63 ตอน ตอนที่ 63 หลอมรวมพลัง
โดย YukiCoCo
ตอนที่ 63 หลอมรวมพลัง
เสียงฟ้าร้องคำรามตลอดเวลาพร้อมกับสายฟ้าผ่าลงมาเรื่อยๆ ผู้คนต่างหวาดกลัวกับเสียงฟ้าร้องที่อาจจะผ่าลงมาใส่พวกเขาเมื่อไรก็ได้จนต้องหลบหนีกัน โพรทาเลียจับจ้องมองสายฟ้านั้นอย่างไม่หวาดกลัวว่ามันจะตกลงใส่เธอหรือไหม เธอสัมผัสได้ถึงพลังอันคุ้นเคยจนรับรู้ได้เลยว่าพลังนั้นอาจจะเป็นพลังของลูกชายก็เป็นได้ เธอจึงรีบวิ่งตรงไปอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะไปช่วยลูกชายของเธอ
เดวิคเรียกสายฟ้าผ่าลงใส่ชายที่เขารู้สึกรังเกียจในความคิดที่จะแย่งแม่ของเขา ถึงดีแลนจะโดนเล่นงานแต่ก็ไม่เสียเปรียบอะไร เขาดันชอบซะมากกว่าจึงวิ่งเข้าใส่เดวิคพร้อมกับปะทะดาบกันอย่างดุเดือด แต่ว่าดีแลนก็ไม่ชอบสิ่งที่เจ้าหนูขัดขวางเขาเรื่องแม่ เขาวิ่งเข้าใส่พร้อมกับฟาดดาบอย่างรุนแรง เดวิครับการโจมตีอย่างรวดเร็วแรงของอีกฝ่ายดันดาบของเขาจนไม่สามารถขยับไปไหนได้ เพราะถ้าไม่ทรงตัวให้ดีๆ คงโดนเล่นงานแน่ๆ
“เป็นไงล่ะ!! อวดดีกับฉันจนตัวเองจะแพ้!! แกมันอ่อนหัด เดวิค!!” ดีแลนยิ่งใช้แรงดันดาบของอีกฝ่ายเข้าไปใกล้คออีกฝ่ายมากขึ้น
“อึ้ก!!” เดวิครีบดันดาบของตนเองไม่ให้ใกล้คอ
“คิดจะขัดขวางฉันยังเร็วไป 10 ปี!!”
“หึ!! ถึงเร็วไป ผมก็จะขัดขวางพี่ให้ถึงที่สุด!!”
เดวิคดันดาบออกจากตัวพร้อมกับฟาดฟันใส่อีกฝ่ายอย่างแรง ดีแลนรับการโจมตีทันที พร้อมกับโจมตีกลับ ทั้งสองต่อสู้กันดุเดือดจนฟีนีอุสที่โดนพวกปีศาจขัดขวางต้องรีบจัดการพวกมันจนหมดไปแล้วรีบวิ่งตรงไปช่วยลูกชายทันที
“เดวิค หลบไป!!”
เดวิคกระโดดหลบไปด้านข้างทันที ฟีนีอุสพุ่งตรงเข้าไปโจมตีอีกฝ่าย เสียงดาบกระทบกันอย่างรุนแรง
“อึ้ก!!”
“อย่ามายุ่งกับลูกชายฉัน!!” ฟีนีอุสกัดฟันพร้อมพูดใส่อีกฝ่าย
“งั้นนายต้องเล่นกับฉันแทนลูกชายเธอละกัน ถ้านายตายโพรทาเลียจะได้มาอยู่กับฉันแทนแก!!”
“ว่าไงนะ!!”
