ตอนที่ 76 แองเจิลปรากฏกาย

หลังจากคุยกับพวกเฮเลนเวลาก็ผ่านไปอีกหนึ่งวัน แต่จากสภาพแวดล้อมดูข้างในช้าลง พวกเฮเลนได้บอกว่าเวลาในห้วงจิตใจเปลี่ยนอีกครั้งหลังจากที่โพรทาเลียชนะแดเรียล จากตอนแรกเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงต่อหนึ่งวันเปลี่ยนเป็นห้าชั่วโมงต่อหนึ่งวัน ทำให้โพรทาเลียเข้าใจว่าทำไมโลกตอนนี้ทุกอย่างดูช้าลงกว่าครั้งแรกที่มันผ่านไปไว เธอเงยหน้ามองท้องฟ้าที่สว่างมากๆ เธอคิดถึงน้องสาวว่าตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่

 

“เธอจะผ่านการทดสอบหรือยังนะ? โฟกัส...”

 

ภายในป่าลึกอันห่างไกลจากโพรทาเลีย บนภูเขาใหญ่ลึกเข้าไปในข้างในภูเขาที่มีอุณหภูมิที่สูงเกินกว่าที่มนุษย์จะเข้ามาอยู่ แต่ดาเฟ่พาโฟกัสมาทดสอบแล้วตลอดสิบสามวันที่โฟกัสตกทรมานต่อความร้อนนี้ ถึงเธอจะเจ็บปวดแค่ไหนดาเฟ่ก็ไม่ช่วยอะไร แล้วเอาแต่ยกตัวอย่างว่าพี่สาวเธอยังเจอมาหนักกว่านี้เอง ทำให้เธอรู้สึกถูกเปรียบเทียบว่าเธอมันอ่อนแอ ทำให้เธอต้องฮึดสู้เพื่อที่เธอจะได้แข็งแกร่งกว่าพี่สาวและสามารถปกป้องพี่สาวให้ได้

 

“อืม...ตอนนี้ก็ 5 วันจากที่เจ้าอยู่ในสภาพนี้ ไม่มีการเสียสมาธิ คงอีกไม่นานหรอก เดียวเจ้าก็สามารถใช้พลังของข้าได้”

 

ดาเฟ่กล่าวระหว่างที่กำลังจ้องมองเด็กน้อยที่กำลังนั่งสมาธิอย่างตั้งใจ โดยไม่สนรอบข้างที่กำลังพูดกับเธอแต่อย่างใด ภายในความคิดของโฟกัสนั้น เธอต้องการที่จะสู้กับการทดสอบนี้ให้อย่างเต็มที่ถึงจะเจออุปสรรคเธอก็จะพยายามถึงที่สุด เพราะเธออยากปกป้องพี่สาวปกป้องคนสำคัญที่เธอรักมากๆ แสงรอบๆ ตัวของโฟกัสเริ่มเปล่งประกายออกมามากกว่าเดิม ดาเฟ่เห็นแบบนั้นก็ยิ้มอย่างดีใจสุดๆ

 

“นี่ล่ะพลังที่ข้าเคยมี!”

ดาเฟ่ลุกขึ้นเดินตรงมาหาโฟกัส เธอยกมือขึ้นมาแล้วชี้นิ้วไปที่หน้าผากอีกฝ่าย

“จงงัดความคิดทั้งหมดของเจ้าออกมา”

 

นิ้วของดาเฟ่จิ้มลงบนหน้าผากของโฟกัส แสงสว่างเจิดจ้าขึ้นมารอบตัวโฟกัสมากกว่าเดิม แสงสว่างนั้นพุ่งออกไปนอกถ้ำสู่โลกภายนอกรวมไปถึงโลกแห่งความจริง ร่างต้นที่กำลังหลับอยู่ในความมืดมิดเกิดแสงสว่างขึ้นรอบๆ ตัวของเธอ แสงสว่างสีขาวปกคลุมร่างกายของโฟกัสน้อยจนไม่เห็นร่างกายที่กำลังนอนอยู่ แสงสว่างนั้นดับลงเหลือแค่ความสว่างจากแสงที่ปกคลุมร่างโฟกัสน้อยทุกอย่างก็เงียบลงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

