1 ตอน ตอนที่ 1 ห้วงคืนสู่บ้านอีกครั้ง
โดย YukiCoCo
ตอนที่ 1 ห้วงคืนสู่บ้านอีกครั้ง
สวัสดีชาวมนุษย์กึ่งเทพทั้งหลาย โอ้~ คุณคงคิดว่ากำลังจะฟังเรื่องของใครอยู่สินะ เรื่องนี้เกี่ยวกับสายเลือดของโพไซดอนคนหนึ่ง ได้ยินแบบนี้ชักอยากฟังแล้วสินะ งั้นมาเรื่องจากในวันครบรอบอายุ 6 ขวบของเด็กน้อยคนหนึ่งที่มีนามว่า โพรทาเลีย แจ็กสัน ในวันนั้นตกเย็นครอบครัวของเธอ จะต้องพาเธอและพี่น้องไปทานไอศกรีมแบบนี้ ทุกวันเกิดของลูกทุกคน แล้วร้านที่ต้องไปเป็นร้านเดิมที่แถว ๆ แมนฮัตตัน ในขณะที่พวกเขานั้นใกล้มาถึงร้านไอศกรีมนั้น โพรทาเลียเกิดหันไปสนใจหนังสือเล่มหนึ่งที่อยู่ในร้านหนังสือข้าง ๆ ร้านไอศกรีมที่จะไป เธอดูสนใจหนังสือเล่มนั้นมาก ๆ จนไม่ได้มองเลยว่าครอบครัวนั้นเดินเข้าไปในร้านไอศกรีมแล้ว พอเธอจะเรียกพ่อแม่แต่ไม่มีใครตอบกลับ เธอหันไปมองว่าทำไมไม่มีคนตอบเธอเลยสักคน ทำให้เธอชะงักกับภาพตรงหน้าที่มีเด็กหญิงผมดำ ดวงตาสีเขียวและเสื้อผ้าที่เหมือนเธอ ไม่ใช่แค่เหมือนนั้นมันตัวเธอเลยต่างหาก โพรทาเลียอ้ำอึ้งไปสักพัก เธอกำลังจะเอ่ยปากพูด แต่มีอะไรบางอย่างคลุมตัวเธอไว้ ตัวเธอกลิ้งอยู่ในบางสิ่งที่คล้ายถุงผ้า พอได้สติก็ได้กลิ่นเหม็นอับจนทำให้เธอสลบไปเหมือนโดนยาสลบถูกใส่ไว้ในถุง
ระยะเวลาผ่านไปโพรทาเลียค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้น หลังจากมีเม็ดฝนตกลงมาใส่ตัวเธอจนเธอเปียกโชก เธอพยายามลุกขึ้นมาอย่างสงสัยว่าเธออยู่ที่ไหน เธอมองซ้ายมองขวา เธออยู่ลานกว้างที่เป็นวงกลม พอมองสถานที่ตรงหน้าก็ทำให้เธออึ้งอย่างตะลึง มันคือปราสาทที่มีโทนสีที่ดำมืดและขนาดปราสาทที่ใหญ่มาก ๆ เธอมองด้วยสายตาอันหวาดกลัวกับสถานที่ที่ไม่น่าอยู่แบบนี้ แต่เธอก็ยังสงสัยว่าตนเองอยู่ที่ไหน ระหว่างที่สนใจสถานที่ตรงหน้าก็มีเสียงฝีเท้ากำลังเดินมาจากด้านหน้า โพรทาเลียมองไปข้างหน้าเห็นบุคคลน่าสงสัยกำลังเดินตรงมาหาเธอ
“กลิ่นอายที่น่ารังเกียจนี้...”
พอมองเห็นบุคคลน่าสงสัยประชิดใกล้เธอ เขาดูเป็นชายวัย 30 ปี ใส่ชุดเสื้อโค้ตหนังยาวถึงเท้า เสื้อผ้าที่ดูสบาย กางเกงขายาว ทุกชิ้นของเสื้อผ้าเป็นสีดำหมด โพรทาเลียจ้องมองอีกฝ่ายอย่างสงสัย แต่เธอสัมผัสได้ถึงความน่ากลัวจากตัวอีกฝ่ายและยิ่งเธอรู้สึกไม่ไว้ใจว่าอีกฝ่ายนั้นจะมาช่วยเธอหรือจะมาทำร้ายเธอกันแน่
“คุณ...เป็นใครคะ...”
“ใครนะเหรอ!?” ชายคนนั้นพูดก่อนจะยิ้มมุมปากออกมา “ข้ามีนามว่า แซเทิร์น เป็นคนจะฆ่าเจ้าไงล่ะ!!”
พอชายตรงหน้าพูดแบบนั้น สัญชาตญาณของโพรทาเลียเหมือนบอกให้หนี ตอนนั้นเธอรีบลุกขึ้นหนีทันที แต่ชายคนนั้นมองอย่างชอบใจที่เธอหนี เพราะเขาจะได้ล่าเธอแบบซาดิสม์ เขาพุ่งตรงมาหาเธอแล้วทำร้ายเธอจนบาดเจ็บสาหัส ในหัวเธอตอนนั้นมีแต่ใบหน้าพ่อแม่ที่เธออยากให้ช่วยอย่างเดียว ก่อนที่ภาพนั้นจะตัดไปชั่วขณะ เมื่อลืมตาตื่นขึ้นเธอเห็นว่าตัวเองนอนอยู่บนตักของใครบางคน เมื่อมองไปด้านข้างเธอเห็นแซเทิร์นยืนอย่างสะบักสะบอม เพราะได้รับบาดเจ็บจนร่างกายเขาหายไปครึ่งหนึ่ง ทำให้โพรทาเลียรู้สึกหวาดกลัวและกระอักกระอ่วนท้องไปหมด มือหนึ่งมาสัมผัสใบหน้าของเธอให้หันมามองเธอเห็นหญิงสาวที่มีผมสีน้ำเงินยิ้มให้เธอ
“ไม่ต้องกลัวนะ ไม่ต้องกลัว...ข้ามาช่วยแล้วนะ...ข้าอยู่ข้าง ๆ เจ้าแล้วนะ”
พอโพรทาเลียมองอีกฝ่ายอย่างชัด ๆ หญิงสาวตรงหน้ามีใบหน้าอันงดงาม ผมยาวสีฟ้าและดวงตาสีฟ้าเหมือนท้องฟ้ายามสดใส เมื่อมองรวม ๆ อีกฝ่ายช่างสวยและงดงามมาก ๆ และเสียงอันไพเราะนั้นนช่างอบอุ่นจนโพรทาเลียรู้สึกสบายใจจนน้ำตากำลังไหลออกมา
“ขอบคุณ...ขอบคุณที่มาช่วยหนู...”
