11 ตอน ตอนที่ 11 ลอบทำร้าย
โดย YukiCoCo
ตอนที่ 11 ลอบทำร้าย
สถานการณ์ตรงนั้นช่างน่าตึงเครียดเป็นอย่างมาก เมื่อคีย์และโพรทาเลียจ้องมองหน้ากันอย่างไม่ชอบขี้หน้าเป็นที่สุด ยิ่งทำให้คนอื่นที่อยู่ละแวกนั้นต่างพากันไม่กล้ายุ่งกับสองคนนี้เลยสักคน เพราะกลัวโดนลูกหลงมาก เบเดอร์กับเอเดอร์มองไปที่คีย์ที่กำลังจ้องมองหน้าน้องสาวพวกเขาด้วยสีหน้าที่ไม่เคยเห็นทำให้พวกเขาแปลกใจ เพราะอีกฝ่ายนั้นดูเป็นเด็กร่าเริง แต่ในเวลานี้นั้นช่างไม่น่าเข้าไปยุ่งเป็นที่สุด
จนแอนนาเบ็ธที่กำลังรอคีย์กลับมาจากการขนหนังสือไปอีกห้องนั้น เธอรู้สึกว่าเด็กชายหายไปเป็นเวลานานจนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า ก่อนจะเดินออกมาจากห้อง เธอก็ได้ยินเสียงข้างนอกคุยกันอย่างเสียงดัง จนเธอเปิดประตูออกอย่างแผ่วเบาจนเห็นลูกของเธอยืนอยู่ข้างนอก แล้วได้เห็นสถานการณ์ที่ลูกสาวคนโตของเธอนั้นกำลังจ้องเขม็งให้คีย์ ทำให้สงสัยเลยว่าลูกของเธอนั้นจะทำอะไรอีกฝ่ายกัน จนกระทั่งหนึ่งในหกรู้สึกไม่ชอบใจบรรยากาศตรงนี้และเธอไม่ชอบคำพูดของพี่สาวฝาแฝดที่ต่อว่าหนังสือเป็นแค่เศษกระดาษ ทำให้เธอนึกถึงสมัยก่อนที่อยากอ่านหนังสือแต่ก็โดนพี่สาวตะโกนหรือไม่ชอบใจที่เธอทำอะไรก็ตามที เธอมองไปทางคีย์ที่กล้ากับพี่สาวเธอ นั้นทำให้เธอมีความกล้าที่จะต่อกรกับพี่สาวขึ้นมา
“เลิกทะเลาะกันได้แล้ว!!” โฟกัสตะโกนออกมาให้ทั้งสองคนตรงหน้าเธอเลิกทะเลาะกัน
ทั้งสองคนหันไปมองคนที่สั่งให้พวกเธอเลิกทะเลาะกัน สีหน้าของคีย์นิ่งอย่างไม่รู้สึกอะไร แต่สีหน้าของนูอัสกับไม่ชอบใจที่อีกฝ่ายเข้ามาวุ่นวายกับเธอ
“ยุ่งอะไรด้วย!! โฟกัส” นูอัสตะโกนใส่โฟกัสทันที
“ฉันต้องยุ่งสิ!! ถ้าแม่อยู่ที่นี่ แล้วเห็นพี่เป็นแบบนี้ ฉันก็จะไม่ช่วยแก้ตัวให้พี่เด็ดขาดว่าพี่ทำอะไร!!” โฟกัสขมวดคิ้วออกมาทันที
“แก!! เป็นน้องฉัน!! แกต้องช่วยฉัน!! ไม่ใช่เป็นน้องที่ไม่ได้เรื่องจริงๆ!!”
“โพร!!” เบเดอร์กับเอเดอร์ฟังน้องสาวพูดก็ไม่ชอบใจ
สิ้นเสียงของนูอัส ทำให้คนเป็นพี่สาวอย่างโพรทาเลียถึงกับโกรธเคืองที่อีกฝ่ายพูดแบบนั้นกับน้องสาวของเธอ ทำให้เธอกำมือจนเกือบจิกมือจนเลือดไหล
“ถอนคำพูดของเจ้าซะ!!” โพรทาเลียตะโกนออกมาทันที
ทุกคนต่างหันไปมองคีย์ที่ตะโกนออกมาอย่างงุนงงว่าอีกฝ่ายถึงดูโกรธกับคำพูดของโพรทาเลีย โฟกัสจ้องมองอีกฝ่ายอย่างสงสัยกับสีหน้าและท่าทางอีกฝ่ายที่ไม่พอใจคำพูดของพี่สาวเธอ
โพรทาเลียเข้าไปใกล้อีกฝ่ายพร้อมกับจ้องมองอย่างไม่ชอบใจ “ถอนคำพูดที่เจ้าพูดแบบนั้นน้องสาวเจ้า เดี๋ยวนี้!!”
“ทำไมล่ะ!! มันเป็นน้องฉัน ฉันจะพูดอะไรก็ได้นี่!!”
โพรทาเลียได้ยินคำพูดนั้นจนอยากชกหน้าอีกฝ่าย ก่อนจะตะโกนใส่อีกฝ่ายอีกครั้ง
“ถึงเป็นน้องสาวเจ้า มันก็ไม่ใช่...สิ่งที่ควรพูดกับคนที่เป็นน้องสาวเลยสักนิด!! พวกเขาไม่ใช่ขี้ข้าเจ้า!! พวกเขาเป็นพี่น้องเจ้า เป็นพี่น้องที่ออกมาจากแม่คนเดียวกับเจ้า ถึงแม้...”
‘แกจะไม่ใช่ครอบครัวเดียวกับพวกเขา แต่พวกเขาเป็นครอบครัวข้า!!’ โพรทาเลียคิดอยู่ในใจ
นูอัสมองอย่างเหมือนตัวเองได้เปรียบมากกว่า “ถึงแม้อะไรล่ะ? ไม่รู้จะพูดอะไรสินะ แกมันก็ลูกหมาตัวหนึ่งนั้นล่ะ วันเดอร์เลอร์”
โพรทาเลียขมวดคิ้วอย่างโกรธเคือง ถ้าไม่ใช่ว่าอยู่ในค่ายเธอคงซัดหน้าอีกฝ่ายไปแล้ว โพรทาเลียที่กำลังโกรธจัดอยู่นั้น เธอกำหมัดเพื่อจะยกขึ้นมาชกหน้าอีกฝ่าย แต่แล้วก็มีคนคนหนึ่งที่แทรกเข้ามาอยู่ตรงหน้าของเธอ จนเธอเงยหน้ามองบุคคลตรงหน้าที่มาบังเธอไว้ พอได้เห็นชายตรงหน้าที่หันหน้ามามองเธอ โพรทาเลียจับจ้องมองอีกฝ่ายก็เห็นว่าเขามีผมสีดำ ดวงตาสีเขียวมรกตเหมือนเธอ เขายิ้มให้เธอก่อนจะกล่าวคำทักทาย
“ขอบคุณที่ช่วยพี่สาวผมนะ วันเดอร์เลอร์”
“พี่สาว?” โพรทาเลียมองอย่างสงสัยว่าอีกฝ่ายเป็นใครกันแน่
“ผมขอแนะนำตัวนะ ผมมีชื่อว่า มาร์โค แจ็กสัน น้องคนสุดท้องของบ้านแจ็กสัน ยินดีที่ได้รู้จักนะ พี่ชาย”
“อ๊ะ...มาร์โค...น้องคนสุดท้อง...”
