97 ตอน ตอนที่ 97 เดินทางสู่ตึกเอ็มไพร์สเตท
โดย YukiCoCo
ตอนที่ 97 เดินทางสู่ตึกเอ็มไพร์สเตท
ไครอนกล่าวพูดทิ้งท้ายให้ทั้งสองคนมองหน้ากันอย่างสงสัยเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ โพรทาเลียยิ่งสงสัยว่าผู้ใหญ่ที่ว่านั้นเป็นใครแล้วพวกเขาจะช่วยพวกเธอได้มากสักเพียงใด ความคิดนั้นของเธอยังไม่รู้เลยว่าห่างออกไปข้างนอกค่ายนั้นได้มีหลายบุคคลที่กำลังจะเดินทางมายังนิวยอร์กเพื่อเดินทางมาร่วมประชุมครั้งใหญ่กัน ทั้งสองคนไม่รู้ว่าสถานที่จะไปอลังการเพียงใด
เช้าวันต่อมา
พวกโพรทาเลียกำลังเตรียมตัวพร้อมกำลังการออกเดินทาง เธอขออุปกรณ์จากคลังแสงเยอะพอตัว เพราะเธอไม่รู้ว่าออกเดินทางไปนิวยอร์กแล้วจะเจออะไรมั้ง แล้วก่อนไปไครอนก็นำบางอย่างมาให้เหมือนตราสัญลักษณ์ที่มีรูปตรีศูลเป็นศูนย์กลางทำให้คิดเลยว่าคนที่สร้างตรานี้อาจจะเป็นพ่อเธอก็เป็นได้ เธอเห็นแบบนี้แล้วอยากกลับไปหาพ่อจนไม่รู้ว่าจะอีกนานไหมที่จะได้กลับไป ตอนนี้พวกเธออยู่ที่หน้าบ้านใหญ่ โฟกัสมองพี่สาวที่มองออกไปข้างหน้าเหมือนคนกำลังครุ่นคิดบางอย่างอยู่จนน่าสงสัย
“พี่กำลังคิดอะไรอยู่เหรอคะ?”
“อ๊ะ...เอ่อ...กำลังคิดนะว่า...เราสองคนจะกลับโลกเดิมได้ไหมนะ...”
“ทำไมพี่พูดแบบนั้นนะ?”
“โทษที...พี่แค่...รู้สึกว่า...เรายังจับต้นชนปลายไม่ได้เลยนะ...”
“เราต้องหาทางได้สิ...พี่บอกเองนี่น่า”
“ขอโทษนะ...พอคิดเยอะจนรู้สึกท้อใจมาก ๆ เลยนะ”
“อย่าพึ่งท้อสิ ยังไม่ได้เริ่มทำเลยนะ พี่จะท้อแล้วเหรอ? เราต้องทำสิอย่าพึ่งท้อใจ” โฟกัสจับมือพี่สาวแล้วให้กำลังใจ
คำพูดของน้องสาวทำให้โพรทาเลียตั้งสติได้ว่าตัวเองยังไม่เริ่มเลยจะท้อแล้วเหรอ ตลอดมาเธอยังไม่เคยท้อกับเรื่องเล็ก ๆ แค่นี้ จะท้อง่ายไปไหมโพรทาเลียเอามือขึ้นมาตบแก้มตัวเองแรง ๆ จนโฟกัสเห็นยังตกใจ
“พี่...”
“ขอบใจ โฟกัส” โพรทาเลียยิ้มให้น้องสาวพร้อมกับใบหน้าที่ดูดีขึ้น “พี่ได้สติล่ะ ไม่ลองก็ไม่เสียหายล่ะนะ”
“อืม” โฟกัสดีใจที่พี่สาวนั้นร่าเริงขึ้น
ระหว่างที่พี่น้องกำลังคุยกันนั้นก็มีคนกลุ่มหนึ่งเดินออกมาจากเต็นท์ แล้วเดินตรงมาหาพวกโพรทาเลีย แจ็คเห็นว่าทั้งสองเตรียมตัวพร้อมกับเอ่ยพูดออกไป
“จะไปกันแล้วเหรอ?”
