ตอนที่ 27 พักผ่อน

เสียงผู้คนภายในสถานพยาบาลดังขึ้นอย่างเสียงดัง จนคนภายนอกสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ก็มีคนกระจายข่าวว่าคนที่สลบไปนั้นได้รับยาแก้แล้ว จนตอนนี้ฟื้นกันหมดแล้ว แต่ท่ามกลางความดีใจของผู้คนในค่ายฮาล์ฟบลัด ก็มีผู้คนกลุ่มหนึ่งที่ตอนแรกยังดีใจที่พวกฮาล์ฟบลัดเกือบ 10 เปอร์เซ็นต์ไม่ได้สติพวกนั้นก็วางแผนเพิ่ม แต่แล้วแผนกับผิดคาดทำให้พวกนั้นมีสีหน้าไม่พอใจมากๆ หนึ่งในนั้นกำลังโกรธจนเส้นเลือดขึ้น

 

นูอัสถึงกับมองอย่างโกรธเกรี้ยว แต่ก็เก็บอารมณ์ไว้ข้างใน "นี่มัน...เป็นไปได้ไง! ? "

"เจ้าถามใคร ใครจะตอบได้นูอัส!! " เฟลพูดขึ้น เขาคิดอยู่แล้วว่าแผนของนูอัสไม่ได้ผลแน่ๆ

"อึ้ก!! " นูอัสกำหมัดแน่นขึ้นมา “ใครกันใครมันมาทำร้ายแผนข้ากัน!!”

"ดูๆ พี่สาวฉันกำลังโกรธอะไรอยู่นะ! ? " เสียงอันคุ้นเคยของน้องสาวดังขึ้น

นูอัสนิ่งไปสักหนึ่งเพื่อสงบสติของตนเอง แล้วค่อยๆ หันไปมอง เธอได้เห็นหญิงคนที่เธอเกลียดขี้หน้าที่สุดเท่าที่เธอเคยเกลียดมากๆ

"โอ้...น้องสาว" นูอัสเล่นเปลี่ยนสีหน้าอย่างเร็ว เธอมีสีหน้าที่ดูปกติแต่แฝงด้วยความโกรธที่แผนการของตนพัง "ฉันจะโกรธอะไรล่ะ ทำไมพูดแบบนั้นกันล่ะ? "

"ทำไมนะเหรอ! ? " โฟกัสทวนคำพูดอีกฝ่าย "คงเพราะฉันเห็นใบหน้าที่โกรธของพี่ที่แผนวางยาสลบนั้น พังล่ะมั้ง!! "

"!! "

นูอัสถึงกับนิ่งไปทันที เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายแบบนั้น เหล่าพรรคพวกของนูอัสที่รู้เรื่องนี้ต่างมองด้วยสายตาไม่ไว้ใจคนตรงหน้าของพวกเขา นูอัสจ้องอย่างสงสัยว่าอีกฝ่ายรู้เรื่องยาสลบได้ไง

"เดียวสิ...เธอหมายถึงอะไรกัน โฟกัส ฉันจะไปทำแบบนั้นทำไม? "

"เลิกแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องดีกว่านะ โพรทาเลีย ฉันรู้ว่าพี่ทำอะไรมั้ง! "

“รู้! ? เธอรู้อะไรมาจากไหนกัน!?

“คิดเอาสิ!” โฟกัสเริ่มพูดย้อนใส่อีกฝ่ายอย่างชอบใจ แต่ก็ทำให้อีกฝ่ายไม่ชอบใจกับคำพูดอีกฝ่าย

“แกสืบเรื่องฉันสินะ! ?

"หึ…ถูกต้อง!"

“แก!!” นูอัสกำหมัดมือแน่นจนเลือดกำลังซิบออกมา

“รู้ไหมตั้งแต่คีย์เข้ามาในค่าย ไม่สิตั้งแต่ต้นๆ ที่พี่ทำตัวแย่ๆ นะ ฉันก็จับตาดูพี่อยู่ แต่พี่ก็เริ่มแผลงฤทธิ์กว่าเดิม” โฟกัสยกนิ้วขึ้นมาชี้หน้าอีกฝ่ายอย่างไม่เกรงกลัวอีกฝ่าย “จนตอนนี้ที่พี่ใช้วิธีสกปรกจนทำให้คนในค่ายโดนลูกหลงกันไปด้วย!!”

"แก...กล้ามากเลยนะ ที่แอบสืบเรื่องฉันนะ" นูอัสเริ่มมีน้ำโหมากขึ้นเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายแอบสืบว่าเธอเป็นคนวางแผนเรื่องนั้น "อย่ามายุ่งเรื่องของฉันดีกว่านะ!! "

 

นูอัสพูดขึ้นแล้วเดินตรงไปหาโฟกัส แล้วยกแขนขึ้นเพื่อจะตบกับอีกฝ่าย เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายจะยกมือขึ้นมาตบเธอ เธอยกมือขึ้นมาบังใบหน้าของเธอ แต่แล้วก็มีมือเรียวใหญ่เขามาขัดขวางการกระทำของคนพี่ได้อย่างทันใด ทำให้เจ้าตัวที่โดนจับมือหันไปมองเจ้าของมือใหญ่นั้น เมื่อเงยหน้าหันมาเจอคนที่ทำให้เธอขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจ

 

"นี่ แก!! "

เมื่อนูอัสเงยหน้าขึ้นก็เจอกับชายผมสีน้ำตาลทรงผมแบบตั้งขึ้น ดวงตาสีน้ำตาลจับจ้องไปที่หญิงสาวผมดำอย่างเย็นชา เขาค่อยๆ หันไปหาหญิงสาวอีกคนที่เขาเป็นห่วง