โพรทาเลียที่กำลังรออดีตชาติที่จะพอไปการทดสอบต่อไป เธอรู้สึกถึงพลังบางอย่างที่กำลังพัดผ่านมาทางนี้ พอเงยหน้าก็เห็นแสงที่พัดผ่านเป็นวงกว้างขนาดใหญ่เหนือหัวของเธอ โพรทาเลียจ้องมองอย่างรับรู้ว่าน้องสาวผ่านด่านแรกไปแล้ว เธอยินดีด้วยกับน้องสาวที่ผ่านไปได้ด้วยดี ยกเว้นเธอที่ยังต้องรอการทดสอบต่อไป เพียงเพราะตัวที่วุ่นวายตั้งแต่ยกแรกอย่างแดเรียล เจ้านั้นรีบหนีแล้วตะโกนตลอดว่ามันเป็นการทดสอบที่ท่านแองเจิลเป็นคนจัดขึ้นว่าใครต้องเริ่มก่อน นั้นก็ทำให้โพรทาเลียจ้องมองอย่างไม่ชอบใจจนกระทั่งอดีตชาติที่จะพาเธอไปออกมาจากปากถ้ำ

 

“เอาล่ะ! โพรทาเลีย ถึงเวลาไปแล้วล่ะ” เฟอร์ร่าเดินออกมา

สายตาโพรทาเลียจ้องมองอีกฝ่ายที่ออกมาด้วยสองขาของมนุษย์ “เจ้าใช้ขาได้ด้วยเหรอ?

“ใช่สิ เจ้าคงไม่ลืมว่าข้านั้นกลายร่างเป็นมนุษย์ได้หรอกนะ” เฟอร์ร่าพูดพร้อมกับหมุนตัวไปมา

“ข้าลืมไปเลยแฮะ...” โพรทาเลียลูบหัวเบาๆ “แล้วเจ้าจะมาเป็นผู้ทดสอบข้าคนแรกเหรอ?

“ใช่แล้ว แต่โพรทาเลียพูดปกติก็ได้นะ”

“โทษที อยู่กับพวกเจ้านานๆ ข้าเกิดใช้ภาษาที่เคยพูดซะงั้น”

“หึๆ ไม่เป็นไรๆ งั้นเราไปกันเถอะ รู้สึกว่าน้องเจ้าผ่านด่านแรกไปแล้ว ตอนนี้คงรอเวลาเปลี่ยนสภาพล่ะนะ”

“เปลี่ยนสภาพ?

“ผ่านด่านหนึ่งร่างกายก็จะเปลี่ยนไปจนกว่าจะครบทั้งหมดของพลังที่หายไปจากร่างกาย”

“พลังที่หายไป...งั้นตอนนั้น...”

โพรทาเลียนึกถึงตอนที่พวกปีศาจบุกโจมตีค่ายแล้วพวกเธอสองคนช่วยกันป้องกันไม่ให้พวกปีศาจข้ามไปยังค่ายฮาล์ฟบลัดกัน

“ใช่แล้ว พวกเราทั้ง 8 คนมอบพลังให้พวกเธอ ให้โจมตีพวกปีศาจพวกนั้นมันก็ทำให้เราที่สะสมพลังมาเกือบพันกว่าปีหายไปในชั่วข้ามคืน...”

“เดียวนะ!! สะสมพลังมาเกือบพันกว่าปี!!” โพรทาเลียเขยิบเข้ามาใกล้หน้าอีกฝ่ายทันที “แบบนี้เราต้องสะสมพลังเกือบพันปีนะสิ!!”

