8 ตอน ตอนที่ 8 การทดสอบที่ทะเลสาบ
โดย YukiCoCo
ตอนที่ 8 การทดสอบที่ทะเลสาบ
เมื่อได้รู้จักทุกคนแล้ว โพรทาเลียก็รู้สึกโล่งใจที่ได้เจอกับพี่น้องของเธออีกครั้งและได้รู้จักเพื่อนใหม่อีกสองคน เอมิลี่ เกรซ กับ คาเอล มิโดว่า ตอนแรกเธอนึกว่าเอมิลี่เป็นแฟนของฟีนีอุส ทำเอาทุกคนขำไปหมด จนเอมิลี่กับฟีนีอุสต้องอธิบายว่าทั้งสองคนเป็นพี่น้องกันเฉย ๆ ตอนแรกโพรทาเลียงงเลยว่าทั้งสองไม่เหมือนกัน จนทั้งสองคนต้องเอารูปพ่อแม่ให้หนูทำเอาเธอรู้เลยว่าทำไมทั้งสองคนถึงต่างกันขนาดนี้ ส่วนอีกคน คาเอล เป็นเซนทอร์ แต่เธอมีรูปลักษณ์เป็นมนุษย์ทำเอางง ๆ เลยว่าอีกฝ่ายทำไมไม่อยู่ในร่างเซนทอร์ เธอไม่บอกอะไรทำเอาเธอสงสัยเข้าไปอีก
ตอนนี้มีอีกหลายอย่างที่โพรทาเลียไม่รู้ รวมไปถึงเรื่องในค่ายอีกมากมาย เธออยากรู้ว่านูอัสนั้นมีลูกสมุนอยู่ในค่ายนี้ไหม เธอจะได้รู้ไว้เพื่อความปลอดภัยของตนและคนอื่น ๆ โพรทาเลียกำลังคิดว่าจะถามทุกคนยังไงดี ก่อนจะคิดออกว่าแค่ถามไปง่าย ๆ ก็พอ ถ้าไม่มีคนตอบเธอก็จะคิดเอาเอง
“คือ...ขอถามเกี่ยวกับโพรทาเลียหน่อยได้ไหมขอรับ?”
ทุกคนต่างมองมาที่คีย์กันหมด พวกเขามองหน้ากันอย่างคิดว่าควรทำไงดี
โฟกัสไอออกมาหนึ่งครั้งก่อนจะเอ่ยพูดขึ้น “นายอยากถามอะไรล่ะ? คีย์”
“เอ่อ...เห็นบอกว่าทุกคนเป็นปรปักษ์กับโพรทาเลีย งั้นทุกคนก็ต้องรู้ว่าใครเป็นฝ่ายเดียวกันกับโพรทาเลียด้วยใช่ไหมขอรับ?”
“ใช่แล้วล่ะ” ฟีนีอุสพูดขึ้นมาทันที “พวกเราทุกคนรู้ว่าใครอยู่ฝ่ายเดียวกันกับโพรทาเลียมั้งนะ”
โพรทาเลียนั่งคิดสักครู่ก่อนจะหันกลับมามองทุกคน “งั้นช่วยบอกข้าหน่อยได้ไหม? ข้าจะได้ระวังตัวกับพี่สาวข้านะ เนอะ? พี่ลิซ่า”
ลิซ่ามองโพรทาเลียก่อนจะพยักหน้าทันที “จริงของคีย์ พวกข้าจะได้ระวังตัวกันมากขึ้น แล้วก็เผื่อมีเรื่องไม่ชอบมาพากล พวกข้าจะมารายงานพวกเจ้าได้นะ”
พอทุกคนได้ฟังแบบนั้น ทุกคนพยักหน้าทันที พวกเขาชอบความคิดของทั้งสองคนที่เสนอแบบนั้นออกมา
“ได้เลย พวกเราจะบอกให้ว่าใครอยู่ฝ่ายนั้นมั้ง!”
พอโฟกัสพูดจบเธอก็ให้ทุกคนมาช่วยอธิบายว่าใครเป็นพรรคพวกของนูอัสมั้ง โพรทาเลียฟังทั้งหมดก็เข้าใจว่ามีใครมั้งที่อยู่ข้างนูอัส เธอคิดหนักเลยที่พรรคพวกของนูอัสเยอะกว่าที่คิด แต่ก็ดีที่ไม่ค่อยมีคนของบ้านเฮอร์มีสเท่าไร เธอไม่อยากมาจัดการเด็กบ้านเดียวกับเธอจริง ๆ แต่หลังจากนี้เธอคงต้องไปตรวจสอบว่าคนพวกนี้มีใครเป็นมนุษย์หรือปีศาจมั้ง หลังจากนี้เธอต้องเหนื่อยอีกแน่ ๆ
“ขอบคุณสำหรับข้อมูลขอรับ พวกข้าจะระวังอย่างดีเลยล่ะ”
“แล้วหลังจากนี้พวกนายจะไปไหนต่อล่ะ?” โฟกัสถามคีย์หลังจากจบการสนทนากัน
“เอ่อ...ไม่รู้สิ ตามตารางที่ได้มาก็ว่างแล้วด้วย ช่วงนี้ไม่ค่อยมีกิจกรรมหรือการฝึกให้ทำ เพราะเห็นว่าเหล่าครูฝึกไม่ว่างกัน ข้าว่าหลังกินข้าวกลางวันจะไปหาที่ฝึกหน่อยนะ”
“งั้นเหรอ ส่วนใหญ่คนมาใหม่ไม่ค่อยชอบทำอะไรเยอะแยะ แต่นายกับจะไปฝึกหลังทานข้าวซะงั้น” โอราอุสเห็นเด็กหนุ่มพูดแบบนั้น ทำให้เขาชอบที่เด็กคนนี้ดูขยันกว่าเด็กใหม่หลายคนอีก “ขยันจังนะ คีย์”
โพรทาเลียได้รับคำชมถึงกับรู้สึกเขินหน่อย ๆ เธอเกาแก้มของตัวเองเวลาเขิน “ไม่ขนาดนั้นหรอกขอรับ...”
