ตอนที่ 66 ต้องขอความช่วยเหลือจากพวกเขาจริงๆ เหรอ?

ช่วงเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก นับตั้งแต่พวกปีศาจบุกมาก็เกือบ 2 วันแล้ว สถานการณ์ภายในค่ายยังคงเข้มข้นเหมือนเดิม ผู้คนในค่ายต่างทำหน้าที่ของตัวเองต่างกันไป ตรวจสอบ สำรวจ ฝึกฝน ทำอาหาร รักษาคน ดูแลคนรอบข้าง ตามสิ่งตัวเองต้องทำกัน เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องเหมือนครั้งก่อนที่ทำให้พวกเขาไม่ได้ตั้งตัวอะไรเลย

 

รวมไปถึงครอบครัวแจ็กสันที่กำลังดูอาการของพวกโพรทาเลียที่ยังหลับไม่ได้สติกันสักคน จนคนเป็นแม่อย่างแอนนาเบ็ธยิ่งห่วงลูกทั้งสองมากกว่าเก่า เธอกลัวว่าลูกทั้งสองจะไม่ฟื้นขึ้นมา คนหนึ่งเธอเลี้ยงดูใกล้ชิดมาตลอด อีกคนพึ่งได้กลับมาคืนสู่อ้อมกอด แล้วถ้าลูกๆ เป็นอะไรขึ้นมาเธอจะช้ำใจแค่ไหน

 

“โพรทาเลีย...โฟกัส...ฟื้นขึ้นมาหาแม่หน่อยสิ...ลูกรัก...” แอนนาเบ็ธภาวนาของให้ลูกทั้งสองฟื้น

 

พวกลูกๆ อีก 6 คนต่างเข้ามาอยู่ข้างกายคนเป็นแม่ไม่ให้เศร้าใจ คนเป็นสามีอย่างเพอร์ซีย์กังวลใจเช่นกันที่ลูกๆ ยังไม่ฟื้นแถมยังทำให้สุขภาพจิตของภรรยาย่ำแย่ลงกว่าเดิม จนเขาหันหน้าไปมองชายข้างๆ ที่ยืนหลับตาเหมือนคนกำลังหลับอยู่ ก่อนที่อีกฝ่ายจะถามเขาขึ้นมา

 

“เจ้ามีเรื่องอยากจะให้ข้าช่วยสินะ?

“ท่านก็น่าจะรู้นี่! ท่านเป็นคนบอกเองว่ารู้ว่าลูกสาวข้าเป็นอะไรไป?

“รู้มันก็รู้...แต่ข้ารู้แค่ว่าลูกชายข้าใช้พลังช่วยจัดการพวกปีศาจจากความมืดที่เทพผู้สูงศักดิ์ที่สร้างพ่อข้าขึ้นส่งมาวุ่นวายบนโลกทำให้เกิดสงครามมืดขึ้น แต่พอลูกข้าจัดการไปมันทำให้พลังของเขาหายไปหมดชั่วขณะ แล้วทำให้เขากลายเป็นเด็กแต่สติปัญญายังอยู่ในวัยเดิม”

“แล้วทางแก้ที่จะกลับเป็นผู้ใหญ่...”

“ปล่อยให้รวบรวมพลังเองสัก 200 ปีก็กลับร่างเดิมได้นะ”

“จะบ้าหรือไง!! พวกผมเป็นมนุษย์นะไม่ใช่เทพอย่างพวกท่านที่จะมีชีวิตอมตะนะ!!”

“ก็จริงแฮะ!”

เพอร์ซีย์เคืองใจเลยที่เทพองค์นี้ไม่คิดถึงเรื่องความเป็นจริงของพวกเขาเลยจริงๆ แต่เขาตั้งสติแล้วถามใหม่อีกครั้ง

“แล้วลูกท่าน...อดีตชาติของพวกโพรทาเลีย เขาไม่มีแผนสำรองเหรอ?

“อืม...มีนะ แต่ข้าไม่อยากให้ยัยหนูไปเจอเรื่องปวดหัวล่ะนะ”

“เรื่องป่วยหัว?

