ตอนที่ 43 ว่าที่ลูกสะใภ้

ดวงอาทิตย์ฉายแสงสีส้มอันงดงาม กำลังตกลงสู่พื้นดินสู่ยามราตรี เหล่าเด็กๆ กำลังพากันไปยังโรงอาหารเพื่อไปรับประทานอาหารเย็นกัน แต่ก็มีเด็กบางคนกำลังตรงไปยังสถานที่อีกแหล่ง นั้นก็คือ โซนที่อยู่อาศัย แฝดชายสองคนกำลังเดินเข้าประตูไปโซนที่อยู่อาศัย พวกเขากำลังคิดบางอย่างว่ากลับไปจะได้ทานอาหารฝีมือใคร จนคนพี่ได้ถามคนน้องขึ้นมา

 

“นี่เอเดอร์ นายคิดว่าวันนี้เราจะได้ทานอาหารฝีมือใคร?

“หือ?เอเดอร์ได้ยินคนเป็นพี่ถามขึ้น เขาก็ตอบอีกฝ่ายอย่างไม่ต้องคิดอะไร "ผมว่าฝีมือพี่โอราอุส"

“ทำไมนายคิดว่าพี่โอราอุส?

“ง่ายๆ นะพี่ หนึ่งแม่ดูแลพ่ออยู่คงไม่ว่างมาดูแลเรื่องอาหาร สองเมื่อเช้าพี่เขาบอกอยู่ว่าต้องอยู่บ้านดูแลเรื่องงานของพ่อแม่ คนที่จะทำอาหารได้นอกจาก แม่ โฟกัส ก็มีแต่พี่โอราอุสที่ทำอะไรเก่งพอๆ กับแม่น่านะ”

“ชิ! นายจะไม่คิดว่าแม่จะลงมาทำอาหารให้เลยหรือไง?เบเดอร์พูดอย่างไม่ชอบใจ

เอเดอร์เห็นสีหน้าของพี่ชายเขารู้เลยว่าอีกฝ่ายไม่ชอบที่เขาพูดเข้าข้างพี่ชาย “ทำไมทำหน้าแบบนั้นกัน ผมใช้เหตุผลที่คำนวณไว้ พี่จะเถียงกับผมเรื่องอาหารว่าใครทำหรือไง”

“ห๊า! ฉันทำไมต้องมาเถียงนายเรื่องนั้นไม่ทราบ! ?เบเดอร์ขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิดทันที

“แต่หน้าพี่มันฟ้องว่าไม่ชอบใจที่ผมพูดว่าพี่ฟีนีอุสทำอาหารนี่น่า!”

“เออ ใช่ก็ได้!! นายเคยเห็นอาหารพี่เขาอร่อยหรือไง เอเดอร์!” เบเดอร์เอาหัวเข้าไปชนกับน้องชายทันที

“ห๊า!! อาหารพี่เขาก็อร่อยดีออก! งั้นคืนนี้อาหารฝีมือพี่โอราอุสพี่ห้ามกินละกันนะ!!” เอเดอร์กระแทกหัวของพี่ชายทันที

“ห๊า! ว่าไงนะ!!”

ทั้งสองคนเถียงกันแค่เรื่องเล็กๆ น้อย ทำเอาคนที่กำลังเดินมาเห็นถึงกับเบื่อหน่ายกับการทะเลาะกันของสองพี่น้องคู่นี้จริงๆ เด็กน้อยที่อยู่ข้างๆ หญิงสาวผมบลอนด์จ้องมองสองพี่น้องฝาแฝดคู่นี้กำลังทะเลาะกัน เธอเงยหน้าขึ้นมาถามคนเป็นน้าทันที

"พวกเขาทะเลาะกันแบบนั้นตลอดเลยเหรอคะ?"

“ใช่จ้ะ เป็นแบบนี้ประจำนะ เดียวน้าขอเข้าไปห้ามหน่อยละกัน” โฟกัสขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจ เธอเดินเข้าไปหาทั้งสองคน

คนเป็นหลานตามผู้เป็นน้าไปทันที พอโฟกัสเดินจนใกล้ทั้งสองคน พอเข้าไปใกล้ เธอดัดนิ้วตัวเองทำให้เกิดเสียงดังกร๊อกแกร๊บ กร๊อกแกร๊บ ก่อนจะจับหัวของพี่ชายทั้งสองคนชนกันอย่างแรง

“เลิกทะเลาะกันสักที!!” โพรทาเลียตะโกนเสียงดังใส่ทั้งสองคน

“โอ๊ย!!” สองหนุ่มถึงกับเจ็บหน้าผากทันที พวกเขาก้มตัวด้วยความเจ็บที่บริเวณหน้าผาก

“โฟกัส!! เธอทำอะไรเนี่ย!!”

“จริงด้วย ถ้าจะมาเตือนกัน ไม่เห็นต้องเอาหัวชนกันเลยอ่ะ”

“ก็อยากทะเลาะกันเองนี่น่า เรื่องอาหารใครสั่งใครสอนให้ทะเลาะกัน ถ้าทะเลาะกัน หนูจะบอกแม่แล้วไม่ให้พี่ทั้งสองคนทานข้าวเลย!!”

“ไม่นะ โฟกัส อย่าทำแบบนั้นนะ”

“จริงด้วย พวกพี่ๆ ขอโทษนะ!”

ทั้งสองคนรีบเปลี่ยนท่าทางเข้ามาประจบน้องสาวทันที แต่ทั้งสองคนมองใบหน้าของน้องสาวพวกเขาสังเกตเห็นความผิดปกติบนใบหน้าของน้องสาว พวกเขาหน้าถอดสีทันที

“โฟ..โฟกัส...” ทั้งสองคนต่างเรียกชื่อน้องสาวพร้อมกัน

“อะไรคะ?โฟกัสเท้าเอวข้างหนึ่งแล้วมองอย่างสงสัย

พวกเขายกมือขึ้นมาชี้อีกฝ่าย “ผมเธอ! ทำไมสั้นแบบนั้นกัน!!”