โฟกัสที่มองคีย์ที่กำลังเขินอาย ทำให้เธอรู้สึกเหมือนเห็นภาพซ้อนของพี่สาวตอนเด็ก ๆ ออกมาจากตัวอีกฝ่ายเวลาเขินอายพี่สาวจะชอบเกาแก้มตัวเองเป็นบางครั้ง เธอส่ายหน้าทันที เธอรู้สึกแปลก ๆ ที่ตัวเองคิดถึงภาพพี่สาวตอนเด็กขึ้นมา โดยที่เธอไม่ได้คิดเรื่องพี่สาวมานานแล้ว ระหว่างที่โฟกัสกำลังคิดถึงสิ่งที่ตัวเองเห็นก็มีบางคนไม่ชอบใจที่โอราอุสชมคีย์อย่างสนิทสนมแบบนั้น เขากำลังจะชมคีย์ แต่อีกฝ่ายดันมาตัดหน้าเขาซะงั้น
“เอ่อ...งั้นพวกข้าขอตัวก่อน ขอบคุณสำหรับข้อมูลในครั้งนี้” โพรทาเลียรีบลุกก่อนที่พี่ชายจะทำเธอตบะแตกดีกว่า “ท่านพี่ไปกันเถอะ”
“จ๊ะ ไปก่อนนะทุกคน”
ทั้งสองคนกำลังยืนขึ้นถึงเพื่อจะออกไปจากตรงนั้น พวกเขาต่างก็สะดุดตาไปเห็นคนที่อยู่ข้างหลังของทั้งสองคน พวกเขาก็ต่างโค้งคำนับให้บุคคลที่อยู่ข้างหลังทั้งสองคน โพรทาเลียมองอย่างสงสัยว่าพวกเขานั้นโค้งคำนับให้ใครกัน แต่แล้วความรู้สึกบางอย่างก็กระตุกต่อมความรู้สึกของโพรทาเลียขึ้นมา ความรู้สึกของพลังที่คุ้นเคยพลังของเทพที่กักขังเธอตั้งแต่เด็ก พอเห็นรีบหันไปดูก็พบกลับใบหน้าที่คล้ายกับแซเทิร์นมาก ๆ ยกเว้นสีผมกับสีตาที่แตกต่างกว่าแซเทิร์นมาก ๆ ลิซ่าเห็นถึงกับตัวสั่นเธอไม่นึกว่าจะเจอกับเทพที่ขังเธออีก
“แซ...เทิร์น...” น้ำเสียงของลิซ่าสั่นเคืองทันที
โพรทาเลียถอยห่างแล้วชักดาบออกมาทันที ทุกคนต่างมองอย่างตกใจพร้อมกับเข้าไปห้ามคีย์ทันที
“คีย์!!”
“ห้ามหันดาบใส่เขานะ!!” โอราอุสสั่งห้ามด้วยสีหน้าตื่นตกใจ
“แต่ชายคนนี้!!” โพรทาเลียจำได้ดีสายตาแบบนั้น สายตาที่จ้องเธออย่างเย็นชา
ชายผมขาวมองทั้งสองคนอย่างสงสัยก่อนที่เขาจะยิ้มอ่อนๆ ให้ โพรทาเลียสับสนที่อีกฝ่ายส่งยิ้มให้ แต่เธอไม่กล้าไว้ใจได้จริง ๆ ชายผมขาวค่อยๆ หันไปมองลิซ่าที่ตัวสั่นเทา เพราะหวาดกลัวเขาอยู่ เขาเห็นแบบนั้นก็ค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้ ๆ เธอ โพรทาเลียเห็นแบบนั้นรีบตะโกนออกมาทันที
“อย่าแตะต้องพี่สาวข้านะ!!”
ชายผมขาวไม่สนใจคำเตือนของเด็กหนุ่ม เขาเข้าไปใกล้ ๆ ลิซ่า ก่อนจะยื่นมือของเขาสัมผัสไปที่ใบหน้าลิซ่า ลิซ่ารู้สึกถึงความอ่อนโยนผ่านฝ่ามืออีกฝ่าย ก่อนจะมองใบหน้าอีกฝ่ายที่เหมือนแซเทิร์นแต่ดูอบอุ่นกว่าแซเทิร์น
“เจ้าคงหวาดกลัวข้าที่มีใบหน้าคล้ายคนที่เจ้าหวาดกลัวสินะ เด็กน้อย”
“ข้า...” ลิซ่ามองอีกฝ่ายอย่างสับสน “ข้านึกว่า...ท่านเป็น...”
“แซเทิร์นสินะ”
เมื่อชายผมขาวพร้อมกับยิ้มอย่างที่พวกเธอไม่เคยเห็นจากแซเทิร์น นอกจากยิ้มอย่างน่ากลัวใส่พวกเธอ นั้นทำให้โพรทาเลียรู้สึกว่าเขามีบางอย่างที่ไม่เหมือนแซเทิร์นจริง ๆ
“ข้าขอแนะนำตัว ข้ามีนามว่า โครนอส”
“โครนอส...” ลิซ่าได้ยินชื่ออีกฝ่ายทำเอาเธออึ้งไปเลย
“โครนอส?” โพรทาเลียได้ยินเธอวางดาบลงทันที “ท่านไม่ใช่แซเทิร์นจริง ๆ สินะ”
โครนอสหันทางเด็กชายทันที “ใช่ ข้าไม่ใช่น้องข้า ถึงแม้ตัวข้าจะมีร่างกายคล้ายเขา แต่ข้าก็ไม่ใช่เขา”
โครนอสพูดจบ เขามองไปที่สายตาของเด็กชายที่มองเขาอย่างไม่ชอบใจหน่อย ๆ แต่ดวงตาของเขากับสะท้อนถึงความเกลียดชังมาก ๆ
“ดูเจ้าจะไม่ชอบแซเทิร์นเท่าไรสินะ”
“...” โพรทาเลียหันหน้าหนีทันที ก่อนจะเก็บดาบทันที “ข้าไม่ขอพูดถึงแล้วกัน แล้วก็ขอประทานอภัยที่ข้าหันดาบใส่ท่าน เพราะท่านมีกลิ่นอายคล้ายคนผู้นั้น มันทำให้ข้าไม่ชอบใจเท่าไร”
“งั้นเหรอ…” โครนอสเดินเข้าไปใกล้ ๆ โพรทาเลีย แล้วจ้องไปที่ใบหน้าของเธอ โพรทาเลียจ้องมองกลับ “เจ้าช่างน่าสงสารนัก...คงเจ็บปวดมากสินะ...”
