ตอนที่ 70 สิ่งที่โหยหามาตลอด

ท้องพระโรงภายในพระราชวังของทวยเทพ เลือดที่กำลังไหลรินจากแขนเพอร์ซีย์ยิ่งไหลมากขึ้น ถ้าโพรทาเลียยังกัดเขาไม่ปล่อยความเจ็บปวดยิ่งเล่นงานเขามากขึ้นไปอีก โพไซดอนจะช่วยลูกชาย แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะตีหลานสาวที่กลายเป็นปีศาจไป ทุกคนต่างตกใจกับสิ่งที่เห็น แต่เทพีอลิซ่าเบ็ธกำลังค้นหาบางอย่างภายในกระเป๋าที่โพรทาเลียชอบคาดเอว จนกระทั่งเจอขวดแก้วที่ใส่น้ำใสๆ ข้างในนั้นมีละอองระยิบระยับตลอดเวลา

 

“ฟีนีอุส!!” อลิซ่าเบ็ธหันไปหาอีกฝ่ายที่อยู่เฉยๆ

“ครับ!!”

“ช่วยง้างปากโพรทาเลียที!!”

“ห๊า!” ฟีนีอุสได้ยินแบบนั้นก็ตกใจเล็กน้อย แต่ก็ยอมทำตามทันที “ได้ครับ!!”

ฟีนีอุสรีบพุ่งตรงเข้าไปหาคุณเพอร์ซีย์ที่กำลังอดทนให้โพรทาเลียกัดเขา

“ขอโทษนะครับคุณเพอร์ซีย์!”

“นายจะทำอะไรกัน?

“เทพีขอร้องให้ผมง้างปากโพรทาเลย ผมก็ต้องทำครับ!!”

ฟีนีอุสสอดมือเข้าไปในช่องว่างระหว่างฟังที่แหลมคมของโพรทาเลีย เขาพร้อมง้างปากเธอทันทีจนมันอ้าออกจนแขนคุณเพอร์ซีย์หลุดออกมา โพรทาเลียยิ่งดิ้นจนฟีนีอุสเริ่มไม่ไหว

“เทพี!!”

“ข้าเทพีอลิซ่าเบ็ธ!” น้ำเสียงอันอบอุ่นกำลังเอ่ยพูดขึ้น แสงสว่างเกิดขึ้นรอบตัวของอลิซ่าเบ็ธ “น้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งโลกา จงนำผ่านมาซึ่งความบริสุทธิ์ จงชะล้างความชั่วร้ายให้หายไป ได้โปรดจงชะล้างร่างปีศาจนี่!!”

อลิซ่าเบ็ธเปิดจุกขวดพร้อมกับกรอกน้ำเข้าปากของโพรทาเลีย เมื่อน้ำไหลเข้าไปในคอของโพรทาเลียตัวเธอเริ่มสั่นจนดิ้นพล่ามกระโดดเตะฟีนีอุสออกไปจากตัวเธอทันที

"อ๊าก!!" ฟีนีอุสไถลไปกับพื้น

“นี่มันเรื่องอะไรกัน!!”

“จะไม่มีใครจับมนุษย์กึ่งเทพตนนั้นเลยหรือไง?

เทพบางตนเริ่มจะแสดงพลังของตนเอง แต่แล้วอลิซ่าเบ็ธก็เข้ามาขัดขวางพวกทวยเทพในทันใด

“อย่าทำแบบนั้นนะเจ้าค่ะ!”

"เจ้าจงหลบไป ถ้าปีศาจนั้นมาทำร้ายพวกเราขึ้นมาทำไง"

“เป็นแค่มนุษย์กึ่งเทพนั้นหลบไป!”

“มนุษย์กึ่งเทพ? ขอประทานอภัยนะเจ้าค่ะ! แต่ข้านั้นเป็นเทพเหมือนพวกท่าน!!” ออร่าอันทรงพลังเทียบเท่าซุสเปล่งประกายออกมา จนทำให้เทพทุกคนตะลึงกับสิ่งที่เห็น ออร่านั้นหายไปในทันใด “จงอย่าคิดจะทำอะไร เพราะเด็กคนนั้นกำลังต่อสู้กับปีศาจที่อยู่ข้างใน ใครขัดขวางอย่าหาว่าข้าไม่เตือน!!”