พอสิ้นเสียงของโพรทาเลียเธอก็สลบไปทันที เรื่องวันนั้นหลายอย่างเป็นปริศนาในชีวิตของโพรทาเลียไปนานมาก เธออยากถามกับหญิงสาวคนนั้นมาตลอด แต่หญิงสาวผมสีฟ้านั้นไม่เคยบอกโพรทาเลียเลยว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนั้น เหมือนถ้าบอกเธอเหตุการณ์ครั้งนั้นอาจจะกลับมาเล่นงานตัวโพรทาเลียอีกก็ได้ แต่การได้รับความช่วยเหลือในวันนั้นทำให้เธอรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นเทพีที่ตกที่นั่งลำบากเหมือนเธอ
หญิงสาวผมสีฟ้ามีนามว่า เทพีอลิซ่าเบ็ธ โพรทาเลียได้เจอเธออีกครั้งหลังจากที่จบเหตุการณ์นั้น เธอถูกพามาพักที่ห้องห้องหนึ่งในปราสาท ระหว่างได้รับการรักษาเธอสงสัยว่าอีกฝ่ายมีชีวิตยังไงในเกาะนี้ เทพีจึงเล่าเรื่องของเธอให้โพรทาเลียฟังว่าตนเองนั้นอยู่มานานหลายพันปีหลังจากแซเทิร์นจับตัวเธอมาขังที่นี้ เมื่อได้ยินเรื่องราวทั้งหมดเธอรู้สึกเศร้าและเหงาแทนอีกฝ่ายที่อยู่ที่นี้โดยไม่มีคนมาช่วยหรือรับรู้ว่าเธออยู่ที่นี้ โพรทาเลียคิดบางอย่างจนถามอีกฝ่ายว่าทำไมเธอต้องโดนจับตัวมาที่นี้กัน
“ทำไมเขาถึงจับตัวหนูมากัน?”
เทพีมองเด็กน้อยอย่างเศร้าใจ เธอถอนหายใจออกมาพร้อมกับยกมือลูบหัวเด็กน้อย “ที่ข้าฟังมานะ...เขาบอกว่าความผิดอยู่ที่พ่อแม่เจ้าที่ยุ่งกับแผนร้ายของเขา”
“ห๊า?”
ตอนนั้นโพรทาเลียไม่เข้าใจเลยว่าพ่อแม่เธอทำผิดอะไรต่อชายที่มีชื่อว่าแซเทิร์นกัน จนเธอได้รับรู้ว่าพ่อแม่นั้นเคยทำอะไรต่อชายคนนั้น จนโพรทาเลียงงว่าตนเองผิดอะไรที่ต้องจะมาแบกรับสิ่งที่พ่อแม่กระทำกับชายคนนั้น แล้วเธอจะต้องทนอยู่ในสถานที่แบบนี้อีกนานแค่ไหนกัน
วันเวลาผ่านไปไวอย่างกับโกหก เวลาผ่านมานานถึง 8 กว่าปี โพรทาเลียมีอายุได้ 15 ปี สภาพร่างกายเธอเปลี่ยนไปเยอะ มีรอยแผลตามร่างกาย ร่างกายที่มีกล้ามเนื้อขึ้นเล็กน้อยเหมือนคนออกกำลังกายมาตลอด แต่การที่มีกล้ามเนื้อขึ้นแบบนี้ สำหรับเธอนั้นน่าจะเรียกออกกำลังกายโดยการหนี จากการฝึกและการต่อสู้ในลานประลองที่แซเทิร์นจัดขึ้น เขาอยากเห็นเธอตายไว ๆ แต่มีบางอย่างทำให้เธอไม่ตายเหมือนคนปกติ นั้นเลยทำให้แซเทิร์นไม่พอใจเป็นอย่างมาก
แต่ก็ถึงเวลาที่โพรทาเลียรอคอยมาตลอด เวลาที่จะได้หนีออกจากเกาะบ้า ๆ นี้ เธอใช้เวลาถึง 8 ปี ที่วางแผนจะออกไปจากเกาะบ้า ๆ แต่แผนที่เธอคิดหลาย ๆ แผนมันล้มไม่เป็นท่ามาตลอด ตอนเธอมาอยู่ที่นี้ครั้งแรก เธอเอาแต่คิดว่าต้องมีสิ่งหนึ่งที่จะพาเธอและคนอื่น ๆ ออกไปจากที่นี้ได้ มันต้องเป็นยานพาหนะที่ใหญ่มาก ๆ อย่างเช่นเรือลำใหญ่ที่บรรจุคนได้มากกว่า 20 คน แต่จะมีสักลำไหมที่จะเข้ามาในเขตเกาะนี้บ้างไหม โพรทาเลียอยากให้มีเรือสักลำเข้ามาเธอจึงชอบไปที่ชายหาดเพื่อมองหาเรือสักลำที่จะหลุดเข้ามาในเขตเกาะนี้ แต่ก็ไม่มีเลยและยิ่งข้างนอกนั้นก็เห็นแต่เรือลำเล็ก ๆ ผ่านเกาะไปอย่างไม่รู้เลยว่ามีเกาะนี้ เธอไม่เคยเห็นเรือลำใหญ่โผล่มาแถวที่เธออยู่เลย ที่โผล่ๆ มาก็เป็นเรือลำใหญ่จริงแต่มันใหญ่เกินกว่าที่พวกเธอจะขึ้นไปได้ ทำให้โพรทาเลียท้อขึ้นทุกวัน
จนกระทั่ง 2 ปีผ่านไป ตอนนั้นโพรทาเลียอายุแค่ 9 ขวบ แซเทิร์นจัดการทดสอบโพรทาเลียโดยต่อสู้กับยักษ์ไซคลอปส์ที่ตามล่าเธอ พวกปีศาจไม่ยอมอ่อนข้อให้เธอเลยสักครั้ง เธอวิ่งหนีไปเรื่อย ๆ พวกยักษ์สะบัดมือจะโจมตีใส่เธอ เธอก็หลบทันจนมือพวกมันกระแทกต้นไม้จนแตกละเอียด โพรทาเลียไม่ชอบใจที่พวกนั้นทำร้ายต้นไม้พวกนั้นเลยจริง ๆ เธอเริ่มเพิ่มความเร็วในการวิ่งมากขึ้น จนเธอหนีไปไกลกว่าพวกมัน จนเท้าที่กำลังวิ่งเท้าพลาดจนตกไปในหลุมบางอย่างแล้วทำให้เธอตกลงไปสู่ด้านล่างที่ไม่รู้จัก
“อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยย!!”
