94 ตอน ตอนที่ 94 สถานการณ์ที่ไม่สู้ดี
โดย YukiCoCo
ตอนที่ 94 สถานการณ์ที่ไม่สู้ดี
การขอความช่วยเหลือจากสายเลือดเดียวกันนั้นเป็นอะไรที่น่าอึดอัดยิ่งกว่าอะไร สองหนุ่มที่ได้รับคำขอมานั้นก็มองหน้ากันอย่างครุ่นคิดว่าจะทำยังไงดีก่อนที่พวกเขาจะตกลงในวันนั้น เธอได้พักอย่างสบายใจ แต่ก็ยังมีความระแวงว่าพวกที่อยู่ที่นี่เป็นพวกแซเทิร์นหรือเปล่า เธอจะไม่ไหวใจเต็มร้อยเท่าไหร่ จนกว่าจะให้แน่ใจว่าในค่ายนี้มันคืออะไร เช้าวันต่อมา โฟกัสก็ตื่นอย่างเพลีย ๆ ถึงจะนอนเต็มอิ่มไปเกือบครึ่งวันแล้วก็ตามที เธอมองซ้ายมองขวาว่าพี่สาวอยู่ไหน ก็เจอกับโพรทาเลียกำลังจดบางอย่างจากการเล่ารายละเอียดต่าง ๆ ของคนในบ้านโพไซดอนให้เธอฟังอยู่
“ก็ตามที่บอกนะ คุณดีอยู่ตั้งแต่รุ่นพ่อของเธอ”
“อืม ๆ เรื่องแรกที่ไม่มีตั้งแต่ที่ฉันเข้าค่ายคือคุณดีไม่ได้ดำรงตำแหน่งนี้แล้ว แล้วพ่อฉันเป็นตัวแทนดูแลต่อเอง...เห็นว่าอยู่แต่เขาโอลิมปัสใกล้สายตาของซุสล่ะนะ”
“อย่างงั้นเหรอ? แปลว่าโลกของโพรทาเลีย พี่แจ็กสันยังอยู่เหรอ?”
“อืม พ่อฉันอยู่ที่ค่ายเป็นผู้ดูแลเลยนะ”
“สุดยอด! สายเลือดโพไซดอนครองค่าย!”
“ก็นะ...”
“แต่ไม่นึกนะว่าจากโพรเทียกลายเป็นคนชื่อโพรทาเลียแทนนะ แต่ชื่อเธอคล้าย ๆ เจ้าหญิงนะ”
“เจ้าหญิงอะไรกัน?”
“ฉันพูดจริงนะ”
“นี้ ๆ พูดชมไปก็ไม่ได้แอ้มหลานสาวหรอกนะ” หญิงสาวคนหนึ่งแซวเดเมียนที่พูดแบบกำลังจะจีบหลานตัวเอง
“จะบ้าหรือไง ฉันไม่ได้จะกินหลานตัวเองนะ!”
“เหรอ? แต่สภาพนายมันใช่อ่ะ”
“แต่โพรทาเลียคงไม่หลงกลเหรอนะ”
“อืม ไม่หลงอยู่แล้ว ฉันมีสามีกับลูกแล้วนี่น่า”
“ว่าไงนะ? สามีกับลูก?”
พวกสาว ๆ ต่างมองกันเป็นตาเดียวกันว่าคนอายุเท่าโพรทาเลียมีลูกแล้วงั้นเหรอ เพราะมันแปลกประหลาดมาก ๆ ในยุคนี้
“เรื่องมันยาวนะ...”
“ทำอะไรกันนะ?”
