90 ตอน ตอนที่ 90 การหมั้นหมาย
โดย YukiCoCo
ตอนที่ 90 การหมั้นหมาย
เสียงตะโกนที่ดังสนั่นไปทั้งบริเวณนั้นทำเอาสองคนชายหญิงต่างตกใจว่าใครกัน แต่น้ำเสียงทำให้โพรทาเลียจำได้เลยว่าใคร ก่อนจะหันไปมองต้นเสียงนั้นก็คือ พ่อของเธอ ที่จ้องมองอย่างฉุนเฉียวมาก ๆ ที่เห็นลูกสาวกำลังจะจูบกับชายที่เขาไม่ชอบใจตั้งแต่สมัยอีกฝ่ายเด็ก ๆ โพรทาเลียกับฟีนีอุสมองอย่างกังวลหน่อย ๆ ว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรพวกเขาสองคนกันแน่ แต่นอกจากพ่อก็มีครอบครัวของเธอและครอบครัวของฟีนีอุสอยู่ข้างหลังด้วย
“พ่อ...ค่ะ...มาทำอะไรกันนะ?”
“ทำอะไรไม่สำคัญ แต่...” เพอร์ซีย์รีบเดินไปหาลูกพร้อมกับจับมือลูกแล้วลากตัวมาอยู่ข้างหลังเขา “พ่อไม่ควรให้ลูกอยู่คนเดียวจริง ๆ”
สายตาของเพอร์ซีย์จ้องมองชายตรงหน้าอย่างไม่ชอบใจ ตั้งแต่ไหนแต่ไรคงเพราะใบหน้าที่คล้ายพ่อของอีกฝ่ายมาก ๆ เขาเลยไม่ชอบใจสุด ๆนั่นแหละ
“ฉันเคยบอกแล้วใช่ไหมเหรอว่าห่าง ๆ จากลูกฉันนะ!!”
“ครับ ๆ” ฟีนีอุสขานตอบอย่างเฉย ๆ เพราะว่าถึงโดนห้ามเข้าก็ไม่สนใจนั้นล่ะนะ
“นี้ ๆ เพอร์ซีย์ นายห้ามไม่ได้นะ ถ้าเด็กสองคนมีลูกกันไปแล้วนะ” เจสันเดินตามมาพร้อมกับตบไหล่ลูกชายเบา ๆ “เลิกต่อต้านเถอะนะ สิ่งที่จะเป็นไปในอนาคตสิ ว่าเราสองคนจะเป็นครอบครัวเดียวกันนะ”
“เงียบปากไป เจสัน!!” เพอร์ซีย์ตะโกนใส่อีกฝ่ายที่อยู่ข้างลูกชายซะงั้น
“เงียบปากฉันไม่ได้หรอกนะ” เจสันกล่าวออกมาอย่างเบื่อหน่ายกับอีกฝ่าย ”คงไม่ลืมที่เรามาวันนี้เพราะอะไรนะ?”
“ชิ!” เพอร์ซีย์อุทานอย่างไม่พอใจ
“หือ?” โพรทาเลียเอียงอย่างงุนงงว่าคุณเจสันพูดหมายความว่าอะไร
เจสันหันมายิ้มให้โพรทาเลียอย่างอ่อนโยน “หนูสงสัยสินะ โพรทาเลีย ว่าเรามาทำอะไรกันนะ?”
โพรทาเลียพยักหน้าตอบอย่างรวดเร็ว เพราะอยากรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นพูดมันหมายความว่าอะไร และแล้วพวกเขามานั่งกันที่โซฟา นั่งคนละฝั่งเป็นครอบครัวใครครอบครัว แล้วคนที่นั่งตรงกลางคือ โพรทาเลียกับฟีนีอุส พ่อแม่นั้นนั่งขนาบข้างทั้งสองคน ส่วนพี่น้องยืนอยู่ข้างหลังกันหมด ทำเอาโพรทาเลียเครียดเลยว่าสถานการณ์แบบนี้มันคืออะไร จนโพรทาเลียมองพ่อแม่ที่อยู่ข้างซ้ายข้างขวาของเธอ
“เอ่อ...แล้วนี่...มานั่งกันแบบนี้ทำไมกันคะ? แล้วที่บอกว่าเหมือนมีเรื่องจะพูดอะไรบางอย่างกันไงล่ะคะ?”
