87 ตอน ตอนที่ 87 สายเลือดแอรีสมาแล้ว!!
โดย YukiCoCo
ตอนที่ 87 สายเลือดแอรีสมาแล้ว!!
ภาพที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นมากกว่าอะไร ภาพของพี่ชายทั้งสามโดนวากาเน็ทใช้ท่าที่เธอเคยเจอหอกแหลมทะลุออกมาจากพื้น นี่เป็นภาพที่เธอไม่อยากเห็น แววตาของเธอนึกย้อนกลับไปในอดีตที่เธอภาพมายาของแซเทิร์นให้เห็นภาพคล้าย ๆ กันแบบนี้หลายต่อหลายครั้งจนทำให้จิตใจเธอแตกสลายไปกี่ครั้ง แล้วยิ่งมาเห็นกับตาของตนเอง แววตาของเธอแสดงความโกรธเกรี้ยวออกมาจนเกิดเป็นกระแสพลังสีดำกำลังหลั่งไหลออกมาจากร่างกาย
“วากาเน็ท!!”
โพรทาเลียพุ่งตรงเข้าหาวากาเน็ทอย่างไม่มีอาวุธติดตัวทำให้อีกฝ่ายยิ้มเยาะอย่างพึงพอใจ
“อยากตายมากสินะ!! เข้ามาเลยโพรทาเลีย!!!” วากาเน็ทหมุนเคียวอย่างชอบใจที่ทำให้อีกฝ่ายโกรธจนพุ่งมาหาเขาได้แบบนี้
“ย้ากกกกกกกกกก!!”
เสียงฝีเท้าที่กำลังวิ่งของโพรทาเลียกำลังหยุดลงแล้วย่อตัวแล้วกระโดดจนตัวลอยอยู่ในอากาศ ภายในมือของโพรทาเลียก็มีดาบสั้นที่เป็นของลักซ์โผล่ออกมาอยู่ในมือของเธอ แล้วก็เหวี่ยงมีดสั้นฟาดลงมาใส่อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว วากาเน็ทเห็นแบบนั้นก็ยกเคียวขึ้นอย่างรวดเร็วจนอาวุธทั้งสองปะทะกันจนเกิดประกายแสงสว่างขึ้น ระหว่างแสงสว่างนั้นร่างกายวัยสิบขวบของโพรทาเลียก็กำลังเปลี่ยนแปลงกลายเป็นหญิงสาววัยสิบห้าเรียบร้อย นั้นทำให้เธอมีพลังมากกว่าร่างวัยสิบขวบ จนกระทั่งแรงกดพลังของโพรทาเลียทำให้พื้นนั้นแตกยุบลงไปอีก
“อึ้ก! ดูเหมือนเจ้าจะมีพลังมากกว่าเดิมนะ”
“มาลองดูกันไหมล่ะ!?” ดวงตาของโพรทาเลียกลายเป็นสีดำไปทั้งดวงตา “ว่าครั้งนี้ฉันจะจัดการที่แกมาฆ่าครอบครัวฉัน!!!”
ไม่สิ้นคำพูดโพรทาเลียก็ตวัดมีดอีกข้างสะบัดโจมตีใส่อีกฝ่ายเพิ่มขึ้นกว่าเดิม ทำให้คนในครอบครัวของโพรทาเลียจ้องมองอย่างตกตะลึงที่โพรทาเลียสามารถสู้ได้สูสีกับวากาเน็ทมาก ๆ จนคนเป็นพ่อยังตกใจด้วยซ้ำ โฟกัสรีบวิ่งมาหาครอบครัวของเธอด้วยร่างกายวัยสิบห้า
“ทุกคนไม่เป็นไรนะคะ?”
“โฟกัส!”
“พี่ค่ะ!!”
