ตอนที่ 44 ร้านอาหารบลูเมอร์เมด

เมื่อการก้าวเท้าออกมาจากค่ายเป็นการตัดสินใจของตัวโพรทาเลียเอง เธอรู้ว่าจะเจอกับอะไรเมื่อออกมา แต่เธอก็ยอมเสี่ยงเพื่อภารกิจที่เธอต้องไปเผชิญหน้าด้วย พอก้าวเท้าออกมานอกประตูบานใหญ่ เธอเงยหน้าขึ้นมองประตูบานใหญ่ของค่ายฮาล์ฟบลัด เธอจ้องมองมันเหมือนจะไม่ได้กลับมาอีก แต่ตัวเธอจะรีบกลับมาหลังทำภารกิจเสร็จ เธอหันกลับมายืนตรงหน้าประตูแล้วก้มโค้งกล่าวออกมา

 

“เพื่อครอบครัวและทุกคน ขอให้หนูโชคดีกับภารกิจนี้ด้วยนะคะ!!”

 

พูดจบโพรทาเลียก็หันหลังเดินออกจากจุดนั้นไป ตามทางในยามค่ำคืนช่างมืดมิดเดินลำบาก แต่โพรทาเลียไม่รู้สึกถึงความลำบากแต่อย่างใด เพราะเธอนั้นสามารถมองเห็นในความมืดได้ เธอเลยไม่กังวลเลยว่าจะเจอกับอะไร ระหว่างเดินนั้นก็เจอพวกอสูรที่อยากเข้ามากินเธอ แต่พวกมันก็ไม่กล้าเข้ามาอย่างหวาดกลัว เนื่องจากโพรทาเลียแผ่ออร่ารังสีอันน่ากลัวแผ่ออกมา การเดินทางออกมาจากค่ายนั้นช่างง่ายดายเกินไป เมื่อออกมาจากป่าเธอก็ได้เห็นถนนสี่เลน

 

“ถนนเหรอ?เธอมองซ้ายมองขวาอย่างสงสัย “ทางไหนไปนิวยอร์กกันนะ?

 

ถนนลานยาวอันแสนยาว ทำให้โพรทาเลียยิ่งสงสัยว่าทางไหนไปนิวยอร์ก แต่ระหว่างมองอยู่นั้นก็รู้สึกถึงสายตาที่กำลังจับจ้องเธออยู่ จึงรีบหันไปมองข้างหลังอย่างเร็ว แล้วเห็นอะไรแวบๆ เธอรู้เลยว่ามีใครตามเธอมาแน่ๆ เธอเลยจ้องมองอย่างสงสัยก่อนที่จะเห็นความร้อนจากตัวของบุคคลจากหลังต้นไม้ นั้นทำให้เธอต้องเอยพูดออกไป

 

“ใครนะ! คนที่อยู่หลังต้นไม้นะ ถ้าไม่ออกมาฉันจะหักกระดูกแกให้หมดเลย!!”

เมื่อได้ยินแบบนั้น ทำเอาเจ้าตัวสะดุ้งทันใด “เดียวๆ อย่าหักกระดูกหนูนะ!!”

เสียงอันอ่อนนุ่มอันคุ้นเคยเงียบลง เจ้าของเสียงก็ค่อยๆ เดินออกมาจากหลังต้นไม้ โพรทาเลียเห็นก็ยืนอึ้งเมื่อเห็นอีกฝ่าย

“โฟกัส!”

โฟกัสออกมาจากเงามืด เธอแสยะยิ้มให้แก่พี่สาว โพรทาเลียส่ายหน้าทันทีที่เห็นน้องสาว

“ไงคะ!” โฟกัสโบกมือเล็กน้อยให้พี่สาว

“เธอ!! ตามพี่มาเหรอ! ?

“ใช่...ก็แบบว่าพี่แอบออกมาคนเดียวอ่ะ หนูเลยเป็นห่วง...เลยตามมาด้วยนะคะ...”

“ตามมาพร้อมอุปกรณ์ครบมือเนี่ยนะ! ?โพรทาเลียจ้องมองการแต่งกายของน้องสาวที่มีกระเป๋าใหม่ใหญ่และดาบประจำตัว

“แฮะๆ” โฟกัสยิ้มอย่างเขินๆ

“เดินมาตรงนี้เร็ว เดียวพวกปีศาจออกมากันนะ”

“โอเค!!” โฟกัสรีบเดินไปหาพี่สาวทันที “หนูสงสัยนะ ทำไมพวกอสูรถึงไม่เข้ามาหาพี่กัน”

“คงเพราะพี่แผ่รังสีน่ากลัวออกมาล่ะมั้ง”

“ทำแบบนั้นได้ด้วยเหรอ! ?โฟกัสได้ยินแอบแปลกใจขึ้นมา

“ก็โดนสั่งสอนมาจนทำได้น่านะ” โพรทาเลียนึกถึงช่วงเวลาอันโหดร้ายของเธอ

“ขอโทษทีถามนะคะ!” โฟกัสรู้สึกแย่เลยที่ตัวเองถามพี่แบบนั้น

“ช่างเถอะ เรื่องมันผ่านไปแล้วนะ”

“แล้วนี่พี่สาวออกมาจากค่าย พี่กำลังจะไปไหนนะ?

