79 ตอน ตอนที่ 79 ความกล้าเป็นแสงสว่างอันใหม่
โดย YukiCoCo
ตอนที่ 79 ความกล้าเป็นแสงสว่างอันใหม่
เพอร์ซีย์ขับรถจนมาถึงหลังร้านที่เขาเคยเอารถมาจอดตอนที่ลูกสาวทั้งสองของเขามาบ้านแม่เขา เด็กทั้งหลายพอเห็นว่ามาถึงที่หลังบ้านของย่าแซลลี่แล้วก็ลงมาจากรถในทันที โพรทาเลียมองรอบ ๆ ก็เห็นว่าหลังร้านนี้ช่างดูเป็นสถานที่ที่ไม่ค่อยน่าอยู่จนนานเกินไปจริง ๆ จนทุกคนลงมาจากรถกันหมด สองสาวฝาแฝดก็เอ่ยพูดขึ้นในทันที
“มาถึงสักที!!”
“นึกว่าจะต้องนั่งในรถนาน ๆ แล้วซะอีก”
“อ่า~ หลังร้านคุณย่านี้เหมือนเดิมจริงๆ” มาร์โคจ้องมองหลังบ้านย่าที่ดูเหมือนเดิมแต่แค่เก่าก็เท่านั้น
“นายพูดอะไร!! มันก็มีเปลี่ยนเดิมตลอด? มาร์โค” คารีเซลกับน้องชายที่พูดอะไรที่มันแปลกประหลาด
“จ้า ๆ ขอโทษทีพูดอะไรแปลก ๆละกัน” มาร์โครู้สึกไม่ควรพูดเลยจริง ๆ
ระหว่างที่คารีเซลกับเรน่ากำลังพาหลานแล้วก็พี่สาวลงมาจากรถ เดวิคกับคาเร็นน่าจ้องมองที่พวกเขาอยู่กันว่าอยู่ที่ไหน
“นี่คือหลังร้านเมื่อกี้นะเหรอครับ?” เดวิคถามพวกน้าของตนเอง
“ใช่จ้ะ เดียวพวกเราจะเข้าไปหาพวกคุณทวดนะ”
“คุณทวด!” ทั้งสองคนต่างมองคนเป็นน้าอย่างตื่นต่างตื่นใจที่จะได้เจอคนเป็นทวด
“ชี่~ เดียวแม่พวกเราก็สงสัยหรอกนะ”
เด็ก ๆ ต่างรีบปิดปากแล้วใช้หางตามองไปที่แม่ของพวกเขานั้นที่กำลังเดินไปหาพ่อของตนเอง โพรทาเลียน้อยเดินไปหาพ่อแล้วจับที่กางเกงของพ่อ เพราะเธอรู้สึกแปลก ๆ เหมือนมีคนกำลังมาทางนี้
“พ่อค่ะ...”
เพอร์ซีย์ก้มหน้ามองลูกสาวอย่างสงสัยว่าลูกสาวเป็นอะไร “เป็นอะไรนะ? โพรทาเลีย”
“รู้สึกเหมือนมีคนมาทางนี้...” โพรทาเลียหันไปมองทางเข้าที่มาข้างในนี้
เพอร์ซีย์จึงหันตามไปมองก็ได้เห็นบุคคลที่เขาไม่คิดว่าจะเจอเวลานี้ จนทำเอาแปลกใจเล็กน้อย
“คุณพ่อ!”
“คุณตา!!”
คนเป็นตาได้ยินคำเรียกเขา ทำให้เขาจ้องมองอย่างสงสัยว่าใครเรียกก่อนจะยิ้มแย้มอย่างดีใจ
“อ้าว? เด็ก ๆ”
“คุณตาค่ะ!!”
“คุณตา!”