“ไม่ๆ โพรทาเลียกับโฟกัสพิเศษกว่าพวกเรานะ พวกเธอสะสมพลังทีหนึ่งก็เท่ากับพลังเกือบพันปีที่เราสะสมเชียวนะ”

เฟอร์ร่าถึงกับหน้าซีดขึ้นมาที่อีกฝ่ายเข้ามาใกล้เธอเกินไป ทำให้เธอรู้สึกว่าเดจาวูแปลกๆ เหมือนตอนที่เธอยื่นหน้าเข้าใกล้พี่ชายจริงๆ

“เอ๋?โพรทาเลียมองอย่างสงสัย “พวกเราพิเศษขนาดนั้นเลยเหรอ?

“อืมๆ พวกเธอนะพิเศษกว่าพวกเราที่เกิดเป็นลูกเทพอีกนะ” เฟอร์ร่ากล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม เธอยื่นมือไปหาอีกฝ่ายแล้วจับมืออีกฝ่ายเบาๆ “ไปกันมัวแต่พูดจะเสียเวลาไปอีก 5 ชั่วโมงเลยนะ”

“อ๊ะ จริงด้วยๆ”

 

เฟอร์ร่าพาโพรทาเลียไปยังสถานที่ที่ตนอยากพาไป เป็นสถานที่สำหรับการฝึก แต่โพรทาเลียก็จ้องมองอีกฝ่าย เธอนึกถึงคำพูดของปู่ขึ้นมาว่าอยากเจออีกฝ่าย แต่ว่าเฟอร์ร่ากลับไม่อยากเจอคนเป็นพ่อตอนแรกๆ โพรทาเลียไม่รู้หรอกจนเธอลองย้อนกลับไปดูความทรงจำของทุกคนก็ได้รู้ว่าเฟอร์ร่ากับท่านปู่นั้นมีเรื่องอะไรกัน

 

ย้อนกลับไปเมื่อหลายพันปีก่อน เฟอร์ร่ายังเป็นแค่เด็กสาววัยสองร้อยปีเท่านั้น เธออยู่กับครอบครัวใต้ท้องทะเล ปราสาทหรือราชวังใต้ท้องทะเลลึกที่ไม่มีมนุษย์เข้ามาได้ แล้วภายในปราสาทตอนนี้ช่างตึกเครียดไปหมด เพราะสองพ่อลูกกำลังคุยกันด้วยฝีปากที่ทำให้เหล่าบริวารจะไม่ขอเข้าไปวุ่นวายเด็ดขาด

 

“เจ้าว่าไงนะ!!” โพไซดอนตะโกนออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว “เจ้าริอาจจะไปแต่งงานกับมนุษย์เนี่ยนะ!!”

“ก็ลูกรักเขา เสด็จพ่อ โปรดเข้าใจลูกด้วย!!”

“เข้าใจ!! ข้าเคยบอกเจ้าแล้วว่าอย่าทำอะไรเกินหน้าเกินตาข้า!! เจ้าจะต้องแต่งงานกับคนที่เหมาะสมไม่ใช่พวกมนุษย์พวกนั้น!!”

“อะไรกัน!! ท่านพ่อก็เคยรักและปกป้องมนุษย์ตลอด แล้วทำไมถึงเกิดพอลูกจะรักกับใครท่านถึงห้ามกัน!!”

“เพราะเจ้าไม่เข้าใจโลกนี้ดีต่างหาก!! เจ้ามันก็แค่เด็กที่พึ่งเกิดมาไม่ถึงพันปีด้วยซ้ำ!!”

“ถึงข้าจะเกิดมาได้ 200 ปี แต่ข้าก็มีความรักได้เช่นกันนะ เสด็จพ่อเลิกขัดขวางความรักของลูกสักที!!”