“ก็...ไปที่ที่เฮอร์มีสอยู่นะ”

“แล้วพี่รู้เหรอว่าอยู่ไหน?

“ไม่...” เมื่อตอบออกไปโพรทาเลียเกาแก้มของตัวเองเบาๆ “ที่รู้ๆ แค่จะลองไปที่นิวยอร์กก่อนแล้วค่อยหาข้อมูลนะ”

โฟกัสทำสีหน้านิ่ง เมื่อได้ยินแบบนั้น “เฮ้อ...ไม่ต้องเลย! ให้น้องสาวคนนี้นำทางให้เลยละกันนะคะ”

“เธอรู้เหรอว่า เฮอร์มีสอยู่ไหนนะ?

“ก็รู้น่านะ ถึงแม้เข้าจะไม่อยู่กับที่ก็ตาม แต่สำหรับเทพอย่างเขาก็ต้องมีงานเสริมอย่างงานที่เขาชอบที่สุด” โฟกัสพูดก่อนจะเดินนำทางให้พี่สาวทันที

โพรทาเลียขมวดคิ้วอย่างสงสัย เธอรีบเดินตามน้องสาวไปทันที “เธอคงจะไม่บอกว่าเป็น...”

“ใช่ บริษัทขนส่งไงล่ะ!!”

“แบบนี้เอง...จริงสิ...” โพรทาเลียพูดจบเธอเปิดกระเป๋าคาดเอวของตนเองแล้วล้วงมือเขาไปหยิบบางอย่าง แล้วยื่นให้น้องสาว “อันนี้ของเธอ!”

รับสิ่งของที่พี่สาวให้มา สิ่งของที่ได้มาคือกำไลแบบเดียวกับที่พี่สาวใส่ เธอจำได้เลยว่าพวกพี่น้องเธอบางคนก็มีใส่กัน

“ขอบคุณค่ะพี่ มันทำอะไรได้มั้งนะ” โฟกัสกำลังจับจ้องอย่างปลื้มใจ เธอค่อยๆ สวมมันเข้าที่ข้อมือด้านขวา

“ก็ช่วยเกราะปกป้องกัน สื่อสารกันได้ และก็แปลงร่างเป็นคนอื่นๆ ได้”

“แปลงร่างเหรอ! งั้นหนูก็แปลงร่างเป็นคนที่ต้องการได้นะสิ”

“ใช่ หรือจะแปลงเป็นคนที่ไม่มีตัวตนก็ได้”

“เจ๋งเลย นี่พี่ให้ฉันเพราะต้องการให้ฉันแปลงเป็นใครหรือเปล่า?

“ก็กะว่า...จะให้เธอปลอมเป็นพี่ลิซ่า เพราะฉันต้องไปพบเฮอร์มีสนะ”

“จัดไปค่ะ!!” โฟกัสกดปุ่มในกำไลจนร่างกายเธอเปลี่ยนไปเป็นพี่ลิซ่าที่สูงกว่าโพรทาเลีย “เป็นไงมั้งค่ะ?

“เหมือนมาก โฟกัส ดีมากเลยล่ะ!” โพรทาเลียเห็นน้องสาวแปลงร่างเป็นลิซ่าได้

“งั้นเดินทางต่อกัน!!”

“โอ้!!”

 

สองพี่น้องพากันเดินทางไปตามทางที่โฟกัสพาเดินนำทางไปตามทางที่เธอรู้ว่าเป็นทางไหน ทั้งสองคนเดินกันไปยามค่ำคืนที่แสงจันทร์ส่องแสงสว่างแก่พวกเธอ เมื่อโพรทาเลียมองพระจันทร์ที่ส่องแสงให้เธอ เธอนึกถึงครอบครัวที่ตื่นขึ้นมา พวกเขาคงตกใจที่ไม่เจอเธอกับน้องสาวบนเตียงแน่ๆ

 

หลายชั่วโมงผ่านไป

 