โพรทาเลียได้ยินแบบนั้น เธอรู้สึกสับสนเลยที่อีกฝ่ายเหมือนรู้ว่าเธอเจออะไรมา เธอหลบอีกฝ่ายแล้วเดินออกจากศาลานั้นทันที ลิซ่าที่จ้องโครนอสอยู่พอเห็นว่าโพรทาเลียเดินออกจากศาลาไปแล้ว เธอโค้งคำนับให้แก่โครนอส ก่อนจะรีบตามโพรทาเลียไปทันที ทุกคนต่างงุนงงว่าเมื่อกี้มันคืออะไร จนมีข้อสงสัยในสิ่งที่โครนอสพูดกับคีย์
“โครนอส...ท่านพูดแบบนั้นกับคีย์หมายความว่าไงกัน?” โฟกัสถามเทพผู้ยิ่งใหญ่อย่างสงสัย
ทุกคนต่างมองเธอที่กล้าถามอีกฝ่ายได้ โครนอสหันไปมองเด็กน้อยก่อนจะยกนิ้วขึ้นมาแตะที่ริมฝีปากของตนแล้วใช้สายตาจ้องมองพวกเขาด้วยสายตาเจ้าเล่ห์
“ความลับ!”
สาว ๆ ต่างถึงกับใจละลายทันที โครนอสถึงจะเป็นบิดาของสามมหาเทพ แต่เขาก็มีเสน่ห์ที่ทำให้หลายคนหลงใหลกันได้ โครนอสหันไปมองเด็กน้อยที่เดินออกไป เขาไม่คิดเลยว่าจะเจอกับบุคคลที่เป็นร่างจุติของลูกชายของตนเอง
“เจ้ากลับมาแล้วสินะ...แองเจิล”
โครนอสพูดคนเดียวอยู่นั้น พวกฟีนีอุสก็ช่วยสาว ๆ ที่ล้มนอนลงไป เพราะเสน่ห์ของโครนอสไป
โพรทาเลียเดินหนีออกมา เธอนั้นรู้สึกแย่สุด ๆ ที่มีคนมาเข้าใจว่าเธอนั่นเจออะไรมาก่อน ลิซ่าที่เดินตามโพรทาเลียอยู่นั้น เธอรู้สึกแปลก ๆ กับชายคนดังกล่าว เธอจำคำสอนของบางคนที่เธอจำได้ เขาบอกว่าไว้ว่าพ่อของตนคือชายที่ตรงกันข้ามกับแซเทิร์น เธอก็ได้เจอกับชายอีกคนที่เป็นพี่ชายของแซเทิร์น ทำให้เธอสงสัยเลยว่าคนคนนั้นใช่บิดาของตนหรือเปล่า ช่วงบ่าย ๆ โพรทาเลียไปหาที่เงียบ ๆ แล้วระบายอารมณ์ผ่านดาบของเธอ เธอฟันก้อนหินจนมันแตกละเอียด เธอไม่อยากให้ใครรู้เร็วเกินไปเลยว่าเธอเป็นใคร เพราะเธอไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นมั้ง แต่เธอจะไม่ยอมให้ใครเจอเรื่องแย่ ๆ แน่ ๆ
ตกเย็นหลังจากที่ทุกคนทานอาหารเย็นที่แสนอร่อยกันนั้น โพรทาเลียรู้สึกเหนื่อยมาก ๆ หลังจากการฝึกเธอรู้สึกถึงแรงกดดันจากโครนอสตลอดเหมือนอีกฝ่ายจับตาอยู่ตลอดเวลา ยิ่งทำให้เธอไม่เป็นการเป็นงานเลยจริง ๆ แต่สายตาที่รู้สึกเหมือนพ่อมองลูกยังไงชอบกล แต่เธอไม่ใช่ลูกของเขาสักหน่อย เธอส่ายหน้าเบา ๆ อย่างไม่สนใจ หลังทานอาหารหมดโพรทาเลียก็กลับที่พัก เพื่อไปพักผ่อนให้สบายใจสักหน่อย
ตกดึกนั้นโพรทาเลียกำลังหลับอยู่ภายในบ้านพักหมายเลข 11 อยู่นั้น เธอกำลังฝันอีกครั้ง ในความฝันเธออยู่ในทะเลสาบอีกครั้ง เธอมองรอบ ๆ เหมือนครั้งก่อน เธอมองหาใครบางคนอย่างคนที่เธอเห็นดวงตาคู่นั้น เธอหันไปจนเจอกับเงานั้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เห็นชัดกว่าเดิมอีกฝ่ายมาร่างที่ซีดขาวและก็มีหางนางเงือก ปากของอีกฝ่ายขยับอยู่ แต่โพรทาเลียไม่ได้ยินเสียงอีกฝ่ายเลย จนกระทั่งมีเสียงออกมา
‘โดดเดี่ยว...’