“นี่พี่กลับมาร่างเดิมแล้วเหรอ?” มาร์โคถามอย่างไม่คิดอะไรเลยว่าไม่ควรถามแบบนั้น
“เห็นเป็นไงล่ะ? แล้วไม่มีใครจะใช้พลังรักษาพ่อกันเลยหรือไง?” โฟกัสมานั่งข้าง ๆ พ่อแล้วกำลังเรียกสายน้ำมาเพื่อรักษาแผลของพ่อ
“ไม่ต้องรักษาพ่อ ลูกไปช่วยพี่ ๆ ของลูกก่อน”
“หนูว่าคงไม่ต้องแล้วล่ะ”
โฟกัสพูดแบบนั้นทำเอาทุกคนต่างมองกันอย่างสงสัย ก่อนที่เธอจะหันไปมองจุดที่พวกพี่ ๆ โดนแทง แต่ว่าร่างกายของพวกเขาหายไปเสียแล้ว ทำเอาทุกคนต่างงุนงงว่าพวกพี่ ๆ หายไปไหน ระหว่างที่โพรทาเลียกำลังต่อสู้อย่างดุเดือดอยู่นั้นเธอฟาดฟันไม่หยุดจนกระทั่งวากาเน็ทหาโอกาสถีบอีกฝ่ายอย่างรุนแรงจนเธอกระเด็นไปข้างหลังจนจะตกจากตึก ทำเอาครอบครัวต่างตกตะลึงกันเลย
“โพรทาเลีย!!!”
‘อึ้ก!! ตกแน่ ๆ’ โพรทาเลียคิด
โพรทาเลียกำลังทำใจว่าตนเองนั้นกำลังจะตกลง แต่แล้วก็มีมือขนาดใหญ่มารับตัวเธอเอาไว้ โพรทาเลียรู้สึกได้ก็เปิดตาขึ้นมาก็เห็นคนที่เธอไม่คาดคิดว่าจะมาอยู่ที่นี่ ชายที่มีผมสีทอง ดวงตาสีฟ้าและใบหน้าอันเรียวยาวจนเธอเห็นก็ยังใจเต้นตึกตักไม่เป็นจังหวะ
“ฟี...ฟีนีอุส...” โพรทาเลียเอ่ยเรียกอีกฝ่าย
สายตาของฟีนีอุสกำลังจับจ้องไปที่วากาเน็ทอย่างไม่พอใจ แต่พอได้ยินเสียงเรียกของอีกฝ่าย เขาก็ก้มมองเธอใบหน้าของหญิงสาวที่เขาคิดถึงมาหลายวัน เขารออีกฝ่ายกลับร่างเดิมมาตลอด เขาเห็นดวงตาอีกฝ่ายเป็นสีดำก็ยิ่งสงสัยว่าเธอเป็นอะไร ก่อนที่เขาจะจับใบหน้าของเธอแล้วยิ้มให้อีกฝ่าย
“ครั้งที่สามแล้วที่ฉันช่วยเธอแบบนี้นะ”
“อ๊ะ!”
โพรทาเลียได้ยินแบบนั้นก็นึกเลยว่าครั้งแรกที่อีกฝ่ายช่วยเธอก็ตอนเด็ก ตอนที่เธอตกจากหน้าผาจำลองแล้วก็ตอนนี้ ทำเอาเธอรู้สึกประหม่าตอนอยู่ต่อหน้าอีกฝ่าย
“พี่...มาอยู่นี่ได้ไง...?” โพรทาเลียเอ่ยถามออกมา
“ก็...มาทำธุระข้างนอกนะ แล้วก็...รู้สึกถึงพลังประหลาดขึ้นมาเลยลอยตัวมาดู เลยเจอสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดแล้ว ฉันเลยหันไปถามเจ้าพวกนั้นนะ” ฟีนีอุสหันไปมองกลุ่มหนึ่งที่กำลังลอยอยู่
โพรทาเลียหันไปมองก็พบกับพี่ ๆ ของเขากำลังลอยตัวอยู่อย่างไร้รอยแผลจากการโดนแทง นอกจากบาดแผลเล็กน้อย เธอก้มด้านล่างที่เธอเห็นพี่ชายโดนแทง แต่ไม่มีร่างกายของพวกเขา ทำให้ความรู้สึกของโพรทาเลียรู้สึกโล่งใจไปเลยที่พี่ชายไม่เป็นอะไร ก่อนที่ดวงตาของเธอจะสลายกลายเป็นเหมือนเดิม เธอเงยหน้ามามองพี่ ๆ ของเธอ
“ตั้งแต่ตอนไหนกัน?” โพรทาเลียถามออกไปอย่างสงสัย
“ก่อนที่จะโดนแทงนะ พอดี...” เบเดอร์พูดพร้อมกับหันไปมองคนข้างหลังพวกเขาที่กำลังลอยอยู่ด้วย “พี่เขามาช่วยพอดีนะ”
“ฉันมาทันเลยช่วยไว้ทันนะ” อลิซ่าเบ็ธกำลังลอยตัวอยู่ข้าง ๆ โอราอุส
“พี่อลิซ่าเบ็ธ” โพรทาเลียเห็นอีกฝ่ายอยู่กับพวกพี่ ๆ ก็โล่งใจ ถ้ามีเทพีก็ทำให้โล่งใจ “พี่มาตั้งแต่ตอนไหน?”