โพรทาเลียตกลงด้านล่างที่เหมือนกับเหว ตัวเธอตกโดนโค่นหินจนร่างกายได้รับบาดเจ็บแล้วก็สลบไปในทันที เวลาผ่านไปนานจนถึงเช้าวันถัดไป โพรทาเลียค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้น เธอรู้สึกตัวแต่ทั่วทั้งร่างกายรู้สึกช้าไปหมด เธอค่อย ๆ พยุงตัวเองแล้วมองสภาพแวดล้อมรอบ ๆ ว่าตนเองอยู่ที่ไหนแต่ที่เห็นมีแต่หินและกำแพงหิน ทำให้เธอรู้สึกว่าที่นี่คล้าย ๆ กับบางอย่าง
“ถ้ำเหรอ?” โพรทาเลียเริ่มขยับตัวเธอก็รู้สึกเจ็บที่หัวไหล่ด้านซ้ายขึ้นมา “อึ้ก!!”
โพรทาเลียจ้องที่ไหล่ที่อยู่ในตำแหน่งผิดรูป เธอรู้ว่ามันไม่ได้เจ็บธรรมดามันโคตรเจ็บเลยต่างหาก เนื่องจากมันหลุดออกจากจุดที่ควรอยู่ เธอหายใจเข้าออกเร็ว ๆ แล้วจับไหล่ดันกลับเข้าที่ในทันที
“อ๊ากกกกกกกกก!!”
พอไหล่เข้าที่แล้วโพรทาเลียก็ค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน ความรู้สึกตอนนี้ร่างกายของเธอเหมือนโดนใครเอาไม้มาทิ่มตามร่างกายจนทำให้เจ็บปวดถึงที่สุด เธอเดินอย่างยากลำบากมาก เพราะรอบ ๆ มองไม่เห็นเส้นทางเลย ทำให้ต้องใช้มือคลำกำแพงถ้ำไปเรื่อย ๆ จนเธอเริ่มมาถึงปากทางที่มีแสงสว่างขึ้น เมื่อเห็นแบบนั้นเธอรีบเดินตรงไป ก็ได้เจอกับพื้นที่ที่ไม่เคยเห็น ภาพตรงหน้านั้นอยู่แถว ๆ ปากถ้ำที่เป็นภูเขาที่โดนห้ามไม่ให้มา ตอนนี้เธอเห็นปราสาทอยู่ไกลตามาก ๆ
“ที่นี่มัน...ไกลพอตัวเลยนะ...เดินก็ลำบากอยู่แล้ว...คงไปถึงยากแน่ ๆ”
โพรทาเลียจ้องมองรอบ ๆ ว่าจะมีอะไรช่วยเธอในการเดินไป แต่แล้วจู่ ๆ ก็มีกระแสลมพักออกมาจากข้างในถ้ำโดนตัวของเธอ โพรทาเลียจ้องมองอย่างสงสัยว่ามีลมด้วยเหรอ โดยที่ตัวเองนั้นเดินมาตั้งนานไม่มีลมเลย เมื่อลมพัดมาอีกก็มีกลิ่นที่คุ้นเคยพัดกระทบจมูกของเธอ
“นี่มัน...กลิ่นทะเล!!”
กลิ่นนั้นยิ่งกระทบจมูกมากขึ้น ทำให้เธอต้องเดินเข้าไปตรวจสอบว่ากลิ่นนี้ออกมาจากถ้ำนี้ได้ไง ระหว่างเดินเข้าไปนั้นเธอก็เจอไม้แปลกๆ ที่มีผ้าพันไว้เธอเลยจุดมันด้วยหินกระทบมันจนเกิดไฟ พอได้ไฟนำทางแล้วเธอก็เดินเข้าไปต่อโดยไม่สนใจร่างกายที่เจ็บปวดอยู่เลย เสียงของทะเลที่กำลังเคลื่อนตัวซัดยิ่งเข้ามาใกล้มากขึ้น จนโพรทาเลียเดินมาถึงทางเข้าหนึ่ง พอเธอเดินเข้าไปสายตาของเธอก็จับจ้องกับสิ่งของที่ใหญ่มาก ๆ จนเธอไม่คาดคิดว่าจะเจอ
“นี่มัน...เรือสำเภา...ใหญ่เป็นบ้า...”
ตรงหน้าของเด็กน้อยคือ เรือสำเภาขนาดใหญ่ คล้าย ๆ เรือโจรสลัดไม่มีผิด โพรทาเลียลองเดินดูรอบเรือที่มีสภาพแย่เอาการมาก ๆ จนเธอรู้สึกแย่เลยที่เรือลำนี้ไม่ได้รับการดูแลเลย ทำให้มันพังเมื่ออยู่ในสภาพที่อับชื้นแบบนี้ เมื่อลองแตะที่ตัวเรือนี้ เธอเหมือนสัมผัสได้ถึงเสียงร้องไห้ของเรือลำใหญ่นี้ โพรทาเลียเงยหน้ามองเรือลำนี้พร้อมกับทำสีหน้าฮึดสู้อีกครั้ง
“ไม่ต้องกลัวนะ...ข้าจะซ่อมเจ้าเอง!”