“ใช่...เพราะว่าต้องขอความช่วยเหลือจากพวกนั้นคงทำให้ยัยหนูทั้งสองปวดหัวหน้าดู”

"พวกนั้น?"

โครนอสชี้ไปที่ข้างบน เพอร์ซีย์มองตามจนมองเพดานเต็นท์ เขาก็ยังสงสัยหมายถึงอะไรก่อนจะเอะใจขึ้นมา

“หรือว่า!?

“ใช่...ก็พวกที่อยู่บนเขาโอลิมปัสไงล่ะ!!”

 

สิ่งโครนอสพูดนั้นทำให้เพอร์ซีย์ต้องเอากลับไปคิดที่บ้านหลังจากมื้อเย็น เขาคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าถ้าพวกเทพทั้งหมดรู้ว่าลูกสาวทั้งสองของตนมีพลังอนุภาคที่สูงกว่าพวกเขา ซุสจะคิดยังไงแล้วเขาจะฆ่าลูกของเขาไหม มันทำให้เพอร์ซีย์เครียดมากๆ มันมีความเสี่ยงตลอดเมื่อไปยังเขาโอลิมปัส อะไรหลายอย่างที่เขาเจอมาตลอด มันทำให้เขาไม่ไว้ใจเทพขึ้นกว่าเดิมว่าพวกเขาจะเล่นตลกอะไรกับเรา แต่อันดับแรกซุสคงปฏิเสธการช่วยเหลือแน่ๆ

 

แอนนาเบ็ธเดินออกมาจากห้องครัวหลังจากทำอาหารเสร็จ เธอไม่มีอารมณ์จะทานอะไร ลูกๆ ก็ต่างนั่งกินไปอย่างไม่สุขร้อนอะไรกัน ถึงแม้จริงๆ พวกเขาก็กังวลใจเรื่องโพรทาเลีย แต่ปากท้องต้องมาก่อน แอนนาเบ็ธเดินมาที่ห้องนั่งเล่นก็เห็นสามีของตนกำลังนั่งเครียดเหมือนทุกคนที่เจอเรื่องหนักใจ เธอเดินตรงไปหาอีกฝ่ายพร้อมกับโอบแขนอีกฝ่ายไว้

 

?เพอร์ซีย์รู้สึกถึงมือที่กำลังโอบแขนเขา เขาค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาดูก็เห็นภรรยาของตนเอง “แอนนี่...”

“อย่าเก็บเรื่องเครียดไว้คนเดียวสิ เพอร์ซีย์”

“ขอโทษที...ฉัน...ไม่รู้ว่าจะทำอะไรดีนะ”

“มีอะไรงั้นเหรอ?

“โครนอสบอกวิธีที่จะช่วยลูกเราแล้วนะ...”

“จริงเหรอ? แล้วต้องทำไง?แอนนาเบ็ธได้ยินแบบนั้นใบหน้าของเธอรู้สึกมีความหวังที่จะเห็นลูกๆ กลับมาเป็นปกติ

แต่สีหน้าของเพอร์ซีย์นั้นเหมือนลำบากใจที่จะบอกว่าวิธีนั้นคืออะไร

“มันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ?

“ก็ไม่เชิงนะ...เพราะว่าเราจะขอความช่วยเหลือจาก...”

“จากใคร?

“จากเทพบนเขาโอลิมปัสนะสิ!”

แอนนาเบ็ธถึงกับนิ่งเฉยไปเลย ก่อนที่เธอจะกลับมาตั้งสติแล้วคิดอะไรหลายๆ อย่างก่อนจะออกความคิดเห็น

“งั้นไปกัน!!”

“แอนนี่! ถ้าพาลูกๆ ไป ซุสอาจจะ…!!”

“ฉันไม่สน! พวกเขายังเป็นหนี้บุญคุณเราตั้งเยอะเลยนะ เพอร์ซีย์ แค่เราไปขอความช่วยเหลือฉันว่าแม่กับพ่อนายคงยอมช่วยด้วยแน่ๆ”

“มันก็จริงนะ...แต่...”

พอได้ยินน้ำเสียงสามีจะหาข้ออ้างอีก เธอก็ทุบมือลงกับเบาะโซฟาด้านหลังอีกฝ่ายพร้อมกับยืนหน้าเข้าไปหาสามีเหมือนท่าคาเบะด้ง

“ถ้าเกิดลูกตายจะทำไง!?