เสียงของโฟกัสทำให้ทุกคนต่างหันไปมองว่าอีกฝ่ายตื่นแล้วงั้นเหรอ โพรทาเลียได้ยินเสียงของน้องสาวก็เงยหน้ามองในทันใดพร้อมกับดีใจว่าน้องสาวนั้นตื่นแล้ว
“โฟกัส ตื่นแล้วเหรอ? ดีเลยพี่กำลังขอข้อมูลจากทุกคนอยู่นะ”
“หือ? ข้อมูล?” โฟกัสงงว่าพี่สาวจะถามข้อมูลอะไรจากพวกสายเลือดโพไซดอนกัน
“ใช่ พี่บอกพวกเขาแล้วนะว่าเราไม่ใช่คนของที่นี่นะ”
“เอ๋? พี่จะบ้าเหรอ? ไปบอกแบบนั้นนะ”
“บอกก็ดีไม่ใช่เหรอ?”
“ไม่ดีต่างหาก!! เดียวกาลเวลามันจะผิดเพี้ยนนะ!!”
“พี่ว่าถ้าไม่ใช่อดีตหรืออนาคตคงไม่มีปัญหาหรอกนะ เพราะนี่มันปัจจุบันนะ ไม่ต้องไปคิดมากหรอกนะ” โพรทาเลียฉีกยิ้มอย่างไม่ทุกข์ร้อนให้น้องสาว
โฟกัสมองพี่สาวเธอรู้สึกว่าอีกฝ่ายนั้นไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอที่พ่อของพวกเธอตายไป ดูอีกฝ่ายไม่ทุกข์ร้อนถึงสถานการณ์ตอนนี้จนเธอรู้สึกว่าอีกฝ่ายเหมือนไม่ใช่พี่สาวเลยด้วยซ้ำ
“ทำไม...พี่ไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลย...”
“เอ๋?”
“พ่อตายไปทั้งคนนะ! แถมโลกนี้ไม่ใช่ของเราด้วย!! ทำไมพี่ยังมายิ้มอย่างสบายใจแบบนี้กัน!! พี่ไม่เสียใจที่พ่อของเราในโลกนี้ตายเลยหรือไง!?”
“โฟกัส...”
“หนูคิดไม่ออกเลยนะ! โลกที่ไม่มีพ่อ...โลกที่ครอบครัวเรา...ไม่มีน้อง ๆ อยู่ด้วย...โลกนี้มัน...” โฟกัสพูดทั้งน้ำตา เสียงของเธอนั้นสั่นเครือยิ่งกว่าอะไร
ทุกคนมองก็รู้สึกสงสารอีกฝ่ายที่มาอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยแบบนี้ โพรทาเลียเกือบลืมไปเช่นกันว่าน้องไม่ใช่เธอที่จะยอมรับเหตุการณ์แบบนี้ เธอเข้าใกล้น้องสาวพร้อมกับจับต้นแขนทั้งสองข้างของน้องสาว
“โฟกัส...” น้ำเสียงของโพรทาเลียดูเรียบนิ่งเหมือนเสียงผู้ใหญ่
โฟกัสเงยหน้ามองพี่สาวที่ดูมีสีหน้าที่จริงจังกว่าปกติ ทำเอาเธอรู้สึกว่าสายตาตรงหน้าของพี่สาวเหมือนกับผู้ใหญ่ที่กำลังจะคุยกับเธอ
“พี่ขอโทษนะ...พี่ลืมไปว่าเราไม่ใช่พี่ที่เคยเจอเหตุการณ์อันโหดร้ายมาก่อน...”
โฟกัสได้ยินแบบนั้นก็พึ่งสะกิดใจว่าเธอลืมไปว่าตัวพี่สาวนั้นเคยเจอเรื่องโหดร้ายมาก่อนอย่างเรื่องครอบครัวเสียชีวิตก็ยังเคย ทำเอาเธอรู้สึกผิดต่อพี่สาวทันที
“พี่หนู...ขอโทษ...หนูลืมไป...”
