ตอนที่ 64 กลับมากันอย่างปลอดภัย

ใจของเพอร์ซีย์ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เมื่อรู้ว่าลูกสาวทั้งสองยังอยู่ฝั่งค่ายจูปิเตอร์ ประตูกลับมาทำงานอีกครั้ง เขาไม่สนใจเลยว่าข้างในนั้นจะยังมีพวกปีศาจ อมนุษย์ อีกมากแค่ไหน เขาคิดเพียงอย่างเดียวว่าเพื่อลูกๆ เขาจะสู้สุดชีวิต พอย่างเท้าเข้าไปในประตูบานใหญ่นั้น ภาพที่เขาคิดไว้ว่าเหล่าปีศาจคงจะรอใครสักคนเข้ามาในค่ายแน่ๆ แต่มันไม่ใช่อย่างที่คิด ภาพตรงหน้านั้นกลับว่างเปล่าไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตใดๆ เหลือเพื่อสิ่งก่อสร้างในค่ายอย่างเดียว ทอดสายตายาวมองออกไป เขาไม่เห็นเลยสักคนรวมถึงลูกสาวทั้งสองของเขา

 

“โพรทาเลียยยยยยยยย!! โฟกัสสสสสสสสส!!”

“ฮัดชิ้ว!!”

“!!”

เพอร์ซีย์สะดุ้งทันทีที่ได้ยินเสียงคล้ายๆ เสียงจามดังใกล้ๆ เขามองหาต้นเสียงแต่ไม่เจอ เสียงที่จามนั้นดูเล็กเหมือนเสียงเด็กจนเขาสงสัยว่ามาจากไหน แต่เสียงนั้นก็ดังอีกครั้ง

“ฮัดชิ้ว!!”

เขาได้ยินอีกครั้งเสียงมันใกล้ตัวจริงๆ แต่แล้วเขาก้มลงบริเวณขาของเขาด้านซ้ายขวา พอเขาหันกลับมามองด้านขวาเขาก็ชะงักกับภาพด้านซ้ายที่เห็น เขาค่อยๆ หันหลังไปมองอีกครั้ง ดวงตาเบิกกว้างขึ้นในทันที

“นี่...นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน!!”

 

ฝั่งค่ายฮาล์ฟบลัด เหล่าพี่ชายและน้องๆ ของพวกโพรทาเลียกำลังโดนผู้เป็นแม่สั่งห้ามเข้าไปยังประตูมิติตามผู้เป็นพ่อไป เนื่องจากเธอกลัวว่าข้างในนั้นยังมีปีศาจอยู่หรือเปล่าถ้ามีเธอจะไม่ยอมให้ลูกๆ เข้าไปเสี่ยงแน่ๆ แต่ลูกๆ กับไม่ยอม พวกเขาห่วงทั้งสองคนกับพ่อที่อยู่อีกฝั่ง

 

“ขอล่ะค่ะ คุณแม่ พวกเราจะเข้าไปช่วยพี่นะคะ”

“จริงด้วยนะ ถ้าพี่โดนพวกมันจับตัวไปจะทำไงคะ!!”

“ไม่ได้เด็ดขาดนะ! ห้ามเข้าไปเด็ดขาด แม่ไม่ยอมให้ลูกๆ เข้าไปแน่!!”

“แต่ว่าน้องอยู่ข้างในนะ!! แม่”

“จริงด้วย!! แถมพ่อยังวิ่งเข้าไปโดยไม่มีกองกำลังอีกนะครับ”

“ยังไงก็ไม่ได้!! พ่อเขารับมือกับพวกปีศาจได้อยู่แล้ว!! เดียวพ่อเขาก็พาทั้งสองคนกลับมาเองนั้นล่ะ!! ถึงลูกๆ จะดึงดันแค่ไหนแม่ก็จะไม่ยอมให้ลูกๆ เข้าไปเด็ดขาด!!”

ทั้งห้ามองผู้เป็นแม่อย่างกังวล เพราะพี่น้องและพ่อของพวกเขากำลังอยู่ข้างใน ระหว่างแอนนาเบ็ธห้ามลูกๆ หลานทั้งสองกำลังแอบย่องเพื่อจะเข้าไปช่วยแม่ของตน แต่แอนนาเบ็ธไหวตัวทันเลยจับคอเสื้อทั้งสองคนทันที

“หลานทั้งสองจะไปไหน!! เดวิน!! คาเร็นน่า!!”