โพรทาเลียจับจ้องมองอีกฝ่ายแล้วประมวลผลว่าอีกฝ่ายเป็นใครกันนะ ก่อนจะนึกภาพน้องชายที่แสนน่ารักของเธอได้นั้น ก็ตกใจเลยว่าคนต้องหน้านั้นเป็นน้องชายคนเล็กสุดของเธอจริงเหรอ
‘เดียวนะ!! มาร์โคเหรอ!! ทำไม ทำไม ทำไมตัวสูงแบบนี้ล่ะ!!’
โพรทาเลียถึงกับมึนงงเลยว่าอีกฝ่ายตัวสูงกว่าเธอน่าจะสิบเซนติเมตรได้ ไม่นึกว่าน้องชายเธอจะตัวสูงได้แบบนี้แถมมีหน้าตาคล้ายพ่อและพี่โอราอุสมากๆ แล้วเธอใช้สายตามองพี่สาวอีกสองคนของอีกฝ่าย เด็กสองคนนั้นตัวเล็กกว่าอีกฝ่ายอีก ทำเอาเธอสงสัยเลยว่าครอบครัวเธอนั้นมีแต่คนหล่อ สวย น่ารัก ใช่ไหมเนี่ย ยิ่งจ้องมองน้องชายเขาก็ยิ่งยิ้มให้เธอ ทำให้โพรทาเลียหน้าแดงต่อหน้าน้องชายของตน นูอัสเห็นมาร์โคมาวุ่นวายทำเอาเธอโกรธเป็นอย่างมาก
“แก! มาร์โค! กล้ามาขัดจังหวะของฉันเหรอ!!”
“ห๊า!?” มาร์โคได้ยินแบบนั้นเขาหันหน้าไปหาพี่สาวทันทีพร้อมกับสีหน้าบอกบุญไม่รับ “ก็จริงที่ฉันมาขัดจังหวะของพี่ แต่ฉันมาขัดก็แค่รำคาญกับนิสัยแย่ ๆ ของพี่เท่านั้นล่ะ”
“แกว่าไงนะ!!”
“ฉันไม่พูดเป็นครั้งที่สองหรอกนะ เอาไปคิดเองละกันว่าตัวเองนะ ทำตัวดีแล้วจริงๆ นะเหรอ!!”
“แก!!”
โพรทาเลียเห็นทั้งสองคนทะเลาะกันเลย เธอเลยเดินถอยหลังทันที เพราะกำลังช็อกกับที่เจอมาร์โคที่ตัวสูงกับเธอ แถมนิสัยที่ดูมืดมนหน่อย ๆ อีก น้องชายเธอดูเป็นคนน่ากลัวไปเลยจริง ๆ โพรทาเลียกำลังถอนหายใจอยู่นั้นก็มีสองสาวตัวน้องเข้ามากอดแขนทั้งสองข้างของโพรทาเลีย โพรทาเลียหันไปมองทันทีว่าใครมากอดแขนเธอ พอเธอเห็นคนที่มากอดเธอ เธอก็รู้เลยว่าสองคนนี้เป็นใครกันที่เข้ามากอดแขนเธอ
“หึ ๆ พี่ชายเท่จังนะคะ ช่วยพี่โฟกัสที่โดนพี่โพรทาเลียใช้คำไม่ดีนะคะ”
“จริงด้วยค่ะ พี่ชายเท่มาก ๆ เลยล่ะ”
“ขอบใจนะ...เอ่อ...พวกเจ้าคือ...” โพรทาเลียเห็นทั้งสองก็รู้ว่าใคร แต่ว่าอยากถามออกไปแบบนั้น
“ขอโทษค่ะที่ยังไม่ได้แนะนำตัว” ทั้งสองคนต่างพูดพร้อมกัน ทั้งสองคนต่างปล่อยมือแล้วมาอยู่ตรงหน้าอีกฝ่ายทันที
“หนูชื่อ คารีเซล แจ็กสัน ค่ะ”
“หนูก็ชื่อว่า เรน่า แจ็กสันค่ะ”
“พวกเราเป็นลูกคนที่ 6 กับ 7 ของบ้านแจ็กสันค่ะ แล้วก็เป็นพี่สาวของมาร์โคค่ะ!!” ทั้งสองคนจับมือกันและกันแล้วก็หมุนตัวประกบหลังเข้าหากัน
โพรทาเลียจ้องมองอย่างตะลึง แต่ว่าภายในใจนั้นกลับอิ่มใจกับความน่ารักของน้อง ๆ ทั้งสองของตนเอง
‘อ๊ากกกกกก!! บ้าจริง!! ทั้งสองคือคารีเซลกับเรน่าจริงๆ ด้วย น้องสาวก็น่ารักมากๆ มาร์โคก็อีกคนโตมาทำไมหล่อแบบนี้ ฉันไม่อยู่ตั้งเกือบ 9 กว่าปี ทำไมทุกคนถึงเปลี่ยนกันไปเยอะแบบนี้!! แต่ว่า...’ โพรทาเลียคิด
โพรทาเลียจ้องมองเด็กทั้งสองด้วยสายตาที่นิ่งเฉยไปสักระยะ แล้วเธอก็ก้มหน้าตัวสั่นอยู่สักระยะ ทำเอาเด็กทั้งสองคนจ้องมองอย่างสงสัยว่าอีกฝ่ายนั้นจ้องมองอะไร ก่อนจะถามอีกฝ่ายด้วยความเป็นห่วงว่าเป็นอะไรหรือเปล่าถึงได้ตัวสั่นแบบนั้น
“พี่ชายสั่นทำไมเหรอคะ?” คารีเซลถามเข้าไปจับแขนเสื้ออีกฝ่ายอย่างเป็นห่วง
“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ? พี่ชาย”
“ไม่เป็นไรหรอก...ข้าก็แค่...” โพรทาเลียพุ่งเข้าไปกอดเด็กทั้งสองในทันใด “งือออออ!! ทำไม...ทำไม...พวกเจ้าทั้งสองถึงน่ารักแบบนี้กัน!!”