‘เอ๋?’ เสียงที่พูดขึ้นนั้นทำให้โพรทาเลียรู้สึกขนลุกขึ้นมา
‘โดดเดี่ยว’ เสียงของอีกฝ่ายดังขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนที่เสียงนั้นจะดูเชิญชวนเธอ ‘มา...’
‘มา?’
‘มาโดดเดี่ยวกับข้าเถอะ โพรทาเลีย’
อีกฝ่ายพุ่งมาหาเธอ โพรทาเลียหน้าซีดก่อนจะเอามือกันอีกฝ่ายก่อนที่เธอจะตื่นขึ้นมาทันที
“ไม่!!”
โพรทาเลียหอบหายใจหลาย ๆ ครั้ง เธอหันไปมองรอบ ๆ ทุกคนกำลังหลับอยู่ ดีที่เธอไม่ทำให้ใครตื่น เธอหันไปมองพี่ลิซ่าที่หลับอยู่
“ยังหลับอยู่สินะ...”
โพรทาเลียรู้สึกถึงเหงื่อที่ไหลออกมามันหยดลงบนผ้าพรมของเธอ เธอเช็ดมันออกจากใบหน้าของตนเอง เธอหันไปมองมือของตนที่สั่นอยู่ เธอไม่นึกเลยว่าฝันเมื่อกี้ทำให้เธอสั่นกลัวได้แบบนี้ มันทั้งน่ากลัวและก็รู้สึกกังวลใจมาก ๆ โพรทาเลียกำลังคิดบางอย่างอยู่ ก่อนจะลุกขึ้นนั่งเธอหันหยิบของส่วนตัวชิ้นเดียวของเธอนั้นคือ กระเป๋าคาดเอว พอของครบแล้ว เธอรีบลุกขึ้นแล้วเตรียมตัวเพื่อออกไปหาคำตอบกับสิ่งที่เธอฝันเห็น
ข้างนอกที่เงียบสงบนั้นก็มีชายคนหนึ่งกำลังนั่งคิดบางอย่างอยู่ข้างนอกระเบียบบ้านพักของเขา คนคนนั้นก็คือ โอราอุสที่กำลังคิดถึงเรื่องที่พ่อของตนสั่งให้เขาทำบางอย่าง มันทำให้เขาลำบากใจสุด ๆ ที่ต้องทำงานนี้ ย้อนกลับไปช่วงบ่าย ๆ โอราอุสโดนพ่อของเขาเรียกไปยังบ้านใหญ่ เขาไปหาพ่อแล้วได้รับคำสั่งบางอย่างมา
“ติดตาม...คีย์ เหรอครับ?”
“ใช่ พ่อไม่ค่อยไว้ใจเขาเท่าไร เมื่อเขาได้แสดงว่าตัวเองจะเป็นศัตรูกับโพรทาเลีย”
“พ่อ...ตอนนั้นคีย์เขาเข้าไปช่วยเด็กบ้านเฮคาทีนะครับ...โพรทาเลียต่างหากที่ทำตัวเป็นศัตรูกับเขาก่อนเองนะ คีย์เขาก็เป็นคนดีคนหนึ่งนะ” โอราอุสรีบแก้ตัวให้คีย์ทันที เขาดูจากนิสัยอีกฝ่าย คีย์ต้องไม่ใช่คนไม่ดีแน่ ๆ
“พ่อรู้ แต่ว่า...เป็นหน้าที่ของพ่อที่ต้องดูแลตรวจสอบทุกอย่าง ขอละ โอราอุส ช่วยพ่อหน่อยละกัน ติดตามคีย์อยู่ห่าง ๆ แล้วก็ถ้ามีอะไรผิดปกติให้มารายงานพ่อด้วย”
โอราอุสมองพ่อของตนด้วยสีหน้าไม่เต็มใจเท่าไร แต่ก็ต้องทำตามอีกฝ่ายที่เป็นผู้ปกครองของตนเอง “ครับ ผมจะดูคีย์เขาทุกฝีก้าวแล้วจะเอาเรื่องทุกอย่างที่เขาทำมาบอกพ่อครับ”
พอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อตอนบ่าย เขาช่างเหมือนคนที่กำลังจะทรยศเด็กที่ดูจะเป็นเด็กดียังไงชอบกล เขาไม่อยากทำหน้าที่แบบนี้จริง ๆ โอราอุสถอนหายใจหนึ่งครั้งแล้วมองออกไปข้างนอก
“เฮ้อ...นึกแล้วว่าสักวันต้องมีเรื่องแบบนี้จริง ๆ คีย์ก็อีกคนทำตัวเด่นจนพ่อฉันสงสัยนายมากขึ้นไปอีก เฮ้อ...”
โอราอุสถอนหายใจอีกครั้ง เขาหันหน้ามองข้างนอก ก่อนที่เขาจะเห็นบางอย่างเคลื่อนไหว เขาหันไปมองเห็นแถว ๆ บ้านพัก มีใครบางคนกำลังออกมาจากบ้านพักหมายเลขสิบเอ็ด โอราอุสใช้กล้องส่องทางไกลมองดู พอเขาส่องดูเขาก็ได้เห็นคนที่วิ่งออกมา
“คีย์!?”
โอราอุสทำหน้าตาอย่างตกใจ เขาไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายออกมาทำอะไรในเวลานี้
"หมอนั้นจะไปไหนของเขากัน..."