“อ๊ะ...” เพอร์ซีย์ได้ยินแบบนั้นความคิดเรื่องที่ลูกจะตายก็ผุดขึ้นมา

“ถ้านายไม่ต้องการแบบนั้น เพอร์ซีย์...จนกล้าเสี่ยง! ถ้าพวกเทพจะทำอะไรลูกเรา! ก็ขอความช่วยเหลือจากเทพองค์อื่นที่ยอมช่วยเรา!!”

ทุกคำพูดอีกฝ่ายทำให้เขาคล้อยตามได้ตลอดจริงๆ จนเพอร์ซีย์ใจอ่อน “เธอนี่น่า...ไม่ห่วงเลยนะว่าครอบครัวเราจะเดือดร้อนแค่ไหนนะ?

“ถึงเดือดร้อน ลูกๆ ก็ยอมเสี่ยงอยู่แล้ว”

“ใช่ครับ/ค่ะ!!”

พวกเด็กๆ มาจากทางเข้าห้องนั่งเล่น พวกเขาทุกคนต่างยิ้มอย่างเริงร่ากัน

“ถ้าเพื่อทั้งสองคน”

“เรายอมเสี่ยงเพื่อพวกเธอเสมอครับ!!”

“เจออะไรเราก็จะสู้จนกว่าจะนำความสุขมาให้ทุกคนค่ะ”

“บ้านแจ็กสันยอมทุกอย่างอยู่แล้ว”

ลิซ่าที่อยู่ตรงนั้นต่างยิ้มให้แก่มิตรภาพของครอบครัวนี้จริงๆ “เป็นครอบครัวที่น่ารักกันจริงๆ เลยนะ”

“เด็กๆ ...” เพอร์ซีย์มองลูกๆ ที่พร้อมใจจะเจอกับภัยอันตรายจากเทพได้เสมอ ตัวเขาจะน้อยหน้าลูกๆ ได้ไง “เข้าใจแล้ว! งั้นไปกัน!!”

 

เพอร์ซีย์ลุกขึ้นพร้อมออกไปข้างนอก แอนนาเบ็ธมองอย่างสงสัยว่าสามีตัวเองจะไปไหน เธอรีบตามไปออกไป ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็ตามไปด้วยเช่นกัน เพอร์ซีย์เดินออกไปไกลจนถึงบ้านพักของมนุษย์กึ่งเทพที่ตอนนี้ยังคึกคักอยู่ พวกเด็กๆ ต่างมองคุณเพอร์ซีย์ที่กำลังเดินไปสนามลานกว้างที่มีโครนอสกำลังนอนอยู่บนเก้าอี้ยาวอย่างสบายใจเหมือนรอใครมา

 

“ดูคุณจะรู้ว่าผมจะมา!!”

โครนอสที่ใส่เสื้อผ้าลายฮาวาย ค่อยๆ ยกหมวกฟางขึ้น เพื่อมองคนที่ยืนอยู่ “แล้วนายก็มาจริงๆ ใช่ไหมล่ะ? บุตรแห่งโพไซดอน”

 

เพอร์ซีย์มองอีกฝ่ายอย่าเดาไม่ออกว่าอีกฝ่ายรับรู้แค่ไหนว่าเขาจะมาแบบนี้ บ้านแจ็กสันค่อยๆ วิ่งตามมาจนถึงจุดที่พ่ออยู่ พวกผู้ใหญ่ที่ได้ยินว่าเพอร์ซีย์ไปหาโครนอสก็ทำให้พวกเขาสนใจว่าเกิดอะไรขึ้นจนตอนนี้ทำให้แถวบ้านพักกลายเป็นจุดสนใจของทุกคนอยู่บริเวณนั้น

 

“นายต้องการอะไรเจ้าหนู!”

