80 ตอน ตอนที่ 80 พ่อข้าคือแซเทิร์น
โดย YukiCoCo
ตอนที่ 80 พ่อข้าคือแซเทิร์น
เพียงชั่วพริบตาแสงสว่างนั้นสว่างจ้าไปทั้งบริเวณป่านั้น โพรทาเลียหลับตาอย่างแสบตา ก่อนที่ทุกอย่างจะมือลงความรู้สึกในตอนนั้นรู้สึกถึงความเย็นจากน้ำ เปลือกตาที่ตกลงค่อยเลื่อนขึ้นก็ได้เห็นภาพตรงหน้าคือน้ำมากมายที่อยู่รอบตัวเธอ โพรทาเลียมองซ้ายมองขวาว่าตอนนี้เธออยู่ไหน พอเงยหน้าขึ้นมองข้างบนก็ไม่เห็นท้องฟ้าเลยสักนิด พอก้มกลับมามองรอบ ๆ ตรงหน้าก็เห็นร่างสีดำกำลังลอยตรงมาหาเธอ
‘อย่าบอกนะว่าการทดสอบอันใหม่?’ โพรทาเลียคิด
พอจ้องมองอยู่สักระยะก็ได้เห็นร่างของเด็กหญิงตัวเล็กที่มีผมสีดำ ดวงตาสีเขียว โพรทาเลียจ้องมองอย่างตะลึงทันทีที่เห็นอีกฝ่ายมาอยู่ตรงหน้า ทั้งสองนั้นได้ลอยตัวเข้ามาใกล้กัน โพรทาเลียไม่นึกว่าจะเห็นร่างของตนเองในวัยหกขวบ พอ ๆ กลับเด็กน้อยที่กำลังมองหญิงสาวผมสีดำ ดวงตาสีเขียวที่อยู่ตรงหน้าเธอ ทั้งสองมองหน้ากันสักระยะ เด็กน้อยก็ยิ้มให้โพรทาเลีย
“ขอบคุณนะคะ”
“เอ๊ะ?” โพรทาเลียอึ้งที่ตัวของเธอขอบคุณออกมา “ขอบคุณ...ฉันเหรอ?”
“ค่ะ คุณคือหนูในปัจจุบันใช่ไหมคะ?”
“ใช่...”
”อืม ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ คุณทำให้หนูได้รู้ว่าตัวเองยังมีครอบครัวที่รอและคิดถึงมาก ๆ อยู่ แล้วก็หนูดีใจที่ตัวเองได้ออกมาเจอโลกที่ไม่เคยเห็น”
“งั้นเหรอ...ฉันดีใจที่เธอมีความสุขกับโลกปัจจุบันนี้นะ”
“ค่ะ คุณก็ด้วยนะ”
“...”
“ขอให้มีความสุขกับชีวิตในปัจจุบันนะคะ”
สิ้นเสียงของเด็กน้อย ตัวของเธอก็สลายกลายเป็นผงสีทองแล้วลอยพุ่งเข้าสู่ร่างกายของโพรทาเลีย เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นจากเด็กน้อยและความทรงจำของเด็กที่ได้ตะลุยมาได้แค่สองวัน แต่อยู่ในข้างในห้วงแห่งจิตใจโพรทาเลียอยู่ในนั้นเกือบสิบกว่าวัน ทำเอาโพรทาเลียคิดเลยว่าโลกในห้วงจิตใจช่างผ่านไปอย่างเร็ว แต่ข้างนอกช่างช้าสุด ๆ โพรทาเลียยิ้มอย่างดีใจที่ตัวของเธอได้มีความสุขถึงแม้จะเวลามันน้อยนิด
“ฉันก็ดีใจที่เห็นเธอมีความสุขกับครอบครัวนะ โพรทาเลีย”
ภาพทุกอย่างตัดจบ ร่างของโพรทาเลียที่อยู่ในห้วงแห่งจิตใจกำลังถูกน้ำคลุมร่างกายเอาไว้ เฟอร์ร่าจ้องมองอย่างสงสัยว่าอีกฝ่ายจะเป็นอะไรไหม เพราะร่างกายของอีกฝ่ายมีช่วงเวลาบางช่วงที่น่าเจ็บปวดเหมือนกัน มันจะส่งผมกระทบกับร่างต้นที่อยู่ภายนอกได้เช่นกัน ไม่นานนักน้ำที่ปกคลุมก็สลายหายไป เผยให้เห็นร่างกายของโพรทาเลียที่เปลี่ยนไปจากเด็กหญิงกลายเป็นหญิงสาวดุจดั่งหญิงงามในปกรณัมกรีก ผมสีดำเงางามยาวจนถึงกลางหลัง ดวงตาสีเขียวงดงาม และเครื่องแต่งกายคล้ายสาวกรีก เฟอร์ร่าเห็นถึงกับตะลึงไปในทันที
“โพร...โพรทาเลีย...”