โอราอุสคิดอย่างสับสนก่อนจะนึกคำพูดของพ่อ เขาเลยเตรียมตัววิ่งตามออกไปทันที
โพรทาเลียวิ่งออกมาจากบ้านพักโดยไม่ได้สนใจอะไรว่าใครจะเห็นเธอ ตลอดทางที่เธอวิ่งไปนั้นก็ต้องหลบพวกที่เฝ้ายามตอนดึก ในค่ายนี้คล้ายกับปราสาทแซเทิร์นที่จะมีคนเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง พอโพรทาเลียหลบพวกเฝ้ายามมาได้ เธอก็ตรงดิ่งไปที่ทะเลสาบโดยทันควัน ไม่กี่นาทีเธอก็มาถึงทะเลสาบ โพรทาเลียได้เห็นภาพสวย ๆ ยามดึกเป็นอะไรที่สวยมาก ๆ
“ว้าว...สวยดีแฮะ...”
พอโพรทาเลียจ้องทะเลอยู่สักระยะ เธอก็เตรียมตัวที่จะลงไปในน้ำ เธอกำลังจะถอดเสื้อออกแต่ก็พึ่งมานึกได้ว่าตัวเองลงไปก็ไม่เปียกนี่น่า เพราะเธอมีสายเลือดโพไซดอนนี่น่า ทำเอาเธอเกือบหลุดขำตัวเองออกมาแล้ว เธอจัดเสื้อผ้าให้ปกติก่อนจะกระโดดลงไปในน้ำทันที พอกระโดดลงในน้ำสภาพแวดล้อมภายในน้ำสงบกว่าอะไร เธอมองรอบ ๆ ก่อนจะว่ายน้ำหาบางอย่าง เธอกำลังหาตำแหน่งที่เธอเจอนางเงือกในฝัน แต่การตามหาในน้ำมันช่างยากมาก ๆ เพราะสภาพในทะเลสาบนั้นเหมือนกันไปหมด
‘จะหายังไงล่ะเนี่ย?’ โพรทาเลียคิด
เธอว่ายต่อไปเรื่อย ๆ อย่างช้า ๆ แต่แล้วก็มีอะไรบางอย่างที่วิบวับผ่านสายตาของเธอ ทำให้เธอหยุดว่ายแล้วหันไปมองก็เห็นบางอย่างวิบวับอยู่ก้นทะเลสาบ โพรทาเลียสงสัยว่านั้นคืออะไร ก่อนจะลองว่ายลงไปดูที่ก้นทะเลสาบจนได้เห็นสิ่งที่วิบวับนั้นมันคือ เครื่องประดับผม เธอมองอย่างสนใจก่อนจะลงไปหยิบสิ่งนั้นขึ้นมา
‘สวยจัง...’ โพรทาเลียคิด
เครื่องประดับผมเป็นแบบปักไว้ที่ผม มันมีลักษณะเป็นเปลือกหอยสังข์มีหนาม แล้วก็มีปลาดาวประดับอยู่พร้อมกับสิ่งที่คล้าย ๆ กากเพชรอยู่รอบ ๆ เครื่องประดับนี้ โพรทาเลียจับมันขึ้นมามองอย่างสนใจ ก่อนจะรู้สึกถึงบางอย่างที่อยู่ข้างหลัง เธอรู้สึกขนลุกจนหันไปมองข้างหลัง ทะเลที่มืดมิดนั้นกับมีเงามืดบางอย่างอยู่ลอยอยู่ในน้ำ โพรทาเลียเพ่งมองด้วยสายตาที่จ้องมองเงานั้นก็เห็นภาพของนางเงือกนั้นเด่นชัดขึ้นเธอมีรูปลักษณ์ผมสีฟ้า ดวงตาสีเขียว และมีหางนางเงือดน้ำเงินวิบวับสีเขียวเหมือนสีของน้ำทะเลสาบนี้ อีกฝ่ายกำลังว่ายเข้ามาหาโพรทาเลีย อีกฝ่ายหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ
‘แม่นางเป็นใคร?’
โพรทาเลียส่งโทรจิตส่งให้นางเงือกตกหน้า แต่ว่าอีกฝ่ายไม่พูดอะไรนอกจากพึมพำบางอย่างเบา ๆ
“โดดเดี่ยว...ช่างโดดเดี่ยว...”
พออีกฝ่ายพูดแบบนั้นรอบตัวอีกฝ่ายมีออร่าสีดำออกมา ทำให้โพรทาเลียรู้สึกประหม่าอย่างตกใจ
“โดดเดี่ยวเหรอ? ไม่ต้องกลัวนะ ท่านยังมีข้าอยู่นะ...” โพรทาเลียกำลังเกลี้ยกล่อมแกอีกฝ่าย
“ไม่มี!!” น้ำเริ่มก่อตัวขึ้นเป็นคลื่น "ไม่มีใครอยู่ข้างข้าสักคน!!"
น้ำเริ่มก่อตัวเป็นพายุหมุนทันที โพรทาเลียถึงกับต้องพยุงตัวเองไม่ให้พัดไปกับสายน้ำ
“เดียวสิ!! ข้าอยู่ตรงนี้ไง ข้าจะอยู่ข้าง ๆ ท่านได้นะ ข้าจะฟังเรื่องของท่าน!!”
“ข้าไม่เชื่อ!! ยังไงเจ้าก็ต้อง...เจ้าก็ต้องทรยศข้าด้วยเหมือนกัน!!”