เพอร์ซีย์ได้ยินก็ไม่อยากพูดเลยว่าวันนี้มาทำอะไร ก่อนที่ไพเพอร์จะเอ่ยพูดออกมาก่อนเป็นคนแรก
“จ๊ะ วันนี้พวกเรามาคุยบางอย่างกันนะจ๊ะ โพรทาเลีย ถึงแม้พวกผู้ใหญ่บ้า ๆ แถวนี้เอาแต่จ้องหน้ากันเหมือนหมากัดกันก็ตามที”
“พวกเราไม่ใช่หมานะ!!!” ผู้ใหญ่ทั้งสองต่างหันไปตอบอย่างไม่ชอบใจกับคำพูดอีกฝ่าย
ทุกคนแอบขำหน่อย ๆ ที่พ่อทั้งสองโดนด่าว่าเป็นหมาซะงั้น โพรทาเลียตั้งสติแล้วเอ่ยถามอีกฝ่ายอย่างสงสัย
“แล้วเรื่องที่จะคุยคืออะไรเหรอคะ?”
“อ๋อ...พวกเราผู้ใหญ่ทั้งสองฝั่งนั้น...ตั้งใจให้โพรทาเลียกับฟีนีอุสหมั้นหมายกันนะจ๊ะ”
“เอ๋?” โพรทาเลียอึ้งไปชั่วขณะ
แต่พี่น้องของทั้งสองกับตึงยิ่งกว่าก่อนจะตะโกนออกมา “ว่าไงน๊าาาาาาาาาาาาา!!”
“พ่อ! ยอมได้ไง!?” เบเดอร์ชะโงกหน้าไปหาพ่อ
“จริงด้วย!! พ่อจะยอมให้โพรทาเลียหมั้นกับเจ้าสายเลือดจูปิเตอร์เหรอ!!” เอเดอร์เข้ามาอีกข้างของพ่อ
เพอร์ซีย์กอดอกอย่างไม่พอใจ ก่อนจะเงยหน้ามองลูกทั้งสองคนที่มาอยู่ด้านข้างเขา
“พวกลูกคิดว่าพ่อยอมหรือไง!?”
“แล้วทำไม!?”
“พวกลูกคงไม่ลืมนะ ว่าโพรทาเลียมีลูกที่เกิดจากดีเอ็นเอของเจ้าเด็กนั้น!”
“อ๊ะ!” ทั้งสองคนได้ยินก็ลืมไปเลยว่าพวกเขามีหลานสองคนที่เป็นลูกของน้องสาวนี่น่า
“แต่ว่า...” เบเดอร์เอเดอร์ไม่ยอมให้น้องสาวไปแต่งงานแน่ ๆ
“ล้มเลิกเถอะ...ยังไงแม่พวกเราก็คงไม่ยอมแน่ ๆ”
ทั้งสองคนได้ยินก็ค่อย ๆ หันปาคนเป็นแม่ที่จ้องมองอย่างไม่พอใจที่ลูก ๆ กำลังจะขัดขวางสิ่งที่กำลังจะทำอยู่ในตอนนี้ ทำเอาแฝดสองมองอย่างหวาดกลัวสุด ๆ
“มาแบบนี้เราต้องยอมนั้นล่ะ...” โอราอุสยอมแพ้ต่อสิ่งที่พ่อพูดและท่าทางของแม่ที่กำลังจ้องให้เราเลิกโวยวายเสียที
“พี่!”
“พี่พูดแบบนั้นได้ไง?”
“พวกพี่ ๆ เลิกพูดแบบนั้นเถอะนะ” พวกแฝดสามต่างเอ่ยพูดพร้อมกัน
“พวกเธอสามคนเลิกพูดเลย!!” แฝดสองต่างพูดตะโกนใส่น้อง ๆ
“เบเดอร์! เอเดอร์! ลูกสองคนพอสักที ลูกมาถามน้องแต่งงานแล้วคิดเหรอว่าสักวันน้องจะไม่มีการที่ต้องแต่งงานนะ”
“อึ้ก! พวกเรา...”