เสียงแจ็คทำให้ทั้งสองคนต่างหันไปมองก็เห็นทุกคนมาหาพวกเธอ
“มาทำอะไรกันนะ?”
“มาบอกสายเลือดเดียวกันนะสิ”
“ใช่ ๆ”
“ไม่ต้องลำบากมาลากันก็ได้นี่น่า”
“เห็นว่าพวกเธอจะไปหาผู้ใหญ่ที่การประชุมเซเว่นฮาล์ฟสินะ”
“เซเว่นฮาล์ฟ?” โพรทาเลียทวนคำพูดนั้นอย่างสงสัย “มีการประชุมแบบนั้นด้วยงั้นเหรอ?”
“อ้าว? พวกเธอไม่รู้เหรอ?”
“ไครอนพูดนะ...แต่ไม่รู้ว่าเป็นการประชุมแบบไหนนะ?”
“เป็นการประชุมที่จะมีจัดขึ้นทุก ๆ เดือน เพื่อคุยถึงปัญหาที่เกิดขึ้นนะ”
“อย่างเช่น?”
“เหตุการณ์ตอนนี้ไงล่ะ!!” ทุกคนต่างพูดพร้อมกันจนเสียงดัง
“แบบนี้เอง”
“แต่ผู้ใหญ่ที่นั่นก็มีแต่คนที่ออกจากที่นี่ไปเมื่อถึงอายุที่เหมาะสมล่ะนะ” เดเมียนเอ่ยออกมา
“พูดแบบนั้นหรือว่า?”
“ใช่ พวกเธออาจจะได้เจอครอบครัวตัวเองด้วยก็ได้”
พอได้ยินแบบนั้นก็คิดเลยว่าไปถึงคนเจอแม่หรือไม่ก็พี่ชายทั้งสามแน่ ๆ ทำเอาคิดแล้วว่าจะโดนบ่นที่ไปเจอที่นี่ไหม แต่โลกนี้ที่ไม่ใช่โลกของเธอแต่ก็เป็นครอบครัวกันนี่น่า เธอเอื้อมมือไปยกกระเป๋าเอามาสะพานทันที
“ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะ งั้นพวกเราจะออกเดินทางล่ะ!”
“ไปไวเกินนะ”
“อยู่นานไปอาจจะลำบากสำหรับพวกเรานะ” โพรทาเลียหันไปยิ้มให้ทุกคน
“ปล่อยไปเถอะ พวกนั้นจะไปก็ช่างสิ พวกเราไม่ได้เดือดร้อนนะ!!”
เจซี่พูดอย่างประชดประชันอย่างรังเกียจอีกฝ่ายมาก ๆ ด้วยท่าทางกอดอกอย่างไม่สบอารมณ์ แต่คนอื่น ๆ กับไม่ชอบคำพูดของอีกฝ่ายเสียเลย นั้นทำให้โพรทาเลียมองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าไม่ชอบใจเสียเท่าไหร่ จนเธอคิดแกล้งพวกเขาด้วยคำพูด
“อ๊า~ มีคนไม่อยากให้เราอยู่แฮะ โฟกัส” โพรทาเลียจับหลังของน้องสาวเตรียมตัวที่จะเดินไปข้างหน้ากัน “เรารีบไปก่อนที่พวกปีศาจจะกลับมาดีกว่านะ”
“!!!”
พวกบ้านโพไซดอนได้ยินถึงกับสะดุ้งกันไปเลย ถ้าพวกปีศาจมาอีกพวกเขานั้นทำอะไรไม่ถูกเลยนะ
”เดียวสิ โพรทาเลีย อย่าพูดเป็นลางสิ!!”
“กลับมาเลยนะ! ถ้าไม่มีพวกเธอจะทำยังไงนะ!”