“ไม่เป็นไรนะ โฟกัส”

“อ๊ะ...อืม...” โฟกัสพยักหน้าทันที

นูอัสดึงมือของตนเองออกจากมืออีกฝ่าย แต่แรงของอีกฝ่ายมีเยอะเกินไป เมื่อชายคนนั้นหันกลับมามองเธอ เขาผลักมืออีกฝ่ายออกไป ทำให้ตัวนูอัสถอยไปข้างหลังจนล้มลงไปกับพื้น พรรคพวกของเธอต่างเข้ามาดู แต่เข้าตัวไม่ต้องการ เธอค่อยๆ ลุกขึ้น

"แก!! โรดริเกซ!! กล้าดียังไงมาผลักฉันกัน!!! "

"พูดมาได้ที่เธอล่ะ แจ็กสัน กล้าดียังไงจะมาตบน้องสาวตัวเองนะ!! "

"รู้จักคำนี้ไหมล่ะ เสือก!! " นูอัสพูดคำหยาบออกมา ทำเอาชายตรงหน้าไม่ชอบใจ เขาอยากง้างดาบออกมาจากฝัก แต่โฟกัสก็เข้ามาจับดาบอีกฝ่ายห้ามไว้

"พอเถอะ! คราวิล! "

“โฟกัส...”

เมื่อฝ่ายชายหนุ่มได้ยินหญิงสาวถามตน เขาเก็บดาบเข้าฝักเหมือนเดิม เขาจ้องหญิงสาวอีกคนอย่างเย็นชา นูอัสไม่ชอบขี้หน้าอีกฝ่ายตั้งแต่เจอกันครั้งแรก แต่ถ้าเธอสู้กับอีกฝ่าย เธอคงแย่แน่ๆ ตัวเธอหันหลังกลับก่อนจะพูดกับคนอื่นๆ

“พวกเรากลับ!!” พอเดินไปอีกสักระยะ นูอัสหันกลับมามองโฟกัส "ครั้งหน้าแกไม่รอดแน่ ถึงแกจะเป็นน้องฉันก็ตาม!! โฟกัส"

นูอัสพูดทิ้งท้ายพร้อมกับยกมือขึ้นมาเธอชูนิ้วกลางให้คราวิล ชายหนุ่มขมวดคิ้วเขาไม่ชอบใจจริงๆ พรรคพวกของอีกฝ่ายก็เดินตามอีกฝ่ายไปทันที พอพวกนั้นหายไปรับสายตาแล้ว เขาก็ค่อยๆ หันไปหาหญิงสาวที่เขาปกป้อง

"ทำไมเธอกับพี่สาวช่างต่างกันจริงๆ เลยนะ" คราวิลหันไปหาโฟกัส

"แหะๆ ฉันก็เคยคิดนะ แต่ตอนนี้ไม่คิดอะไรแล้วล่ะ เราสองคนไม่ใช่คนเดียวกัน ก็คงมีแบบนิสัยต่างกันมั้ง"

ชายหนุ่มจ้องมองหญิงสาวอย่างเอ็นดู เขาค่อยๆ ยกมือขึ้นมาสัมผัสศีรษะอันเล็กจ๋อยของอีกฝ่ายเบาๆ โฟกัสเงยหน้าขึ้นมามองอีกฝ่าย เขาส่งยิ้มให้เธอจนแก้มทั้งสองข้างของเธอขึ้นสีแดงระรื่น

"เธอนะดีกว่าใครๆ ที่ฉันรู้จักอีกนะ ถึงพี่น้องทำอะไร เธอยังไม่เคยโกรธพวกเขา เธอดีอย่างงี้ฉันถึงชอบเธอไง โฟกัส"

ใบหน้าที่แดงระรื่นนั้นค่อยๆ เริ่มขึ้นสีแดงเด่นชัด จนชายหนุ่มมองแล้วยิ้มออกมา

“แล้วก็เวลาเธอเขินนะ มันน่ารักมากๆ เลยนะ”

โฟกัสถึงกับหันหน้าหนีทันที "พอเลยนะ!! อย่ามาชมฉันแบบนั้นสิ คราวิล โรดริเกซ! "

“ขอโทษๆ เธอน่ารักจริงๆ นี่น่า”

ชายที่ยิ้มออกมาได้ตอนนี้ช่างแตกต่างจากชายก่อนหน้าที่ทำสีหน้าเย็นชาใส่โพรทาเลียตลอดเวลา ราวกับฟ้ากับเหวมากๆ

"ฉันว่าเมื่อกี้นะ เธอก็กล้าเกินไปนะ"

"ทำไมล่ะ! ? "

"ถ้าเกิดพี่สาวเธอทำอะไรขึ้นมาทำไง ถ้าเกิดเขาทำร้ายเธอจนบาดเจ็บสาหัสล่ะ! "

"ทำสิ!! " โฟกัสพูดขึ้นทันที เธอเงยหน้ามองอีกฝ่ายด้วยสีหน้ามุ่งมั่น "ถ้าพี่เขาทำฉัน พ่อคงไม่ชอบใจแน่ๆ "

"โฟกัส..." คราวิลรู้สึกห่วง แต่เขาก็ห้ามคนรักไม่ได้อยู่ดี "งั้นก็ระวังตัวไว้หน่อยนะ"

"ได้สิ" โฟกัสยิ้มให้อีกฝ่ายก่อนจะมองซ้ายขวา แล้วยืดตัวไปหาอีกฝ่ายแล้วหอมแก้ม

"!! "

