร่างกายเหมือนมีอะไรกำลังแผดเผาไปทั้งร่าง โพรทาเลียกำลังพยายามไม่ให้ตัวเองแสดงสีหน้าอะไรออกมา เพราะความเจ็บปวดนี้ยังน้อยกว่าที่เธอเจอมา แต่โฟกัสนั้นกำลังทรมานจนหน้าแดงไปหมด ตัวเธอกำลังจะเซแต่ก็พยุงขึ้นมา ก่อนจะตะโกนออกมา
“อ๊ากกกกกกกกก!!! นี่มัน! นี่มันอะไรกัน!! ข้างในมัน! ร้อนไปหมด!”
“ตั้งสติหน่อย โฟกัส เจ้าต้องตั้งสติไว้ แล้วรับพลังพวกนี้ให้ได้!!” เฮเลนกำลังเตือนสติอีกฝ่าย
“ไม่!! มันมีอนุภาคมากเกินไป!!” โฟกัสพูดออกก่อนจะหันไปทางพี่สาว
โพรทาเลียกำลังรับพลังทั้งหมดมาเพื่อให้ตัวเองสามารถกลับไปหาพ่อแม่ได้ แล้วไปช่วยพวกเขาได้ โฟกัสเห็นพี่สาวไม่มีการแสดงออกแต่อย่างใด ทำให้เธอมีแรงฮึดขึ้นมาเช่นเดียวกัน เธอต้องออกไปจากที่นี่แล้วช่วยทุกคน
‘พ่อ...รอก่อนนะ หนูจะออกไปช่วยเดียวนี่!’ โฟกัสคิด
โพรทาเลียมองน้องสาวที่พยายามพยุงตัวขึ้นมาได้แล้ว เธอก็ตั้งใจต่อเพื่อรับพลังอันรุนแรงนี้
‘ทุกคน...ฉันกำลังไปหา...’ โพรทาเลียคิด
สองสาวกำลังพยายามรวบรวมพลังของอดีตชาติทั้งสองของตนส่งพลังมาให้อยากเคร่งเครียดกัน โดยที่ข้างนอกนั้นกำลังเจอการโจมตีอันรุนแรงของเทพอย่างวากาเน็ทที่โจมตีอย่างหนักหน่วงจนเพอร์ซีย์บาดเจ็บไปทั้งตัว พวกเขานั้นต่อสู้กันจนออกมาข้างนอกร้านบลูเมอร์เมด ส่วนแอนนาเบ็ธกับลูก ๆ ต่างพาคนอื่น ๆ ไปอยู่ที่ปลอดภัย พวกเขาก็รีบวิ่งตามกันไปเพื่อไปช่วยพ่อของเขากัน โพรทาเลียกับโฟกัสอยู่กับย่าของพวกเขา ด้วยความกังวลใจว่าพ่อจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม
“คุณย่าค่ะ คุณพ่อจะไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ?” โพรทาเลียเงยหน้ามองคุณย่า
“พ่อหลานจะไม่เป็นอะไรแน่ โพรทาเลีย”
“จริงด้วยนะ คุณแม่ คุณตาจะไม่เป็นอะไรแน่ ๆ”
“แต่ว่า...” โพรทาเลียหันไปมองลูกของตน
แซลลี่ลูบหัวหลานเบา ๆ ”หลาน ๆ เหลน ๆ ไม่ต้องห่วงนะ ทุกคนต้องปลอดภัยกลับมาแน่ ๆ”
โพรทาเลียเงยหน้ามองคนเป็นย่า เธอรู้สึกกังวลและเป็นห่วงทุกคนจนเธอรู้สึกว่าไม่ควรอยู่ตรงนี้ ก่อนจะก้าวขาวิ่งออกไป
“โพรทาเลีย!! กลับมา!!”
โพรทาเลียได้ยินเสียงตะโกนของย่า ก่อนจะหันกลับไปมองแล้ววิ่งไปข้างหน้า “หนูขอตามไปช่วยทุกคนนะคะ คนเดียวที่จะจัดการวากาเน็ทมีแต่หนูเท่านั้น!!”
“โพรทาเลีย!!!”