“ยัยเจซี่! พูดประชดประชันแบบไม่คิดอีกแล้ว!!!”
เสียงของทุกคนโวยวายต่อเจซี่ก็ทำให้โพรทาเลียชอบใจแล้วล่ะ เธอดันน้องสาวไปตามทางจนกระทั่งพวกเขามาถึงประตูทางเข้าค่าย พวกเขาเดินผ่านออกมาทั้งสองคนก็เดินตามทางก็รู้สึกกลิ่นอายแบบเดิมที่เคยรู้จัก เธอไม่ห่วงเลยว่าที่ค่ายจะเป็นอะไร เพราะว่าเธอมีเกราะป้องกันปกป้องอย่างดี โพรทาเลียก็รู้สึกว่าจะออกเดินทางไปต่อยังไงดี
“พอพ้นป่าแล้วจะเดินไปยังไงดีล่ะ?”
“หือ? แล้วพี่มีความคิดว่ายังไงล่ะคะ?”
“อืมมม ก็คงเดิน แต่อาจจะช้าไปหน่อย...นอกจากนี้เธอมีข้อเสนออะไรไหมนะ?”
“หึ ๆ นึกว่าพี่จะไม่ถามซะแล้ว! หนูมีข้อเสนอที่จะพาเราไปยังนิวยอร์กได้เร็วขึ้นค่ะ!!”
“หือ? อะไรเหรอ?”
ความสงสัยมีอยู่เต็มไปหมดว่าน้องสาวนั้นพูดหมายความว่าอะไร จนกระทั่งพวกเขาออกมาบริเวณป่าจนมาถึงจุดที่มีถนนอยู่ ภาพตรงหน้านึกถึงฉากที่เธอหนีออกมาแล้วรู้สึกว่าโฟกัสแอบตามจริง ๆ
“นึกถึงก่อนหน้านี้เลยแฮะ”
“พี่อย่าพูดแบบนั้นสิ!!” โฟกัสหน้าแดงที่พี่พูดแบบนั้น เพราะเธอรู้ว่าอีกฝ่ายพูดถึงอะไร
“อะไรล่ะ ก็เธอเล่นตามพี่มา แต่ลบร่องรอยไม่เก่งเลยนะ”
“พอเลย ๆ พี่อ่ะ!!” โฟกัสเอามือปิดหน้าตัวเองอย่างเขินอายสุด ๆ
“คิก ๆ แล้วเราจะเอาไงต่อนะ?”
“สักครู่นะ!”
โฟกัสยกมือขึ้นมาไว้ที่ปากของเธอ แล้วพลิ้วปากออกมาสองครั้ง โพรทาเลียมองว่าน้องสาวทำอะไร ก่อนจะได้ยินเสียงบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากลออกมา ก็มีแสงไฟบางอย่างกำลังลอยพุ่งมาทางพวกเธอ แล้วก่อเป็นควันรูปร่างรถยนต์ก่อนที่ควันจะกระจายออกไปเป็นรถยนต์ที่มีลักษณ์คล้ายแท็กซี่นิวยอร์กสีเหลือง แต่สีหน้าของโพรทาเลียรู้สึกนิ่ง ๆ กับสิ่งที่เห็นตรงหน้า
“นี่...มันจะขับได้จริงเหรอ?” โพรทาเลียถามอย่างสงสัย
“ฮ่า ๆ แล้วมันจะมาจอดตรงหน้าเราได้ไงล่ะ”
โฟกัสหัวเราะที่พี่สาวเล่นมุกอะไรออกมา แต่จริง ๆ โพรทาเลียถามจริงไม่ใช่มุกเลยสักนิด
“แล้วนี่...รถอะไรกัน?”