ฟีนีอุสได้ยินถึงกับอารมณ์ขึ้นสุดๆ เขาเล่นโจมตีใส่อีกฝ่ายอย่างต่อเนื่องไม่หยุด เดวิคจ้องมองการต่อสู้ของทั้งสองที่ดุเดือดมากๆ เขาไม่นึกว่าจะเห็นพ่อของเขาจะเดือดแบบนี้ ระหว่างที่เอาแต่มองก็ไม่ได้สังเกตเลยว่ามียักษ์ไซคลอปส์ตนหนึ่งมาอยู่ข้างหลังของเขา จนเห็นเงาร่างใหญ่ที่พื้นเขารีบหันไปมองทันที
“ระยะประชิดเกินไป!!” เดวิคกำลังจะหยิบดาบที่เก็บเข้าฟักออกมา
แต่ยักษ์ไซคลอปส์กำลังจะฟาดอาวุธใส่ เขาหลับตาเพราะนึกว่าจะโดนฟาด แต่ชั่วพริบตายักษ์ตรงหน้าก็มลายหายไป เดวิคงุนงงว่าเขาไม่โดนทำร้ายเหรอ จนค่อยๆ เงยหน้ามอง เขาก็ไม่เห็นยักษ์ตรงหน้า แต่ว่าพอปรับสายตาลงก็เห็นร่างที่เขาไม่คิดว่าจะได้เจอในเวลาแบบนี้ เส้นผมสีดำสะบัดไปมาตามสายลม ดวงตาสีเขียวค่อยๆ หันมามองเขา ใบหน้าที่เขาคิดถึงมากๆ
“แม่...ครับ...”
โพรทาเลียหันมาเจอใบหน้าหนุ่มน้อยที่เธอไม่ได้เจอมานาน ถึงจะอยู่ในร่างผู้ใหญ่เธอก็จำได้ดีสุดๆ เพราะนี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่เธอได้เจออีกฝ่ายในสภาพนี้
เธอรีบพุ่งตรงเข้าไปกอดลูกชาย หัวของเธออยู่ระดับหน้าอกของลูกชายเอง “เดวิค!!”
“แม่ครับ!!” เดวิคกอดแม่ตอบอย่างคิดถึง
“เดวิค...เดวิค...ดีใจจริงๆ ที่ได้เจอลูก”
“ผม...ผมก็ดีใจที่ได้เจอแม่เหมือนกัน...”
ทั้งสองกอดกันอย่างคิดถึงมานานตั้งเกือบ 3 ปีที่ไม่อยู่ด้วยกัน ก่อนที่มือของโพรทาเลียจับใบหน้าของลูกชายก่อนจะดึงมาใกล้ๆ ใบหน้าของเธอ
“ทำไมไม่เคยโผล่มาหาแม่กัน เดวิค!!” น้ำเสียงของโพรทาเลียดูโกรธลูกชายมากๆ จนเดวิคสะดุ้งที่แม่เปลี่ยนอารมณ์เร็วมากๆ
“อ๊ะ...แม่...คือผม...”
“อยู่ใกล้แม่แค่นี้ แต่ลูกไม่เคยมาหาแม่!! ลูกนี่มัน...ลูกนี่เหมือนใครกันก็ไม่รู้!!”
“ก็...คงเหมือนพ่อล่ะมั้ง?”
“พ่อ?” โพรทาเลียได้ยินแบบนั้นก็สงสัยทันที
“ครับ...ก็พ่อของพวกเรา...ผู้ที่เป็นเจ้าของเส้นผมที่แม่เก็บมานานไงครับ” เดวิคหันไปมองพ่อของเขาที่กำลังต่อสู้อยู่
“เอ๋?” โพรทาเลยหันไปตามทางที่ลูกชายมอง
สายตาของเธอหันไปเห็นฟีนีอุสกำลังต่อสู้กับใครบางคน เมื่อเธอจับจ้องมองอย่างตั้งใจ เธอก็เห็นใบหน้าอีกฝ่ายอย่างเด่นชัด ทำให้เธอถึงกับรู้สึกชาไปทั้งตัวจนเธอวิ่งตรงไปยังจุดที่ทั้งสองอยู่ เดวิคเห็นแม่พุ่งออกไปอย่างไม่ลังเล เขาก็ตะโกนเรียกแม่ของเขา
“แม่ครับ!!”
ทั้งสองกำลังฟาดฟันอย่างเอาเป็นเอาตายจนไม่รับรู้เลยว่าจะมีคนเข้ามาขัดขวาง จนกระทั่งกระโดดออกจากกันแล้วจะเตรียมพุ่งโจมตี โพรทาเลียก็เข้ามาขวางตรงการพร้อมกับยกมีดสั้นขึ้นมาป้องกันการโจมตีของทั้งสองทันที
“หยุดเดียวนี่!!!”
เสียงอาวุธกระทบกันจนทั้งสองต่างจ้องมองหญิงสาวที่เข้ามาขัดขวางจนพวกเขาอ้ำอึ้ง
“โพรทาเลีย!!”