เหล่าแฝดสามต่างรีบเข้าไปกอดคนเป็นต่อในทันใดจนคนเป็นตาต้องอ้าแขนกอดหลาน ๆ ทั้งสามในทันใด
“โฮะ ๆ ไม่นึกว่าจะได้เจอหลาน ๆ ด้วยนะ โตกันตั้งเยอะเลยนะ ดูสิ” คนเป็นตาจับใบหน้าของหลานสาวทั้งสอง เขารู้สึกหลานเขาน่ารักสุด ๆ “คารีเซลกับเรน่านี้ตัวเล็กเหมือนเดิมเลยนะ”
“โธ่! คุณตาค่ะ! พวกเราอยากตัวสูงจะตาย แต่ก็ตัวเท่านี้”
“ใช่ค่ะ! พ่อแม่ก็สูง แต่ทำไมมีพวกเราที่ตัวเล็กก็ไม่รู้”
“น่า ๆ หลาน ๆ ทั้งสองของตา สักวันก็โตกันนะ” ตาลูบหัวของหลานทั้งสองอย่างเอ็นดู
“น่าบอกว่าไม่โตขึ้นดีกว่านะครับ คุณตา” มาร์โคแอบแซวพี่สาวของเขา
“อย่าไปพูดแบบนั้น มาร์โค ดูหลานสินับวันโตเอาโตเอานะเรา” ตามองหลานชายคนสุดท้องที่ตัวโตกว่าพี่สาวทั้งสอง
“ทำไงได้ล่ะครับ ผมนั้นกินนมนี่น่า~” หางตาของมาร์โคแอบมองสองพี่สาวของเขาอย่างแซะ ๆ
“นี่!! มาร์โค!!” สองสาวต่างพองแก้มมองกันอย่างขุ่นเคืองน้องชายของพวกเธอ
“พอได้แล้ว ๆ” โพรทาเลียตัวน้อยรีบเข้ามาห้ามทั้งสามคนในทันใด “เคยบอกแล้วนะว่าอย่าทะเลกันนะ”
คนเป็นตาได้ยินเสียงที่ว่าก็มองหาว่าเสียงใครก่อนจะก้มมองเขาก็เห็นเด็กน้อยตัวเล็กเดินเข้ามา
“แต่พี่ค่ะ!!”
“มาร์โคแซะเราก่อนอ่ะ! พี่โพรทาเลีย”
“เฮ้อ...มาร์โค อย่าแซะพวกพี่ ๆ สิ”
“อะไรกัน!? พี่จะเข้าข้างยัยพวกนั้นเหรอ?” มาร์โคทำปากจู๋ก่อนจะหันหน้าไปทางอื่นอย่างงอน ๆ
“นี่นาย!?” สองสาวต่างโกรธเคืองน้องชายในทันที
“พอ ๆ ทะเลาะกันพี่จะให้พ่อปล่อยพวกเราสามคนอยู่ข้างนอก!”
“อ๊า!!”
ทั้งสามคนได้ยินแบบนั้นถึงกับนิ่งเงียบสองสาวอย่างง้างหมัดขึ้นมาตลอดน้องชายสุด ๆ ก่อนที่โพรทาเลียตัวน้อยจะหันไปหาคุณตาที่กำลังจ้องมองเธอ
“สวัสดีค่ะ คุณตา”
“โพร...โพรทาเลียเหรอ?”
“ค่ะ!” โพรทาเลียตัวน้อยขานตอบออกไป
“นี่...นี่มันเรื่องอะไรกัน?” ตามองอย่างสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับหลานสาวคนโตของเขา
“คุณพ่อครับคือว่า...” เพอร์ซีย์รีบเข้ามาในทันที “เกิดเรื่องนิดหน่อยนะครับ...เลยทำให้โพรทาเลียกลายเป็นเด็กแล้วก็...มีสติปัญญาเท่าเด็กอายุ 6 ขวบนะครับ”
“อะไรนะ!?” ตาหันไปมองอีกฝ่ายสลับกับหลานสาวที่ตอนนี้ไปแอบหลังพ่อแล้ว
เพอร์ซีย์มองลูกสาวที่มาแอบข้างหลังเขา “โพรทาเลียมาแอบหลังพ่อทำไมนะ?”
“อืออออ...คุณตา...ดูเปลี่ยนไป...”