หลายปีที่โพรทาเลียซ่อมเจ้าเรือลำใหญ่ให้กลับมาสภาพดีเหมือนเดิม การทำแบบนี้ได้เธอก็ต้องทำให้แซเทิร์น เจ้าลูกชายอย่างวากาเน็ท และลูกสมุนตัวอื่น ๆ ไว้ใจเธอและไม่สนใจว่าเธอจะออกจากปราสาทไปไหน เพราะยังไงเธอก็ไม่สามารถออกจากเกาะนี้ไปได้ในสายตาของพวกมัน แต่หารู้ไหมว่าตลอดหลายปีโพรทาเลียคิดแผนที่จะทำให้พวกมันไม่สามารถขยับตัวได้ยาวนานเป็นวัน เมื่อเธออายุ 13 ปี เธอคิดค้นยาตัวหนึ่งขึ้นมาได้ มันคือ ยานอนหลับชนิดรุนแรงสำหรับเทพและพวกปีศาจ มันทำมาจากสมุนไพรหลายตัวที่โพรทาเลียเจอบนเกาะนี้ แล้วเธอก็นำวัตถุดิบต่าง ๆ นั้นสร้างเป็นยานอนหลับนี้ขึ้นมาเพื่อจัดการกับพวกมันทั้งหมด
แต่แล้วโอกาสนั้นก็มาถึงจนได้ เมื่อโพรทาเลียอายุ 15 ปี อีกไม่นานเธอก็อายุจะ 16 แต่เวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เธอรอคอยมานานแสนนาน เธอค่อยอยู่แต่ในเงามืดมานาน ถึงเวลาที่เธอจะได้ออกสู่โลกกว้างที่เธอเคยอยู่ เหตุการณ์มากมายที่เธออยู่บนเกาะนี้ เธอมีแต่ต้องสู้ ฟังคำสั่งของเทพเฮงซวย แต่การทำตามที่เขาต้องการก็ทำให้เขาไว้ใจเธอมากขึ้นจนเธอเรียกเขาว่าพ่อ นั้นก็ยิ่งทำให้เขาไว้ใจจนเกินไปโดยไม่คิดว่าเธอจะทรยศเขาไหม แต่ก็มีอีกสิ่งที่ทำให้โพรทาเลียไม่ชอบใจคือลูกชายของแซเทิร์น ที่จ้องมองเธอตลอดเวลาเมื่อเธอโตขึ้นจนเป็นสาว เขาไว้ให้เธอเป็นหญิงของเขา นั้นก็ทำให้แผนของเธอเข้าล็อกมากขึ้น การที่ต้องมาคิดว่าสองคนนั้นเป็นครอบครัวมันไม่เคยมีอยู่ในหัวของเธอเลยสักครั้ง พวกนั้นทำให้เธอต้องทนทุกข์อยู่ในสถานที่เน่า ๆ แบบนี้มานานเกือบ 9 ปี เธอจะไม่มีวันให้อภัยพวกมัน ตลอดหลายปีที่เธอเล่นตามน้ำกับพวกมันมาตลอด
จนกระทั่งแผนการของโพรทาเลียกำลังจะเริ่มขึ้นในเย็นวันนี้ แต่ละคนทำตามหน้าที่ที่โพรทาเลียกำหนดไว้ให้กัน โพรทาเลียแต่งกายให้งดงามเนื่องจากวากาเน็ทเรียกให้เธอไปหา เธอเดินไปถึงห้องของอีกฝ่ายเมื่อเปิดประตูเข้าไปก็เจออีกฝ่ายอยู่บนเตียงนอน ในใจของโพรทาเลียคิดอย่างเดียวว่ามันช่างหวานหมูเกินไปจริง ๆ ถ้าไม่คิดว่าอีกฝ่ายช่างมีแต่กล้ามไม่มีสมองเลยจริง ๆ เธอยิ้มแล้วค่อย ๆ ไปหาอีกฝ่ายกำลังนอนอยู่บนเตียง พอเธอเดินมาอยู่ข้างเตียงอีกฝ่ายก็ดึงตัวเธอนอนลงกับเตียง แล้วไซร้ซอกคอของเธอเพื่อเร้าอารมณ์ แต่แล้วเขาก็รู้สึกแปลก ๆ ข้างในร่างกายของเขา เขาเขยิบร่างกายออกแล้วมองอีกฝ่าย
“นี่เจ้า...ทำอะไร...” เขาเริ่มรู้สึกดวงตากำลังเบลอไปหมด
“ทำให้เจ้าไม่มาทำแผนข้าพังยังไง! วากาเน็ท” น้ำเสียงของโพรทาเลีย ช่างเยือกเย็นยิ่งกว่าน้ำแข็ง
วากาเน็ทกำลังจะล้มลงมาที่เธอ เธอใช้นิ้วดันหัวอีกฝ่ายแล้วค่อย ๆ ลุกตัวเองออกจากเตียงแล้วค่อยปล่อยให้อีกฝ่ายสลบลงไปกับเตียง แผนของเธอได้ผลหลังจากที่วากาเน็ทเล่นร่างกายของเธอ ยานอนหลับที่เธอทาไว้ในร่างกายก็เข้าสู่ร่างกายอีกฝ่ายจนหลับไป โพรทาเลียเข้าใกล้อีกฝ่ายก่อนจะกระซิบข้าง ๆ หู
“หลับให้สบายล่ะ เจ้างั่ง!!”
โพรทาเลียออกจากห้องนั้นไปอย่างเงียบ ๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วล็อกห้องไว้ไม่ให้ใครเข้าไปวุ่นวายในห้องนั้น เธอกลับที่ห้องไปเพื่อล้างยานอนหลับออกจากร่างกายจนหมด ทำธุระอะไรเสร็จเธอก็ตรงไปที่ห้องครัว เพื่อทำแผนที่สองให้จบ นั้นก็คือ แผนอาหารเย็นกู๊ดไนท์ เทพีอลิซ่าเบ็ธกับคนอื่น ๆ กำลังทำอาหารที่แสนอร่อยจนกระทั่งทำจนเสร็จ โพรทาเลียก็เทยาลงไปในอาหารทุกอย่าง ปีศาจตนอื่น ๆ ก็นำอาหารไปให้เหล่าปีศาจตนอื่นที่อยู่ฝ่ายแซเทิร์น ส่วนโพรทาเลียและเทพีก็จัดเตรียมโต๊ะอาหารอย่างดี แซเทิร์นก็ได้มาเตรียมตัวรับประทานอาหาร ทั้งสองเสิร์ฟอาหารให้แก่แซเทิร์น แล้วก็ตนเองกันพวกเขานั่งทานอาหารกันอยู่ระยะหนึ่ง จนแซเทิร์นมีอาการเหมือนคนกำลังจะง่วงนอน เขารู้สึกว่าตัวเองคงจะอิ่มมากจนง่วงนอน เลยขอตัวลุกออกจากตรงนั้นไป แต่เดินไปไม่ไกลเขาก็สลบลงกับพื้นไปแล้ว โพรทาเลียเดินตามมาดูอาการอีกฝ่ายว่าหลับไปจริง ๆ อย่างที่เธอต้องการไหม เทพีก็เดินตามมาเพื่อดูเช่นกัน
“เป็นไง? โพรทาเลีย”
“สลบไปแล้วเจ้าค่ะ เทพีอลิซ่าเบ็ธ”
“ดี เอาไงต่อ?”
“แผนสาม!”
ทั้งสองคนต่างปล่อยอีกฝ่ายนอนอยู่ตรงนั้น พวกเธอรีบทำตามแผนสามนั้นก็คือออกจากเกาะนี้ พวกเธอรีบวิ่งตรงไปยังจุดรวมพล ณ กลางป่า เมื่อมาถึงก็เห็นคนอื่น ๆ กำลังรอกัน พอพวกเขาเห็นพวกโพรทาเลียก็ต่างโล่งใจ
“มาสักที...เรานึกว่าเธอโดนแซเทิร์นเล่นงานแล้วซะอีก”
“อย่าพูดแบบนั้นสิ เอาล่ะ มากันครบแล้วสินะ!!” โพรทาเลียหยิบกระดาษออกมา “แผนที่สาม ทุกคนต้องตามอาจารย์ไปยังจุดที่เราเคยไปกัน คงจำกันได้ ถึงอยู่ไกล แต่ไม่ต้องรีบร้อน ถ้าเจอตัวอะไรในป่าก็ฟันให้ตายไปเลย!”