“อ๊ะ!! คุณยาย!! ผมจะไปช่วยแม่!!” เดวินถึงกับวิ่งอยู่กับที่โดยไม่สามารถขยับได้

“จริงด้วยค่ะ เราจะไม่ยอมให้แม่โดนพวกนั้นจับตัวไปอีกเด็ดขาด!!” คาเร็นน่าพูดขึ้น ตอนนี้ร่างกายของเธอกลายเป็นผู้ใหญ่เหมือนพี่ชาย

“ไม่ได้นะ แล้วนี่ทำไมทั้งสองอยู่ร่างผู้ใหญ่กันล่ะเนี่ย!!”

 

สิ้นเสียงของแอนนาเบ็ธ เพอร์ซีย์ก็เดินออกมาจากประตู เขาเอาผ้าที่เจอในนั้นมาคลุมตัวด้านหน้าของเขา พอเข้าออกมาก็พบกับสายตาของทุกคนที่จับจ้องมองเขา แต่พวกเขาเห็นอีกฝ่ายเดินออกมาไร้ซึ่งสองแฝดกลับมา ทำเอาแอนนาเบ็ธอึ้งไปพร้อมกับวิ่งไปหาสามีของตนทันที

 

“เพอร์ซีย์!! แล้วลูกๆ ล่ะ!?แอนนาเบ็ธเข้ามาถามสามีอย่างแตกตื่น “ทำไมลูกไม่ได้กลับมาด้วย!!”

“เอ่อ...คือ...”

“พ่อ น้องอยู่ไหน!! ไม่ใช่โดนพวกนั้นจับไปแล้วนะ!!” เบเดอร์รีบเข้ามาทันที

“จริงด้วยนะคะ พ่อ พี่อยู่ไหนกัน!?

เหล่าเด็กๆ บ้านแจ็กสันต่างถามคนเป็นพ่ออย่างไม่หยุดปาก ฟีนีอุสที่ได้ยินก็เข้ามาร่วมด้วยทันที

“คุณเพอร์ซีย์!!” ฟีนีอุสเดินเข้ามาถามเช่นกัน “พวกมันจับโพรทาเลียไปเหรอครับ!? ถ้างั้นให้ผมไปตามล่าพวกมันได้ไหมครับ!!”

“ถ้าฟีนีอุสไปเราจะไปด้วยครับ”

“ใช่ พวกเราจะไปด้วย!!”

เพอร์ซีย์ฟังทุกคนพูดจนสมองเขาเริ่มทำงานไม่ทัน ก่อนที่เขาจะตะโกนเสียงดังออกมา

“เงียบบบบบบบบบบ!!”

เสียงของเพอร์ซีย์ ทำให้ทุกคนตรงนั้นต่างหยุดนิ่งและเงียบปากของตนกัน พอเห็นว่าทุกคนเงียบกันหมดแล้ว เขาก็หันไปหาภรรยาที่อยู่ตรงหน้า

“แอนนี่...ช่วยดึงผ้าที่คลุมตัวฉันไว้ออกทีสิ”

“ผ้าเหรอ?

 

แอนนาเบ็ธมองผ้าที่เธอพึ่งสังเกตว่าอีกฝ่ายคลุมตัวไว้ ทำให้ไม่เห็นมือของเขาเลย เธอยกคิ้วขึ้นมองอย่างสงสัย ก่อนจะทำตามที่สามีสั่ง เธอค่อยๆ ดึงผ้าออก เธอจับจ้องว่าข้างในผ้านั้นมีอะไร เมื่อดึงออกดวงตาเธอก็เบิกกว้าง เมื่อเด็กตัวเล็กวัยประมาณ 6 ขวบ อยู่ในอ้อมกอดของสามีเธอ แต่สายตาแรกก็คนเป็นแม่ก็มองออกเลยว่าเด็กสองคนนี้เป็นใคร

 

“โพรทาเลีย!! โฟกัส!!” แอนนาเบ็ธเอ่ยชื่อทั้งสองออกมา

พวกพี่น้องต่างได้ยินที่แม่พูด พวกเขาต่างเดินกันมาชะเง้อมองผ่านหลังแม่ อย่างสงสัยว่าสิ่งที่แม่พูดขึ้นมานั้นหมายความว่าไง ก่อนที่พวกเขาจะได้เห็นเด็กตัวเล็กสองคนก็อุทานออกมาทันที

“เด็กเหรอ!!”

“ตายแล้ว!! เด็กตัวน้อยน่ารัก!! แต่ว่านี่มัน...”