“รถเดินทางหรือชื่อที่แม่เรียก รถศึกแห่งการสาปแช่ง”
“รถศึกในคราบแท็กซี่...โทรม ๆ”
โพรทาเลียเอ่ยก่อนที่ประตูแท็กซี่ตรงหน้ามันจะเปิดเองด้วยเสียงเอี๊ยดอ๊าด ทำเอาขนลุกว่ามันจะหลุดจากรถไหม ก่อนจะมีเสียงหญิงสามเสียงเอ่ยขึ้นมา
“ไม่รับดอลลาร์ ไม่รับบัตรเครดิต รับแต่เงินดรัคม่า”
“เงินทอน”
“เป๊ะเว่อร์!”
โพรทาเลียมองไปทางคนขับที่มองไม่เห็น แต่รู้สึกว่าไม่ได้มีแค่คนเดียวจนเธอหันไปมองน้องสาวที่อยู่ข้าง ๆ
“เอ่อ...พวกเธอมี 3 คนนะ”
“3 คน...” โพรทาเลียรู้สึกแปลก ๆ ที่รถตรงหน้ามีคนขับสามคนทำเอาเธอนึกถึงบางอย่างที่มีสามคน “คงไม่ใช่...พวกเทพพยากรณ์อย่าง...พวกเทพธิดาพยากรณ์นะ”
โฟกัสมองพี่สาวที่พูดแบบนั้น ทำให้เธอยิ้มแบบเจื่อน ๆ จนโพรทาเลียถอนหายใจพร้อมกับเตรียมตัวขึ้นรถ
“มาเจอสามคนนี้อีกแล้วสินะ”
โพรทาเลียเอ่ยขึ้นอย่างไม่ชอบใจ เพราะว่าเธอเคยเจอกับพวกนี้ตอนเดินทางหนีแซเทิร์น ตอนนั้นโดนพูดอะไรบางอย่าง แต่เธอก็ทำให้พวกนั้นตกใจ แล้วชอบไล่ตามอย่างสนใจจนเธออย่างหนีไปสุด ๆ พวกเทพธิดาพยากรณ์ชะโงกหน้ากันออกมา เผยให้เห็นใบหน้าคล้ำสีดำเหมือนซากศพที่ดำไปแล้ว แต่พวกเขายังมีเนื้อหนังอยู่ แต่ก็มีรอบย่นสักเล็กน้อย พวกนั้นมองมาที่เด็กสาวทั้งสอง ก่อนจะหันมามองโพรทาเลียด้วยสีหน้าสนใจ
“เรารู้จักพวกเราด้วยหรือ หลานสาวโพไซดอน”
โพรทาเลียเห็นสีหน้าสนใจของเทพธิดาพยากรณ์ ก็ทำเอาเธอขนลุกสุด ๆ ก่อนจะหันหนี “ไม่รู้จัก! ขึ้นรถ! โฟกัส!!”
“คะ...ค่ะ!”
โฟกัสตามขึ้นรถไปกับอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว โพรทาเลียหยิบกระดาษโน๊ตที่ไครอนเขียนมาให้เธอ เธออ่านข้อความในกระดาษที่มีเขียนว่า ‘ตึกเอ็มไพร์สเตท ชั้นที่ 20’ เป็นข้อความที่สั้นนิดเดียวจนนึกไม่ออกว่าไปถึงแล้วจะเจออะไรมั้ง เธอนั่งอยู่นานโดยไม่บอกเป้าหมายปลายทางทำให้พวกเทพธิดาทั้งสามต้องเอ่ยถามขึ้น
“พวกเจ้าจะไปไหนกัน!?”
“ถ้าไม่ไปก็รีบลงไปซะ!!”
“อ๊ะ! รีบร้อนจริง ๆ” โพรทาเลียพูดออกมาอย่างเซ็ง ๆ ก่อนจะเอ่ยพูดขึ้น “ไปตึกเอ็มไพร์สเตท”
“โอ้ ไกลหน่อยนะ!”
“จ่ายแพงนะ!”
“แพงเท่าไหร่ก็ตามใจ!!!”