โพรทาเลียค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมามองเฟอร์ร่าที่เรียกชื่อเธออย่างตะกุกตะกัก
“เป็นอะไรนะ เฟอร์ร่า พูดอย่างกับตกใจอะไรนะ?”
“ไม่...ไม่ตกใจได้ไง...ร่าง...ร่างของเจ้านะ...”
“ร่างฉัน?”
โพรทาเลียจ้องมองอีกฝ่าย เธอก็แปลกใจที่ร่างกายของเธอนั้นดูจะสูงกว่าร่างตอนหกขวบมาก ๆ เธอเลยลองก้มมองร่างกายของเธอก็เห็นชุดที่แปลกตาทำเอาเธอเงยหน้าขึ้นมามองอีกฝ่ายทันที
“ชิบล่ะ!! นี่มันร่างหลังจากที่ฉันคลอดลูกนี่น่า!!”
โพรทาเลียไม่อยากคาดคิดว่าผ่านทดสอบแรกมาได้นั้นจะได้มาเจอร่างเดิมตอนสิบขวบ เธอจำได้ว่าช่วงนั้นต้องทานยาเพิ่มอายุ เพื่อให้ลูก ๆ ของเธอดื่มนม ไม่งั้นขาดสารอาหารแน่ ๆ ในตอนนั้น ทำเอาโพรทาเลียขมวดคิ้วเลยว่าร่างต้นของเธอคงไม่ได้มีความทรงจำหลังจากโดนลบความทรงจำใช่ไหม เพราะแซเทิร์นชอบความทรงจำของเธอและใส่ข้อมูลแปลก ๆ ในหัวของเธอ จากความทรงจำของโพรทาเลียวัยหกขวบตอนนี้เธออยู่กับพ่อและน้อง ๆ ที่อยู่บ้านคุณย่า
‘ขออย่าให้เกิดเรื่องก็พอ...พ่อค่ะ...น้อง ๆ’ โพรทาเลียคิด
ด้านโลกความจริง
ร่างกายของโพรทาเลียน้อยลอยขึ้นสูงกลางอากาศ แล้วก็มีน้ำปกคลุมไปทั้งร่างกาย พวกมาร์โคตกใจอย่างบอกไม่ถูกว่าโพรทาเลียเป็นอะไรไป เสียงโวยวายของเด็ก ๆ ทำให้ผู้ใหญ่อย่างเพอร์ซีย์ โพไซดอน และอาธีน่าต้องรีบวิ่งกันตามขึ้นไปข้างบนว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาก็ขึ้นมาเจอกับภาพตรงหน้าที่ร่างกายของโพรทาเลียมีแสงสว่างขึ้นแล้วโดยน้ำปกคลุมไปเรียบร้อย เพอร์ซีย์รีบเข้าไปดูเขาลองยื่นมือเข้าไปแตะน้ำที่ปกคลุมลูกสาวเขา แต่เขาก็ไม่สามารถยื่นมือเข้าไปแตะลูกสาวเขาได้ ทำให้สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนจะหันไปหาลูก ๆ กับน้องสาว
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นนะ?” เพอร์ซีย์เอ่ยถามอย่างสงสัย
“ไม่รู้ครับ!” มาร์โคตอบออกไปอย่างงุนงงเช่นกัน
“พี่เขา...” สองสาวพูดไม่ออกเลยว่าพี่สาวเป็นอะไรไป
“พวกเรากำลังปลอบโพรทาเลียที่กำลังนึกถึงช่วงเวลาแย่ ๆ แต่แล้วก็เกิดแสงสว่างออกจากตัวของโพรทาเลียอยู่ แล้วก็เป็นแบบที่พี่เห็นนะคะ”
