ตอนที่ 59 ก่อจลาจลของเหล่าปีศาจ

ตกเย็นใกล้จะถึงเวลาสี่โมงเย็น ชายหนุ่มผมทองกำลังวิ่งจากค่ายฮาล์ฟบลัดไปยังค่ายจูปิเตอร์สุดชีวิต หลังจากทำจากจนเสร็จก็รีบวิ่งไปรับลูกชายตัวน้อยที่กำลังรอเขาอยู่ที่โรงเรียน เมื่อออกมาจากประตูมิติเข้าสู่ค่ายจูปิเตอร์ เขาก็วิ่งเข้าไปยังกรุงโรมใหม่ที่เป็นสถานที่มากมายให้ผู้คนอาศัยและทำงานภายในนั้น พอวิ่งเข้าไปตามหาก็มาถึงโรงเรียน เขาหยุดพักอยู่ที่หน้าโรงเรียน แล้วเดินเข้าไปข้างในเขามองหาลูกชายอย่างสงสัยว่าอยู่ไหน เขามองรอบๆ ก่อนจะเข้าไปข้างในโรงเรียนเพื่อสอบถามคนเหล่าอาจารย์ ก่อนจะเห็นอาจารย์หญิงคนหนึ่งกำลังยืนอย่างเศร้าใจที่ไม่ได้เจอชายหนุ่มที่เธออยากเจอ ชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้ๆ พร้อมกับเอ่ยพูดขึ้น

 

“ขอโทษนะครับ อาจารย์เลดี้ ลูกผมอยู่ไหนเหรอครับ?

อาจารย์สาวได้ยินเสียงอันสุขุมของชายหนุ่ม เธอรีบหันไปทันที “ตายแล้ว ฟีนีอุส ฉันไม่นึกว่าคุณจะมานะคะเนี่ย คุณไม่ได้นัดกับเอ่อ...คุณแฟนของคุณเหรอคะ?

อาจารย์แอบทำสีหน้าเจื่อนๆ อย่างไม่ชอบใจที่ต้องพูดถึงผู้หญิงของอีกฝ่าย มันทำให้เธออิจฉาคนที่ได้หัวใจของชายหนุ่มตรงหน้าไปจริงๆ

“แฟน? เอ่ยหมายถึงอะไรนะครับ?ฟีนีอุสขมวดคิ้วอย่างสงสัย

“ก็แม่เด็กไงคะ เธอมารับไปแล้ว เดวิคก็ดูมีความสุขมากๆ เลยนะคะ”

ใบหน้าของฟีนีอุสเปลี่ยนไปเป็นซีดเซียวอย่างรวดเร็วเมื่อฟังคำพูดของหญิงสาวตรงหน้า ก่อนที่เขาจะคิดขึ้นมา

 

‘เดียว! โพรทาเลียมารับเดวิคไปงั้นเหรอ? แต่เธอยังอยู่ข้างนอกกับคุณแจ็กสันไม่ใช่เหรอ!?

 

30 นาทีก่อนหน้า

 

สองแฝดกำลังนั่งทานขนมอยู่ตรงเคาน์เตอร์ ภายในครัวของคุณย่ากันอย่างเบื่อหน่ายที่รอผู้เป็นกำลังทำธุระอยู่ในห้องนานมากๆ จนพวกเธอทานเค้กของคุณย่าหมอไป 2 ปอนด์แล้ว ย่าแซลลี่ก็เอาแต่จ้องหลานสาวอย่างมีความสุขได้เห็นทานขนมอย่างมีความสุขก็เติมความสดใสในชีวิตให้เธอไปเยอะเลยทีเดียว ระหว่างรอเพอร์ซีย์พวกเขาก็คุยอะไรหลายๆ อย่างกันให้ย่าแซลลี่ฟัง

 

“ปีศาจตนนี้แย่จริงๆ เลยนะ จ้องเล่นงานหลานย่าอย่างเดียวเลยนะ”

“ทำไงได้ล่ะค่ะ คุณย่า พี่เขาหาเรื่องเป็นปรปักษ์กับนูอัสนี่น่า” โฟกัสแซะพี่สาวอย่างมีความสุข

โพรทาเลียจ้องมองน้องสาวพร้อมกับทานเค้กสีฟ้าไปเรื่อยๆ “โทษนะๆ พี่เป็นพวกไม่ยอมใครนี่น่า”

“มันก็จริง แล้วพี่ก็ผ่านมันมาได้”

“ผ่านมาได้ แต่ก็ทำให้ค่ายวุ่นวายไปช่วงหนึ่ง” เพอร์ซีย์เดินออกมาพร้อมกับเอามือเช็ดไปตามเสื้อผ้าของเขา

โฟกัสเห็นพ่อทำแบบนั้นเลยต้องเตือนพ่อ “พ่อค่ะ! ไม่หาผ้าเช็ดมือสิคะ”

“อ๊ะ...โทษที...”