โพรทาเลียหยิบถุงบางอย่างออกมาจากกระเป๋าคาดเอวของเธอ นั้นก็คือถุงเงินที่เต็มไปด้วยเงินดรัคม่า เธอยืดตัวไปหาพวกเทพธิดาแล้ววางถุงนั้นตรงหน้าของพวกเขา
“แค่นี้คงพอสำหรับค่าเดินทางนะ!!”
พวกเทพธิดาจ้องมองถุงเงินขนาดใหญ่ตรงหน้าอย่างตะลึงพร้อมกับเปิดออกมาดูก็เห็นเงินดรัคม่าที่อลังการงานสร้างจนไม่อยากคิดว่าเด็กตัวเล็กแค่นี้จะเอามาจากไหน
“พอเลย!! เชิญลูกค้าวีไอพีนั่งอย่างสบาย ๆ เลยจ้า!!”
“เราจะไปอยากปลอดภัยทันที!!”
“อย่าลืมรัดเข็มขัดล่ะ!”
พวกเทพธิดาพูดจบ คนที่อยู่ตำแหน่งคนขับก็เตรียมออกตัวในทันใดพร้อมกับจับไปที่กลไกหนึ่งก่อนที่รถจะออกตัวอย่างรวดเร็ว จนทั้งสองคนต่างรีบหาที่จับเพื่อยึดตัวอยู่กับรถกันตลอดการเดินทางทำเอาโฟกัสอยากอ้วกมาก ๆ เพราะความเร็วของรถที่พวกเทพธิดาขับกันมันทั้งอันตรายและหวาดเสียวจนท้องไส้ไม่ดีเลย โพรทาเลียยังคุมสติได้เลยไม่รู้สึกว่าอยากอ้วกเท่าไหร่ จนเธอไม่อยากขึ้นรถคันนี้อีกเป็นครั้งที่สอง แต่พวกเธอยังต้องอยู่ในรถอีกพักใหญ่
เวลาก่อนหน้า ณ หน้าตึกเอ็มไพร์สเตท
ผู้คนมากมายกำลังเดินผ่านไปผ่านมาบนท้องถนนอันกว้างใหญ่โดยไม่สนใจใครถึงจะชนก็ชนอย่างไม่เกรงใจ แต่ทว่ามีชายหนุ่มร่างสูงผมดำกำลังเดินตรงไปที่ตึกเอ็มไพร์สเตท เขาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าตึกพร้อมกับเงยหน้ามองสถานที่ที่เขาไม่อยากมาถ้าไม่ใช่เพราะการประชุมเซเว่นฮาล์ฟ เขาไม่ยอมมาด้วยแน่ ๆ ระหว่างที่เขามองตึกข้างหน้านั้น ก็มีเสียงหนึ่งเอยพูดขึ้น
“แหม ๆ พี่ใครก็ไม่รู้ชอบมาสายกว่าคนหนึ่งเขา”
เสียงอันคุ้นเคยดังขึ้น ทำให้ชายหนุ่มหันไปมองชายอีกคนที่กำลังเดินตรงมาด้วยชุดที่ดูทางการอย่างชุดสูทสีเทาเนกไทสีน้ำเงินเข็มที่ไม่ค่อยเข้ากับอีกฝ่ายจริง ๆ
“ฉันว่านายนะเลิกใส่เนกไทที่ไม่เข้ากับตัวเองดีกว่านะ”
“อย่ามาว่าการแต่งกายของผมสิ พี่เถอะจะเข้าตึก แต่มาทั้งชุดทหารเต็มยศแบบนี้กัน”
“ทำไงได้...ฉันยศสูงจนต้องใส่ชุดแบบนี้แล้วนี่น่า”
“ชิ คนใหญ่คนโตแล้วนี่น่า”
“เลิกพูดเถอะ เข้าไปข้างในดีกว่าคนอื่น ๆ และแม่คงอยู่ข้างในแล้วล่ะ อ๊ะ...” โอราอุสมองหาใครบางคน ก่อนจะหันกลับมามองอีกฝ่าย “แล้วเอเดอร์ล่ะ?”