“เอ๊ะ!!” ทั้งสองคนนั้นตกใจที่อีกฝ่ายเข้ามากอดตนเอง
ความน่ารักของเด็กทั้งสองทำให้เธอชอบใจมาก ตั้งแต่เด็ก ๆ เธอรักน้องมาก ๆ เพราะน้องน่ารักมาก ๆ สำหรับเธอ แล้วยิ่งน้อง ๆ ตอนนี้ตัวเล็กไซซ์เล็กแบบนี้กอดอุ้มได้สบายมาก ๆ ระหว่างที่เธอกอดนั้น โฟกัสก็เข้ามาดันตัวคีย์ออกจากน้องสาวทั้งสองของเธอในทันใด
“วันเดอร์เลอร์ออกจากน้องฉันเดี๋ยวนี้นะ!!”
“อ๊ะ!” โพรทาเลียโดนดันออกก็รู้สึกเศร้าหน่อย ๆ ที่น้องสาวเขามาขวางแบบนี้ แต่ก็ต้องทำหน้าขอโทษน้องสาว “ทะ...โทษทีๆ น้องของเจ้าน่ารักนี่น่า”
“ฉันรู้ว่าน้องฉันน่ารัก แต่ว่านาย...” สายตาของโฟกัสจ้องมองอีกฝ่ายอย่างไม่ชอบใจขึ้นมา “ชอบเด็กเหรอ!?”
“อ๊ะ...ก็ไม่เชิงน่านะ...เมื่อก่อนข้าเคยเลี้ยงเด็กเลยชอบเด็กๆ น่านะ...เลยแบบคิดว่าเป็นน้องของตัวเองอะไรแบบนั้นล่ะนะ เลยพอเห็นเด็ก ๆ น่ารักอย่างน้องเจ้าที่ตัวเล็กแบบนี้ เลยเผลอกอดเด็กน้อยทั้งสองนะ”
โพรทาเลียอธิบายอย่างยิ้มแย้ม แต่สายตาของน้องสาวมันเหมือนข่มขู่เธอสุด ๆ ทำเอาเธอรู้สึกว่าไม่น่าพูดแบบนั้นเลยแฮะ ก่อนที่มาร์โคจะเอ่ยพูดบางอย่างขึ้นมา
“แล้วไม่ชอบน้องที่ตัวสูงเหรอครับ?” มาร์โคโผล่หน้ามาด้านข้างอีกฝ่ายในทันที
“เย้ย!!” โพรทาเลียเห็นว่าอีกฝ่ายเข้ามาด้านข้างทำเอาเธอสะดุ้งตกใจทันที “อะไรของเจ้ากัน...เอ่อ...แจ็กสันน้อย...”
“มาร์โค!! ผมชื่อ มาร์โค ช่วยเรียกชื่อนั้นด้วย แล้วก็ที่ผมถามไม่ชอบน้องตัวสูงหรือครับ?”
“เอ่อ...ก็ชอบนะ...แต่...ไม่รู้สิมันดูแปลก ๆ ...ทำไมเจ้าถามข้าแบบนี้กัน”
“ก็แค่สงสัยนะ!!” มาร์โคหันหน้าไปทางอื่นด้วยสีหน้านิ่งเฉย “แต่นะ พี่ชายนะ ทำให้พี่ ๆ ของผม มองพี่แบบเป็นคนโรคจิตชอบเด็กแล้วนะ”
“เอ๊ะ!!” โพรทาเลียหันไปทางพวกโฟกัสทันที พวกเขาจ้องเธอแบบแปลก ๆ ทันที “เดียวสิ!! ข้าไม่ใช่คนโรคจิตนะ!!”
สองแฝดชายรีบพุ่งตัวเขามาแซวคีย์กันในทันใด ว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นโรคจิตชอบเด็ก แต่ตัวคีย์ก็ปฏิเสธทันทีว่าตนเองไม่ได้เป็นแบบที่พวกเขาแซวกัน พวกคารีเซลเห็นท่าทางของคีย์ก็ขำกันเล็กน้อยพวกเธอเข้าใจแล้วว่าอีกฝ่ายไม่ใช่โรคจิต แต่ไม่รู้ทำไมตอนที่อีกฝ่ายกอดพวกเธอทั้งสองคนมันช่างรู้สึกดีและอบอุ่นมาก ๆ จนอยากให้กอดอีก ระหว่างที่พวกเขาสนุกกันโดยไม่สนใจหนึ่งในนั้น มันก็ทำให้รู้สึกไม่พอใจที่คีย์มาทำให้ครอบครัวแจ็กสันมีความสุขแบบนี้ แอนนาเบ็ธแอบฟังไปก็ขำไปกับการแซวของเด็ก ๆ แต่เธอก็กลัวว่าคีย์จะเจอเรื่องลำบากอีกแน่ ๆ เธอเลยเปิดประตูออกมาในทันใด
“เด็ก ๆ จ้ะ” แอนนาเบ็ธหันไปมองเด็ก ๆ ที่จับกลุ่มอยู่
“คุณนายแจ็กสัน?” โพรทาเลียหันไปมองแม่ที่เดินออกมา เธอกำลังโดนเอเดอร์กอดคออยู่
“แม่ค่ะ/แม่ครับ!” พี่น้องทั้ง 6 คนต่างหันไปทางแม่ของพวกเขาทันที
“มากันแล้วสินะ แม่รออยู่เลยนะ วันเดอร์เลอร์ก็ยกหนังสือที่เอาออกมาเมื่อกี้ไปเก็บอีกห้องเลยนะจ๊ะ”
“ขอรับ”
โพรทาเลียรับคำสั่ง เธอดันแขนเอเดอร์ออกจากคอของเธอ ก่อนจะเดินไปยกกองหนังสือที่วางไว้ข้าง ๆ ประตูห้องที่กำลังค้นของอยู่ นำไปเก็บห้องวางข้าง ๆ ทุกคนต่างมองคีย์ที่ยกของไปแล้วนั้น คารีเซลก็เดินไปหาคนเป็นแม่แล้วกอดในทันใด
“แม่อยากให้พวกเราเก็บเอกสารพวกนั้นสินะคะ”
“จ้ะ ช่วยหน่อยนะ”
“ได้เลยค่ะ” คารีเซลตอบรับทันที
“หนูจะช่วยด้วยค่ะ!” เรน่าพูดขึ้นทันที
“พวกหนูต้องทำยังไงก่อนเหรอคะ?” คารีเซลถามทันที
“ลูก ๆ ไปถามคีย์ละกัน เดียวแม่จะไปหาพ่อเขาหน่อยนะ”
“ค่าาาาาาาาาาาาาาาา” คารีเซลกับเรน่ารับปากทันที ก่อนจะรีบวิ่งไปคีย์ทันที “พี่ชายยยยยยยยยยยยมีอะไรให้พวกหนูช่วยไหมคะ!!”