ทุกคนพยักหน้าอย่างเข้าใจ ตรงหน้าของโพรทาเลียมีตั้งแต่มนุษย์ อมนุษย์ ยักษ์ไซคลอปส์ และอาจารย์เซนทอร์
“พอไปถึงภูเขานั้น ใครมีหน้าที่ไหนก็ทำหน้าที่ของตนเอง เข้าใจไหมทุกคน!”
“โอ๊ส!!” ทุกคนต่างขานรับทันที
“งั้นไปได้!!”
อาจารย์เซนทอร์ที่โพรทาเลียพูดถึงนั้น เขาดูเป็นชายที่มีอายุพอควรสักประมาณวัย 30 กว่า ๆ เขาเดินวนรอบหนึ่งก่อนจะเรียกทุกคนให้ตามเขา
“ทุกคนตามข้ามา!!”
อาจารย์เซนทอร์เดินนำทุกคนไปในทันใด ทุกคนต่างก็รีบตามอาจารย์เซนทอร์ไปในทันที โพรทาเลียมองทุกคนก่อนจะเตรียมตัวออกเดินไปอีกฝั่ง ก่อนที่เทพีอลิซ่าเบ็ธจะจับแขนเธอ
“เจ้าจะไปไหน? โพรทาเลีย”
“ข้าจะไปจัดการกับสิ่งที่ทำให้ที่นี่โดนปกคลุมด้วยบาเรียยังไงล่ะ! ท่านจงรีบไปซะเถอะ” โพรทาเลียบอกสิ่งที่ตนเองจะไปทำ เธอจับมืออีกฝ่ายที่กำลังจับแขนเธอ “ข้าต้องเห็นท่านอยู่บนเรือนั้นนะ ท่านต้องสัญญากับข้านะ!!”
“ข้าสัญญา”
โพรทาเลียพยักหน้าก่อนจะมองเด็กสาวมาตามเทพีเดินไปกับพวกเธอ “ฝากเทพีด้วยนะ”
สาว ๆ ต่างพยักหน้าก็จะสัมผัสตัวเทพีให้เดินไปกับพวกเธอ
“ไปเถอะค่ะ! เทพี”
เทพียอมเดิมตามเด็กสาวไปกันทันที โพรทาเลียมองพวกเด็กหญิงพาเทพีไปยังภูเขาที่เป็นทางเข้าขึ้นเรือที่เธอซ่อมแซมจนกลับมาใช้ได้อีกครั้ง พอพวกเธอลับสายตาไปเธอก็ออกวิ่งไปยังจุดที่เธอคิดว่าเป็นจุดที่บาเรียถูกสร้างขึ้น เมื่อวิ่งตรงไปจนถึงจุดที่มีหอคอยสูงตระหง่านตรงหน้าเธอ มันมีแสงขึ้นสู่ฟ้าสมัยเธอเด็ก ๆ ไม่เคยเห็นมันด้วยซ้ำ จนเธอโตขึ้นถึงได้เห็นมันเด่นชัดขึ้น หอคอยนั้นไม่มีทางขึ้นแต่อย่างใด นั้นทำให้เธอต้องปีนขึ้นไป เธอหยิบมีดสั้นขึ้นมาแล้วแทงเข้าไปที่ช่องว่างระหว่างหิน ทำให้เธอปีนขึ้นไปได้ง่าย ๆ เธอรีบปีนขึ้นไปอย่างรวดเร็วโดยไม่รู้เลยว่ามีบางอย่างกำลังจะทำให้เธอลำบากให้การปีนขึ้นไปข้างบน
ทุกคนที่ตามอาจารย์เซนทอร์ พวกเขาเดินทางจนมาถึงปากถ้ำที่ว่านั้น พวกเขาเข้ากันเข้าไปข้างในเพื่อไปยังตัวเรือกัน ทุกคนต่างเตรียมของขึ้นเรือกันอย่างเร่งรีบ พอขึ้นเรือกันครบทุกคน พวกเขาเตรียมตัวดึงใบเรือให้กางออกและดึงสมอเรือขึ้นมา ตัวเรือกำลังลอยออกจากจุดจอดเรือ เมื่อเรือลอยพ้นปากถ้ำนั้นอยู่ ๆ ก็มีเสียงหินกำลังแตก ทำให้คนบนเรือมองกันเป็นสายตาเดียวกัน ก่อนที่หินตรงหน้าผาจะถล่มลงมาปิดปากถ้ำ ทำเอาทุกคนบนเรือต่างหัวใจเกือบวายกันเลยทีเดียว
“โพรทาเลียไม่เห็นบอกเลยนี่นา ว่าปากถ้ำจะตกลงมาด้วยเนี่ย!?” เด็กหนุ่มคนหนึ่งพูดขึ้น
“ทำไงได้ ฉันว่ามันเป็นอุบัติเหตุมากกว่า...” เด็กสาวคนหนึ่งพูดขึ้น “โพรทาเลียคงไม่รู้เรื่องนี้แน่ ๆ เอาทุกคนขับเรือไปแถวบริเวณบาเรียกัน!!”
เหล่าเด็ก ๆ ต่างพากันเตรียมทำหน้าที่ของตนเองกัน เทพีมองเหล่าเด็กๆ ที่เคยตกเป็นทาสของแซเทิร์นกำลังตั้งหน้าตั้งตาทำการเตรียมหนีจากเกาะบ้า ๆ นี่ สายตาของเธอทอดยาวมองเกาะนั้นรอเวลาที่โพรทาเลียจะจัดการบาเรียนั้นจนได้ อาจารย์เซนทอร์เดินตรงมาหาเทพี
“นางจะต้องกลับมาแน่ ๆ เทพี”
เทพีเงยหน้ามองอีกฝ่าย ก่อนจะมองที่เกาะ “ข้ารู้...ข้าเชื่อว่านางต้องทำได้และนางต้องกลับมาหาเราแน่ ๆ”
โพรทาเลียกำลังปีนขึ้นหอคอยโดนไม่สนใจรอบข้างเลยว่าจะมีตัวอะไรกำลังมาทำร้ายเธอ ด้านล่างของโพรทาเลียนั้นเถาวัลย์กำลังเลื้อยขึ้นมาล้อมหอคอยที่เธออยู่และตรงดิ่งมาหาเธอ มีสิ่งที่ขนาดใหญ่คล้ายๆ ดอกไม้มีปากและฟันที่แหลมคมกำลังจับจ้องมาที่โพรทาเลียหวังจะกินเธอ จู่ ๆ ก็มีเสียงดังเข้ามาในหัวของโพรทาเลีย
‘ข้างหลังเจ้า! โพรทาเลีย!’