“พี่ค่ะ!! รอหนูด้วย!!” โฟกัสรีบวิ่งตามพี่สาวไปในทันใด
“ตายแล้ว! โฟกัส!! ทั้งสองคน!!”
“คุณยายทวด พอเถอะค่ะ...” คาเร็นน่ากล่าวออกมา
“แต่ว่า...” แซลลี่มองเหลนที่ห้ามเธอไม่ให้เรียกหลานสาวกลับมา
“แม่เขาเก่งนะคะ...ไม่ต้องห่วงหรอก...”
“เหรอจ๊ะ...”
แซลลี่มองเหลนสาวกล่าวแบบนั้นอย่างไม่ทุกข์ร้อนว่าแม่ตนจะเป็นอะไร เดวิคจ้องมองน้องสาวพูดแบบนั้นก่อนที่เขาจะถามน้องออกมา
“นี่เธอ...เห็นอะไรหรือเปล่าเนี่ย?” เดวิคกล่าวแบบนั้นเหมือนเขารู้ว่าน้องสาวรู้อะไรบางอย่าง
“ไม่ บอก หรอก...”
“ชิ”
คาเร็นน่ายิ้มให้พี่ชายเล็กน้อย ภาพตรงหน้าของเธอตอนมองหลังคนเป็นแม่ก็มีภาพบางอย่างส่งมาหาเธอ ทำให้เธอคิดว่าไม่นานหรอกแม่ก็จะกลับมาหาเธอ แต่สิ่งที่ถูกส่งมานั้นคืออะไร ภายในความคิดอันเล็กจ๋อยของเด็กน้อยก็มีคนหนึ่งจ้องมองเธออย่างเป็นห่วงด้วยดวงตาสีเขียว
‘ชีวิตของพวกเจ้านั้น...ช่าง...’ แองเจิลคิด
น้ำเสียงของแองเจิลที่มองอยู่เด็กทั้งสองรวมไปถึงร่างจุติของตน เขาคิดอย่างเดียวว่าชีวิตชะตาของร่างจุติแต่ละคนทำไมถึงมีแต่เรื่องอันเลวร้ายตลอดเยี่ยงนี้ เขาเหมือนเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตของคนพวกนี้ ห่างออกไปโพรทาเลียกำลังวิ่งไปตามทางเธอสัมผัสได้ว่าวากาเน็ทกำลังไปไหนนั้นทำให้เธอวิ่งไปตามทางเรื่อย ๆ โดยไม่สนใจเสียงของน้องสาวเลยว่ากำลังเหนื่อย เธอหันไปมองน้องสาวก็รู้สึกอยากไล่เธอกลับไปหาย่ามาก ๆ แต่ถ้ากลับตอนนี้คงไม่ทันตามแม่ไปหาพ่อแน่ ๆ เธอหยุดวิ่งโดยไม่หันไปมองน้องสาว เธอก็ย่อตัวลง
“ขึ้นมาเร็ว”
“เอ๋? พี่จะอุ้มฉันได้เหรอ?”
“ฉันแข็งแรงกว่าเธอละกัน”
“ฉันไม่เชื่อหรอกนะ…แต่...ขึ้นก็ได้” โฟกัสนั่งขี่หลังพี่สาวในทันใด
“ทำเป็นพูด ก็นั่งอยู่ดี” โพรทาเลียจับตัวน้องสาวนั่งดี ๆ ก่อนจะพยุงขึ้น “เอาล่ะนะ วิ่งล่ะนะ!!”
