ตอนที่ 21 สารนั้นคืออะไร?

พอได้รับชุดสำหรับป้องกัน โพรทาเลียสงสัยว่าใส่ยังไง เธอเห็นฟีนีอุสใส่ เธอก็ใส่ตาม ตอนนั้นเธอเก็บลูกแก้วเขากระเป๋าทันทีด้วยความปลอดภัย เธอกลัวว่าเธอทำแตกหรือใครมายุ่งกับลูกแก้ว เธอคงโกรธมากแน่ๆ โพรทาเลียแต่งชุดป้องกันสีขาวเรียบร้อย ทั้งชุดคลุมทั้งตัวเหลือแค่ใบหน้า ฟีนีอุสหยิบผ้าปิดปากและแว่นป้องกันให้อีกฝ่าย โพรทาเลียรับมาแล้วนำมาใส่ที่ปากและดวงตา

 

พอทั้งสองคนแต่งตัวกันเสร็จ ฟีนีอุสก็พาคีย์ไปยังจุดสำหรับค้นคว้าเรื่องยาแก้กัน ทั้งสองคนพอเดินเข้าไปข้างใน ก็เห็นเหล่านักวิจัยหลาย 10 คน กำลังค้นคว้าหาตัวยาที่เหมาะแก่การสร้างเป็นยาแก้ พวกเขาทดลองและผิดพลาดมาหลายครั้ง ตลอด 8 วัน ทำเอาทุกคนเครียดมากๆ ว่าพวกเขาจะช่วยพวกคนที่สลบอยู่ได้ไง ฟีนีอุสพาคีย์เดินมาหาคนคนหนึ่งที่กำลังปวดหัวกับตัวยานี้เหมือนกับคนอื่นๆ

 

“ดูพวกเธอยุ่งๆ นะ คาเอล!”

หญิงสาวได้ยินเสียงคุ้นๆ ก็หันไปมองทันที “เอาไงคุณชายฟีนีอุส ฉันไม่นึกว่านายจะเข้ามานะ”

โพรทาเลียมองคนฟีนีอุสว่าคาเอล เธอได้ยินแค่เสียง แต่ใบหน้าไม่ค่อยเห็นเท่าไร เพราะทุกคนปิดใบหน้ากันหมด

“ก็...ถ้าไม่ใช่คำขอร้อง ฉันก็คงไม่เข้ามาวุ่นวายกับพวกเธอหรอกนะ”

“คำขอร้อง? ของใครล่ะ? คุณเพอร์ซีย์เหรอ? คาเอลหันกลับมาดูกล้องจุลทรรศน์ที่เธอกำลังตรวจสารในเครื่องพ่นควันอยู่ ” บอกคำเดียวนะว่าฉันกับพรรคพวกยังไม่สามารถแยกสสารพวกนี้ได้สักที ดูมันละเอียดจนไม่รู้ว่าคนสร้างคิดมันได้ยังไงก็ไม่รู้! ?

โพรทาเลียคิดเลยว่าพวกนี้กำลังชมคนสร้างมันสินะ แต่สร้างยาแบบนี้ได้ ก็เรียกว่าอัจฉริยะแล้วล่ะ คนแบบนั้นนะ

“เอ่อ...ไม่ใช่คุณแจ็กสันเหรอนะ คาเอล” ฟีนีอุสแก้คำที่คาเอลนึกว่าคุณแจ็กสันส่งเขามา

“หือ?คาเอลหันกลับมามองฟีนีอุส “แล้วใคร?

 

ฟีนีอุสหันตัวไปข้างหลังเขา โพรทาเลียที่กำลังมองอยู่ก็ยิ้มออกมา ถึงแม้อาจจะไม่เห็นเธอยิ้ม เพราะเธอใส่ผ้าปิดปากก็ตามทีเถอะ เมื่อคาเอลเห็นอีกฝ่าย เธอลุกขึ้นแล้วลากฟีนีอุสออกมาจากตรงนั้น โพรทาเลียสงสัยเลยว่าอีกฝ่ายลากฟีนีอุสไปทำไม ตัวเธอควรตามไปไหม พอคาเอลลากฟีนีอุสห่างจากอีกฝ่าย เธอก็พูดขึ้นมาทันที

 

“พายัยโพรทาเลียมาด้วย!! ทำไม!!” คาเอลขึ้นเสียงใส่ฟีนีอุสทันที

ฟีนีอุสสะดุ้งพร้อมกับงงกับคำพูดอีกฝ่าย “อะไรนะ? เธอบอกว่าฉันพาใครมานะ?