เช้าตรู่วันถัดมาที่บ้านแจ็กสัน ณ ห้องนั่งเล่นยังมีสาวๆ ที่กำลังนอนหลับอย่างสบาย รวมถึง 2 ใน 3 ของฝาแฝดบ้านแจ็กสันกำลังนอนกันอย่างสบายใจ พวกเธอกำลังฝันหวานอย่างมีความสุข แล้วบิดตัวไปมาก่อนจะบิดตัวไปทางด้านข้างที่เคยเป็นจุดที่โพรทาเลียนอน พอบิดตัวไปเริ่มพลิกตัวไปด้านข้างที่ที่พี่โพรทาเลียนอน พอพลิกตัวไปยกมือที่จะพาดลงบนตัวพี่สาว แต่แล้วมือก็ตกลงไม่เจอกับตัวคนที่นอนตรงนี้ ทำให้เด็กสาวค่อยๆ ลืมตาอย่างสงสัย เธอลืมตามาไม่เห็นคนนอนข้างๆ เห็นแต่น้องสาวที่อยู่ตรงข้ามกับเธอ เธอค่อยๆ พยุงตัวขึ้นมา

 

“ทุกคนหายไปไหนกันนะ?

เมื่อมองซ้ายมองขวาไม่เห็นพ่อแม่ และพี่ๆ น้องๆ คนอื่นๆ เธอลุกขึ้นยืนแล้วได้ยินเสียงของพี่ชายพูดขึ้นมา

“แบบนี้จะทำยังไงล่ะครับ!!”

 

คารีเซลหันไปทางอีกห้องหนึ่งที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้องนั่งเล่น ถึงจะมีกำแพงกันแต่ก็เป็นโซนห้องนั่งเล่นแบบมีหนังสือเยอะมากๆ ภายในห้องนั้นมีชายที่กำลังอ่านกระดาษใบหนึ่งอยู่ แล้วภรรยาสาวกำลังจ้องมองอย่างเครียด ลูกๆ ก็ต่างมองผู้เป็นพ่ออ่านจดหมายจบ ยิ่งอารมณ์แปรปรวนกันไปหมด

 

“ถ้าสองคนนั้นออกไปข้างนอกแบบนี้ ถ้าโดนพวกปีศาจจับไปขึ้นมาทำไงล่ะนั้น?เบเดอร์บ่นอย่างไม่ชอบใจ

“โพรทาเลียไม่น่าทำแบบนี้เลยนะ!!” แอนนาเบ็ธคิดถึงลูกสาวที่ทำอะไรไม่ถามพวกเขาเลย

คารีเซลได้ยินที่ครอบครัวเธอพูดเธอเลยสงสัยว่าพี่สาวเป็นอะไรไป เธอเลยเดินเข้าไปข้างในห้องนั้น

“เกิดอะไรขึ้นกับพี่โพรทาเลียเหรอคะ?

ทุกคนหันไปหามองคารีเซลที่เดินเข้ามา พวกเขามองหน้ากันอย่างครุ่นคิดว่าจะบอกไหม

“โพรทาเลียหนีออกไปนอกค่ายนะ...” เบเดอร์พูดออกไปอย่างไม่ลังเล

“ว่าไงนะคะ! ? ทำไมกัน!! ทำไมพี่เขาถึงออกไปล่ะ!?

“เขาทิ้งจดหมายไว้นะ...ว่า...”

ทุกคนหันไปมองผู้เป็นพ่อที่ถือจดหมายอยู่ เขาจ้องมองลูกๆ แล้วหันมาอ่านจดหมายที่โพรทาเลียทิ้งไว้ รายละเอียดด้านในเขียนไว้ว่า

 

‘ขอโทษที่ออกไปโดยไม่บอก หนูคิดว่าถ้าบอก

พ่อคงไม่อยากให้หนูออกมาแน่ๆ เพราะข้างนอกมันอันตรายแน่ๆ แต่ไม่ต้อง

ห่วงหนูรอดจากทุกอย่างแน่ๆ ค่ะ หนูออกมาเพราะต้องการไปทำภารกิจของ

ตัวเองที่อยู่ข้างนอกค่าย ไม่ต้องห่วงว่าหนูไปไหน หนูจะไปหาเฮอร์มีสนะ จะรีบ

กลับมาหลังจบภารกิจ

 

จาก โพรทาเลีย’

 

“ออกไปข้างนอกเพื่อทำภารกิจ...สมกับเป็นโพรทาเลียจริงๆ นะเจ้าค่ะ” ลิซ่าเอ่ยขึ้น เธอค่อยๆ เดินเข้ามาข้างใน

“ลิซ่า...”