โพรทาเลียส่ายหัวเบา ๆ “เธอไม่ผิด...เธอสมควรเสียใจกับเรื่องพ่อ แต่เราต้องหาทางกลับเวลาเดิมของเรา กลับไปหาพ่อและครอบครัวของเรา...พี่สัญญา พี่จะพาเรากลับบ้านให้ได้ บ้านของเรา ค่ายฮาล์ฟบลัดของเรา”
“ค่ะ...” โฟกัสเช็ดน้ำตาของตนเอง
พวกบ้านโพไซดอนที่อยู่ที่นั่นได้ยินคำพูดของทั้งสองก็ทำเอาเขาน้ำตาตกจนโพรทาเลียเห็นก็หัวเราะเบา ๆ ที่พวกนี้บ่อน้ำตาตื้นจริง ๆ ก่อนที่โพรทาเลียจะพาน้องสาวมาพูดคุยกับพวกบ้านโพไซดอนต่อว่ามีเหตุการณ์อะไรตั้งแต่ที่เธอเกิดมั้งในโลกนี้ แต่ว่าข้อมูลช่างน้อยนิด รู้แค่ว่าหลังพ่อเสียแม่ดูแลเราห้าคนอย่างยากลำบาก แต่ก็มีความช่วยเหลือจากปู่ย่า ตายาย ของพวกเรามาช่วยเสมอ แล้วก็เลี้ยงลูก ๆ จนโต แล้วพี่ ๆ สามคนนั้นแย่งทางกันไปทำงานหมด ทำเอาโพรทาเลียเซ็งเลยว่าจะติดต่อแม่ยังไงดี เธออยากฟังเหตุการณ์เพิ่มอีก
“จะทำยังไงดีนะ?”
“พี่เครียดไปก็ไม่ได้อะไรหรอกนะ” โฟกัสเดินมานั่งอยู่ที่เตียงของพี่สาว “ไปทานข้าวสักมื้อแล้วค่อยคิดดีว่านะ”
“ฉันกินอะไรไม่ลงเลย โฟกัส...ฉันหาเหตุผลไม่ได้เลยว่าทำไมเราอยู่ที่นี่...”
“ก็จริงนะ...” โพรทาเลียคิดหนักอุตส่าห์พูดกับน้องว่าจะหาทางกลับบ้านให้เจอแท้ ๆ “อยากให้พี่อยู่นี่จัง...”
“หนูก็คิดเหมือนกัน...” โฟกัสคอตกก่อนจะคิดบางอย่างได้ “งั้นเราลองออกจากค่ายไปหาแม่ไหมล่ะ? แล้วเราก็จะได้หาข้อมูลเพิ่มจากข้างนอกน่าจะดีกว่าในค่ายอีกนะ”
“จะดีเหรอ?”
“ครั้งก่อนพี่ยังหนีออกจากค่ายจนฉันต้องตามเลย”
“อืม...” โพรทาเลียมองน้องสาวว่าช่วงนี้ออกจากค่ายบ่อยจริง ๆ ครั้งล่าสุดออกไปยังกลายเป็นเด็กไปครั้งหนึ่งเลยนี่นา “ตามใจเธอละกัน”
“ฮิ ๆ”
“พวกเธอคิดจะหนีออกนอกค่ายเหรอ?” แจ็คเอ่ยพูดพร้อมกับเข้ามาในบ้านพัก
ทั้งสองหันไปมองพร้อมกับจ้องมองอีกฝ่ายที่กำลังเดินเข้ามา
“นายจะห้ามเราไม่ได้หรอกนะ เราอยากกลับที่ของเรานะ”
“ฉันไม่แคร์อยู่แล้วว่าพวกเธอจะทำอะไร แต่...หัวเธอจะออกนอกค่ายได้หรือเปล่าก็เท่านั้น”
“หมายความว่าไง?”
“อย่าพึ่งถามอะไรดีกว่า ตอนนี้คุณดีเรียกรวมตัว เหล่ามนุษย์กึ่งเทพ เราต้องไปกัน”
“คุณดีเรียกรวมตัว!!”