“โพรทาเลียไง!! เมื่อกี้อยู่ข้างหลังนาย!! นายคงบอกว่าเปล่านะ!! นายก็รู้ว่าฉันไม่ถูกกับยัยนั้น!!” คาเอลทำหน้าไม่ชอบใจสุดๆ

ทั้งสองคนหันไปมองคีย์ที่ยื่นอยู่อย่างงงว่าเกิดอะไรขึ้น ฟีนีอุสถึงกับหัวเราะออกมาทันที

“ฮ่าๆ คาเอล เธอคงเหนื่อยน่านะ”

“ฉันไม่ได้เหนื่อยนะ!!” คาเอลขมวดคิ้วทันที ทำไมเพื่อนเธอถึงพูดแบบนี้กัน “นายพาโพรทาเลียมานะ!!”

“เฮ้อ...” ฟีนีอุสหันไปหาคีย์แล้วควักมือเข้าหาตัว เหมือนเรียกอีกฝ่าย

พอโพรทาเลียอีกฝ่ายเรียกเธอ เลยเดินมาหาทันที “มีอะไรเหรอ? ฟีนีอุส”

คาเอลได้ยินเสียงอีกฝ่าย เธอสงสัยทันทีว่าทำไมเสียงอีกฝ่ายไม่เหมือนเสียงโพรทาเลีย

“นายช่วยบอกชื่อตัวเองกับเธอคนนี้หน่อยสิ”

“ได้สิ” โพรทาเลียหันไปทางคาเอลทันที "ไง ฉัน คีย์ วันเดอร์เลอร์ ยินดีที่ได้รู้จักนะ"

คาเอลมองอย่างอึ้งๆ เมื่ออีกฝ่ายแนะนำตัว โพรทาเลียมองอย่างสงสัยว่าอีกฝ่ายยังมีสติอยู่ไหม คาเอลเข้ามาใกล้ๆ อีกฝ่ายทันที เธอมองอย่างพิถีพิถัน ก่อนจะพูดทันที

“นายคือ คีย์ วันเดอร์เลอร์เหรอ?

“ฮะ?โพรทาเลียพยักหน้าทันที

“นายไม่ใช่โพรทาเลียใช่ไหม?คาเอลยังถามอีก

“ใช่...ฉันไม่ใช่โพรทาเลีย...” โพรทาเลียเริ่มสงสัยล่ะว่านี้มันเรื่องอะไร เธอหันไปหาฟีนีอุสทันที “เอ่อ...ฟีนีอุส เธอคนนี้เขาเป็นอะไรนะ”

“อ๋อ...เธอแค่นึกว่านายคือโพรทาเลียนะ”

“เอ๋?โพรทาเลียตกใจเลยว่าอีกฝ่ายนึกว่าเธอคือนูอัสเหรอ ทำเอาเธอเหงื่อตกเลยจริงๆ “แล้วทำไมเธอนึกว่าฉันคือโพรทาเลียล่ะ?

"ก็...เธอไม่ชอบใจโพรทาเลียนะ ครั้งก่อน ก่อนนายมาอยู่นี้ ยัยนั้นทำงานวิจัยที่คาเอลจะไปส่งที่โรงเรียนพังหมดนะ"

“ตายล่ะ...” โพรทาเลียได้ยินก็รู้สึกเศร้าใจแทนเลย “อย่างงี้เหมือนกับเวลาที่ทำงานประดิษฐ์บางอย่างได้อย่างสวยงามแล้ว แต่ก็ยังมีคนทำมันพัง ทำเอาใจสลายได้เลยนะ”

คาเอลได้ยินมองคีย์ที่พูดเรื่องนั้นออกมา “นี่นายก็เคยโดนโพรทาเลียเล่นงานเหรอ?