โพรทาเลียได้ยินนั้นก็รีบหันไปมองในทันควัน เธอก็เห็นดอกไม้ขนาดใหญ่อ้าปากกว้างพุ่งตรงมาหาเธอ โพรทาเลียปล่อยมือข้างหนึ่งออกจากดาบที่ติดอยู่กับกำแพงหินทันที เธอรู้เลยว่าสิ่งที่พุ่งมาคือเถาวัลย์กินคน เนื่องจากเธอเคยโดนมันกินจนตายหลายครั้ง พอปล่อยมือเธอใช่เท้าเตะไปที่ปากของมันหลายครั้งจนเถาวัลย์สะบัดหน้าหนีแล้วคำรามใส่ เธอจับดาบสั้นที่ตัวเองเกาะไว้แน่ ๆ ก่อนจะโยนตัวไปที่ดาบอีกอันที่ปัดอยู่ติดกำแพง เมื่อกระโดดขึ้นยืนบนด้ามดาบได้สำเร็จ เถาวัลย์กินคนก็พุ่งตรงมาหาเธออีกครั้ง เธอกระโดดขึ้นสูงมาก ๆ ก่อนจะตกลงมากระแทกหัวของเถาวัลย์กินคนอย่างจัง แล้วเธอก็กระโดดโดนใช้เถาวัลย์กินคนเป็นฐาน พอกระโดดไปเกาะหน้าต่างได้ก็รีบปีนขึ้นแล้วมองเจ้าเถาวัลย์กินคนล้มไปกับพื้นในทันที
“เกือบไปแล้ว” โพรทาเลียปัดฝุ่นหรือเศษต่าง ๆ ที่ติดตัวเธอออก แล้วกล่าวขอบคุณกับบางอย่าง “ขอบคุณท่านจริง ๆ ที่ช่วยข้านะ”
‘ไม่มีปัญหา เจ้าเล่นไม่มองรอบ ๆ ขาดความรอบคอบมาก’
“ฮ่าๆ เจ้าค่ะ ๆ”
โพรทาเลียขานตอบรับไป ก่อนจะหันไปมองสิ่งที่เป็นจุดต้นตอของบาเรีย ดาบยาวที่ถูกปัดอยู่กับแท่นหิน เธอเข้าไปใกล้ ๆ จ้องมองดาบอย่างสนใจ
‘ไซกาเลน...’ เสียงชายที่ช่วยเธอก็พูดขึ้นอีก
“ไซกาเลน...นั้นคือชื่อดาบเหรอ?”
‘ใช่...มันเคยเป็นดาบของข้า...ก่อนที่แซเทิร์นจะขโมยไปจากข้า’
เสียงชายคนดังกล่าวพูดออกมา เหมือนแฝงไปด้วยความแค้นใจที่มีต่อแซเทิร์นเป็นอย่างมาก โพรทาเลียฟังสิ่งที่อีกฝ่ายพูดก็ทำให้เธอไม่ชอบใจเหมือนกันที่มีคนเอาของที่เรารักไปเช่นเดียวกับชีวิตของเธอ เธอลุกขึ้นจับที่ด้ามของดาบ แล้วดึงดาบออกมาจากแทนอย่างแรงจนหลุดออกมาทำให้โพรทาเลียล้มก้นจ้ำเบ้าเลย เมื่อดึงออกบาเรียก็หายไปทันใด
‘เจ้าเก่งมาเด็กน้อย ถึงเวลาที่เจ้าจะไปหาพวกของเจ้าแล้ว’
“รับทราบ!!”
โพรทาเลียลุกขึ้นแล้วรีบออกจากหน้าต่าง แต่ก็ต้องเจอกับเจ้าเถาวัลย์นั้นอีกครั้ง เพราะมันที่ยังไม่ตาย โพรทาเลียมองมันแล้วกระโดดข้ามหัวมัน โดยที่มันไม่รู้ว่าระหว่างที่เธอกระโดดนั้น เธอใช้ดาบในมือฟันคอของมันไปเรียบร้อย ก่อนที่เธอจะลงสู่พื้นแล้วหัวของเถาวัลย์ก็ตกลงมา โพรทาเลียรีบวิ่งกลับไปที่เรืออย่างปลอดภัย
หลังจากหนีออกมาจากเกาะนั้นเวลาช่างผ่านไปเป็นวัน สัปดาห์ และเดือน จนผ่านมา 6 เดือนที่หนีออกมาจากเกาะนั้น แล้วร่อนเร่พเนจรอยู่ข้างนอกมานาน การเดินทาง 6 เดือนนั้นทำให้โพรทาเลียได้เจอสิ่งใหม่มากมายเกินกว่าที่เธอจะจินตนาการได้ ส่วนคนอื่นที่ได้ออกมากลับเธอด้วยนั้น พวกเขาแยกทางกับเธอหลังจากออกมาเกาะได้ 1-2 สัปดาห์ เวลาพอเหมาะกับเวลาสมควรที่พวกแซเทิร์นจะฟื้นขึ้นมา อย่างแรกที่เธอคิดพวกนั้นคงต้องหาอะไรดื่มแก้คอแห้งนั้นล่ะ ก่อนที่พวกมันจะรู้ว่าพวกเธอนั้นหนีออกมาจากเกาะนั้นแล้ว ความอัปยศนี้ทำให้แซเทิร์นโกรธเป็นอย่างมาก เขาเลยสั่งคนตามล่าพวกเราหลังจากที่พวกตนฟื้น
ช่วงเวลาอันมีค่าที่สุดที่เธอได้เห็นคือการพาทุกคนกลับสู่อ้อมกอดของครอบครัว ทุกคนต่างร้องไห้และดีใจที่ได้กลับมาหาครอบครัวอีกครั้ง นั้นก็ทำให้โพรทาเลียนึกถึงครอบครัว ถึงแม้ความทรงจำเกี่ยวกับพวกเขาเริ่มเลือนร่างขึ้นทุกครั้งที่อยากจำ แต่เธอจำใบหน้าของพวกเขาได้เพราะภาพถ่ายที่เคยถ่ายด้วยกัน หลังจากที่แยกทางกับคนอื่น ๆ พวกเธอก็เริ่มรู้สึกถึงพวกอสุรกายที่ออกตามล่าพวกเธอ การจากลาเป็นสิ่งที่โพรทาเลียไม่ชอบ แต่เธอก็พาเทพีหนีกันออกมาเพื่อเป็นตัวล่อให้แก่คนอื่น ๆ โดยการหนีไปยังสถานที่ต่าง ๆ รอบโลก เพื่อไม่ให้พวกมันตามตัวพวกเธอเจอ ถึงแม้จะลำบากเพียงใดพวกเธอก็ยอมเพื่ออิสรภาพของพวกเธอและคนอื่น ๆ เพราะเมื่อใดพวกเธอหยุดพวกนั้นก็เจอ จนพวกเธอหนีมาอีกฟากของโลกภายในป่าใหญ่เดินมาหลายวันจนเหนื่อยมาก ๆ จนท้องของโพรทาเลียเกิดร้องขึ้นมาทำเอาเทพีอลิซ่าเบ็ธมองเธอด้วยสีหน้าแปลกใจ ก่อนจะขำทันที
“ฮ่า ๆ ท้องร้องแล้วเหรอ? น่าสงสารจังนะ”
“เงียบเลยท่านพี่...”
