ตอนที่ 28 ลอบทำร้าย

เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ทุกคนต่างต้องกลับกันเพื่อไปทานอาหาร ทุกคนต่างลาคีย์ก่อนจะไปกัน โฟกัสกำลังจะเดินออกจากสถานพยาบาล ก็มีหนึ่งในกลุ่มเข้าไปหาเธอ โพรทาเลียหันไปมองอย่างสงสัยว่าชายคนนั้นเป็นใครกัน แต่ชายคนที่คุยอยู่นั้นดูสูงเกือบเท่ากับฟีนีอุส ใบหน้าคมเข้มจนดูเท่ในแบบชายเถื่อนๆ โพรทาเลียขมวดคิ้วจนอาการปวดหัวเกิดขึ้นมาอีก ทำเอาโพรทาเลียต้องนอนหลับตาลงทันที ระหว่างที่โพรทาเลียนอนพักหลับตาเฉยๆ ฟีนีอุสที่ยังยืนอยู่แถวๆ ปลายเตียงคีย์ก็ถามชายที่เดินกลับมาหลังจากคุยกับโฟกัส

 

“นายกับโฟกัสมีเรื่องอะไรกันนะ? คราวิล” ฟีนีอุสถามอย่างสงสัย

“อ๋อ...พอดีว่า...” คราวิลทำหน้าซีเรียส แต่ก็ยอมเอ่ยพูดออกไป “ฉันเตือนเธอเรื่อง พี่สาวเธอนะ”

"โพรทาเลียนะเหรอหางตาของฟีนีอุสหันไปมองคีย์ที่หลับอยู่ ก่อนจะหันมามองคราวิล "เกิดอะไรขึ้นนะ?"

“ฉันจะเล่าให้ฟังละกัน”

คราวิลเล่าเรื่องเมื่อ 3 วันก่อนที่เกิดขึ้นที่โฟกัสเขาไปคุยกับโพรทาเลีย แล้วเกิดเรื่องที่โพรทาเลียจะทำร้ายโฟกัสจนเขาเข้าไปช่วย แต่โพรทาเลียก็มีคำพูดทิ้งท้ายไว้ ทำให้คราวิลกังวลใจ

“อืม...เล่นทิ้งคำพูดแบบนั้นได้อีก คงต้องระวังตัวกันมากๆ เลยสินะ”

“ใช่ ฉันเลยต้องเป็นคนดูแลเธอในช่วงนี้มากขึ้นอีกนะ”

“อืม...น่าอิจฉาคนเป็นแฟนกันจังเลยนะ” ฟีนีอุสแซวอีกฝ่าย

“ใครบอกนายว่าฉันกับโฟกัสเป็นแฟนกัน!!” คราวิลมีสีหน้าตกใจ หูของเขากับแดงมากๆ

“เหรอ พวกนายอยู่ด้วยกันทีไรมีแอบกุ๊กกิ๊กกันตลอดนี่น่า พวกเราในกลุ่มก็รู้ๆ กันนะ สาวๆ ยิ่งรู้กันอีกต่างหาก”

“โอ๊ย!! อยู่กับพวกนายฉันมีแต่ขายหน้าอย่างเดียว!!”

โพรทาเลียได้ยินที่ทั้งสองคนสนทนากัน สิ่งที่เธอฟังทั้งหมดทำเอาเธอเคืองนูอัสสุดๆ ที่จะมาเล่นงานน้องเธอ ตอนนี้เธออยากร่วมวงสนทนาด้วยเลย แต่เธอกับหลับตาอยู่เลยลืมตาขึ้นมาไม่ได้ เดียวโดนหาว่าแอบฟังพวกนั้นคุยกัน

คราวิลคุยกับฟีนีอุสเสร็จเขากำลังคิดว่าเขาควรกลับได้แล้ว "งั้นฉันกลับไปทานข้าวดีกว่า แล้วนายล่ะ? ฟีนีอุสไปด้วยกันไหม? "

"ฉันยังมีธุระต่อนะ" ฟีนีอุสหันไปมองคีย์ แล้วหันกลับมามองคราวิล "นายไปก่อนเถอะ"

“โอเค งั้นฉันไปล่ะ” คราวิลเดินออกไปข้างนอกทันที

 

ฟีนีอุสกำลังจะหันไปมองคีย์ เขามองข้างเตียง เขาไม่เห็นคาเร็นน่ากับลิซ่าแล้ว เธอสงสัยว่าสองคนนี้หายไปไหนแล้วล่ะ ถ้าถามหาลิซ่ากับคาเร็นน่า เด็กน้อยได้ลากพี่สาวออกไปทานข้าวกัน เพราะเธอหิวข้าว พวกเขาเลยออกไปข้างนอกกัน เหลือแค่ 2 คนที่อยู่ตรงนั้น ฟีนีอุสจ้องมองคีย์ที่นอนอยู่ เขาเลยพูดบางอย่างออกมา

 

"จะนอนไปอีกนานแค่ไหนนะ? "

"!! " โพรทาเลียถึงกับเหงื่อตก เมื่ออีกฝ่ายพูดขึ้น เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นมามองอีกฝ่าย "รู้ได้ไงว่าฉันยังไม่ได้นอนนะ"

"ก็ฉันเห็นนายพึ่งหลับตาเองนี่น่า แล้วตอนที่ฉันคุยกับคราวิล ตานายก็กลอกไปมาจริงไหมล่ะ? "

"อ๊ะ!" โพรทาเลียถึงกับขมวดคิ้วเลยว่าอีกฝ่ายช่างสังเกตอะไรเธอนักหนา โพรทาเลียค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง "แล้วนายมีอะไรกับฉันเหรอ?"