โพรทาเลียพยักหน้าทันที ทั้งสองคนมองหน้ากันพอมองกันเหมือนรู้สึกเข้าใจกันและกันเลย

“พวกเดียวกัน!!” ทั้งสองคนกอดพร้อมกันทันที

ทำเอาคนที่มองเฉยๆ อย่างไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอย่างฟีนีอุส ที่มองทั้งสองคนกอดกัน คาเอลรู้สึกว่าอีกฝ่ายต้องเป็นเพื่อนที่ดีของเธอแน่ๆ

“นายต้องเป็นเพื่อนที่ดีของฉันแน่ๆ วันเดอร์เลอร์”

“เช่นกันเอ่อ...” โพรทาเลียยังไม่รู้จักอีกฝ่ายเลย

“โทษนะ ฉันยังไม่ได้แนะนำตัวเลยสินะ...คาเอล มิโดว่า ลูกสาวอาจารย์ไครอนนะ”

“เอ๋? ลูกสาวอาจารย์ไครอน…เอ๋!! อาจารย์ไครอนคนนั้นนะเหรอ!!” โพรทาเลียตกใจ เธอนึกถึงชายผมสีขาวผสมสีเทามีท่อนร่างเป็นม้าขาว

“ใช่...คงไม่คิดว่าคนคนนั้นจะมีลูกสาวสินะ” คาเอลพูดออกมา เธอรู้ว่าหลายๆ คนก็สงสัยว่าคนอย่างอาจารย์ไครอนมีลูกกับเขาด้วยเหรอ

“ไม่เลยนะ...แปลว่าเห็นท่าน...เอ่อ...ดู...”

“ใช่ พ่อเขาอายุเยอะแล้วนะ ท่านอยู่มานานถึงหลายร้อยปีแล้วนะ”

“ว้าว...ฉันถึงรู้นะเนี่ย พอๆ กับอาจารย์ของฉันที่เป็นเซนทอร์ด้วยนะเนี่ย”

“เอ๋? นายมีอาจารย์เป็นเซนทอร์เหรอ?คาเอลถามอีกฝ่าย

“อ๊ะ...ใช่...พอดีอาจารย์เขาเป็นชายที่คล้ายๆ อาจารย์ไครอนนะ แต่ผมเขายังมีน้ำตาลและสีขาวผสมกันนิดหน่อยนะ”

“ว้าว ฉันพึ่งรู้ว่าโลกภายนอกยังมีเซนทอร์ที่มีสติคุยได้ด้วยเหรอ?

“เอ๋? ทำไมเหรอ?โพรทาเลียสงสัยที่อีกฝ่ายพูดออกมา

“ก็เซนทอร์ส่วนใหญ่จะเอาแต่วิ่งหรือทะเลาะกันไม่ฟังใครนะ ไม่เหมือนพ่อฉันที่มีสติปัญญาที่สอนเหล่ามนุษย์กึ่งเทพมานานหลายร้อยปีนะ”

“แบบนี้เอง...” โพรทาเลียตอบอีกฝ่ายไป แต่ข้างในตัวเองกับรู้สึกเหงื่อตกจริงๆ “แต่ว่านะ...ช่างเรื่องของฉันเถอะ แต่ที่ฉันคิดอาจารย์ไครอนก็เท่อยู่แล้ว ถ้าภรรยาสวยด้วย ลูกสาวอย่างเธอก็คงทั้งสวยและเท่มากๆ แน่ๆ”

คาเอลได้ยินแบบนั้นเธอถึงกับมีใบหน้าที่แดงมากๆ เหมือนมะเขือเทศ ฟีนีอุสส่ายหน้ากับคำพูดของคีย์ที่ชมอีกฝ่าย แต่ก็มีเสียงของคนหนึ่งขำออกมา

“ฮ่าๆ ดูเข้า ดูเข้า โดยวันเดอร์เลอร์ชมที่เดียวเธอก็กลายเป็นแบบนี้ไปจนได้นะ มิโดว่า”

เสียงอันคุ้นเคยนั้นทำให้โพรทาเลียหันไปมองทันที เธอก็หันไปยิ้มทันทีเมื่อเห็นคนที่ทักคาเอล

“นาย!! มิวเลอร์!!” คาเอลหันไปมองชายที่เป็นเหมือนหนามขวางคอเธอ ทุกครั้งที่เธอทำอะไรที่แปลกไปกว่าปกติ “ยุ่งอะไรด้วยไม่ทราบยะ!!”