พวกเขาชี้ไปที่ผมของน้องสาวที่จากเดิมเป็นสาวมัดผมยาวมากๆ แต่ตอนนี้ผมน้องสาวยาวแค่ประบ่าเท่านั้น สองหนุ่มคิดเลยว่าถ้าผู้เป็นแม่เห็นน้องสาวผมสั้นขนาดนี้ท่านจะตกใจแค่ไหนกัน

 

“อ๋อ...หนู...ดูดีขึ้นไหมล่ะค่ะ เปลี่ยนลุคเป็นสาวผมสั้นน่านะ ไว้ผมสั้นแล้วมันสบายดีมากๆ เลยล่ะ”

“ก็ดูดีนะ…” เอเดอร์เอ่ยชมออกมา

“ถึงดูดีก็ตามนะ ทำไมถึงตัดผมล่ะ เธอมีปัญหาหรือไง หรือว่าเจ้าคราวิลมาก็เลิกกับเธอ!!” เบเดอร์ตะโกนถามน้องสาวทันที

โฟกัสได้ยินพี่ชายถามแบบนั้นทำเอาเธอตกใจแล้วปิดปากพี่ชายทันที “พี่เบเดอร์เงียบปากเลยนะ แล้วพี่รู้ได้ไงว่าฉันกับคราวิลคบกันอยู่นะ!!”

“ง่ายๆ นะ เธอสองคนชอบอยู่ด้วยกันนี่น่า บางครั้งพวกเธอออกไปเดทกัน ช่วงเรียนก็เล่นหายไปพร้อมกันอีกน่านะ” เอเดอร์ตอบคำถามให้น้องสาว

ทำเอาคนเป็นน้องสาวหน้าแดงขึ้นมาทันที “นี่พวกพี่รู้กัน...”

เบเดอร์ดันมืออีกฝ่ายออกจากปากทันที “ใช่! พวกเราทุกคนรู้มานานแล้วนะสิ!”

โฟกัสถึงกับขมวดคิ้วด้วยความอายที่เธอพึ่งมารู้ว่าพวกพี่ๆ รู้แล้วว่าเธอคบกับใคร สองแฝดพูดแบบนั้นออกไปรีบกระซิบทันที

“ฉันไม่นึกว่าจะจริงที่สองคนนั้นคบกัน” เอเดอร์กระซิบทันที

“จริงด้วยนะ แต่เรื่องผมของยัยนั้น แม่เห็นได้หัวใจวายแน่ๆ”

“เห็นด้วยเลยล่ะ”

ระหว่างที่สองหนุ่มกำลังกระซิบกันระหว่างที่โฟกัสกำลังยืนคิดอะไรอยู่ สามแฝดที่กำลังจะกลับบ้านก็มาเจอพวกพี่ๆ กำลังยืนอยู่ทางที่กำลังจะกลับบ้าน

“นึกว่าพวกพี่ๆ ถึงบ้านกันแล้วนะเนี่ย มัวคุยอะไรกันนะ?เรน่าถามพวกพี่ชาย

พอพวกเขาเดินมาถึงพวกพี่ๆ คารีเซลหันมามองพี่สาว เธอถึงกับสะดุ้งตกใจกับทรงผมของพี่สาวทันที

"พี่โฟกัสตัดผมเหรอ?"

“เอ๋! ?อีกสองคนหันไปมองทันที

“พี่ผมทำไมนะ! พี่คราวิลเลิกกับพี่เหรอ?มาร์โคถามอย่างสงสัย

“ไม่มีอะไรนะ...พี่แค่อยากเปลี่ยนลุคของตัวเองนะ” โฟกัสหน้าแดงทันทีที่พวกเขาพูดถึงแฟนหนุ่มของเธอ

“นึกว่าเจ้าพี่บ้านั้นบอกเลิกพี่ ไม่งั้นพวกเราจะไปจัดการถามเลยล่ะว่าพี่สาวผมทำอะไรถึงบอกเลิกพี่”

“น่าๆ พี่กับเขาไม่เคยมีเรื่องกันถึงขั้นทะเลาะกันนะ”

“หึ...แต่ว่านะ พี่ไม่กลัวแม่ตกใจเรื่องผมพี่เลยนะ”

โฟกัสจ้องมองน้องชายด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย ทำเอามาร์โคเหมือนโดนงูจ้องจนไม่สามารถขยับได้ เธอหันหน้าหนีแล้วเดินหาหลานสาวที่อยู่ข้างๆ พร้อมกับอุ้มเธอขึ้นมาทันที

“ถึงแม่จะตกใจไปมันก็ไม่กลับมาหรอกนะ เอาล่ะกลับบ้านกันเถอะ เดียวอาหารที่บ้านเย็นหมดพอดี”

“คร้าบ/ค่ะ”

 

พวกพี่น้องขานรับ โฟกัสก็เดินนำไปเป็นคนแรกทันที คาเร็นน่ากอดคออีกฝ่ายอย่างสบายใจ ครั้งแรกที่คาเร็นน่าเห็นน้าสาวเปลี่ยนไป เธอตกใจนึกว่าคุณแม่ เลยเผลอถามออกไป

 

‘คุณแม่เหรอคะ?คาเร็นน่าถามอย่างสงสัย

โฟกัสได้ยินกับรู้สึกขำออกมาทันที ‘หึๆ ไม่ใช่จ้ะ คาเร็นน่า นี่น้าเองนะ’

‘เอ๋ น้าโฟกัส!!’

 

คาเร็นน่าตกใจมากๆ ที่น้าสาวตัดผม ทำให้เหมือนคุณแม่ของเธอมากๆ ทำให้คาเร็นน่าคิดเลยว่าถ้าแม่กับน้าสีผมเดียวกันคงงงน่าดูว่าคนไหนเป็นแม่ พวกโฟกัสกำลังเดินกลับมาบ้านอยู่นั้น ก็ไม่รู้ว่าที่บ้านกำลังเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นมา

 

เมื่อสองพ่อลูกประจันหน้ากันอยู่ภายในห้องครัว สองพ่อลูกกำลังมองหน้ากันอย่างไม่มีวี่แววว่าจะพูดอะไร โอราอุสจ้องมองพ่ออย่างสงสัยว่าเขาจะทำอะไรกับเขากัน ภายในห้องครัวยิ่งร้อนๆ จากการทำอาหารยิ่งทำให้โอราอุสอึดอัดใจกว่าเดิม ก่อนที่ตัวเขาเองนั้นจะเอ่อพูดขึ้นมา

 

“พ่อจะทดสอบอะไรผมหรือครับ?