“ผมยอมรับแผนสำรองนั้น!! โปรดช่วยลูกสาวผมด้วย!!” เพอร์ซีย์ตอบอย่างชัดถ้อยชัดคำ

โครนอสยิ้มอย่างชอบใจ เขาดีดนิ้วหนึ่งครั้งกล่องปริศนาก็โผล่ออกมา แต่พอเปิดประตูก็รับรู้ถึงลวดลายว่าเป็นประตูอะไร

“นั้นมันลิฟต์ที่ไปเขาโอลิมปัสไม่ใช่เหรอ?!” พวกเด็กๆ ในบ้านพักต่างๆ เห็นก็ตกใจกันว่าลิฟต์มาอยู่ตรงนี้ได้กัน

เพอร์ซีย์เห็นก็ตกใจที่อีกฝ่ายจะให้เขาไปเลย “ท่านรู้สินะว่าผมจะมาและเตรียมการไว้หมดแล้วนะ”

“ใช่ ฉันถึงขอให้พวกบ้านอะพอลโลพาสองสาวมาให้นายด้วย!”

พูดไม่ทันขาดคำโอลิเวอร์กับพี่น้องในบ้านอีกคนไปรับตัวทั้งสองคนมาก็ตกใจที่สิ่งที่โครนอสสั่งจะเป็นจริงที่คุณแจ็กสันจะมา เขารีบให้พยาบาลสองคนอุ้มทั้งสองเดินทางกันมาใกล้ๆ จุดที่ทุกคนรวมตัว

“ไม่นึกว่าจะมาจริงๆ นะครับเนี่ย?โอลิเวอร์เห็นก็ยังตกใจหน่อยๆ เขากำลังอุ้มโพรทาเลียอยู่

“โอลิเวอร์” เพอร์ซีย์เห็นเด็กน้อยกำลังอุ้มลูกเขาอยู่ เขาเอื้อมมือไปอุ้มลูกสาวเขา “ขอบใจมากนะ”

“ไม่เป็นไรครับ!”

แอนนาเบ็ธก็ไปรับโฟกัสจากเด็กอีกคนที่ช่วยอุ้ม พวกเขาเตรียมตัวจะไปกัน แต่เพอร์ซีย์ลืมไปว่าเขาไม่อยู่ใครจะดูแลค่ายล่ะ

“ไม่ต้องห่วงฉันช่วยดูให้!” เสียงอันคุ้นเคยดังขึ้น

เพอร์ซีย์หันไปอย่างเซ็งๆ ที่ได้ยินเสียงนั้น แต่ก็แอบยิ้มไม่ได้ ที่เห็นคู่แข่งของเขาจะมาช่วยดูแลค่ายให้

“ฝากด้วยล่ะ เจสัน! อย่าทำค่ายฉันพังล่ะ!”

“ไม่ขอรองรับนะว่าจะพังไหมนะ!”

“เจ้าบ้านี่!!” เพอร์ซีย์ยิ่งขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจ

แอนนาเบ็ธเดินเข้ามาอยู่ข้างๆ ทันที “ไปกันเถอะ”

“อืม!”

“ไม่ต้องห่วง เรอากำลังรอพวกเจ้าอยู่เช่นกัน”

“ขอบคุณครับ โครนอส”

 

โครนอสโค้งรับเล็กน้อย ลิซ่ามองภาพตรงหน้าที่กำลังจะเห็นว่าเด็กน้อยของเธอจะไปเจอพวกเทพองค์ต่างๆ ความรู้สึกบางอย่างเหมือนบอกเธอให้ไปด้วยเพื่อบางอย่าง เหมือนว่าอยากเจอใครสักคนที่ไม่เคยรู้จักความรู้สึกที่โหยหาเหมือนที่โหยหาท่านพี่แองเจิล เธอจึงรีบเดินออกไป

 

“ขอข้าไปด้วยนะเจ้าค่ะ” ลิซ่าเอ่ยพูดขึ้น

 

เพอร์ซีย์ได้ยินเสียงอีกฝ่ายก็หันไป แต่ภาพตรงนั้นต่างออกไปผมสีฟ้าที่สะบัดไปมาตามลม ดวงตาสีฟ้าที่งดงามเหมือนท้องฟ้า ความงามที่เปล่งประกายออกมาทำเอาทุกคนที่อยู่รอบๆ ต่างอึ้งกับความงามนั้นที่พวกเขาไม่คิดว่าจะมีคนที่สวยแบบนี้อยู่ในค่าย พวกผู้ใหญ่ต่างก็ไม่คาดคิดว่าลิซ่า วันเดอร์เลอร์ จะเป็นร่างแปลงด้วยเช่นกัน

 

“ข้าเทพีอลิซ่าเบ็ธขอไปด้วยเจ้าค่ะ!” ลิซ่าเบ่งเสียงออกไปอย่างดังก้อง

ทุกคนตาค้างยิ่งกว่าเดิมจนอุทานออกมากันหมด “เทพีงั้นเหรอ?!!”