“ให้น้องแต่งงานกับคนที่เรามองเห็นใกล้ตัว ดีกว่าให้คนฝ่ายน้องแต่งงานกับน้องไปแล้วต้องเจอกับเรื่องแย่ ๆ จริงไหมเด็ก ๆ”
พี่น้องทุกคนต่างฟังคำพูดแม่ก็เห็นด้วยว่าถ้าโพรทาเลียไปแต่งงานกับคนอื่น คงไม่รู้แน่ ๆ ว่าโพรทาเลียจะเป็นยังไง
“ครับแม่...”
ทั้งสองแฝดต่างสงบนิ่งไปในทันใด ทำเอาบรรยากาศตอนนี้ตึงเครียดเป็นอย่างมาก จนโพรทาเลียรู้สึกเหนื่อยจริง ๆ ตั้งแต่เมื่อวานก็เครียดแล้วมาเจอเรื่องนี้อีกเนี่ยนะ แต่เธอกำลังจะหมั้นกับชายที่เธอคิดว่าเขาเป็นแค่พ่อของลูก แต่กำลังจะเป็นสามีเธอจริง ๆ ทำเอาเขินหน่อย ๆ เหมือนกัน ก่อนที่เพอร์ซีย์จะพูดขึ้นมา
“ถึงฉันจะยอมให้ลูกสาวแต่งงาน แต่มีข้อแม้!!” เพอร์ซีย์ยกมือขึ้นทุกโต๊ะแล้วลุกขึ้นชี้หน้าฟีนีอุส “ว่าจนกว่าลูกสาวฉันจะอายุ 18 ปี! นายห้ามแตะต้องลูกสาวฉันเด็ดขาด!!”
“เอ๋!?”
ฟีนีอุสตาโตอย่างตกตะลึงที่โดนห้ามแบบนั้น ก่อนหน้านี้ก็อยากจูบอีกฝ่ายก็โดนขัด แล้วนี่จะให้เขาห้ามใจตัวเองอีกสองปีอีก เขาอดทนมาสามปีก็ใจจะขาดอยู่แล้วนะ
“เพอร์ซีย์ นายนี่มัน...” เจสันมองอีกฝ่ายที่มาห้ามลูกชายเขาแตะต้องตัวลูกสาวอีกฝ่ายซะงั้น
“ทำไม! เจสัน! นายมีลูกสาวนะ! นายไม่หวงมั้งหรือไง!!”
เจสันได้ฟังแบบนั้นก็แอบคิดถึงลูกสาวที่อยู่ข้างหลังอย่างเคือง ๆ เช่นกัน เพราะเขารู้สึกว่าช่วงนี้ลูกสาวเหมือนมีคนที่แอบคุยกันเล็กน้อย ก่อนจะตอบอีกฝ่ายออกไป
“เป็นใครไม่หวงมั้งว่ะ...”
“แล้วนายจะมาบ่นฉันทำไม!!”
“พอ ๆ ทั้งสองคน ถ้าไม่เลิกทะเลาะกัน ฉันจะเตะพวกคุณออกจากจุดนี้แล้ว พวกเราคนเป็นแม่จะคุยกันเองว่าลูก ๆ จะเอาไง!!” แอนนาเบ็ธตักเตือนทั้งสองคนอย่างๆ ไม่ชอบใจ
ทำเอาชายทั้งสองนิ่งไปเลย ลูก ๆ เห็นต่างก็ขำหน่อย ๆ โพรทาเลียขำก็มองพ่อก่อนจะเอ่ยพูดกับพ่อสักหน่อย
“พ่อค่ะ...คือว่า...”