โพรทาเลียแอบขำหน่อยๆ “ถึงหนูทำเรื่องวุ่น แต่หนูก็เก่งพอช่วยแก้สถานการณ์นะคะ พ่อ”

“จ้าๆ เอาล่ะ เดียวพวกผมจะกลับค่ายล่ะ” เพอร์ซีย์หันไปหาผู้เป็นแม่ก่อนจะเตรียมกระเป๋าของเขา

“จะกลับแล้วเหรอ?สองแฝดต่างกันไปหาพ่ออย่างเซ็งๆ ที่จะต้องกลับกัน

“พอเลยๆ ถึงเวลากลับแล้ว แม่เขาเป็นห่วงนะ กลับค่ายกัน!”

“ไว้มาเยี่ยมกันมั้งนะ เพอร์ซีย์”

“ครับ เดียวผมพาเด็กๆ มาเยี่ยมช่วงปลายเดือนนะครับ”

“แม่จะรอนะจ๊ะ” แซลลี่ยิ้มให้ลูกชาย

“ครับ เอาเร็วๆ ทั้งสองคน! กลับกัน!”

“ค่า!” ทั้งสองต่างรีบรับประทานขนมจนหมด ก่อนจะลุกขึ้นยืนเพื่อจะตามพ่อของพวกเธอ

“เดียวจ๊ะ เด็กๆ” ย่าแซลลี่เดินไปหยิบกล่องขนมให้หลานทั้งสอง “เอานี่ไปด้วยนะจ๊ะ”

“เอ๋? อะไรนะคะ?โพรทาเลียมองอย่างสงสัยว่ากล่องอะไร

“หรือว่านี่คือ!” โฟกัสเห็นกล่องก็ตาโตรับรู้เลยว่าข้างในคืออะไร

“คัพเค้กสีฟ้าของย่าไงจ๊ะ”

“คัพเค้ก!” สองสาวด้วยตาเป็นประกายทันที เมื่อรู้ว่าข้างในนั้นคืออะไร

“นี้ๆ อันนี้ของทุกคนนะ เด็กๆ อย่าหวังว่าจะทานหมดกันเองนะ”

“โธ่!” ทั้งสองขมวดคิ้วอย่างเซ็งๆ

เพอร์ซีย์รับถุงใส่กล่องขนมจากลูกๆ พร้อมกับเดินนำออกไปจากตรงนั้น สาวๆ ต่างหันไปหาย่าแซลลี่แล้วกอดท่านหนึ่งครั้ง

“พวกหนูจะมาเยี่ยมอีกนะคะ คุณย่า”

“ใช่ค่ะ เราจะมาเยี่ยมนะคะ”

แซลลี่กอดหลานตอบการได้เจอหลานในรอบหลายปีช่างมีความสุขมากๆ เธอหอมบริเวณศีรษะของเด็กๆ ทั้งสอง

“ย่าจะรอหลานๆ มาหานะจ๊ะ”

 

ทั้งสองยิ้มให้ย่าแซลลี่ พวกเธอไม่อยากกลับเลย แต่ก็ต้องกลับเพื่อสะสางงานที่เหลือให้หมด พวกเธอเดินออกมาแล้วโบกมือลาย่าแซลลี่ ก่อนจะออกจากบ้านนั้นไปยังข้างล่างที่เป็นร้านอาหาร พวกเธอเดินผ่านพนักงานที่อยู่ในครัวก็บอกลาพวกเขา เมื่อพวกเขาทักทายพวกเธอ พอออกมาจากหลังร้านก็เห็นพ่อเตรียมตัวอยู่ในรถ ทั้งสองรีบขึ้นไปข้างในรถทันใด ก่อนที่ผู้เป็นพ่อจะเตรียมออกตัว

 

