ตอนที่ 45 ครอบครัวที่ไม่ได้เจอกันตั้งนาน

ระหว่างที่โฟกัสหันมาคุยกับพี่สาวเรื่องของคนที่มีชื่อว่า เอสเทล โพรทาเลียนั้นจำไม่ค่อยได้ว่าคนคนนั้นเป็นใครกัน เพราะตลอดหลายปีเธอนั้นเจอแต่สิ่งแย่ๆ มาตลอด เลยจำได้แค่พี่น้อง พ่อแม่ที่เธอรักมากๆ เลยไม่จำได้เลยสักคน แต่หลังๆ มานี้ก็จำได้บางคนที่เธอเคยเจอสมัยเด็กๆ แต่พอโพรทาเลียกำลังคิดว่าคนรู้จักที่โฟกัสบอกเป็นคนรู้จัก ทำให้เธอสงสัยจนกระทั่งได้เห็นหญิงวัยกลางคนเดินออกมาจากประตู ทำให้เธอมีสีหน้าที่อึ้งไปทันที

 

“คุณ...ย่า...”

โพรทาเลียจ้องมองผู้เป็นย่า เธอค่อยๆ จำได้ว่าคนตรงหน้าคือใครกัน ใบหน้าอันเริ่มชราลง แต่ก็ยังดูสาวอยู่บาง ผมสีน้ำตาลหยิก ดวงตาสีฟ้า แล้วรอยยิ้มที่ส่งยิ้มให้พวกเธอ พอหญิงวัยกลางคนเห็นทั้งสองเธอโผเข้ากอดโดยทันที

“โฟกัส โพรทาเลีย ย่าคิดถึงหลานจริงๆ” พอดันตัวออกแล้วมองหลานทั้งสองพร้อมกับลูบใบหน้าของทั้งสอง "หลานทั้งสองมาหาย่าเหรอจ๊ะ? แล้วทั้งสองคนสบายดีกันไหมเอย?"

ผู้เป็นย่าถามพวกเธอไม่หยุด โฟกัสได้แต่ยิ้มอย่างเดียว เธอหันไปมองพี่สาวที่ยังมองผู้เป็นย่าอย่างอึ้ง ทำให้เธอต้องเปิดปากพูดขึ้นมาเอง

“พวกเราก็สบายดีค่ะ ทุกคนก็ด้วย แล้วย่าแซลลี่เป็นไงมั้งค่ะ”

“ก็ดีจ้ะ ธุรกิจก็ไปได้ด้วยดีไม่สะดุดเลยนะจ๊ะ”

“ดีแล้วค่ะ อาหารร้านของคุณย่าดีที่สุด แถมหนูยังชอบแพนเค้กสีฟ้าของย่าอีกต่างหาก”

“จ้า หลานก็ชอบทุกอย่างนั้นล่ะ แล้ววันนี้มาทำอะไรกันที่นิวยอร์กนี้ล่ะจ๊ะ”

“เอ่อ...” โฟกัสหันสายตาไปที่พี่สาวที่ยังจ้องมองย่าอยู่ นั้นทำให้เธอต้องเปิดปากพูดต่อ “พอดีเรามาทำภารกิจนะคะ แล้วก็ผ่านมาแถวนี้พอดี เลยคิดถึงคุณย่าที่ไม่เจอกันตั้งนาน หนูกับพี่โพรทาเลียเลยมาหาคุณย่านะคะ”

“ย่าดีใจที่หลานๆ คิดถึงย่านะ” ผู้เป็นย่ายิ้มอย่างดีใจที่หลานๆ มาหา แล้วหันไปหาหลานสาวอีกคนที่นิ่งเงียบมาสักพักแล้ว “โพร หลานไม่พูดไม่จากับย่าหน่อยเหรอจ๊ะ”

“อ๊ะ!” โพรทาเลียตั้งสติแล้วหันไปมองคนเป็นย่าที่พูดกับเธอ “โทษค่ะ...คือหนู...”