คำสั่งของคุณดีเริ่มต้นขึ้นด้วยการให้ทุกคนไปรวมตัวกันที่อัฒจันทร์มหรสพ สถานที่ที่ต้องรวมตัวกันทุกคนเวลามีประชุม ระหว่างที่เดินกันไปนั้นโพรทาเลียคิดเลยว่าตัวเองนั้นจะได้เจอคุณดีที่เห็นแค่ภายในทรงจำของตัวเองวัยเด็กที่ได้ขึ้นไปเข้าโอลิมปัสกับความทรงจำของแดเรียลที่เป็นบุตรของไดโอนีซุส แต่ในความทรงจำนั้นเธอจำได้ว่าเขาเป็นชายที่ชอบใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้น เผยกล้ามอกกำยำให้สาวงามได้เชยชม บางทีก็โดนท่านแม่บ่นบ่อย ๆ ผมกับเคราสีน้ำตาล เธออยากรู้เลยว่าท่านพ่อที่เป็นพ่อในอดีตชาติจะเท่เพียงใด
“โคตรผิดหวังสุด ๆ” โพรทาเลียพูดพร้อมกับเอาหน้าปิดตาของตนเองอย่างเซ็ง ๆ
เพราะพอมานั่งที่อัฒจันทร์มหรสพ เธออุตส่าห์คาดหวังอย่างดีว่าจะเจออดีตพ่อของตนจะมาอย่างเท่ แต่กลายเป็นชายแก่อ้วนลงพุง ทำเอาแดเรียลที่อยู่ข้างในถึงกับสมเพชคนเป็นพ่อของตนสุด ๆ ที่ปล่อยกายเยี่ยงนี้ ทำเอาภาพผู้เป็นบิดาอันน่าเกรงขามและสง่างามหายไปหมด
“ไม่อยากนึกว่าเขาจะปล่อยกายเพียงนี้...” แดเรียลพูดพร้อมกับมองอย่างอ้ำอึ้ง
“คิดเหมือนกัน ฉันเป็นลูกคงอายตาย...”
“ทั้งสองคนอย่าพูดเสียงดังสิ เดียวคุณดีได้ยินหรอกน่า” โฟกัสกระซิบกับพี่สาวและแดเรียลที่กำลังมองอย่างเซ็ง
“ก็มันเซ็งนี่น่า...”
“เจ้าเซ็ง แต่อาย!”
“พ่อใครก็ไม่รู้ทั้งอ้วนและแก่แบบนี้” ลักซ์กล่าวอย่างขำ ๆ
“เจ้าอย่าไปล้อเขาสิ”
“จริงด้วยนะ!”
“ทำไมล่ะ? ก็มันน่าอายนี่น่า”
“ทำอย่างกับพ่อเจ้าดีล่ะ!” แดเรียลเข้ามาปะทะใบหน้ากับลักซ์
“ก็เออสิ พ่อข้ายังดีกว่าพ่อเจ้าละกัน”
โพรทาเลียมองเจ้าตัวเล็กสองคนทะเลาะกันอย่างเอาเป็นเอาตายโดยที่เธอไม่ได้ฟังเลยว่าคุณดีกำลังพูดอะไร จนเธอเงยหน้ามองมาก็เห็นสายตาของคุณดีมากมาทางนี้ด้วยสีหน้าไม่ชอบใจหน่อย ๆ ทำเอาเธอสงสัยเลยว่าอีกฝ่ายนั้นมองทางนี้แล้วกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
“ทำไมเขาถึงมองมาทางนี้กัน?” โพรทาเลียเอ่ยถามขึ้น
แจ็คได้ยินก็เอ่ยปากพูดทันที “โพรเทียกับเมก้าชอบทำอะไรนอกกรอบของคุณดีนะ นั้นเลยทำให้คุณดีไม่ชอบใจที่พวกเธอทำตัวเหมือนพ่อนะ”
“ไหนนายบอกว่าโพรเทียเป็นเด็กสาวเรียบร้อยไง?”
“อ๊ะ...บางครั้งนะ...”