 

เธอจ้องเทพอย่างไม่วางใจว่าพวกเขาจะทำอะไร แล้วหันไปจ้องมองโพรทาเลียที่อยู่ในร่างปีศาจทมิฬกำลังดิ้นทุรนทุรายอย่างเจ็บปวด เพราะน้ำที่ดื่มเข้าไป มันทำให้ร่างกายปีศาจกำลังสลายหายไป เพอร์ซีย์กับแอนนาเบ็ธมองอย่างเป็นกังวลใจที่เกิดอะไรขึ้นกับลูกสาว เสียงกรีดร้องของโพรทาเลียดังไปทั่วทั้งโถงใหญ่ ร่างกายของเธอเริ่มรอยแตกเกิดขึ้นจนเกิดแสงสว่างขึ้น ทุกคนต่างรีบหันหน้าหลบหนีแสงนั้น

 

แสงเจิดจ้าชั่วขณะจนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ภายใต้แสงสว่างวาบนั้นลึกเข้าไปภายในห้วงแห่งจิตใจ สถานที่ที่แองเจิลอยู่เป็นประจำ ท่ามกลางพื้นโล่งสีขาวมีร่างอันน่าคุ้นเคยกำลังนอนขดตัวจับมือซึ่งกันและกันอยู่ จนกระทั่งคนหนึ่งตื่นขึ้น เปลือกตาเปิดขึ้นให้เห็นดวงตาสีเขียวที่จ้องมองภาพที่ขาวอย่างสับสนว่าทำไมรอบๆ เป็นสีขาว เธอค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งก็เห็นรอบๆ เป็นสีขาวไปหมดจนรู้ว่าที่นี่คือที่ไหน

 

“นี่มัน...ห้วงแห่งจิตใจ...” พอเห็นว่าตนเองอยู่ไหน เธอค่อยๆ ลุกขึ้นหาใครบางคน “แองเจิล!! ท่านอยู่ไหน? ออกมาอธิบายว่าทำไมเราอยู่ที่นี้อีกครั้งกัน!!”

เสียงเงียบลงไม่มีการตอบกลับของเทพองค์นั้นทำให้เธอมองไปข้างๆ จนมือของเธอแตะบางอย่างที่คล้ายๆ กำแพง โดยไม่มองอะไร เธอชกเข้าไปอย่างรุนแรงแต่ว่ามือเธอกับชาและเจ็บสุด

“โอ๊ย!! เจ็บเป็นบ้า! นี่มันเรื่องอะไรกัน!?โพรทาเลียจ้องมองมือตัวเองที่เจ็บสุด แต่เธอพึ่งสังเกตว่ามือเธอเล็กมากๆ และกำลังเลือดออกมา

“เขาเรียกว่าทำตัวเอง!” เสียงแองเจิลพูดขึ้น

“แองเจิล!!” โพรทาเลียเงยหน้ามองหาอีกฝ่ายอย่างขุ่นเคืองที่พูดแบบนั้นกับเธอ

อีกฝ่ายค่อยๆ เดินออกมาจากที่ซ่อนเร้น เมื่อโพรทาเลียเห็นก็ทำหน้าขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจ แต่เขาก็เข้าใกล้เธอแล้วพร้อมกับช่วยรักษาเธอ

“เจ้าไม่ควรทำอะไรเกินกำลังของตน โพรทาเลีย”

“ท่านหมายความว่าไง? ข้าเป็นคนที่แข็งแกร่งจนฆ่าพวกปีศาจได้หลายตน แต่แค่กำแพงนี่ฉันกับทำอะไรไม่ได้พร้อมกับได้รับบาดเจ็บแบบนี้? เดียวนะทำไมเสียงฉันดูแปลกๆ ไป”

“พึ่งรู้เหรอ?เขาลุกขึ้นพร้อมยืนอยู่ตรงหน้าอีกฝ่าย “ว่าเจ้ามีบางอย่างเปลี่ยนไป”

“หือ?โพรทาเลียเงยหน้าขึ้นจ้องมองอีกฝ่ายที่ยืนขึ้นแล้วตัวสูงว่าปกติ พอเธอยืนขึ้นยังสูงไม่เท่าเขาเลยสักนิด “นี่มัน...เรื่องอะไรกัน? ทำไมท่าน...ตัวสูงกว่าฉัน...ครั้งก่อนยัง...”