โพรทาเลียยังอึ้งๆ ที่เธอได้มาเจอย่าที่ไม่ได้เจอมาหลายปี ทำให้จิตใจเธออ่อนแอลง เธอกำลังควบคุมจิตใจให้เข้มแข็ง ผู้เป็นย่าเห็นสีหน้าของหลานสาวแปลกๆ เลยเข้าไปใกล้ๆ แล้วกอดหลานสาวให้แน่นๆ โพรทาเลียอึ้งที่ย่าเข้ามากอดเธอ

“สีหน้าดูไม่ดีเลยนะ ย่าว่าการกอดของย่าน่าจะช่วยทำให้หลานดีขึ้นนะ”

โพรทาเลียได้ยินคำพูดของย่าที่มันเหมือนทิ่มเข้ามาในใจของเธอ ทำให้เธอกอดย่าอย่างเบามือ กลิ่นอายอันหอมหวานจากตัวของย่า ทุกการสัมผัสที่ทำให้คิดถึง

โพรทาเลียดันตัวเองออกแล้วมองผู้เป็นย่า “ขอบคุณสำหรับอ้อมกอดอันอบอุ่นนะคะ คุณย่า”

“ย่าดีใจที่หลานย่าได้กลับมาหาย่าอีกครั้งนะ”

โพรทาเลียฟังสิ่งที่ย่าพูด มันทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ เหมือนแฝงคำพูดบางอย่างไว้

"หนูก็ต้องกลับมาหาย่ามั้งนั้นล่ะนะ"

“งั้นเหรอจ๊ะ...” ผู้เป็นย่าจับมือหลานสาวแล้วลูบไปมา “หลานนะยังมีพวกเราและครอบครัวเสมอนะ เดือดร้อนอะไรก็ขอความช่วยเหลือได้เสมอนะจ๊ะ”

“ค่ะ...”

โพรทาเลียยิ้มให้ผู้เป็นย่า เธอรู้สึกแปลกใจหน่อยๆ ที่น่าพูดแบบนั้น แต่คำพูดของย่าคงเคยพูดกับพ่อของเธอแน่ๆ

“เอาล่ะ พวกหลานๆ คงเดินทางกันมาเหนื่อยๆ เข้ามาข้างในก่อนเร็ว ย่ากำลังทำสปาเก็ตตี้ทูน่าอยู่เชียว”

“สปาเก็ตตี้! ท้องหิวพอดีเลยค่ะ!” โฟกัสพูดพร้อมกับลูบท้องของตนเอง

“ได้กลิ่นมาถึงหน้าประตูเลยนะคะ” โพรทาเลียพูดขึ้นมา

ผู้เป็นย่าตาตื่นขึ้นมาทันที “ตายแล้ว พวกหลานๆ เข้ามากันเลยนะ เดียวย่าขอเข้าไปดูอาหารก่อนนะ!!”

หญิงวัยกลางคนรีบเดินเข้าไปในบ้านเพื่อไปดูอาหารที่เธอทำ สองพี่น้องมองหน้ากันอย่างสงสัย แล้วเดินเข้าไปข้างในกัน พวกเธอเลี้ยวไปซ้ายไปตามทางแล้วเดินตรงไปยังห้องกว้าง ก่อนจะได้ยินเสียงย่าพูดขึ้น

“ขอบคุณจริงๆ ที่คุณมาดูนะ ที่รัก”

พอเดินเข้ามาโพรทาเลียก็เห็นชายที่ยืนอยู่ข้างๆ ผู้เป็นย่า เขามีผมสีเทาปนดำทำให้ดูเท่หน่อยๆ ส่วนรูปร่างสูงกว่าหญิงวัยกลางคนแค่นิดหน่อย

“เรื่องแค่นี้เอง คุณเถอะไปไหนมานะ แซลลี่ ถึงปล่อยอาหารไว้นะ” ชายวัยกลางคนถามขึ้น

“ก็แบบว่า...” แซลลี่หันไปหาเด็กๆ ที่เดินเข้ามาข้างใน

ชายวัยกลางมองภรรยาของตนเอง แล้วหันไปมองตามสายตาของภรรยา เขาก็ได้เห็นเด็กสาวสองคนที่เขาเคยจำได้ แต่พอชายคนนั้นหันมาโพรทาเลียจำใบหน้านั้นได้ทันที ว่าชายคนนี้คือใคร สามีของย่า ปู่ พอล โบลฟิส

พอลเห็นหลานสาวทั้งสองเขาก็ยิ้มขึ้นมาทันที “อ้าว? หลานปู่ลมอะไรหอบมาล่ะเนี่ย?