 

พอได้ยินแบบนั้น ฟีนีอุสเดินไปยกเก้าอี้ที่อยู่แถวนั้นมานั่งข้างๆ อีกฝ่าย ดวงตาสีฟ้าใสอันน่าหลงใหลกำลังจับจ้องมาที่เธออย่างไม่ละสายตา ใบหน้าอันขาวสะอาดเริ่มมีสีแดงระรื่นขึ้นมาตรงแก้มทั้งสองข้าง หัวใจเธอเต้นแรงตึกตัก ตึกตัก ทำให้เธอสงสัยว่าตัวเองเป็นอะไรไป

 

"นายเคยสนใจใครสักคนไหมนะ? "

"สนใจ? " โพรทาเลียฟังที่อีกฝ่ายพูดขึ้นอย่างสงสัย

"ใช่ คนที่ชอบ หรือ คนรักนะ"

"เอ๋? ...คนรัก!! " โพรทาเลียตกใจหน่อยๆ ว่าอีกฝ่ายมาถามเธอแบบนี้ทำไม "จะบ้าเหรอ? เรื่องแบบนั้น...เอ่อ...ก็มีบ้างนะ..."

ฟีนีอุสรู้สึกแปลกใจที่อีกฝ่ายมี "จริงสิ? "

"อืม…" โพรทาเลียพยักหน้าทันที "พอดีเมื่อก่อนฉันมีเพื่อนสนิทที่อยู่ด้วยกัน เขาดูแลฉันมาตั้งแต่ฉันรู้จักเขา จนเขา...ตายในอ้อมกอดของฉัน..."

"!! " ฟีนีอุสได้ยินยังตกใจเลย "เสียใจด้วยนะ"

"อืม" โพรทาเลียส่ายหน้า "ฉันว่าไปแสดงความเสียใจกับพี่ชายเขาดีกว่าน่านะ"

"พี่ชายเหรอ? "

"อืม พี่ชายเขา โทมัสนะ"

"โทมัสนะเหรอ? " ฟีนีอุสตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน

ชายที่อีกฝ่ายพูดคือน้องชายที่หายตัวไปของโทมัส เขารู้จากโทมัสว่าน้องชายเขาโดนเทพตนหนึ่งพาไป ทำให้โทมัสตามหาน้องชายมาตลอด แต่พอได้ยินแบบนั้นแปลกว่าโทมัสก็รู้เรื่องน้องชายแล้วแน่ๆ

"โทมัสคงเสียใจน่าดู"

"อืม เป็นใครไม่เสียใจกันนะ ที่คนที่เรารู้จักเสียไป..."

“ไม่อยากพูดก็ไม่ต้องพูดก็ได้นะ”

โพรทาเลียส่ายหน้า “ไม่นะ ที่จริงมันเป็นเรื่องที่เขารักฉันข้างเดียวมากกว่านะ”

“รักข้างเดียว”

“อืม...เมื่อก่อนฉันไม่เคยสนใจเขานอกจากการเป็นเพื่อน...” สายตาของโพรทาเลียเริ่มเศร้าลงเรื่อยๆ “แต่ฉันก็เริ่มมีใจสั่นไหว จนถึงตอนที่เขาเอาตัวมาปกป้องฉัน ถ้าเขาไม่เอาตัวมาปกป้องฉัน เขาก็คงไม่ต้องตาย”

ฟีนีอุสมองใบหน้าของคีย์ เขาเห็นดวงตาของอีกฝ่ายมีน้ำตาคลออยู่ เขาเข้าใกล้อีกฝ่ายแล้ว ลูบมือของเธอ

"อย่าโทษตัวเองเลยนะ คีย์"

"ไม่!! ฟีนีอุส ฉันโทษตัวเองว่าถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตอนนั้นฉันรับหอกนั้นก่อน เขาก็คงไม่ตาย"

"แต่ถ้านายรับ! นายจะตายแทนเขา เขาจะไม่เสียใจเหรอที่ไม่สามารถปกป้องคนที่เขารักได้นะ!! " ฟีนีอุสขึ้นเสียงขึ้นมา

"ฟีนีอุส..." โพรทาเลียสงสัยเลยว่าทำไมอีกฝ่ายถึงขึ้นเสียง

"โทษที...ฉันแค่...รู้สึก..." ฟีนีอุสสงบสติทันที แล้วนั่งลง "ฉันแค่รู้สึกไม่อยากให้นายคิดแบบนั้น นายนะรอดมาก็ดีแล้ว...แต่ฉันแอบอิจฉาคนที่นายพูดถึงนะ"

"ทำไมถึงอิจฉาล่ะ? " โพรทาเลียงงว่าทำไมอีกฝ่ายถึงมาอิจฉาคนที่ตายไปแล้วล่ะ

"ก็เพราะเขาได้อยู่กับนายแล้วก็...ได้บอกรักนายใช่ไหมล่ะ? "

เมื่อคำถามนั้นพุ่งเข้ามา มันทิ่มใจเธอมากๆ เมื่อนึกถึงวันเวลาที่ดีแลนชอบบอกว่ารักเธอจนเธอต้องรู้สึกละอายใจที่อีกฝ่ายเอาแต่มาชอบเธอ

"ก็นะ เขานะชอบบอกรักฉันตลอด แต่ฉันก็บอกเขาเสมอว่าในใจฉัน มีคนอื่นอยู่"

"คนอื่น? " ฟีนีอุสมองอย่างสงสัย

"อ๊ะ...ก็แค่คนที่ไม่เคยเห็นนะ" โพรทาเลียตัดบทออกไป

ฟีนีอุสลุกขึ้นมานั่งข้างๆ บนเตียงอีกฝ่าย “คนที่ไม่เคยเห็นนี้เป็นคนยังไงล่ะ?