“โพร!!” ใบหน้าของดีแลนดีใจมากๆ ที่ได้เจอคนที่ตนรักมากๆ
โพรทาเลียค่อยๆ หันไปมองเจ้าของเสียงที่เรียกเธอด้วยชื่อเล่นที่มีเพียงไม่กี่คนที่จะเรียกเธอ พอหันไปมอง ตอนแรกเธอเห็นอีกฝ่ายก็รู้สึกประหลาดมากๆ ที่อีกฝ่ายดูเปลี่ยนไป จนเธอมองไม่ออกว่าเป็นใคร
“ดี...แลน...” โพรทาเลียกำลังจะเดินเข้าไปหาอีกฝ่าย
ฟีนีอุสเห็นหญิงสาวกำลังจะเข้าไปใกล้อีกฝ่าย เขารีบหยุดอีกฝ่ายทันที “โพรทาเลีย อย่าเข้าไปใกล้หมอนั้นนะ!!”
“หุบปาก!!” โพรทาเลียตวาดออกมา ใบหน้าเธอดูโกรธมากๆ ทีอีกฝ่ายเล่นโจมตีใส่เพื่อนของเธอ
ฟีนีอุสถึงกับอึ้งไปเลยที่โดนตวาดให้เงียบแบบนั้น “โพร...ทาเลีย...”
“นายโจมตีใส่เพื่อนฉันทำไม!! นายกล้าทำร้ายดีแลนได้ยังไง!?” น้ำตาของโพรทาเลียไหลออกมาอย่างโกรธเคืองที่อีกฝ่ายกล้าทำร้ายเพื่อนเธอ
“ฉัน...”
ใบหน้าของฟีนีอุสเปลี่ยนไปเป็นรู้สึกผิดหวังที่อีกฝ่ายต่อว่าเขาโดยไม่ได้รู้อะไรว่าดีแลนนั้นเป็นพวกของแซเทิร์น ทำให้เขากระอักกระอ่วนเหมือนรู้สึกโดนหักหลังจากหญิงที่รัก
โพรทาเลียโกรธอีกฝ่ายมากๆ ที่กล้าทำร้ายดีแลนได้ เธอรีบเข้าไปหาดีแลนพร้อมกับยกมือขึ้นสัมผัสใบหน้าอีกฝ่าย “ดีแลน...นาย...นายยังไม่ตาย...เป็นอะไรได้ไง?”
“เป็นไปแล้วไง โพร...ฉันดีจังที่เธอได้เจอเธออีกครั้ง”
“ฉันก็ดีใจที่ได้เจอนายนะ แต่ทำไมนายถึงยังมีชีวิตรอดกัน?”
“ฉันฟื้นขึ้นมาหลังจากตายไปแล้วนะ โดยเทพองค์หนึ่งช่วยชีวิตฉันไว้นะ”
“เทพ? เทพองค์ไหน? ฮาเดสเหรอ?”
ดีแลนจ้องมองโพรทาเลียอย่างไม่พูดอะไรเลย จนเธอสังเกตรู้สึกแปลกๆ ว่าทำไมอีกฝ่ายถึงไม่พูดอะไรเลย
“ดีแลน ตอบฉันหน่อยสิ...”
เดวิครีบตะโกนออกมาทันที “แม่ครับ!! พี่ดีแลนเป็นคนของแซเทิร์นครับ แล้วเขาเป็นคนนำพาพวกกองกำลังปีศาจมาบุกค่ายแห่งนี้ครับ!!”
สีหน้าของโพรทาเลียถึงกับอึ้งไปทันที ตัวของเธอสั่นเทาไปหมด เธอค่อยๆ เงยหน้ามองอีกฝ่าย
“ไม่จริงใช่ไหม? เดวิคพูดออกมาไม่จริงใช่ไหม? ดีแลน...”
ดีแลนจ้องเธอพร้อมกับฉีกยิ้มให้เธอ “จริงนะสิ โพรทาเลีย”
“!!”
ใบหน้าสีเนื้ออ่อนยิ่งกลายเป็นสีขาวซีดเซียวกว่าเดิม เธอค่อยๆ ถอยๆ ห่างจากอีกฝ่าย “ทำไมกัน...ทำไมนายถึงทำแบบนี้กัน!!”