“ลูกไม่ต้องมาพูดอะไรเลย โพรทาเลีย” เพอร์ซีย์ตะโกนใส่ลูกสาวอย่างไม่ชอบใจ
“โธ่...” โพรทาเลียกอดอกอย่างเซ็ง ๆ “ตามใจค่ะ ยังไงหนูก็ยังเด็กสำหรับพ่อนี่น่า ถึงหนูจะโตจนมีลูกก็ตามทีเถอะ”
“รู้ก็ดี!” เพอร์ซีย์พูดพร้อมกับยกมือขยี้หัวลูกจนฟูไปหมด
“อ๊ายยย พ่อ!”
ทุกคนเห็นการแสดงความรักของพ่อลูก พวกพี่น้องของโพรทาเลียก็เข้ามากอดเธออยากมีความสุขกัน ทางฝั่งครอบครัวเกรซสองพี่น้องกำลังแซวที่พี่ชายกำลังจะได้แต่งงานไม่นาน ทำเอาฟีนีอุสแอบเขิน ๆ เจสันกำลังมองครอบครัวของเพอร์ซีย์อย่างชอบใจ แต่แล้วเขาก็รู้สึกเจ็บขึ้นมาตามหน้าอกของเขา ความรู้สึกที่ไม่ได้รู้สึกมานานแล้ว ระหว่างที่เขากำลังครุ่นคิดนั้น ไพเพอร์ก็เห็นท่าทางสามีแปลก ๆ ก็หันไปถามอย่างสงสัย
“คุณเป็นอะไรเหรอ?”
“อ๋อ...เปล่านะ...แค่...เจ็บ ๆ หน้าอกนะ...คงเพราะยกของเมื่อวานมั้ง...”
“เจสัน คุณก็อายุเยอะแล้วนะ ระวังสุขภาพหน่อยสิ”
“จ้า~ จะระวัง” เจสันยิ้มให้ภรรยาของเขาอย่างอ่อนโยน
แต่ท่าทางของทั้งสองคนก็เตะตาของทุกคนที่กำลังมองความหวานของทั้งสองผัวเมียที่กำลังเป็นห่วงเป็นใยกันสุด ๆ โดยที่อยู่ใกล้กันตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ เพราะฟีนีอุสลุกออกมาตั้งนานแล้วนี่สิ จนเจสันสังเกตว่าลูกหายจนหันไปมองลูกชายที่ไปอยู่ข้างนอกสาวไปแล้ว
“เอ๊ะ...ลูกลุกไปตั้งแต่ตอนไหนนะ?”
“ตั้งแต่พ่อแม่คุยกันนั้นล่ะครับ เล่นคุยข้างหลังคนอื่นก็มันน่ารำคาญนี่น่า...”
“เด็กคนนี้!” เจสันได้ยินคำพูดลูกชายก็อย่างเตะสุด ๆ “ลูกกับโพรทาเลียจู้จี้กันตอนไหนนะ พ่อจะแซวลูกมั้ง!!”
“ก็จริงของเด็กมันนะ” เพอร์ซีย์พูดแซงขึ้นมา “พวกนายเล่นมาสวีทถามสุขภาพกัน มีใครไม่แซวกันมั้งล่ะ!”
“เดียวเถอะ! มายุยงหรือไงนาย!!”
“ทำไมล่ะ? หรือจะเอา จริงสิ โพรทาเลีย”
“ค่ะ พ่อ?”
“ลูกวางแล้วเนอะ งั้นหลังจากนี้มาซ้อมกับพ่อต่อจากครั้งล่าสุดที่เราต่อสู้กันหน่อยสิ พ่ออยากต่อสู้กับลูกมาก ๆ เลยล่ะนะ”
โพรทาเลียได้ยินแบบนั้นก็หน้าซีดเลยว่าครั้งล่าสุดเธอก็เกือบบาดเจ็บแล้วนะ จนพวกพี่ชายต่างพากันแตะไหล่เธอเบา ๆ เป็นการปลอบโยน ทำเอาเธอคิดในใจเลยว่า
‘ไม่น๊าาาาาาาาาาาาาาาาาา!!’