“เอ๋?” เพอร์ซีย์ยกคิ้วขึ้นอย่างสงสัยก่อนจะขำหน่อย ๆ ”ฮ่าๆ ทำไงได้ล่ะ...คุณตาเขาอายุเยอะแล้วนะ โพรทาเลีย”
“อะไรกัน? โพรทาเลีย ถึงตาจะเปลี่ยนไปมั้ง แต่ตาก็ยังเป็นตาของหลานนะ” ตาจ้องมองหลานสาวอย่างเอ็นดู
โพรทาเลียตัวน้อยเงยหน้าจ้องมองอย่างพินิจก่อนจะเอ่ยพูดขึ้น “อืม...คุณตา...ดูแก่กว่าตอนที่หนูจำความได้อีกนะคะ...”
“ตามกาลเวลานะ หลาน” ตาเข้ามาลูบหัวหลานสาวเบา ๆ “ได้เจอโพรทาเลียตอนเด็กนี้ ตารู้สึกดูหนุ่มขึ้นเลยล่ะนะ”
“ค่ะ!”
ตายิ้มอย่างพอใจก่อนจะเงยหน้ามองลูกเขยของเขา “แล้วที่โพรทาเลียเป็นแบบนี้มีเหตุผลไหมนะ?”
“ครับ...เอ่อ...ไว้ตอนเข้าไปรวมตัวกับคนอื่น ๆ ข้างบนผมจะเล่าให้ฟังนะครับ”
“อืม...เอางั้นก็ได้...”
ข้อเสนอของเพอร์ซีย์เป็นที่น่าพอใจ คนเป็นพ่อสะใภ้ก็ยอมรับคำพูดนั้นก่อนจะพากันเข้าไปทางหลังร้านบลูเมอร์เมดกัน พวกเด็ก ๆ ต่างพากันเข้าไป ระหว่างเดินนั้นคนเป็นตาก็เห็นมีเด็กเพิ่มมาสองคนทำเอาเขาสงสัยว่าเด็กสองคนที่เขาไม่เคยเห็นเป็นใคร มาร์โคเดินนำหน้าขึ้นไปยังชั้นสองของร้านก็มาเคาะประตูสองสามครั้ง ทำให้คนภายในบ้านได้ยิน
“มากันแล้ว!!”
“หนูไปเปิดให้ค่ะ!” เอสเทลรีบลุกขึ้นไปเปิดประตู พอเปิดออกก็เจอหลานชายคนแรก
“ไง อาเอสเทล!”
“ตายจริง!! มาร์โค!”
มาร์โคเดินเข้าไปกอดอาสาวของเขาในทันใด “สวยขึ้นเยอะเลยนะ”
“แหม! ปากหวานจริง!” เอสเทลตีแขนหลานชายของเธอเบา ๆ
“พี่เอสเทล!!” สองแฝดต่างพากันขึ้นมากอดอีกฝ่าย
“ไงทั้งสองคน ตัวเล็กน่ารักเหมือนเดิมเลยนะ!!” เอสเทลกอดหลานทั้งสองของเธอในทันที
“คิดถึงจังเลยค่ะ”
“ฉันก็คิดถึงพวกเธอนะ หลังจากพวกโพรทาเลียไปก็คิดถึงพวกเธอมากกว่าเดิมอีก”
“คิก ๆ พวกเราแอบมากันนะคะ” คารีเซลกับเรน่ากล่าว
“เอาเข้าไป ๆ” เพอร์ซีย์กล่าวระหว่างรอที่บันได
“พี่ค่ะ!” เอสเทลก้มไปมองพี่ชายกับอาเฟรดอริก “คุณอาเฟรดอริก! มาแล้วเหรอคะ!”