นางเงือกตนนั้นชี้ไปทางโพรทาเลียก่อนจะมีแสงบางอย่างออกมาจากนิ้วของนาง แล้วแสงนั้นพุ่งตรงมาทางโพรทาเลีย โพรทาเลียรีบเอามือป้องกันแสงนั้นทันที แสงที่ดูมีอนุภาคแรงสูงนั้นพุ่งมาทางเธอ แต่แล้วรอบตัวโพรทาเลียกับเรือนแสงขึ้นเกิดเป็นเกราะป้องกันพลังที่พุ่งใส่เธอ แสงสว่างนั้นเกิดขึ้นจากเครื่องประดับนั้น เมื่อเธอจ้องเครื่องประดับสิ่งบางอย่างก็เข้ามาในหัวของเธอ
สิ่งที่ได้เห็นนั้นเหมือนความทรงจำของใครสักคนที่พุ่งเข้ามาไม่หยุด แล้วความทรงจำนี้คือของคนตรงหน้าของเธอ ชีวิตของอีกฝ่ายเป็นถึงธิดาของจ้าวสมุทรอย่างโพไซดอน ปู่ของเธอ สิ่งมีชีวิตมากมายบนโลกต้องการให้นางเงือกตนนี้เป็นชายาของตนกัน แต่บิดาอย่างโพไซดอนไม่ต้องการให้ใครมาวุ่นวายกับลูกของตน แต่แล้วนางกับทำเรื่องที่บิดาไม่ชอบใจนั้นคือการไปหลงรักกับมนุษย์ โพไซดอนสั่งห้ามทุกอย่างไม่ให้นางออกไปนอกปราสาทใต้ทะเล แต่นางกับไม่ยอมฟังจึงโดนบิดาไล่ออกจากปราสาททำให้นางเสียใจที่ผู้เป็นบิดากล้าไล่ลูกตนเอง นางจึงหนีไปหาคนรักเพื่อระบายสิ่งที่ตนเจอ แต่แล้วนางก็ต้องพบกับภาพที่เจ็บปวดใจ คนรักของตนกำลังขอหญิงอื่นแต่งงานต่อหน้าประชาชน นั้นทำให้หัวใจเธอเกิดแตกร้าว โพรทาเลียมองภาพทั้งหมดน้ำตาของเธอก็ไหลออกมาอย่างรู้สึกเจ็บปวดแทนอีกฝ่าย แล้วภาพตรงหน้าก็ทำให้เธอโกรธสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับอีกฝ่าย นางเงือกที่อยู่ในร่างมนุษย์กำลังนั่งอย่างโศกเศร้าเสียใจที่โขดหินใต้หน้าผาระหว่างที่เธอนั่งอยู่คนเดียวก็มีบุคคลปริศนากำลังเดินเข้ามา โพรทาเลียเห็นเลยว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นใคร
“วากาเน็ท!!”
วากาเน็ทยกดาบขึ้นฟันกลางตัวของนางเงือก ทำให้เธอบาดเจ็บสาหัสร่างกายของเธอตกลงไปในทะเล เธอสิ้นใจตรงนั้นร่างกายของเธอโดนน้ำซัดลงไปในทะเล แล้วร่างกายของเธอค่อย ๆ สลายไปในน้ำ ภาพทั้งหมดถูกตัดกลับมายังจุดที่เธออยู่ความทรงจำของอีกฝ่ายมันช่างเศร้าและโกรธเคืองกับสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น ผู้เป็นบิดาขับไล่ตนออกจากปราสาท คนรักกับนอกใจไปกับหญิงอื่นและให้ตัวสุดท้ายที่ฆ่านางตาย โพรทาเลียโกรธอย่างมาก
“ยกโทษให้ไม่ได้!!” โพรทาเลียมองนางเงือกตนนั้นทันที “ได้โปรด...ได้โปรดให้ข้าช่วยท่าน! ท่านกำลังสิ้นหวังอยู่นะ”
“ไม่...ไม่มีใครช่วยข้าได้!! เจ้าก็เช่นกัน!!” เงือกตนนั้นใช้พลังของตน เรียกพวกเถาวัลย์ทะเลขึ้นมารัดตัวโพรทาเลียทันที
“อ๊ากกกกกกกกกกกกก!!” โพรทาเลียรู้สึกอึดอัดที่โดนจับรัดตัวจนขยับตัวไม่ได้
“เจ้านะไม่เข้าใจหรอก!! ไม่เข้าใจความโดดเดี่ยวของข้า!! ข้าตายโดยที่ไม่มีใครรับรู้เลยสักนิด!! ชายคนนั้นก็ด้วย!! ชายที่ข้ารักที่สุด!!” นางเงือกตนนั้นตะโกนออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว
โพรทาเลียโดนเถาวัลย์รัดแน่นกว่าเดิม เธอนั้นรู้สึกทรมานสุด ๆ ก่อนจะพูดบางอย่างออกมา “ข้า...”
“เจ้าจะพูดอะไรอีก!?”
“ข้านะ...เข้าใจดีเลยล่ะ...ความโดดเดี่ยวนะ...” โพรทาเลียมองไปที่อีกฝ่าย เธอนึกถึงความทรงจำของตัวเองทุกอย่างความโดดเดี่ยวที่เคยครอบงำเธอมานาน “ข้าเข้าใจความโดดเดี่ยว...ไม่มีใครรู้ว่าเจ้าอยู่ไหน? เจ้าทำอะไรอยู่หรือเจ้านั้นได้ตายจากพวกเขาไปหรือไม่...ข้าก็เหมือนกัน...”
“ไม่จริง!! ไม่จริง!!” นางเงือกตนนั้นตะโกนเสียงดังออกมา
เถาวัลย์ยิ่งรัดตัวโพรทาเลียมากขึ้นไปอีก โพรทาเลียรู้สึกยิ่งรู้สึกอึดอัดแล้วก็เจ็บไปตามร่างกายเหมือนกระดูกกำลังแตก แต่ความเจ็บเท่านี้ไม่ขนานมือเธอจริง ๆ เพราะมันยังน้อยกว่าที่เธอเคยเจอมาอีก แต่การโดนรัดไปทั้งตัวนั้นเธอกำลังจะหมดสติลง คนที่แอบอยู่นั้นถึงมองอย่างกังวลทันที เขาออกเข้าไปช่วย แต่ว่ากระแสน้ำจะพัดแรงไป เขาอาจจะปลิวไปได้เช่นกัน โพรทาเลียที่กำลังจะหมดสติกำลังคิดบางอย่างอยู่ในหัวของเธอ
‘นี่เรา...กำลังจะตายตรงนี้เหรอ? ...ตายจริงก็ดีสิ...จะได้หมดห่วงสักที...’ โพรทาเลียกำลังหลับตาลงช้า ๆ
‘โพรทาเลีย...’