“เหอะ ๆ”
สีหน้าของโพรทาเลียถึงกับทำใจเลยว่าตัวของเธอในโลกนี้คงต่างจากตัวเธอมากแน่ ๆ แต่ว่าความแสบอาจจะมีเหมือนกันก็ได้ ชักอยากเจอตัวเองในโลกนี้จริง ๆ หลังจากการประชุม โพรทาเลียไม่รู้เลยว่าคุณดีพูดถึงอะไรจนโฟกัสเล่าให้ฟังว่าคุณดีพูดถึงการกักตัวในค่ายจนกว่าจะถึงช่วงเปิดเทอม ทำเอาโพรทาเลียคิดเลยว่าเป็นเรื่องใหญ่แล้วว่าพวกเธอจะออกไปจากที่นี่ได้ไงยิ่งคิดยิ่งพวกปวดหัวกว่าเดิม
“คิดแผนไม่ออกเลยแฮะ...ว่าจะออกไปจากที่นี่ยังไงดี?”
“ไว้ค่อยคิดไปเรื่อย ๆ ก็ได้ค่ะ พี่” โฟกัสปลอบพี่สาวก่อนจะนึกบางอย่างได้ ”แต่เราก็มีข้อมูลเพิ่มมาอีกนะ”
“อืม...” โพรทาเลียนึกถึงจุดหนึ่งที่พึ่งเห็นก่อนจะกลับบ้านพัก ”จุดที่มีประตูมิติอยู่สินะ”
“ใช่...ประตูมิติข้ามไปยังค่ายจูปิเตอร์”
“เอ๋? โลกพวกเธอมีการทะลุไปค่ายจูปิเตอร์ได้ด้วยเหรอ?”
ชายหนุ่มผมสีดำเอ่ยพูดขึ้น เขาได้ยินทั้งสองคุยกันก็สนใจ ก่อนจะมานั่งปลายเตียงของทั้งสอง
“ใช่”
“แปลว่าโลกของพวกเธอนั้นโคตรดีกว่าโลกเราเลยสิ” เดเมียนเดินเข้ามามีส่วนร่วมด้วยในทันใด
“ก็นะ มีผู้ใหญ่ที่ดีค่อยสนับสนุนให้พวกเรามีสถานที่ดี ๆ” โฟกัสพูดพร้อมกับนึกถึงบ้านเธอ
“แต่ก็ต่างจากที่นี่นะ” หญิงสาวคนหนึ่งพูดขึ้น เธอมีผมสีทองกับดวงตาสีเขียว
“เจซี่ อย่าเอาโลกเราไปเปรียบสิ” เดเมียนไม่ชอบคำพูดของหญิงสาวเท่าไหร่
“มันน่าเปรียบนี่น่า สองคนนี้มาจากโลกอันสวยหรู แล้วพวกเราล่ะ อยู่ในสภาพที่ทำอะไรไม่ได้”
“เจซี่!”
โฟกัสลุกขึ้นอย่างไม่ชอบใจอีกฝ่ายในโลกเธอก็มี แต่ไม่นึกว่านิสัยจะเหมือนกันแบบนี้
“ทำไม? โกรธอะไรฉันหรือไง?”
“เธอนี่มัน...โลกฉันหรือโลกเธอก็มีนิสัยแบบเดิมจริง ๆ”
“พอเถอะ โฟกัส อย่าไม่ต่อล้อต่อเถียงเลย...เขาก็พูดถูก โลกนี้กำลังเหมือนจะพัง แต่ถ้าไม่มีคนช่วยปกป้องโลก ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก...นอกเว้นแต่พวกนายทุกคนในค่ายจะช่วยกันเอง”
“หือ?”
“ลุกขึ้นสู้กับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น…จงอยู่กับปัจจุบันแล้วลุกขึ้นสูงต่อไป”
คำพูดของโพรทาเลียเหมือนจุดไฟบางอย่างให้แก่ใครบางคนตรงนี้ แจ็คยิ้มอย่างชอบใจกับประโยคที่อีกฝ่ายพูด เขาเดินตรงมาหาสาว ๆ ทุกคน
“จริงของโพรทาเลีย เราเป็นลูกหลานของเทพ ทำไมเราต้องอยู่เฉยล่ะ ทำไมเราไม่สู้ล่ะ เพราะเราคิดว่าทำไม่ได้ แต่เราทำได้ เราแต่ละคนได้รับการฝึกมาอย่างดีจากไครอน”
“แจ็ค...”