โพรทาเลียได้ยินเสียงน้อง ๆ เรียกเธอเลยหันไปมองทั้งสองคนตัวน้อยมองมาที่เธอทันที
“อ๊ะ...แหะ ๆ งั้นมาช่วยกันยกเอกสารและหนังสือมาห้องนี้ละกันนะ” โพรทาเลียอธิบายสิ่งที่เด็ก ๆ ต้องช่วยเขาทำอะไรบางอย่าง
“ค่าาาาาาาาาาาาาาาา” ทั้งสองขานตอบรับในทันใด
พอลูกสองคนไปหาคีย์แล้ว แอนนาเบ็ธก็หันมามองลูกที่เหลือต่อ เธอก็หันไปหาสองแฝด
“งั้นแม่ฝากเบเดอร์กับเอเดอร์ดูแลน้อง ๆ หน่อยนะ”
“ครับผม” เอเดอร์ขานรับทันที
“พวกเราจะดูแลน้อง ๆ ให้ครับ” เบเดอร์ก็รับคำจากแม่ของเขา
ทั้งสองคนเป็นพี่ชายที่อายุมากกว่าเลยต้องเป็นผู้ใหญ่ดูแลน้อง ๆ แทน
“จริงสิ โพรทาเลียลูกห้ามหนีนะ ลูกยังโดนกักบริเวณอยู่คงจำได้นะ”
“หึ! ไม่ลืมอยู่แล้วล่ะ!”
แอนนาเบ็ธขมวดคิ้วก่อนจะเดินออกไป โพรทาเลียมองอีกฝ่ายที่ตอบแม่ของเธอ โดยไม่มีคำว่าค่ะเลยสักนิด มันน่าหงุดหงิดสำหรับเธอจริง ๆ
“งั้นพวกเราไปเก็บของกันดีกว่านะ คารีเซล เรน่า” โพรทาเลียชวนทั้งสองคนไปทำงานทันที
“ค่ะ!!”
โพรทาเลียนำทางพาน้องทั้งสองของเธอ เดินเข้าไปข้างในห้องเอกสารทันที พวกเบเดอร์ก็ตามเข้าไปด้วย ยกเว้นนูอัสที่กำหมัดแน่นมาก ๆ เพราะกำลังเก็บความอารมณ์ไม่พอใจในตัวคีย์ พวกพี่น้องบ้านแจ็กสันก็ช่วยคีย์ตามที่อีกฝ่ายแนะนำ พวกเขาก็ทำตามจนขนพวกเอกสารและหนังสือออกไปหมด พวกเขาก็เตรียมทำความสะอาดต่อ นำสิ่งของทุกอย่างออกไปข้างนอกห้อง โพรทาเลียก็จัดแจงออกคำสั่งให้ทุกคนทำตาม แล้วก็อธิบายเกี่ยวกับการจัดห้องเอกสารใหม่ พวกเบเดอร์เห็นอีกฝ่ายเขียนอธิบายก็เข้าใจมาก ๆ พอเข้าใจแล้ว พวกเขาก็ไปทำหน้าที่ทำความสะอาดในห้องนี้ทันที แต่ก็มีใครบางคนที่ไม่ยอมทำนั้นก็คือ นูอัสที่เอาแต่นั่งอยู่กับพื้นอย่างเดียว ทำเอาพวกพี่ ๆ ทั้งสองก็เข้าไปติว่าแล้วสั่งให้อีกฝ่ายทำงานเหมือนคนอื่น ๆ โพรทาเลียจ้องมองอีกฝ่ายโดนพี่ ๆ ว่า เธอไม่สนใจหรอกนะว่าอีกฝ่ายนั้นจะทำหรือไม่ทำ เพราะยังไงเธอก็มีพวกพี่น้องมาช่วยอยู่ดี ระหว่างที่ทุกคนเช็ดทำความสะอาดตรงจุดอื่น ๆ นั้น โพรทาเลียก็ไปยกบันไดมาเพื่อเช็ดบนเพดานห้องที่ทั้งฝุ่นดำและมีใยแมงมุมเต็มไปหมด เธอทำงานโดยไม่สนใจตัวเองจะตกลงมาบางคนตรงนั้นก็มองอย่างเป็นห่วงมาก ๆ ที่อีกฝ่ายไม่จับบันได แต่แล้วบางคนก็คิดที่จะแก้แค้นคือเจ้าคนที่ทำให้เธอไม่สบอารมณ์สุด ๆ
ทางประตูทางเข้าบ้านใหญ่เปิดค่อย ๆ เปิดออกเผยให้เห็นที่ชายหนุ่มผมทองอ่อน ๆ นั้นก็คือ ฟีนีอุส กำลังเดินเข้ามาข้างในบ้านใหญ่ เขานั้นกำลังนำเอกสารรายงานเรื่องที่เข้าออกไปข้างนอกเมื่อหลายเดือนก่อนมารายงานให้คุณแจ็กสัน เขาเดินไปที่ห้องทำงานของคุณแจ็กสัน แต่ว่าไม่เจออีกฝ่ายเลยทำให้สงสัยว่าเขาอยู่ไหน เลยลองเดินหาใครสักคนที่อยู่ที่นี่ ระหว่างที่เดินอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยของคนหลายคนที่อยู่ภายในห้องห้องหนึ่ง เขาเลยลองเดินเข้าไปใกล้ ๆ ห้องนั้น ก็เห็นว่าห้องนี้คือห้องเอกสารที่มีตั้งแต่เอกสารและหนังสือเต็มไปหมด เขาลองเปิดประตูเข้าไปดูก็เห็นพวกบ้านแจ็กสันอยู่ข้างใน
“นี่พวกนายนะ ทำความสะอาดให้มันดี ๆ หน่อยสิ” เบเดอร์ออกคำสั่งน้อง ๆ ของตนเอง
“พี่ต่างหากที่ไม่ทำความสะอาดต่อนะ!! พวกหนูต้องมาทำต่อให้นะ” คารีเซลจ้องมองหาพี่ชาย
“เห้ย!! ว่าพี่ว่าทำไม่ความสะอาดเหรอ!?”