“ไง เอสเทล เธอกลับมาไวนะ” เฟรดอริกกล่าวระหว่างเดินขึ้นบันไดขึ้นมา
“แน่อยู่ค่ะ หนูอยากมาเจอหลานนี่ค่ะ” เอสเทลจ้องมองอย่างชอบใจ
“แน่ล่ะ ตอนนี้ 20 แล้วนี่น่า กลายเป็นน้าตั้งแต่เด็กแล้วนี่น่า” เพอร์ซีย์กล่าวพูดพร้อมกับลูบหัวน้องสาว
“อ๊ะ! พี่!!” เอสเทลถึงกับจ้องมองพี่ชายและอาเฟรดอริก ก่อนที่เธอจะผิดสังเกตบางอย่าง “พี่! ไหนโพรทาเลีย?”
“หือ? เธอคิดว่ายังไงนะ” เพอร์ซีย์หันไปมองด้วยสายตาเจ้าเล่ห์
เอสเทลจ้องมองพี่ชายอย่างสงสัยไหนบอกว่าโพรทาเลียมาด้วย จนโพรทาเลียตัวน้อยที่ยืนอยู่ตรงประตูเงยหน้ามองอีกฝ่ายว่าเป็นใครจนตาของเธอเอ่ยชื่ออีกฝ่ายทำเอาเธอรู้เลยว่าเป็นพี่สาวที่เธอเคยเจอสมัยเด็ก
“พี่เอสเทลพอโตแล้ว สวยขึ้นมาเลยนะ” โพรทาเลียตัวน้อยเอ่ยพูดขึ้น
“เอ๋?” เอสเทลได้ยินเสียงอันเล็กน้อย เธอก็ล้มลงมองก็เห็นเด็กตัวเล็กที่กำลังจ้องมองเธออยู่
“โพร...ทาเลีย”
“ไงค่ะ”
“!!!” เอสเทลถึงกับตกใจจนกระโดดไปเลย “พี่! นี่มันเรื่องอะไรกันนนนนนนนนนนนน!!”
พวกเพอร์ซีย์เข้ามาข้างในพวกสามแฝดก็เข้ามาข้างในกอดผู้ใหญ่ที่ตนเองรักและคิดถึงกัน ระหว่างที่คุยนั้นเสียงเอสเทลก็ดังขึ้นมาทำเอาพวกเขาสงสัยว่าเอสเทลเป็นอะไรกัน ก่อนที่เธอจะวิ่งเข้ามาพร้อมกับโพรทาเลียตัวน้อยให้อ้อมกอด
“พี่นี่มันอะไรกัน!? ทำไมโพรทาเลียถึงกลายเป็นเด็กกัน!!”
คนเป็นย่ากับปู่ถึงกับตะลึงที่เห็นหลานสาวกลายเป็นเด็ก แต่เทพทั้งสองเห็นก็ไม่คิดอะไร เพราะเคยเห็นแล้ว
“จะให้พี่อธิบายยังไงดีล่ะ?”
“อธิบาย!? พี่พาหลานไปทำอะไรมา!!”
“อาเอสเทลค่ะ พ่อเขาไม่ได้ทำอะไรนะคะ ที่พี่เป็นแบบนั้นเพราะตัวเองนะคะ”
“ห๊า!?”
“ก็ตามที่พวกเขาบอก...หนูกับโฟกัสช่วยในค่าย แล้วเหมือนจะทำอะไรบางอย่างไปเลยทำให้พลังบางอย่างหายไปหมดจนอยู่ในร่างนี้นะคะ” โพรทาเลียตัวน้อยกล่าวขึ้น
“แค่นั้นนะ!? จะบ้าเหรอ? แล้วทำไมโฟกัสไม่มาด้วย”
“ตอนนี้เด็กคนนั้นยังนอนอยู่กับเตียงเหมือนเจ้าหญิงนิทรานะ”
“อะไรนะ!?” เทพทั้งสองต่างลุกขึ้นในทันใด
“เกิดอะไรขึ้นกับโฟกัสกัน!? แจ็กสัน”
“จริงด้วย!! เพอร์ซีย์”
“ใจเย็น ๆ ครับ ที่โฟกัสเป็นแบบนั้น เห็นแองเจิลบอกว่าเป็นเพราะผ่านการทดสอบ จะตื่นขึ้นนะต้องรออีกคนผ่านเช่นกันถึงจะตื่นขึ้น”
“แองเจิล? ใครกัน?” โพไซดอนกล่าวถามอย่างสงสัย
“อดีตชาติที่เป็นต้นกำเนิดของลูก ๆ พวกท่านแต่ละคน ที่จริงก็ไม่ได้บอกก่อนหน้านั้นนะครับ”
“เดียวนะ? นอกจากลูก ๆ เราที่เป็นอดีตชาติของโพรทาเลียและโฟกัส แล้วยังมีอดีตชาติคนอื่นอีกเหรอ?”