“ก็ตามพวกโอราอุสมาด้วยตลอดนะ”
“ใช่ ๆ” โอราอุสพยักหน้า เพราะเขาเป็นคนพาอีกฝ่ายมาด้วย
“นี่พี่พาพี่อลิซ่า-”
“เห้ยยยยยยยยยยยย!!!”
เสียงตะโกนของวากาเน็ทดังขึ้นทำให้ทุกคนต่างหันไปมองกันจนเห็นอีกฝ่ายตะโกนจากด้านล่าง แล้วอีกฝ่ายอยู่ใกล้ ๆ กับพวกคุณพ่อ จนพวกโพรทาเลียมองอย่างตื่นตระหนก จนโพรทาเลียขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ
“อย่ายุ่งกับครอบครัวฉัน!! วากาเน็ท”
“ทำไม...เจ้ากลัวว่าข้าจะเล่นงานพวกมันเหรอ?” วากาเน็ทยกเคียวชี้ไปทางครอบครัวอีกฝ่าย
เพอร์ซีย์เห็นแบบนั้นรีบขยับตัวขึ้นมาบังตัวครอบครัวของเขา วากาเน็ทเห็นก็หัวเราะคิกคักออกมา โฟกัสที่จ้องมองอีกฝ่ายเธอนึกย้อนกลับไปในอดีตชาติ กี่ครั้งที่อีกฝ่ายฆ่าอดีตชาติแต่ละคนของเธอ ความรู้สึกโกรธและเกลียดอีกฝ่ายมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว ก่อนที่เธอจะลุกขึ้นมาอยู่ตรงหน้าครอบครัวของเธอ
“โฟกัส...” เพอร์ซีย์มองลูกสาวที่มายืนตรงหน้าของเขา
วากาเน็ทเห็นเด็กสาวมายืนตรงหน้า ทำให้เขาเห็นใบหน้าอีกฝ่ายที่คล้ายคลึงกับโพรทาเลีย โฟกัสจ้องมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเคียดแค้นก่อนจะเอ่ยพูดออกมา
“ถ้าแกกล้ามายุ่งกับครอบครัวฉันอีก ครั้งต่อไปแกได้เห็นชะตาชีวิตแกจบเห่แน่!!!”
‘โฟกัส!! พูดแบบนั้นไม่ได้นะ!!’ โพรทาเลียคิด
‘น้องเราห้าวเกินไปแล้ว!!’ พวกโอราอุสพูดขึ้น
“ช่างกล้าหาญจริง ๆ สาวน้อย แต่ว่า...”
วากาเน็ทจ้องมองเด็กสาวตรงหน้าที่มีหน้าตาคล้ายคลึงกับโพรทาเลียมาก จนเขาไม่คิดว่าจะมีคนเหมือนเด็กนั้น แต่เขากับนึกบางอย่างได้นั้นก็คือคำพยากรณ์ที่เคยได้ยินมาว่าวิบัติที่กำลังมาหาพวกเขานั้นไม่ใช่แค่หนึ่งที่ทำลายแค่เป็นสองที่จะทำลาย
“โพรทาเลียมีสองคน...นี่สินะ ที่พ่อข้าให้ระวัง...”