“ใช่!!”
ฟีนีอุสได้ฟังเสียงพวกบ้านแจ็กสันคุยกันก็ส่ายหัวอย่างขบขันที่พวกนี้ทะเลาะกันได้ตลอด แต่ก็สมกับเป็นบ้านแจ็กสันถึงทะเลาะกันก็ยังรักกันอยู่ดี แต่เขาก็ค่อย ๆ เข้าไปอยู่ข้างในช้า ๆ แล้วลองพูดให้พวกนั้นได้ยิน
“เอ่อ...มีใครเห็นคุณแจ็กสันไหม?”
แต่น้ำเสียงของเขานั้นเบาไปนิด เลยไม่มีคนสนใจเท่าไร เขาเห็นทุกคนกำลังสนใจการทำความสะอาดอยู่ เขามองรอบ ๆ ก็หันไปเจอคีย์ที่กำลังทำความสะอาดเพดานอยู่ เขาเห็นอีกฝ่ายก็ยิ้มออกมาในทันใด แต่แล้วเขาก็ต้องขมวดคิ้วอย่างสงสัยนั้นก็คือ โพรทาเลียหยิบถังน้ำขึ้นมายกแล้วเดินมาแถว ๆ ที่โพรทาเลีย ตอนนี้คีย์อยู่กลางห้องเลยเห็นเด่นชัดว่าจะเกิดอะไรขึ้น นั้นทำให้ฟีนีอุสเห็นว่าโพรทาเลียกำลังจะทำอะไรคีย์ เธอเดินผ่านไปหาคีย์ก่อนจะแอบเตะขาบันไดสุดแรงจนมันสั่นสะเทือนในทันใด
“คีย์!! ระวัง!!” ฟีนีอุสรีบวิ่งพุ่งตรงไปหาอีกฝ่ายในทันใด
โพรทาเลียได้ยินคำเตือนบันไดก็สั่นสะเทือนแล้วกำลังเซล้มไปด้านหลัง ทำให้ตัวของเธอกำลังหงายไปข้างหลัง
“ไม่นะ!!”
ดวงตาของโพรทาเลียเบิกกว้างเลยที่เห็นว่าตัวเองกำลังจะตกจากบันได ทุกคนที่ได้ยินเสียงฟีนีอุสเตือนอะไรขึ้นมา พวกเขาก็หันไปมองกันทันทีก็เห็นว่าอีกฝ่ายนั้นกำลังตกลงก่อนจะมีเสียงโครมพร้อมกับฝุ่นควันจากถุงที่โพรทาเลียเก็บไว้ข้างเอวของตนเอง
“คีย์!!!” เบเดอร์เอ่ยเรียกอีกฝ่ายก่อนจะวิ่งไปดู
“พี่ชายค่ะ!!” สองแฝดตกใจที่คีย์ตกลงมาจากบันไดจริง ๆ
พวกเบเดอร์รีบเข้าไปดูก่อนจะปัดฝุ่นควันพวกนั้นออกไปจากบริเวณนั้นจนหมด ก่อนจะเห็นภาพตรงหน้านั้นก็คือคีย์อยู่ในอ้อมกอดของชายคนหนึ่งที่มาช่วยไว้ แล้วอยู่ในท่าเหมือนไถลพื้นเข้ามารับในทันใด พวกเขาต่างงุนงงเลยว่าอีกฝ่ายนั้นมาอยู่ตรงนี้ได้ไง
“พี่ฟีนีอุส นาย...”
ฟีนีอุสค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมายกมือทักทายทุกคนที่กำลังจ้องมองเขาอยู่ “ไงพวก!”
เสียงอีกฝ่ายทำให้โพรทาเลียที่หลับตาปี๋อยู่ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา เพราะได้ยินเสียงที่คุ้นเคย แล้วเธอรู้สึกว่าตัวเองไม่เจ็บอะไรเลยแต่ตรงหน้าของเธอนั้นเหมือนเสื้อผ้าสีส้มคล้าย ๆ ของเธอ เธอเลยลองจิ้ม ๆ ดูก่อนจะมีเสียงนั้นดังขึ้นอีก
“จิ้มแบบนั้นฉันจั๊กจี้นะ”
“อ๊ะ!?” โพรทาเลียเงยหน้าช้า ๆ ก็เห็นใบหน้าของชายหนุ่มสุดหล่อจนตกใจ “อ๊าก!! เกรซ!!”
ฟีนีอุสจ้องมองอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม “คิก ๆ ไง คีย์ รู้สึกว่าเราสองคนเจอกันทีไร ฉันจะต้องช่วยนายตลอดเลยนะ”
“อึ้ก!!” โพรทาเลียถึงกับหันหน้าหนีด้วยความเขินอาย ก่อนจะเอ่ยขอบคุณอีกฝ่าย “ขอบ...ขอบคุณ...ที่ช่วย...เกรซ”
“อืมมมม พอนายเรียกว่าเกรซแล้วมันดูห่างเหินยังไงชอบกลแฮะ? ฉันว่านายเรียกฉันว่าฟีนีอุสน่าจะดีกว่านะ!” ฟีนีอุสกอดอีกฝ่ายไว้แน่นขึ้นพร้อมกับยื่นใบหน้าของตนเข้าใกล้อีกฝ่ายมากขึ้น
“อ๊ะ!!” โพรทาเลียหันกลับไปจนใบหน้าของอีกฝ่ายใกล้ใบหน้าเธอมาก ๆ ตอนนี้หัวใจนั้นเต้นตึกตักอย่างรุนแรงจนใบหน้าเธอแดงก่ำขึ้นเรื่อย ๆ “ไว้ครั้งหน้าละกัน!! แล้วก็เอาหน้าของเจ้าออกไปเลย!!”