“ไม่ต้องห่วงเจ้าคะ เดียวแกก็คงกลับนั้นล่ะ ถ้าแกพูดอะไรก็ไม่เคยไม่รักษาสัญญาแน่ๆ ค่ะ เพราะมีอีกคนอยู่ด้วยคงไม่คืนคำตัวเองแน่ๆ” ลิซ่าพูดขึ้นถึงอีกคนที่ไม่อยู่ด้วย

“อีกคน?” ทุกคนมองอย่างสงสัยว่าใคร

ก่อนที่แอนนาเบ็ธจะนึกออกเมื่อมองลูกชายทั้ง 4 คนตรงหน้า

"จริงสิ โฟกัสก็ไม่อยู่นี่น่า?"

“ไม่ใช่ว่าเธอออกไปข้างนอกเหรอ?เอเดอร์ถามอย่างสงสัย

“ข้าว่าไม่นะ เพราะเธอทิ้งจดหมายไว้หน้าประตูบ้านนะ” ลิซ่าหันไปมองตรงประตูที่มีกระดาษติดอยู่

“เอ๋! ?

ทุกคนได้ฟังที่ลิซ่าพูด พวกเขาลุกขึ้นแล้วเดินมามองที่ประตู ก็เห็นจดหมายที่โฟกัสติดไว้ให้ครอบครัวเห็น

 

‘ไม่ต้องห่วงหนู หนูตามพี่โพรทาเลียไป เดี๋ยวจะพาพี่รีบกลับมาเลยค่ะ

จาก โฟกัสเมซ่า’

 

“นั้น! น้องสาวออกตามพี่สาวไปซะงั้น!!”

“กังวลกว่าเดิมอีกนะเนี่ย”

เพอร์ซีย์ยืนขมวดคิ้วเป็นอย่างมาก แอนนาเบ็ธเห็นสามีเป็นแบบนั้น เธอเลยพาเข้าไปนั่งข้างในเหมือนเดิม

“ใจเย็นๆ นะ เพอร์ซีย์ ลูกต้องกลับมาแน่ๆ”

“ถ้าแกไม่กลับล่ะ ถ้าแซเทิร์นไล่ล่าเธอแล้วจับตัวเธอไปได้ล่ะ ไม่ใช่แค่ 1 คน แต่เป็น 2 คนล่ะ”

“คือว่า...” แอนนาเบ็ธพูดไม่ถูกเลยจริงๆ

เพอร์ซีย์ส่ายหน้าเล็กน้อย “ขอโทษที แอนนี่...ฉันกังวลว่าลูกๆ จะปลอดภัยไหม...”

“ฉันเข้าใจ เพอร์ซีย์ นายต้องไว้ใจลูกนะ”

“อืม!” เพอร์ซีย์พยักหน้า แอนนาเบ็ธก็มานั่งข้างๆ พร้อมกับลูบไหล่เบาๆ

 

‘โพรทาเลีย โฟกัส ลูกต้องกลับมาอย่างปลอดภัยนะ’

 

พวกผู้ใหญ่กำลังพูดคุยกันอย่างกังวลและเครียดหน่อยๆ แต่ภายในห้องนั่งเล่น คาเร็นน่าตัวน้อยได้ยินเสียงผู้ใหญ่กำลังคุยกัน จนเธอตื่นขึ้นมามองซ้ายมองขวา เธอเดินไปได้ยินพวกผู้ใหญ่บอกว่าแม่ออกไปข้างนอก ทำเอาเธอสงสัยเลยว่าแม่ไปไหน ก่อนที่จะได้ยินเสียงเคาะประตู คาเร็นน่าเดินไปที่ประตูทันที เธอเปิดมาเจอกับเด็กชายผมสีดำทันที

 

“อ๊ะ! พี่ชาย!” เมื่อได้เห็นเด็กชายตรงหน้า คาเร็นน่ายิ้มอย่างดีใจ แล้วออกมาข้างนอกบ้านทันที

เด็กชายผมดำยิ้มให้ผู้เป็นน้อง “ไง คาเร็นน่า วันนี้ไปบ้านพ่อกัน!”

“เอาสิ!”

 

เด็กชายยื่นมือไปหาผู้เป็นน้องสาว คนเป็นน้องรีบยื่นมือจับมือพี่ชาย ทั้งสองคนจูงมือกันไปยังบ้านของผู้เป็นพ่อทันที ทั้งสองคนกำลังเดินไปนั้นภายในบ้านแจ็กสัน มาร์โคแอบส่องออกมาข้างนอกบ้าน เขาเห็นหลานสาวไปกับเด็กอีกคน เมื่อเขาเห็นผมสีดำเลยรู้เลยว่าเด็กคนนั้นเป็นใคร เพราะจำลักษณะของเด็กชายได้

 

“เดวิค เกรซ...”