วากาเน็ทเอ่ยพูดไม่ทันจะจบก็เหวี่ยงเคียวอย่างสุดแรงไปทางเด็กสาวตรงหน้าของตน
“โฟกัส!!”
ทุกคนต่างส่งเสียงเรียกโฟกัสที่กำลังจะโดนโจมตี ดวงตาของโฟกัสเบิกกว้างก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีแดงชาด แล้วก็มีเสียงบางอย่างกระทบกันจนเกิดเป็นเสียงดัง ทำให้แต่ละคนต่างมองว่าสิ่งตรงหน้ามันเกิดอะไรขึ้น เมื่อโฟกัสรับเคียวของแซเทิร์นด้วยมือข้างเดียวได้อย่างง่ายดาย ทำเอาวากาเน็ทเบิกตากว้างอย่างตกใจที่อีกฝ่ายรับการโจมตีของตนได้อย่างง่ายดาย ก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นมามองอีกฝ่ายด้วยดวงตาสีแดงชาดดุจดั่งเปลวเพลิงจับจ้องไปที่วากาเน็ท
“ไม่ได้เจอกันนาน วากาเน็ท”
น้ำเสียงของโฟกัสเปลี่ยนจากเสียงเด็กสาวกับกลายเป็นเสียงทุ้มแบบผู้ชาย ทำเอาวากาเน็ทตกตะลึงเล็กน้อย ก่อนจะโดนอีกฝ่ายจับเคียวแล้วดันตัวอีกฝ่ายให้ลอยไปข้างหลังอย่างรวดเร็วและกระเด็นไปตกลงที่ดาดฟ้ายาวใกล้ไปเกือบแปดถึงเก้าตึก ทำเอาคนอื่น ๆ ต่างตกตะลึงว่าทำไมโฟกัสมีพละกำลังขนาดนั้น ต่างจากโพรทาเลียที่จับจ้องมองก็พอสังเกตว่ามีสิ่งผิดปกติ
“พี่ฟีนีอุส! พาฉันลง!”
“อ๊ะ! ได้ ๆ” ฟีนีอุสได้ยินก็ลอยลงมาข้างล่างพร้อมกับคนอื่น ๆ ที่ตามลงมา
เพอร์ซีย์มองอย่างตะลึงว่าลูกสาวเขามีพลังขนาดนี้ตั้งแต่ตอนไหน แต่พอเข้าหันไปมองอีกฝ่ายก็เห็นพวกลูกชายลงมากันทันใด
“นี่! ไอ้พวกตัวแสบ!” เพอร์ซีย์รีบลุกไปหาลูก ๆ ในทันใด
พวกโอราอุสถึงกับสะดุ้งในทันใดที่เห็นคนเป็นพ่อมาก่อนจะโดนเอ็ดเรื่องที่ทำอะไรไม่คิด ทำเอาคนเป็นพ่อแม่หัวใจจะวายหมด ระหว่างที่พ่อเอ็ดพี่ ๆ โพรทาเลียก็วิ่งไปหาโฟกัสที่ตอนนี้ดูไม่ใช่โฟกัสเลยสักนิด
“แกเป็นใคร!?” โพรทาเลียเอ่ยถามอย่างไม่ชอบใจ
ทำเอาคนอื่น ๆ ต่างหันมามองกันว่าโพรทาเลียพูดแบบนั้นทำไม ก่อนที่แอนนาเบ็ธจะเอ่ยถาม
“โพร...ลูกหมายความว่าไง?”
“คนตรงหน้าพี่ก็คือพี่โฟกัสนี่ครับ?” มาร์โคเอ่ยขึ้น
“คนตรงหน้านะ ใช่ โฟกัส แต่คนที่อยู่ภายในต่างหากที่ไม่ใช่”
บนใบหน้าของโฟกัสก็มีรอยยิ้มขึ้นแล้วหันมามองโพรทาเลียด้วยสีหน้าที่โฟกัสจะไม่มีวันทำใบหน้าเหมือนพวกผู้ชายที่ส่งยิ้มให้สาว ๆ
“ไม่ต้องมาส่งยิ้มให้เลยนะ แก! ฉันถามว่าแกเป็นใคร!? น้องสาวฉันไปไหน!?”