เสียงนั้นทำให้โพรทาเลียลืมตาตื่นขึ้นมาทันที ‘เสียงเมื่อกี้…’
ในหัวของเธอมีภาพบางอย่างขึ้นมา ภาพของชายที่เธอรักมาก ๆ ‘สู้เข้าโพรทาเลีย ลูกต้องทำได้นะ’
ภาพของพ่อขึ้นมาในหัวของโพรทาเลีย แล้วเกิดแสงสว่างขึ้นบริเวณหน้าอกของเธอ แสงสว่างนั้นงกระจายไปทั่วทั้งทะเลสาบ พอโพรทาเลียลืมตาขึ้นมาก็เห็นสร้อยที่ตัวเองสวมใส่มาตลอด สร้อยตรีศูลที่พ่อให้ตอนเธออายุหกขวบมันกำลังส่องแสงพร้อมกับกระจายภาพความทรงจำมากมายออกมา โพรทาเลียได้เห็นภาพตั้งแต่เกิดมาบนโลกนี้จนถึงช่วงปัจจุบันของเธอทุกช่วงเวลาที่เธอกับเรื่องเลวร้าย มันก็ยังมีเรื่องที่มีความสุข
“อะไรกัน!! นี่มัน...” นางเงือกมองอย่างตกใจกับภาพทั้งหลายรอบ ๆ
“ความทรงจำของข้าไงล่ะ!!” โพรทาเลียเอ่ยพูดขึ้น เธอเงยหน้าจ้องมองอีกฝ่าย “ข้าบอกแล้ว ข้าก็มีความโดดเดี่ยว ความโดดเดี่ยวที่ข้าไม่สามารถมีใครมาช่วยข้าได้ ไม่มีใครจะมาช่วยข้าจากความเจ็บปวดนั้น แล้วข้านะ…!!”
โพรทาเลียกำหมัดแน่นถึงจะโดนรัดอยู่ เธอเงยหน้ามองความทรงจำอันทรมานของเธอ มันเจ็บปวดมาก ๆ ที่ไม่มีใครรับรู้ความเจ็บปวดแบบนี้ แต่เธอก็ไม่ต้องการให้ใครเป็นแบบนี้ บนโลกนี้ก็ยังมีความเจ็บปวดอีกหลายแบบนี้เธอไม่สามารถเข้าไปช่วย แต่ถ้ามีโอกาสเธอจะช่วยผู้คนจากความเจ็บปวดนั้น
“ไม่อยากให้เจ้าต้องมาเจ็บปวดเหมือนข้า!!” โพรทาเลียตะโกนออกไปทันที “ไซกาเรน!!”
เธอตะโกนชื่อดาบออกมา ดาบก็พุ่งตัดเถาวัลย์ที่รักร่างกายเธอก่อนที่โพรทาเลียจะจับดาบได้แล้วตัดมันออกจากร่างกายเธอทั้งหมด แล้วพุ่งตรงไปหาอีกฝ่ายทันที นางเงือกเห็นแบบนั้นก็ตกใจว่าอีกฝ่ายจะเข้ามาฆ่าตนเองงั้นหรือ นางจึงเรียกเถาวัลย์ขึ้นมาอีกครั้ง แต่โพรทาเลียเห็นก็รีบฟันเถาวัลย์ทั้งหมดนั้นออกไปให้พ้นทางของเธอ เมื่อพุ่งจนเข้าไปใกล้ถึงโพรทาเลียก็ทำบางอย่างทำให้อีกฝ่ายอึ้ง
“อ๊ะ...”
นางเงือกตาโตขึ้นมาเมื่อเห็นอีกฝ่ายเข้ามากอดนางแบบไม่ทันได้ตั้งตัวเลย
“เจ้า!”
“ได้โปรดให้ข้าช่วยบรรเทาความเศร้าของท่านได้ไหม? ข้าจะอยู่ข้าง ๆ ท่านในฐานะสหายของท่าน...ได้โปรดให้ข้าช่วยท่านเถอะนะ”
โพรทาเลียกอดอีกฝ่ายอย่างแนบแน่น ก่อนภาพความทรงจำเดิมของอีกฝ่ายเข้ามาในหัว เสียงของบิดาเอ่ยเรียกลูกสาวของตนเอง โพรทาเลียได้ยินจึงลองเอ่ยชื่อนั้นขึ้น
“เฟอร์ร่า...”
นางเงือกได้ยินนามที่อีกฝ่ายเรียก ทำให้เธอเริ่มรู้สึกตัวว่าตนเองทำอะไรไป นางโดนความรู้สึกโดดเดี่ยวครอบงำจิตใจมาตลอด แล้วสิ่งนั้นทำให้นางทำร้ายอีกฝ่าย ความรู้สึกเสียใจเข้ามาข้างในหน้าอกเต็มไปหมด เธอกอดอีกฝ่ายที่กอดเธอยู่ ใบหน้าที่ซีดขาวและน่ากลัวกลับเปลี่ยนไปเป็นใบหน้าสดใสเหมือนในภาพความทรงจำ ดวงตาของนางเริ่มมีน้ำตาหนองดวงตา เฟอร์ร่าร้องไห้จนพอใจเธอรู้สึกใจมันผ่อนคลายลงไปเยอะแล้ว ความโดดเดี่ยวนั้นได้มลายหายไปหมด เธอถอยออกจากอีกฝ่าย เธอโค้งคำนับอีกฝ่ายช้า ๆ
“ได้โปรดอภัยให้ข้าด้วยกับสิ่งที่ข้ากระทำกับเจ้า ข้าช่างโง่เขลายิ่งนักที่ทำให้อารมณ์ของข้าควบคุมตนเอง จนทำให้ข้าทำร้ายผู้อื่นเช่นท่าน”
“แหะ ๆ ข้าไม่โกรธเจ้าหรอก...เจ้าคงเป็นบททดสอบที่แองเจิลสร้างสินะ...” โพรทาเลียเหมือนรู้ว่าสิ่งที่อีกฝ่ายทำเป็นสิ่งที่แองเจิลต้องการ
“อ๊ะ...” นางเงือกถึงกับอึ้งกับอีกฝ่าย “ท่านช่างเฉลียวฉลาดยิ่งนักที่รู้ว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่เทพแองเจิลเป็นคนสร้างขึ้น แต่พวกข้าไม่ใช่สิ่งของ พวกเราเป็นวิญญาณที่เคยมีชีวิต”
“วิญญาณ?”