“อ๊ะ...” โพรทาเลียมองอีกฝ่ายที่ยิ่งเข้ามาใกล้ๆ เธอ

“คีย์...”

 

เมื่ออีกฝ่ายเรียกชื่อของเธอ พอเธอเงยหน้ามองอีกฝ่าย ทำให้เธอเห็นภาพซ้อนระหว่างภาพในฝันที่เธอเคยฝันบ่อยๆ ชายใบหน้าหล่อเหลา ดวงตาสีฟ้า ผมสีทองที่ปิดใบหน้าครึ่งหนึ่ง ทำเอาโพรทาเลียคิดหนักเลยว่าทำไมตนถึงพึ่งสังเกตเอาป่านนี้ว่าอีกฝ่ายเหมือนชายในฝันของเธอ

 

‘ชายคนนี้...คงไม่ใช่ชายในฝันจริงๆ ใช่ไหม...’

 

โพรทาเลียหันหน้าไม่กล้ามองใบหน้าอีกฝ่ายที่กำลังจับจ้องเธออย่างไม่ละสายตาเลยสักครั้ง ทำเอาใบหน้าของเธอยิ่งแดงเข้าไปใหญ่ เธอเอามือสัมผัสหน้าอกของเธอ หัวใจยิ่งเต้นแรงมากขึ้นไปอีก

“เขา...ก็แค่คนที่ที่ฉันฝันเห็นบ่อยๆ นะ”

“ฝันเหรอ?ฟีนีอุสสงสัยทันทีว่าคืออะไร

“อืม...ก็แค่ชาย...ตัวสูงผมยาวสีทอง ดวงตาสีฟ้า...” โพรทาเลียหันหน้าหนีอีกฝ่าย

ฟีนีอุสฟังอย่างสงสัย แต่พอเขาคิดทำไมลักษณะคล้ายๆ เขา “นายฝันถึงฉันเหรอ?

“ไม่ใช่นะ ฉันแค่...แค่...ถึงจะคล้ายๆ กัน แต่ว่านาย นายเป็นแฟนโพรทาเลียไม่ใช่เหรอ ยัยนั้นจะไม่ทำร้ายฉันเหรอ! ?

“แล้วนายสนใจเหรอ? ฉันเลิกกับเขาไปแล้วนะ”

โพรทาเลียมองนิ่งๆ เธอสงสัยอย่างว่าอีกฝ่ายทำไมถึงมาคบกับนูอัสได้ “ขอถามหน่อยสิ ว่าทำไมนายถึงมาคบกับโพรทาเลียได้ล่ะ”

“อ๋อ...ก็...ตอนเด็กๆ ฉันแอบชอบเขานะ...”

“ตอนเด็กๆ เหรอ?

“ใช่ ตอนนั้นเป็นงานวันเกิดของโพรทาเลียนะ ฉันเจอเด็กคนนั้น ตอนที่เขาจะตกจากเคาน์เตอร์ห้องอาหารนะ”

 

โพรทาเลียถึงกับอึ้งไปเลย เมื่ออีกฝ่ายอธิบายถึงตอนที่เจอกับโพรทาเลียครั้งแรกแต่นั่นตอนนั้นคือตัวเธอจริงๆ แปลว่าอีกฝ่ายชอบเธอที่เป็นตัวจริง ทำเอานึกถึงตอนนั้นที่เจออีกฝ่ายแล้วเขาช่วยเธอ ตอนนั้นเธอนึกว่าตัวเองเจอนางฟ้าที่ลอยตัวมาช่วยเธอ แถมอีกฝ่ายบอกว่าช่วยเก็บเรื่องนั้นเป็นความลับด้วย ตอนนั้นตัวเธอลืมไปหมดว่าเขาแนะนำลืมตัวเองจนตอนนี้เธอจำได้ว่าเขาแนะนำตัวยังไง

 

‘พี่ชื่อ ฟีนีอุส เกรซ ฝากตัวด้วยนะ น้องโพรทาเลีย’

 

พอนึกถึงใบหน้าอันอ่อนวัยของอีกฝ่ายตอนอายุ 10 ขวบ ทำเอาตัวเธอ นั้นหน้าแดงขึ้นมา แต่เธอก็ต้องเปลี่ยนสีหน้าโดยไวไม่งั้นอีกฝ่ายผิดสังเกตแน่ๆ แต่โพรทาเลียไม่รู้ว่าฟีนีอุสนั้นมองเธอตลอด

“คีย์...”

“หือ?โพรทาเลียเงยหน้ามองอีกฝ่าย “อะไรเหรอ?

“คือ...ที่นายถามฉันนั้นคือ?

“ฉันแค่สงสัยนะว่านายกับโพรทาเลียทำไมมาเจอกันได้นะ...ไม่ได้มีอะไรสักหน่อย” โพรทาเลียก้มหัวลงเล่นน้อย ตัวเธอไม่กล้ามองหน้าอีกฝ่ายเลย

“งั้นเหรอ นายรู้แล้วว่าฉันไม่ได้เป็นอะไรกับโพรทาเลีย งั้น...” ฟีนีอุสจับมือของอีกฝ่ายขึ้นมา “ฉันขอคบกับนายได้ไหม?