“ทำไมเหรอ? เพราะเธอไง!! โพร” ดีแลนจับแขนทั้งสองของโพรทาเลียอย่างแน่นจนเธอเจ็บแขน
“โอ๊ย! เจ็บ! ดีแลน!!” โพรทาเลียเจ็บที่อีกฝ่ายจับแขนทั้งสองข้างเธออย่างแรง “นายหมายความว่าไง? นายจะบอกว่าที่นายทำเพื่อฉันงั้นเหรอ?”
"ก็ใช่นะสิ!! เพราะเธอไม่ยอมอยู่ข้างฉัน! เธอไม่ยอมรักฉันสักที จนฉันต้องทำแบบนี้ไงล่ะ!! ฉันขายวิญญาณให้เทพองค์นั้นตั้งแต่ฉันไปอยู่ที่นั่น แล้วก็ฉันก็ยอมทำทุกอย่างที่แซเทิร์นสั่ง จนตอนนี้ฉันก็สามารถจะยึดทุกอย่างให้เป็นของฉันรวมถึงเธอด้วย!!"
“จะบ้าหรือไง!! นายมันบ้าไปแล้ว นายไม่ใช่ดีแลนที่ฉันรู้จักด้วยซ้ำ!!” โพรทาเลียจะสะบัดตัวออก แต่อีกฝ่ายมีแรงเยอะกว่าเธอ
“ฉันก็เป็นแบบนี้มานานแล้วนะ โพร แต่เธอไม่รู้เองต่างหากล่ะ”
“ว่าไงนะ?”
“แต่พอฉันเจอเธอ ฉันก็ถึงอยากเปลี่ยนไปจนตอนนี้ฉันยอมทำทุกอย่างเพื่อเธอ ถึงจะให้ควบคุมปีศาจมากวาดล้างมนุษย์กึ่งเทพฉันก็ยอม!!”
“จะบ้าหรือไง!! สิ่งที่นายทำมันผิดนะ!! นายบอกจะกวาดล้างทุกคน โดยในนั้นมีครอบครัวฉันอยู่นะ!!”
“แล้วทำไม?” ดีแลนเอียงคอมองอย่างสงสัย “ถ้าพวกนั้นมาขัดขวางความรักของเรา ฉันก็จะกำจัด!!”
โพรทาเลียได้ยินแบบนั้นความรู้สึกทุกอย่างของเธอมันปะทุขึ้นมาทันที “ดีแลน!!”
“ทนไม่ไหวแล้วเว้ย!!”
ฟีนีอุสพุ่งมาจากด้านข้างพร้อมกับชกไปที่ใบหน้าของดีแลนไปทันทีจนอีกฝ่ายกระเด็นไปข้างด้าน โพรทาเลียเห็นอารมณ์ของเธอก็สงบลงไปเลย
“ฟีนีอุส...” โพรทาเลียมองอีกฝ่ายที่มายืนข้างๆ เธอ
“แกมันไม่ใช่มนุษย์ ดีแลน กล้าพูดกับโพรทาเลียถึงครอบครัวขนาดนั้น แกไม่ควรได้รับความรักจากโพรทาเลียสักนิด!”
“แก!!” ดีแลนพยุงตัวขึ้นช้าๆ เขาถุยน้ำลายปนเลือดออกมา
พออีกฝ่ายพูดแบบนั้น ทำให้โพรทาเลียรู้สึกประทับใจต่อคำพูดของเขา พอนึกคำพูดของดีแลน เธอก็โกรธเคืองขึ้นมาที่อีกฝ่ายจะมาทำให้ครอบครัวของเธอเป็นอันตรายไปด้วย แต่ว่าพอได้ยินเสียงแค่ข้างหน้า เธอก็ฟังรอบๆ ข้างก็รู้สึกว่ารอบข้างนั้นเสียงเงียบไปแล้ว ก่อนที่มีเสียงฝีเท้าเดินกันเข้ามาใกล้ ก็เห็นกลุ่มคนมากมายเดินกันเข้ามา พวกเขาบาดเจ็บและบอบช้ำ แต่พวกเขาก็พยายามมาที่นี้กัน เพื่อดูหน้าของคนที่เป็นคนควบคุมปีศาจพวกนั้น
“เจ้านั้นสินะ ที่เป็นคนพาพวกปีศาจเข้ามานะ!”
“พวกแกกล้ามาที่บุกมาแบบนี้!!”