“ครับ”
พอเพอร์ซีย์ตอบแบบนั้นบรรยากาศดูตึงเครียดจนคนที่มีความสงสัยมากที่สุดอย่างเอสเทลต้องถามขึ้น
“นี่ พูดอะไรกันค่ะ? อดีตชาติอะไรกัน?”
“งั้นให้ผู้ใหญ่คุยกันก่อนนะ เอสเทลเดียวฉันจะอธิบายให้เธอฟังนะ เธอพาหลาน ๆ ไปข้างบนก่อนละกัน”
เอสเทลมองพี่ชายอย่างขมวดคิ้วใส่ แต่เธอก็ยอมทำตาม “ก็ได้...ไปเร็ว เด็ก ๆ ...”
“ค่ะ/ครับ!”
“ไปกัน เดวิค คาเร็นน่า” คารีเซลจูงมือหลานทั้งสอง
ก่อนที่เอสเทลจะเห็นเด็กแปลกหน้าสองคน “เดียว! เด็กสองคนนี้ใครอีกล่ะเนี่ย!?”
“เอ่อ...คือ...”
“หลานสองคนไม่ต้องไป เดวิค คาเร็นน่า”
“เอ๋?” เด็กทั้งสองต่างหันไปมองคนเป็นตาของพวกเขา
“หลาน!?” เอสเทลขมวดคิ้วอย่างตกใจไปอีก วันนี้เธอเจอเรื่องอะไรกัน
“เข้าใจแล้วครับ/ค่ะ”
เด็กทั้งสองต่างขานตอบก่อนจะมาอยู่ข้าง ๆ คนเป็นตา
“เอสเทลไปเถอะ เดียวพี่จะบอกอีกที...”
“ก็ได้!” เอสเทลพูดพร้อมกับอุ้มโพรทาเลียไว้ในอ้อมกอดต่อ “ไปกันเถอะนะ โพรทาเลียไปเล่นกับพี่นะ”
“ค่า ๆ พี่จะอุ้มหนูไปไหนก็ไปเลยค่ะ” โพรทาเลียตัวน้อยปล่อยให้อีกฝ่ายอุ้มไป
เอสเทลพาเด็ก ๆ ขึ้นไปข้างบนกับเธอเหลือแค่ผู้ใหญ่กับเด็กน้อยสองคน แต่เด็กน้อยทั้งสองก็โดยสายตาของผู้ใหญ่จับจ้องว่าเด็กทั้งสองนั้นเป็นใคร เพอร์ซีย์ถึงเรียกว่าหลาน เด็กทั้งสองมองก็สงสัยแล้วว่าผู้ใหญ่จะมองพวกเขาอีกนานแค่ไหน เดวิคก็เอ่ยพูดบางอย่างออกมาในทันใด
“สวัสดีขอรับ ท่านโพไซดอน และ ท่านอาธีน่า” เดวิคกล่าวพร้อมกับโค้งทำความเคารพเทพทั้งสององค์ คาเร็นน่าเห็นก็ทำตามเช่นกัน
เทพทั้งสองจ้องมองอย่างแปลกใจที่เด็กคนหนึ่งทำความเคารพพวกเขาเกิดกว่าเด็กหกขวบจะทำ
“แหม ๆ เด็กอย่างเจ้าทำความเคารพเราได้นั้น พ่อแม่เจ้าสองมาอย่างดีสินะ”
“คุณแม่สอนเราทั้งสองมาอย่างดีว่าให้เคารพเหล่าทวยเทพขอรับ”
“อืม ๆ แล้วเจ้ารู้ได้ไงว่าเราเป็นเทพ?”