“พี่โพรทาเลียกับพี่โฟกัสตอนเด็กนี่น่า!!” เรน่าพูดขึ้น

 

“เพอร์ซีย์ นี่มันเรื่องอะไรกัน?!” แอนนาเบ็ธถามสามีพร้อมกับสัมผัสแก้มอันนุ่มนิ่มของลูกทั้งสอง

“อย่าถามฉัน…พอฉันเข้าไปข้างในนั้นก็ไม่มีร่องรอยของพวกปีศาจเลย มีแต่...โพรทาเลียกับโฟกัสที่นอนอยู่กับพื้นในร่างนี้...”

“มันเป็นแบบนี้ได้ไง!?

 

ตู้ม!!

 

เสียงบางอย่างดังขึ้นดังตู้มคล้ายระเบิด ทำเอาทุกคนในค่ายฮาล์ฟบลัดต่างกรีดร้องและต่างรับการโจมตีอะไรสักอย่างที่พวกเขาไม่รู้ แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นต่อ ทำให้พวกเขานั้นต่างงุนงงว่าเสียงนั้นมาจากไหนกัน เพราะดังไปทั่วทั้งค่าย ทุกคนยังไม่ลดการตั้งการ์ด จนเสียงของชายคนหนึ่งทำเอาทั้งค่ายตกใจไปเลย

 

“เอาล่ะๆ วางอาวุธลงกันได้แล้ว!!” โครนอสกล่าวออกมา เขายื่นอยู่ข้างๆ เพอร์ซีย์

“!!” ทุกคนต่างมองอย่างตกใจที่เทพโครนอสอยู่ตรงนี้

“โครนอส!! ท่านออกมาตอนไหน!?

“เมื่อกี้นะ โทษทีที่ทำเสียงดัง ถ้าไม่ใช้พลังเต็มที่ก็ไม่สามารถหลุดจากอุปกรณ์เซ็งซวยที่ขังข้ากับภรรยาไว้ได้หรอกนะ”

“อ๊ะ...ครับ...”

“ตายแล้ว! โพรทาเลียช่างเหมือนลูกชายข้าตอนยังมีชีวิตจริงๆ แจ็กสัน ข้าขอตัวโพรทาเลียไปดูแลสักสองสามวันได้ไหม?

“อ๊ะ!!” เพอร์ซีย์สะดุ้งจนหันลูกหนีทันที “อ๊ะ...โทษทีนะครับ...คงไม่ได้นะครับ”

“แย่จัง...”

“แต่ที่ลูกเจ้าเป็นแบบนี้มันก็มีเหตุผลนะ” โครนอสพูดพร้อมกับจิ้มแก้มอันเล็กจ๋อยของโพรทาเลีย

“ท่านรู้เหรอว่าลูกผมเป็นแบบนี้ได้ไงนะ!!”

“รู้สิ เพราะข้าเคยเห็นจากลูกชายล่ะนะ”

“ลูกชาย?

“อดีตชาติของสองคนนี้ไงล่ะ” โครนอสชี้นิ้วมาที่เด็กทั้งสอง

“อดีตชาติ...” เพอร์ซีย์มองลูกทั้งสองอย่างเป็นห่วง

“ไม่ต้องห่วง ไม่อันตรายหรอก แต่ว่านะ...” โครนอสหันไปมองรอบๆ เขาเห็นเหล่ามนาย์กึ่งเทพหลายคนอยู่รวมตัวกัน “ถ้าจะวุ่นวายตอนข้าโดนขังสินะ”

“ค่ะ...พวกเราโดนโจมตีตอนที่ท่านโดนขัง แต่ว่าก็ดีที่พวกท่านไม่เป็นอะไรนะคะ” แอนนาเบ็ธกล่าว

“นั้นไม่ควรเป็นคำยินดีเท่าไรนะ ธิดาอาธีน่า...พวกข้าโดนขัง...จนไม่สามารถช่วยเหล่าลูกหลานๆ ของข้าได้เลย...”

โครนอสมองด้วยความเศร้า เหล่าหลานๆ เหลนๆ ของเขาที่บาดเจ็บกันเป็นอย่างมาก เพียงเพราะพวกปีศาจบุก แต่จำนวนที่เขาเคยเห็นมันดูต่างออกไปจริงๆ

“หายไปเยอะเลยนะ...”

“ใช่ครับ...พวกมันแอบแฝงสลับเปลี่ยนตัวกับคนในค่ายทั้งสองค่าย เรายังไม่รู้ว่าพวกที่โดนสลับตัวนั้น...”