“น่ารำคาญจริง ๆ เป็นร่างจุติที่โวยวายไม่เข้าเรื่อง!”
น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอีกครั้ง แล้วร่างกายของโฟกัสก็มีการแปรเปลี่ยนจากร่างเด็กสาวกลายเป็นชายร่างใหญ่ที่มีร่างกายกำยำยิ่งกว่าพวกพี่ชาย เครื่องแต่งกายคล้ายชาวกรีกที่แต่งกายสำหรับนักรบชาวกรีก โพรทาเลียจ้องมองรู้สึกเหมือนเคยเห็นแบบนี้ตามหนังสือจริง ๆ แต่เธอรู้สึกว่าอีกฝ่ายนั้นใช้ร่างน้องสาวได้ แปลกว่าต้องเป็นอะไรสักอย่างแน่
“นาย...เป็นอดีตชาติของโฟกัสสิ”
“ถูกต้อง! ร่างจุติ!!” ชายร่างสูงเอ่ยพร้อมกับบิดตัวเบ่งกล้าม ทำเอาโพรทาเลียทำหน้าไม่สบอารมณ์สุด ๆ “ข้ามีนามว่าพาราซอน บุตรแห่งแอรีส!!”
“บุตรแห่งแอรีส!?”
เสียงทุกคนต่างเอ่ยพูดพร้อมกันหมดอย่างตกตะลึงที่อีกฝ่ายเอ่ยว่าเป็นสายเลือดแอรีส แต่มีคนหนึ่งที่ทำหน้าอย่างไม่สบอารมณ์เลยที่จู่ ๆ อดีตชาติมาสิงร่างน้องเธออย่างง่ายดาย แต่ก็ขอบคุณที่อีกฝ่ายเข้าร่างน้องเธอ ก่อนจะเอ่ยพูดออกมา
“ขอบใจท่านที่เข้ามาขัดการโจมตีนั้น แต่ว่าเรากำลังอยู่ในช่วงน่าหวาดเสียวอยู่นะ”
“ข้าถึงออกมาไงล่ะ!! เพราะข้าอยากจะอัดเจ้านั้น!”
“เคยมีเรื่องบาดหมางกันสินะ” โพรทาเลียได้ยินแบบนั้นก็ทำให้สงสัยหน่อย ๆ
“อย่าให้เรียกว่าบาดหมางน่าจะเรียกว่าอาฆาตกันเสียมากกว่า ร่างจุติ!!”
น้ำเสียงพาราซอนดูเยือกเย็นและน่าเกรงขามจนทำให้คนฟังรู้สึกหนาวและขนลุกไปกันหมด ทำเอาพวกเพอร์ซีย์ไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับอีกฝ่ายจริง ๆ เนื่องจากถูกสอนว่าอย่าไปหาเรื่องบ้านแอรีสเวลาอารมณ์เด็ดขาด แต่คำพูดอีกฝ่ายไม่สะทกสะท้านอะไรกับโพรทาเลียสักนิด แต่สายตาของเธอที่จับจ้องอีกฝ่ายนั้นช่างน่าเกรงขามและดุดันมากกว่าเขาเป็นหลายเท่า ทำเอาพาราซอนจ้องมองอย่างเกรงกลัว แต่สายตาอีกฝ่ายทำให้เขานึกถึงใครบางคนที่เขาคิดถึงคะนึงหาอยู่นะตอนนี้
“รู้ไหม?” พาราซอนจ้องมองอีกฝ่ายแล้วยกมือเกาคางหน่อย ๆ ”ว่าเจ้าทำให้ข้านึกถึงเจ้าตัวเล็กของข้าจริง ๆ”
“เจ้าตัวเล็กเหรอ?”