 

เมื่อฟีนีอุสพูดแบบนั้น ใจอันเบาะบางของโพรทาเลียเริ่มเต้นแรงมากขึ้นไปอีก ใบหน้าของเธอแดงมากขึ้นเรื่อยๆ อีกครั้ง เธอถึงกับงุนงงว่าทำไมอีกฝ่ายมาพูดกับเธอแบบนั้น ตอนนี้เธอเป็นผู้ชายนะ แถมคำพูดอีกฝ่ายที่บอกว่าขอคบด้วย โพรทาเลียก็รู้ว่าหมายความว่าไง เพราะดีแลนชอบพูดแบบนั้นกับเธอ ตอนแรกๆ ที่อีกฝ่ายสนใจเธอมากขึ้น

 

"เดียวก่อนนะ!! ทำไมต้องมา...เป็นฉันด้วยล่ะ ฉันเป็นชายนะ ถึงแม้...ในอดีตจะมีเรื่อง...ชายรักชายก็ตามนะ แต่ว่าฟีนีอุสควร...คบกับผู้หญิงสวยๆ มากกว่า...คนแบบฉันอีกนะ!! " โพรทาเลียลนลานจนทำตัวไม่ถูกเลยสักอย่าง

ฟีนีอุสจับมือคีย์แน่นขึ้น มืออันหนาและเรียวยาวกำลังลูบมืออีกฝ่ายไปมาจน ทำเอาคนที่โดนจับถึงกับใบหน้าแดงขึ้นเรื่อยๆ เขายกมืออีกฝ่ายมาจับใบหน้าเขา ทำเอาคีย์ถึงกับงงว่าเขาทำแบบนั้นทำไม

"ฉันนะไม่สนใครหรอกนะ ฉันนะสนแค่นาย ตอนที่โอราอุสอุ้มนายมาที่นี้ ฉันนะกังวลใจมากๆ เมื่อเห็นใบหน้าอันทรมานของนายนะ"

"ฟีนีอุส..." โพรทาเลียมองชายตรงหน้า ทำเอาเธอลำบากใจเลยว่าจะตอบอีกฝ่ายยังไงดี “คือฉัน...”

"ฉันรู้นะว่า อาจจะเร็วไปที่นายจะตอบรับความรู้สึกของฉัน แต่ฉันจะรอ รอวันที่นายตอบรับความรู้สึกของฉัน ฉันอยากให้เราสองคนรู้จักกันมากขึ้นไปก่อนนะ คีย์"

"อ๊ะ...เอ่อ...ก็ได้...ทำความรู้จักกันไปก่อนนะ...แล้วก็...ค่อย..." เธอเอามือจับแก้มของตนเอง เพราะเขินมากๆ

 

ข้างนอก ณ ประตูข้ามค่ายไปยังค่ายจูปิเตอร์ เพอร์ซีย์กับอาจารย์บางคนได้กลับมาหลังจากมีการประชุมที่ค่ายโรมัน พวกเขามาถึงก็แยกย้ายกัน เพอร์ซีย์ได้รับข่าวหลังจากกลับมาว่าคีย์นั้นอาการป่วยเริ่มหายแล้ว เขาเลยคิดว่าจะเข้าไปคุยกับอีกฝ่าย เขาเดินทางไปทันที พอเดินทางมาถึงสถานพยาบาล ตอนนี้กลับเป็นสภาพเดิมไม่มีการตั้งจุดอันตรายแล้ว ยกเว้นจุดที่ใช้ดาบของคีย์และโฟกัสป้องกันอยู่ กลัวว่าถ้าดึงออกแล้วมันจะกระยังหลงเหลือสร้างที่ทำสลบไป เพอร์ซีย์ส่ายหน้าแล้วเดินเข้าในสถานพยาบาล พอเดินเข้ามาเขาก็เจอกับภาพที่ชวนหงุดหงิดขึ้นมา เมื่อคีย์อยู่กับเด็กหนุ่มที่เขาไม่ชอบหน้ามาตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว และยิ่งเห็นอีกฝ่ายกำลังจับมือคีย์ ไม่รู้ทำไมเขาถึงรู้สึกหงุดหงิดมากๆ เขาเดินไปถึงก็มายืนอยู่ข้างหลังของเด็กหนุ่มคนนั้น

 

"นายมาอยู่นี้ทำไม หัวหน้าบ้านซุส!! "

"เย้ย!! " ฟีนีอุสได้ยินเสียงที่คุ้นเคย เขาค่อยๆ หันไปมองก็เจอกับชายที่เขาไม่อยากเจอตอนนี้เลย "คุณเพอร์ซีย์ กลับมาแล้วเหรอครับ? "

โพรทาเลียเงยหน้ามองชายที่อยู่ข้างหลังฟีนีอุส เธอไม่นึกว่าผู้เป็นพ่อจะกลับมาตอนเย็นจริงๆ แต่ทำไมเขาถึงมาหาเธอแล้วสีหน้าที่ดูหงุดหงิดฟีนีอุสอีกทำไมเขาถึงทำสีหน้าแบบนั้นกัน

"นายจะปล่อยมือจากวันเดอร์เลอร์ได้ยังล่ะ? "

"อ๊ะ..." ฟีนีอุสมองมือของเขาที่จับมือคนที่เขาชอบอยู่ เขายิ้มก่อนจะปล่อย "คุณนี้ยุ่งจริงๆ เลยนะ"

"หนักหัวนายหรือไง? " เพอร์ซีย์จ้องฟีนีอุส

"ใช่ครับ!! "

ทั้งสองคนต่างจ้องกันอย่างไม่ชอบใจกัน โพรทาเลียมองทั้งสองคนแล้วรู้สึกว่า สองคนนี้คงมีเรื่องกันมาก่อนแน่ๆ ไม่งั้นคงไม่กัดกันขนาดนี้ แต่โพรทาเลียก็สงสัยว่าอีกฝ่ายมาหาเธอทำไม ไม่ไปหาโฟกัสเหรอ เธอจำได้ว่าอีกฝ่ายนัดโฟกัสไว้นี่น่า

"เลิกทะเลาะกันเถอะนะทั้งสองคน" โพรทาเลียพูดห้ามทั้งสองคน ทั้งสองคนก็ต่างหันหน้าหนีกันทันที โพรทาเลียเห็นแบบนั้น ก็มองไปที่พ่อของตนเอง "เอ่อ...คุณแจ็กสัน..."