“สวัสดีค่ะ ปู่พอล พวกนี้มาทำภารกิจแถวนี้นะคะ เลยมาเยี่ยมคุณปู่และคุณย่าหน่อยนะคะ”

“แม้ๆ ลำบากแย่” พอลเดินมาหาหลานทั้งสองคน เขายกมือขึ้นมาลูบหัวหลานทั้งสองคน “ไม่นึกนะว่าผ่านมาหลายปีแล้ว หลานๆ โตขึ้นเยอะเลยนะ”

ทั้งสองคนยิ้มให้ผู้เป็นปู่ของเธอ พวกเธอดีใจที่ได้เจอคนในครอบครัว แซลลี่มองหลานๆ ที่กำลังอยู่กับสามีของตน ก่อนที่เธอจะเตรียมหันไปดูเส้นที่เธอต้มอยู่

“เอาล่ะ ปู่หลานไปนั่งที่ห้องนั่งเล่นก่อนละกันนะ เดียวย่าขอทำอาหารอีกสักหน่อยก็จะเสร็จแล้วล่ะ”

“โอเคค่ะ” โฟกัสจูงมือพี่สาวเดินไปที่ห้องครัวที่อยู่ด้านซ้ายมือของพวกเธอ

พอลเดินไปหยิบกล่องบางอย่างออกมา แล้วเดินตรงไปหาหลานสาวทั้งสอง เขาวางกล่องไว้ตรงหน้าของหลานทั้งสอง

“ทานได้นะ ข้างในเป็นคุกกี้”

“ขอบคุณค่ะ ปู่พอล” โฟกัสพูดจบก็เปิดแกะกล่องตรงหน้า

โพรทาเลียจ้องมองน้องสาวที่กำลังแกะกล่องขนม ก่อนที่เธอจะหันไปหาปู่ “ขอบคุณสำหรับขนมค่ะ คุณปู่พอล...”

 

“ทานเยอะๆ เลยนะ”

“ค่ะ”

 

พอโพรทาเลียคุยกับปู่จบก็มองน้องสาวที่ทานขนมอยู่ เธอก็ยื่นมือไปหยิบขนมหนึ่งชิ้น พร้อมปากสัมผัสกับขนมกลิ่นอายของเนยและน้ำตาลเข้ามาสู่ลิ้นของเธอ ทำเอาโพรทาเลียรู้สึกดื่มด่ำกับขนมนั้นอยู่สักพัก พอทานขนมหมด โฟกัสรู้สึกอิ่มกับขนมแล้วหันไปนั่งคุยผู้เป็นปู่ โพรทาเลียนั้นรู้สึกสนใจรอบๆ เธอเลยลุกขึ้นไปดูรอบๆ บ้านอย่างสนใจ จนเห็นหนังสือมากมายที่ตั้งอยู่ในชั้น เธอหยิบออกมาอ่านบางเล่มทำให้สนใจจนอ่านด้วยความไวแบบเต็มสปีด ทำเอาผู้เป็นปู่กับน้องสาวอึ้งกับความสามารถของโพรทาเลีย ก่อนที่โฟกัสจะถามขึ้น

 

“พี่!”

“หือ?โพรทาเลียได้ยินเสียงน้องสาวก็หันไป “อะไรเหรอ?

“พี่...อ่านหนังสือเร็วอย่างเดอะแฟลชนะ?