“ยังมีชีวิตอยู่หรือว่าจะเสียชีวิตไปแล้วสินะ?

“ครับ...” เพอร์ซีย์ตอบด้วยสีหน้าอมทุกข์

“ครั้งนี้คงเป็นเหตุการณ์ที่เหล่าเทพไม่ชอบใจแน่ๆ” ไครอนเดินมาจากสถานพยาบาล “เราต้องดูแลคนที่ยังมีชีวิตไปก่อนดีที่สุด เพอร์ซีย์...”

“ครับ…ไครอน”

คำพูดของไครอนทำให้เพอร์ซีย์ตั้งสติได้ถึงหน้าที่ของตนเองว่าชีวิตเล็กๆ ยังอยู่ เขาก็ต้องช่วยให้พวกเขารอดให้ได้ เพอร์ซีย์ฝากลูกสาวทั้งสองกับภรรยา ก่อนที่ตัวเองจะเดินไปอยู่ตรงหน้าของเหล่ามนุษย์กึ่งเทพทั้งสองค่าย

 

“เหล่ามนุษย์!! ใครที่ยังไหวอยู่พาผู้บาดเจ็บไปยังสถานพยาบาล ส่วนใครที่ยังต่อสู้ไหวก็จับกลุ่มกัน เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบทั้งสองค่ายว่ายังหลงเหลือพวกปีศาจหรืออมนุษย์หรือไหม?! อีก 1 ชั่วโมงมารวมตัวกันหน้าบ้านใหญ่กัน!! จงอย่าให้พวกนั้นมาหยามเราเด็ดขาด!!”

“โอ๊ส!!”

เมื่อผู้ดูแลค่ายอย่างเพอร์ซีย์ออกคำสั่งพร้อมกับสร้างขวัญกำลังใจให้ทุกคน ทำให้พวกเขาฮึดสู้มากขึ้น ไพเพอร์เห็นแบบนั้นก็ยิ้มที่คนดูแลค่ายไม่ทำให้ทุกคนต้องพลอยซึมไปกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอเดินไปหาอีกฝ่ายโดยทันที

“เพอร์ซีย์”

“ไพเพอร์ มีอะไรเหรอ?

“เจสันบอกกำลังกลับมาจากลาดตระเวนกับหน่วยของเขานะ ฉันเลยบอกให้เขากลับมาที่ค่ายฮาล์ฟบลัดแทนนะ”

“ดีเลยฉันอยากปรึกษาหมอนี้พอดี” เพอร์ซีย์นึกเลยว่าอีกฝ่ายไม่อยู่ในค่ายตั้งแต่แรกงั้นเหรอ "ถึงได้ไม่เห็นหมอนั้นเลย...ตายยากจริงๆ เลยนะ เหมือนเมื่อก่อนจริงๆ"

“เดียวเถอะนะ พูดแบบนั้นได้ไง นั้นสามีฉันนะ”

“โทษทีๆ” เพอร์ซีย์กล่าวขอโทษอีกฝ่ายพร้อมกับยิ้ม

 

ทุกคนต่างพากันไปทำหน้าที่ของตนเองแล้วช่วยคนที่บาดเจ็บไปยังสถานพยาบาล ส่วนครอบครัวแจ็กสันก็พาพวกโพรทาเลียกลับไปยังสถานพยาบาลเพื่อดูอาการ ลูกๆ หลานๆ ต่างพากันตามเข้าไป ฟีนีอุสจ้องมองหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง แต่เข้ายังไม่สามารถตามไปได้ เพราะตนเองยังมีหน้าที่ที่ต้องทำ แต่พอนึกถึงโพรทาเลียกลายเป็นเด็ก ทำให้เขาคิดถึงช่วงเวลาที่เจอครั้งแรกกับเธอขึ้นมา

 

ฟีนีอุสเดินไปหาเพื่อนๆ ของเขา พอเดินมาถึงก็เห็นกลุ่มใหญ่ที่สะบักสะบอมตั้งแต่สาวๆ จนถึงหนุ่มๆ เลยทีเดียว แต่พอมองๆ เขาก็เห็นสาวๆ กำลังช่วยทำแผลให้กับน้องสาวของเขา

“เอมิลี่! น้องเป็นอะไรมากไหม?ฟีนีอุสรีบเดินมาอย่างเร็ว

สาวๆ ต่างมองฟีนีอุสที่เข้ามาถาม เอมิลี่เห็นพี่ชายก็ยิ้มให้ทันที “ไม่เป็นอะไรมากค่ะ พอดีตอนหนีไม่ได้ดูอะไร เลยเผลอชนต้นไม้จนหัวคิ้วแตกนะคะ”