"เรียกฉันว่า คุณเพอร์ซีย์ ดีกว่านะ ฉันจะหันมาเรียกเธอว่าคีย์มั้งละกัน จะได้เรียกกันง่ายนะๆ "

"คะ...ครับ เอ่อ...ตอนนี้ไม่ไปฝึกกับโฟกัสเหรอครับ? "

"ฝึก? วันนี้ไม่มีฝึกนะ" เพอร์ซีย์ขมวดคิ้วสงสัยในคำถามของอีกฝ่ายทันที

พอทั้งสองคนที่อยู่ตรงนั้นได้ยินคำพูดของชายตรงหน้า สีหน้าของทั้งสองอึ้งไปเลย ฟีนีอุสลุกขึ้นทันที

“เดียวนะครับ คุณจะบอกว่าตัวเองไม่ได้ส่งจดหมายมานั่งโฟกัสว่ามีฝึกตอนเย็นใช่ไหมครับ คุณเพอร์ซีย์”

“ก็ใช่นะสิ วันนี้ฉันอยู่แต่ในหอประชุมที่ค่ายจูปิเตอร์นะ ไม่ได้ว่างมาเขียนจดหมายหรอกนะ”

พอทั้งสองได้ยินแบบนั้น โพรทาเลียก็รู้สึกข้างในของเธอเหมือนกำลังจะวูบไปเลย

“คุณเพอร์ซีย์ครับ เมื่อกลางวันมีคนส่งจดหมายโดยคนส่งเป็นชื่อคุณนะครับ!!”

“ว่าไงนะ! ?เพอร์ซีย์แปลกใจทันทีเขาไม่ได้ส่งไปสักฉบับเลยนะ “ฉันไม่ได้ให้ใครส่งไปจริงๆ นะ ฉันกะว่ากลับมาก็จะพัก ภรรยาฉันน่าจะอยู่ที่โรงอาหารด้วย ขอเวลาแป๊บนะ”

เพอร์ซีย์หยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง มันมีทรงสี่เหลี่ยมสีดำ แล้วมีเสาแท่งบางอย่างขึ้นมา มันคือเครื่องวิทยุไร้สาย เพอร์ซีย์หยิบขึ้นมาแล้วเอามาไว้ตรงที่ปากเพื่อพูด

“แอนนี่! แอนนี่!”

ทางด้านโรงอาหารภรรยาของเพอร์ซีย์ แอนนาเบ็ธกำลังทานอาหารอยู่ ตัวเธอก็ได้ยินเสียงสามีของตนกำลังพูดใส่เครื่องวิทยุ เธอยกเครื่องวิทยุขึ้นมา

“มีอะไรนะ? เพอร์ซีย์”

“โฟกัสอยู่ที่โรงอาหารไหมตอนนี้?

“ลูกเหรอ...เอ่อ...” แอนนาเบ็ธมองรอบๆ เพื่อมองไปที่บ้านโพไซดอน ก็ไม่เจอ มองจุดไหนก็ไม่เจอ “ไม่เจอนะ น่าจะกลับบ้านพักไปแล้วมั้ง”

“งั้นเหรอ?เพอร์ซีย์ได้รับการยืนยันแบบนั้น เขามองทั้งสองคนอย่างสงสัยก่อนจะคิดบางอย่าง “แม่เขาบอกว่าไม่ได้อยู่ที่โรงอาหารตอนนี้ คงกลับบ้านพักไปแล้วน่านะ”

โพรทาเลียได้ยินแบบนั้นทำเอาเป็นกังวลแทน เธอยกกำไลตัวเองขึ้นมาทันที “เหล่าบ้านแจ็กสัน ฉันคีย์นะ พวกนายมีใครอยู่บ้านพักแล้วมั้งนะ”

เหล่าบ้านพี่น้องทั้ง 4 คนได้ยินเสียงโพรทาเลีย พวกเขาได้ยินคำหนึ่งว่า ฉันคีย์นะ เหมือนบ่งบอกว่าตอนนี้ให้เรียกชื่อนั้น พวกเขาแต่ละคนยกกำไลขึ้นมาทันที

“พี่อยู่โรงอาหารยังไม่ได้กลับนะ” โอราอุสที่กำลังทานอาหารอยู่เต็มปากก็พูดออกไป

“หนูสองคนอยู่กองไฟค่ะ กำลังเล่นรอบกองไฟกันอยู่นะ” 2 ใน 3 แฝดกำลังนั่งเล่นอยู่รอบกองไฟอย่างสนุก

“ผมอยู่บ้านพักโพไซดอนนะ พี่คีย์มีอะไรเหรอ?

เมื่อเพอร์ซีย์ได้ยินเสียงลูกชายคนสุดท้องพูด เขาเดินไปหาคีย์แล้วยกกำไลอีกฝ่ายขึ้นมาพูด

“มาร์โค พี่สาวลูกอยู่ไหนกัน! ?