“เดอะอะไรนะ?โพรทาเลียงุนงงว่าน้องสาวหมายถึงอะไร

“เอ่อ...เขาเป็นตัวละครในหนังนะ แบบพี่อ่านหนังสือเร็วมากนะ”

“อ๋อ...โทษที...คือหนังสือมันน่าสนใจดีนะ เกี่ยวกับทฤษฎีโมเลกุลเป็นสิ่งที่ไม่เคยอ่านเลยนะ”

“ใช่แล้วล่ะ ถ้าหลานชอบอยากเอาไปอ่านต่อก็ได้นะ”

“เอ่อ...หนูอ่านจบแล้วนะคะ” โพรทาเลียพูดจบก็ดันเก็บเข้าทีทันที

“งั้นเหรอ...” พอลมองอย่างประหลาดใจที่อ่านหนังสือจนจบได้เร็วแบบนี้

 

โพรทาเลียเดินดูรอบๆ ต่อจนมาเห็นกับภาพถ่ายที่ติดอยู่ตามกำแพงและตั้งบนโต๊ะ ที่ติดบนกำแพงเธอเห็นตั้งแต่ ภาพตั้งแต่พ่อกับแม่จบมหาวิทยาลัย ภาพแต่งงานของย่าและพ่อแม่ ภาพรวมเด็กทารกทั้ง 9 คน ในกรอบภาพเดียว ทำให้โพรทาเลียสงสัยว่าอีกคนเป็นใคร เธอมองไปเรื่อยๆ ก็เห็นภาพที่มีเด็ก 3 คน เธอเห็นตัวเอง โฟกัส และอีกคนที่มีผมสีน้ำตาลและปอยผมสีดำผสมสีเงิน นั้นทำให้เธอสงสัยว่าเด็กคนนี้เป็นใคร เธอมองจับจ้องไปที่ภาพก่อนจะรู้สึกถึงภาพความทรงจำที่กำลังไหลเข้ามาในหัว

 

‘โพรทาเลีย โพรทาเลีย’ เสียงนั้นก้องในหัวเรื่อยๆ ก่อนที่จะมามีใบหน้าของเด็กในภาพขึ้นมา เธอรู้สึกว่าตัวเองกำลังยิ่งก่อนจะเอ่ยพูดเรียกอีกฝ่าย

‘พี่เอสเทล’

เด็กหญิงตรงหน้ายิ้มให้เธอโดยทันทีทำให้โพรทาเลียรู้สึกมีความสุข ทำให้เธอรู้แล้วว่าคนที่โฟกัสพูดถึงนั้นคือใครกัน แซลลี่ทำอาหารจนเสร็จ เธอเดินมาหาทุกคนที่กำลังรอทานอาหาร

“เอาล่ะเด็กๆ มาทานข้าวได้แล้วนะ พอล คุณก็ด้วยนะ เดียวฉันจะไปเรียกเอสเทล”

“โอเค เด็กๆ ไปทานข้าวเร็ว”

“ค่ะ!”

 

หลานสาวทั้งสองเด็กไปที่โต๊ะอาหารกัน โพรทาเลียได้ยินย่าพูดว่าจะไปเรียกเอสเทล เธอยิ่งกังวลที่น้องสาวพูดว่าพี่เอสเทลกับนูอัสมีเรื่องกันบ่อยๆ นั้นทำให้เธอสงสัยว่าจะมีเรื่องกับเธอไหม แซลลี่เดินขึ้นยังชั้น3ของร้าน เธอขึ้นไปพร้อมกับตะโกนเรียกผู้เป็นลูกสาวของเธอที่อยู่ภายในห้องส่วนตัวของเธอ

 

“เอสเทล! เอสเทล! ตื่นมาทานอาหารได้แล้วนะ”

“หือ...” หญิงสาวที่กำลังหลับอย่างสบายได้ยินเสียงของผู้เป็นแม่เรียกเธอขึ้นมา เธอค่อยๆ พยุงตัวขึ้นมา “ค่ะ...เดียวลงไปนะคะ...”