"ค่าตอบแทนสำหรับเข้ามาช่วยนะ"

 

คราวิลถึงกับนิ่งเขายกมือขึ้นมาสัมผัสใบหน้าของเขาที่โดนอีกฝ่ายหอมแก้มเขา แต่ถ้าสถานการณ์นี้ใครมาเห็นคงตกใจมากๆ ที่ชายที่แข็งแกร่ง ดุร้าย และมีพละกำลังที่ดีเลิศ หัวหน้าบ้านแอรีสอย่างคราวิล คงทำให้หลายคนตกใจว่าเขามีด้านนี้ด้วยเหรอ โฟกัสคิดแบบนั้นก็เอาฮ่าเหมือนกัน แต่ถ้าจะฮ่าก็เรื่องที่พวกเขาสองคนแอบคบกันอยู่นี้สิ

 

นูอัสที่ออกมาจากตรงนั้น เธอกับมีแผนใหม่เขามาเพื่อจัดการตัวที่แอบสืบเรื่องของเธอ เธอไม่ต้องการให้ใครมารู้เรื่องของเธอ เธอคงต้องกำจัดหนูออกจากชีวิตเธอ

“รอก่อนเถอะ แจ็กสันแกได้เห็นนรกเหมือนที่พี่สาวแกเจอแน่ๆ”

 

เวลาผ่านไป 1 วัน หลังจากที่โพรทาเลียสลบไปนานหลายชั่วโมง เธอได้รับการดูแลอย่างดี ถึงแม้ไข้จะยังไม่ลดลงเลยก็ตาม เพราะนี้พึ่งวันแรกของการพักผ่อนและรักษา โพรทาเลียยังนอนอยู่บนเตียงอย่างไม่ได้สติ เพราะได้ยานอนหลับเพื่อพักผ่อน ปากทางเข้ามาเขตคนทั่วไปชายร่างสูงผมดำเดินเข้ามายังสถานที่แห่งนี้ทุกคนต่างทำความเคารพเขา

 

“สวัสดีค่ะ คุณแจ็กสัน”

“สวัสดีครับ คุณเพอร์ซีย์”

“ไงเด็กๆ” เขาทักทายตอบเด็กๆ ทุกคนที่เดินผ่านมา

ตัวเขานั้นเดินไปเรื่อยๆ จนมาเจอจุดที่คนที่เขาอยากเจอนอนหลับอยู่ที่เตียง หญิงสาวผมสีน้ำตาลเฝ้าดูผู้เป็นน้องสาวอย่างเป็นห่วง ก่อนที่เธอจะเห็นชายที่เธอรู้จัก เธอลุกขึ้นแล้วทักทายอีกฝ่าย

“คุณแจ็กสัน”

“ไง วันเดอร์เลอร์ น้องชายเจ้าเป็นไงมั้งนะ?

“ยังไข้ขึ้นอยู่นะคะ เขาบอกให้พักผ่อนเยอะๆ จะได้หาย แล้วก็ทานยาที่เขาจัดด้วยนะคะ”

“งั้นเหรอ...เอ่อ...” เพอร์ซีย์มองเด็กสาว แล้วค่อยหันไปมองเด็กหนุ่มที่นอนอยู่

“เอ่อ...พอดีเลยค่ะ ฉันจะไปเข้าห้องน้ำ คุณแจ็กสันช่วยอยู่สักแป๊บหน่อยนะคะ เดียวฉันจะรีบกลับนะคะ”

“ได้สิ”

“งั้นขอตัวนะคะ” ลิซ่าเดินออกมาจากตรงนั้นแล้วตรงไปห้องน้ำทันที

 

พอเด็กสาวออกไปแล้วตัวเขานั้นเดินใกล้ๆ เด็กหนุ่ม เขามองอีกฝ่ายอย่างสงสัยว่าอีกฝ่ายสร้างยามาได้ไง แล้วโอลิเวอร์ห้ามเขาไม่ให้บอกใครเรื่องที่คีย์สร้างยาขึ้นมา เขาสงสัยยิ่งกว่าเดิมว่าทำไม ใบหน้าที่แดงของเด็กหนุ่มทำให้เพอร์ซีย์มองอย่างสงสาร เขาเอามือมาจับที่หน้าผากของอีกฝ่าย ไอร้อนจากตัวอีกฝ่ายทำให้เพอร์ซีย์ยิ่งสงสารว่าอีกฝ่ายจะทรมานจากไข้มาแค่ไหน จนเด็กหนุ่มละเมอถึงใครบางคน

 

"พ่อ..."

เพอร์ซีย์ได้ยินอีกฝ่ายเรียกหาผู้เป็นพ่อ ทำให้เพอร์ซีย์คิดเลยว่าเด็กน้อยคนนี้จะรู้เหงาแค่ไหนที่ไม่ได้เจอครอบครัว

‘เด็กคนนี้...อยู่มาถึง 200 ปี เขาจะรู้สึกเหงาแค่ไหมนะ?