เพอร์ซีย์ได้ยินแบบนั้นก็ขมวดคิ้วเลยว่ามันจะใช้แบบที่เขาคิดไหมที่แองเจิลเคยบอกว่าเด็ก ๆ จะเปลี่ยนร่างหลังจากผ่านการทดสอบของอดีตชาติแต่ละคน ทำให้เขาเป็นห่วงเลยว่าลูกสาวจะกลับเป็นร่างเดิมหรือเปล่า ก่อนที่เขาจะพูดกับคนอื่น ๆ
“ไม่ต้องห่วงมันแค่การกลับร่างเดิมนะ”
“พี่จะกลับร่างเดิมแล้วเหรอคะ?” คารีเซลพูดอย่างดีใจที่พี่สาวจะกลับร่างเดิมแล้ว
“จะได้พาพี่ไปเที่ยวรอบ ๆ นี้เลยล่ะค่ะ” เรน่ามีเหตุผลที่อยากให้โพรทาเลียกลับร่างทันที
“น่าเสียดายเลยนะนั้น” โพไซดอนที่อยู่หน้าประตูทำหน้าเซ็งสุด ๆ
“หลานสาวจะกลับร่างทั้งทีนะ อย่าพูดเอาแต่ใจสิ”
“งืออออ! น่าเสียดายอ่ะ! หนูพึ่งกอดได้แป๊บเดียวเองนะ!!” เอสเทลกล่าวอย่างเศร้าใจที่เธอได้กอดหลานสาวในร่างหกขวบได้ไม่กี่นาทีเอง
ระหว่างที่เด็ก ๆ กำลังบ่นนั้น ก็มีสิ่งบางอย่างแปลกไป น้ำที่ปกคลุมเป็นลูกบอลกำลังส่องแสงขึ้น ทำให้เพอร์ซีย์ที่เห็นภาพตรงหน้า ก็คิดเลยว่าลูกสาวเขากำลังจะกลับร่างเดิมสักที ลูกบอลกำลังสลายหายไปเผยให้เห็นร่างกายของโพรทาเลียที่ดูเป็นวัยรุ่น แต่ว่าร่างกายของโพรทาเลยเหมือนจะไม่ใช่วัยรุ่น จนเรน่าสังเกตเห็นความผิดแปลกจึงเอ่ยพูดขึ้นมา
“เดียวนะคะ ร่างพี่เขาดูแปลก ๆ ไปนะ”
“หือ?” เพอร์ซีย์ได้ยินแบบนั้นหันไปมองอีกครั้ง
ลูกบอลน้ำที่ปกคลุมร่างกายโพรทาเลียแตกสลายในทันใด เผยให้เห็นร่างกายที่มีสิ่งที่แปลกไป ผมสีดำยาวสลวยถึงกลางหลัง เสื้อผ้าแขนสั้นแนวกรีกแบบชุดฮิเมชั่น ใบหน้าอันงดงามกว่าเด็กสาวทั่วไป ทุกคนเห็นต่างตกตะลึงว่าคนตรงหน้าพวกเขาใช่ โพรทาเลียแน่ใช่ไหม
“นี่มัน...อะไรกันครับ?” มาร์โคถามขึ้น
“พ่อไม่รู้” เพอร์ซีย์กล่าวออกมาอย่างงุนงง
ร่างหญิงสาวตรงหน้าลงอย่างแผ่วเบา ทุกคนจ้องมองแผ่นหลังของอีกฝ่ายที่หันให้พวกเขา เพอร์ซีย์จ้องมองอย่างพินิจร่างตรงหน้านั้นมันแผ่นหลังช่างคล้ายภรรยาของเขามาก ๆ ทำเอางุนงงเลยว่าภรรยาเขามายืนตรงนี้เหรอ เอสเทลสงสัยว่าอีกฝ่ายนั้นใช่หลานของตนใช่ไหม จนเธอค่อย ๆ ลองขยับร่างกายเพื่อจะเอียงตัวเพื่อดูว่าอีกฝ่ายมีใบหน้ายังไง แต่ตัวของเธอก็ไปชนบางอย่างทำให้เกิดเสียงกระทบ ทำให้ร่างกายของหญิงสาวหมุนตัวเข้าไปหาเอสเทลพร้อมกับมีดสั้นจู่ ๆ ก็โผล่มา เพอร์ซีย์เห็นแบบนั้นก็รีบเข้าไปหาน้องสาวเขาแล้วเรียกดาบออกมาป้องกันการโจมตีนั้นในทันใด
แคร่ง!!
“อึ้ก!!”