“คนไหนล่ะครับ แต่ถึงถามคนไหนก็ไม่อยู่ที่บ้านนะ มีแค่สมาชิกคนอื่นๆ เท่านั้นล่ะ”

เมื่อได้ยินแบบนั้น ทำเอาเพอร์ซีย์นิ่งไปเลย โพรทาเลียได้ยินแบบนั้น เธอก็สงสัยเลยว่านูอัสหายไปไหน เพอร์ซีย์ไม่พูดอะไรเขารีบวิ่งออกจากสถานพยาบาลไปทันที

“คุณเพอร์ซีย์!!” ฟีนีอุสมองชายที่วิ่งออกไปอย่างรีบร้อน

“นายตามคุณแจ็กสันไป ฟีนีอุส” โพรทาเลียพูดขึ้นมาทันที

“อ๊ะ ได้ นายอยู่นี้นะ คีย์” ฟีนีอุสวิ่งตามคุณเพอร์ซีย์ไปทันที

ฟีนีอุสวิ่งออกไปก็ผ่านลิซ่ากับคาเร็นน่าที่เดินกลับมา พวกเธอเห็นพวกเขาวิ่งไปอย่างรีบร้อน พอเดินมาถึงเตียงโพรทาเลีย ลิซ่าก็ถามทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น

“เอ่อ น้องรักเกิดอะไรขึ้นนะ?

“มีคนมากระตุกหนวดเสือของข้าเข้าให้!!” โพรทาเลียพูดด้วยน้ำเสียงดูโกรธเคืองทันที

 

เพอร์ซีย์วิ่งจากสถานพยาบาล แล้วตรงไปถึงจุดที่เขาชอบนัดลูกๆ มาฝึกตอนกลางคืน คือแถวๆ ลานประลอง พอเพอร์ซีย์มาถึงก็ถามคนแถวนั้นว่าเห็นลูกสาวเขาไป แต่ละคนบอกไม่เห็นทำให้เพอร์ซีย์ตื่นตระหนกเข้าไปอีก ฟีนีอุสที่เห็นอีกฝ่ายที่กำลังตระหนก เขาก็สงสัยว่าโฟกัสหายไปไหน พวกเขาก็ไม่ได้ถามว่าในจดหมายนัดที่ไหนกันแน่ๆ

 

“โฟกัส เธออยู่ไหนกัน! ?

 

สายลมที่กำลังพัดผ่านร่างหญิงสาวที่กำลังเดินเข้ามาในป่าลึกที่อยู่ในค่าย สถานที่ที่กำลังเดินอยู่นั้นไม่ค่อยมีผู้คนเดินผ่านแต่อย่างใด เนื่องจากแถวนี้ไม่ค่อยจะมีใครอยากเดินผ่านถ้าไม่ใช้เส้นที่ควรเดิน นอกจากเวลาแข่งขันชิงธงหรือไปชมดอกไม้ไฟที่หาด ดวงตาอันสีเทากำลังจับจ้องมองรอบๆ เพื่อหาผู้เป็นพ่อที่นัดเธอเข้ามาในป่านี้ แต่ลึกๆ เธอสงสัยนักว่าทำไมนัดมาที่นี้ ไม่ใช่ลานประลอง พอเธอมาสักพักเธอเริ่มตะโกนเรียกหา

 

“พ่อค่ะ!” โฟกัสตะโกนออกไปอีกแต่ไม่ได้ยินเสียงตอบมา “พ่อค่ะ หนูมาแล้วนะ พ่ออยู่ไหนนะคะ?

 

สิ้นเสียงของโฟกัส รอบๆ ตัวเธอเสียงก็เงียบไป โฟกัสสะดุ้งมองรอบๆ ตัวเธอทันทีว่าทำไมรอบๆ เธอเสียงถึงหายไป เสียงใบไม้ที่พัดไปมาตามลม เสียงสิ่งๆ ต่างๆ ร้องในป่าหายไป ทำเอาเธอระแวงขึ้นมา แต่แล้วก็มีเงามืดกำลังเดินตรงมาจากด้านหลัง โฟกัสที่กำลังมองซ้ายขวาอยู่นั้น ก็มีเสียงที่เธอคุ้นเคยพูดเตือนเธอขึ้นมา

 

“โฟกัส!! ข้างหลัง!!”

 

เมื่อเสียงนั้นเตือนเธอ โฟกัสรีบหยิบดาบหันไปข้างหลัง พอเธอกำลังจะหันนั้น ก็มีแรงฟาดจากบางอย่างกระแทกตัวเธออย่างจัง ตัวเธอนั้นลอยกระเด็นไปกระแทกกับพื้นจนมีบาดแผลตามร่างกาย เธอค่อยๆ พยุงตัวเองขึ้นมา ภายในของเธอรู้สึกกระอักกระอ่วนไปหมด

 

“อึ้ก!! แค่กๆ”

 

โฟกัสไอออกมาเป็นเลือด แรงกระแทกเมื่อกี้ทำให้เธอกระอักกระอ่วนและสะเทือนไปทั้งร่างกาย เธอค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมา สายตาเบ่งกว้าง เมื่อเห็นภาพตรงหน้า เธอเห็นร่างสูงใหญ่อันอัปลักษณ์ ดวงตาดวงเดียวดวงใหญ่จ้องมองเธอ พร้อมกับอาวุธในมือ มันคือกระบองไม้ขนาดใหญ่ ทำเอาเธอตื่นกลัวไม่นึกว่ายักษ์ไซคลอปส์จะมาอยู่ในค่ายได้ เธอพยายามลุกขึ้นเพื่อจะหนีจากอสุรกายตนนี้

 

“โฟกัสหนีเร็วมันจะมาแล้ว!!” เสียงเล็กๆ พูดขึ้น น้ำเสียงคล้ายๆ ผู้ชายพูดเตือนโฟกัส ก่อนที่ร่างอันเล็กจิ๋วก็โผล่ออกมาถึง 3 ตน