“ยุ่งอะไรก็เปล่าซะหน่อย แค่จะบอกว่ารีบๆ ทำงานของตัวเองหน่อย อย่าเอาแต่หว่านเสน่ห์ใส่ผู้ชายน่านะ” โอลิเวอร์แซวให้คาเอลทันที

“อ๊ากกกกกกกกกก!! นาย!!” คาเอลจะเข้าไปตีอีกฝ่าย

แต่โอลิเวอร์ก็เอามือดันหัวอีกฝ่ายทันที แล้วหันไปหาพวกคีย์

“ไง ทั้งสองคนมาทำอะไรที่นี้ล่ะ” โอลิเวอร์ถามด้วยความสงสัย

“พอดีคีย์เขาอยากมาดูพวกสารที่มาจากเครื่องพ่นนะ” ฟีนีอุสตอบที่โอลิเวอร์ถาม

“หือ! ?โอลิเวอร์มองคีย์ มือเขายังดันหัวของคาเอลอยู่ “ทำไมคีย์ต้องการดูล่ะ”

“เอ่อ...” โพรทาเลียคิดหนักเลยว่าจะอธิบายยังไง จนเธอคิดได้ว่าเธอเคยโกหกเรื่องอายุของเธอ เธอจะใช้คำโกหกนั้น เพื่อแก้ตัวเรื่องที่เธออยากรู้ว่านูอัสใช้ยาอะไร “แบบว่าฉันอยากช่วยนะ พอดีว่าฉันอยู่มา 200 ปี เพื่อว่าฉันจะรู้ว่ายาตัวที่นำมาใช้อาจจะมาจากในยุคที่ฉันอยู่ก็ได้นะ”

“หือ!!”

ทุกคนอึ้งไปทันที คาเอลที่กำลังจะทำร้ายโอลิเวอร์ เธอดันมืออีกฝ่ายออกจากหัวเธอ แล้วเดินตรงมาหาคีย์อย่างเร่งรีบ

“นายพูดจริงเหรอ!!” คาเอลถามอีกฝ่ายทันที

“ก็ไม่แน่ชัด...แต่อยากขอดูก่อนนะ จะบอกอะไรได้นะ” โพรทาเลียก็ตอบด้วยความสงสัย

“ฉันไม่ได้หมายถึงว่านายรู้เรื่องยาหรือเปล่านะ ฉันหมายถึงที่นายอยู่มา 200 ปีแล้วนะ! ?

“หือ?โพรทาเลียมองโอลิเวอร์ “อ้าว? พวกนายไม่รู้เหรอ?

“ไม่รู้นะสิ!!” โอลิเวอร์กับคาเอลพูดพร้อมกันทันที

ฟีนีอุสไม่พูดอะไร เขาขำอยู่ในลำคอที่เห็นสีหน้าเพื่อนๆ ดูตกใจ ถึงเขาจะตกใจสักเล็กน้อยก็ตามที

“แบบนี้ นายก็รู้อะไรเยอะสินะ?โอลิเวอร์ถามขึ้นมา

“ก็รู้แค่บางอย่างนะ เพราะว่าฉันเคยไปอยู่ในโลตัสคาสิโน่มาก่อนด้วยนะ...”

“โอเค...งั้นมานี้ละกัน คีย์” คาเอลเรียกคีย์ให้ตามเธอมา เธอพาอีกฝ่ายมาอยู่ข้างๆ สิ่งของอย่างหนึ่ง มันคือกล้องจุลทรรศน์

“นี่...คือ...?โพรทาเลียสงสัย

“สำหรับนายคงไม่รู้จัก มันคือกล้องจุลทรรศน์นะ ไว้ขยายพวกสิ่งที่เราไม่เห็นด้วยตาเปล่านะ” คาเอลแนะนำเครื่องที่มีท่อนยาวเอียงตัว แล้วมีแท่นสำหรับวางอย่างอยู่