“ทดสอบอะไรเหรอ?เพอร์ซีย์ยกมือขึ้นมาลูบข้างของตนอย่างครุ่นคิด “งั้นขอถามหน่อยละกัน”

“แกยอมรับได้ที่ลิซ่าเป็นเทพีที่มีอายุมากกว่าแกตั้งหลายปีนะ?

“ผมยอมรับได้ครับ!!” โอราอุสตอบอย่างชัดถ้อยชัดคำ

“แล้วแกยอมรับแล้วใช่ไหม? ว่าตนเองจะมีเงินเดือนที่ดีที่สามารถดูแลเธอได้ตลอดทุกๆ ปีนะ!!”

“ยอมรับครับ! ถึงงานที่ผมทำประจำอาจจะเงินมาบางไม่มาบาง ผมก็จะดิ้นรนหาเงินมาดูแลเธออย่างดีเลยครับ!”

“งั้นสุดท้ายแกยอมได้เหรอที่ตัวเองตายแล้วเธอจะต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวบนโลกนี้ไปอีกตลอดนานแทนนะ”

ข้อสุดท้ายทำเอาโอราอุสจุกไปเลยว่าถ้าเขาตายแล้วหญิงที่เขารักจะอยู่บนโลกนี้อย่างโดดเดี่ยวไปตลอด โอราอุสกำหมัดแน่นก่อนจะถอนหายใจเข้าลึกๆ

“ถึงในใจผมจะไม่ยอมรับจุดนี้ที่ผมต้องตายเมื่อชราลงหรืออะไรที่จะเกิดขึ้นกับผม แต่ผมก็จะใช้ชีวิตกับเธอจนทำให้เธอมีความสุขและไม่ให้เธอโดดเดี่ยวจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตผม ผมจะทำให้เธอรู้สึกว่าผมอยู่ในหัวใจของเธอตลอดไปถึงแม้จะตายไปแล้ว”

เพอร์ซีย์มองด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉย จนโอราอุสรู้สึกไม่ดีถ้าคนเป็นพ่อไม่ยอมให้เขาคบกับลิซ่า โอราอุสถึงกับเหงื่อแตกจนไหลออกมาเยอะมากๆ เพอร์ซีย์เข้าไปใกล้ๆ เจ้าลูกชายก่อนจะแตะไหล่ของลูกชาย

“ฉันยอมให้แกคบกับเทพีคนนั้น โอราอุส”

“เอ๋?โอราอุสเงยหน้าขึ้นมาทันที “พ่อยอมให้ผมคบกับอลิซ่าเบ็ธเหรอครับ?

“ใช่ แกก็20 แล้วก็น่าจะมีความรับผิดชอบแล้วน่านะ จนใช้ชีวิตให้คุ้มกับที่แกมีละกันนะ เจ้าลูกชาย”

โอราอุสรู้สึกซาบซึ้งที่พ่อยอมรับให้เขาเป็นแฟนกับหญิงสาวที่เขาชอบ แต่เขาก็สงสัยว่าทำไมพ่อถึงตั้งคำถามพวกนั้น

“เดียวนะ! แล้วทำไมพ่อถึงตั้งคำถามกับผมแบบนั้นล่ะครับ! ?โอราอุสขมวดคิ้วถามอย่างสงสัยสุดๆ

“ก็ถามหน่อยเถอะ ถ้าแกไปเจอพ่อตาถามแบบนั้น แกจะได้ไม่เครียดไงล่ะ”

“พ่อตา?

เพอร์ซีย์เลิกคิ้วขึ้นเมื่อลูกชายงงกับคำว่าพ่อตา “แกคงไม่ลืมนะว่า พ่อของเทพีอลิซ่าเบ็ธเป็นใครนะ?

โอราอุสนึกคิดอยู่สักพักก่อนจะตกใจขึ้นมาทันที “ฉิบแล้ว!!”

 

โอราอุสพึ่งนึกได้ว่าพ่อของอลิซ่าเบ็ธคือโครนอส บิดาของเหล่าเทพ ยิ่งทำเอาเขาหน้าซีดเขาไปอีก อีกด้านสถานที่พักของโครนอสเขาจามขึ้นมาหนึ่งครั้ง เขาสงสัยทันทีว่าเขากำลังนินทาเขาอยู่ แถมเขายังรู้สึกแปลกๆ อย่างไม่ชอบมาพากลอีก ทางโอราอุสเขารีบเรื่องนี้เลยว่าถ้าคบกับเทพีเขาต้องรับมือกับพ่อตาที่ถ้านับๆ ญาติ เขาคือปู่ทวดเขานี้สิ ไม่รู้จะโดนมองยังไงนี้สิ ทำเอาตัวเขาเครียดขึ้นมาทันที ก่อนที่เพอร์ซีย์จะหยิกหูเขา

 

“โอ๊ยๆ” โอราอุสตกใจที่พ่อมาหยิกหูเขา

“แกตามพ่อมาเลย โอราอุส” เพอร์ซีย์ลากลูกชายให้ตามไปทันที

“พ่อๆ ผมเจ็บ!!”

“ยังเจ็บน้อยกว่าที่แกจะโดนฉันบททดสอบกับแกอีก เจ้าลูกชาย”

“บททดสอบ! ? ยังมีบททดสอบอะไรอีก!!”

“ใช่ ฉันยังจะบททดสอบให้แกเป็นลูกผู้ชายที่แข็งแกร่งกว่านี้ เพื่อวันใดโครนอสอยากสู้กับแก แกจะได้รับมือได้ไงล่ะ”

โอราอุสได้ฟังที่พ่อพูดเขาก็พอเข้าใจทันที “เข้าใจแล้วครับ! ขอความกรุณาด้วยครับ”

“ดี! งั้นไปห้องนั่งเล่นไปคุยกับว่าที่สะใภ้บ้านแจ็กสันกัน!”