โพรทาเลียมองอีกฝ่ายด้วยรูปลักษณ์ใหม่ของเธอ ที่มีผมสีน้ำตาล ดวงตาสีเขียว ใส่เสื้อผ้าสบาย ๆ อย่างเสื้อกล้ามสีขาว เสื้อแขนยาวสีส้ม กางเกงขาสามส่วนสีน้ำตาล รองเท้าเชือกสีน้ำตาล แต่การแต่งกายของเธอคล้ายผู้ชาย ก็เพราะเธอแปลงร่างเป็นผู้ชาย เพราะว่าแปลงร่างเป็นหญิงเมื่อใด พวกปีศาจก็ตามตัวเจอทุกครั้ง แต่พอแต่งเป็นชายกลับไม่ค่อยมี ทำให้เธอต้องอยู่ในสภาพผู้ชายแบบนี้
“ท่านเถอะ...ไม่หิวมั้งเหรอ?”
“หึ ๆ หิวก็หิวอยู่หรอกนะ แต่ก็อยากไปเจอที่ที่ปลอดภัยกว่านี้ เห็นพวกมนุษย์กึ่งเทพที่เราเจอเมื่อหลายวันก่อนบอกมีที่ที่ปลอดภัยสำหรับมนุษย์กึ่งเทพด้วยนี่น่า”
เทพีอลิซ่าเบ็ธพูดกับโพรทาเลียเรื่องที่หลบภัยที่ปลอดภัย ตัวเธอก็มีรูปลักษณ์ใหม่เหมือนกัน เธอแปลงกายเป็นผู้หญิงผมสั้นสีน้ำตาล ดวงตาสีน้ำตาล และใส่เสื้อผ้าสบาย ๆ อย่างเสื้อกล้ามสีฟ้าอ่อน ๆ เสื้อแขนสั้นสีเขียวขี้ม้า และกางเกงขายาวสีดำกับรองเท้าบูต
“ก็จริง...แต่...ข้าไม่สนใจว่าจะมีที่ปลอดภัย ถึงมีมันก็อาจจะไม่ปลอดภัย ไม่รู้ว่าปลอดภัยจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้?”
“โธ่ โพร...” อลิซ่าเบ็ธมองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเวทนากับสิ่งที่เด็กคนนี้ไม่ไว้ใจอะไรในชีวิต
พอเดินออกมาจากป่าก็เจอกับแหล่งที่มีลานสนามหญ้าที่มีผู้คนมากมายมาทำกิจกรรมบางอย่างและรถขายอาหารมากมายเรียงกันเป็นแถว ๆ ทั้งสองมองหน้ากันอย่างรู้ว่าคิดอะไร เทพีกอดคอโพรทาเลียก่อนจะลากเธอไปหาอะไรทาน โพรทาเลียมองอย่างไม่ชอบใจที่โดนลาก แต่ก็ยอมเมื่อได้กลิ่นอาหารที่ทำให้ท้องเธอร้องตลอด พวกเธอสั่งอาหารที่ต้องการกันอย่างสบายใจ ระหว่างที่รออาหารกันก็มีใครบางคนได้ยินสิ่งที่พวกเธอพูดกันเรื่องมนุษย์กึ่งเทพทำให้เขาสนใจพวกเธอขึ้นมา พอได้อาหารกันพวกเธอก็มาหาที่นั่งกินอาหาร เมื่อเจอโต๊ะที่ต้องการแล้วได้นั่งลงโพรทาเลียเห็นอาหารตรงหน้าของเธอแบบไซส์จัมโบ้ เธอกำลังจะหยิบขึ้นมาทานก็มีชายวัย 40 กว่า ๆ มาอยู่นั่งตรงหน้าพวกเธอ พวกเธอมองหน้าเขาอย่างสงสัยก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดกับพวกเธอ
“พวกเธอเป็นมนุษย์กึ่งเทพสินะ?”
เมื่อทั้งสองคนได้ยินแบบนั้น ก็หยิบดาบสั้นออกมาจ่อคออีกฝ่ายทันที ทำเอาเขาตกใจทันที
“เดียว ๆ !! ขอโทษที่ทำให้ตกใจ ฉันเป็นมนุษย์กึ่งเทพเหมือนพวกเธอเหมือนกันนะ” ชายหนุ่มยกมือขึ้น พร้อมกับอธิบายให้ทั้งสองฟัง
“เราจะรู้ได้ไงว่าท่านเป็นพวกเดียวกับเรา!” โพรทาเลียถามขึ้นอย่างไม่ไว้ใจ
ดีที่ไม่มีคนเห็นว่าพวกเธอใช้ดาบกันเท่าไร เพราะพวกเธอออกมาห่างจากโซนขายของและผู้คนเดินผ่านจุดที่พวกเธออยู่
“นี่ไง...” ชายหนุ่มก็แสดงพลังของตัวเองทันที เขาเรียกหลุมดำออกมาทันที
โพรทาเลียมองหลุมนั้นก่อนจะถาม “หลุมดำนั้นอะไร?”
“หลุมไปยังนรกไงล่ะ ฉัน นิโค ดิแองเจโล บุตรแห่งฮาเดส”
“บุตร...แห่งฮาเดส จ้าวแห่งนรกนะเหรอ?” เทพีอลิซ่าเบ็ธพูดขึ้น
“ใช่...” นิโคตอบคำถามของหญิงสาว
เทพีมองอีกฝ่ายก่อนจะวางดาบลงทันที “วางดาบเถอะ...เขาเป็นคนดี...ล่ะมั้ง...”