“พลังของท่านทั้งสองคล้ายกับคุณตาและคุณยายของเรา เราเลยพอเดาได้ว่าท่านทั้งสองที่มีพลังกว่าคุณตาคุณยายก็ต้องเป็นเทพแน่ ๆ”
“คุณตา? คุณยาย?” เหล่าผู้ใหญ่ต่างพูดพร้อมกันอย่างสงสัยว่าตายายของเด็ก ๆ เป็นใคร
“คุณตาเพอร์ซีย์กับคุณยายแอนนาเบ็ธค่ะ!”
“เอ๋?”
“เดี๋ยวนะ! ตายายคือ เพอร์ซีย์กับแอนนาเบ็ธ? แล้วพ่อแม่เธอเป็นใครกัน เพอร์ซีย์นี่มันหมายความว่าไง?” แซลลี่หันไปมองลูกชายอย่างสงสัย
“เอ่อ...คือว่า...แม่ของเด็กทั้งสอง”
“แม่ของเราคือโพรทาเลีย แจ็กสันครับ/ค่ะ!”
เด็กทั้งสองต่างตอบพร้อมกัน ทำเอาบรรยากาศเงียบสงัดไประยะหนึ่งก่อนที่ผู้ใหญ่จะทำสีหน้าตกใจกัน
“ว่าไงน๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!”
เสียงผู้ใหญ่อุทานออกมากันเสียงดังทำเอาข้างบนต่างมองอย่างสงสัยว่าผู้ใหญ่เขามีเรื่องอะไรกัน พวกสามแฝดกำลังเล่นเกมของพี่เอสเทล ส่วนโพรทาเลียอยู่ในอ้อมกอดของเอสเทลอย่างสบายใจ เอสเทลก็มีความสุขได้กอดหลานสาวสุดแสนน่ารักของเธอ ตลอดตั้งแต่เด็ก เธอก็ไม่เคยได้กอดอีกเลย
“อ๊าาาาา~ หลานอาน่ารักจริง ๆ ไม่คิดเลยว่าจะได้กอดโพรทาเลียวัยเด็กอีก”
“หนูก็เหมือนกัน ไม่นึกว่าจะมีโอกาสได้เจอกับอาอีกนะ”
“ตายแล้ว พูดแบบนี้อาก็รักตายเลย!!” เอสเทลยิ่งนัวเนียหลานสาวมากกว่าเดิม
ทำเอาคนเป็นน้องชายมองอย่างไม่ชอบใจ “อาเขาจะทำแบบนั้นกับพี่เขาอีกนานไม่นั้น!!”
“นายเลิกทำตัวเป็นน้องห่วงพี่สาวเลยนะ มาร์โค เล่นเกมไป!!” คารีเซลทักทวนขึ้นแล้วจับหัวน้องเล่นเกมกับเรน่าต่อไป
เวลาผ่านในห้องผ่านไปเรื่อย ๆ นั้น เอสเทลก็มีคำถามบางอย่างจะพูดกับโพรทาเลีย
“นี่ โพรทาเลีย”
“ค่ะ?”
“ช่วงอายุของเธอตอนนี้คือโดยจับตัวไปยังนะ?”
“จับแล้วค่ะ...หนูโดนอยู่ที่นั่นเกือบ 5 เดือน...จนฟื้นขึ้นมาก็เจอว่าตัวเองมาอยู่ในอนาคตซะแล้ว...”
“โธ่ หลานอา...เราคงลำบากน่าดูเลยนะ”
“ก็นะ...หนูโดนอะไรมาเยอะเลยล่ะ...ตั้งแต่โดนขัง โดนทำร้าย โดนทรมาน...”
“โพร...”
พวกน้อง ๆ ที่กำลังเล่นเกมอยู่นั้นต่างหยุดการเล่นไปในทันใด
“หลานคงทรมานน่าดูเลยนะ...”