เพอร์ซีย์ปิดไม่ได้เลยได้รับเสียงที่ดังกึกก้องไปทั้งค่ายจนไม่คิดเลยว่าเด็กพวกนี้จะทำให้เขาเจ็บแก้วหูแบบนี้

“ท่านจะไปด้วยจริงๆ งั้นเหรอ?

“จะอยากไปด้วยเจ้าค่ะ! ถ้าเกิดอะไรขึ้นข้ายังสามารถช่วยท่านได้นะ เพราะว่า...”

เธอยกมือตัวเองขึ้นมาอยู่ระดับใบหน้าของตนเอง ก่อนที่จะมีแสงสีฟ้าปะทุลงมาเป็นสายฟ้าลงที่มีของเธอจนคนรอบๆ ตกใจกันสุดๆ

“เพราะข้านั้นเป็นน้องสาวฝาแฝดของท่านพี่ซุสก็ยังมีอำนาจที่เทียบเท่าเขาอยู่บ้างถึงจะเล็กน้อย แต่ข้าก็สามารถต่อสู้ได้เจ้าค่ะ!”

“ว้าว! ลูกสาวพ่อเท่มากๆ เลยล่ะ” โครนอสตบมือให้ลูกสาวของตนเอง

ทำเอาคนแถวนั้นยิ่งอึ้งไปเลยที่เธอเป็นธิดาของโครนอสและเป็นน้องสาวฝาแฝดของซุส

“คะ...ครับ...งั้นเชิญตามมาได้เลยครับ...”

“ค่ะ!” ลิซ่าตามเข้าไปในทันที

 

เพอร์ซีย์ถึงกับตกใจที่อีกฝ่ายแสดงพลังที่เขาไม่เคยเห็น คงเพราะเทพีอยู่อย่างสงบข้างๆ โพรทาเลียมาตลอด เลยไม่ได้แสดงพลังอะไร แต่ก่อนหน้าที่ปีศาจบุกเธอก็แสดงแค่พลังการต่อสู้อย่างเดียวตามที่ภรรยาเขาบอก เพอร์ซีย์คิดเลยว่าตัวเองต้องระวังเทพีไว้มากๆ แล้วนี่สิ

 

พวกเขาเตรียมเข้าไปในลิฟต์เพื่อเดินทางไปหาทวยเทพ พวกเด็กๆ บ้านแจ็กสันต่างอยากจะไปด้วย แต่ก็โดนห้ามไม่ให้ไปเพื่อความปลอดภัยของพวกเขา โอราอุสก็ห่วงแฟนสาวเอาแต่บอกว่าถ้าใครมาวุ่นวายก็ใช้พลังเมื่อกี้จัดไปเลย ลิซ่าก็ขำๆ พร้อมกับสัญญาในสิ่งที่อีกฝ่ายบอก จนพวกน้องๆ ต้องมาสกัดขาอีกฝ่ายด้วยความหมั่นไส้พี่ชาย ลิซ่าเห็นพี่น้องทำตัวรักกันก็ทำให้เธอสนุกไปอีกแบบ

 

“เทพีไปกันเถอะ” เพอร์ซีย์กำลังเดินเข้าไปในลิฟต์

“เจ้าค่ะ” ลิซ่าเดินตามเข้าไปข้างใน

 

พวกเด็กๆ ต่างโบกมือให้ผู้เป็นพ่อแม่ ประตูลิฟต์กำลังจะปิด ชายคนหนึ่งกำลังจ้องประตูกำลังปิด แต่เขาก็แอบวิ่งเข้าไปอย่างรวดเร็วจนคนอื่นมองไม่เห็นมีแต่สายลมที่พักตัวพวกเขาจนสงสัยว่าลมมาจากไหน แต่ภาพตรงหน้าของพวกเพอร์ซีย์ถึงกับตกตะลึงที่เห็นชายคนหนึ่งตรงแทรกเข้ามาจนเกือบโดนประตูหนีบเอา

 

“ฟีนีอุส…” ลิซ่าเอ่ยเรียกเหมือนเห็นคนที่วิ่งเข้ามา

“ไอ้เด็กเว้ย! แกมาทำไมเนี่ย!?