“ใช่แล้วเจ้าค่ะ ข้าลืมแนะนำตัว ข้า เฟอร์ร่า ธิดาคนที่สองของ1ใน 3 มหาเทพ โพไซดอน”
“โอ้...ถือว่าเจ้าเป็นญาติข้าสินะ...”
“อ๊ะ...ถูกต้องเจ้าค่ะ...แต่ข้าอายุเยอะถ้านับตามกาลเวลา...”
“โอ้...งั้นเรียกพี่สาวละกัน...”
“พี่สาว...” เฟอร์ร่าถึงกับมีใบหน้าที่แดงขึ้นมา “ขอบคุณที่จะเรียกข้าแบบนั้น แต่เรียกข้าว่าเฟอร์ร่าเฉย ๆ ก็ได้...ข้าดีใจที่ร่างจุติที่ 3 ของข้าคือท่าน”
“ร่างจุติที่ 3?”
“ค่ะ ท่านเป็นร่างจุติของพวกเรา ด่านต่าง ๆ ที่แองเจิลสรรค์สร้างขึ้น เพื่อให้ท่านทดสอบด่านต่าง ๆ ของพวกข้า แล้วท่านผ่านการทดสอบนั้นพวกข้าจะยอมรับท่านด้วยจิตใจอันแรงกล้า
เฟอร์ร่าเงยหน้ามายิ้มให้อีกฝ่าย ก่อนที่เธอจะได้เห็นสิ่งที่อีกฝ่ายถือ เธอขยับเข้าไปจับมืออีกฝ่ายแล้วยิ้มออกมา
“ช่วยเก็บสิ่งนั้นได้ไหม?” เฟอร์ร่าชี้ไปที่เครื่องดับที่อีกฝ่ายถืออยู่
“เอ๋?” โพรทาเลียมองของในมือของตนเอง “นี่นะเหรอ?”
“ใช่ มันคืออันเดียวกับที่ข้าติดบนผมข้า” เฟอร์ร่าหันหลังให้ดูเครื่องประดับที่ติดอยู่ข้างหลัง ”มันคงเป็นของข้าเมื่อนานมาแล้ว เจ้าช่วยดูแลมันดี ๆ ด้วยนะ”
“ได้สิ! ข้าจะดูแลของเจ้าให้ดีที่สุด เฟอร์ร่า” โพรทาเลียรับปากทันทีก่อนจะเก็บที่ประดับผมเข้ากระเป๋าเธอ
“ขอบใจนะ โพรทาเลีย ขอให้บททดสอบต่อไปผ่านไปด้วยดี เจ้าจะชนะกับทุกสิ่งที่จะเข้ามาหาเจ้า!”
เฟอร์ร่าได้สลายหายไปเหมือนดาวบนท้องฟ้า โพรทาเลียมองอย่างโล่งใจที่อีกฝ่ายไม่ใช่วิญญาณร้ายที่จะมาทำความวุ่นวายในค่ายได้ โพรทาเลียไม่นึกเลยจริง ๆ ว่านี้เป็นบททดสอบของแองเจิลจริง ๆ เธอล่ะอยากคุยกับอีกฝ่ายจริง ๆ ที่ทำให้เธอต้องตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายแบบนี้ โพรทาเลียรู้สึกโล่งใจทันที ร่างกายเธอยังลอยอยู่ในน้ำ เธอปล่อยกายให้ลอยอยู่อย่างนั้นดวงตาของเธอมองพื้นผิวหน้าที่กำลังเคลื่อนตัวไปมาอย่างช้า ๆ ดวงตากำลังปิดลงช้า ๆ แต่แล้วก็มีบางอย่างเข้ามาหาเธอพร้อมกับดึงตัวเธอเข้าไปหาพร้อมกับลากเธอขึ้นสู่พื้นน้ำ พอใกล้ฝั่งโพรทาเลียรู้สึกว่าโดนอุ้มขึ้นมาแล้วนอนลงบนฝั่ง เธอสงสัยว่าใครกันลากเธอขึ้นมาจากน้ำ เธอค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นก็ได้เห็นบุคคลที่เธอไม่นึกว่าเขาจะอยู่ตรงหน้า เขากำลังคร่อมตัวเธอแล้วจ้องมองเธอดวงตาที่พร่ามัวเริ่มชัดเจนขึ้นก็ได้เห็นว่าใครคือคนมาช่วยขึ้นมา
“พี่...โอราอุส..”
เขามองเธอด้วยใบหน้าที่ดูเจ็บปวด โพรทาเลียก็ได้เห็นสิ่งที่ไม่คาดคิดที่กำลังไหลออกมาจากดวงตา น้ำตาอีกฝ่ายไหลออกมาตกลงบนใบหน้าของเธอ ทำเอาเธอสงสัยว่าเขาร้องไห้ทำไมกัน ก่อนที่เขาจะเอ่ยพูดขึ้นมา
“โพร...โพรทาเลีย...น้องพี่!”
จบตอนที่ 8 โปรดติดตามต่อตอนที่ 9 ต่อไป
Comments (0)