“พ่อ!” เขาหน้าแดงทันทีที่พ่อพูดว่าอลิซ่าเบ็ธเป็นว่าที่สะใภ้ของบ้าน

 

สองพ่อลูกกำลังตรงกันไปที่ห้องนั่งเล่น เวลาผ่านไปสักหลายสิบนาที เหล่าพี่น้องของโพรทาเลียก็กลับมากันมาถึง คนแรกที่เข้าก่อนคนแรกคือ โฟกัสเธอเข้ามาข้างในช่างเงียบจนน่าสงสัย คนอื่นๆ ก็ตามเข้ามากันอย่างเงียบๆ พอเขาเดินกันเข้าไปเรื่อยๆ ก็เห็นห้องทางซ้าย คือห้องนั่งเล่นที่พวกเขาเห็นพ่อแม่นั่งอยู่ที่โซฟา แล้วมีพี่ชายกับเทพีอลิซ่าเบ็ธนั่งอยู่ที่พื้น พวกเขามองอย่างสงสัยเลยว่าเกิดอะไรขึ้น โพรทาเลียที่อยู่ด้านในได้ยินเสียงประตูก็รีบออกมา

 

“ทุกคน!!” โพรทาเลียพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ พร้อมกับกวักมือเรียกทุกคน “มาทางนี้เร็ว!”

เมื่อพวกเขาเห็นโพรทาเลียเรียก พวกเขาเลยเดินกันอย่างช้าๆ ไปหาโพรทาเลียทันที

“โพร เกิดอะไรขึ้นกับพี่โอราอุสนะ”

“อ๋อ...ก็...นิดหน่อยนะ...”

“เมื่อกี้เทพีอยู่ข้างๆ ลุงโอราอุสด้วย คุณลุงคงไม่ได้ทำอะไรเทพีใช่ไหมคะ!” คาเร็นน่าถามด้วยความสงสัยของเด็กน้อย

แต่ทำพี่น้องทุกคนของโพรทาเลียต่างตาโตกันทันที ทุกคนรีบตรงมาทางโพรทาเลียทันที

“พี่เขาทำอะไรเทพีเหรอ? พี่!”

“จริงด้วย! ไม่ใช่ว่าทำเทพีท้องนะ!”

“ไม่มีทางหรอกน่า ถ้าทำแบบนั้นพี่คงโดนพ่อด่าไปแล้วล่ะที่ทำผู้หญิงท้องก่อนแต่งนะ” โพรทาเลียพูดให้น้องๆ ใจเย็นๆ ลง

“ก็จริงน่านะ แต่ว่ามีเรื่องอะไรกันนะ?

“ความลับ รอพี่เขามาบอกละกันนะ”

“เอออออออออ๋” ทุกคนขมวดคิ้วอย่างสงสัย

"อะไรกันอ่ะ ไม่บอกหน่อยเหรอ?" เบเดอร์ถามด้วยสีหน้าที่เซ็งๆ

“ทำไมพี่ไม่บอกจะตายเหรอ?

“ใช่ โคตรจะตายเลยล่ะ”

“งั้นก็รอต่อไป!” โพรทาเลียมองด้วยสายตาเจ้าเล่ห์

พอโดนโพรทาเลียพูดแบบนั้น เบเดอร์ถึงกับเลือดขึ้นหน้าขึ้นมาทันที “นี่เธอ!”

 

ทุกคนเห็นต่างขำกันออกมาทันที เอเดอร์ที่เป็นน้องชายก็ขำออกมา เขานึกถึงสมัยเด็กๆ ที่พี่ชายชอบหาเรื่องน้องสาวคนพี่เสมอ ทำเอาทั้งสองคนจะไม่มีหรอกว่าวันไหนจะไม่ทะเลาะกัน พอทุกคนขำออกมา สองพี่น้องมองทุกคนแล้วมองหน้ากัน พวกเขาก็ขำกันออกมา

 

“เธอนี่ทำให้พี่นึกถึงสมัยก่อนจริงๆ โพรทาเลีย”

“เหมือนกันค่ะ พี่เบเดอร์”

เบเดอร์มองน้องสาว เขาหลบหน้าไปทางอื่นเพราะรู้สึกว่าน้ำตาจะไหล เขายกมือขึ้นมาลูบหัวเธอ “ไปๆ พวกเรา ไปเตรียมอาหารอุ่นอาหารก่อนที่พ่อกับแม่จะออกมากัน”

“โอ๊ส!” ทุกคนต่างขานรับแล้วตามกันเข้าไปที่ห้องครัว

เอเดอร์เดินเข้าไปข้างๆ พี่ชาย ก่อนจะพูดขึ้น “ร้องไห้หรือไง? พี่”

“ร้องหาพระแสงอะไรล่ะ เจ้าบ้านี่!!” 

 

เอเดอร์ขำพี่ชายทันที เขารู้ว่าพี่ชายแอบร้องออกมา เพราะพี่ชายเป็นคนที่รักน้องๆ มาก ถึงจะบอกว่าไม่ได้รัก แต่เขาก็รักน้องมากกว่าใครๆ โพรทาเลียมองพี่เบเดอร์ที่เดินไป ตอนที่เห็นน้ำตาอีกฝ่ายไหลออกมาเธอเกือบมีน้ำไหลออกมาเหมือนกัน คาเร็นน่าลงจากตัวของโฟกัส เธอก็รีบเดินไปหาแม่ พร้อมกับสะกิดแม่ให้หันมาทางเธอ

 

“หือ?โพรทาเลียหันไปตามแรงที่สะกิด เธอเห็นลูกสาวตัวน้อยของเธอ เธอย่อตัวลงข้างๆ “มีอะไรจ๊ะ คาเร็นน่า”

“แล้วเขาคุยอะไรกันเหรอคะ? แม่”

“ความลับจ้า รอตอนทานข้าวเดียวพวกผู้ใหญ่จะมาบอกนะ ลูกไปล้างมือแล้วรอทานข้าวเถอะนะ” โพรทาเลียลูบหัวลูกสาวเบาๆ

“ก็ได้ค่ะ หนูไปนะ” คาเร็นน่าเดินไปที่ห้องครัวทันที

โพรทาเลียมองลูกสาวที่เดินตามพี่น้องเธอไป เธอมาคิดเลยว่าถ้าชีวิตเธอปกติ คงไม่ได้เห็นลูกสาวที่เดินตามพี่น้องของเธอในวัยแค่นี้ เธอคงมีลูกตอนนี้อายุเยอะกว่านี้ แล้วเห็นเด็กน้อยเดินตามผู้ใหญ่ต้อยๆ แน่ๆ โฟกัสเดินมาอยู่ข้างๆ พี่สาว

“ดูเหมือนมีเรื่องวุ่นทั้งวันเลยเนอะ?