“โธ่ น้องรัก” ฟีนีอุสมองใบหน้าของน้องสาว

“แค่หัวคิ้วเองน่า ฟีนีอุส ยังไงน้องสาวนายก็ยังสวยเหมือนเดิมนั้นล่ะ!!” เบ็นเอ่ยปากชมความงามของหญิงสาวที่ตนรักจนทำให้เอมิลี่เขินอายจนหันหน้าหนี

สาวๆ ต่างคำกันออกมาเบาๆ ฟีนีอุสจับคอเสื้อเบ็นในทันใด จนเบ็นตาค้างทันที

“คงไม่ลืมนะว่าฉันยังไม่ยอมรับได้ที่จะมาเป็นแฟนน้องฉันนะ เบ็น!!”

“เดียวสิ! เพื่อน ใจอ่อนกับสุดหล่อคนนี้หน่อยสิ”

“ชาติหน้าเถอะ!!”

 

ฟีนีอุสจ้องอาฆาตเบ็นไว้ตั้งแต่ที่อีกฝ่ายนั้นขอพ่อแม่เขาว่าอยากคบกับเอมิลี่ พวกนี้ดันแอบคบกันมาตั้งแต่สมัยเรื่อง พอเบ็นอายุ 20 ก็มาให้ดูตัวจนพ่อกับฟีนีอุสไม่ยอมง่ายๆ ระหว่างที่สองคนทะเลาะกันนั้น โคลหันไปเห็นบางอย่างเขาพอดี พอมองๆ ก็รู้ว่าเป็นเจ้าเพื่อนบ้านโพไซดอนที่หายตัวไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่มีใครรู้

 

“อ๊ะ!! เจ้าบ้าโอราอุส...ไม่ใช่เหรอ?

“ว่าไงนะ!!” สองหนุ่มหันมามองโคล

“ไหน!!” โอลิเวอร์เดินมามองข้างๆ โคล จากความสามารถของเขาเลยเห็นได้ไกลว่าโอราอุสกำลังเดินจูงมือมากับหญิงสาว “หมอนั้น!! มีเหตุร้ายยังไปจู้จี้กันอีกนะ!! มาใกล้ๆ นะ ฉันต่อยให้รู้จักสถานการณ์เลยค่อยดู!!”

“เหม็นความรักจริงๆ เลยแฮะ” โคลเดินมาหาเพื่อนรักอย่างฟีนีอุสเพื่อพิงอีกฝ่าย “เนอะ ฟีนีอุส”

ฟีนีอุสไม่ตอบอะไร แต่เห็นอีกฝ่ายจะมาพิงเขาก็เลยหลบถอยหลังจนโคลล้มลงไปกับพื้นทันที ทำเอาเพื่อนๆ ต่างขำกัน เสียงหัวเราะของทุกคนทำให้โอราอุสได้ยิน พอเห็นเพื่อนๆ เขาเลยโบกมือเรียกเพื่อนๆ

“ทุกคน!!” โอราอุสเดินมาตามทางพร้อมกับลิซ่า

ทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นต่างหันไปมองเสียงเรียก พวกฟีนีอุสก็มองอีกฝ่ายที่เรียกพวกเขา แต่ก็สงสัยว่าเรียกทำไม

“หมอนั้นโบกมือทำไมนะ!?โคลถามอย่างสงสัย

“จริงด้วย?

“เหอะๆ คงโบกมืออย่างมีความสุขนั้นล่ะ ไอ้พวกมีความรักน่าหมั่นไส้สิ้นดี!!” โคลพูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์

 

‘พวกนายจะหมั่นไส้เขาทำไม? โดยที่ตัวเองก็มีแฟนเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?สาวๆ ต่างคิดในใจพร้อมกันแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย

 

“ทุกคน!! ฉันพาที่เหลือกลับมาแล้วนะ!!”

“ที่เหลือ?

พวกเขาต่างงุนงงกับคำพูดอีกฝ่าย ก่อนที่โอราอุสจะหยุดเดินแล้วกวักมือเรียกอะไร ก็มีกลุ่มคนจำนวนมากกำลังเดินลงเนินลงมา ทำเอาทุกคนที่มองกันต่างตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น

“คนที่โดนสลับตัวยังมีชีวิตอยู่!!” เสียงคนคนหนึ่งดังขึ้น

“หมอนั้น!!”