โพรทาเลียมองอย่างสงสัยว่าเจ้าตัวเล็กของอีกฝ่ายคือใคร ทำไมเธอถึงเหมือนเจ้าตัวเล็กของอีกฝ่าย สายตาของพาราซอนเหมือนทับซ้อนกับใครบางคนที่มีรูปลักษณ์อันเปราะบางเหมือนหญิงสาว
“ใช่...เจ้าตัวเล็ก...”
ใบหน้าของพาราซอนยกยิ้มอย่างชอบใจที่นึกภาพของชายที่เขาไม่ได้เจอมานานหลังจากมีการแย่งดวงวิญญาณกัน ทำเอาเขาอยากเจออีกฝ่ายอีกจริง ๆ ถ้าร่างจุติเจออีกฝ่ายแล้ว เขามองไปที่ข้อมืออีกฝ่ายก็แอบยิ้มหน่อย ๆ ทำเอาโพรทาเลียเห็นรอยยิ้มนั้นก็สะดุ้งในทันใดว่าอีกฝ่ายยิ้มทำไม
ระหว่างที่คุยกันนั้นเสียงบางอย่างก็กำลังคืบคลานมาหาพวกเขาจนฟีนีอุสรีบมาจับตัวโพรทาเลียแล้วพากระโดดถอยหลัง ทุกคนก็กระโดดหนีจากจุดนั้นไปจุดอื่น พาราซอนยังจ้องมองก่อนจะหลบการโจมตีของวากาเน็ทที่กระโดดลงมาจากที่สูงแล้วทำให้พื้นดาดฟ้ากลายเป็นวงกว้างจนพื้นแตกกระจาย ทำเอาฟีนีอุสเห็นรู้สึกจุกเลยถ้าใครโดนท่านี้ไป
“โดนท่านั้นไปคงจุกน่าดูเลยนะ?”
“อืม...” โพรทาเลียพยักหน้าอย่างเห็นด้วย เธอก้มมองดาดฟ้าที่กระจายเป็นวงกว้างทำให้เธอนึกถึงเรื่องสมัยเด็กขึ้นมาเลย “โดนไปสลบสักสามสี่วันละนะ สำหรับคนธรรมดานะ”
“เธอพูดอย่างกับเคยเจอเลยนะ?” ฟีนีอุสมองโพรทาเลียที่เขากอดอยู่
โพรทาเลียยกคิ้วหันไปมองฟีนีอุสที่กำลังจ้องมองเธอ “ใช่ เคยเจอตอนอายุ 8 ขวบนะ”
“อ๊ะ! เจ็บมากมายนะ?”
“ก็นะ...ทำเอาอ้วกแตกเลยนะ”
“เย้ย...”
ฟีนีอุสฟังถึงกับรู้สึกไม่สบายใจเลยที่ว่าที่ภรรยาของเขาเจอกับอะไรแบบนั้น ทำเอาคิดเลยว่าลูก ๆ เคยเห็นแม่ของพวกเขาเจออะไรแบบนี้หรือเปล่า ระหว่างที่พวกเขาลอยอยู่นั้น ทางด้านล่างก็กำลังมีเรื่องเกิดขึ้นพาราซอนหลบไปได้ไม่ไกล เขาก็เตรียมหยิบดาบของเขาออกมาจากฝักดาบข้างเอวของเขา
“เข้ามาเลย วากาเน็ท”
“ไม่นึกว่าจะมาเจอเจ้าที่นี่จริง ๆ บุตรแอรีส!”
“หึ! ไม่นึกว่าเจอ…” พาราซอนกล่าวแล้วยกคิ้วมองอีกฝ่าย ”คนที่แกฆ่าไปแล้วงั้นเหรอ?”
สายตาของพาราซอนเปลี่ยนไปจากดวงตาสีแดงกลายเป็นสีทองอันน่าสะพรึงกลัว
“ข้าจะทำให้เจ้าได้รู้สึกว่าตนเองทำผิดมหันต์ที่มายุ่งกับข้า วากาเน็ท!!!”