“เพื่อนๆ เราอยู่ไหนกัน!!”
“จริงด้วยคนที่หายไปอยู่ไหนกัน!!”
เหล่าชาวค่ายจูปิเตอร์ต่างไม่พอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น มันเหมือนการมาหยามเกียรติพวกเขากันสุดๆ ที่แอบมาบุกโจมตีพวกเขาแบบนี้
“หึๆ” ดีแลนหัวเราะในลำคอกับสิ่งที่ฟังพวกค่ายจูปิเตอร์พูด “พวกนั้นคงกลายเป็นอาหารของพวกปีศาจพวกนั้นไปแล้วล่ะนะ!!”
ฟีนีอุสได้ยินแบบนั้นก็กระชากคอเสื้ออีกฝ่ายทันที “แก! แกก็เป็นมนุษย์กึ่งเทพ แต่ทำไมถึงทำกับพรรคพวกสายเลือดเดียวกันของตนเองกัน!!”
“พรรคพวก!! ฉันไม่ใช่พวกแก ฉันไม่สนด้วยซ้ำพวกแกจะเป็นยังไง พวกแกทั้งหมดไม่เข้าใจพวกเราเหล่าเด็กที่โดนแซเทิร์นจับไปหรอกนะ!! พวกเราต้องทรมานแค่ไหนกัน ต้องทนทุกข์แค่ไหน พวกแกทั้งหมดไม่รู้หรอก!!”
โพรทาเลียเข้าใจว่าดีแลนพูดหมายถึงอะไรแต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่อีกฝ่ายควรทำจริงๆ
“แต่มันก็ไม่ใช่เหตุผลที่แกจะทำตามแซเทิร์นสั่งเลยสักนิด!! ไม่งั้นถ้านายคิดแบบนั้น แล้วทำไมโพรทาเลียคิดต่างออกไปกันล่ะ!!”
ดีแลนหันสายตาไปจ้องมองหญิงสาวที่ตนรัก โพรทาเลียก็จ้องมองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าที่จริงจังสุดๆ เธอเดินเข้าไปใกล้ๆ ฟีนีอุส
“ดีแลน ฟีนีอุสเขาพูดถูกนะ นายทำไมต้องคิดในแง่ลบแบบนั้นกัน ฉันเลิกคิดมานานแล้วนะ...นายไม่ควรเอาคนที่ไม่เกี่ยวข้องมายุ่งเกี่ยวกับชีวิตที่พวกเราเจอมานะ!!”
“เธอกล้าพูดแบบนั้นได้ไง!! เมื่อก่อนเธอก็แค้นครอบครัวเธอที่ไม่ตามหาเธอเลยไม่ใช่หรือไง!? แล้วนี่เธอกล้า! เข้าข้างผู้ชายคนนี้” ดีแลนจ้องมองฟีนีอุสที่อยู่ตรงหน้าของเขา “เพราะเธอชอบมันใช่ไหมล่ะ?! เธอถึงเข้าข้างมันและไม่เคยมีใจให้ฉันนะ!!”
“มันไม่เกี่ยวกันเลยนะ!! นายกำลังทำผิดตั้งแต่นายเข้าร่วมกับแซเทิร์นแล้ว!!”
“เธอจะบอกว่าฉันผิดสินะ!!” ดีแลนจ้องมองหญิงสาวอย่างผิดหวัง “งั้นได้!! ฉันจะพังพินาศทุกอย่างจนเธอต้องอ้อนวอนกับฉัน!!”
ดีแลนยกมือขึ้นพร้อมกับสิ่งของในมือจน บางอย่างที่อยู่ในมือมันส่องแสงสว่างออกมา จนทุกคนรีบหลบแสงนั้นจนแสบตากัน ฟีนีอุสหลับตาจนมืออ่อนลง ดีแลนเห็นทีท่าอีกฝ่ายอ่อนลง เขาก็ถีบอีกฝ่ายออกไปแล้วลอยตัวขึ้นทันที
“ขอบคุณสำหรับของขวัญที่ฉันได้จากแซเทิร์นละกันนะ เหล่ามนุษย์กึ่งเทพทั้งหลายเอย!!”
