82 ตอน ตอนที่ 82 จงสรรค์สร้างสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
โดย YukiCoCo
ตอนที่ 82 จงสรรค์สร้างสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
ลึกลงไปที่ภายใต้ห้วงแห่งจิตใจ โพรทาเลียมองร่างกายตัวเองในกระจกอย่างไม่คาดคิดว่าตนเองจะมาอยู่ในร่างผู้ใหญ่อีกครั้งหลังจากที่เลี้ยงดูลูกทั้งสองจนโตพอที่จะหย่านมแล้ว เธอถึงใช้ร่างเดิมแต่พอไม่ใช่ร่างนั้นก็เกิดเรื่องขึ้นจนโพรทาเลียเหนื่อยใจสุด ๆ เธอส่ายหน้าเบา ๆ เพื่อเลิกคิดเรื่องพวกนั้น แต่พอจ้องมองร่างกายของเธอทำให้เธอคิดเลยว่าตัวเองดูสวยใช้ได้เหมือนกัน พอโตขึ้นก็คงได้อยู่ร่างนี้สักวัน พอเธอคิดเรื่องตัวเองสวยจบก็เตรียมตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เป็นเสื้อผ้าที่ใส่แล้วสะดวกในทันใด
ระหว่างนั้นทางด้านล่างพวกสาว ๆ กำลังเตรียมตัวสำหรับการทดสอบต่อไปเลยกำลังครุ่นคิดกันว่าใครจะเป็นคนต่อไปเหลือแค่ เซเรน่า ลักซ์ และก็รัล ทั้งสามคนก็จบ ครั้งของเฟอร์ร่าใช้เวลาไม่มากนัก มากสุดก็ของเจ้าบ้าที่แองเจิลสั่งให้ไปทดสอบโพรทาเลีย ตอนนั้นพวกเธอสอดส่องถึงได้รู้ว่าโพรทาเลยเกือบจะฆ่าเจ้าแดเรียลซะแล้ว
“เฮ้อ...การทดสอบเพื่อเพิ่มพลังก็ผ่านไปแล้วสอง เหลือแค่อีกสามคนสำหรับการเพิ่มพลังให้โพรทาเลีย ข้าล่ะเหนื่อยใจจริง ๆ” เฟอร์ร่ากล่าวอย่างเหนื่อยใจ
“น่า ๆ เฟอร์ร่ายังไงพวกเราก็ทำตามหน้าที่ แต่ครั้งนี้ใครจะเป็นคนไปทำภารกิจทดสอบล่ะ?”
“ไม่รู้สินะ ใครดีที่จะเป็นคนไปทดสอบเพิ่มพลังให้โพรทาเลียล่ะ?” เฟอร์ร่าหมุนเก้าอี้หันไปทางด้านหลังที่มีหนุ่ม ๆ กำลังนั่งนอนอยู่บนโซฟา
“ข้าขอคนสุดท้ายนะ” รัลยกมือขึ้นระหว่างนอนอ่านหนังสือ
“นี้ ๆ เจ้าอยากสบายก่อนหรือไง? รัล!! อย่ามาใช้สิทธิ์คนเดียวสิเว้ย!” ลักซ์ลุกขึ้นพร้อมกับเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายเพื่อรังแก
“อ๊ากกกก!! อย่ายุ่งกับข้านะ! ข้าอยากพักผ่อนนี่น่า” รัลเห็นอีกฝ่ายเข้ามาจะรังแกก็ใช้มือปัดการรังแกของอีกฝ่ายในทันใด
“ไม่มีทางพวกเราสามต้องทำการทดสอบให้โพรทาเลียให้มันเสร็จ ๆ นะเว้ย!” ลักซ์ยิ่งรังแกอีกฝ่ายมากขึ้น
ทางด้านสองสาวต่างมองพวกเล่นบ้า ๆ บอ ๆ กันอย่างเหนื่อยใจจนถอนหายใจออกมา ก่อนที่เฟอร์ร่าจะรำคาญก่อนจะตะคอกออกไป
“นี่ สองคนอย่าทะเลาะกันสิ!” เฟอร์ร่าใช้สายตาจ้องมองทั้งสองอย่างเคือง ๆ “ถ้าทะเลาะกัน-”
“ถ้าทะเลาะกัน เย็นนี้ก็อดกินอาหารนะ”
“เอ๊ะ?”
“หือ?”