พาราซอนวิ่งตรงเข้ามาอีกฝ่ายพร้อมกับฟาดฟันใส่อีกฝ่ายอย่างรุนแรง วากาเน็ทไม่แม้แต่จะป้องกัน แต่เขาหลบการโจมตีของอีกฝ่ายอย่างหวาดกลัวเหมือนรับรู้ว่าถ้าป้องกันเขามีร่างแหลกแน่ ๆ ถึงรู้ว่าตนเองเป็นเทพ แต่อีกฝ่ายเป็นชายที่ร่างกำยำยิ่งกว่าอะไร ทำให้พวกเพอร์ซีย์เห็นสภาพวากาเน็ทที่ดูเป็นคนอวดดีตอนนี้กำลังหวาดกลัวสายเลือดแอรีสอยู่
“ช่างน่าสมเพชจริง ๆ” โพรทาเลียกล่าวอย่างทำหน้าไม่สนอารมณ์จริง ๆ ที่ตนทนทุกข์กับเทพตนนี้
“ใช่ ช่างน่าสมเพชสำหรับอดีตนายพลนะ” เสียงของรัลเอ่ยพูดขึ้นมา
ทำให้โพรทาเลียหันไปมองอีกฝ่ายที่ยังใส่ชุดคลุมตลอดเวลา แล้วตอนนี้อีกฝ่ายโผล่มาในร่างที่คนปกติ จนทำเอาเธออึ้งว่าอีกฝ่ายโผล่มาทำไม
“นายโผล่มาทำไมเนี่ย?”
ฟีนีอุสได้ยินคำพูดของโพรทาเลียก็หันไปมองก็เห็นบุคคลปริศนาจนทำเอาตกใจ แล้วหลบตัวโพรทาเลียไปอีกด้าน
“นายเป็นใครกัน!?”
“พี่! เขาเป็นอดีตชาติของฉัน จะมาหลบฉันทำไมเนี่ย” โพรทาเลียตีอีกฝ่ายที่เอาตัวเธอหลบมุมซะงั้น
“อ้าวเหรอ...?” ฟีนีอุสได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มแฮะ ๆ ก่อนจะหันตัวโพรทาเลียกลับมาที่เดิม “เชิญจ้า”
โพรทาเลียมองอีกฝ่ายที่เลื่อนตัวเธอได้กลับมาอยู่จุดเดิม เธอก็หันมามองรัลที่อยู่ตรงหน้าของเธอ ก่อนจะคิดถามไถ่ถึงสิ่งที่อีกฝ่ายพูดก่อนหน้านั้น
“นายพลที่ว่าหมายความว่าไง?”
“ก็ชาติก่อนตอนที่ข้ายังมีชีวิต ตัวข้านั้นเคยเป็นแค่เด็กที่สนใจอะไรไปเรื่อยนะ จนวันหนึ่งข้าโดนจับได้แล้วถูกส่งไปเป็นทหารสำหรับทำสงคราม ตอนนั้นข้ามีพลังหรอกนะ แต่ข้าก็อยากรู้ว่าข้าจะโดนฝึกอะไร จนเจอแต่เรื่องจริง ๆ แล้วก็ไปเจอเจ้าเทพเซ็งซวยนั้น วากาเน็ท...”
รัลเอ่ยพร้อมกับมองชายที่กำลังหลบการโจมตีแล้วก็ปะทะบางเป็นบางครั้ง ก่อนที่เขาจะมองชายร่างใหญ่อีกคน
“แล้วก็...พาราซอน...ชายที่ข้าลืมไม่ลงเลยว่าเคยรู้จักกันมาก่อน...”
“เอ๋? นี่นายรู้จัก...”
“ก็นะ...”
รัลเอ่ยพูดขึ้นเมื่อมองชายที่เขาเคยรู้จักมาก่อน ถึงแม้เรื่องในอดีตนั้นจะเป็นเรื่องซ้ำซ้อนที่ทำให้เขาไม่อยากนึกถึงเรื่องอันแสนน่าอายของเขาก็ตามที เพราะมันเป็นเรื่องที่ไม่อยากให้ใครรับรู้
จบตอนที่ 87 โปรดติดตามตอนที่ 88 ต่อไป
Comments (0)