ดีแลนพูดจบพร้อมกับวาร์ปหายไปกลางอากาศ จนทุกคนต่างไม่พอใจที่มันหนีไปได้ แต่หารู้ไหมว่าอีกฝ่ายปล่อยระเบิดลูกใหญ่ให้พวกเขาจัดการกัน โพรทาเลียมองจุดที่เหนือหัวพวกเขาทำให้เธอเห็นบางอย่างที่ทำให้ดวงตาเบิกกว้างทันที
“ฟีนีอุส!!”
“หือ? มีอะไร?” ฟีนีอุสหันไปหาโพรทาเลียที่เรียกเขา
เธอชี้นิ้วขึ้นไปกลางอากาศมีหลุดดำหลายหลุมเกิดขึ้น แล้วจู่ๆ ก็มีพวกปีศาจออกมาจากหลุมดำหลายหลุมนั้นออกมา
“อะไรกัน!! นี่มันอะไรกัน!!”
“พวกปีศาจ...ไม่ใช่แค่...10...ไม่สิ...ไม่ใช่แค่...100...”
“เกือบ...1000 กว่าตัวด้วยซ้ำ”
โพรทาเลียเห็นเธอรับสถานการณ์นี่ได้ แต่คนอื่นๆ ที่กำลังเหนื่อยและบอบช้ำอย่างมากจะทำไงล่ะ
“พวกเรามีกันแค่นี่เองนะ...”
“หมอนั้น...ทิ้งระเบิดลูกใหญ่เลยนะคะ พี่...” โฟกัสตามมาอยู่ข้างๆ เธอจ้องมองสิ่งที่ไม่คาดคิดกำลังตกลงมาเรื่อยๆ “เราจะทำไงดี...”
โพรทาเลียกำหมัดแน่น เธอไม่นึกว่าดีแลนจะทำแบบนี้กับเธอ แต่เธอจะไม่ยอมอ้อนวอนต่อสิ่งที่อีกฝ่ายกระทำเด็ดขาด เธอต้องทำบางอย่างเพื่อช่วยทุกคนให้ได้ ระหว่างที่กำลังหาทางออก เสียงของชายที่เธอไม่ได้ยินมานานก็ดังขึ้นข้างในของสองร่างจุติ
‘ยืมพลังของข้าไหมล่ะ?’
“เอ๋!!”
สองพี่น้องได้ยินเสียงแองเจิลข้างในหัวของเขา ทั้งสองจ้องมองหน้ากัน ก่อนจะดึงตัวเองเข้าไปในโลกแห่งจิต เมื่อลืมตาขึ้นก็เห็นแองเจิลอยู่ตรงหน้าของพวกเธอ
“แองเจิล! ท่านหมายความว่าไงที่ว่าจะให้ยืมพลังของท่านนะ?”
“จริงด้วยค่ะ?”
“ก็ให้ยืมพลังแต่...เป็นพลังจากจิตวิญญาณที่เจ้ารวบรวมมานะ!!”
“พลังของจิตวิญญาณ!?”
“ใช่ แต่ว่าถ้าพวกเจ้าจะใช้พลังนี้ พวกเจ้าต้องส่งให้สหายพวกเจ้าทั้งหมดไปยังค่ายฮาล์ฟบลัดซะ!!”
“ส่ง!! หมายถึงขนย้ายพวกเขาออกจากค่ายจูปิเตอร์นะเหรอ?”
“ใช่! เพราะพลังที่พวกเจ้านั้นรุนแรงจนถึงขั้นอาจจะทำให้พวกเขาโดนลูกหลงได้เช่นกัน!!”
“ว่าไงนะ!!”
ทั้งสองอุทานออกมาอย่างงุนงง แต่แล้วแสงรอบๆ ก็สว่างขึ้นพร้อมกับส่งพวกเธอมาสู่ความจริงซะงั้น ทำเอาพวกเธอยังเออหน่อยๆ อยู่เลย
“เมื่อกี้เขาหมายความว่าไง...”
“ไม่รู้สิ...แต่...พวกเราต้องทำตามที่เขาบอกนะสิ!”
โพรทาเลียหันไปหาฟีนีอุสที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอจับชายเสื้ออีกฝ่ายทันที
“ฟีนีอุส!!”
“อะไรเหรอ?”
“ย้ายทุกคนออกจากค่ายจูปิเตอร์ไปยังค่ายฮาล์ฟบลัดเดียวนี่!!”