 

เพอร์ซีย์ที่กำลังคิดเรื่องคีย์อยู่นั้น ก็มีเสียงฝีเท้าเดินเตาะแตะเข้ามาทางเขา เขาหันไปมองว่าเสียงนั้นเป็นเสียงใครเดินเข้ามา พอหันมาระดับสายตาของเขากับไม่เห็นใครจนเขาก้มหน้าลงก็เห็นเด็กตัวน้อยผมสีน้ำตาลกำลังยกกระติกน้ำอะลูมิเนียมอยู่ เด็กน้อยมองอีกฝ่ายอย่างสงสัยว่าอีกฝ่ายเป็นใครถึงมาอยู่ข้างๆ คนที่นอนอยู่ เพอร์ซีย์มองอย่างเก้ๆ กังๆ ก่อนจะถามเด็กน้อย

 

"หนูเป็นใครนะ? แล้วมาทำอะไรที่นี้นะ" คำถามนั้นออกมาจากหัวของเพอร์ซีย์ เพราะว่าเขาไม่เคยเห็นเด็กตรงหน้าเลยด้วยซ้ำ นั้นเลยทำให้เขาต้องถามแบบนั้นออกไป

"เอ่อ...หนูคาเร็นน่า...คาเร็นน่า วันเดอร์เลอร์ หนูไปเติมน้ำให้พี่ชายมานะคะ..." เมื่อได้ยินชายตรงหน้าถาม เธอก็ตอบออกไปพร้อมกับยกกระติกน้ำที่ใหญ่กว่ามือของเธอให้อีกฝ่ายมอง

"พี่ชาย? " เพอร์ซีย์สงสัยเลยว่าคีย์มีน้องสาวด้วยเหรอ เพอร์ซีย์ย่อตัวลงข้างๆ เด็กน้อย "เอ่อ...หนูมาอยู่กับพี่ตั้งแต่เมื่อไรนะ? "

"แต่ต้นจนมาถึงวันนี้ค่ะ! " คาเร็นน่าตอบไปทำเอา

เพอร์ซีย์หน้านิ่งเลย เขาเก็บสีหน้าเคืองๆ ทันที เขาสงสัยเลยว่าทำไมวันเดอร์เลอร์ไม่บอกอะไรเข้าเลยว่ามีอีกคนด้วย ‘ถ้าอยู่พร้อมหน้าสองพี่สองนะ จะเทศน์ให้หูชาเลยนี่!!’

"โอเค งั้นเดียวลุงขอจดข้อมูลเกี่ยวกับหนูหน่อยละกัน"

"จดเหรอคะ?" คาเร็นน่าสงสัยว่าหมายถึงอะไร

เพอร์ซีย์หยิบสมุดที่มีขนาดเล็กขึ้นมาจดบางอย่าง คาเร็นน่ามองอย่างสงสัยว่าเขาทำอะไร เธอเลยเดินไปใกล้ๆ อีกฝ่าย ก็เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังเขียนชื่อของเธอแล้วรายละเอียดหลายอย่าง แต่คาเร็นน่าสนใจคือสมุดกับดินสอที่อีกฝ่ายกำลังเขียนอยู่

"ขอโทษนะคะ คุณลุง!! " คาเร็นน่าพูดเสียงดังขึ้นมาทันที

"ชู่ว!! " เพอร์ซีย์ยกนิ้วขึ้นมาทำเสียงชู่วเหมือนให้เด็กน้อยพูดเสียงเบาๆ "เสียงเบาๆ หน่อย หนูคาเร็นน่า"

"ขอโทษค่ะ..." คาเร็นน่าพูดด้วยเสียงที่เบามากๆ

เพอร์ซีย์มองทุกคนที่มองมาทางพวกเขา พอคนอื่นๆ กลับไปสนใจงานของตัวเองกัน เพอร์ซีย์ก็หันมามองเด็กน้อย

"แล้วเมื่อกี้มีอะไรนะ? "

"สิ่งนี้คืออะไรคะ? " คาเร็นน่าชี้ไปที่สมุดกับดินสอของอีกฝ่าย

"อ๋อ...อันนี้เรียกว่าสมุดจน" เพอร์ซีย์ยกสมุดขึ้นมา แล้วก็ยกดินสอขึ้นมาอีกอัน "ส่วนอันนี้ดินสอนะ"

"สมุดจด? ...ดินสอ? " คาเร็นน่าสงสัยเลยว่ามันคืออะไร เธอรู้จักแค่กระดาษกับแท่งไม้สำหรับเขียนเท่านั้น เธอไม่นึกเลยว่ามีอย่างอื่นที่เขียนได้อีก

“หนูไม่รู้จักเหรอ?

คาเร็นน่าส่ายหน้าทันที “หนูแค่รู้จักแค่กระดาษที่ทำจากหนังสัตว์แล้วก็ถ่านไม้แบบแท่งนะคะ”

เพอร์ซีย์มองอย่างสงสารเด็กน้อยตัวเท่านี้เลยที่ไม่รู้จักแม้กระทั่งของที่เขาใช้ เพอร์ซีย์นึกบางอย่างก็หยิบบางอย่างจากกระเป๋าข้างในเสื้อกั๊กของเขา มันมีหนังสือไว้วาดรูปที่เขาเอามาติดตัวและดินสอหนึ่งแท่งกับยางลบ เขาหยิบออกมาแล้วส่งให้เด็กน้อย

"อ๊ะ ลุงให้"

"เอ๋...ไม่เป็นไรค่ะ หนูแค่สงสัยนะว่ามันคืออะไร" คาเร็นน่าสะบัดมือไปมาเพื่อไม่ต้องการที่จะรับ

"เอาน่า ถือว่าลุงให้หนูต้อนรับเราละกันนะ"

"จะดีเหรอคะ? "

"ดีสิ" เพอร์ซีย์ยิ้มสักเล็กน้อย

คาเร็นน่ามองอีกฝ่ายที่ยิ้มให้เธอก่อนจะรับมันมา "ขอบคุณสำหรับของชิ้นนี้นะคะ เอ่อ...คุณลุง..."