“ใช่ โคตรวุ่นวายเลยนะ”

โพรทาเลียหันมามองโฟกัสแป๊บหนึ่งแล้วหันกลับมามองข้างหน้า แต่แวบแรกนั้นเธอเห็นความแปลกประหลาด เธอเลยหันกลับไปมองอีกฝ่ายทันที แล้วตกใจกับทรงผมของอีกฝ่าย

“โฟกัส! เธอตัดผม!!”

“อ๋อ ใช่ พวกพี่เบเดอร์ก็ตกใจเมื่อกี้เหมือนกัน...” โฟกัสจับปลายผมที่อยู่แค่ประบ่า

“ทำไมล่ะ? ผมเธอก็สวยดีออก ทำไมถึงทำแบบนี้ล่ะ”

“ฉัน...ฉันอยากเปลี่ยนตัวเองนะ อยากเป็นคนที่แข็งแกร่งและเป็นที่พึ่งพาของพี่ได้ แล้วก็...ฉันไม่อยากมีผมยาวเหมือนกับปีศาจนั้น...”

“โฟกัส...” โพรทาเลียอึ้งกับคำตอบนั้นของน้องสาว

"พอฉันนึกถึงผมยาวของตัวเองที่ไว้มาพร้อมกับยัยปีศาจนั้น ความขมขื่นที่มันทำกับเราก็เข้ามา ฉันอยากเป็นเหมือนพี่สาวที่อดทนจน...กลับมาอยู่กับครอบครัวได้อีกครั้ง"

โพรทาเลียได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับรู้สึกซึ้งกับคำพูดของน้องสาว “เธอนี่...มีอะไรให้มีน้ำตาตกตลอดเลยนะ”

“คิกๆ ...ก็แน่ล่ะ “ น้ำตาของโฟกัสก็ไหลออกมา เธอรีบเช็ดน้ำตาที่กำลังไหลออก ” ฉันทำแบบนี้ เพราะฉันรักพี่...ฉันอยากเป็นน้องสาวพี่ที่จะอยู่ข้างๆ และรักพี่ไปตลอด”

“คิกๆ” โพรทาเลียจับมือน้องสาว โน้นตัวเอาหน้าผากชนกัน “ขอบใจนะ โฟกัส พี่ก็รักเธอเหมือนกัน”

พี่น้องทั้งสองคนกำลังแสดงความรักของพี่น้องกันอยู่นั้น พวกผู้ใหญ่ก็ออกมาจากห้องนั่งเล่นหลังจากคุยเสร็จ เพอร์ซีย์นำออกมาคนแรก เขาเห็นโพรทาเลียกำลังยืนอยู่กับใครที่มีผมสีบลอนด์ ทำให้เขาสงสัยว่าเด็กคนนั้นเป็นใครก่อนจะถามออกไป

“โพรทาเลีย ลูกอยู่กับใครนะ?

โพรทาเลียกับโฟกัสได้ยินก็ต่างหันไปมองคนเป็นพ่อ พอโฟกัสหันหน้าไป เพอร์ซีย์เห็นใบหน้าอันคุ้นเคย เขากะพริบตาสองสามครั้ง ก่อนจะตกใจทันที

“โฟกัส!! ลูกตัดผมเหรอ!!”

“ว่าไงนะ!” แอนนาเบ็ธได้ยินรีบเดินออกมาดูลูกสาวของเธอทันที “ตายแล้ว โฟกัส! ลูกทำอะไรกับผมของลูกนะ”

“มะ...แม่ค่ะ!! คือหนู...ขอโทษค่ะ หนู...” โฟกัสพอเจอแม่เธอก็กังวลทันทีที่แม่เขามาด้วยสีหน้าแตกตื่นแบบนั้น

“แม่ค่ะ ใจเย็นๆ นะ โฟกัสเขามีเหตุผลนะคะ” โพรทาเลียพูดให้แม่ใจเย็นๆ

“เหตุผลเหรอ?แอนนาเบ็ธมองลูกสาวทั้งสองคนอย่างสงสัย

“หนูขอโทษนะคะที่หนูตัดผมที่แม่และหนูช่วยกันบำรุงและดูแลมาตลอด แต่ว่าหนูทนมันไม่ได้แล้วนะ เส้นผมที่ไว้ยาวพร้อมกับปีศาจตนนั้น หนูอยากตัดมันทิ้งไปตั้งแต่ที่หนูรู้ว่าคนที่อยู่ข้างๆ ไม่ใช่พี่สาวมาตลอด และหนูอยากเปลี่ยนตัวเองเป็นคนที่แข็งแกร่งและสามารถปกป้องพี่สาวและครอบครัวได้”

“ลูก...” แอนนาเบ็ธได้ยินสิ่งที่ลูกพูดออกมา ทำให้คนเป็นแม่อึ้งไปสักพัก

“หนูนะ...อยากเหมือนพี่โพรทาเลียที่เป็นสาวที่แข็งแกร่ง เธอฟันฝ่าทุกอย่างมาได้จนได้กลับมาหาเรา หนูอยากเป็นเหมือนพี่สาวที่ยอมฟันฝ่าทุกอย่างมาได้ ถึงแม้ทุกคนจะบอกว่าเป็นได้ โดยไม่ต้องตัดผม หนูอยากตัดค่ะ หนูอยากตัดเพื่อทิ้งอดีตอันเลวร้ายออกไป! ขอให้แม่เข้าใจด้วยนะคะ!!”