“ฉันกำลังจะวิ่งอยู่น่า อาเดียน!!” โฟกัสหันไปมองร่างจิ๋วที่เตือนเธอให้วิ่ง เธอก็เตรียมจะวิ่ง

โฟกัสกำลังจะวิ่งหนีจากยักษ์ไซคลอปส์ตนนี้ แต่แล้วมันก็มาดักด้านข้างของเธอ เมื่อหางตาเธอมองเธอถึงกับผวาขึ้นมาว่าตนเองต้องโดนแน่ๆ

“โฟกัสระวัง!!” เสียงตัวจิ๋วคนที่สองดังขึ้น

 

แต่โฟกัสกับป้องกันไม่ทันซะแล้วอีกครั้ง เธอก็โดนกระบองฟาดจากด้านหลังอย่างจังๆ ทำให้เธอกระเด็นไปข้างหน้ากระแทกกับต้นไม้ ความเจ็บปวดจากการโดนทำร้ายเริ่มทับถมเธอมากขึ้น ทำให้เธอไอออกมาออกมาอีกมีทั้งเลือดและฟันกล้ามหลุดออกมาด้วย เธอเกาะต้นไม้เพื่อพยุงตัวอยู่ ยักษ์ตนนั้นก็เดินมาหาเธอพร้อมกับจับคอเสื้อเธอ เมื่อเธอรู้สึกถึงแรงที่จับคอเสื้อเธอ ตัวเธอก็ลอยขึ้น แล้วโดนโยนเธอไปอีกทางทันที

 

“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!”

 

ร่างของหญิงสาวกระเด็นลอยไปไกล ตัวเธอนั้นกระแทกไปกับพื้น แล้วขาของเธอเหมือนโดนบาดจากบางอย่างที่ทำให้เลือดไหล เธอกลิ้งจนไปชนกับต้นไม้ใหญ่เข้า โฟกัสถึงกับจุกไปทั้งร่าง เธอรู้สึกหนาวไปทั้งร่างกาย แต่รู้สึกแสบแผลที่ถลอก เมื่อเธอจะขยับตัวกับรู้สึกเจ็บที่ขา เมื่อมองลงไปขาของเธอเลือดกำลังไหลออกมา ทำเอาโฟกัสขมวดคิ้วทันที

 

“แย่ล่ะ!!” โฟกัสฉีกเสื้อของเธอมาพันขาของเธออย่างเร่งรีบ เธอพยายามลุกขึ้นมาเพื่อจะหนี

“ดูสภาพแบบนั้นสิ ไม่น่าดูเลยนะ แจ็กสัน”

 

เสียงหนึ่งพูดขึ้นทำให้โฟกัสหันไปมองว่าเสียงนั้นอยู่ไหน โฟกัสเงยหน้าขึ้นมามองต้นเสียงนั้นอยู่ไหน จนเห็นบนไหล่ของยักษ์ตนนั้น เธอเห็นหญิงสาวผมสีน้ำเงิน แต่เส้นผมอีกฝ่ายกับขยับไปมา เธอมองดีๆ เส้นผมนั้นคืองู ทำเอาโฟกัสหลับตาทันที เธอคิดว่าอีกฝ่ายเป็นเมดูซ่า ทำให้เธอต้องหลับตาเพื่อไม่ให้เธอกลายเป็นหิน อสุรกายหญิงผมน้ำเงินเห็นอีกฝ่ายหลับตา เธอลงจากไหล่ของยักษ์ตนนั้นแล้วเดินตรงไปหาอีกฝ่าย ก่อนที่จะจับอย่างรุนแรงที่ใบหน้าอีกฝ่าย

 

“อ๊าก!!” โฟกัสตกใจเมื่อโดนอีกฝ่ายมาจับแก้มของตน

“มองข้าสิ ไม่มองคนที่จะฆ่าแกแล้วมันเสียมารยาท รู้ไหมล่ะ!?

“ฉันไม่สน ฉันไม่ฟังปีศาจอย่างแกแน่ๆ เมดูซ่า!!”

“โอ้ เจ้านึกว่าข้าเป็นเมดูซ่าเหรอ? เสียใจนะ ข้าเป็นแค่ปีศาจที่เหมือนนางเท่านั้นล่ะ”

“แค่เหมือน!?โฟกัสได้ยินแบบนั้น แต่ตัวเธอก็ไม่กล้าเปิดตา

อสุรกายหญิงรู้สึกหงุดหงิด ก่อนจะจับเปลือกตาอีกฝ่ายเปิดออกมาทันที

“ดูซะ!! ข้าไม่ใช่อย่างที่แกคิดเลยจริงๆ งั้นคงถึงเวลาที่ข้าจะฆ่าเจ้าจริงๆ” อสุรกายหญิงยกมือสั้นขึ้นมาทันที

“อึ้ก!!” เมื่อโฟกัสเห็นแบบนั้น เธอขมวดคิ้วอย่างโกรธเคือง เธอถุยน้ำลายใส่อีกฝ่ายทันที “นึกว่าฉันจะยอมเหรอ!? ไอ้ปีศาจ ถ้าแกฆ่าฉันพ่อแม่ฉันต้องรู้แน่ๆ ว่าฉันเป็นอะไรไป!!”