คาเร็นน่ากำลังคิดว่าอีกฝ่ายเป็นใครแล้วชื่ออะไรกันแน่ เพราะอีกฝ่ายยังไม่ได้แนะนำตัวกับเธอเลย

"ลุงลืมแนะนำตัวสินะ ลุงเป็นผู้ดูแลค่ายนี้ ชื่อ เพอร์ซีย์ แจ็กสันนะ"

"เพอร์ซีย์...แจ็กสัน" คาเร็นน่าสงสัยเลยว่าทำไมอีกฝ่ายมีนามสกุลคล้ายแม่ของเธอ ก่อนจะถามบางอย่างออกมา "คุณลุงเกี่ยวข้องอะไรกับโพรทาเลียเหรอคะ? "

"เหอะๆ มีคนถามบ่อยจริงๆ นะ เฮ้อ~" เพอร์ซีย์คอตกทันที "ลุงกับโพรทาเลียเป็นพ่อลูกกันนะ"

"พ่อลูก..." คาเร็นน่าตาโตทันที

 

เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายเกี่ยวกับผู้เป็นแม่ ทำให้เธอนึกถึงตอนเธอเด็กๆ ที่เอเคยถามผู้เป็นแม่ถึงพ่อแม่ว่าเธอควรเรียกพ่อแม่ของแม่ว่าอะไร เธอนึกย้อนกลับไปตอนที่เธออายุได้ 2 ขวบ ตอนที่เธอกำลังเล่นกับพี่ชายแล้วนึกหันไปถามแม่

"มะม๊า มีมะม๊ากับปะป๊าไหมคะ? "

โพรทาเลียนิ่งไปเลยว่าผู้เป็นลูกพูดอะไรทำให้เธองงหน่อยๆ

"เอ๋? คาเร็นน่าพูดอะไรล่ะนั้น แม่ฟังไม่เข้าใจเลยนะ!?"

มะม๊า มีมะม๊ากับปะป๊าไหมคะ? ” คาเร็นน่าพูดทวนอีกครั้ง

"อ๋อ หมายถึงแม่มีพ่อแม่หรือเปล่านะเหรอจ๊ะ?"

คาเร็นน่าพยักหน้าอันเล็กจ๋อยของตนเอง

"มีสิ พ่อแม่ของแม่นะ พวกท่านทั้งใจดีและรักแม่มากเลยล่ะ สักวันหนึ่งถ้าลูกๆ ทั้งสองคนเจอพวกท่าน ก็ต้องเรียกคุณตาคุณยายนะ"

"แบบนี้เอง ต้องเรียกพ่อของแม่ว่า คุณตา และแม่ของแม่คุณยายสินะคะ"

“จ๊ะ”

 

คาเร็นน่านึกถึงตอนนั้นทำให้เธอกอดของที่อีกฝ่ายให้อย่างแนบแน่น ของชิ้นแรกจากคุณตาที่เธอไม่เคยเจอ แล้วครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เจอคุณตาของเธอ ใบหน้าของคาเร็นน่ายิ้มอย่างออกนอกหน้า ทำเอาเพอร์ซีย์ที่มองอยู่สงสัยว่าเด็กน้อยมีสีหน้าดีใจเกินหน้าเกินตามากๆ คาเร็นน่าเงยหน้าขึ้นมาหาอีกฝ่าย

 

"หนูจะเก็บของชิ้นนี้ให้ดีที่สุดเลยค่ะ คุณลุงเพอร์ซีย์"

เมื่อเพอร์ซีย์มองเขารู้สึกคุ้นเคย แล้วก็รู้สึกหลงใหลเด็กน้อยคนนี้จริงๆ ก่อนจะลูบหัวเด็กน้อยเบาๆ

"อืม ถ้ามีอะไรหมดก็บอกลุงนะ เดียวลุงจะเอามาให้ใหม่ งั้นลุงไปทำงานก่อนดีกว่านะ"

"ค่ะ ทำงานดีๆ นะคะ"

"อืม" เพอร์ซีย์ลุกขึ้นแล้วหันหลังเพื่อจะออกไปจากตรงนั้น เขาหันกลับมาโบกมือลาเด็กน้อย

 

เมื่อคนเป็นตาเดินออกไปแล้ว คาเร็นน่ามีความสุขกับสิ่งของที่ได้รับมา ตัวเธอรีบเอามาลองเขียนอะไรดู พอได้เขียนทำให้เธอนึกถึงการเขียนด้วยเศษกระดาษจากหนังสัตว์และถ่านดำที่เป็นแท่งๆ ระหว่างดูแม่ที่ยังนอนพักอยู่ ลิซ่าก็กลับมาจากไปห้องน้ำแต่ที่จริงตัวเองแอบอยู่ข้างนอกล่ะ เธอรู้ว่าคุณแจ็กสันต้องการอยู่กับโพรทาเลียแกล้งออกมาเฉยๆ แต่พอเห็นคาเร็นน่ากำลังมีความสุขกับของที่ได้รับ เธอก็ดีใจน่านะที่หลานสาวมีความสุข ทั้งสองคนต่างมองโพรทาเลียที่หลับอย่างรู้สึกไม่สบายตัวนิดหน่อย และส่วนลึกของจิตใจกับมีบางอย่างกำลังก่อตัวเพื่อลุกโชนขึ้น

 