“หึๆ เจ้าดูมือตัวเองยังไม่สงสัยหรือว่าตอนนี้เจ้าเป็นอะไรไปนะ?

“เอ๋?โพรทาเลียขมวดคิ้วอย่างสงสัย แองเจิลสร้างกระจกขึ้นมา เธอเข้าไปใกล้ๆ พร้อมกับส่องมองตนเองในกระจก “นี่มันเกิดอะไรขึ้นนะ!?

 

ภาพตรงหน้าของเธอนั้นเป็นรูปลักษณ์ของเธอตอนอายุ 6 ขวบ เธอจำได้แม่นมากๆ เพราะเป็นอายุที่เธอจ้องมองบาดแผลตัวเองตลอดเวลา ตอนอยู่กับแซเทิร์นที่เกาะนั้น เธอมองตัวเองที่เปลี่ยนไป ก่อนจะหันไปหาน้องสาวที่นอนยังไม่ตื่น อีกฝ่ายก็เป็นเด็กเหมือนกัน ทำให้มีความสงสัยเลยว่าเกิดอะไรขึ้น

 

เธอหันไปหาแองเจิลในทันที “อธิบายมาเลยนะ แองเจิล ทำไมน้องสาวกับฉันถึงกลายเป็นแบบนี้!!”

“เพราะพวกเจ้าใช้พลังของอดีตชาติไปหมดแล้วไงล่ะ!”

โพรทาเลียขมวดคิ้วอย่างแปลกใจสักครู่ก่อนจะถามเพิ่ม “งั้นตอนนี้เรากลายเป็นเด็ก แล้วร่างต้นเราล่ะ!?

“ก็กลายเป็นเด็กเช่นกัน”

“ว่าไงนะ! แบบนี้พ่อกับแม่ก็ตกใจหมดสิ! แล้วเราจะฟื้นเมื่อไรกัน? เจ้าเคยมีเหตุการณ์แบบนี้ไหม?

“เคย สมัยยังเด็กๆ”

“จริงเหรอ? แล้วทางแก้ล่ะ?

“ปล่อยให้พลังกลับมาสัก 200 ปีก็กลับร่างเดิมแล้วล่ะ!”

“ว่าไงนะ!! จะบ้าเหรอ!! พวกแซเทิร์นจะบุกมาอีกรอบเมื่อไรก็ไม่รู้ ฉันไม่ได้มีเวลาว่างตั้ง 200 ปีนะ!!” โพรทาเลียโกรธขึ้นมาทันทีที่อีกฝ่ายเล่นมุกบ้าๆ กับเธอ

“โอเคๆ อย่าตะโกนไป ตะโกนไปก็ไม่ได้อะไรหรอกนะ!”

“ไม่ให้ตะโกนได้ไง จู่ๆ ท่านก็บอกว่าเรากลายเป็นเด็ก เพราะใช้พลังที่ท่านบอกว่าใช้แล้วจะช่วยทุกคนได้ แล้วนี่ไม่มีทางแก้ยังใช้เวลาเกือบ 200 ปี กว่าพลังจะกลับมาแล้วเราจะกลับร่างเดิมได้ไง!!”

“น่าๆ ใจเย็นๆ หน่อย อืม...” แองเจิลใช้ความคิดก่อนที่เขาจะสัมผัสบางอย่างได้ขึ้นมา “ดูเหมือนไม่ต้องรอพลังแล้วล่ะ”

“หมายความว่าไง?