แอนนาเบ็ธยืนนิ่งเธอไม่รู้เลยว่าตัวเองพูดอะไรดี เพอร์ซีย์มองภรรยาที่ยืนนิ่งไป เขาเข้าใจสถานการณ์ตรงนี้ เขาเลยเข้าไปจับไหล่ทั้งสองข้างของภรรยาเบาๆ

"พ่อกับแม่เข้าใจแล้วล่ะ"

“เพอร์ซีย์...” แอนนาเบ็ธมองสามีของตนที่เข้ามาพูด

“พวกลูกๆ โตกันแล้วนะ เราคงต้องเข้าใจพวกแกมั้ง แล้วอีกอย่างลูกๆ ยังโตกันได้อีกเยอะ เดียวผมก็ยาวอีกนั้นล่ะ”

แอนนาเบ็ธมองลูกสาวที่ตัดผมออกไป เธอทำปากเบ้เหมือนอย่างจะร้องไห้ ก่อนจะถอนหายใจ “เฮ้อ...ก็ได้แม่ยอมแล้วล่ะนะ ความสุขของลูกๆ เป็นสิ่งแม่อยากเห็นที่สุดนั้นล่ะ”

“เย้!” สองสาวต่างจับมือกระโดดดีใจกัน

“แต่พอมองๆ ยิ่งผมสั้น ถ้าสีผมคล้ายกันทั้งสองคนก็คล้ายกันมาก สมแล้วที่เป็นลูกแฝดของพ่อนะ”

เพอร์ซีย์มองลูกสาวทั้งสองที่มีทรงผมเหมือนกัน ทั้งสองหันหน้าไปยิ้มให้คนเป็นพ่อ พวกเธอมองหน้ากันก่อนจะเดินไปหาพ่อกับแม่ โพรทาเลียไปอยู่ตรงกลางแล้วเกี้ยวแขนพ่อกับแม่ ส่วนโฟกัสไปอยู่อีกข้างของแม่

“ขอบคุณนะคะ แม่” โฟกัสกอดแขนของแม่ พร้อมกับยิ้มทันที

“ไปทานข้าวกันค่ะ คุณพ่อ คุณแม่” โพรทาเลียหันหน้ามองพ่อกับแม่ของเธอ

 

ทั้งสองคนมองลูกสาวที่พวกเขาไม่ได้เลี้ยงมาตั้งหลายปี ความรู้สึกคิดถึงช่างเต็มอกไปหมด เพอร์ซีย์ยื่นหน้าเข้าไปหอมศีรษะของลูกสาวเบาๆ โพรทาเลียยิ้มอย่างชอบใจ เธอก็หันไปหาคนเป็นแม่ แอนนาเบ็ธมองลูกสาวทั้งสองคนที่ยิ้มให้เธอ เธอมีความสุขที่ได้เห็นรอยยิ้มอันน่ารักแบบนี้อีกครั้ง ลูกทั้งสองซบไหล่ของแม่ทันที

 

“เนี่ย! แล้วแม่จะโกรธลูกสองคนได้ไงกัน โพรทาเลีย โฟกัส”

“ก็แม่ไม่เคยโกรธพวกเราได้เลยนี่น่า”

“จริงด้วยค่ะ”

 

ทั้งสองควงแขนผู้เป็นแม่ไปยังห้องทานอาหาร คนเป็นพ่อมองอย่างเศร้าๆ ที่ลูกแฝดไม่มาควงแขนเขามั้ง ลูกชายคนโตเลยแตะไหล่ผู้เป็นพ่อเบาๆ เหมือนปลอบใจเขา พวกเขาเดินกันไปถึงห้องครัว ลูกๆ แต่ละคนกำลังจัดโต๊ะเพื่อรอทานอาหารกัน พอพ่อแม่มาพวกเขาก็พาพ่อแม่ไปที่โต๊ะอาหารแล้ว วันนี้มีสปาเก็ตตี้บีมบอล คาโบนาร่า และซอสทูน่าชีส ขนมปังกระเทียม สลัดผักมากมาย ทำเอาทุกคนต่างน้ำลายไหลเพราะอาหารตรงหน้า เบเดอร์กับเอเดอร์ช่วยกันตักอาหารใส่จานให้ทุกคน พอตักเสร็จพวกเขาก็นั่งลงก่อนจะ สวดมนต์ก่อนทานข้าว พอสวดมนต์เสร็จพวกเขาก็ทานอาหารกันทันที

 

“อร่อยจังเลย บีมบอลนี่อร่อยจริงๆ เลยค่ะ”

“รสชาตินี้รู้เลยว่าคนที่ทำคือพี่โอราอุสนะคะ” เรน่าเอ่ยขึ้นระหว่างทานสปาเก็ตตี้คาโบนาร่า

โพรทาเลียเลือกสปาเก็ตตี้ซอสทูน่าดู รสชาติอันละมุนลิ้น รสครีมๆ ผสมกับความเค็มของทูน่า ช่างเข้าได้ดีกับชีสที่โรยบนหน้า ทำเอาโพรทาเลียชอบใจกับรสชาตินี้จริงๆ

“อร่อยมากๆ เลยล่ะค่ะ” โพรทาเลียชมรสชาติอาหารที่เธอชื่นชอบออกมาอย่างหน้าตาเบิกบาน

“จริงด้วยนะคะ ฉันรู้สึกชอบสปาเก็ตตี้บีมบอลขึ้นมาเลยนะคะ” ลิซ่าเอ่ยชมรสชาติอาหารของโอราอุส

ทำเอาเจ้าตัวเขินขึ้นมาทันที “ดีใจที่ทุกคนชอบอาหารที่พี่ทำนะ”

“หน้าแดงขนาดนั้นเลยนะ เจ้าลูกชาย คงเพราะว่าที่ลูกสะใภ้ของพ่อชมออกมาสินะ”