เมื่อมาร์โคพูดออกมาเสียงดังทุกคนต่างมองกันว่ามาร์โคพูดอะไรออกมา

“มาร์โค เมื่อกี้นายพูดอะไรนะ! ?

“พี่ คาเร็นน่าเขา...”

พวกพี่ชายต่างรีบวิ่งกันไปดู พวกเขาเห็นหลานสาวเดินจูงมือไปกับเด็กชาย พวกพี่ๆ เห็นก็จำได้ใคร

“นั้นมันลูกชายของฟีนีอุสไม่ใช่เหรอ?

“เดวิค เกรซ” เพอร์ซีย์เอ่ยขึ้น เขาแอบยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ “ดีเลย! โพรทาเลียไม่อยู่ พ่อจะได้คุยกับคนบ้านเกรซซะหน่อย!!”

สีหน้าของเพอร์ซีย์นั้นแผ่รังสีความน่ากลัวออกมา ทำเอาทุกคนมองกันเป็นตาเดียวกันว่าต้องมีเรื่องแน่ๆ ลิซ่าที่อยู่ที่นั่นคิดเลยว่าอยากให้โพรทาเลียกลับมาเร็วๆ ไม่งั้นอาจจะเจอเรื่องใหญ่ระหว่างครอบครัวแน่ๆ

 

ในรถคันใหญ่ยาวที่มีผู้โดยสารอยู่กันเยอะ สองสาวกำลังนั่งอยู่แถวๆ กลางคัน โฟกัสนั้นหลับไปอย่างสบายเนื่องจากเหนื่อยจากการไม่ได้รับ ส่วนโพรทาเลียยังมองออกนอกหน้าต่างรถประจำทาง เธอรู้สึกปลอดภัยไปได้เล็กน้อยที่ไม่เจออสูรอะไรกัน นั้นทำให้โพรทาเลียขอนอนพักมั้ง ระหว่างการเดินทางไปยังนิวยอร์ก ใช้เวลาไปเยอะจนถึงช่วงกลางวันถึงจะเมืองนิวยอร์ก ณ แมนฮัตตัน เมื่อถึงคนพี่ก็ตื่นขึ้นเมื่อรู้สึกว่าใกล้ถึง เธอหันไปปลุกน้องสาวทันที

 

“โฟกัสตื่นเร็ว ลงกันได้แล้ว!”

“หือ!!” โฟกัสสะลึมสะลือขึ้นมา เธอรีบลุกขึ้นมาทันที

โพรทาเลียเดินมาถึงหน้ารถก่อนจะกล่าวคำขอบคุณกับคนขับ “ขอบคุณที่พามาส่งนะครับ”

“เรื่องแค่นี้เอง เจ้าหนู ยินดีต้อนรับสู่แมนฮัตตัส!!”

 

พอได้รับการต้อนรับจากคนขับรถที่ดี ทั้งสองก็ลงมาจากรถประจำทางนั้น คนขับโบกมือให้พวกเธอ ก็ได้โบกมือลากลับให้คนขับ เขาค่อยๆ เคลื่อนรถของตนเองไป พอมองภาพตรงหน้า เธอได้เห็นตึกสูงใหญ่เต็มไปหมด ทำให้นึกถึงครั้งแรกที่เธอได้มาเจอตึกต่างๆ จริงๆ

 

“นึกถึงครั้งแรกที่เห็นตึกใหญ่พวกนี้จริงๆ”

“ทำไมเหรอ?โฟกัสถามอย่างสงสัย

“ตอนนั้นพี่ถึงกับแตกตื่น...และก็กังวลว่ารอบๆ นี่คืออะไรนะ...”

“ตอนที่พี่หนีออกมาสินะ...ตึกอาคารมากมายเปลี่ยนไปเยอะหลาย 9 ปีมานี่น่านะ”

“อืม...”

สายตาของโพรทาเลียจับจ้องไปทุกๆ ที่ที่เธอมอง ก่อนจะคิดออกเดินทางหาจุดที่โฟกัสบอกว่าเป็นที่ตั้งของเฮอร์มีส

“พาพี่ไปที่ตั้งของเฮอร์มีสเถอะ” โพรทาเลียหันไปพูดกับน้องสาว

“ได้เลยค่ะ!” โฟกัสเดินพาพี่สาวไปทันที

 