โพรทาเลียพูดจบก็วิ่งไปข้างในอย่างรวดเร็ว โฟกัสรีบเกาะตัวพี่สาวไว้แนบแน่น ถ้าไม่เกาะเมื่อกี้เธอคงหงายหลังไปแล้ว พี่สาวกำลังโน้นตัววิ่งอย่างรวดเร็ว ทำเอาโฟกัสตกใจเลยว่าพี่สาวนั้นวิ่งเร็วมากแถมท่าทางการวิ่งของพี่คล้ายกับการ์ตูนนินจาเรื่องหนึ่งสุด ๆ โพรทาเลียใช้ความเร็วที่ตัวเองชอบใช้วิ่งไปตามทางหลบผู้คนอย่างรวดเร็วจนบางทีไม่มีคนเห็นด้วยซ้ำว่าเธอวิ่งผ่าน เธอรีบพาน้องสาววิ่งตรงไปหาทุกคนที่กำลังเผชิญหน้ากับปีศาจที่เคยทำร้ายเธอ
เสียงสายลมมาตามเส้นทางช่องว่างตามตึก เสียงการโจมตีดังไปทั่วบนดาดฟ้าย่านตึกที่อยู่อาศัยแห่งหนึ่ง เพอร์ซีย์กำลังตั้งรับการโจมตีของอีกฝ่ายตลอดเหมือนคนเสียเปรียบในการต่อสู้ แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้แล้วเขาก็วิ่งเข้าไปโจมตีอีกฝ่ายอย่างแรง เพอร์ซีย์แอบเสียดายที่แถวนี้ไม่มีแทงก์น้ำเลยสักนิด ไม่งั้นเขาจะเรียกน้ำออกมาโจมตีใส่อีกฝ่าย แต่พอเข้าโจมตีอีกฝ่ายก็โจมตีกลับมาอย่างแรงเช่นกันจนกระทั่งวากาเน็ทกระโดดขึ้นสูงแล้วม้วนตัวยกขาฟาดลงมาโจมตี เพอร์ซีย์เห็นแบบนั้นคิดจะโจมตีกลับเขาหมุนตัวเพื่อเหวี่ยงโจมตี แต่แล้วอีกฝ่ายก็หายตัวไปต่อหน้าเขาเหมือนภาพลวงตา
“อีกแล้ว!!”
“ก็รู้แบบนั้นยังอ่อนหัด!!”
วากาเน็ทโผล่มาจากมาข้างหลัง แล้วยกขาเตะซีกข้างอีกฝ่ายจนกระเด็น
“อ๊ากกกกกกก!!”
เพอร์ซีย์กระเด็นไปด้านข้างจนไถลไปกับพื้นจนชนกับขอบดาดฟ้า เขามองไปข้างล่างมันสูงเกือบห้าชั้น ก่อนจะหันไปมองอีกฝ่ายกำลังยิ้มเยาะอย่างคนบ้า
“รู้ไหมว่าฉันหลงใหลเรื่องแบบนี้แค่ไหน? ตอนที่ต่อสู้กับลูกแกมันช่างหวานหอมที่ได้ฟังเสียงกรีดร้องของยัยนั้น!!”
“แก!”
เพอร์ซีย์กำหมัดอย่างไม่พอใจถึงจะรู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายกำลังยั่วโมโหเขา แต่เขาก็ไม่อยากให้อีกฝ่ายมาพูดด้วยคำพูดสกปรกถึงลูกสาวเขา เพอร์ซีย์ลุกขึ้นแล้วจับดาบริดไทด์ไว้แน่นมือแล้วในท่องแสงออกมา เขาวิ่งเข้าหาอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว
“ฉันจะจัดการแกเหมือนที่ฉันจัดการพ่อแก!!”
“หึ! นึกเหรอว่าเจ้าทำสำเร็จมาตลอดนะ! พวกข้าแค่รอเวลาเท่านั้นล่ะ!!”
วากาเน็ทยกเคียวขึ้นสะบัดอาวุธอีกฝ่ายหลุดจากมือ เพอร์ซีย์ถึงกับหน้าซีดอย่างตกใจที่จู่ ๆ ดาบหลุดจากมือของเขาไปซะงั้น ก่อนที่สายตาของเขาจะไปเห็นอีกฝ่ายกำลังง้างเคียวขึ้นสูง พวกเด็ก ๆ กำลังกระโดดมาจากดาดฟ้าของตึกอื่นตามพ่อของตนมาจนพวกเขาเห็นพ่อกำลังต่อสู้ แต่สถานการณ์ที่ไม่คาดคิดจนแอนนาเบ็ธรีบเร่งฝีเท้าในทันใด
“เพอร์ซียยยยยยยยยยยยยยย์!!”
เสี้ยววินาทีเคียวตกลงมาฟาดฟันร่างกายของเพอร์ซีย์จนกระจายออกมาจากบาดแผล ทุกคนต่างตกใจกับสิ่งที่เห็นก่อนจะตะโกนออกไป
“พ่ออออออออออออออ!!!”