“พวกเทพส่งพลังให้เจ้าตรงกับพลังของอดีตชาติทุกคน”

“ได้ไง?โพรทาเลียแปลกใจที่พวกเทพยอมมอบพลังให้แก่พวกเธอทั้งสอง

“ข้าว่าพ่อข้าคงช่วยขอให้เทพส่งพลังให้พวกเจ้า...ตอนนี้ตัวพวกเจ้าคงได้สติแล้วล่ะ”

“งั้นเหรอ? ต้องไปขอบคุณโครนอสสักหน่อย” โพรทาเลียยิ้มอย่างดีใจ แต่เธอสะดุดกับคำพูดอีกฝ่าย "แต่...ท่านบอกว่าคงได้สติ...แต่ทำไมเรายังตื่นขึ้น?"

“เพราะสิ่งที่ตื่นไม่ใช่ตัวพวกเจ้าตอนนี้?

“ท่าน...หมายความว่าไง?

แองเจิลต่อตัวลงมองโพรทาเลียอย่างใกล้ชิด “ร่างเจ้าอยู่ช่วงใด ร่างนั้นก็จะมีจิตวิญญาณนั้นเข้าไป”

“จิตวิญญาณ...ท่านคงจะไม่บอกว่าจิตวิญญาณในวัย 6 ขวบของฉันจะออกมาแทนตัวฉันที่อยู่ตอนนี้”

“ถูกต้อง”

“จะบ้าแล้วเหรอ? ตอนช่วง 6 ขวบของฉันเป็นช่วยที่เลวร้ายมากๆ เลยนะ ตอนนั้นฉันกลายเป็นปีศาจไปช่วงหนึ่ง แบบนี้มันจะไม่อันตรายเหรอ?

“มันก็ขึ้นกับคนข้างนอก! ว่าจะรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ไหมนะ?

 

คำพูดของอีกฝ่ายทำให้โพรทาเลียยกคิ้วอย่างงุนงงที่อีกฝ่ายจะไม่รับผิดชอบต่อสิ่งที่เขาก่อขึ้นจริงๆ ใช่ไหม แต่เธอก็มานึกคิดอีกทีว่าพวกเธอก็ผิดเหมือนกันที่ทำตามที่อีกฝ่ายพูดถึงเป็นแบบนี้ แต่มันฉุกเฉินมากๆ สักพักหนึ่งโฟกัสค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นอย่างรู้สึกสับสนว่าตัวเองอยู่ไหน เธอลุกขึ้นมานั่งแล้วมองรอบๆ

 

“นี่...ฉันอยู่ไหน?

เสียงของโฟกัสดังขึ้น โพรทาเลียหันไปมองพร้อมกับเดินไปหาในทันใด “โฟกัส!”

“พี่ค่ะ...” โฟกัสได้ยินอีกฝ่ายเรียกเธอ เมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบกับใบหน้าที่เธอไม่ได้เห็นมานาน “พี่กลาย...กลายเป็นเด็ก”

“นี้ๆ ไม่ใช่แค่พี่นะ?โพรทาเลียมองอีกฝ่ายอย่างยิ้มๆ

“เอ๋?โฟกัสเอียงคอ ก่อนจะมองมือตัวเองก็รับรู้ว่าตัวเองก็กลายเป็นเด็กเช่นเดียวกัน “ทำไมหนูกลายเป็นเด็กไปได้ล่ะ!!”

“พี่เข้าใจเลยว่าเธอนั้นก็ตกใจเหมือนพี่เลยล่ะ”

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันค่ะ พี่!!”

“ก็...เพราะ...”

สายตาของเธอจ้องมองแองเจิล จนโฟกัสเข้าว่าพี่สาวหมายถึงใคร แต่ว่าสายตาของโพรทาเลียเห็นบางอย่างที่ผิดแปลกไปนั้นก็คือ ปีกข้างหนึ่งของแองเจิลนั้น

“ปีกท่านไปไหน?

“...” รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาหายไปในทันที แต่เขาก็ยิ้มอ่อนๆ “ความลับ”

“ยิ้มได้น่าหมั่นไส้จริงๆ” โพรทาเลียหยีตามองอย่างเคืองหน่อยๆ กับรอยยิ้มอีกฝ่าย

“พี่ค่ะ...” โฟกัสจ้องมองพี่สาวอย่างไม่สบายใจถ้าพี่ทำอะไรแองเจิล “แล้วเรามาที่นี่อีกทำไมนะ?