“งั้นก็จงออกไปจากปราสาทข้าซะ!! ถ้าเจ้าคิดจะแต่งงานกับมนุษย์นั้นเจ้าก็ไม่ใช่ลูกข้าอีกต่อไป!!”

“!!”

 

เฟอร์ร่าได้ยินคำพูดของคนเป็นบิดา ทำให้ภายในจิตของนางเหมือนแตกสลายไปในทันใด ถึงแม้ผู้เป็นมารดาและพี่ชายจะห้ามเธอไม่ให้ไป แต่เธอก็เดินหนีจากปราสาทของบิดาแล้วไม่ย้อนกลับมาอีกหลายพันปี โพรทาเลียนึกอดีตพวกนั้นก็เจ็บปวดแทนเลยว่าทำไมเฟอร์ร่าไม่อยากเจอพ่อของตนเท่าไร

 

ตลอดทางโพรทาเลียก็จ้องมองอีกฝ่ายที่ดูมีชีวิตกว่าที่ผ่านๆ มาที่เอาแต่อมทุกข์มาตลอด ทำให้เธอขออวยพรเลยว่าขอให้อีกฝ่ายสามารถคืนดีกับคุณปู่ได้ก็น่าจะดี จนพวกเขาเดินทางจนมาถึงที่ที่เฟอร์ร่าอยากจะให้โพรทาเลียมา ตอนแรกโพรทาเลียเห็นมันคือหน้าผา แต่พอมองดีๆ หน้าผานี้มีก้นที่เป็นดินไปหมดจนโพรทาเลียสงสัยว่านี้มันไม่ใช่หน้าผาด้วยซ้ำ

 

“นี่มัน...ทะเลสาบ...แล้วน้ำไปไหนหมด?โพรทาเลียมองซ้ายมองขวาว่าน้ำหายไปไหนกัน

“เงยหน้าขึ้นสิ!” เฟอร์ร่าเอ่ยพูดขึ้น

โพรทาเลียได้ยินเสียงอีกฝ่าย เธอก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมอง ดวงตาค่อยๆ เบิกกว้างขึ้นมาในทันใด เมื่อเห็นภาพตรงหน้า

“เฟอร์ร่า...น้ำ...น้ำ...น้ำกำลังลอยอยู่บนท้องฟ้า!!”

“คิกๆ ไม่สมกับเป็นสายเลือดของโพไซดอนเลยนะ”

“ข้า...ฉันยังไม่เคยใช้พลังอย่างเต็มที่นี่น่า! แล้วก็ร่างเธอ...ร่างเธอใหญ่มากเลยล่ะ!!”

“คิกๆ นี่ล่ะ ร่างของเด็กที่เป็นสายเลือดเทพอย่างแท้จริงนะ”

“ว้าว....” โพรทาเลียมองอย่างตาเป็นประกายมากๆ “ร่างเธอนี่...เห็นทุกส่วนของเธอเลยนะเนี่ย”

“อ๊ะ!!” เฟอร์ร่าได้ยินแบบนั้น ใบหน้าเธอก็เริ่มแดงโดยทันที “โพรทาเลียลามก!!”

เฟอร์ร่ากลับร่างเป็นร่างที่เท่ามนุษย์ปกติทันที โพรทาเลียเห็นอีกฝ่ายเขินก็ขำออกมาในทันที

“แล้ว...จะทำอะไรต่อดี?โพรทาเลียเงยหน้ามองน้ำที่ลอยเป็นลูกกลมๆ อยู่บนอากาศ

“หึๆ บททดสอบแรก! เลียนแบบร่างกายสิ่งใดก็ได้ แล้วขึ้นมาหาข้าข้างในนี้เจ้าค่ะ!!”