“ห๊า!! เธอหมายความว่าไง?” ฟีนีอุสหันไปมองอีกฝ่ายด้วยความสงสัย
“พวกเราไม่มีทางสู้พวกมันได้หรอกนะ!! ตอนนี้ต้องขนย้ายทุกคนไปก่อนนะ!!”
“จริงด้วยค่ะ เพราะว่า-” โฟกัสกำลังจะอธิบายสิ่งที่ได้ยินจากแซเทิร์น แต่ก็โดนโพรทาเลียจับแขนเพื่อไม่ให้พูดถึงสิ่งที่พวกเธอได้คำแนะนำมา “หือ?”
โพรทาเลียส่ายหน้าให้น้องสาวเล็กน้อย จนฟีนีอุสสงสัยว่าโฟกัสจะพูดอะไรนะ
“เมื่อกี้โฟกัสจะพูดอะไรหรือเปล่า”
“เปล่านะ เธอแค่อยากบอกว่าถ้าเรารีบพาทุกคนออกไป เราค่อยกลับมาจัดการพวกมันก็ได้นะ!!”
“งั้นเหรอ...”
“พวกนายมีแผนอะไรไหม?” สองแฝดแจ็กสันชายรีบมาทันที
“มีค่ะ พี่ พาทุกคนย้ายไปที่ค่ายฮาล์ฟบลัดโดยด่วนที่สุด”
“คงต้องเป็นงั้นล่ะ!! งั้นพวกเราไปล่ะ ฟีนีอุสฝากสั่งต่อด้วยนะ!!” สองแฝดแจ็กสันชายรีบพากันไปตะโกนบอกคนอื่นๆ ให้หนีจากตรงนี้
“อืม!” ฟีนีอุสขานตอบก่อนจะหันไปมองโพรทาเลียกับโฟกัส ทั้งสองเหมือนมีความลับบางอย่างจนเขารู้สึกแปลกๆ แต่ว่าตอนนี้ต้องพาทุกคนออกไปก่อน “ทุกคน!! รีบย้ายไปยังค่ายฮาล์ฟบลัดเดียวนี่เลย!! คนที่มีหน้าที่สำคัญโปรดพาทุกคนไปยังปลอดภัยด้วย!!”
พอฟีนีอุสสั่งทุกคนที่ได้ยินก็ทำตาม ผู้คนมากมายกำลังถูกย้ายไปยังค่ายฮาล์ฟบลัด เหลือแค่ไม่กี่คนอยู่ที่ประตูมิติ โพรทาเลียใช้สายตาจ้องมองทุกส่วนในค่ายจูปิเตอร์ว่าไม่มีผู้คนอยู่ข้างในแล้ว พอเหลือแค่เธอกับโฟกัสแค่สองคน พี่ชายของพวกเธอมองน้องสาวสองคนที่ยังยืนอยู่อีกฝั่ง
“โฟกัส!! โพรทาเลีย!! รีบเข้ามาเร็ว!!” เบเดอร์ตะโกนออกไป
โพรทาเลียจ้องมองพี่ชายที่เรียกเธอ แต่แล้วเธอแตะที่ประตูมิติ จู่ๆ มันก็ปิดการทำงานของประตูมิติทันที จนทุกคนทางฝั่งค่ายฮาล์ฟบลัดมองกันอย่างงุนงงทันที
“ทำไมประตูมันปิดตัวล่ะ!” ฟีนีอุสมองอย่างตกใจและกังวลที่โพรทาเลียยังอยู่อีกฝ่าย
“พวกโพรทาเลียยังอยู่อีกฝั่งนะ!! พวกปีศาจมีตั้งหลายพันตนเลยนะ!!” เอเดอร์พูดขึ้นมา
เพอร์ซีย์เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เขารีบสั่งเด็กบ้านเฮเฟตัสให้ซ่อมประตูมิติทันที
“บ้านเฮเฟตัส!! ซ่อมประตูเร็วเข้า!!”
“ครับ!!”
ทางด้านค่ายจูปิเตอร์ พวกปีศาจมีมากกว่าพันตัวจนโพรทาเลียพิงประตูมิติ แล้วจ้องมองอย่างสงสัยว่าดีแลนเล่นแบบนี้กับเธอจริงๆ จนทำให้เธอรังเกียจเขาขึ้นมาซะแล้วสิ โฟกัสมองประตูมิติที่ถูกปิดโดยพี่สาวของเธอ เธอไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพี่สาวเธอถึงปิดประตูนี้ ก่อนหน้าก็ห้ามเธอพูดถึงวิธีที่พวกเธอได้รับจากแองเจิลมา
“นี่…พี่ค่ะ...เมื่อกี้พี่ห้ามหนูไม่ให้พูด...เพราะกลัวฟีนีอุสเขาห่วงพี่เหรอ?