“หลังจากนี้พวกเราจะสู้ต่อ เราจะไม่ฟังที่คุณดีสั่งให้อยู่กับที่แบบนี้ เราไม่สนว่าจะตาย เราเกิดมาเพื่อต่อสู้ในสนามรบและตายเยี่ยงวีรบุรุษ แต่จะเร็วจะช้าขึ้นกับเวลา”
“ฉันไม่เอาด้วยคนนะ!!” เจซี่พูดขึ้น “ต้องไปสู้จนเกือบตาย ฉันไม่เอาเด็ดขาด!!”
“อย่าทำตัวขี้ขลาดสิ เจซี่ ถึงเธอเคยเจอเรื่องเลวร้ายครั้งหนึ่ง ก็เอามาปรับปรุงสิ!!”
“ฝันไปเถอะ!!” เจซี่พูดพร้อมกับเดินหนีออกจากตรงนั้น
โพรทาเลียเห็นท่าทางอีกฝ่ายแล้วสงสัยเลยว่าอีกฝ่ายเป็นอะไรกันแน่ แต่ท่าทางแบบนั้นเธอเหมือนเจออะไรมาแน่ ๆ ก่อนที่โพรทาเลียหันไปถามคนอื่น ๆ
“เจซี่เคยออกไปทำภารกิจเหรอ?”
“ใช่ ครั้งหนึ่ง แต่...หนึ่งในกลุ่มของพวกเขานั้น...”
“ไม่ได้กลับมาด้วย...เพราะ...”
“เพราะ...?”
“อีกคนบอกว่าเจซี่ผลักคนนั้น ทำให้พวกปีศาจจับตัวเขาได้แล้ว...ถูกฆ่านะ”
“!!”
“แต่เราก็ไม่รู้ว่าจริงไหม? สองคนนั้นทะเลาะกันอย่างหนักแล้วต่างฝ่ายต่างโทษกันและกันนะ”
“งั้นเหรอ...”
“อืม แต่...คนที่โกรธและเกลียดเจซี่ก็มีหลายคน รวมไปถึงเมก้าด้วยนะ...”
“ตัวฉันในโลกนี้เหรอ?”
“อืม...เพราะคนที่ตายนะ...คือแฟนของเมก้านะ...”
โฟกัสได้ยินแบบนั้นถึงกับหน้าชาไปเลยว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดนั้นไม่ใช่ความจริงใช่ไหม
“เดียว...อย่าบอกนะว่า...คนที่ตาย...ชื่อ...คราวิล”
“เขาไม่ได้ชื่อนั้นนะ...หมอนั้นชื่อ ฟัล เป็นบุตรของเทพีเฮคาทีนะ”
โฟกัสได้ยินถึงกับโล่งใจที่ไม่ใช่คราวิล แต่เธอก็รู้สึกเศร้าเหมือนกัน การเสียคนที่รักไปตัวของเธอในโลกนี้คงเสียใจมากแน่ ๆ
“ชื่อที่เธอพูดนี้...อย่าบอกนะว่าชื่อแฟนเธอนะ โฟกัส...?”
“อ๊ะ...ก็...” โฟกัสหน้าแดงขึ้นมา
โพรทาเลียมองน้องสาวอย่างยิ้ม ๆ เพราะอีกฝ่ายนั้นรักและหลงคราวิลแค่ไหน จนเธอสงสัยเลยว่าโลกนี้มีคราวิลไหม
“จริงสิ...แล้วโลกนี้มีคนชื่อคราวิลไหม? อยู่บ้านแอรีสนะ”
“หมอนั้นเหรอ? มีนะ เป็นลูกของคุณแครีสนะ”
“เห็นไหม?” โพรทาเลียหันไปมองน้องสาวอย่างยิ้มเยาะ
“คราวิล...ก็อยู่สินะ...”