โพรทาเลียนั่งอยู่หลังรถอย่างสบายใจ ถ้าเป็นช่วงปกติ เธอคงไม่ได้อยู่ในสภาพที่จะสบายใจได้ ระหว่างทางโฟกัสก็หาเรื่องคุยไม่ให้ตลอดทางเดินทางนั้นเงียบจนเกินไป แต่ก็คุยได้เล็กๆ ก็เงียบไปอีกจนโพรทาเลียถามถึงเรื่องต่างๆ ในอดีต โพรทาเลียก็ได้รู้ว่าตลอดหลายปีที่นูอัสอยู่ในครอบครัวก็มีแต่เรื่องทะเลาะกัน แต่ก็ยังดีมีคนห้ามตลอดถ้าพ่อแม่ทะเลาะกัน พี่โอราอุสจะเป็นคนห้าม ถ้าน้องๆ พี่ๆ ทะเลาะกันโฟกัสจะเป็นคนห้ามในบางครั้ง ก็ถือเป็นเรื่องดีที่ในครอบครัวนั้นยังมีคนที่ค่อยช่วยพยุงคนอื่นๆ ก่อนที่โพรทาเลียนึกบางอย่างได้

 

“พ่อค่ะ!” โพรทาเลียเกาะบนเบาะฝั่งคนขับทันที

“ว่าไง?

“หนูขอติดต่อกับพี่ๆ ได้ไหมว่ากำลังกลับ?

“ได้สิ จะได้ให้พี่เขาบอกแม่ด้วยว่าลูกอยู่กับพ่อ แม่เขาจะได้หายห่วงลูกๆ”

“โอเคค่ะ!”

โพรทาเลียกลับมานั่งอย่างปกติเธอยกมือที่มีกำไลขึ้นมาดู เธอไถลหน้าจอกำไลของเธอ ก่อนจะปลดล็อกสัญญาณเตือนบางอย่างออกจนมีเสียงดังเตือนขึ้นมา

 

ติ๊ก! ติ๊ก! ติ๊ก! ติ๊ก! ติ๊ก! ติ๊ก!

 

“!!”

ทุกคนในรถตกใจกับเสียงนั้น เพอร์ซีย์ตกใจจนเผลอหมุนพวงมาลัยไปทางอื่น ก่อนที่เขาจะกลับมาเส้นทางเดิม เขาตาโตอย่างงุนงงและหูอื้อสุดๆ โฟกัสปิดหูไม่ให้เสียงเข้าหูแต่ก็ทำให้หูอื้อเหมือนกัน ส่วนโพรทาเลียถึงกับส่ายหน้าเพราะมึนกับเสียง

 

“นั้นเสียงอะไรกันค่ะ? พี่”

“เสียงเตือนนะ” โพรทาเลียมองสัญญาณเตือนนั้นมันคืออะไร "ดูเหมือนทุกคนจะห่วงเราจนส่งสัญญาณมาหาฉันอย่างเดียวนะ"

“ไม่ใช่ว่ามีเรื่องเหรอ?

“ไม่อ่ะ? ข้อความต่างๆ มีแต่ถามว่าตอนไหนเราจะตอบกลับหรือพวกเราอยู่ไหนนะ”

“พี่นี่กล้าตัดขาดจากทุกคนเลยนะเนี่ย”

“ก็นะ…”

เพอร์ซีย์ส่ายหัวเบาๆ เพราะเขายังหูอื้ออยู่เลย จนเขาลองถามลูกว่าเสียงนั้นมันอะไร “เสียงเมื่อกี้มันอะไรล่ะนั้น!”

“เสียงเตือนนะคะ”

“เสียงอะไรนะ!?เพอร์ซีย์ถามเพราะเขาไม่ได้ยินอะไรนอกจากเสียงอู้อี้

“เสียงเตือนค่ะ!!” โพรทาเลียตะโกนใส่หูของพ่อทันที

“เสียงแตร?เพอร์ซีย์ขมวดคิ้วอย่างสงสัยว่าถ้าเป็นเสียงแตรจะดังแบบนั้นเหรอ

โพรทาเลียถึงกับถอนหายใจเลยที่พ่อนั้นไม่ได้ยินที่เธอพูดจริงๆ เพราะเสียงเมื่อกี้ เธอกลับไปนั่งเหมือนปกติ เธอกดปุ่มหน้าจอเป็นชื่อของพี่ชาย เธอรอเวลาสักครู่ทางนั้นก็รับสายทันที

“พี่ค่-”

“ติดต่อกลับมาสักที! พี่รอพวกเธอติดต่อกลับมานานเลยนะรู้ไหม!!”

“อ๊า...” น้ำเสียงของพี่ชายนั้นทำให้โพรทาเลียรู้เลยว่าอีกฝ่ายนั้นโกรธแค่ไหน “ขอโทษค่ะ...”