“ใครว่าล่ะ...ไม่มีทาง...ฉันแค่ห่วงคนอื่นๆ ต่างหาก!!”
“ปากไม่ตรงกับใจนะคะ พี่”
“เปล่าซะหน่อย!!” โพรทาเลียขานตอบสิ่งที่น้องสาวพูด เธอเดินมาดูพวกปีศาจที่กำลังเดินตรงมาหาพวกเธอกัน “ฉันแค่ไม่รู้ว่าสิ่งที่แองเจิลบอกมามันดูน่าเชื่อถือไป แถม...ยังตัดจบอีก...”
เธอเข้าใจที่พี่สาวพูด เพราะแองเจิลบอกนิดเดียวแล้วตัดการสื่อสารซะงั้น “มันก็จริงนะ...แล้วนี่...พวกเราจะทำไงดี...”
“ให้พวกข้าจะช่วยเองนะ!!” เสียงของจิตวิญญาณส่งตรงสู่ร่างจุติทั้งสอง โดยไม่โผล่ตัวออกมา
“จะช่วยยังไง!?” โพรทาเลียเอ่ยถามออกมา
“พวกเจ้าทั้งสองจะต้องร่วมพลังของพวกเราเข้ามาสู่ร่างกายแล้วปล่อยพลังออกมาเหมือนกับระเบิดนั้นเอง!!”
“ระเบิด!!” ทั้งสองต่างตกใจแล้วมองหน้ากันทันที
“แล้วแบบนี้จะไม่ระเบิดค่ายจูปิเตอร์เอาเหรอ?”
“ไม่หรอกมั้ง?”
ทั้ง 8 พูดออกมาทำให้โพรทาเลียกับโฟกัสไม่มั่นใจกับแผนนี้จริงๆ แต่ไม่มีแผนอื่นแล้วจริงๆ พวกปีศาจต่างมารวมตัวกันอยู่ตรงหน้าพวกเธอ ทำให้ทั้งสองคิดว่าถ้าไม่รอดก็คงโดนจับแน่ๆ ทั้งสองจับมือกันทันที
“เริ่มกันเลยนะ!! โฟกัส”
“ค่ะ!! พี่!!”
พวกปีศาจเตรียมบุกเข้ามาหาพวกเธอ ชั่วพริบตาทั้งสองหลับตาแล้วร่วมพลังของอดีตชาติเข้าสู่ข้างในร่างกาย แสงสว่างรอบตัวพวกเธอเริ่มส่องสว่างขึ้นพร้อมกับกระจ่างออกเป็นวงกว้าง ทำให้พวกปีศาจรอบๆ โดนแสงสว่างนั้นสลายหายไปหลายพันตน สิ่งก่อสร้างรอบๆ ไม่ได้หายไป แสงสว่างนั้นก็หายไปสองแฝดรู้สึกถึงร่างกายที่ไม่มีเรี่ยวแรงเลยหลังใช้พลังนั้นจนล้มลงไปนอนกับพื้น
ทางด้านค่ายฮาล์ฟบลัด สายเลือดเฮเฟตัสกับวัลแคนกำลังถกเถียงถึงการทำงานของประตู เพื่อให้มันกลับมาทำงานอีกครั้ง ครอบครัวแจ็กสันต่างกังวลสุดๆ ว่าทั้งสองคนจะเป็นอะไรไหม แต่จู่ๆ ประตูก็กลับมาทำงานอีกครั้ง ทำให้ทุกคนต่างมองกันอย่างรวดเร็ว
“ประตูเปิดแล้ว!!”
เพอร์ซีย์เห็นว่าประตูเปิดออกแล้ว เขารีบวิ่งไปคนแรกทันที
แอนเบ็ธเห็นสามีวิ่งไปโดยไม่คิดอะไร “เพอร์ซีย์!!”
“โพรทาเลีย โฟกัส!! พ่อไปช่วยแล้ว”
จบตอนที่ 63 โปรดติดตามตอนที่ 64 ต่อไป
Comments (0)