“พรวดดดดดด!!” โอราอุสสำลักน้ำที่กำลังดื่มพอดี

“ลูกสะใภ้!?ทุกคนมองอย่างสงสัย

“นี่พี่จะแต่งงานกับลิซ่าเหรอ!?เบเดอร์ถามด้วยสีหน้าที่ตกใจ

“จริงเหรอคะ!” สองสาวต่างมองพี่ชายของตนเอง

โพรทาเลียมองอย่างนิ่งๆ เพราะตัวเองรู้ว่าเรื่องอะไรแน่ๆ

“ใจเย็นๆ กันหน่อยน่าทุกคน” โอราอุสพูดให้ทุกคนใจเย็นๆ ก่อนที่เขาจะทำใจสักพักก่อนจะพูดออกมา “คือพวกเราไม่ได้จะแต่งงานกันตอนนี้นะ แต่ในอนาคตก็ไม่แน่ แต่ตอนนี้คงต้องคบหาดูใจกันไปก่อนน่านะ”

“ที่คุยกันนั้น เนื่องจากโอราอุสกำลังขอคบกับเทพีอลิซ่าเบ็ธนะ”

“โอ้!” พวกสาวๆ ต่างมีสีหน้าที่ดีใจทันที

“ว้าว!! ได้พี่สะใภ้เป็นพี่ลิซ่า ถูกใจมากๆ เลยค่ะ” โฟกัสเอ่ยขึ้นอย่างมีความสุข

“ใช่แล้วน่านะ มีพี่สะใภ้เป็นแม่ที่ดูแลหนูมาตั้งแต่ 6 ขวบนี่น่า”

“โพร! น้องไม่ต้องมาประชดพี่เลยนะ!”

โพรทาเลียยกยิ้มขึ้นมาทันที ทุกคนต่างขำกันอย่างสนุก

“แม่ดีใจนะที่ได้คนที่น่าไว้ใจมาเป็นลูกสะใภ้นะจ๊ะ แล้วก็ระหว่างศึกษาดูใจกันก็อย่าลืมหาเงินเข้ามาเพื่ออนาคตก็พวกเธอกันด้วยนะ และอีกอย่างแม่ก็รอจะอุ้มหลานเพิ่มอยู่นะ”

“แม่!” โอราอุสถึงกบหน้าแดงขึ้นมาทันที

ลิซ่าที่ได้ยินแบบนั้นก็มีใบหน้าที่แดงขึ้นมาทันที “คุณแอนนาเบ็ธละก็...”

“เลิกเรียกว่าคุณแอนนาเบ็ธเถอะ อลิซ่าเบ็ธ เรียกฉันว่าแอนนาเบ็ธก็ได้จ้ะ...”

“เอ่อ...เรียกแบบนั้นมันดู...แปลกๆ นะเจ้าค่ะ” ลิซ่าดูลำบากใจหน่อยๆ ที่จะเรียกอีกฝ่ายด้วยชื่อเฉยๆ

“ถ้าลำบาก ลิซ่าก็เรียกคุณแม่เลยสิคะ” โพรทาเลียเสนอคำพูดดีๆ ออกไปทันที

“คุณ...แม่...” ลิซ่าพูดออกมาแล้วหันไปมองแอนนาเบ็ธ ทั้งสองคนมองหน้ากันก็เขินหน่อยๆ

“เอ่อ...เรียกคุณแม่ได้นะ...”

“จะดีเหรอเจ้าค่ะ?

“ฉันนะยังไงก็ได้นะ...”

“คุ...คุณ...แม...แม...” ลิซ่าพูดตะกุกตะกักจนหน้าแดงไปหมด

โอราอุสที่นั่งข้างๆ จับมือเธอเบาๆ เป็นการให้กำลังใจ “ใจเย็นๆ นะ อลิซ่าเบ็ธ เดียวก็พูดคล่องขึ้นนะ”

“โอราอุส...” ลิซ่าหน้าแดงยิ่งกว่าเดิม สองคนนี้เพิ่มความรักในบ้านซะทำเอาบางคนถึงกับเอียนทันที

‘เหม็นความรักชิ-’ เบเดอร์คิดในใจอย่างเซ็งๆ ที่มาเห็นอะไรแบบนี้

โพรทาเลียมองเทพีอย่างสบายใจที่อีกฝ่ายดูจะมีความสุขกว่าตอนอยู่ในปราสาทนั้น พอลิซ่าหันมาทางโพรทาเลีย โพรทาเลียแอบพูดเบาๆ ให้อีกฝ่าย

‘ยินดีกับความรักครั้งนี้นะ’

ลิซ่ายิ้มออกมา เธอก็พูดตอบกลับไป ‘ขอบใจจ้ะ’

“เอาล่ะ พวกเราทานข้าวต่อกันเถอะ พรุ่งนี้ต้องมีฝึกกันอีกนะ!” เพอร์ซีย์พูดพร้อมกับเตรียมทานอาหารต่อทันที

“โธ่!”

 

ทุกคนต่างโหร้องออกมาพร้อมกัน พวกเขาอุตส่าห์ไม่ได้คิดถึงการฝึกเลยสักนิด แต่คนเป็นพ่อกับพูดแบบนั้นออกมาทำเอาพวกเขาเหนื่อยใจขึ้นมาทันที เพอร์ซีย์เห็นลูกๆ มีสีหน้าไม่ชอบใจเขาก็หัวเราะออกมาอย่างชอบใจ โพรทาเลียเห็นพี่น้องโหร้องก็ขำเมื่อกัน ทุกคนต่างทานอาหารอย่างมีความสุข ค่ำคืนนั้นเป็นอีกคืนที่แสนจะมีความสุขกัน พอทานอาหารกันจนหมดทุกคนก็ต่างทำหน้าที่ของตัวเองกัน โพรทาเลียกำลังช่วยเก็บจานบนโต๊ะไปที่ฉิ่งล้างจาน

 

“ให้พี่ช่วยอะไรไหม สองสาว” โพรทาเลียถามเรน่าและคารีเซล

“ไม่นะคะ พวกเราทำได้ค่ะพี่”

“พี่ไปนอนเถอะนะคะ พวกหนูทำกันได้ค่ะ”