โพรทาเลียไม่อยากไปฝึกต่อเลยจริง ๆ คงได้ปวดหัวยาวแน่ ๆ ระหว่างที่กำลังเครียดคูณสองนั้นคนเป็นแม่สามีก็เอ่ยพูดบางอย่างเพื่อคุยนัดหมายเรื่องงานหมั้นในทันใด
“เดียวพวกเรานัดหมายจัดงานแต่งเล็ก ๆ กันในค่ายนะ ส่วนของขวัญให้พวกเราลูก ๆ จะเอาเป็นอะไรนะ”
“หลานทั้งสองได้ไหมคะ/ครับ” ทั้งสองต่างพูดพร้อมกันจนพวกเขามองหน้ากันว่าคิดเหมือนกันได้ยังไง
“น่าน น่าน ยังไม่แต่งงานกันเลยนะ ใจตรงกันมากกว่าเดิมอีก!!”
“ไม่ต้องไปแซวลูกเลยนะ...”
“แต่ว่าลูก ๆ สองคนก็เล่นง่ายไปนะ ฟีนีอุส หนูโพรทาเลีย”
“ก็งานหมั้นของพวกเรานี่น่าค่ะ พวกเราก็ไม่อยากใช้จ่ายเยอะนะ!”
“ลูกรู้ด้วยเหรอว่างานแต่งใช้เงินเยอะนะ โพรทาเลีย” เพอร์ซีย์ถามลูกสาวอย่างสงสัย
“รู้สิคะ! ตอนหนูหนีก็เคยเห็นงานแต่งบางนะ เห็นคนบ่น ๆ ว่างานแต่งใช้เงินเยอะนี่น่า!”
“ดีที่รู้...เพราะพ่อแม่คงไม่สามารถจ่ายได้เยอะนั้นล่ะ...แต่ลูกก็น่าจะจ่ายได้นี่นา...เงินที่ขโมยมาจากแซเทิร์นนะ!”
“ขโมย...หมายความว่าไงนะ? เพอร์ซีย์” แอนนาเบ็ธได้ยินก็งุนงงว่าสามีหมายความว่าไง
“จริงด้วยนะ หมายความว่าไงลูกสาวนายจ่ายได้นะ?” เจสันเอ่ยถามขึ้นมา
เพอร์ซีย์ยกยิ้มอย่างชอบใจก่อนที่เขาจะหันไปมองลูกสาวของเขา “โพร เอาออกมาให้หมด”
“เอ่อ...ควรเอาออกมาเหรอ?” โพรทาเลียมองพ่ออย่างประหม่า
“เอาออกมาซะ!”
โพรทาเลียได้ยินแบบนั้นก็ถอยหายใจออกมาพร้อมกับปลดกระเป๋าเอวออกจากตัว ระหว่างที่เธอกำลังทำบางอย่างนั้นลูก ๆ ก็ลงมาตอนไหนไม่รู้ แล้วมาหาพ่อของพวกเขาที่กำลังยืนอยู่ โพรทาเลียล้วงมือเข้าไปข้างในกระเป๋าพร้อมกับหยิบของมีค่ามากมายที่ขโมยมาจากห้องสมบัติของแซเทิร์นออกมากองตรงโต๊ะตรงหน้าของสองครอบครัว ทำเอาทุกคนตกตะลึงกับสิ่งที่เห็นในตอนนี้ว่าเด็กสาววัยสิบห้ามีของมีค่ามหาศาลอยู่กับตัวแบบนี้ คนเป็นพ่อแม่พี่น้องก็ตกตะลึงสุด ๆ
“นี่คือทั้งหมดที่หนูมี พอไหมคะ?” โพรทาเลียเอ่ยถามอย่างสงสัยที่ตนเองเอาออกมาเยอะแบบนี้
“นี่ขโมยอย่างกับจะใช้ได้ทั้งชาติเลยนะ โพร” โอราอุสมองของมีค่าตรงหน้าทำเอาตะลึงสุด ๆ
“ทำไงได้ล่ะนะ เจ้าเทพนั้นพังชีวิตหนูไปตั้งสิบกว่าปี มีหรือว่าหนูจะยอมมันนะ”
“ลูกแม่ แม่ไม่เคยสอนให้ลูกขโมยของเลยนะ”
“แต่แม่ค่ะ!”