“งั้นก็คล้ายๆ กับกล้องขยายของฉันสินะ”

โพรทาเลียนึกถึงสิ่งประดิษฐ์ของเธอ ที่สามารถส่องสิ่งตัวเล็กๆ กว่าที่พวกเธอมองไม่เห็นได้

“เธอมีกล้องจุลทรรศน์ด้วยเหรอ?คาเอลแปลกใจที่อีกฝ่ายมีสิ่งที่ทันสมัยได้

“อืม พอดีฉันเป็นคนประดิษฐ์มันขึ้นมานะ” โพรทาเลียอธิบายให้คาเอลพูด

“เจ๋งเลย ฉันอยากเห็นจัง” คาเอลดุสนใจสิ่งที่อีกฝ่ายสร้าง

“ไว้อะไรจบแล้ว ฉันจะให้ดูละกัน” โพรทาเลียสัญญากับอีกฝ่าย เธอขอเขยิบนั่งตรงเก้าอี้ “ฉันขอดูหน่อยละกันนะ”

“ตามสบายเลย” คาเอลปล่อยให้คีย์ดูสารตัวนั้น

โพรทาเลียตรวจดูสารที่ถูกใส่ในเครื่องพ่น โพรทาเลียดูสารนั้น เธอกับรู้สึกหัวใจเหมือนจะวูบ มันทำให้โพรทาเลียเคืองกับสารตัวนี้ทันที ในใจเธอคิดอย่างเดียวว่า

‘มันมาอยู่นี้ได้ยังไง มันไม่น่าอยู่นี่...ข้าทำร้ายมันไปแล้วนี่น่า!!’

โพรทาเลียมองสารนั้นอย่างครุ่นคิด แล้วคาเอลก็พูดขึ้นมา เพื่อให้ข้อมูลแก่ทุกคน

“พวกเราหลายคนตรวจนะ รู้ว่ามันเป็นจากธรรมชาตินะ แต่เห็นบอกว่าน่าจะหายากมากเลยล่ะ” คาเอลพูดพร้อมกับมองคนอื่นๆ

“ใช่ๆ ทุกคนบอกว่ามันไม่สามารถหาได้ แต่มันก็เป็นสารจากธรรมชาติ” โอลิเวอร์พูดเสริมทันที “แต่ของพวกนี้มันจะหาจากไหนนะ?

“น่าจะยากหน่อยนะ...” โพรทาเลียพูดขึ้น เธอหันไปหาทุกคน “เพราะของพวกนี้อยู่ข้างนอกหมด แต่อยู่ในที่ที่ไม่เคยมีใครเคยไปเลยด้วยซ้ำน่านะ แต่บางอย่างก็หาจากสิ่งที่น่าจะใกล้ตัวได้อย่างนะ”

“มันคืออะไรล่ะ?คาเอลกับโอลิเวอร์พูดพร้อมกัน ทั้งสองมองหน้ายังไม่ชอบใจจริงๆ

“สารจากเครื่องพ่นควัน อย่างแรกเป็นคือเซลล์ผิวหนังจากยักษ์ไซคลอปส์...”

ทุกคนฟังถึงกับอึ้งไปทันที ทุกคนต่างรู้สึกขนลุกจริงๆ ฟีนีอุสได้ยินแบบนั้น เขาเลยรู้สึกสงสัยเลยว่าอีกฝ่ายไม่ได้พูดจริงใช่ไหม

“เมื่อกี้นายพูดอะไรนะ?ฟีนีอุสถามเพื่อให้อีกฝ่ายทวนซ้ำอีกครั้ง

โพรทาเลียเห็นว่าทุกคนคงไม่เชื่อเธอแน่ๆ เธอต้องพูดซ้ำอีก “ผิวหนังยักษ์ไซคลอปส์”

“ฉันอยากอ้วก...” คาเอลได้ยินแบบนั้น อยากอ้วกมากๆ

“แล้วจะมีอะไรอีกไหม?โอลิเวอร์ถามเพิ่ม

“ก็...หอยทากยักษ์จากท้องคาริบดีส”

โอลิเวอร์ได้ยินตกใจทันที “ห๊า!! คาริบดีส! ผู้พิทักษ์แห่งมหาสมุทรในสามเหลี่ยมเบอร์บิวด้านะเหรอ!!”