“เอ๋!?โพรทาเลียเอียงคออย่างสงสัย

บดทดสอบแรกของโพรทาเลียก็มาแบบโพรทาเลียไม่ได้ตั้งตัวจริงๆ จนเธอกังวลใจเลยว่ามันจะได้เหรอ เธอไม่ใช่ลูกของเทพที่สามารถแปลงกายได้นะ แบบนี้ก็เป็นบททดสอบที่ลำบากใจเธอสุดๆ

 

โลกแห่งจิตใจของทั้งสองก็วุ่นวายในแบบของมัน ส่วนในโลกแห่งความจริงช่วงเวลาผ่านไปจนถึงตอนเช้าของวันถัดมา โพรทาเลียตัวน้อยตื่นขึ้นอย่างสดใส ภายในห้องของเธอเปลี่ยนไปเยอะ มันกลายเป็นห้องที่สีสันมากกว่าตอนแรกที่ดำจนน่ากลัว โพรทาเลียน้อยขอให้พวกพี่ๆ ช่วยตกแต่งห้องเธอให้จนทุกคนต่างยิ้มแล้วดึงวอลล์เปเปอร์สีดำพวกนั้นออก จนเผลอให้เห็นสีห้องโพรทาเลียน้อยเคยชอบมากๆ โพรทาเลียน้อยเห็นก็กรี๊ดอย่างชอบใจในคืนก่อนหน้า ทุกอย่างในห้องก็เปลี่ยนไปหมด จนโพรทาเลียตื่นมาอย่างสดชื่นมากๆ

 

“ไปหาโฟกัสดีกว่า!!”

โพรทาเลียน้อยลงจากเตียงพร้อมกับล้างหน้าแปรงฟันอย่างสบายใจ เธอเปลี่ยนชุดอะไรเสร็จก็ออกจากห้องไปหาน้องสาวโดยทันที

“โฟกัสสสสสสสสส!!”

โพรทาเลียน้อยเปิดประตูเข้าไปก็ต้องตะลึงกับสิ่งที่เห็นจนเธอค่อยๆ ถอยหนีออกจากห้องนั้นอย่างช้าๆ ก่อนจะตะโกนเรียกพ่อแม่

“พ่อ! แม่!”

โพรทาเลียน้อยตะโกนออกมาอย่างดังลั่น จนเพอร์ซีย์กับแอนนาเบ็ธที่กำลังเตรียมอาหารเช้าอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงตะโกนเรียกของลูกสาว พวกเขาทั้งสองรีบวางของทุกอย่างที่ทำอยู่นั้น แล้ววิ่งกันขึ้นไปหาลูกสาวโดยในทันที

“โพรทาเลีย!!” เพอร์ซีย์หน้าตื่นขึ้นไปหาลูกสาว

“โพร!!” แอนนาเบ็ธวิ่งตามสามีไปด้วยในทันใด

ทั้งสองวิ่งขึ้นบันไดจนมาถึงชั้นสองก็เห็นลูกสาวยืนอยู่หน้าห้องของโฟกัส เพอร์ซีย์วิ่งเข้ามาหาลูกสาวโดยทันที

“โพรทาเลียเกิดอะไรขึ้นลูก!?

“น้อง...” โพรทาเลียชี้ไปข้างในห้องน้องสาว

แอนนาเบ็ธเห็นลูกสาวชี้เข้าไปข้างใน เธอรีบวิ่งเข้าไปดูข้างในว่าเกิดอะไรขึ้น จนเธอเห็นสิ่งที่แปลกปลอมที่ปกคลุมร่างกายโฟกัสที่นอนอยู่บนเตียง

“ตายแล้ว!! ลูกแม่!!” แอนนาเบ็ธรีบพุ่งตรงเข้าไปใกล้ๆ สิ่งที่ปกคลุมลูกสาว เธอก็ใช้มือทุบสิ่งนั้น แต่มันกับไม่แตกเลย “นี่มัน...คล้ายๆ เกราะเลย เพอร์ซีย์!”

เพอร์ซีย์ได้ยินเสียงภรรยาตัวเอง เขาก็มองลูกสาวทันที “โพรทาเลียอยู่นี่น่า”

“ค่ะ!”