ตกกลางวันของวันที่ 4 ในสถานพยาบาล โพรทาเลียได้พักผ่อนเต็มทีจนเธอเริ่มได้สติมากขึ้น วัดไข้แล้วไข่ก็ลดลงไปเยอะ แต่ก็ยังมีปวดหัวอยู่นิดหน่อยกับร่างกายที่ไม่สบายตัวเอาซะเลย แต่ก็ยังมีคนมาเยี่ยมเธอนอกจากคนที่ดูแลเธอ เธอได้เห็นพี่น้องทั้ง 4 คน แล้วก็เพื่อนๆ จากกลุ่มฟีนีอุสมาเยี่ยมกัน

 

“ไง วันเดอร์เลอร์/คีย์” พวกเขาต่างทักทายกันเข้ามา

โพรทาเลียได้ยินก็ทักทายพวกเขาทันที “ไงทุกคน”

“ดีขึ้นแล้วสินะ เห็นว่านายเป็นไข้จนต้องถูกส่งมาที่นี้นะ” โคลพูดขึ้นแล้ววางตะกร้าที่มีของอยู่เต็ม

“นี่คือ?โพรทาเลียมองตะกร้าอย่างสงสัย

“ของฝากนะ เป็นธรรมเนียมเมื่อมาเยี่ยมคนป่วยนะ” เนเวอร์รี่โผล่มาอยู่ข้างๆ โพรทาเลียทันที

“ธรรมเนียม?โพรทาเลียสงสัยเลยว่ามีแบบนี้ด้วยเหรอ

“ใช่แล้วล่ะ พวกเราเลยเอาของแต่ละคนมาฝากนะ”

“งั้นเหรอ ขอบคุณสำหรับของฝากนะทุกคน”

“แต่นะ เหตุการณ์คนที่สลบก็จัดการไปเรียบร้อยแล้วน่านะ” โอราอุสพูดขึ้น

โพรทาเลียหันไปมองพี่ชายทันที “จริงเหรอ?

“อืม” โอราอุสพยักหน้าทันที

“ดีใจจังนะ” โพรทาเลียโล่งใจทันที

“แต่ก็นะ ยังไม่มีใครบอกได้เลยนะว่าใครเป็นคนสร้างยานี้นะ!!” เอเดอร์พูดขึ้นมาทันที

โพรทาเลียได้ยินพี่คนรองพูดขึ้น เธอสงสัยทันทีว่าไม่มีคนรู้เรื่องนี้เหรอ เธอหันไปมองพี่น้องของเธอที่ทำสีหน้าทำเป็นไม่รู้เรื่อง เธอรู้เลยว่าพวกเขาช่วยปิดเรื่องนี้

“ก็จริงนะ โอลิเวอร์ไม่ยอมบอกว่าใครเป็นคนสร้างยานั้นขึ้น เพราะอะไรกันนะ” คาเอลพูดขึ้น เพราะตัวเธอก็อยู่ในกลุ่มสร้างยาด้วย “ทำเหมือนปกป้องคนที่สร้างยานั้นขึ้น จากอะไร”

“คงจากคนที่สร้างความโกลาหลนี่ล่ะนะ” โทมัสพูดขึ้น เขาโผล่มาพร้อมตะกร้าอีกใบ “น้องคีย์ของพี่!! พี่เอาของฝากมาด้วยนะ พอดีคนทั้งบ้านเฮอร์มีสได้ซื้อของมาฝากนายที่ป่วยด้วยนะ”

“ขอบคุณนะ พี่โทมัส แต่ฉันแค่เป็นไข้เองนะ”

“ก็นะ แต่...” โทมัสเขยิบเข้าไปหาคีย์แล้วกระซิบข้างหู “สำหรับคนช่วยค่าย พวกเราก็ต้องมีของตอบแทนด้วยสิ”

“เอ๋!!” โพรทาเลียมองหน้าโทมัสอย่างตกใจทันที “พี่...รู้...”

“ชู่ววว สำหรับหัวหน้าบ้านเฮอร์มีสข่าวซุบซิบในค่าย ฉันรู้หมดล่ะ ขอบใจมากๆ นะ คีย์”

“แหะๆ” โพรทาเลียทำสีหน้าไม่ถูกเลยที่อีกฝ่ายรู้ได้ แต่ก็สมกับเป็นคนบ้านเฮอร์มีสน่านะ

“พวกนายซุบซิบอะไรกันนะ” โคลขมวดคิ้วสงสัยว่าสองคนนั้นคุยอะไรกัน

“ไม่บอกหรอกนะ โคล!” โทมัสหันไปยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

ทำเอาโคลไม่ชอบใจ เขายกมือขึ้นมาแล้วมีหมอกควันสีดำขึ้นมาที่มือของเขา

“นายอยากมีเรื่องกับฉันสินะ โทมัส”

“จะเอาไหมล่ะ!”

ทั้งสองคนจ้องหน้ากันอย่างจะกินเนื้อกันและกัน ทำเอาโพรทาเลียมองอย่างน่าเบื่อหน่ายกับพวกที่ทะเลาะกันจริงๆ ก่อนที่ฟีนีอุสจะพูดบางอย่างขึ้นมา

“เลิกทะเลาะกันสักที!! นี่สถานพยาบาลไม่ใช่สนามประลอง!!”

ทั้งสองคนสะดุ้งกับเสียงของฟีนีอุส ก่อนจะหันไปมองชายที่ตะโกนเสียงดังขึ้นมา ฟีนีอุสกำลังวางแจกันที่ใส่ดอกไม้ไว้อยู่ เขาค่อยๆ หันมามองทั้งสองคนที่ทะเลาะกัน

“เกรงใจคนป่วยหน่อยเถอะ คนเขาพึ่งหาย พวกนายจะให้เขาป่วยเพิ่ม เพราะปวดหัวกับพวกนายหรือไง!?