“ผมก็ตามมาเพื่อนคนที่ผมรักสิ คุณแจ็กสัน!” ฟีนีอุสพูดอย่างหนักแน่น “นึกเธอจะเป็นลูกคุณ แต่ในฐานะแม่ของลูกผม เธอก็เป็นว่าที่ภรรยาผม”

“ไอ้เด็กนี่!”

“ไม่เอาน่า เพอร์ซีย์ ครั้งนี้เราต้องช่วยลูกก่อน ขอบใจจ้ะ ฟีนีอุสที่ห่วงโพรทาเลีย”

“ไม่มีปัญหาครับ”

 

เพอร์ซีย์ยังขุ่นเคืองกับเจ้าเด็กนี้ที่เข้ามายุ่งทุกอย่างเดียวกับลูกสาวเขา เขาอยากกำจัดอีกฝ่ายมากกว่าเดิม ลิฟต์ค่อยๆ ขึ้นไปข้างบนอย่างรวดเร็วจนเกิดการสั่น เพอร์ซีย์กับแอนนาเบ็ธไม่เป็นอะไร แต่ลิซ่ากับฟีนีอุสกับเกือบล้มกันไปเลยจนกระทั่งประตูลิฟต์เปิดตัวขึ้น เรอาก็ยืนรออยู่ข้างนอก

 

“พวกเจ้ามาสักที ข้ารั้งพวกเทพไว้ตั้งนาน”

"ขออภัยเพคะ ท่านเรอา สามีของฉันมัวแต่คิดเล็กคิดน้อยนะคะ"

“เข้าใจเลย สามีข้าก็ทำแบบนั้นเวลามีเรื่องกังวลล่ะนะ”

“งั้นเหรอคะ”

“เอาล่ะๆ งั้นไปกันต่อรถม้าศึกมารอแล้วล่ะ”

“รถม้าศึก?

ทุกคนต่างชะโงกหน้าไปมองกันรถตู้สีเขียวอ่อนที่ไม่มีกระจกด้านข้างแถมมีดอกไม้เต็มรถคล้ายรถของการ์ตูนเรื่องหนึ่งไม่มีผิด

“ใครคิดเหมือนผมไม่ครับว่าเหมือนรถอะไร”

“คิดเหมือนกันเลย”

“ขึ้นรถม้าศึกกันจ๊ะ!”

“เขาเรียกว่ารถตู้ชัดๆ เทพี”

“แต่ข้าชอบเรียกว่ารถม้าศึกของข้ามากกว่านะ” เทพีพูดขึ้นพร้อมกับขึ้นไปนั่งตรงคนขับ “เร็วเข้า! พวกเจ้าคงไม่อยากเดินไปจนเหนื่อยนะ?

พวกเพอร์ซีย์จ้องมองเขาโอลิมปัสที่ตั้งตระหง่านและมีบันไดหลายร้อยชั้น แอนนาเบ็ธรีบขึ้นก่อน เพราะเธอเข้าใจว่าการเดินนั้นมันเหนื่อย

“ขึ้นมาเร็วทุกคน!”

 

ทุกคนต่างรีบขึ้นรถตู้นั้นทันที โดยไม่คิดอะไรก่อนพร้อมกับปิดประตูด้านข้าง พอทุกคนขึ้นมาหมด เรอาก็สตาร์ทเครื่องรถก็ค่อยๆ ลอยขึ้น เธอก็เครื่องตัวลอยไปตามอากาศจนขึ้นไปถึงหน้าทางเข้าพระราชวังใหญ่ที่ทำมาจากหินอ่อน เมื่อมาถึงพวกเขาทุกคนก็ลงจากรถของเทพีเรอา รถก็หายไปลิซ่ามองอย่างสนใจ เธอพึ่งเคยได้ขึ้นรถลอยได้ครั้งแรก

 

“ท่านแม่ครั้งหน้าให้ข้าลองขับเจ้ารถกระป๋องได้ไหมเจ้าค่ะ?