“วันนี้จะนอนกันข้างล่างกันอีกไหมนะ” โอราอุสถามทุกคนที่อยู่ข้างล่างกัน

“นอนข้างล่าง!!!” ทุกคนต่างพูดพร้อมกันทำเอาโอราอุสแบบรู้อยู่แล้วว่าต้องพูดแบบนั้น

“งั้นหนูไปช่วยนะ พี่” โพรทาเลียวางจานเสร็จก็ไปช่วยพี่ๆ ทันที

“พ่อแม่นอนข้างล่างด้วยได้ไหม?เพอร์ซีย์ถามขึ้นมาทันที

“เพอร์ซีย์!” แอนนาเบ็ธมองสามีที่อยากนอนกับลูกๆ ขึ้นมา

“เธอก็อยากนอนเหมือนกันใช่ไหมล่ะ แอนนี่” เพอร์ซีย์หันไปยิ้มให้ภรรยา

แอนนาเบ็ธถึงกับทำแก้มป่องขึ้นมาจนเป็นสีแดง เพอร์ซีย์เข้าไปหยิกแก้มของภรรยาทันที

“พ่อแม่รักกันดีจังเลยนะ” โพรทาเลียกระซิบกับพี่ชาย

“แน่อยู่แล้ว พวกท่านรักกันจะตายไป พวกท่านเคยตกลงไปยังนรกทาร์ทารัสมาแล้วนะ เกือบตายกันจนทั้งสองนั้นเข้าใจซึ่งกันและซึ่งมากขึ้นน่านะ”

“อืมๆ แบบนี้เอง” โพรทาเลียรับฟังก็รู้สึกสนใจนรกทาร์ทารัสขึ้นมาทันที

 

พอคุยกันเสร็จ โพรทาเลียก็ช่วยพี่ชายยกฟูทุกอันออกมายังห้องนั่งเล่น พวกเขาจัดห้องนั่งเล่นไม่ให้มีเฟอร์นิเจอร์มาเกะกะอะไรทั้งนั้น พอห้องนั่งเล่นโล่งพวกเขาก็เอาฟูมาจัดกันอย่างเป็นระเบียบ แล้วพี่น้องที่เหลือก็ไปเอาผ้าปูและหมอนต่างๆ ของตนเองลงมากัน พวกเขาจัดกันไม่กี่นาทีก็เสร็จ พวกเขาก็เตรียมหนังมาดูกันอีกก่อนนาน ระหว่างดูหนังก็คุยกันสนุกแบบสุดๆ คาเร็นน่าที่อยู่ในอ้อมกอดของโพรทาเลียได้หลับไปตอนเริ่มเรื่อง ทำเอาโพรทาเลียขำหน่อยๆ ก่อนจะพาไปนอนกับแม่ของเธอ

 

“หลับไปซะแล้วนะ หลานยาย”

“วันนี้คงจะเหนื่อยนะคะ” โพรทาเลียลูบหัวลูกสาวเบาๆ

“งั้นปล่อยแกนอนไปเถอะเนอะ เดียวแม่จะนอนแล้วล่ะ”

“ค่ะ ฝันดีนะคะ” โพรทาเลียกลับไปนั่งดูหนังกับทุกคนต่อ

 

เพอร์ซีย์กำลังดูหนังกับลูกๆ เขาก็เรียกโพรทาเลียที่กำลังยืนอยู่มานั่งกับเขา โพรทาเลียก็ไปนั่งกับพ่อ เขาโอบไหล่ลูกสาวพร้อมกับดูหนังกัน ทุกคนต่างดูอย่างมีสนุกจนพวกเขาเผลอหลับกันไป โพรทาเลียนั้นฮ้าวหนึ่งครั้งก็หันไปนอนลงบนที่นอนของตัวเอง เพอร์ซีย์เห็นลูกๆ หลับกันก็ลุกขึ้นไปปิดทีวี ทุกอย่างมืดไปหมด เขาเดินไปนอนข้างๆ ภรรยาของตัวเอง แล้วหลับไปทันที

 

เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง สายตาของโพรทาเลียค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา เธอค่อยๆ มองข้างๆ ของเธอว่าใครนอนอยู่ด้วย เพราะมีมือสองข้างกำลังพาดตัวเธออยู่ เธอเห็นว่าเป็นสองแฝดสามนอนกลับอย่างสบาย เธอค่อยๆ ยกมือของทั้งสองคนออกไปจากตัวเธอ พอวางลงทั้งสองคนก็มีการขยับตัวเล็กน้อย เธอนอนนิ่งดูว่าพวกเขาจะไม่ตื่นแล้วใช่ไหม

 

‘เฮ้อ...เอาล่ะ…’

 

โพรทาเลียค่อยๆ ลุกขึ้นจากที่นอน เธอเดินไปหยิบกระเป๋าคาดเอวที่วางไว้แถวโซฟา เธอหยิบขึ้นมาแล้วสวมมันไว้ที่เอวของเธอ เธอล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าคาดเอวแล้วหยิบกำไลที่เธอใช่ประจำออกมา แล้วกดปุ่มทำให้เธอกลายเป็นคีย์วันเดอร์เลอร์อีกครั้ง แต่ครั้งนี้ชุดของเธอเปลี่ยนไปเป็นชุดสีดำ หมวกมีปีกสีดำ เสื้อกั๊กแขนกุดสีดำ เสื้อข้างในสีขาว กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าบูตยาวสีดำ โพรทาเลียหันไปมองครอบครัวเธอ และ ลิซ่ากับลูกสาว เธอก้มโค้งทันที

 

“ขอโทษด้วยนะที่ต้องทำแบบนี้!”

 

เธอพูดจบก็ทิ้งจดหมายไว้ฉบับหนึ่งตั้งอยู่ที่เตาผิง แล้วเดินออกจากห้องนั้นไปอย่างเงียบๆ เธอมายืนอยู่ที่หน้าประตูบ้านเธอความรู้สึกผิดกำลังออกมาโดยไม่บอกทุกคน แต่เธอต้องทำไม่งั้นถ้าบอกทุกคน ทุกคนคงห้ามเธอไปแน่ๆ เธอเปิดประตูแล้วเดินออกจากบ้านนั้นไปทันที

 

จบตอนที่ 43 โปรดติดตามตอนที่ 44 ต่อไป