เพอร์ซีย์ถึงกับรู้สึกมือไม้สั่นไปหมด การโจมตีของอีกฝ่ายมันช่างรุนแรงกว่าที่เขาคิด เมื่อเขาเงยหน้ามองอีกฝ่ายก็ได้เห็นดวงตาสีเขียวที่บ่งบอกว่านี้ล่ะ โพรทาเลีย ลูกสาวของเขา แต่เขาไม่คิดว่าลูกสาวจะมีใบหน้าที่สวยงดงามกว่าที่เขาเคยเห็น ข้างหลังเหมือนแอนนาเบ็ธมาก ๆ มองภาพตรงหน้ายิ่งเหมือนกว่าเดิมอีก
“โพร...ทาเลีย...” เพอร์ซีย์เอ่ยเรียกอีกฝ่าย
โพรทาเลียได้ยินอีกฝ่ายเรียกชื่อเธอ ทำให้เธอขมวดคิ้วอย่างสงสัย “พวกแกเป็นใคร!? ทำไมถึงรู้จักข้า แล้วมาอยู่ในห้องข้าได้ไง!?”
“เดียว ๆ โพรทาเลียนี่ห้องพี่นะ!!” เอสเทลเอ่ยขึ้นมาเพื่อแก้คำพูดของหลานสาว
โพรทาเลียจ้องมองหญิงสาวที่อยู่ข้างหลังของชายตรงหน้าของเธอ “ห้องเจ้า?”
“ใช่ ๆ ห้องของอาเธอไง ฉันเอสเทลไง”
“เอสเทล...” โพรทาเลียขมวดคิ้วอย่างสงสัย ”ข้าไม่เห็นจะรู้จัก!?”
“!!” ดวงตาของเอสเทลเปิดกว้างทันทีที่หลานสาวพูดแบบนั้นออกมา
เพอร์ซีย์ตะลึงกับคำพูดอีกฝ่าย ก่อนที่เขาจะดันดาบให้ลูกสาวให้ถอยไป โพรทาเลียกระโดดถอยหลังจนเกือบไปชนกับหน้าต่าง เธอหันไปมองว่าสภาพห้องต่างกับห้องที่เธอเคยอยู่ พอหันกลับไปมองเธอก็เห็นแค่คนแปลกหน้าตั้งเก้าคน แล้วสองคนที่อยู่ตรงประตูมีพลังบางอย่างที่ดูทรงพลังมาก ๆ จนโพรทาเลียสงสัยว่าพวกเขาเป็นใคร ก่อนที่เธอจะหันไปหาชายตรงหน้าที่ถือดาบอยู่
“ข้าถามพวกเจ้าเป็นใคร!?”
“โพร...” เพอร์ซีย์รู้สึกหนักอึ้งในหัวใจเลย เขาไม่รู้ลูกสาวเป็นอะไรถึงจำเขาไม่ได้ ก่อนที่เขาจะเอ่ยพูดขึ้น “โพรทาเลีย นี่พ่อเอง จำไม่ได้เหรอ?”
“พ่อ?” โพรทาเลียขมวดคิ้วอย่างสงสัยก่อนจะเอ่ยพูดบางอย่างออกไป “พ่อข้ามีแค่แซเทิร์นเท่านั้น!!”
สิ้นคำพูดนั้นหัวใจของเพอร์ซีย์เหมือนแตกสลายที่ลูกสาวพูดแบบนั้นออกมา โพรทาเลียพูดจบเธอก็กระโจนเข้าหาคนเป็นพ่อโดยไม่ลังเล เอสเทลเห็นแบบนั้นก็จับมือพี่ชายยกดาบขึ้นมาป้องกันการโจมตีของหลานสาวทันที เสียงดาบปะทะกันอย่างดัง
“มาร์โค!!”
เอสเทลเรียกหลานชาย มาร์โคก็โผล่มาอยู่ข้างหลังของพี่สาว เขาก็ยกมือตีที่ท้ายทอยอย่างแรงจนทำให้โพรทาเลียสตั๊นไปชั่วขณะก่อนจะน็อคร่วงล้มลงกับพื้นไปในทันที เรน่ากับคารีเซลรีบเข้ามาดูพี่สาวในทันที
“มาร์โค นายทำอะไรพี่โพรทาเลย!?”
“จริงด้วย พี่เขาน็อคตายขึ้นมาทำไง”
“ไม่ตายหรอกน่า! ฉันช่วยพ่อกับอาเอสเทลนะ!” มาร์โคพูดแก้ตัว เขาไม่รู้ว่าทำเอาพี่ตายได้ไหม
ผู้เป็นลูกสองคนรีบวิ่งเข้ามาหาคนเป็นแม่อย่างเป็นห่วง
“แม่...”
“แม่จ้า...”