ทั้งสองคนเดินกันไปตามทางที่มีเดินกันเยอะแยะไปหมด โพรทาเลียเห็นผู้คนมากมาย เธอมองไประวังตัวไปด้วย เพราะเธอไม่รู้ว่าในหมู่ผู้คนอาจจะมีอสูรปีศาจอยู่หรือไม่ โฟกัสเห็นพี่สาวเดินอย่างระแวง เธอจับมือพี่สาวไว้แน่นๆ โพรทาเลียรู้สึกถึงมืออีกฝ่ายที่จับมือเธอเลยหันไปมอง น้องสาวยิ้มให้เธอ แล้วพาเธอเดินไปเรื่อยๆ ทั้งสองคนเดินกันไปเหมือนเมื่อก่อนที่จับมือจูงกันไป

 

“คิดถึงเมื่อก่อนเลยเนอะ พวกเราจับมือกันนะ” โพรทาเลียพูดขึ้น

โฟกัสหันมามองพี่สาว “คิกๆ ใช่ คิดถึงจริงๆ นะ ช่วงเวลาที่เราสองแฝดเดินด้วยกันอย่างร่าเริง”

 

จุดที่พวกเธอเดินกันเป็นย่านขายของกันมีผู้คนเดินกันเยอะแยะ เดินๆ กันอยู่นั้นโพรทาเลียหันหน้าไปเจอกับร้าน ร้านหนึ่งทำให้เธอนั้นหยุดชะงักเพื่อมองร้านนั้น ทำตัวโฟกัสที่จูงพี่สาวถึงกับโดนกระตุกจนเกือบล้ม เธอทรงตัวทันทีแล้วหันไปมองพี่สาวที่ยืนจ้องบางอย่างอยู่

 

“พี่ค่ะ...”

สีหน้าของโพรทาเลียนิ่งมากๆ ทำเอาโฟกัสกังวลใจมากๆ เธอหันไปมองสิ่งที่พี่สาวมอง เมื่อได้เห็นสิ่งที่พี่สาวเห็นทำเอาเธอหน้าซีด เพราะตรงหน้าเธอคือร้านหนังสือ ร้านเดียวกับร้านเมื่อหลายปีก่อน นั่นทำเอาเธอยิ่งเครียดกลัวว่าพี่จะหวาดกลัวกับร้านนี้

“พี่ค่ะ...คือว่า...”

“น่าเสียดาย...”

“เอ๋?โฟกัสมองอึ้งไปทันทีที่พี่สาวพูด

โพรทาเลียหันมามองน้องสาว น้ำตาเริ่มซึมออกมา “หนังสือ...หนังสือเมื่อก่อนนั้นไม่อยู่แล้วอ่ะ!”

“เอ๋...หนังสือ…?

“อืม ตอนนั้น ตอนนั้นถ้าไม่โดนจับตัวไปนะ คงได้ซื้อแล้วแท้ๆ”

“โธ่พี่คะ...” โฟกัสกุมขมับส่ายหัวทันที “ทำหนูเป็นห่วงหมด”

“ห่วง...ห่วงอะไรเหรอ?

“เปล่านะคะ ที่พี่พูดถึงหนังสือเล่มหนาๆ ปกหนังนะ”

“ใช่ ทำไมเธอถึงรู้ล่ะ?

“อ๋อ...ก็...หนูจำได้ตอนที่พี่ดูนะ”

โพรทาเลียพยักหน้าเข้าใจทันที “อ๋อ”

โพรทาเลียจับจ้องมองไปที่ร้านหนังสือนั้น เมื่อมองอยู่นั้นเสียงท้องร้องของทั้งสองนั้นเกิดร้องพร้อมกัน ทำเอาทั้งสองคนตกใจแล้วมองหน้ากัน พอมองหน้ากันก็ต่างหัวเราะออกมาทันที

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

“รู้สึกพวกเราจะหิวแล้วนะ”

“นั้นสิ ไม่ได้ทานข้าวเช้ากันเลยนี่น่า” โฟกัสพูดออกมาแล้วนึกบางอย่างได้ขึ้นมา “หนูรู้ล่ะว่าจะไปทานอาหารที่ไหนดี”

เมื่อพูดแบบนั้นจบ เธอให้พี่สาวเดินตามมาทันที พวกเธอเดินไปสักพักก่อนจะมาถึงตรอกที่ไม่ค่อยมีคนเดินผ่าน โฟกัสหยุดเดินแล้วมองซ้ายมองขวา เธอกดปุ่มที่กำไลแล้วกลับเป็นร่างเดิม

“เดียว! โฟกัสกลับร่างเดิมทำไมนะ!?

“ก็ร้านที่จะไปเป็นร้านของคนรู้จักพอดีนะ แล้วไปร่างนี้จะดีที่สุดนะ พี่ก็เหมือนกันกลับร่างเดิมเลยนะ!”

“พี่ด้วยเหรอ?