“ใช่!” โพรทาเลียตอบทันที

“ตายๆ แล้วอย่างอื่นล่ะ นายรู้อีกไหม คีย์” โอลิเวอร์ถาม

“ดูสารแต่ละตัวบางตัวก็ไม่รู้น่านะ ฉันรู้เท่านี้ล่ะ...” โพรทาเลียพูดเสร็จก็ลุกขึ้น

“อืมๆ แบบนี้เองสินะ” โอลิเวอร์ทำสีหน้าซีเรียสหน่อยๆ

“งั้น...เดียวฉันจะเอาไปบอกคนอื่นๆ มั้งดีกว่า เพื่อสามารถจะหายาแก้ได้เร็วๆ” คาเอลพูดแล้วเดินไปหาทุกคนทันที

“ต้องขอบคุณ คีย์ นะที่ทำให้พวกเขากระจ่าง ถึงจะเล็กน้อยก็ตามทีเนอะ คีย์” ฟีนีอุสหันไปทางคีย์ เขาก็เห็นใบหน้าอีกฝ่าย

โพรทาเลียกำลังขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจจริงๆ ที่โดนเล่นแบบนี้ เธอกำลังโดนแซเทิร์นรบกวนใจมากๆ ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงส่งยามาให้นูอัส ทำเอาเธอขมวดคิ้วอย่างหนักจนฟีนีอุสที่มองเริ่มเป็นห่วงมากๆ

“คีย์...คีย์…”

โพรทาเลียได้ยินที่ฟีนีอุสเรียกเธอ เธอก็หันหน้าไปหาอีกฝ่ายทันที “ว่าไง?

“นาย...เป็นอะไรหรือเปล่า?ฟีนีอุสถามด้วยความเป็นห่วง

โพรทาเลียถึงกับสีหน้าเปลี่ยนไป เธอยิ้มทันที “เปล่านะ แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยนะ เอ่อ...นายจะทำอะไรอีกไหม?

“ฉันจะไปดูพวกที่คนสลบนะ นายจะไปด้วยไหม?ฟีนีอุสชวนอีกฝ่าย

“ไม่ล่ะ ฉันว่าฉันกลับไปดีกว่านะ นายไปเถอะ” โพรทาเลียเตรียมตัวจะออกไป

"เอ่อ...งั้นกลับบ้านพักดีๆ ล่ะ"

“โอเค...” โพรทาเลียโบกมือลาอีกฝ่ายแล้วเตรียมเดินออกไปทางเดิมที่เธอเข้ามากับฟีนีอุส

 

ฟีนีอุสมองอีกฝ่ายอย่างห่วงมากๆ เขาหันไปมองสารสีม่วงๆ นั้น เขาสงสัยเลยว่ามันคืออะไรกันแน่ โอลิเวอร์หันมามองใบหน้าของคาเอลที่เดินกลับมา เธอเดินผ่านคีย์ที่เดินออกไป สีหน้าเธอเปลี่ยนไปทันทีเมื่อมองคีย์ที่เดินออกไป เธอทำสีหน้าแบบอึ้งๆ พอเธอเดินมาถึงพวกโอลิเวอร์ โอลิเวอร์สงสัยแล้วขมวดคิ้วถามเธอทันที

 

“เธอเป็นอะไรหรือเปล่า? คาเอล”

“ไม่รู้สิ...คือ...เมื่อกี้ตอนเดินผ่านคีย์แล้ว...ใบหน้าเขา...” คาเอลรู้สึกกลัวๆ กับใบหน้าของคีย์

ฟีนีอุสได้ยินแบบนั้น เลยถามด้วยความสงสัยทันที “เธอเห็นอะไรเหรอ?

“ก็พอฉันเดินผ่านเขา สีหน้าเขาเปลี่ยนไป...เหมือนคน...กำลังทั้งโกรธ ทั้งเคือง มันหมายถึงสีหน้าที่...ทำเอาฉันกลัวเลยนะ...”