อสุรกายหญิงสะบัดมือตัวเองออกจากใบหน้าอีกฝ่าย จนโฟกัสกระเด็นไปด้านข้าง อสุรกายหญิงยกมือที่ถือดาบสั้นขึ้นมาเช็ดน้ำลายอีกฝ่ายออกจากแก้มของตนก่อนจะยิ้มออกมา

“โอ้งั้นเหรอ แต่ถ้าฉันทำแบบนี้ก็จบ!!” อสุรกายหญิงเมื่อดีดนิ้วก็มีอีกคนออกมาจากเงามืดของต้นไม้

เมื่อโฟกัสเห็นก็ตกใจ เพราะคนที่ออกมานั้นมีใบหน้าและรูปร่างเหมือนเธอหมดทุกอย่าง

“แก!!” โฟกัสรู้สึกโกรธขึ้นมาทันที “ถึงมีคนปลอมเป็นฉัน พ่อแม่ฉันก็ต้องรู้แน่ๆ!!”

“จริงสิ ถ้ารู้จริงๆ นะเหรอ…ฮ่าๆๆๆๆ” อสุรกายหญิงหัวเราะขึ้นมาทันที “รู้ไหมที่ข้าหัวเราะเพราะอะไร ก็เพราะข้านะหลอกพวกเจ้ามานานแล้วไงล่ะ”

อสุรกายหญิงยืนหน้าเข้ามาหาอีกฝ่าย โฟกัสได้ยินถึงกับอึ้งไปเลย

“ไม่จริง พวกเราไม่โดนพวกแกหลอกง่ายๆ หรอกนะ!!”

“งั้นเหรอ งั้นข้า นูอัส ขอให้พวกเจ้าได้พบกับ...” นูอัสจับไปที่สร้อยคอของตนก่อนที่ร่างกายของนางจะกลายเป็นอีกร่างที่มีผมดำยาวสลวย ดวงตาสีเขียว

สีหน้าของโฟกัสซีดไปเลย เมื่อเห็นอีกฝ่ายกลายเป็นพี่สาวของเธอ โพรทาเลีย เธอส่ายหน้าทันที

“ไม่จริง!! แกปลอมเป็นพี่สาวฉัน แล้วพี่สาวกันอยู่ไหนกัน!!”

“โอ้ก็...อยู่ปราสาทของนายท่านข้า ป่านนี้นางคงโดนทรมาน มันก็นานมาถึง 9 ปีแล้วล่ะมั้ง ไม่สิอีกไม่กี่เดือนก็ครบ 10 ปีแล้วสิ”

“!!” พอได้ยินแบบนั้นโฟกัสถึงกับช็อกไปเลยที่รู้ความจริงว่าคนที่อยู่ข้างๆ ไม่ใช้พี่สาวจริงๆ ตัวเธอสั่นไปหมด จนนูอัสยิ้มอย่างชอบใจที่ทำให้มนุษย์เจ็บปวดใจ “นี่ฉัน...นี่ฉัน...”

“จะบอกว่าตัวเองโง่สินะ ใช่ เธอมันโง่เองนั้นล่ะ ที่โดนพวกข้าหลอก-”

“นี่ฉันยอมทำตามแผนแก แล้วแกจะโดนหลอกง่ายแบบนี้!!” โฟกัสพูดออกไป

เมื่อนูอัสได้ยินคำพูดอีกฝ่าย ทำเอาใบหน้าที่ยิ้มอย่างสะใจเมื่อกี้กลายเป็นอึ้งกับคำพูดนั้น “นี่แกหรือว่า?

“ใช่ ฉันพอเดาออกแล้วว่า แกไม่ใช่พี่สาวฉัน ฉันถึงต้องการให้แกเปิดเผยตัวตนของแกจริงๆ ไงล่ะ แกบอกชื่อนูอัสสินะ เสียใจนะนูอัสฉันชนะเกมนี้”

“แก!!” นูอัสโกรธขึ้นมาทันที เธอรู้สึกเหมือนตัวเองโดนหลอกให้เปิดเผยตัวเอง เธอยกดาบสั้นขึ้นมาทันที “แกตาย!!”

เมื่อเห็นอีกฝ่ายยกดาบขึ้นมา โฟกัสเห็นก็ทำใจไว้แล้วว่าไม่มีใครมาช่วยเธอแน่ๆ เธอหลับตารอรับชะตากรรมนี้ ถึงแม้ตัวเธอไม่อยากตายตรงนี้ก็ตาม น้ำตาของเธอเริ่มไหลลงมา

“ขอโทษนะคะ พี่...”

 

แต่แล้วก็มีเสียงฝีเท้าวิ่งมาอย่างไกล ก่อนจะพุ่งเข้ามายกขาถีบไปที่ใบหน้าของนูอัสเข้าอยากเต็มๆ จนนูอัสกระเด็นไปด้านข้างสุดแรง ส่วนอสุรกายอีกสองตนเห็นเจ้านายของตนโดนทำร้าย ก็กะจะเตรียมตัวจัดการกับคนที่เข้ามาทำร้ายเจ้านาย แต่พวกมันก็โดนคนที่พุ่งเข้ามา จัดการด้วยดาบแค่เล่มเดียว อสุรกายสองตนได้สลายหายไปทันที นูอัสหันมามองทันทีว่าใครหน้าไหนเข้ามาทำร้ายนาง พอนางหันมาเจอใบหน้าของนางเริ่มรู้สึกร้อนผ่าวด้วยความโกรธ

 

“นี่แก!!”

แก้มทั้งสองข้างของโฟกัสอาบไปด้วยน้ำตาที่ดีใจที่ได้เห็นคนตรงหน้าของตน “พี่...”

“แก!! กล้าดียังไง!! นูอัส!!” ความโกรธกำลังครอบงำ จนเกิดเปลวเพลิงลุกโชนขึ้นทั่วทั้งร่างกาย “ที่กล้ามาทำร้ายน้องสาวของฉันนะ ห๊า!!!!!!”

 

จบตอนที่ 28 โปรดติดตามอ่านตอนที่ 29 ต่อไป