พวกเขาต่างหันไปมองต้นเสียงที่พูดขึ้น ก็พบกับโพรทาเลียที่กำลังเดินลงมาจากชั้นสองแล้วได้ยินเสียงคนข้างล่างทะเลกัน สองสาวต่างเงยหน้ามองร่างจุติที่กำลังลงมาในเครื่องแต่งกายสบาย ๆ ทรงผมหางม้ายกสูง เสื้อกล้ามสีดำคลุมด้วยเสื้อคลุมลายสก็อตสีแดง กางเกงยีนขายาวสีเขียวเข็มและรองเท้าบูตยาว โพรทาเลียเดินจนมาถึงชั้นล่าง เธอก็เดินตรงไปหาสองหนุ่มที่ทะเลาะกันเรื่องใครจะมาเป็นผู้คุมการทดสอบเธอคนต่อไป
“ถ้าจะมานั่งเถียงกันเรื่องที่ว่าใครจะเป็นผู้คุมการทดสอบฉัน ฉันว่าพวกนายน่าจะสุ่มไม่ดีกว่าเหรอ?”
“สุ่ม?” พวกอดีตชาติจ้องมองอย่างสงสัย
รัลที่ได้ยินก็ยกมือขึ้นเพราะสงสัย “สุ่มคืออะไรขอรับ?”
“อ๊ะ...เอ่อ...เป็นการสุ่มอย่างหนึ่งนะ อย่างเราเอาชื่ออะไรก็ได้มาสุ่ม แล้วใช้อะไรสักอย่างมาหมุนเพื่อสุ่มว่าใครจะได้ แต่อธิบายคงไม่เข้าใจล่ะเนอะ?”
ทุกคนต่างพยักหน้าอย่างเห็นด้วยว่าไม่เข้าใจที่อีกฝ่ายพูด โพรทาเลียจึงหยิบขวดไวน์ที่แดเรียลดื่มไว้ขึ้นมา
“อันนี้คือตัวหมุน พวกเธอสามคนมายืนจุดไหนของโต๊ะกลมนี้นะ” โพรทาเลียเดินมาถึงโต๊ะอาหารที่เป็นโต๊ะกลมใหญ่
ทั้งสามคนได้ยินคำสั่งนั้นก็เดินไปหาอีกฝ่าย โพรทาเลียเลยจัดให้พวกนั้นอยู่มุมใดมุมหนึ่งของโต๊ะ จนยืนกันเป็นรูปสามเหลี่ยม เฟอร์ร่ามองอย่างสงสัยว่าอีกฝ่ายจะทำอะไร พอจัดการอะไรจบโพรทาเลียก็นำขวดไวน์มาวางไว้ตรงกลางโต๊ะแล้วจับขวดหมุนไปทางขวาจนเกิดแรงเหวี่ยงหมุนไปอย่างไม่หยุด ทั้งสามคนต่างจ้องขวดอย่างสงสัยว่ามันจะหมุนไปไหน ก่อนที่โพรทาเลียจะยิ้มมุมปากแล้วเอ่ยพูดขึ้น
“ปากขวดไปทางไหน แปลว่าคนนั้นต้องเป็นคนทำการทดสอบคนต่อไป!”
“ห๊า!?” ทั้งสามคนต่างหันไปมองโพรทาเลียอย่างตกใจ
“ไม่ ๆ ไปทางนั้น!!” รัลเอ่ยพูดพร้อมกับจ้องขวดอย่างกลัว ๆ ที่มันหมุนมาหาเขา
“ไปทางเซเรน่าเลย นางคงอยากทำก่อนนั้นล่ะ!!” ลักซ์กล่าวพร้อมกับจ้องขวด
“นี้ ๆ ใครบอกว่าอยากทำก่อนกัน!!” เซเรน่าหันไปจ้องเจ้าลักซ์ที่พูดไม่คิดเลย
ขวดที่กำลังหมุนอยู่นั้นเริ่มที่จะหมุนช้างลง ทั้งสามต่างลุ้นจนสติไม่อยู่กับตัวจนกระทั่งปากขวดมันไปหยุดอยู่ตรงหน้าของรัล ทำเอาเขาจ้องมองอย่างกับตาจะทะลักออกมาถึงกับตะลึงว่าตนเองต้องเป็นคนต่อไปงั้นเหรอ
“ไม่น๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!”
“เย้! ไอ้คนที่อยากทำที่หลังโดนก่อนซะงั้น!! ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ลักซ์พูดเยาะเย้ยรัลที่โดน
“นาย!!” รัลหันไปจ้องมองอีกฝ่ายที่เยาะเย้ย เขาก่อนจะพุ่งเข้าไปกัดแขนในทันที “งับบบ!!”
“อ๊ากกกกกกกก! เจ้าบ้ากัดแขนข้าทำไมเนี่ย!! เจ็บนะเว้ย!!”