“ได้สิ ไว้แม่จะพาขับนะ!”

“เจ้าค่ะ!”

 

พวกเพอร์ซีย์มองเทพีทั้งสองคุยกัน ทำเอาคิดเลยว่าจะได้เห็นรถพังไหม พวกเขามายืนอยู่หน้าประตูสีเงินบานใหญ่ เทพีเคาะประตูสองสามครั้งประตูก็เปิดออก เมื่อเดินไปเรื่อยๆ ก็มาถึงห้องบัลลังก์ที่คล้ายๆ ห้องโถงขนาดใหญ่ที่มีเก้าอี้บัลลังก์ใหญ่มหึมาทั้ง 12 บัลลังก์ รวมไปถึงเทพองค์เล็กๆ ที่ได้รับเชิญมาไม่กี่ตน เรอาเดินเข้ามานางก็กลายร่างเป็นตัวใหญ่เท่าเดิม

 

“ขอบคุณที่รอกันนะ ทุกคน”

“เพื่อพระมารดาของเหล่าเทพ พวกเราอยู่ได้เพคะ ท่านแม่” เฮร่ากล่าวออกมา

“ถึงจะทำร้ายสุขภาพผิวพรรณข้าก็ตามนะ” อะโฟร์ไดต์เหน็บแนบ เพื่อตนเกิดจากหลังอูรานอสตายแล้วกลายเป็นฟอง นางก็ถือกำเนิดขึ้น

“อะโฟร์ไดต์...ไม่พูดก็ไม่มีคนว่าท่านว่าเป็นใบ้หรอกนะ” เฮร่ากล่าวขึ้น แต่ไหนแต่ไรนางก็ไม่ชอบอีกฝ่าย ถึงให้ไปแต่งงานกับเฮเฟตัสที่อัปลักษณ์จนนางทนไม่ไหว

“หึ!”

“แล้วเทพีเรอารวมตัวพวกเราโดยไม่มีเหตุการณ์เลวร้ายเกินขึ้นด้วยนะ” ซุสกล่าวออกมาพร้อมกับนั่งด้วยท่าทางที่สบายเกินไปจนจะไหลหลุดเก้าอี้

“มันเกิดเรื่องร้ายๆ ขึ้นต่างหากล่ะเนอะ บุตรแห่งโพไซดอน” เรอาหันไปหาเพอร์ซีย์ทันที

เทพทุกตนหันไปเพอร์ซีย์ที่ตอนนี้ไม่ได้อุ้มโพรทาเลียไว้แล้ว เขาฝากลูกไว้กับเทพี

“เราแค่มีปัญหาเท่าเองล่ะครับ!”

“ปัญหาในค่ายสินะ เพราะโดนพวกปีศาจโจมตีค่ายได้เนี่ยนะ?

“ไม่ใช่แค่โจมตี...แต่พวกปีศาจกับแปลงร่างเป็นมนุษย์เพื่ออยู่ในค่ายอีก เรื่องมันเป็นไงกันแน่?

เมื่อคำถามของเทพยิงตรงใส่ เพอร์ซีย์จึงรู้สึกว่าต้องอธิบายเรื่องทั้งหมดจริงๆ

“ขออภัยเหล่าทวยเทพ เรื่องที่เกิดขึ้นมันมีความเป็นมา...สิ่งที่ผมจะเล่าให้พวกท่านฟังนั้น อาจจะทำให้เทพีอาธีน่าหรือโพไซดอนโกรธเกรี้ยวอีกครั้งก็ช่วยระงับอารมณ์พวกท่านหน่อยละกันขอรับ”

“เรื่องอะไรที่จะทำให้เล่าโกรธเกรี้ยวได้? แจ็กสัน” อาธีน่าถามด้วยความข้องใจ

“จุดเริ่มเต้นที่แซเทิร์นขโมยลูกสาวผมไปครับ!!”

 

จบตอนที่ 66 โปรดติดตามตอนที่ 67 ต่อไป