เรน่ากับคารีเซลมองหลานทั้งสองก่อนจะหันกลับไปมองคนเป็นน้องชาย ทำเอามาร์โคทำหน้าแบบเซ็งมาก ๆ
“ไม่ตายหรอก! พอเลยน่า แต่เมื่อกี้มันอะไร พี่เขาถึงเรียกแซเทิร์นว่าพ่อกัน!?” มาร์โคถามอย่างสงสัยว่าพี่สาวทำไมพูดแบบนั้น
เพอร์ซีย์ไม่ได้ฟังคำพูดของลูกชายเลยสักนิด ทำเอาเอสเทลมองพี่ชายที่นิ่งไม่ไว้ติ่งเลยสักนิด ทำเอาเธอเป็นห่วงพี่ชายขึ้นมา
“พี่ค่ะ...”
“อ๊ะ...เอสเทล...” เพอร์ซีย์หันไปมองน้องสาวด้วยสีหน้าที่ดูไม่ค่อยดีเลย
“พี่สบายไหม...ดูน่าพี่มัน...”
“พี่ไม่เป็นอะไร...” เพอร์ซีย์ปฏิเสธออกไปในทันที
เอสเทลไม่เชื่อว่าพี่ชายไม่เป็นอะไร จนเธอจับแขนพี่ชายในทันที “ไม่ พี่เป็น! ลงไปข้างล่างกัน!!”
เอสเทลพาเพอร์ซีย์ออกจากห้องในทันที
“เอสเทลเดียว โพรทาเลีย...”
พวกโพไซดอนต่างพากันลงมาก่อน เอสเทลพาพี่ชายลงไปพักสติสักครู่หนึ่ง ระหว่างที่คู่แฝดของโพรทาเลียกำลังตรวจดูคนเป็นแม่ เด็กทั้งสองต่างมองหน้ากันก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ แล้วหันไปหาคนเป็นน้าทั้งสามคน
“น้า ๆ ช่วยหน่อย!” คาเร็นน่าเอ่ยขอความช่วยเหลือในทันที
“จะให้น้าช่วยอะไรเหรอ?” สามแฝดเอ่ยถามพร้อมกัน
“เรียกตัวเทพีอลิซ่าเบ็ธมาที่นี่โดยด่วนครับ/ค่ะ!”
เด็กทั้งสองต่างพูดพร้อมกันนั้น ทำให้คนเป็นน้าทั้งสามคนต่างงุนงงว่าทำไมต้องติดต่อกับเทพี แต่พวกเขาก็ยอมติดต่อกลับไปด้วยมือถือของพวกเขา มาร์โคโทรไปหาคนเป็นแม่ให้ช่วยพาเทพีอลิซ่าเบ็ธมาหาพวกเขาที่บ้านคุณย่า เนื่องจากเกิดเรื่องกับพี่สาว คนเป็นแม่ได้ยินก็ตกใจเลยว่าเกิดอะไรกับโพรทาเลีย แอนนาเบ็ธเลยสั่งให้เทพีไปกับเธอโดยด้วย แล้วเธอฝากให้พวกไพเพอร์ช่วยดูแลค่ายสักระยะหนึ่ง พอจัดการอะไรเสร็จเธอก็ใช้ประตูมิติโผล่ไปที่บ้านของคุณย่าแซลลี่ แต่ที่ประตูโผล่ไปดันเป็นทางเดินหน้าห้องของเอสเทลนั้นเอง เด็ก ๆ เห็นคนเป็นแม่กับเทพีก็ดีใจทันที
“แม่มาแล้ว…” มาร์โคทำหน้าอย่างนิ่ง ๆ เมื่อเห็นคนอื่นนอกจากแม่กับเทพี “ทำไมพวกพี่ ๆ ถึงมาด้วยเนี่ย!?”
“เฮ้ย ๆ นายพูดแบบนี้หมายความว่าไง? มาร์โค” เบเดอร์กำหมัดถามน้องชาย
“ทำไม! จะเอาเรื่องเหรอ?” มาร์โคถามอย่างหาเรื่อง
“พอกันเลยทั้งสองคน ทำไมชอบหาเรื่องกัน แม่ถามหน่อย”
“หึ!” ทั้งสองคนต่างหันหน้าไปทางอื่นอย่างไม่สบอารมณ์
“ถึงจะแก่ขึ้นยังไง พวกพี่น้องก็ยังทะเลาะกันเหมือนเดิมเลยนะ”
เสียงอ่อนหวานดังขึ้น ทำให้พวกมาร์โคเอียงคอมองว่าเจ้าของเสียงเป็นใคร พวกเขาหันไปมองก็เห็นเด็กหญิงวัยสิบขวบ ผมบลอนด์ ดวงตาสีเทา สามแฝดเห็นก็รู้ว่าคนตรงหน้าเป็นใคร
“พี่โฟกัส!”