โพรทาเลียใช้มือของเธอดันใบหน้าอีกฝ่ายออกห่าง ๆ จากเธอในทันใด
“อ๊ะ!! อะไรล่ะ? ฉันจะรอนายเรียกชื่อฉันละกันนะ คีย์” ฟีนีอุสยิ้มอย่างชอบใจแต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยอีกฝ่าย
โพรทาเลียทำหน้าต่างขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจที่อีกฝ่ายทำให้เธอรู้สึกแปลก ๆ ตลอดเวลาใจของเธอเต้นตึกตักอย่างเร็วแถมอีกฝ่ายนั้นเป็นคนเดียวที่ทำให้เธอรู้สึกแบบนี้ เธอพึ่งรู้จักอีกฝ่ายเอง เธอสงสัยขึ้นมาเลยว่าความรู้สึกนี้มันคืออะไร ระหว่างที่เธอนั้นตกอยู่ในห้วงแห่งความคิดนั้น ก็มีเสียงฝีเท้าเร่งรีบเดินตรงมาทางห้องเอกสาร แล้วประตูก็เปิดออกทุกคนก็หันไปมองก็เห็นคนที่พวกเขาไม่อยากเจอจริง ๆ นั้นก็คือ เพอร์ซีย์กับแอนนาเบ็ธ พ่อแม่ของเด็ก ๆ แจ็กสัน ทั้งสองเข้ามาด้วยสีหน้าแตกตื่นหลังจากได้ยินเสียงดังโครมดังไปทั้งบ้านใหญ่
“เกิดอะไรขึ้นกันนะ!?” เพอร์ซีย์ตะโกนออกมาทันที
“เด็ก ๆ ไม่มีใครเป็นอะไรนะ?” แอนนาเบ็ธมาหาลูก ๆ ด้วยความเป็นห่วงทันที
“ไม่มีใครบาดเจ็บครับ...แม่ พ่อ” เบเดอร์เข้ามาพูดทันที
“แล้วเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นนะ?” เพอร์ซีย์ถามย้ำอีกครั้งอย่างสงสัย
โพรทาเลียได้ยินคำถามของพ่ออีกครั้งเธอรีบลุกออกจากอ้อมกอดของฟีนีอุสในทันที ก่อนจะลุกมามองพ่อของเธอในทันที
“ขอโทษขอรับ คุณแจ็กสัน...” โพรทาเลียโค้งขอโทษทันที โดยที่ไม่รู้เลยว่าตัวเองนั้นตกจากบันไดไง “เพราะข้าไม่ระวังตัวเอง เลยตกลงมาจากบันไดนะขอรับ”
“คีย์ แต่ว่า…” ฟีนีอุสรีบลุกขึ้นพร้อมกับกำลังจะจะพูดบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องเมื่อกี้ เพราะเขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับอีกฝ่ายกันแน่
“ช่างเถอะ!!” เพอร์ซีย์พูดขึ้นทันที
“อ๊ะ...” ฟีนีอุสมองคุณเพอร์ซีย์ที่ไม่สนใจอะไรเลยเหรอ
“ถือว่าไม่เป็นไรก็พอแล้วล่ะ” เพอร์ซีย์มองคีย์ด้วยสายตาเยือกเย็น
พอสายตาของเพอร์ซีย์เปลี่ยนไปนั้น ฟีนีอุสก็ต้องมองอย่างระแวงว่าคีย์จะโดนอีกฝ่ายทำอะไรหรือเปล่า ก่อนที่แอนนาเบ็ธจะเอ่ยขึ้นมาในทันใด
“ก็จริงนะ เธอไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วล่ะนะจ๊ะ วันเดอร์เลอร์” แอนนาเบ็ธเข้ามาหาคีย์ แล้วยกมือขึ้นจับใบหน้าเด็กน้อยก่อนจะตรวจร่างกาย “ไม่เจ็บตรงไหนนะจ๊ะ?”
“ไม่ขอรับ” โพรทาเลียส่ายหน้าเบา ๆ
“ครั้งหน้าก็ระวังละกันนะ วันเดอร์เลอร์” เพอร์ซีย์เข้ามาหาคีย์ใกล้ ๆ
“ขอรับ” โพรทาเลียยิ้มให้อีกฝ่าย
เพอร์ซีย์เห็นเด็กหนุ่มยิ้มให้เขา ทำให้เขานึกถึงรอยยิ้มของโพรทาเลียตอนเด็ก เขาหันหน้าไปทางอื่นก่อนจะหันหลังกลับทันที
“ฉันไปล่ะ ต้องไปทำงานต่ออีก แอนนาเบ็ธ ฝากดูแลต่อด้วยนะ”
“อืม ฉันจะดูและต่อเองจ๊ะ” แอนนาเบ็ธตอบรับคำสั่งของสามีก่อนจะมองเด็ก ๆ ต่อ
โพรทาเลียมองพ่อที่เดินออกไป เธออยากให้เขาลูบหัวเธอเบา ๆ เพื่อปลอบใจเธอที่เกือบตกลงมาตาย แต่เธอก็ลืมไปว่าตัวเองนั้นไม่มีวันตาย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นสมัยก่อนเธอก็ไม่รู้ว่าออกมาจากข้างนอกนี้เธอจะยังเป็นแบบนั้นอยู่ไป ระหว่างที่คิดเธอก็ลืมว่าเธอกับพ่อนั้นเป็นเหมือนคนไม่รู้จักกันมาก่อนแถมเธอนั้นยังเป็นแค่เด็กใหม่ของค่ายด้วย สีหน้าของโพรทาเลียดูเศร้าสร้อยเล็กน้อย ทำให้ฟีนีอุสเดินเข้ามาใกล้ ๆ เธอพร้อมกับถามด้วยความเป็นห่วง
“นายไม่เป็นไรนะ? คีย์” เขาจ้องมองอีกฝ่ายด้วยความห่วงดีที่คุณแจ็กสันไม่กล่าวโทษอีกฝ่ายว่าก่อเรื่องจนทำให้เกิดอันตรายต่อคนรอบข้าง
“ข้าไม่เป็นไรทั้งนั้นล่ะ ฟีนีอุสไม่ต้องมาห่วงข้าก็ได้!!” โพรทาเลียหันไปมองอีกฝ่ายแล้วพูดออกไปโดยลืมนึกไปว่าเผลอเรียกชื่ออีกฝ่ายซะแล้ว “อ๊ะ!!”
“หึ ๆ ดีจัง นายเรียกชื่อฉันแล้วสินะ คีย์” ฟีนีอุสยิ้มให้จนใบหน้าของอีกฝ่ายแดงจนเขาสังเกตได้ตลอด
“ไม่ต้องมาวุ่นวายกับข้าเลยนะ!!” โพรทาเลียตะโกนใส่อีกฝ่าย
ก่อนที่นูอัสที่อยู่แถวนั้นรีบเดินเข้ามาขวางทันที “นี่!! วันเดอร์เลอร์! อย่ามาส่งสายตาหวานให้แฟนคนอื่นได้ไหม?”