“น่า ๆ เชื่อฉันเถอะนะ ฉันไม่ทำอะไรพวกเธอหรอกนะ ฉันกำลังหาเด็ก ๆ ที่เป็นมนุษย์กึ่งเทพ แล้วพวกเธอเป็นมนุษย์กึ่งเทพพอดี ฉันเลยแบบ...เข้ามาถามพวกเธอน่านะ”
“ถามได้...น่าอภิรมย์จริง ๆ” สีหน้าของโพรทาเลียไม่พอใจเป็นอย่างมากที่อีกฝ่ายเล่นเข้ามาประชิดตัวโดยไม่ให้พวกเธอรู้ได้
“ไม่เอาน่า ๆ ฉันไม่ได้ตั้งใจให้ตกใจนะไม่นึกว่าจะเจอเด็ก ๆ ที่...ระวังตัวสูงน่านะ” นิโคทำหน้ายิ้มแบบฝืน ๆ
ทั้งสองก็ยังมองอีกฝ่ายแบบไม่ชอบใจอยู่ดี เพราะอีกฝ่ายก็โผล่มาทำให้พวกเธอตกใจกันเป็นอย่างมาก
“ไม่เอาน่า อย่ามองแบบนั้นสิ เอาล่ะ งั้นฉันบอกชื่อตัวเองแล้วว่าชื่ออะไร แล้วพวกเธอล่ะ?”
“พวกเรา?” โพรทาเลียพูดขึ้น “แล้วทำไมพวกข้าต้องบอกท่านล่ะ?”
“ก็เวลาจะพาพวกเจ้าไปยังสถานที่ปลอดภัยจะได้เรียกชื่อถูกไง?”
“สถานที่ปลอดภัย?” โพรทาเลียขมวดคิ้วทันที
“ใช่ พวกเธอรู้จักไหมล่ะ? ค่ายฮาล์ฟบลัดนะ?”
“ค่ายฮาล์ฟบลัด...” ทั้งสองมองหน้ากันทันที ไม่นึกว่าจะเจอคนจะพาไปยังที่ที่พวกเธอกำลังตามหาอยู่พอดี
“พวกเราเคยได้ยินจากพ่อแม่เด็กที่เรารู้จัก พวกเขาบอกว่ามีสถานที่ปลอดภัย แต่เราจะวางใจได้ไงว่าปลอดภัยนะ?”
“นั้น!” นิโคหยิบมีดขึ้นมาก่อนจะ ปาดนิ้วมือเขาแล้วให้ทั้งสองยื่นมือมาลองรับเลือดของเขา “ข้า นิโค ดิแองเจโล ของสาบานว่าสิ่งทุกอย่างที่ข้าพูดเป็นความจริง ถ้าข้าพูดโกหกต่อหน้าเด็กสองคนนี้ ขอให้ข้าโดนฮาเดส บิดาของข้า ลงทัณฑ์!!”
พอนิโคพูดจบก็มีเสียงฟ้าร้องดังขึ้นเหมือนเป็นเครื่องยืนยันว่ารับรู้คำสัญญาของอีกฝ่าย
“เท่านี้เนอะ?”
“อืม...” โพรทาเลียมองอีกฝ่ายก่อนจะยอมเชื่อ “ก็ได้ พวกเราจะเชื่อท่านล่ะ”
“งั้นบอกชื่อพวกเธอหน่อยสิ ฉันจะได้ไปแจ้งคนที่ค่ายด้วยนะ”
“อึ้ก!!”
โพรทาเลียอึ้งเลยว่าจะทำยังไงดี อีกฝ่ายถามชื่อพวกเขา ชื่อเทพียังพอบอกได้ แต่ชื่อเธอเหมาะแก่การบอกคนที่ไม่รู้จักไหม ถ้าอีกฝ่ายรู้จักครอบครัวเธอขึ้นมาล่ะ จะไม่สงสัยหรือไงว่าทำไมเธอชื่อนี้ได้ โพรทาเลียสับสนไปหมดว่าควรทำยังไง จนอลิซ่าเบ็ธมองโพรทาเลียกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก ทำให้เธอมีคำถามอย่างถามชายตรงหน้า
“คือ...ที่นั่นมีใครนามสกุลแจ็กสันหรือไหม?”
“เอ๋? มีสิ! เพื่อนฉันคนหนึ่ง เขาชื่อ เพอร์ซีย์ แจ็กสัน กับครอบครัวเขานะ”
“อ๊ะ...” โพรทาเลียได้ยินถึงกับนิ่งเลยเมื่อได้ยินแบบนั้น อลิซ่าเบ็ธรู้เลยว่าอีกฝ่ายนั้นรู้จักครอบครัวของโพรทาเลีย
“เธอถามทำไมเหรอ?” นิโคสงสัยว่าเด็ก ๆ ถามถึงเพื่อนเขาทำไม
“อ๋อ มีคนเคยบอกเราว่าคนที่มีนามสกุลแจ็กสัน สามารถให้ความช่วยเหลือเราได้นะคะ”
“อ่อ แบบนี้เอง” นิโคเข้าใจทันที “ถึงได้ถามฉันที่เป็นสายเลือดฮาเดสสินะ”
“เจ้าค่ะ” อลิซ่าเบ็ธตอบทันที
“แล้วพวกเธอจะบอกชื่อฉันได้ยัง? หรือว่าพวกเธอไม่ไว้ใจฉันอีกล่ะ?”
“เอ่อ...” อลิซ่าเบ็ธไม่รู้จะพูดอะไรเอย เพราะเธอกลัวจะเสียเรื่องมากกว่า
“วันเดอร์เลอร์...” โพรทาเลียพูดขึ้นทันที
“หือ?” นิโคมองอย่างสงสัยว่าเด็กชายพูดอะไรออกมา
“นี่พี่สาวข้า ลิซ่า วันเดอร์เลอร์” โพรทาเลียแนะนำตัวอลิซ่าเบ็ธให้อีกฝ่ายทันที อลิซ่าเบ็ธมองอย่างงงว่าอีกฝ่ายกำลังจะทำอะไร ก่อนจะเอ่ยพูดชื่อตัวเองมั้ง “แล้วก็ข้าชื่อ คีย์ วันเดอร์เลอร์ ยินดีที่ได้รู้จักขอรับ ท่านนิโค!”
โพรทาเลียคิดอยู่นานว่าจะบอกชื่ออะไรกับอีกฝ่าย จนเธอตัดสินใจแล้วว่าจะบอกชื่อหนึ่งที่อาจจะทำให้พ่อแม่สนใจเธอขึ้นมา ชื่อที่พ่อแม่ตั้งขึ้นเพื่อเป็นรหัสลับของครอบครัวนั้นก็คือ คีย์ วันเดอร์เลอร์
จบตอนที่ 1 โปรดติดตามตอนที่ 2 ต่อไปค่ะ
Comments (0)