“แล้วเธอกล้าปิดสัญญาณของกำไลพวกเราทุกคนติดต่อเธอก็ไม่ติด รู้ไหมว่าห่วงแค่ไหนจนพ่อต้องปรึกษาแม่เพื่อออกไปตามพวกเธอ ตอนนี้พวกเธออยู่ไหนกัน!?

“ฮ่าๆ ค่าๆ พวกหนูอยู่กับพ่อแล้วเรากำลังกลับค่ายนะ”

“ค่อยโล่งอกหน่อย รีบกลับมาเลย พวกเราจะรับน้องพวกเธอแน่ๆ ...” โอราอุสค่อยๆ ขยับตัวพิงกับหมอนที่พิงหัวเตียงอยู่

“เหอะๆ”

“จะรับน้องพวกหนูระวังโดนเอาคืนนะ! พี่”

“แหมๆ จะเอาคืนพวกเราได้เหรอ? โฟกัส”

“อึ้ก!” โพรทาเลียถึงกับทำหน้าเย้ยๆ เพราะรู้ว่าเธอไม่สามารถสู้พี่น้องทั้ง 6 ได้จริงๆ

โอราอุสหันไปมองคนข้างๆ ที่ยังนอนอยู่ เขาค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียง เขาสวมแค่กางเกงในขาสั้นตัวเดียว เขาบิดตัวไปมาจนส่งเสียงไปทางโพรทาเลียทำให้เธอรู้ว่าพี่กำลังบิดตัว

“พี่บิดตัวนี่...เพราะว่าพึ่งตื่นเหรอ?

“อ๊ะ เปล่านะ แค่...” โอราอุสเก้ๆ กังๆ ไม่กล้าพูดว่าตอนนี้ทำอะไรอยู่ ก่อนมีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา

“แค่นอนพักเฉยๆล่ะนะ โพรทาเลีย”

เสียงลิซ่าดังขึ้นมา ทำให้ใบหน้าของโพรทาเลียเบิกบานขึ้นมาทันที

“ท่านพี่!”

“รีบๆ กลับมานะ ข้ากำลังรอสั่งสอนเจ้าอยู่นะ โพรทาเลีย”

“คะ...ค่า...” โพรทาเลียเอ่ยตอบออกไป แต่ว่าเธอมีเรื่องสงสัยเกิดขึ้น “จริงสิ...พวกพี่ทั้งสองทำไมอยู่ด้วยกัน”

“อึ้ก!”

โอราอุสได้ยินแบบนั้นตัวเขาที่อยู่ที่ระเบียบชั้นสอง ก็หันหลังกลับไปมองข้างในห้อง ลิซ่านอนห่มมาอยู่ข้างในเธอใช้ผ้าห่มร่างเปลือยเปล่าของตนเอง

“พวกพี่แค่กำลังคุยงานนะ โพรทาเลีย ไม่มีอะไรหรอกนะ” โอราอุสเกาหัวอย่างเก้ๆ กังๆ

“เหรอ?

โพรทาเลียชักสงสัยขึ้นมาล่ะว่าสองคนนี้อยู่ด้วยกันปล่อยขึ้น เธอคงต้องเตรียมตัวสำหรับหลานคนใหม่แน่ๆ

ลิซ่าค่อยๆ ลุกขึ้นเดินหาเสื้อผ้าของเธอ แล้วสวมใส่อย่างช้าๆ ระหว่างที่อีกฝ่ายกำลังคุยกับโพรทาเลีย เธอก็เดินมาจากข้างหลังและกอดเขาจนใบหน้าทั้งสองนั้นประชิดใกล้กัน โอราอุสยิ้มให้พร้อมกับยื่นริมฝีปากประกบริมฝีปากอีกฝ่ายเบาๆ

“ใช่สิ รีบๆ กลับมาละกัน นอกจากเรื่องที่เราจะคุยยังมีเรื่องหนักว่าหนักที่พ่อเขาอยากจะคุยกับเธอด้วยนะ”

“เรื่องอะไร?

โพรทาเลียสงสัยว่าที่พี่ชายพูดมาหมายถึงอะไร สายตาเธอเลื่อนไปมองพ่อผ่านกระจกมองหลัง ก็เห็นสายตาพ่อมองมา แล้วหลบตาจากเธอทันที

“อ๋อ ก็เรื่อง-”

 

ปัง!

 

“!!”