“ไง ทั้งสามคน” โฟกัสวัยเด็กโบกมือให้แก่น้อง ๆ ที่ตัวสูงขึ้น ยกเว้นสองสาวที่ตัวเล็กเหมือนเดิมจริง ๆ “คิก ๆ ไม่นึกว่าเรน่ากับคารีเซลจะตัวเล็กเหมือนเดิมนะ ถึงจะผ่านมาเกือบ 5 ปีนะ”
“พี่ค่ะ! อย่าแซวสิ!!” สองสาวพองแก้มอย่างโกรธ
“ฮิ ฮิ” โฟกัสหัวเราะออกมาเบา ๆ
ทุกคนต่างยิ้มกันอย่างชอบใจที่พี่น้องคุยกันอย่างน่ารัก อลิซ่าเบ็ธยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะมองหาโพรทาเลีย
“แล้วโพรทาเลียล่ะ?” อลิซ่าเบ็ธเอ่ยถามขึ้น
พวกสามแฝดหันไปทางเตียงนอนของอาสาวที่ตอนนี้มีร่างของพี่สาวพวกเขานอนอยู่ พวกโอราอุสเดินเข้ามาดูก็ตกใจที่ร่างน้องสาวอยู่นั้นไม่ใช่ร่างวัยสิบขวบ
“ทำไมโพรทาเลียอยู่ในร่างนี้นะ?”
“มันเป็นร่างตอนที่โพรทาเลียต้องเลี้ยงลูกนะคะ คุณแอน-”
แอนนาเบ็ธหันไปมองเทพีด้วยสายตาดุ ๆ อลิซ่าเบ็ธก็เกร็งก่อนจะเปลี่ยนคำพูด
“คุณแม่...”
“จ๊ะ!” แอนนาเบ็ธยิ้มทันที
อลิซ่าเบ็ธคิดเลยว่าเธอต้องปรับตัวในการเรียกอีกฝ่ายสักหน่อย
“แม่ครับอย่าแกล้ง อลิซ่าเบ็ธมากสิครับ” โอราอุสเข้ามาอยู่ใกล้ ๆ อลิซ่าเบ็ธ
“ก็แม่อยากให้แฟนลูกเรียกแม่นี่น่า”
“ครับ ๆ แต่ก็ต้องให้เวลาเธอมั้งนะ”
“พอเถอะค่ะ เดียวฉันจะช่วยโพรทาเลียก่อนนะ”
“โพรทาเลียเป็นอะไรนะ? อลิซ่าเบ็ธ”
“ก่อนหน้ามีเรื่องอะไรหรือเปล่านะ?” อลิซ่าเบ็ธหันไปพวกมาร์โคทันที
“เกิดสิ! จู่ ๆ พี่เขากระโจนใส่อาเอสเทลเข้า แล้วพ่อเข้ามาช่วย แต่พี่เขากับบอกว่าจำใครไม่ได้ แล้วพ่อก็ถามว่าจำเขาได้ไหม? แต่พี่เขาดันบอกว่าพ่อเขามีแค่แซเทิร์น...”
ทุกคนได้ยินถึงกับอึ้งไปเลย อลิซ่าเบ็ธไม่อยากคิดเลยว่าคนเป็นพ่อได้ยินแบบนั้นจะรู้สึกยังไง แอนนาเบ็ธหันไปมองซ้ายมองขวาก็ไม่เห็นสามีของตนเอง
“แล้วพ่อไปไหนแล้วล่ะ?”
“คงช็อกอยู่ข้างล่างนะคะ”
“อาเอสเทลพาพ่อลงไปข้างล่างนะคะ”
แอนนาเบ็ธได้ยินแบบนั้น เธอก็เป็นห่วงสามีจึงรีบเดินออกจากห้องนอนเอสเทลลงไปข้างล่างเพื่อนไปหาสามี ตอนนี้เหลือแค่เด็ก ๆ ที่จะทำการช่วยทำให้โพรทาเลียได้สติกลับคืนมา
จบตอนที่ 80 โปรดติดตามตอนที่ 81 ต่อไป
Comments (0)