“แต่ถ้าเป็นของคนเลว...ฉันไม่ถือนะ แอนนี่”
“เพอร์ซีย์!!” แอนนาเบ็ธตาโตใส่สามีที่ให้ท้ายลูกแบบนั้น
“ทำไงได้ หมอนั้นพังชีวิตลูกเรานะ จะยอมให้ลูกเสียดุลเหรอ?”
“หึ ตามใจเลยจ้า!”
“แต่ว่านะ ของเยอะแบบนี้เธอจะเอาไปทำอะไรนะ?” เอเดอร์ถามน้องสาวที่กำลังเก็บของพวกนั้นเขากระเป๋าของเธอ
โพรทาเลียที่ได้ยินแบบนั้นก็คิดอะไรไว้หลายอย่างว่าจะเอาไปทำอะไร แต่ว่าเธอหันไปจ้องมองธนบัตรหลายใบที่เธอคิดจะเอาไปไว้ที่ธนาคารตามที่น้องสาวเสนอ แต่ก็ไม่ได้เอาเข้าสักที ก็คิดบางอย่างได้ในทันใด
“ฉันมีความคิดที่จะเอาเงินไปทำบางอย่างละกันนะพี่ชาย”
“หือ!?”
ทุกคนต่างงุนงงว่าโพรทาเลียพูดนั้นหมายความว่าไง เธอทิ้งไว้เพียงรอยยิ้มน่าสงสัย พอเธอเก็บข้าวของบางอย่างหมดก็เหลือเพียงธนบัตรเกือบสิบแปดล้านดอลลาร์ ทุกคนต่างเห็นก็ตกตะลึงมาก ๆ กับกองธนบัตรแบบนี้ ก่อนที่โพรทาเลียจะแจกจ่ายให้ทั้งสองภาพคนละหนึ่งจุดสามล้านดอลลาร์ ทุกคนรับต่างก็ปฏิเสธ แต่โพรทาเลียไม่ฟังแล้วก็ยัดใส่มือแต่ละคน ทำเอาพ่อแม่เห็นก็ตะลึงที่นี่เป็นเงินที่มหาศาลมาก ๆ ที่ลูกให้แบบนี้ แล้วยิ่งครอบครัวเกรซก็ยิ่งตะลึง เพราะเงินเดือนพวกเขายังไม่ขนาดนี้เลยด้วยซ้ำ
“หนูโพร...ให้พวกลุงจะดีเหรอ?”
“ดีค่ะ ยังไงพวกเราก็จะกลายเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนี่น่าเนอะ?”
‘เป็นเด็กดีอะไรแบบนี้!!’ เจสันคิด
“ไม่ต้องมาชมลูกฉันในใจเลยนะ!!” เพอร์ซีย์พูดอย่างเคือง ๆ
‘รู้ทันอีก!!’ เจสันคิด
“นายพูดอะไร ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นซะหน่อยนะ” เจสันรีบแก้ตัวในทันใด
‘แต่ใบหน้าแสดงออกซะนั้นเนี่ยนะ คุณเจสัน/เจ้าหมอนี้/พ่อ/ที่รัก’ ทุกคนต่างคิดพร้อมกัน
ทุกคนต่างกำลังตะลึงกับเงินตรงหน้าของตนเอง พวกพี่น้องของโพรทาเลียมีความคิดเยอะแยะที่อยากจะทำอะไรกับเงินนี้ดี แต่พ่อแม่กำลังคิดว่าจะยึดของเด็ก ๆ ไหม แต่พวกนี้โตแล้วก็ให้เก็บเข้าธนาคารกันเอง ฟีนีอุสรับเงินมาก็เกรงใจสุด ๆ ที่เขาได้รับเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ จากว่าที่ภรรยาของเขาในอนาคต ถึงจะเป็นแม่ของลูกเขาแล้วก็ตามที เขาอยากเก็บเงินก้อนนี้ไว้ให้ลูกจริง ๆ
“โพร...เงินก้อนนี้ เธอเก็บไว้เองไม่ได้เหรอ?”