“โอเคจ้ะ” แซลลี่พูดจบก็เดินออกจากตรงนั้นแล้วลงไปชั้น2ทันที

 

หญิงสาวค่อยๆ ลุกขึ้นมาจากเตียงนอน แล้วตรงไปที่ห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว ทำอะไรเสร็จก็เดินออกมาจากห้องนอน แล้วเดินลงมาข้างล่าง พอลงมาก็เจอกับภาพที่เธอไม่คาดคิดที่จะเจอในยามเที่ยงแบบนี้ เอสเทลได้เห็นสองแฝดที่เธอไม่ได้เจอมาหลายปี แล้วเธอจ้องมองแฝดผมดำที่เธอไม่ค่อยชอบเท่าไร ก่อนที่ผู้เป็นแม่จะเอ่ยเรียกเธอ

 

“เอสเทล!” แซลลี่เรียกลูกสาวทันที

โพรทาเลียสะดุ้งที่ย่าเรียกผู้เป็นลูกสาว เธอค่อยๆ หันไปมองอีกคน พอทั้งสองคนสายตาปะทะกัน เธอก็หันหน้ากลับมาทานสปาเก็ตตี้ต่อทันที เอสเทลเดินตรงมาที่โต๊ะอาหารก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ เธอทำท่าทางไม่ชอบใจที่เจอกับใครบางคนบนโต๊ะ

“ทำไมวันนี้เรามีแขกที่ไม่ได้รับเชิญมาด้วยเหรอคะ?เอสเทลพูดขึ้น

ทำเอาโพรทาเลียกับโฟกัสหน้าชาไปทันที โฟกัสไม่กล้ากินอาหารต่อเลย แต่โพรทาเลียก็ยังกินต่อ

“แม้ๆ พี่เอสเทลพูดอะไรคะนั้น พวกเรามาเยี่ยมย่านะคะ”

“โทษทีนะ โฟกัส พี่ไม่ได้พูดถึงเธอน่านะ เธอพูดถึงใครบางคนตรงนี้!”

 

โฟกัสกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก เธอเข้าใจเลยว่าอีกฝ่ายนั้นหมายถึงใครกัน เธอค่อยๆ หันไปมองพี่สาวที่กำลังทานอาหารอย่างไม่สนใจอะไร โพรทาเลียนั้นคิดอย่างเดียวว่าถ้าไม่ตอบโต้ก็คงจะไม่เกิดเรื่องอะไรก็พอ เอสเทลมองอีกฝ่ายที่ไม่ตอบโต้อะไรเธอเลย ทำให้สงสัยว่าอีกฝ่ายจะมาไม้ไหนกับเธออีก หลังทานอาหารจนหมดพวกโพรทาเลียจะขอตัวไปทำภารกิจต่อ แซลลี่เดินตรงมาหาหลานๆ ทันที

 

“จะไปกันแล้วเหรอจ๊ะ ไม่อยู่ค้างที่นี้เหรอจ๊ะ”

“ไม่นะคะ ไม่อยากรบกวนคุณย่านะคะ” โพรทาเลียตอบออกไปอย่างเป็นมารยาท

“ดีแล้วล่ะ อยู่ก็รบกวนจริงๆนั่นล่ะ” เอสเทลพูดขึ้นมาทันที

“เอสเทล!” พอลมองลูกอย่างไม่ชอบใจที่พูดกับหลานแบบนั้น

“หึ!”

“ขอโทษแทน เอสเทลด้วยนะ โพรทาเลีย”

“ช่างเถอะค่ะ ถ้ามีอะไรพวกหนูจะมาขอให้ช่วยนะคะ งั้นพวกหนูขอตัวก่อนนะคะ” ทั้งสองกอดลาผู้เป็นย่า

“พวกหนูไปก่อนนะคะ ปู่พอล พี่เอสเทล” โฟกัสหันไปโบกมือลาทั้งสองคน

 

เอสเทลหันไปยิ้มให้โฟกัส แล้วโบกมือให้ แต่พอเธอมองโพรทาเลียเธอก็หันหน้าหนีทันที โพรทาเลียเห็นก็ทำหน้านิ่งแบบสงสัยว่านูอัสไปทำอะไรให้อีกฝ่ายไม่ชอบใจเธอขนาดนี้กัน ก่อนที่เธอจะเดินไปหาพี่เอสเทล เอสเทลรู้สึกว่าอีกฝ่ายมายืนด้านข้าง เธอจะหันไปมองอีกฝ่าย แต่อีกฝ่ายก็วางบางอย่างลงตรงโต๊ะตรงหน้า เมื่อเธอเห็นมันก็คือกล่องของขวัญสี่เหลี่ยมเล็กๆ

 