“แฟนคนอื่น?” โพรทาเลียมองอย่างงุนงงว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร
“นี่ พอสักที แจ็กสัน!!” ฟีนีอุสตะโกนขึ้นมาอย่างไม่พอใจสุด ๆ
“ห๊า!! นี่พี่พูดห่างเหินกับฉันเหรอ?!!” นูอัสหันไปถามฟีนีอุสที่เรียกเธอแบบนั้นแล้วยังขึ้นเสียงใส่อีก
“เราเลิกคบมานานแล้วนะ เธอน่าจะเข้าใจว่าเราไม่ได้เกี่ยวข้องกันแล้วนะ อย่ามาขวางทางฉันกับคีย์ได้ไหม!? แล้วก็อีกอย่างคีย์ไม่เคยมีนิสัยหว่านเสน่ห์ใส่ใครเหมือนเธอ!! อย่าเอาคนอื่นไปเปรียบกับเธอดีกว่านะ!!”
“...”
สีหน้าของนูอัสสั่นกลัวไปหมด เพราะใบหน้าของฟีนีอุสตอนนี้ดูโกรธเคืองที่อีกฝ่ายเข้ามาขัดขวางเขา ระหว่างที่ทั้งสองคนนั้นเถียงกันนั้น โพรทาเลียจ้องมองการทะเลาะนี้อย่างเหนื่อยใจที่เห็นทั้งสองคนทะเลาะกัน แต่เธอนึกย้อนไปว่านูอัสบอกว่าฟีนีอุสเป็นแฟนของตน คำว่าแฟนหมายถึงคนรักของโลกมนุษย์ โพรทาเลียไม่เข้าใจคำของพวกมนุษย์ทั่วไปเท่าไร คงต้องศึกษาบางคำเรื่อย ๆ นั่นล่ะ แต่แอบสงสารฟีนีอุสที่คบหากับนูอัส แต่ดีที่อีกฝ่ายนั้นเหมือนจะเลิกกับอีกฝ่ายแล้ว โพรทาเลียหันไปทางบันไดที่เธอตกลงมานั้น เธอก็เห็นพวกสามแฝดกำลังตรวจสอบบางอย่างเกี่ยวกับบันได เธอเลยเดินไปหาพวกเขาทั้งสองอย่างสงสัยว่าทำอะไรกัน
“ทำอะไรกัน?”
เด็ก ๆ ทั้งสามหันมองมาคีย์ที่ถามพวกตน ก่อนที่สองสาวจะเรียกคีย์ในทันใด
“พี่ชาย!!” สองสาวเขามากอดแขนเธอทันที “พวกเรากำลังดูนะคะว่าอะไรทำให้บันไดมันงอนะ!!”
“งอเหรอ?” โพรทาเลียยกคิ้วอย่างสงสัย แต่เสียงน้อง ๆ ประสานกันนั้นช่างน่ารักมากจริง ๆ
“ใช่ครับ!!” มาร์โคลุกขึ้นแล้วมายืนอยู่ตรงหน้าของโพรทาเลียก่อนจะพูดต่อ “ตรงขาบันไดมันมีรอยงออยู่ เหมือนว่ามันโดนอะไรบางอย่างเช่น การเตะที่รุนแรงมาก จนมันงอเข้าข้างในแล้วทำให้พี่ล้มไปด้านหลังนะครับ”
โพรทาเลียสงสัยเลยเดินมาดูใกล้ ๆ “จริงด้วย...นี่มัน...งอแบบแปลก ๆ เหมือนคนเตะเลยนะ”
“ใช่ไหมล่ะ!? มันเลยน่าแปลกที่ว่ามันงอได้ไงนะ!!” มาร์โคเหมือนพูดเน้นเสียงดัง ๆ ให้ใครบางคนได้ยิน
“มันก็ต้องมีเหตุผลนั้นล่ะ” ฟีนีอุสพูดขึ้นเขาเดินออกมาจากการทะเลาะกับนูอัส แล้วเดินมาหาพวกเขาทันที "ว่า...ทำไม ถึง ได้ งอ นะ!!"
เขาพูดจบแล้วมายืนตรงหน้าคีย์แล้วหางตาของเขาหันไปมองโพรทาเลีย เพราะว่าเมื่อกี้เขาเห็นเหตุการณ์เมื่อกี้เลยรู้ว่าใครทำอะไร
โพรทาเลียมองสายตาอีกฝ่ายก็รู้ทันที ก่อนจะลองถามอีกฝ่าย “เอ่อ...สนทนากันจบแล้วเหรอ?”
“ยังนะ แต่ฉันรำคาญเธอนะ!! เลยเดินหนีออกมานะ” ฟีนีอุสพูดออกมาด้วยสีหน้าหงุดหงิด
“จริงของพี่ฟีนีอุส พี่สาวฉันคนนี้!! โคตรน่ารำคาญ!! พี่วันเดอร์เลอร์” มาร์โคเน้นคำว่าพี่สาวฉันคนนี้ให้ใครบางคนรับรู้บางอย่าง
“เหอะ ๆ งั้นเหรอ” โพรทาเลียหัวเราะเหอะ ๆ ออกไป แต่เธอรู้สึกแปลก ๆ กับคำพูดของมาร์โคชอบกล
คำพูดของพวกนั้นทำให้นูอัสเคืองใจที่โดนนินทา เมื่อกี้เธอก็โดนชายที่ตนเองหลอกให้รักเมินไปแล้ว แล้วยิ่งเจอตัวปัญหาอย่างคีย์เข้ามาวุ่นวายในค่าย ทำให้เธอกำหมัดอย่างไม่พอใจมาก ๆ แผนของเธออุตส่าห์กำลังไปด้วยดีแท้ ๆ แต่อีกฝ่ายเข้ามาใครค่ายก็ทำพังหมด ยิ่งแผนที่จะแก้แค้นคีย์นั้น ถ้าไม่มีฟีนีอุส ป่านนี้เธอคงได้เห็นคีย์บาดเจ็บจนตายแล้วก็ได้ แบบนั้นคงทำให้นูอัสสะใจสุด ๆ แต่ก็ผิดแผนไปหมดจนเจ็บใจสุด ๆ
หลังจากฟังทั้งสองคนคุยกันนั้น โพรทาเลียก็รู้ว่าคนที่จะทำให้เธอบาดเจ็บนั้นคือนูอัส ช่างหาเรื่องเธอได้ตลอดเวลาจริง ๆ นึกว่าเกือบตายซะแล้ว แต่ว่าเธอชักสงสัยว่าฟีนีอุสเริ่มไม่ชอบนูอัสเพราะอะไร แต่คำพูดเมื่อกี้ตอนที่อีกฝ่ายทะเลาะกับนูอัส คงทำให้เขาเสียใจที่อีกฝ่ายโปรยเสน่ห์ให้ชายอื่นจนเขาหึงแน่ ๆ แต่ถ้าเป็นเธอชายหล่อแบบนี้เธอไม่หนีไปหาชายอื่นแน่ ๆ ระหว่างที่เธอมองเขาอยู่นั้น ฟีนีอุสก็เห็นสายตาของอีกฝ่ายจ้องมาทางเขา ทำเอาเขาหลงใหลสายตานั้นแล้วค่อย ๆ ยื่นมือไปจับมืออีกฝ่าย ทำเอาโพรทาเลียสะดุ้งในทัน
“อ๊ะ!! นาย!!” โพรทาเลียมองมือตัวเองที่อีกฝ่ายเข้ามาจับ
ฟีนีอุสเข้าไปใกล้ๆ พร้อมกับกระซิบบางอย่าง “ครั้งหน้ามีใครมาทำร้ายนายอีก บอกฉันนะ ฉันจะไปช่วยทันที”
“อ๊ะ...ขอบคุณนะ...ข้า...”