“ทำไมล่ะคะ?” โพรทาเลียกันไปมองอีกฝ่าย
“ก็...ฉันอยากเก็บเงินไว้ให้ลูกนะ...”
โพรทาเลียได้ยินก็อมยิ้มเล็กน้อยที่ว่าสามีในอนาคตคิดถึงลูกยิ่งกว่าอะไร ก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปหาอีกฝ่าย แล้วยกมือขึ้นมาจับมืออีกฝ่าย
“เงินนี้เก็บไว้ใช้เองเถอะ พี่ฟีนีอุส”
“จะดีเหรอ?”
“ไม่ต้องห่วง เรื่องลูกเรา ฉันมีเงินให้ลูกไว้ใช้เยอะเลยล่ะนะ” โพรทาเลียเอ่ยพูดพร้อมกับยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างมีความสุข “พี่เอาไว้ใช้ซื้อความสุขให้ตัวเองดีกว่านะ”
ฟีนีอุสได้ยินแบบนั้นก็นิ่งเงียบไปชั่วขณะ ทำให้เขาคิดถึงเรื่องในอดีตเลยที่เขานั้นเสียสละอะไรหลายอย่างของตนเองไปเยอะแค่ไหน จนตอนนี้ก็มีคนพูดแบบนี้กับเขาที่เสียสละอะไรมาตลอด เขาจับมือเธออย่างแนบแน่น ก่อนจะยกยิ้มให้อีกฝ่าย
“งั้นขอใช้ด้วยความเต็มใจเลยล่ะนะ”
“ค่ะ”
“พ่อ...แม่...” เดวิคกำลังมองพ่อแม่ที่กำลังหวานซึ้งกันพวกตาปู่จ้องมองอย่างเคือง ๆ
ทั้งสองคนได้ยินลูกเรียกก็ก้มหน้าไปมองในทันใด ทั้งสองคนยิ้มแล้วย่อตัวลงเพื่อพูดคุยกับลูก ๆ
“มีอะไรงั้นเหรอ? เด็ก ๆ”
“ไม่เห็นแม่ให้พวกเรามั้งเลยล่ะคะ?”
“จริงด้วย พวกคุณปู่ได้กัน แล้วพวกเราล่ะ”
ทุกคนที่ได้ยินรู้สึกเหงื่อตกเลยที่หลานพูดแบบนั้นกันออกมา จนโพรทาเลียได้ยินก็ยิ้มออกมาอย่างตลก ก่อนจะดึงตัวลูกทั้งสองเข้ามาหอมแก้มเบา ๆ
“ไม่ต้องห่วงจ๊ะ ของลูก ๆ นะ แม่เตรียมไว้ให้แล้วล่ะนะ”
“จริงนะครับ ผมอยากได้ตอนนี้เลยครับ!!”
“หือ? เดวิคอยากได้ไปทำอะไรนะ?”
“อยากได้เกมรุ่นใหม่ที่พึ่งออก...ตอนแรกพ่อบอกจะซื้อให้ยังไม่เห็นซื้อให้เลย”
ฟีนีอุสได้ยินแบบนั้นก็ตาลุกวาวว่าลูกชายยังจับที่สัญญากันได้จนเขาลืมไปแล้วด้วยซ้ำ เพราะเอาแต่ทำงานจนลืมที่สัญญากับลูกไปเสียสนิท โพรทาเลียได้ยินแบบนั้นก็ค่อย ๆ หันไปหาชายที่สัญญากับลูกชายโดยไม่ทำตามสัญญาซะงั้น
“พี่ไปสัญญาอะไรกับลูกนะ?”