“ไปพาทุกคนกลับมา...”

ฟีนีอุสเห็นก็หันไปหาโอลิเวอร์ทันที “โอลิเวอร์ไปตามหน่วยพยาบาลมาเราต้องตรวจสุขภาพทุกคนนะ!!”

“โอเค!!” โอลิเวอร์รีบวิ่งไปที่สถานพยาบาลทันที

“ทุกคน!! ใครที่ว่างอยู่ตอนนี้ มาช่วยดูทุกคนทางนี้หน่อย!!”

 

ฟีนีอุสตะโกนออกคำสั่งพร้อมกับวิ่งไปดูทุกคนที่กำลังเดินมาจากเนินเขา เสียงฟีนีอุสทำให้เหล่าผู้ใหญ่และวัยรุ่นทุกคนต่างมองกัน พวกเขาได้เห็นคนที่โดนสลับตัวกลับมาอย่างปลอดภัย ชาวค่ายฮาล์ฟบลัด ค่ายจูปิเตอร์ จนไปถึงพวกแซเทอร์ที่โดนจับตัวไปก็เช่นกัน พวกเขาเดินลงมาเรื่อยๆ เนเวอร์รี่ที่มองอย่างดีใจก็ได้เห็นชายสองคนที่เธอไม่คิดว่าจะเห็นพวกเขาพยุงกันตามทุกคนมา

 

“โอ้!! ไม่จริง!พี่คะ!” เนเวอร์รี่เห็นพี่ชายทั้งสอง เธอจึงรีบวิ่งไปหาพวกเขาทันที

เทียน่าได้ยินเสียงพี่สาวเรียกใครว่าพี่ เธอก็มองตามก็เห็นพี่ชายทั้งสองเช่นกัน “เอาจริงสิ!! พี่คะ!!”

พวกเพื่อนๆ ต่างมองกันพวกเขาไม่คิดว่าพี่ๆ ของสองสาวจะโดนไปด้วย สองสาวต่างรีบวิ่งกันไปช่วยพยุงพี่ทั้งสองทันที

“พี่ทิม! พี่อาร์เทอร์!! พวกพี่โดนจับไปตอนไหนกัน!?

“จริงด้วยค่ะ!”

“เรื่องมันยาวนะ...ไว้ฉันจะจัดการได้แน่ อาร์เธอร์!!” พี่ทิมพูดขึ้นสภาพเขาตอนนี้โคตรจะหิวข้าวสุดๆ

“ขอโทษที…”

“อาร์เธอร์!!”

เสียงอันคุ้นเคยดังขึ้น อาร์เธอร์หันไปมองก็หญิงสาวผมสีเขียวจ้องมองเข้าด้วยใบหน้าอันโศกเศร้าและใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตา เมื่อได้เห็นคนรักของเธอกลับมาอย่างปลอดภัย

“โซเฟีย…”

“คนบ้า!! ทำอะไรนะ!! นายทำแบบนี้ทำไม!!” โซเฟียรีบวิ่งเข้ามาทุบอกอีกฝ่าย "พวกนายวางแผนจะไปดูบ้าบออะไรกัน!! เกิดนายเป็นอะไรขึ้นมาแล้วฉันจะอยู่ยังไง!!"

“ฉันขอโทษนะ โซเฟียฉันจะไม่ทำอีกแล้วล่ะ” อาร์เธอร์ลูบหัวอีกฝ่ายเบาๆ

 

ทำเอาหนุ่มๆ ที่มองต่างเหม็นความรักของสองคนนี้จริงๆ ผู้คนมากมายได้กลับสู่อ้อมกอดของเพื่อนๆ พี่น้อง แต่บางคนก็ไม่ได้กลับมา ทำเอาลิซ่าที่มองมนุษย์กึ่งเทพเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไครอนเดินออกมาได้เห็นเด็กๆ หลายคนที่หายไปกลับมาอย่างปลอดภัยก็ทำให้เขาดีใจ แต่แล้วนัยน์ตาสีน้ำตาลของเขากลับเปิดกว้างขึ้น เมื่อเห็นเซนทอร์ตนหนึ่งกำลังเดินมาอยู่ข้างๆ ลิซ่า

 

“โอ...เซซัส...”

น้ำเสียงของไครอนสั่นเครือเมื่อได้เห็นบุคคลที่เขาไม่ได้เจอมานานแสนนาน

 

จบตอนที่ 64 โปรดติดตามตอนที่ 65 ต่อไป