“เอ่อ...เธอตาฝาดหรือเปล่า?โอลิเวอร์ถามคาเอลทันที

“ฉันเปล่านะ!!” คาเอลตะโกนใส่โอลิเวอร์ทันที

 

ทั้งสองคนยืนเถียงกันเรื่องคีย์ที่ทำสีหน้าแปลกไป ฟีนีอุสได้ยินที่คาเอลพูด เขาคิดว่าแปลว่าไม่ใช่เขาคนเดียวที่เห็นคีย์เป็นแบบนั้น เขายิ่งห่วงคีย์มากขึ้นไปอีกเลยว่าอีกฝ่ายกำลังโกรธอะไร หรือว่าสารตัวนี้เกี่ยวข้องกับอีกฝ่าย ในหัวของฟีนีอุสกำลังมีความคิดเยอะมากๆ จนเขาคิดในใจ

 

‘โพรทาเลีย...เธอเป็นอะไรนะ?

 

คำพูดในใจของเขาเป็นห่วงอีกฝ่ายมากๆ แต่เขายังไม่สามารถบอกอีกฝ่ายว่าเขานั้นห่วงแค่ไหน

 

ทางด้านโพรทาเลียพอออกมาจากจุดอันตรายนั้น เธอเดินออกมาสักพัก เธอก็หามุมอับไม่มีคน เธอกระโดดจากพื้นขึ้นไปยังกิ่งต้นไม้ เธอกระโดดจากอีกกิ่งหนึ่งไปอีกกิ่งหนึ่ง เธอกระโดดไปอย่างโกรธเกี๊ยวมากๆ อารมณ์เธอพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อนึกถึงสารที่เธอถึงกับกำหมัดแน่นมากๆ เธอกระโดดจนมาถึงโซนที่เรียกว่า จุดชมพลุ พอเธอมาถึงใบหน้าของโพรทาเลียนั้นเป็นสีแดงมากๆ ก่อนจะตะโกนออกไป

 

“ไอ้บ้าเอยยยยยยยยยย!!” โพรทาเลียก้มลงไปหยิบก้อนหินแล้วปาก้อนหินไปที่ทะเลทันที “พวกมันกล้าดียังไงเอาของที่ฉันสร้างมาใช้แบบนี้!!”

โพรทาเลียโยนก้อนหินหลายอัน ลงไปในทะเลสาบอย่างเดียว พวกนางพรายที่อยู่ใต้ทะเลต่างว่ายหนีกันทันที

“ไอ้พวกเวรตะไลเอย!! พวกแกควรตายไปซะ!!”

โพรทาเลียตะโกนสุดเสียจนดังไปทั่วแถวนั้น อารมณ์โกรธของเธอพุ่งสูงขึ้นทุกทีจนเธอ หันไปเห็นก้อนหินใหญ่อยู่ข้างๆ เธอเห็นแล้วนึกถึงแซเทิร์นทันที เธอเดินไปใกล้ๆ แล้วพูดปล่อยอารมณ์ทันที

“แซเทิร์น!! แก!! แกกล้าส่งยานั้นมาให้นูอัส!! ฉัน!! ฉัน!! โพรทาเลีย แจ็กสันคนนี้โกรธแล้วเว้ยยยยยยยยยยยยยยยย!!”

 

โพรทาเลียพูดประโยคสุดท้าย เธอยกหมัดขึ้นแล้วเหวี่ยงสุดแรงเกิด แล้วชกไปที่ก้อนหินนั้นจนมันแตกกระจายทันที เธอหอบหายใจกับอารมณ์ที่เธอระบายออกไป พอเธอลืมตาขึ้นมามองตรงหน้า ทำเอาโพรทาเลียสายตาอึ้งไปทันที เมื่อเธอเห็นคนอยู่ตรงหน้าเธอถึงสามคน ทำเอาโพรทาเลียหน้าซีดทันที ที่มีคนมาอยู่แถวนี้ตอนที่เธออาละวาดแล้วตะโกนชื่อตัวเองออกไป

 

“นะ...นี่...พะ...พวกเธอ!!”

 

จบตอนที่ 21 โปรดติดตามตอนที่ 22 ต่อไป