“ใช่ แถมหมอนั้นแอบชอบเมก้ามาทั้งแต่เมก้าเขามาอยู่ที่ค่ายด้วยล่ะนะ”
“ห๊า? แล้วทำไมหมอนั้นไม่เข้าหาเมก้าล่ะ?”
“ก็เพราะใครล่ะ? พี่ชายทั้งสามของพวกเธอเล่นจ้องพวกตัวผู้เข้ามาวุ่นกับพวกเธอนี่น่า”
ทั้งสองคิดสภาพที่ทั้งสามได้เลยว่าจ้องพวกผู้ชายที่สนใจพวกเธอยังไง แต่โพรทาเลียก็เสียดายที่เมก้าไม่ได้คบกับคราวิลในโลกนี้จริง ๆ
“น่าเสียดายนะ...อุตส่าห์น้องฉันรักกับหมอนั้นมาก ๆ ในโลกตัวเองล่ะนะ”
“พี่!! เลิกแซะหนูสักทีเถอะ!!”
“จ้า ๆ”
โพรทาเลียยิ้มให้น้องอย่างร่าเริง แต่แล้วก็มีเสียงบางอย่างดังขึ้นดังตึง ทุกคนต่างหันไปมองกันอย่างตกตะลึงว่าเสียงนั้นมาจากไหนกัน บ้านโพไซดอนทุกคนต่างมองหน้ากันว่ามันเรื่องอะไรแล้วเสียงนั้นมาจากไหน ทำเอาพวกเขาทุกคนต่างพากันรีบวิ่งออกมาจากบ้านพัก พอพวกเขาออกมาก็มีบ้านอื่น ๆ ออกมาเช่นกัน พวกเขาต่างเงยหน้ามองกันว่ามีอะไรที่ผิดปกติ แต่แล้วพวกเขาก็เงยหน้าเห็นสิ่งที่ไม่คาดคิด ปีศาจที่มีปีกและร่างกายคล้ายคนกำลังพุ่งใส่เกราะป้องกันอย่างรุนแรง
“นั้นมัน...”
“ฮาร์ปี้!”
“แต่พวกมันไม่ชอบความวุ่นวายนะ...”
“ท่าทางพวกเขาดูแปลก ๆ นะ มันเหมือนกับ...”
“กำลังบ้าคลั่ง...”
โพรทาเลียเห็นแบบนั้นก็ไม่ไหวใจแล้วว่าพวกนั้นไม่ได้มาทำอะไรเล่น ๆ แล้ว เธอชักดาบไซกาเลนออกมา
“มนุษย์กึ่งเทพทุกคน เตรียมอาวุธให้พร้อม!! เหตุฉุกเฉินกำลังจะเกิดขึ้น!!”
ทุกคนได้ยินแบบนั้นต่างพากันรีบวิ่งไปที่กองคลังในทันใด บางคนมีอาวุธติดตัวก็เตรียมพร้อมสุดชีวิต
“โพรทาเลีย เธอคงไม่คิดว่าพวกมันจะโจมตีเกราะแบบไม่ได้ตั้งใจใช่ไหม?”
“ไม่...เพราะ...พวกมันดูบ้าคลั่งเกิดไป...แล้วก็...ด้านหลังพวกมัน...มีบางอย่างที่กำลังลอยมา...”
โพรทาเลียพูดแบบนั้นก็ทำให้พวกแจ็คหันไปมองก็เห็นสิ่งบางอย่างที่ไม่คาดคิดกำลังลอยมาทางค่ายฮาล์ฟบลัด
“ไม่อยากคิดเลย...นั้นมัน...เรือเหาะ!!”
จบตอนที่ 94 โปรดติดตามตอนที่ 95 ต่อไป
Comments (0)