“อ๊ะ...ฮ่า ๆ เอ่อ...ก็จะซื้อเกมรุ่นใหม่ให้นะ...แต่ฉันบอกเขาว่าขอเก็บเงินก่อนนะ...ฮ่า ๆ”
โพรทาเลียได้ยินก็รู้สึกว่าเงินที่เธอให้คงเหมาะกับสถานการณ์นี้เสียแล้ว เธอเขยิบเข้าหาอีกฝ่ายที่อยู่ใกล้ ๆ
“เวลาเช้า ๆ แบบนี้ร้านค้าน่าจะเปิดแล้วล่ะนะ ช่วงนี้ก็ยังว่าง ๆ ด้วยงั้นพี่ก็พาลูกไปเที่ยวซื้อของหน่อยละกันนะ”
“อ๊ะ! แต่ว่าฉันยัง...” ฟีนีอุสกำลังจะหาข้อแก้ตัวบางอย่าง
“พี่ค่ะ! ฉันเป็นคู่หมั้นพี่ พี่ก็ต้องฟังฉันสิ!!”
“อ๊ะ!! ครับ!!” ฟีนีอุสรีบขานตอบทันทีเขารู้สึกว่าไม่ควรปฏิเสธอีกฝ่ายเด็ดขาด ก่อนจะหันไปหาลูก ๆ สองคน “งั้นเดวิคกับคาเร็นน่าไปข้างนอกกับพ่อดีกว่านะ เดียวไปซื้อของเล่นให้นะ!”
“ของเล่น!!” เด็ก ๆ ต่างพากันตาลุกวาวก่อนจะจูงมือพ่ออย่างชอบใจ
โพรทาเลียเห็นก็ส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนที่คนเป็นแม่จะมาโอบไหล่ลูกสาวเบา ๆ จนเธอหันไปมองคนเป็นแม่ที่ยิ้มให้เธอ
“รู้สึกใช่ไหมว่าแม่เลี้ยงพวกเราเหนื่อยใจแค่ไหน”
“โธ่...เหนื่อยมากค่ะ...ตอนนั้นหนูแค่ 10 ขวบ...หนูยังงง ๆ เลยว่าต้องเลี้ยงลูกยังไง ต้องระวังอะไร เด็กแรกเกิดอ่อนแอมาก หนูต้องดูแลทั้งสองให้ดีที่สุดจนกระทั่งตอนนี้...”
“ลูกเก่งนะ ที่เลี้ยงทั้งสองคนมาในสภาพแวดล้อมแบบนั้น เป็นแม่คงสติแตกไปแล้วแน่ ๆ”
“แม่แข็งแกร่งจะตายไป แม่ไม่สติแตกหรอกค่ะ”
แอนนาเบ็ธยิ้มให้ลูกสาวพร้อมกับจับใบหน้าของลูกเข้ามาหอมเบา ๆ “ปากหวานจริง ๆ นะ แม่ไม่นึกว่าจะได้เห็นลูกที่มีรอยยิ้มอีกครั้งจริง ๆ”
“ฮิ ฮิ หนูก็ดีใจที่ได้มาอยู่กับครอบครัวอีกนะคะ”
“จ๊ะ หลังจากนี้ก็ใช้ชีวิตให้คุ้มซะนะ เพราะเราไม่รู้ว่าแซเทิร์นจะบุกมาจัดการพวกเราเมื่อไหร่ ถ้าเขารู้ว่าลูกของตนโดนจับไปแล้วนะ”
“จริงค่ะ”
โพรทาเลียทำสีหน้าเคร่งเครียด เมื่อคิดว่าถ้าแซเทิร์นรู้ว่าพวกเธอจัดการลูกเขาไปขังที่นรกทาร์ทารัสจะรู้สึกโกรธเพียงใด แต่กรรมตามสนองก็แบบนี้นั้นล่ะ ระหว่างที่โพรทาเลียคิดนั้น น้องสาวของเธอก็รีบเข้ามาทันที
“นี่พี่ ทุกคนกำลังจะกลับบ้านพักกัน พวกเราไปดูบ้านพักของเราหน่อยเถอะ น่าจะซ่อมแซมเสร็จแล้วนะ”
“บ้านพักของเรา?”
“บ้านพักโพไซดอนไง!”
จบตอนที่ 90 โปรดติดตามตอนที่ 91 ต่อไป
Comments (0)