เบเดอร์กับเอเดอร์รีบพุ่งตรงเข้าไปโจมตีใส่วากาเน็ทด้วยค้อนทั้งสองของตนอย่างรุนแรง แต่อีกฝ่ายก็หลบการโจมตีของพวกเขาได้อย่างง่ายดาย วากาเน็ทยิ้มเยาะพร้อมกับจ้องมองร่างที่นอนจมกองเลือดของเพอร์ซีย์ แอนนาเบ็ธรีบเข้ามาพยุงตัวของสามีในทันที
“เพอร์ซีย์...ลืมตาขึ้น! อย่าหลับนะ!!” แอนนาเบ็ธมองสามี
“พ่อค่ะ!! / พ่อครับ!!” คนสามแฝดรีบวิ่งตรงมาหาพ่อแล้วเรียกพ่อของตนเอง
โอราอุสจ้องมองพ่ออย่างเคืองใจที่พวกเขามาช้าไปนิดเดียวเอง ก่อนที่เขาจะหันไปสิ่งบางอย่างแวบ ๆ ที่หางตาเขา นั้นก็คือดาบริดไทด์ของพ่อ โอราอุสเห็นแบบนั้นก็วิ่งเข้าไปหยิบมันขึ้นมาดาบริดไทด์ส่องแสงสว่างขึ้น เพอร์ซีย์รู้สึกว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาจนเห็นแอนนาเบ็ธกำลังร้องไห้อยู่
“แอนนี่...”
“เพอร์ซีย์...คนบ้า!! นายพลาดท่าแบบนี้ได้ไง!!”
“เหอะ...ไม่รู้สินะ...แต่ดาบฉัน...อยู่ไหน...”
“ดาบของพ่อ...” มาร์โคพูดพร้อมกับหันไปมองสถานการณ์เขาก็เห็นพี่ชายกำลังถือดาบของพ่ออยู่ “อยู่กับพี่โอราอุส...”
เพอร์ซีย์ค่อย ๆ พยุงตัวเองก็เห็นลูกชายกำลังใช้ดาบของตนโจมตีใส่วากาเน็ทอยู่ ทั้งสามคนต่อสู้กันอย่างดุเดือดยิ่งกว่าอะไร แต่พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะจัดการกับวากาเน็ทได้สักนิด ทำเอาพวกเขาคิดเลยว่าน้องสาวพวกเขาสู้กับเจ้าเทพตนนี้ได้ไง
“พวกแกนี่มันน่ารำคาญจริง ๆ ฉันคงต้องใช้วิธีที่เคยใช้กับน้องแกซะแล้วล่ะ”
“ว่าไงนะ!?” โอราอุสไถลไปข้างหลังพร้อมกับยกดาบขึ้น
“มาเลย พวกเราจะทำให้แก้เห็นว่าเราแข็งแกร่งกว่าน้องสาวอีก!!” เบเดอร์ยกค้อนของตนเองขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
“ใช่ เราจะอัดแกเป็นกล้วยปิ้งเลย!!”
“กล้วยปิ้ง?” เบเดอร์ฟังก็สงสัยว่าอะไร
“กล้วยปิ้งของไทยไง!! แล้วมาถามอะไรตอนสู้กันเนี่ย!!!” เอเดอร์ตะโกนใส่พี่ชาย
“น่ารำคาญจริง ๆ”
วากาเน็ทตะโกนออกมาก่อนที่เงามืดของเขาจะอยู่ใต้เท้าของทั้งสามคน ทำให้พวกเขาไม่ทั้งตั้งตัวก็โดนสิ่งพูดขึ้นมาแทงเข้าตามตัวทำเอาพวกเพอร์ซีย์ที่เห็นถึงกับตาค้างกันไปตาม ๆ กัน รวมถึงโพรทาเลียกับโฟกัสที่ปีนขึ้นดาดฟ้ามาอย่างเร็วจนเห็นสิ่งที่ไม่คาดคิด
“พี่ค่ะ!!!!!”
จบตอนที่ 86 โปรดติดตามตอนที่ 87 ต่อไป
Comments (0)