โพรทาเลียน้อยมองหน้าพ่อที่กำลังเข้าไปข้างในอย่างกังวลใจ ว่าเกิดอะไรกับน้องสาวของเธอ ระหว่างความกังวลของโพรทาเลียน้อยปะทุขึ้น พวกพี่น้องบ้านแจ็กสันก็เดินทางมาถึงบ้านแจ็กสันทันที เบเดอร์นำทางมาก่อนเข้าก็เปิดประตูเข้าไปในบ้านทันที

“พ่อแม่ พวกเรามาแล้ว!” เสียงของพวกเบเดอร์ดังขึ้นในทันที

“มาแล้วครับ/ค่ะ”

“ขอความกรุณาด้วยค่ะ”

โพรทาเลียได้ยินเสียงพี่ๆ และเทพีดังขึ้นมา เธอลงบันไดลงไปหาทุกคนที่อยู่ที่ประตูทางเข้าพอดี

“พี่ค่ะ!!”

“โพรทาเลีย?โอราอุสมองหน้าน้องสาวที่วิ่งลงมาจากบันได

“โพร ตื่นเร็วจัง!”

“พี่ค่-”

“ช่วยด้วย…” โพรทาเลียเปล่งเสียงออกมาพร้อมน้ำตา “ช่วยโฟกัสด้วย!”

 

ทุกคนเห็นใบหน้าของโพรทาเลียถึงกับตะลึงไปในทันที พวกพี่ๆ รีบวิ่งขึ้นไปข้างบนทันที พวกคารีเซลรีบมาดูพี่สาวของตนเองทันที อลิซ่าเบ็ธรีบมาอุ้มโพรทาเลียพาขึ้นไปข้างบน พวกหนุ่มๆ ทั้งสามคนรีบวิ่งไปข้างบน ก็เห็นว่าคนเป็นพ่อแม่กำลังทุบสิ่งบางอย่างที่ปกคลุมร่างกายของโฟกัสอยู่

 

“พ่อครับ!” โอราอุสเรียกพ่อทันที

“โอราอุส! อย่าเข้ามา เกิดอะไรขึ้นเดียวพวกลูกจะโดยลูกหลงไปด้วยนะ!!”

“แต่ว่า!!”

“ไม่มีแต่! เพราะพ่อจะใช้อีกวิธีที่ทำลายเจ้าสิ่งนี้!!”

 

เพอร์ซีย์หยิบปากกาขึ้นมาแล้วกดปุ่มให้ปากกากลายเป็นดาบไปในทันใด ทุกคนจ้องมองผู้เป็นพ่อหยิบดาบออกมาทุกคนก็หลบมุมไปคนละทาง เพราะการโจมตีนั้นอาจจะทำร้ายคนรอบข้างได้ เพอร์ซีย์จะหันไปพูดกับภรรยาให้หลบไป แต่ว่าเธอกับจับมือเขาเอาไว้ในทันที แล้วส่งสายตาว่าเธอจะไม่ไปไหนเด็ดขาด เขามองหน้าเธอก็เข้าใจ ก่อนที่พวกเขาจะยกดาบขึ้นเพื่อฟันเกราะนั้น ทุกคนต่างเตรียมรับแรงกระแทกนั้น แต่ว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย จนพวกเขาต่างชะโงกหน้าออกไป ก็ทำให้เห็นคนแปลกหน้าที่ลอยตัวอยู่แถมยังรับการโจมตีของเพอร์ซีย์ด้วยนิ้ว จนทั้งสองที่อยู่ตรงหน้าต่างเงยหน้ามองชายหนุ่มที่มีผมยาวสลวยสีดำ ดวงตาสีเขียวมรกตเหมือนเพอร์ซีย์ แถมเครื่องแต่งกายที่คล้ายชุดกรีก

 