“พอนึก ๆ ก็...จริงค่ะ...หนูนะ...คิดอะไรหลายอย่างเลย...ร้องขอชีวิต ร้องขอความช่วยเหลือ...หรือร้องหาครอบครัว...ให้มาช่วยหนู”
“...” เอสเทลได้ยินแบบนั้น ทำเอาน้ำตาของเธอไหลออกมา เธอซุกด้านหลังของหลานสาวเบา ๆ “หลานคงทุกข์มากสินะ...”
โพรทาเลียตัวน้อยรู้สึกว่าอีกฝ่ายนั้นซุกด้านหลังของเธอ เธอก็ยิ้มอ่อน ๆ
“ค่ะ...ทุกข์มาก ๆ หนูหวาดกลัว...เทพองค์นั้น...กลัวยิ่งกว่าอะไร...แต่ว่า...หนูจะไม่กลัวอีกต่อไป เพราะตอนนี้หนูมีครอบครัวอยู่ข้าง ๆ แล้วนี่น่า”
คำพูดนั้นของโพรทาเลียตัวน้อย ทำให้พี่น้องและน้าต่างพากันเข้ามากอดเธอกันในทันใด โพรทาเลียตัวน้อยโอบกอดทุกคนอย่างสบายใจ ความรู้สึกอบอุ่นนั้นส่งผ่านมายังตัวของโพรทาเลียที่อยู่ในจิตใจ เธอรับรู้ว่าตัวเธอนั้นมีความกล้าบางอย่างขึ้นมา ทำให้โพรทาเลียมีรอยยิ้มขึ้นมาในทันใด เธอหลับตาลงค่อย ๆ นึกถึงภาพสัตว์ทะเลที่อยากแปลงร่าง ระหว่างที่คิดนั้นก็มีภาพของแซเทิร์นโผล่มา
‘หึ ภาพแกแค่นี้ฉันไม่กลัวแกหรอกนะ!!’ โพรทาเลียคิด
สิ้นความคิดนั้นบริเวณหน้าอกของเธอก็เปล่งแสงสว่างออกมากระจายไปทั้งร่าง ภาพของแซเทิร์นที่โผล่มาก็โดนแสงนั้นทำให้สลายหายไป ร่างกายของโพรทาเลียเริ่มขยายใหญ่ขึ้น มือของเธอเริ่มกลายเป็นคีบปลา ขาก็เริ่มเป็นหางปลาขนาดใหญ่ ร่างสัตว์ทะเลขนาดใหญ่ปรากฏกายขึ้นก่อนจะโดดเข้าไปภายในน้ำที่กำลังลอยอากาศ โพรทาเลียมองตัวเองอยู่ภายในนั้นก็ยิ่งดีอย่างยิ่งก่อนจะหันไปทางเฟอร์ร่า
“เย้!! ฉันทำได้แล้ว! เฟอร์ร่า”
เฟอร์ร่ากำลังตกใจกับขนาดที่อีกฝ่ายแปลงร่างนั้น เธอก็ส่ายหัวก่อนจะลุกขึ้น
“ยินดีด้วยโพรทาเลีย!!” เฟอร์ร่าเดินไปตบมือให้อีกฝ่ายที่ทำการแปลงร่างสำเร็จ “เจ้าผ่านการทดสอบของข้าแล้ว”
เมื่อเฟอร์ร่ากล่าวออกมาแบบนั้นร่างกายของโพรทาเลียก็เปล่งแสงอีกครั้ง แต่ไม่ใช่แค่ร่างนี้แค่ร่างจริงก็เปล่งประกายเช่นกัน ทำเอาพี่น้องทุกคนต่างตกใจ
“เกิดอะไรขึ้นนะ?”
“พี่ค่ะ!?”
“เอ๋?” โพรทาเลียมองตัวเองที่มีแสงสว่างออกมาทำให้เธอสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับตนเอง
จบตอนที่ 79 โปรดติดตามตอนที่ 80 ต่อไป
Comments (0)