โพรทาเลียยิ่งรู้สึกร้อนข้างในทันที ใบหน้าแดงก่ำด้วยอาการเขินอายมาก ๆ เธอดีใจหรอกนะที่อีกฝ่ายหวังดีกับเธอ แต่ทำไมอีกฝ่ายถึงเข้าใกล้เธอตลอดจริง ๆ แล้วก็มืออีกฝ่ายนั้นยังจับไม่ปล่อยอีก แต่แล้วก็มีคนดึงเธอเข้าหาตัวทำให้โพรทาเลียสงสัยว่าใครดึงเธอจนเธอค่อย ๆ เงยหน้ามองหน้าก็คือมาร์โคนั้นเอง แต่สีหน้าของมาร์โคนั้นดูนิ่งแต่ขมวดคิ้วด้วยความเคืองใจใส่ฟีนีอุสอีก ทำให้เธอสงสัยว่าอีกฝ่ายเป็นอะไร
“มาร์โค!?” โพรทาเลียเอ่ยเรียกอีกฝ่าย
“ขอโทษนะ...พี่ฟีนีอุส แต่ว่า...คนนี้ผมจอง!!”
มาร์โคพูดแบบนั้นออกไปก็ทำให้ทั้งสองคนที่อยู่ตรงนั้นตกใจในทันใด
“เอ๋!?”
ทุกคนต่างอ้ำอึ้งไปเลยว่าอีกฝ่ายนั้นพูดอะไร คนเป็นแม่ที่ยังอยู่ตรงนั้นก็ตกใจที่ลูกชายพูดแบบนั้นออกมา แต่คนที่ตกใจกว่าคือ โพรทาเลีย เธออึ้งไปเลยที่น้องชายพูดแบบนั้นออกมา โดยที่จริงนั้นเธอคือพี่สาวอีกฝ่ายนะ ฟีนีอุสได้ยินก็หัวเราะในลำคอก่อนจะหัวเราะออกมาดัง ๆ เขาเสยผมที่ปิดหน้าทำให้เห็นใบหน้าชัด ๆ ของเขา โพรทาเลียเห็นก็ตะลึงความหล่อของอีกฝ่าย
“โอ้...นายจะแข่งกับฉันเหรอ? มาร์โค”
“แล้วพี่อยากแข่งไหมล่ะ? ผมยอมเป็นคู่แข่งได้อยู่แล้ว ถ้าพี่สนใจ!!”
“หือ? ได้สิ”
ทั้งสองคนจ้องกันจนเหมือนมีสายฟ้าออกมาจากตากันและกัน โพรทาเลียผลักตัวออกจากมาร์โค เธอยังอ้ำอึ้งจนกระทั่งคารีเซลกับเรน่าเดินมาหาเพื่อเรียกสติของเธอ
“พี่วันเดอร์เลอร์ค่ะ...”
“อ๊ะ!! นี่พวกเจ้า!!” โพรทาเลียตะโกนออกมาทันที ทั้งสองคนหันไปมองทันที “อย่ามาแข่งอะไรบ้า ๆ นะ แล้วก็ข้าไม่ใช่สิ่งของนะ!!”
“ก็ไม่ได้แข่งเพราะเป็นสิ่งของ แต่...แข่งเพราะอยากได้นายต่างหาก!!” ฟีนีอุสพูดออกมาแบบไม่สนใจว่าใครจะคิดอะไร
“ใช่แล้วล่ะครับ” มาร์โคก็พูดเสริมทันที
โพรทาเลียมองทั้งสองอย่างอึ้ง ๆ อีกคนเป็นแฟนเก่าของนูอัส อีกคนก็เป็นน้องชายเธอ ถ้ามาร์โครู้ว่าเธอเป็นพี่สาวเขาจะตกใจไหมเนี่ย โพรทาเลียส่ายหน้ากับสองคนนี้ แล้วหันไปมองพวกพี่น้องของเธอที่กำลังจ้องมองเธอ
“พวกเจ้ามองอะไรนะ?”
“ก็...” ทั้งห้าคนพูดพร้อมกัน
“คีย์ นายช่าง...” โฟกัสพูดออกมาพร้อมสีหน้าแบบเขินๆ
“พี่ชายเนื้อหอมจังค่ะ” คารีเซลกับเรน่าพูดพร้อมกัน
“เอ๋!!” โพรทาเลียได้ยินแบบนั้น หัวของเธอรู้สึกหนักไปหมดทันที ก่อนที่เธอจะตะโกนออกมา “ไม่เอาน่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!”
ทุกคนต่างหัวเราะกับคีย์ที่กำลังวิตกกังวล เพราะฟีนีอุสกับมาร์โคที่จะแย่งคีย์ให้เป็นของตัวเองกัน เจ้าตัวถึงกับอยากออกจากตรงนี้สุด ๆ แต่คนที่อยู่ในมุมที่ไม่มีคนสนใจกำลังกำหมัดแน่นมาก ๆ จนเลือดออกมา เธอจ้องไปที่คีย์อย่างอาฆาต เธอกำลังคิดบางอย่างอยู่ในใจ
‘วันเดอร์เลอร์!! เจ้าไม่ตายสักที แกเข้ามาทำให้แผนของข้าล้มไม่เป็นท่า ข้าจะฆ่าเจ้าให้จนได้!!’
จบตอนที่ 11 โปรดอ่านตอนที่ 12 ต่อไป
Comments (0)