“เราใช้พลังจนหมดนะ เลยมาอยู่ที่นี้”

“ใช่...”

“แล้วร่างเราล่ะ?

“คงตื่นแล้วล่ะ...”

“ตื่น? แล้วทำไมเราอยู่นี่กัน?

“ก็เพราะ...สิ่งที่ตื่นคือจิตวิญญาณของเราตามอายุของร่าง”

“เอ๋?โฟกัสมองอย่างงงงวยว่าพี่พูดถึงอะไร

 

ย้อนกลับมาสู่โลกความจริงในท้องพระโรง แสงสว่างได้หายไปเหลือเพียงผู้คนที่ยังยืนอยู่ที่เดิม เพอร์ซีย์รีบหันไปมองลูกสาว ร่างของเธอยังกลายเป็นปีศาจอยู่ ก่อนที่รอยแตกทั้งหมดจะสลายเปลือกนอกออกไปจนกลายเป็นโพรทาเลียคนเดิม ตัวเธอกำลังโน้นตัวล้มลงกับพื้น

 

“โพรทาเลีย!!” เพอร์ซีย์รีบวิ่งเพื่อจะไปรับตัวลูกสาว

แต่แล้วก็มีชายคนหนึ่งวิ่งตรงไปช่วยเธอได้ทันก่อน คนคนนั้นคือ ฟีนีอุสที่อยู่ใกล้มากที่สุดตัวโพรทาเลียมากที่สุด เมื่อเขารับตัวเธอนั้นเขาได้เห็นใบหน้าที่เขาคิดถึงมาตลอดตั้งแต่ยังเด็ก

“โพร…”

“หลบไป! ไอ้เด็กเวร!!” เพอร์ซีย์ผลักอีกฝ่ายออกจากลูกสาว จนฟีนีอุสล้มลงไปกับพื้นทันที

“!?ฟีนีอุสตกใจที่ตัวเองโดนผลักอีกแล้ว เขาหันไปมองคนที่ผลักเขา “คุณ...เพอร์ซีย์...คงไม่ลืมนะครับว่า...ผมเป็นว่าที่สามีเธอนะ...”

“แต่นายคงไม่ลืมว่าลูกสาวฉันยังอายุไม่ถึง 18 ปี นายก็ห้ามแตะ!!”

ทั้งสองจ้องมองด้วยสายตาไม่ถูกกันสุดๆ จนคนเป็นภรรยาต้องเข้ามาใช่สันมือตีลงบนศีรษะของสามี

“โอ๊ย!! ทำอะไรนะ แอนนี่!”

“ก็คุณเอาแต่เล่นนี่!! ไปผลักฟีนีอุสทำไมกัน!!” แอนนาเบ็ธจ้องมองสามีอย่างไม่ชอบที่สามีหวงลูกเกินไป “ไม่เป็นไรนะจ๊ะ ฟีนีอุส”

“ไม่เป็นไรครับ...” ฟีนีอุสค่อยๆ ลุกขึ้น เขายังมองโพรทาเลียที่กลับเป็นเหมือนเดิมแล้ว “แล้ว...ที่โพรทาเลียเป็นแบบนี้ เพราะอะไรกัน...?

“ข้าจะอธิบายให้ฟังตอนกลับค่ายเองเจ้าค่ะ” อลิซ่าเบ็ธกล่าวพูดออกมา

“มันเลวร้ายมากเลยเหรอ? อลิซ่าเบ็ธ” แอนนาเบ็ธจ้องมองด้วยสีหน้าที่กังวลใจ

อลิซ่าเบ็ธหันหน้าหนีพร้อมกับพยักหน้าเบาๆ จนสีหน้าแอนนาเบ็ธเปลี่ยนเป็นสีหน้ากังวลใจ

“แต่ก่อนอื่น...เจ้าเป็นใครกัน?ซุสเดินมาอยู่ตรงหน้าหญิงสาวที่เขาไม่รู้จัก แต่กลิ่นอายของเธอคล้ายๆ เขาจนรู้สึกโหยหาความรู้สึกนี้

น้ำเสียงของชายที่เธอฟังมาตลอดหลายครั้ง เมื่อยืนอยู่กับพวกคุณเพอร์ซีย์มันทำให้เธอรู้สึกนึกถึงความรู้สึกคิดถึงเล็กน้อย หันไปมองชายที่ดูแก่กว่าเธอมากๆ จนนึกไม่ถึงว่าเป็นพี่น้องกัน ช่างทำให้เธอขำออกมาเล็กน้อย

“คิกๆ”

“เจ้าขำอะไร?