“หมอนั้นบอกว่าไม่อยากเข้าร่วมเท่าไหร่ เพราะถึงเข้าไปก็ไม่รู้เรื่องอยู่ดี” เบเดอร์ก็ทำหน้าเซ็ง ๆ เพราะไม่อยากเข้าไปเช่นกัน
“หึ! ช่างทำตัวเอื่อยเฉื่อยจริง ๆ”
“ช่างหมอนั้นเถอะ เข้าไปเลยไหม?” เบเดอร์เอ่ยถามพี่ชาย
“เอาสิ!” โอราอุสเดินนำหน้าน้องชายไปเลย
สองพี่น้องต่างเดินกันเข้าไปข้างในตึกเอ็มไพร์สเตทกันอย่างรวดเร็ว โดยไม่สนใจรอบข้างว่าจะมีคนมองหรือมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น เวลาผ่านไปสักพักแท็กซี่สีเหลืองมาจอดหน้าตึกเอ็มไพร์สเตท แต่แล้วโฟกัสก็รีบพุ่งตัวออกมาจากแท็กซี่ด้วยความเร็วแสง แล้วพุ่งตรงไปที่ต้นไม้แล้วอ้วกแตกอย่างที่ไม่น่าดู โพรทาเลียค่อยลงมาอย่างช้า ๆ เนื่องจากลงมาเร็วเดี๋ยวจะอ้วกเหมือนโฟกัสแน่ ๆ ท้องไส้ของเธอมันช่างปั่นป่วนไปหมด ก่อนที่พวกเทพธิดาจะบอกลาพวกเธอ
“ขอบคุณที่ใช้บริการนะ!!”
“ไว้ครั้งหน้ามาใช้บริการนะ!!”
“เจอกันใหม่นะ สาว ๆ”
พวกนั้นต่างขับรถไปอย่างรวดเร็วจนไม่เห็นแม้แต่เงาเลยจริง ๆ โพรทาเลียรู้สึกปวดหัวตุบ ๆ ก่อนจะมองไปทางที่น้องสาวอยู่ เธอเดินไปหาน้องสาวแล้วเข้าไปลูบหลังเบา ๆ
“เป็นไงมั้งนะ? โฟกัส”
“หนูจะไม่ขึ้นรถของพวกเขาอีกแล้ว...จะอ้วกอ่ะ...” โฟกัสพูดพร้อมสีหน้าซีดไปหมด
“จ้า ๆ” โพรทาเลียหยิบขวดน้ำออกมาจากกระเป๋าแล้วส่งให้น้องสาว “อ๊ะ น้ำ! ล้างปากซะ”
“ขอบคุณค่ะ พี่” โฟกัสรับขวดน้ำมาล้างปากของเธอ
โพรทาเลียมองดูว่าน้องสาวที่กำลังล้างปากของตนเอง เธอเงยหน้าขึ้นมาดูว่าสถานการณ์ข้างหน้ามันจะเป็นยังไง แต่รู้สึกว่าตึกเอ็มไพร์สเตทนั้นสงบกว่าที่คิดอีก แต่แล้วก็รู้สึกถึงบางอย่างที่กำลังมาทางพวกเธอ จนกระทั่งเธอหันไปก็เห็นชายผมบลอนด์ที่คุ้นหน้าคุ้นตา
“พี่เอเดอร์” โพรทาเลียเอ่ยชื่ออีกฝ่ายออกมา
“พวกเธอออกมาจากค่ายทำไมกัน!?” เอเดอร์ขึ้นเสียงใส่ทั้งสองคน
ทำเอาโพรทาเลียไม่ชอบใจที่พี่เอเดอร์ในโลกนี้ดูอารมณ์รุนแรงกว่าพี่ในโลกของเธอที่จะดูเป็นคนอ่อนโยนมากกว่า
โฟกัสได้ยินแบบนั้นก็ไม่รู้จะพูดยังไงดี “เอ่อ...คือว่า...”