“เสียงอะไรนะพี่!!” โพรทาเลียได้ยินเสียงก็สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น

 

โอราอุสไม่ตอบอะไร เขาจ้องมองสิ่งที่กำลังลอยขึ้นเหนือค่ายฮาล์ฟบลัด ผู้คนมากมายต่างงุนงงว่าเกิดอะไรขึ้นกัน สิ่งลอยขึ้นไปนั้นก็แตกกระจายเป็นพลุขนาดใหญ่ทำให้โอราอุสรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ได้ที่มีพลุปริศนาที่ไม่รู้มาจากไหน จู่ๆ ก็มีเสียงที่เขาไม่รู้จักดังขึ้นมาทั่วทั้งค่าย

 

“บุกโจมตีพวกฮาล์ฟบลัดได้แล้ว เหล่าสหายของข้า!!”

เสียงนั้นหลุดรอดเข้าไปข้างในกำไลของโพรทาเลีย จนเธอจำได้ว่าเสียงนั้นเป็นเสียงใคร

“เดียวนะ เสียงนั้น!!”

โอราอุสได้ยินเสียงน้องสาวก็ถามขึ้นมาทันที “รู้เหรอว่าเสียงใคร!!”

“รู้สิเสียงนั้นนะ!”

“เสียงนูอัส!!” ลิซ่ากล่าวออกมา

โอราอุสได้ยินก็ตาโตที่ได้ยินว่าปีศาจที่ปลอมเป็นน้องเธออยู่ภายในค่ายนี้อีกครั้ง ก่อนจะมีเสียงกรีดร้องออกมาจากข้างล่าง เขาเห็นยักษ์ไซคลอปส์สองสามตนไล่ตามมนุษย์กึ่งเทพกลุ่มหนึ่ง

“ซวยแล้ว!”

 

เขารีบเข้าไปข้างในบ้าแล้วไปหยิบบางอย่างออกมาคือ เขาสัตว์ เขาเป่าสุดแรงจนคนทั้งค่ายได้ยินเสียงที่ว่านั้นก็รับรู้เลยว่าเกิดเรื่องร้ายขึ้นในค่าย แต่ไม่เบาก็รับรู้ได้ว่ามีเรื่องเกิดขึ้น เพราะมนุษย์กึ่งเทพบางตนกำลังกลายเป็นปีศาจจนมนุษย์กึ่งเทพบางคนต้องเตรียมตัวกันสุดๆ

 

ทางด้านโพรทาเลียรับรู้แล้วว่านูอัสอยู่ที่ค่ายนั้น แต่เสียงเมื่อกี้แปลว่าพวกมันกำลังจะก่อจลาจลขึ้นจริงๆ จนเพอร์ซีย์สงสัยว่าทางด้านโอราอุสนั้นเกิดอะไรขึ้นจนเขาเอ่ยถามลูกสาว

“โพรทาเลียเกิดอะไรขึ้น!”

“นูอัสอยู่ที่ค่ายค่ะ!! พ่อ หนูว่าพวกมันจะก่อจลาจลตอนเราไม่อยู่จริงๆ นี่ล่ะ!”

“ซวยฉิบ!! โพรทาเลีย เราต้องรีบแล้ว!” เพอร์ซีย์จับคันเร่งเปลี่ยนเกียร์เพื่อเพิ่มความเร็วของรถทันที “โอราอุสได้ยินพ่อไหม!?

โอราอุสที่กำลังออกมาจากบ้านพร้อมลิซ่า พวกเขากำลังจะไปจัดการกับพวกปีศาจ ก็ได้ยินเสียงของพ่อออกมาจากกำไล

“ได้ยินครับ! พ่อ”

“ถ้าต่อกรพวกมันไม่ได้! เรียกพวกเจสันที่อยู่ฝั่งค่ายจูปิเตอร์ให้มาช่วย!”

“รับทราบ!!” โอราอุสวางสาย เตรียมตัวไปต่อสู้ทันที “ไปเถอะลิซ่า!”

“อืม!” ลิซ่าพยักหน้าก่อนจะเข้าไปโจมตีพวกปีศาจที่ผ่านมาทางพวกเขาทันที

พอโอราอุสวางสายไป โพรทาเลียก็เกาะเบาะเพื่อพูดกับพ่อทันที

“พ่อรีบๆ ขับเลยค่ะ!!”