“อ๊ะ!” ทั้งสองคนนึกคำพูดของอีกฝ่าย พวกเขาค่อยๆ หันไปทางคีย์ที่จับหัวตัวเอง เพราะตัวเขาเริ่มปวดหัวหน่อยๆ ทั้งสองคนมองหน้าก่อนจะก้มโค้งขอโทษคีย์ “พวกเราขอโทษด้วย!!”

“เอ๊ะ...ช่างเถอะๆ แค่นี้เอง เสียงดังกว่านี้ยังเคยได้ยินเลยนะ ตอนนี้แค่มึนหัวหน่อยๆ นะ แต่ว่า...” โพรทาเลียมองแจกันที่ฟีนีอุสใส่ดอกไม้ไว้ “นั้นดอกอะไรนะ?

ฟีนีอุสหันไปมองแจกันที่เขาใส่ดอกไม้ที่เขาเอามา เอมิลี่เห็นก็เลยช่วยอธิบายให้คีย์ฟัง

“ดอกไม้ที่พี่เขาเอามาคือ ดอกทิวลิป นะคีย์”

“ทิวลิป?โพรทาเลียทำหน้าสงสัย เพราะเธอไม่ได้เห็นดอกไม้มานาน นอกจากดอกไม้ที่อยู่ในปราสาท “ดูสวยดีนะ”

“อ๊ะ...” ฟีนีอุสยิ้มเล็กน้อย เขาเหมือนดีใจที่อีกฝ่ายชอบ “ดีใจที่นายชอบนะ”

“ดอกไม้นี่สื่ออะไรหรือเปล่าคะ?คาเร็นน่าพูดขึ้นมา

สายตาทุกคู่ต่างหันไปมองเด็กน้อยที่ปีนมาอยู่บนเตียงของคีย์ ตอนแรกพวกเขาเห็นตั้งแต่ที่เข้ามาก็สงสัยว่าเด็กน้อยผมสีน้ำตาลคนนี้คือใครกัน ฟีนีอุสย่อตัวลงคุยกับเด็กน้อย

“หนูอยากรู้เหรอ?

คาเร็นน่าพยักหน้าอย่างสนใจ “ค่ะ”

“ดอกทิวลิปสีขาว ถ้าส่งมอบให้ใครสักคนมันจะสื่อว่า ฉันเสียสละทุกอย่างได้เพื่อคนที่รัก เป็นรักที่ไม่หวังผลตอบแทนนะ”

“ว้าววววว โรแมนติกจังค่ะ พี่ชายชอบคุณแม่เหรอคะ!!”

“คุณแม่!!” ทุกคนช็อกกับคำพูดของเด็กน้อยกัน ใบหน้าอันหล่อเหลาของฟีนีอุสเริ่มมีสีแดงขึ้นมาเรื่อยๆ เขาไม่กล้าพูดอะไร

แต่โพรทาเลียต้องพูดบางอย่างขึ้นมาทันที “คาเร็นน่า!! หนูพูดอะไรนะ!! พี่บอกแล้วนะว่าเลิกเรียกพี่ว่าแม่นะ”

คาเร็นน่าได้ยินแบบนั้น เธอก็หัวไวรีบตอบผู้เป็นแม่ทันที “ก็แม้หนูไม่อยากเรียกแม่ว่าพี่ชายนี่นา แม่ดูแลหนูตั้งแต่ทารก แม่ก็ต้องเป็นแม่สิ!!”

ทุกคนยังอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน ยกเว้นคนที่รู้อยู่แล้ว 7 กว่าคนตรงนั้น เลยไม่ได้อึ้งอะไรกัน แต่คนอื่นๆ ยังอึ้งอยู่เลย

“นี่ คีย์ เด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกนายจริงๆ สินะ” เบ็นชี้มาที่คาเร็นน่าอย่างสงสัย

“ก็อย่างที่เด็กพูดนะ” โพรทาเลียยิ้มแหะๆ ออกมา คาเร็นน่าก็เขยิบมานอนข้างๆ แล้วนอนซบโพรทาเลีย “ฉันเลี้ยงเด็กคนนี้ตั้งแต่เป็นทารก จนโดนเรียกว่าแม่มาตลอดน่านะ ฉันแค่เลี้ยงน้องแทนพ่อแม่เท่านั้นล่ะ แต่ก็เกิดเรื่องจนฉันต้องดูแลจนมาถึงตอนนี้นะ”

“พอมองๆ อย่างกับแม่ลูกเลยนะนั้น” เนเวอร์รี่แอบแซวหน่อยๆ

“แฮะๆ” โพรทาเลียหัวเราะแฮะๆ แต่เธอก็แอบจ้องเนเวอร์รี่อย่างเคืองๆ

“คงลำบากแย่เลยนะ ตอนพ่อกับแม่ฉันดูแล ก็ลำบากเหมือนกัน”

โคลจ้องมองอย่างครุ่นคิดว่าอีกฝ่ายดูแลเด็กจะลำบากมากไหม เพราะเขาเคยได้ยินพ่อกับแม่เขาพูดบ่อยๆ ว่าตอนเลี้ยงเขานั้นลำบากมากๆ

“ก็ไม่เท่าไรนะ” โพรทาเลียมองทุกคนแล้วก้มลงมองลูกสาวที่หลับไปแล้ว “ฉันมีพี่สาวกับคนอื่นๆ ที่เคยอยู่ด้วยกัน ช่วยเลี้ยงน่านะ”

“ก็ยังดีที่นายมีคนอื่นอยู่ข้างๆ น่านะ” โฟกัสพูดขึ้นแล้วเดินมานั่งอยู่ข้างๆ เตียงของอีกฝ่าย พร้อมยื่นบางอย่างให้ “เอ่อพอดีกว่าพ่อกับแม่ของฉันบอกว่าควรเอานี่มาให้นายนะ”

“ยะ...แยมสตรอเบอรี่!!”