“ขำ...ที่ท่านพี่ถามว่าข้าว่าเป็นใครไงเจ้าค่ะ?

“หือ? ท่านพี่เหรอ?

“เราไม่ได้เจอกันตั้งแต่ออกจากท้องพระมารดาเรอา ท่านก็คงจำข้าไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ แต่ว่าข้าไม่มีเวลามารำลึกความหลังนะเจ้าค่ะ” อลิซ่าเบ็ธย่อตัวทำความเคารพอีกฝ่าย แล้วหันหลังให้อีกฝ่ายแต่เธอก็หยุดเพื่อพูดบางอย่าง “ข้ามีนามว่า อลิซ่าเบ็ธ เจ้าค่ะ ท่านพี่ซุส”

เธอกล่าวพูดจบแล้วเดินกลับไปหาพวกเพอร์ซีย์ ทำให้คนเป็นพี่ชายมองน้องสาวที่ไม่เคยรู้จักเดินออกไปอย่างไม่สนเขา โพไซดอน ดิมีเทอร์ ฮาเดส เฮร่า เดินมาอยู่ขะหนับข้างอีกฝ่ายที่ยื่นจ้องมองผู้เป็นน้องเดินออกไป

“ทำสีหน้าน่าเยี่ยงนั้นไป นางก็ไม่มีทางย้อนกลับมาหรอกนะ ซุส” ฮาเดสเอ่ยขึ้นก่อน

“ใครสนล่ะ?ซุสหันหลังเดินออกไป แล้วกลับเป็นร่างเทพตัวสูงใหญ่

ทุกคนต่างส่ายหน้าให้กลับซุสที่ดื้อรั้นไม่ยอมรับความรู้สึกจริงๆ ของตนเองมาตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว เทพทุกองค์ก็กลับร่างเดิมของตนพร้อมกับเดินไปที่บัลลังก์ของตน ซุสนั่งลงยังบัลลังก์ของตน

“เรื่องทุกอย่างก็หมดไปเรียบร้อย!! พวกเจ้าคงไม่วุ่นวายกับเวลาของพวกเราอีกแล้วสินะ”

เพอร์ซีย์มายืนต่อหน้าทวยเทพ เขาอุ้มโพรทาเลียเอาไว้ในอ้อมกอด “ขอบคุณเหล่าเทพที่ช่วยเหลือเรา”

“หวังว่าจะไม่มีเรื่องวุ่นอีก จงกลับไปได้!!” ซุสกล่าวจบเขาเดินออกจากจุดนั้นไปในทันที

 

เรอาเห็นผู้เป็นลูกเดินออกไปอย่างไม่สนใจอะไร เธอเลยลองตามอีกฝ่ายไป ส่วนพวกเพอร์ซีย์ได้เทพีอาธีน่าและเทพโพไซดอนพากลับไปยังค่ายในทันใด โดยไม่ต้องใช้ลิฟต์พากลับ เรอาเดินตามซุสจนมาถึงสวนภายในโอลิมปัส เธอไม่เคยเห็นซุสเดินมาแถวนี่เท่าไร จนเห็นซุสนั่งอยู่คนเดียวอย่างเงียบๆ

 

“ท่านตามข้ามาทำไม? ท่านมารดา”

“ข้ากำลังคิดว่ามีเด็กร้องไห้หรือเปล่าไงล่ะ?