เอเดอร์มองทั้งสองด้วยสีหน้าไม่พอใจที่เห็นน้องสองคนมาอยู่นี้ ที่จริงเขาไม่อยากสนใจอะไร แต่ก่อนหน้าเขานั้นอยู่ที่ร้านฝั่งตรงข้ามของตึกเอ็มไพร์เป็นการข้ามเวลาหลังจากมาก่อนคนอื่นนานแล้ว แต่ระหว่างที่เขาไม่สนใจอะไร เขาก็เห็นรถแท็กซี่ที่แปลกตามาจอดก็สงสัยว่าคืออะไร ก่อนที่เขาจะเห็นคนที่วิ่งออกมานั้นก็คือเมก้ากับโพรเทีย นั้นทำให้เขาตกใจเพราะสองคนนี้ต้องอยู่ค่ายฮาล์ฟบลัดเพื่อความปลอดภัย แต่สองคนนั้นกลับมาอยู่หน้าตึกเอ็มไพร์สเตทในเวลาที่ไม่ควรอยู่แบบนี้ จนเขาต้องออกจากร้านแล้ววิ่งตรงมาหาทั้งสองคน
“พวกเธอสองคนกลับค่ายไปซะ!!” เอเดอร์เข้าไปจับแขนของโพรทาเลีย
โพรทาเลียก้มมองมืออีกฝ่ายที่จับแขนเธอด้วยความแรงที่เธอไม่ชอบใจ เธอเงยหน้ามองอีกฝ่ายด้วยสายตาพิฆาตเตรียมตัวที่จะจัดการอีกฝ่าย แต่เธอก็เอ่ยพูดออกมา
“เอามือออกไป”
“อึ้ก!!” เอเดอร์จ้องมองน้องสาวที่จ้องเขาด้วยสายตาน่ากลัวจนเขารู้สึกว่าอีกฝ่ายนั้นต่างจากโพรเทียเมื่อก่อนสุด ๆ “ทำไมพูดแบบนั้นกับพี่กัน แล้วสายตานั้นอีก!”
“ก็พี่จับแขนฉันแน่นจะให้ฉันพูดว่าอะไร?”
“เลิกพูดเถอะ! พี่อยากให้เธอสองคนออกจากที่นี่ กลับไปยังค่ายฮาล์ฟบลัดซะ!”
“ไม่กลับ!!!”
“ว่าไงนะ!!”
ทั้งสองคนต่างจ้องกันอย่างไม่ชอบใจ โพรทาเลียรู้สึกไม่ชอบพี่ชายคนนี้เป็นอย่างมาก เพราะดูอีกฝ่ายไม่ใช่พี่ชายที่เธอรู้จักเลยจริง ๆ ยิ่งอีกฝ่ายมาอารมณ์เสียใส่ ยิ่งไม่ใช่พี่เอเดอร์ที่เธอรู้จักกว่าเดิมอีก โฟกัสเห็นพี่ทั้งสองคนทะเลาะกันเธอก็รีบเข้าไปขวางทันที
“พี่เอเดอร์ พอก่อนเถอะนะ อย่าทะเลาะ ส่วนพี่โพร...อย่าใช้อารมณ์...เล่นงานพี่เอเดอร์เลยนะ” โฟกัสเตือนพี่สาวที่อารมณ์ของพี่สาวกำลังจะพุ่งได้ทุกเมื่อ
“หือ?” เอเดอร์ได้ยินน้องสาวเรียกชื่อเขา ทำให้เขาตาโตอย่างบอกไม่ถูก ก่อนที่เขาจะเอ่ยถามอีกฝ่าย “เมก้า เธอคิดว่าพี่คือเอเดอร์เหรอ?”