“ใช่ เร็วเข้า!” โฟกัสคะยั้นคะยอให้อีกฝ่ายกลับร่างเดิม

โพรทาเลียเลยยกมือข้างที่ใส่กำไล แล้วกดบางอย่างก่อนที่ร่างเธอจะเปลี่ยนเป็นตัวเธอแต่มีบางอย่างที่แปลกไป โฟกัสจ้องมองอย่างสงสัยทันที

“เดียวทำไมพี่แปลกเป็นตัวเองตอนผมยาวกันล่ะ แถมแผลที่ใบหน้านั้น...”

“ถามหน่อยสิ ถ้าพี่ไปทั้งหมดสั้นแล้วมีแผลบนใบหน้าคนที่เธอบอกรู้จัก เขารู้จักพี่แล้วเขาสงสัยว่าโพรทาเลียทำไมผมสั้นแล้วใบหน้ามีแผล เธอจะคิดยังไงล่ะ”

“ก็คงสงสัยเยอะเลยนะ!”

“นั้นล่ะ!!”

โพรทาเลียล้วงมือหาบางอย่างในกระเป๋าคาดเอว ก่อนจะเจอเชือกอันหนึ่ง เธอเอาหมวกเก็บเข้ากระเป๋าคาดเอว แล้วยกเชือกขึ้นมามัดผมเธอเป็นหางม้าจนสบายผมของโพรทาเลียมากๆ

“เอาล่ะ งั้นพาไปร้านที่เธออยากให้พี่ทานได้เลย โฟกัส”

“จัดไปค่ะ!!”

 

โฟกัสนำทางให้พี่สาวต่อ พวกเธอออกมาจากตรอกเล็กๆ นั้น แล้วเดินไปตามทางแถวๆ ย่านดาวน์ทาวน์ แมนฮัตตัน ผู้คนต่างเยอะแยะไปหมดเหมือนจุดที่พวกเธอเดินกัน พวกเธอเดินมาสักพักก็เจอผู้คนที่กำลังต่อแถวเรียงยาวมากๆ โพรทาเลียเห็นคิดสงสัยว่าเป็นร้านแบบไหนกันถึงมีคนต่อแถวเยอะแบบนี้

 

“แถวของร้านอะไรนะ?

“ร้านอาหารนะ ร้านมีชื่อว่า บลูเมอร์เมด”

“บลูเมอร์เมดเหรอ?โพรทาเลียคิดถึงนางเงือกสีฟ้าทำให้นึกถึงเฟอร์ร่าขึ้นมาทันที

‘เหมือนเธอเลยนะ เฟอร์ร่า’ โพรทาเลียคิด

“ใช่ เราจะทานกันที่ร้านนี้กันนะ!!”

“ห๊า คนเยอะแบบนี้เนี่ยนะ!”

“ใช่ เพราะว่าไม่ได้กินที่ชั้นล่างนะ!” โฟกัสรีบเดินไปข้างหน้าทันที โพรทาเลียเห็นแบบนั้นจึงรีบตามไปทันที

เมื่อตามโฟกัสที่เดินมาที่หน้าแถวที่มีพนักงานชายใส่กางเกงขาวยาวสีดำ เสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาว เนกไทสีดำ เสื้อกั๊กหนังมันสีดำ โฟกัสเห็นเลยเดินเข้าไปพูดกับพนักงานชาย แต่ยังไม่ได้พูดบุคคลหนึ่งในแถวต่างพูดขึ้นมาทันที

“นี่เธอ!!”

โฟกัสสะดุ้งเมื่อมีคนแปลกหน้าตะโกนออกมา เธอเลยหันไปมองทันที ชายคนนั้นโผล่ออกมาจากแถว

“เธอจะแซงคนอื่นหรือไง!!” ชายคนนั้นยิ่งพูดขึ้น

“ไม่ได้จะแซงซะหน่อย!?โฟกัสพูดขึ้น

“ไม่ได้แซงแล้วจะทำอะไร จะมาอ่อยพนักงานชายให้ที่กับเธอหรือไง!? พวกเราแต่ละคนมารอกันนาน พวกเธอสองคนจะมาแซงคนอื่นง่ายๆ เลยหรือไง!!”

โพรทาเลียได้ฟังที่ชายแปลกหน้าคนนี้ว่าน้องสาว เธออยากชกหน้าอีกฝ่ายสุดๆ เธอหันไปมองน้องสาวก็ต้องอึ้งกับใบหน้าของน้องสาวที่นิ่งมากๆ เหมือนไม่สะทกสะท้านอะไรกับคำพูดฝ่ายชาย

“พูดจบยังค่ะ!” โฟกัสหันไปหาพนักงาน พนักงานชายมองอย่างหน้าเสียๆ ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าของตัวเองเมื่อเด็กสาวหันมาหาเขา “จิม คุณเจ้าของร้านอยู่ไหม!?