“แกเป็นใคร!!” เพอร์ซีย์ตะโกนใส่อีกฝ่ายดังๆ

“เป็นใคร? ไม่สำคัญที่พวกเจ้าต้องรู้หรอกนะ”

“ว่าไงนะ!! แกมาขัดขวางเราจะช่วยลูกสาวฉัน!!” เพอร์ซีย์ชี้ดาบไปหาอีกฝ่ายที่เข้ามาวุ่นวายการช่วยเหลือลูกสาวของเขา

ทุกคนที่อยู่ข้างนอกมองคนที่เพอร์ซีย์คุยด้วยนั้น อลิซ่าเบ็ธเห็นอีกฝ่ายก็ตกใจ

“ท่านพี่!?อลิซ่าเบ็ธเอ่ยเรียกอีกฝ่ายระหว่างที่เธออุ้มโพรทาเลียเอาไว้

แองเจิลค่อยๆ หันหน้าไปมองผู้เป็นน้องสาว “หน้าตาเปลี่ยนไปเยอะจริงๆ เจ้าตัวเล็ก”

“อ๊ะ! ข้าไม่ใช่เด็กแล้วนะเจ้าค่ะ!!”

“อลิซ่าเบ็ธ...คนคนนี้?

“ขอประทานอภัยค่ะ ท่านผู้นี้เป็นพี่ชายของข้าแล้วก็...เป็นอดีตชาติของพวกโพรทาเลียนะเจ้าค่ะ”

“เอ๋?ทุกคนหน้านิ่งไปสักระยะ “เอออออออออออออออออออออออ๋!?

อลิซ่าเบ็ธเกาแก้มเล็กน้อยที่ทุกคนตกใจว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นพี่ชายของตนเอง จนกระทั่งสายตาหันไปมองพี่ชายที่กำลังจ้องมองเธอ เขาเหมือนส่งสายตามาอธิบายบางอย่างกับเธอผ่านสายตาของเขา

“อ๋อ...ท่านพี่บอกว่า คุณเพอร์ซีย์จะทำร้ายเกราะที่ปกคลุมร่างกายของโฟกัสใช่ไหมเจ้าค่ะ”

“ใช่...”

“เกราะนั้น ปกคลุมร่างกายโฟกัสจนกว่าคนเป็นพี่จะผ่านการทดสอบนะคะ”

“เอ๋? หมายความว่าไงนะ?

“หมายความว่า...ตอนนี้โฟกัสผ่านการทดสอบแล้วจึงได้รับการปกป้องก่อนการเปลี่ยนสภาพนะเจ้าค่ะ”

“เปลี่ยนสภาพ?

“ระยะการเติบโตค่ะ...นั้นหมายถึงร่างต่อไปของพวกโพรทาเลียจะอายุเท่าไรเรายังไม่แน่ชัด!!”

“หือ!?

“หมายความว่า...เราจะเจอกับโพรทาเลียในเวอร์ชั่นอื่นด้วยนั้นเหรอ?

“ใช่ค่ะ...แล้วฉันคนหนึ่งที่ไม่อยากเห็นทุกช่วงเวลาของเด็กคนนั้น...ยิ่งเป็นช่วงที่เธอเริ่มอายุ 7 ขวบ...”

7 ขวบ? พี่โพรทาเลียตอนอายุเท่านั้น มีอะไรเหรอค่ะ?

อลิซ่าเบ็ธหันหน้ามองโพรทาเลียที่มองเธออยู่ เธอทำการใช้พลังของเธอปิดหูเด็กน้อย จนโพรทาเลียรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย

“เด็กคนนั้น...โดนแซเทิร์นควักลูกตาออกไปนะ!” สายตาของอลิซ่าเบ็ธดูเย็นชามากๆ จนทุกคนตะลึงกับคำพูดของเธอและขนลุกกับสายตาของเธอ

“!!”

 

จบตอนที่ 76 โปรดติดตามตอนที่ 77 ต่อไป