“ฉันรู้ว่าพี่คงไม่พอใจฉันกับสิ่งที่เคยเกิด แต่ว่าบางอย่างที่พี่เจอมันก็มีเหตุผลของมันนะคะ” โพรทาเลียพูดจบก็เดินไปหาโฟกัสที่รออยู่ โพรทาเลียหันไปหาทุกคนก่อนจะพูด “ไปนะคะ รักษาสุขภาพด้วยนะคะ ทุกคน”

 

ทั้งสองคนบอกลาเสร็จก็เดินออกจากประตูไป แซลลี่กับพอลมองหลานทั้งสองที่เดินออกไป แล้วหันมาหาลูกสาวที่เอาแต่จ้องมองกล่องของขวัญที่อีกฝ่ายวางไว้ ทั้งสองคนมองหน้ากัน พวกเขาอยากตักเตือนลูกสาวเรื่องพฤติกรรมแย่ๆ แต่พวกเขารู้ว่าเมื่อก่อนโพรทาเลียทำอะไรลูกสาวของพวกเขาไว้บ้าง เอสเทลหยิบกล่องนั้นขึ้นมาแล้วเดินขึ้นข้างบนชั้น 3 พอขึ้นมาที่ห้องนอนตัวเอง เธอก็นั่งลงมองกล่องนั้น ก่อนจะสงสัยว่าโพรทาเลียให้อะไรเธอ พอแกะกล่องของขวัญนั้น เธอก็ต้องอึ้งกับสิ่งที่เห็น

 

“นี่มัน...”

 

สิ่งที่เอสเทลเห็นคือเข็มกลัดรูปตรีศูล เธอจำได้ว่าของสิ่งนี้เธอเคยอยากได้เหมือนหลายปีก่อน จนหลังจากวันเกิดโพรทาเลียเข็มกลัดนั้นก็โดนซื้อไปแล้ว ทำให้เอสเทลเสียดายมากๆ หาของที่เหมือนกับสิ่งนี้มันก็ยากแล้ว ถึงคล้ายแต่ก็ไม่สวยเท่าอันนี้ เอสเทลมองเข็มกลัดก่อนจะเห็นจดหมายเล็กๆ อยู่ข้างใน เธอหยิบเอาออกมาเปิด ก็เห็นตัวหนังสือข้างใน มันเป็นลายมือของเด็ก

 

‘ถึงพี่เอสเทล พี่สาวของโพรทาเลีย

ถูกใจกับเข็มกลัดไหมคะ โพรทาเลียตั้งใจเก็บเงินซื้อให้พี่เลยนะ

หนูเห็นว่าพี่ชอบมองมันบ่อยๆ เวลาไปเที่ยว หวังว่าพี่จะชอบนะคะ

จากโพรทาเลีย’

 

เมื่ออ่านกระดาษเล็กๆ นั้น เธอถึงกับน้ำตาหนองไปทั้งดวงตา เธอรู้สึกแย่จริงๆ ที่เอาแต่หาเรื่องโพรทาเลีย โดยที่อีกฝ่ายไม่ตอบโต้อะไรเลย

 

สองแฝดต่างออกมาจากร้านบลูเมอร์เมด พวกเธอก็เดินกันไปตามทางเรื่อยๆ โพรทาเลียนั้นเอาแต่คิดว่าพี่เอสเทลจะชอบของขวัญที่เธอให้ไปไหม เพราะว่าของชิ้นนั้นเธอเลือกมาตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน แล้วไม่ได้ให้ใครเลยสักคน โฟกัสที่เดินอยู่ข้างๆ พี่สาว เธอสงสัยว่าของที่พี่สาวให้แก่พี่เอสเทลคืออะไรกัน โฟกัสกำลังจะจังหวะพูดกับพี่สาว

 

“เอ่อ...พี่ค่ะ...” โฟกัสหันไปหาพี่สาว

“หือ?โพรทาเลียหันหน้าไปหาน้องสาว “มีอะไรเหรอ?

“คือ...พี่ทำเป็นไม่สนใจพี่เอสเทล เพราะไม่ต้องการมีเรื่องกับเธอสินะคะ?