“เอ๊ะ?” โฟกัสมองอีกฝ่ายที่เรียกเธอว่าเมก้า ก่อนจะตอบอีกฝ่าย ”ค่ะ...ก็พี่ก็คือพี่เอเดอร์นี่น่าค่ะ?”
“เอ๊ะ...!”
สายตาของเอเดอร์เปลี่ยนไป ทำให้โพรทาเลียเห็นก็จับตัวของโฟกัสแล้วพาหลบการโจมตีของอีกฝ่ายที่ใช้มือพุ่งเข้ามาจะจับคอของโฟกัส นั้นทำให้โพรทาเลียตกใจที่อีกฝ่ายจู่ ๆ จะโจมตีน้องสาวแบบนี้ เธอรับพาอีกฝ่ายอุ้มถอยหลังทันที
“ทำอะไรนะ!!!”
“โพรเทียออกมาซะ!! ยัยนั้นไม่ใช่เมก้า!!” เอเดอร์ตะโกนพูดออกมา ทำให้คนรอบข้างมองอย่างสงสัยว่าพวกเขาทำอะไร
“พี่บ้าหรือเปล่า!?” โพรทาเลียมองอีกฝ่ายอย่างสงสัยว่าเป็นอะไร
“เมก้าไม่เคยเดาได้ว่าฉันกับเบเดอร์เป็นใคร ยัยนั้นไม่เคยเดาถูกสักครั้ง!!”
“ห๊า!? จะบอกว่าน้องสาวเป็นตัวปลอมเนี่ยนะ?”
“ใช่! โพรเทียออกมาจากยัยนั้นซะ!!”
“ไม่! นี่น้องสาวฉัน ถึงจะไม่ใช่น้องสาวนายก็ตามที่ แต่เขาเป็นน้องฉัน!!”
“เธอพูดอะไร โพรเทีย!!”
โพรทาเลียเริ่มทนไม่ไหวล่ะที่อีกฝ่ายมาเรียกเธอว่าโพรเทียที่มันไม่ใช่ชื่อเธอจนตะโกนออกไป “เลิกเรียกฉันว่าโพรเทียสักที!! ฉันไม่ใช่โพรเทีย!!”
“เอ๊ะ!?” เอเดอร์มองอย่างอ้ำอึ้งว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร “เธอหมายความว่าไง?”
“ชื่อของฉันคือโพรทาเลีย แจ็กสัน”
“โพรทาเลีย?”
“แล้วก็น้องสาวฉัน โฟกัสเมซ่า แจ็กสัน พวกเราสองคนมาจากอีกโลกที่ไม่ใช่ที่นี่!!”
“เอ๊ะ!?” เอเดอร์ถึงกับงุนงงกับคำพูดของอีกฝ่ายจนหน้าเอ๋อไปเลย
จบตอนที่ 97 โปรดติดตามตอนที่ 98 ต่อไป
-----------------------------------------------------------------------
ข้อความจากนักเรียน
สวัสดีค่ะ ทุกคนที่ติดตาม ‘สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ’ มานานนะคะ วันนี้มีเรื่องจะประกาศสักหน่อยว่าเราจะขอหยุดเขียนสักหน่อย เพราะว่าเราอยากเน้นเรื่องที่เขียนจบไปแล้ว และกำลังเอามาลงใหม่ให้จบ ก่อนจะกลับมาลงต่อ เพราะอีกไม่นานก็จบแล้วจริง ๆ
อย่าลืมสนับสนุนนักเขียนหน่อยสักหน่อยก็ดีนะคะ เพื่อต่อทุนชีวิตให้หรือคอมเมนต์เล็กน้อยเป็นกำลังใจให้หน่อยนะคะ ขอบคุณค่ะ
เรื่องที่หยุดเขียน
- สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ
- ไอซ์สโนว์ สาวพลังหิมะ
- เด็กหญิงผู้รอดชีวิต
- BL เกนชิน
Comments (0)