ใบหน้าของโพรทาเลียเป็นประกายเมื่อพูดถึงแยมชอบโปรดของเธอ ทำเอาทุกคนที่เห็นต่างรู้สึกใจเต้นตึกตักเหมือนมองใบหน้าอีกฝ่ายมีสีหน้าดีใจที่ได้ของฝาก

“ทำไมเขาถึงให้ฉันล่ะ?โพรทาเลียมองอย่างสงสัย แล้วรับขวดแยมมาก

“ไม่รู้สิ เขาบอกว่าตอบแทนกับสิ่งบางอย่างนะ”

“ตอบแทนเหรอ...?โพรทาเลียมองอย่างสงสัย แต่ก็พอรู้ล่ะว่าอะไร “งั้นขอบคุณทั้งสองท่านแทนฉันด้วยนะ โฟกัส”

“แน่อยู่แล้ว ฉันจะบอกให้นะ” โฟกัสยิ้มอย่างอ่อนโยน

“พวกนาย! ถ้าคุยเสร็จแล้ว อย่าลืมกลับไปกินยาลดไข้กันด้วย ฉันขี้เกียจดูแลคนเป็นไข้อีกนะ” โอลิเวอร์โผล่หน้าออกมามองทุกคนที่มาเยี่ยมคีย์

“รู้แล้วนะ โอลิเวอร์!!” ทุกคนต่างตะโกนพูดพร้อมกัน

โพรทาเลียยิ้มหัวเราะอย่างมีความสุขกับเหตุการณ์ตรงหน้า สภาพแวดล้อมที่มีอารมณ์ขันกัน ก่อนจะมีคนเดินมาทางเตียงของคีย์

“ขอโทษครับ คุณโฟกัส แจ็กสันอยู่ไหมครับ?

เสียงชายหนุ่มสวมเสื้อของจูปิเตอร์ โพรทาเลียได้เห็นชุดนั้นอย่างชัดๆ ก็เหมือนตอนที่เธอเข้ามาในค่ายครั้งแรก

“อยู่นี่ค่ะ” โฟกัสลุกขึ้นมาทันที แล้วเดินไปหาชายคนนั้น

“นี่ครับ จดหมายจากคุณแจ็กสันครับ”

“พ่อเหรอ?โฟกัสรับจดหมายมา เธอสงสัยว่าพ่อส่งจดหมายมาให้เธอเหรอ เธอหันไปทางพี่น้องของเธอทันที “พ่อยังอยู่ค่ายจูปิเตอร์สินะ”

“ใช่ พ่อเขายังประชุมกับทางนั้นไม่เสร็จเลยน่านะ”

“อืมๆ ขอบใจนะ โมโมจิ”

“ครับผม” ชายที่มาส่งจดหมายยิ้มให้โฟกัส ก่อนจะเดินออกไป

โฟกัสแกะจดหมายออกมาอย่างช้าๆ แล้วพอเกาะออกมา เธอค่อยๆ หยิบจดหมายออกมาอ่านกันทุกตัวอักษรในจดหมายนั้น

“อืม อ๊า...วันนี้ตอนเย็นหลังจากพ่อกลับมา...” โฟกัสอ่านรายละเอียดอย่างถี่ถ้วน ก่อนจะคอตก "ถึงตาหนูต้องฝึกสินะ..."

“หือ? ตาพี่โฟกัสแล้วเหรอคะ?คารีเซลถามขึ้น

“โอ้...เธอได้แย่แน่ๆ โฟกัส!!” สองแฝดยิ้มเยาะน้องสาวทันที

“ไม่ต้องมายิ้มเยาะเลยนะ พี่เบเดอร์! พี่เอเดอร์!”

“ฝึก...ฝึกอะไรกันเหรอ?โพรทาเลียสงสัยว่าพี่น้องเธอพูดการฝึกอะไรกัน

“บ้านแจ็กสันชอบมีการทดสอบกับลูกๆ ของเขานะ เพื่อฝึกตอนดึกให้ชินกับความมืดนะ” โอราอุสอธิบายให้โพรทาเลียเข้าใจ

สีหน้าของโพรทาเลียเข้าใจกระจ่างแจ้งขึ้นมาทันที เธอหันไปให้กำลังใจน้องสาวทันที “อ๋อ แบบนี้เอง งั้นพยายามเข้าล่ะ โฟกัส”

“ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ...แต่ฉันก็ไม่ชอบใจกับการฝึกของพ่อเขาเลยนะ พวกพี่ๆ กลับมาทีไร มีแต่แผลเต็มตัวไปหมด!!”

โพรทาเลียมีสีหน้าซีดหน่อยๆ แต่ก็แอบยิ้มหน่อยๆ “โอ้...ฝึกโหดสินะ คิกๆ”

“ไม่ต้องมายิ้มเลยนะ!!” โฟกัสถึงกับขยี้ผมของเธอ

“ฮ่าๆ”

ทุกคนต่างหัวเราะขึ้นมาอย่างมีความสุขกับสิ่งที่ได้ยิน แต่พวกเขายังไม่รู้ว่ากำลังจะมีเรื่องอันตรายเข้ามาอีกละรอบหนึ่งเข้ามาหาพวกเขา

 

จบตอนที่ 27 โปรดติดตามตอนที่ 28 ต่อไป