“หึ ข้าจะร้องทำไม ไม่ได้มีเรื่องให้เศร้าสักหน่อย”

เรอาเดินเข้าไปใกล้ๆ พร้อมกับวางมือลงบนผมอีกฝ่ายเบาๆ

“เจ้าเป็นลูกแม่ แม่รู้ทุกอย่าง เจ้ารู้สึกโดดเดี่ยวมาตลอดถึงจะมีเทพเคียงกายแค่ไหนก็ตาม จนเจ้าเจอสิ่งที่เขาขาดหายไป...”

ฟังคำพูดของเรอาช่างทำให้ซุสรู้สึกมันเหมือนทิ่มแทงหัวใจเขาแค่ไหนที่มีคนรับรู้ถึงความรู้สึกของเขา

“แต่นางกลับเดินจากเจ้าไป...ซุส...อลิซ่าเบ็ธจะไม่ได้อยู่กับเจ้าอีกแล้ว...จิตใจนาง...กำลังจะกลายเป็นมนุษย์...”

“!!”

ซุสตาโตในทันใดเมื่อได้ยินแบบนั้น การกลายเป็นมนุษย์สำหรับเทพเท่ากับตายเลยทีเดียว หัวใจเขารู้สึกสับสนและหวิวๆ จนเขาหันไปหามารดา

“ไม่...นางต้องไม่...”

"ซุส..." เรอาสัมผัสใบหน้าลูกชายพร้อมกับทำสีหน้าเศร้าใจ "นางจะตายเยี่ยงมนุษย์เพื่ออยู่กับคนรัก...เจ้าจะทำอะไรก็ทำ แต่...อย่าไปขัดขวางชีวิตที่นางเลือกเป็นอันขาด…"

“ท่านพูดแบบนั้น...แล้วจะให้ข้าทำอะไรได้...ข้าไม่มีสิทธิ์ยุ่งชีวิตของใคร...แม้กระทั่ง...น้องสาวที่ข้าไม่รู้จัก...”

“งั้นเจ้าก็จงช่วยเมื่อนางลำบาก อยู่ข้างนางจนกว่าพวกเจ้าพี่น้องจะจากลากัน แม่จะภูมิใจที่เจ้าทำแบบนั้น”

 

ซุสนิ่งไปสักพักแล้วซุกใบหน้ากับตัวของมารดา ตัวเขาสั่นเทาไปหมดเหลือเพียงเสียงสะอื้นที่เบากว่าสายลมที่พัดผ่าน ท้องฟ้าในคืนนั้นเกิดฟ้าคะนองและฝนตกหนัก ความรู้สึกอึดอัดมาตลอดกลับถูกปลดปล่อยในวันเดียว เรอาลูบหัวซุสอย่างอ่อนโยนเพื่อให้เขาระบายความรู้สึกออกมา

 

“ข้าเป็นเทพ...แต่กับรู้สึก...รู้สึก...เจ็บปวดใจยิ่งกว่าอะไร...”

“แม่เข้าใจ...แม่ก็เคยรู้สึก...การเสียลูกๆ ของแม่ และการเสียสามีไป มันเป็นยังไง จงระบายมันออกมา ลูกรัก”

 

ผู้เป็นมารดาโอบปลอบลูกชายอย่างห่วงใย ลูกทุกคนของเธอเป็นลูกที่เธอรักอย่างเท่าเทียม เฮร่าที่แอบฟังอยู่ข้างๆ สวน เธอรู้สึกเศร้าใจเช่นกันที่เธอไม่สามารถช่วยสามีได้ ถึงจะโกรธเคืองที่เขาชอบหาหญิงสาวมาเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไป จนกระทั่งผู้เป็นมารดาและหญิงสาวที่เป็นฝาแฝดของเขากลับมา คงไม่มีอะไรมาเติมเต็มได้เหมือนที่พี่น้องทุกคนเป็นว่าอะไรบางอย่างนั้นขาดหายไป

 

“ไม่ใช่แค่ท่าน...พระสวามี...พวกเราพี่น้องทุกคนก็รู้สึก...ว่ามีบางอย่างขาดหายไป...” น้ำตาของเฮร่าไหลรินลงอาบแก้มของตน

 

จบตอนที่ 70 โปรดติดตามตอนที่ 71 ต่อไป