“พ่อรีบอยู่!!” เพอร์ซีย์ขับไปตามทางอย่างเร็ว แต่ทำให้เขาส่งเลยว่าเขาจะไปทันเวลาไหมนี่สิ

โพรทาเลียจ้องมองทางข้างหน้าที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ระหว่างที่จ้องมองข้างหน้านั้นเสียงอันเล็กจ๋อยก็โผล่เข้ามาในข้างในหัวของเธอ

 

‘แม่ค่ะ ช่วยด้วย!!’

‘เอ๋?

‘แม่ครับ ช่วยผมด้วย’

‘เดวิค!!’

 

ดวงตาของโพรทาเลียเบิกกว้างขึ้น เมื่อได้ยินเสียงลูกทั้งสองของเธอขึ้นมา ข้างในอกของเธอนั้นรู้สึกกระอักกระอ่วนไปหมด น้ำเสียงของลูกๆ รู้สึกสั่นกลัวไปหมด แต่เธอสงสัยทำไมเสียงของเดวิคส่งมาถึงเธอได้ ลูกเธออยู่ที่ไหนกัน ลางสังหรณ์ของเธอกับบอกว่าลูกชายอยู่ที่เดียวกับลูกสาว

 

“เดวิค! อยู่ที่ค่าย!”

“เอ๋?โฟกัสได้ยินที่อีกฝ่ายก็หันไปมองทันที “เดวิค ลูกชายพี่นะเหรอ?

“ใช่ พี่ได้ยินเสียงลูกขอความช่วยเหลือจากพี่นะ!” สีหน้าของโพรทาเลียถึงกับเปลี่ยนไปเป็นความกังวลและห่วงลูกสุดๆ

“พี่ค่ะ! หนูอยากจะบอกพี่มานานแล้วว่าเดวิคอยู่ที่ค่ายตั้งแต่ 3 ปีที่แล้วนะ!”

“ห๊า!! ว่าไงนะ!!” โพรทาเลียถึงกับตะลึงที่น้องสาวพูดขึ้น “แล้วทำไมไม่มีคนบอกพี่สักคน!”

“พวกเราไม่คิดว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกพี่ แต่ว่าจากการที่หนูสังเกตเด็กคนนั้นอยู่กับหมอนั้นมานาน เลยรู้ว่าน่าจะใช่ลูกพี่แน่ๆ นะ”

“เดียวหมอนั้น? หมอนั้นไหน?

“ฟีนีอุส เกรซ!” เพอร์ซีย์พูดขึ้น “คนที่ตามจีบลูกไงล่ะ”

“ว่าไงนะ! เดียวนะ แบบนี้เขาก็รู้เรื่องของหนูหมดเลยสิ!”

“ใช่! พ่อเลยจัดไป 1 ทีนะ ทั้งครอบครัวเลยนะ ทำเอาพ่อโกรธสุดๆ”

“ทั้งครอบครัว!!” โพรทาเลียรู้สึกตื่นตระหนกมากขึ้นมาที่รู้ว่าครอบครัวเกรซรู้ว่าเธอเป็นใครด้วยแน่ๆ "ช่างเรื่องนั้นไปก่อนเลย!! พ่อรีบขับไปเลยค่ะ หนูห่วงลูกและทุกคนในค่ายว่าจะรับมือพวกปีศาจพวกนั้นไหม!?"

“โอเคๆ ขอพ่อจัดไปสักครั้งหน่อยละกัน!!”

 

เพอร์ซีย์เหยียบคันเร่งไปอย่างแรง รถก็เคลื่อนตัวไปอย่างรวดเร็ว จนสองแฝดต้องรีบเกาะรอบๆ ตัวพวกเธอ โพรทาเลียขออย่างเดียวว่าขอให้ไปให้ทัน ถ้าไม่ทันคงจบแน่ๆ ก่อนที่โพรทาเลียจะมีความคิดบ้าบอเกิดขึ้น เธอหยิบบางอย่างออกมาเพื่อสร้างบางอย่างภายในรถ โฟกัสได้ยินบางอย่างจากข้างหลัง เธอหันไปมองก็เห็นพี่สาวกำลังทำบางอย่างที่น่าสงสัยขึ้น

 

“พี่ทำอะไรนะ?

โพรทาเลียได้ยินเสียงน้องสาวถาม เธอค่อยๆ เงยหน้ามองน้องสาวก่อนจะยิ้มมุมปาก “ทำอุปกรณ์ที่จะพาเรากลับไปยังค่ายได้ทันการไงล่ะ!!”

 

จบตอนที่ 59 โปรดติดตามตอนที่ 60 ต่อไป