“เจ้านายอยู่ข้างบนครับ คุณหนูโฟกัส งั้นเชิญทั้งสองคนขึ้นข้างบนได้เลยครับ!”

ชายหนุ่มรีบตอบทันที ทำเอาคนที่อยู่ตรงนั้นอึ้ง รวมถึงชายที่ต่อว่าเธอแบบเสียๆ หายๆ อีก โพรทาเลียก็อึ้งที่พนักงานเรียกน้องสาวเธอว่าคุณหนู

“ไปกันพี่ ปล่อยพวกปากหมาไม่ดูอะไรยืนรอให้เฉาตายไปเถอะ!!” โฟกัสควงแขนพี่สาวแล้วเดินกันเข้าไปข้างในทันที

คนที่อยู่แถวหน้าเกิดสงสัยเลยถามพนักงานหนุ่มอย่างสงสัย “พ่อหนุ่ม เด็กสองคนนั้นเป็นอะไรกับคุณเจ้าของร้านนะ?

พนักงานหนุ่มได้ยินเลยตอบคนที่อยู่ตรงหน้าเขา “ทั้งสองคนเป็นหลานคุณเจ้าของร้านครับ!!”

 

เมื่อพนักงานบอกแบบนั้น ชายที่เผลอไปต่อว่าสองคนนั้นถึงกับอายจนเดินออกจากแถวไปทันที ทำเอาคนที่ต่อแถวกันต่างหัวเราะกับความปากพล่อยของชายเมื่อกี้ โพรทาเลียกับโฟกัสเดินกันเข้ามาในร้าน พนักงานทุกคนเห็นทั้งสองคนต่างทักทายพวกเธอจนลูกค้าในร้านต่างมองกันอย่างสงสัย ทำเอาโพรทาเลียเขินๆ ที่มีคนแต่จับตามองเธอ พอเดินกันเข้ามาก็เจอกับบันได โฟกัสพาพี่สาวเดินขึ้นบันไดกันจนถึงขั้นบันไดบนสุดที่มีพื้นที่ให้เหยียบ เธอเคาะประตูสองสามครั้งเพื่อให้คนที่อยู่ข้างในออกมาเปิดประตูให้เธอ โพรทาเลียสงสัยเลยว่าใครกันที่น้องสาวรู้จัก แต่แล้วก็มีเสียงหนึ่งออกมา

 

“ใครคะ!?เสียงตะโกนออกมาจากข้างใน

โพรทาเลียได้ยินเธอเหมือนเคยได้ยินเสียงนี้มาก่อน

“พวกหนูเองค่ะ โฟกัสและโพรทาเลียค่ะ” โฟกัสเอ่ยออกมาเธอแอบยิ้มอย่างชอบใจที่โผล่มาหาคนรู้จักโดยไม่ได้บอก ก่อนที่เธอจะนึกออก

“ตายล่ะ!! พี่”

“อะไรเหรอ?โพรทาเลียได้ยินน้องสาวอุทานเลยสงสัย

“พี่จำพี่เอสเทลได้ไหม?

“ใครนะ?โพรทาเลียขมวดคิ้วอย่างสงสัย

“พี่เอสเทลเป็นน้าสาวเราไง น้องสาวพ่อ คือหนูจะบอกว่านูอัสกับพี่เอสเทลไม่ถูกกันมากๆ พี่ต้องระวังตัวนะ!”

“โอเค...” โพรทาเลียคิดเลยว่านูอัสสร้างศัตรูไว้ในครอบครัวเธออีกแล้วเหรอ ก่อนจะนึกว่าคนที่พวกเรามาหานั้นเป็นคนที่น้องสาวพูดเหรอ "คนที่เรามาหานี้คือคนที่ชื่อเอสเทลเหรอ?"

“ไม่ใช่นะ...คือว่า…”

ระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังคุยคนที่ตะโกนออกมาตอนแรกนั้น รีบเดินมาที่ประตูเพราะน้ำเสียงของหลานสาว จึงทำให้เธอรีบเดินมาเปิดประตูอย่างดีใจ พอมาถึงหน้าประตูเปิดออกมาพร้อมสีหน้าอย่างมีความสุข

“หลานย่า!!”

พอประตูเปิดออกพร้อมเสียงพูดของผู้หญิงที่ดูอายุเยอะ สายตาของเธอถึงกับอึ้งทันทีเมื่อได้เห็นหญิงที่ออกมา

“คุณย่า...”

 

จบตอนที่ 44 โปรดติดตามตอนที่ 45 ต่อไป