“แน่อยู่แล้ว ถ้าเกิดเรื่องคงวุ่นวายน่าดู...”

“ก็จริงนะคะ...” โฟกัสเดินไปเรื่อยๆ เธอไม่รู้ว่าควรจะถามอะไรพี่สาวดีไหมเรื่องของที่พี่สาวให้พี่เอสเทล ก่อนที่ตัดสินใจถาม “พี่ค่ะ...เอ่อ...ขอถามอะไรได้ไหมคะ?

“ถามอะไรเหรอ?

“คือ...พี่ให้อะไรแก่พี่เอสเทลเหรอคะ?

“อ๋อ...ก็แค่ของขวัญที่พี่เลือกไว้ให้ตั้งนานแล้วนะ”

“ของขวัญตั้งแต่เมื่อไรนะ?โฟกัสสงสัยขึ้นมาทันทีว่าตอนไหนที่พี่สาวซื้อมา

“ก็...ต้นปี...ก่อนวันเกิดอายุครบ 6 ขวบก็1 ปีก่อนนะ ตอนนั้นพี่เห็นพี่เอสเทลจ้องเข็มกลัดนั้นเลยมีความคิดจะเก็บเงินซื้อของขวัญให้ทุกคน”

“ทุกคน...นี่?

“ก็พี่น้อง พ่อแม่ พี่เอสเทล คุณปู่คุณย่า อ๊า ลืมให้ไปเลยแฮะ และก็คุณปู่โพไซดอน คุณยายอาธีน่า”

“แล้วซื้อครบแล้วทุกคน?

“ใช่ แต่ตอนนั้นพี่เอาแต่สนุกกับงานวันเกิดจนลืม...จนทุกวันนี้พึ่งได้ให้...”

“พี่ค่ะ...”

“แต่...” โพรทาเลียล้วงมือเข้าไปหยิบบางอย่างออกมาก่อนจะยื่นให้โฟกัส มันเป็นกล่องยาวที่ถูกห่อกระดาษของขวัญไว้ “พี่ก็สามารถให้ได้สักที”

โฟกัสมองกล่องที่พี่ยื่นให้ “ของหนูเหรอ?

“ถูกต้อง!”

“ขอบคุณค่ะ” โฟกัสมองกล่องของขวัญ เธอหาจังหวะหลบมุมเพื่อแกะ พอหาจุดหยุดได้ เธอก็แกะมันแล้วจ้องมองของนั้น เธอก็มองพี่สาวสลับกับของนั้น “พี่! นี่มัน...”

“พี่จำได้ว่าเธอชอบมัน”

สิ่งที่โฟกัสได้รับจากพี่สาว คือ ปากกาขนนกหมึกซึม เป็นสิ่งที่เธอชอบมากๆ จนเคยขอพ่อแม่ซื้อ แต่พวกเขารอให้เธอโตพอที่จะใช้มัน จนเธอลืมไปแล้ว

“หนูจะเก็บไว้อย่างดีเลย” โฟกัสปลื้มใจมากๆ ที่ได้ของขวัญจากพี่สาวเป็นอย่างที่สอง โพรทาเลียยิ้มอย่างชอบใจ โฟกัสเก็บของเข้ากระเป๋า เธอก็นึกถามพี่สาวทันที “แล้วนี่เราจะไปไหนต่อค่ะ จะไปที่ที่เฮอร์มีสอยู่เลยไหมคะ?

โพรทาเลียครุ่นคิดอย่างถี่ถ้วนว่าเธอจะไปไหนต่อดี จนนึกบางอย่างได้

“โฟกัส รู้จักร้านซื้อทองกับเหรียญทองไหม?

พอพี่สาวถามเธอแบบนั้น โฟกัสก็นึกขึ้นมาได้ว่ามีที่ไหน “รู้จักนะ เป็นร้านที่มีมนุษย์กึ่งเทพเป็นเจ้าของร้านอยู่นะ พี่จะไปทำไมเหรอ?

“อ๋อ รอดูเถอะ งั้นพาพี่ไปที เราจะไปทำบางอย่างกัน!”

 

จบตอนที่ 45 โปรดติดตามตอนที่ 46 ต่อไป