“เฮ้อ...พวกนี้ทะเลาะกันบ่อยเลยเหรอ?” โพรทาเลียจ้องมองสองคนนี้ทะเลาะจนเสียงดังจนน่ารำคาญ
“ใช่ เวลาอยู่ในโลกนี้เอาแต่ทะเลาะกันจนน่ารำคาญเลยนะ”
“เห้ย เห้ย เห้ย!”
เสียงลากยาวของแดเรียลดังขึ้นจากข้างบน ทุกคนต่างชายตาขึ้นไปมองข้างบนก็พบกับภาพที่ไม่ควรเห็นก็คือ ชายผมยาวสีม่วงอ่อนกำลังชีเปลือยอยู่นั้นเอง
“หัดเกรงใจคนนอนกันมั้งสิ!!”
น้ำเสียงของแดเรียลดูจะโกรธเคืองที่มีคนส่งเสียงกันยามเช้าแบบนี้ แต่เขาไม่ได้ดูเลยว่ามีสาว ๆ อยู่ทำให้เขาหันไปเจอสาว ๆ ก็ได้แต่ยิ้มอย่างเดียว
“อ้าว สาว ๆ ก็อยู่ด้วยเหรอ?”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด!! เจ้าบ้า!! ลามกสิ้นดี!!” เซเรน่าเอามือปิดหน้าในทันที
“แม่จ๋า! ตาลูกเจอของบาปเข้าให้แล้ว” เฟอร์ร่าถึงกับหันหลังหนีแล้วหน้าซีดไปในทันใด
“ไม่เป็นไรนะ เฟอร์ร่า!!” โพรทาเลียหันไปมองเฟอร์ร่าที่ช็อกการเห็นร่างชายอื่น “แดเรียล!! กลับไปใส่เสื้อผ้าเดียวนี้!!”
“โธ่...อะไรกันนั้นหนา แค่ร่างชายเปลือยเปล่าจะคิดอะไร!!”
“คิดสิ!! เจ้าบ้า! อนาจาร!!” เซเรน่ายังตะโกนใส่อีกฝ่าย
“เซ็งจริง ๆ สาว ๆ พวกนี้” แดเรียลเดินกลับห้องของเขา
สองหนุ่มที่อยู่ตรงนั้นถึงกับหน้านิ่งไปเลยกับการเห็นร่างชายอื่นนอกจากตนเอง แต่สิ่งบางอย่างที่พวกเขามองนั้นก็คือท่อนล่างที่บ่งบอกถึงความเป็นชาย ทำเอาพวกเขาจ้องของแดเรียล แล้วก้มมองของตนเองกันก่อนจะถอนหายใจ
‘แพ้อย่างราบคาบจริง ๆ’ สองหนุ่มคิดเหมือนกันในทันใด
พอหายอมทุกข์เรื่องร่างกายไปได้สักระยะ รัลก็เตรียมตัวสำหรับการพาร่างจุติไปทดสอบการเพิ่มพลังในทันที เขาเตรียมตัวเดินออกจากบ้านพัก โพรทาเลียก็เดินตามไปในทันใด ทั้งสองเดินออกมาข้างนอกก็ทำให้โพรทาเลียพบกับภาพที่ไม่คาดคิดก็คือ ทะเลทรายที่กว้างใหญ่ไร้จุดหมาย นั้นทำให้เธอเหงื่อตกเพราะความร้อนที่พุ่งขึ้นมาจากพื้นดินตลอด ทำเอาแตกต่างจากสองคนแรกที่ทดสอบเธอเลยจริง ๆ
“ที่นี่ที่ไหน?” โพรทาเลียถามอย่างสงสัยถึงเธอจะรู้ว่าเป็นทะเลทราย “ที่นี่...คือที่จะให้ฉันทดสอบเหรอ?”
“ถูกต้องที่นี่คือสถานที่สำหรับการทดสอบ” รัลเอ่ยแล้วเดินไปข้างหน้าก่อนจะหันกลับไปมองอีกฝ่าย “บททดสอบที่สองในครั้งนี้ จงรังสรรค์เมล็ดพันธุ์ที่ปลูกในพื้นที่แห่งนี้”
“ว่าไงนะ?” โพรทาเลียได้ยินคำพูดอีกฝ่ายก็ตะลึงสถานที่ที่ไม่สามารถจะปลูกอะไรได้จะมาให้เธอปลูกอีก
“ได้ยินแล้วนี่ พยายามเข้าละกัน ฉันจะมาดูเธอในอีก 2 วัน!” รัลกล่าวก็หายตัวไปจากตรงนั้นในทันใด
“เฮ้ย! เดียวสิ!! จะให้ฉันสร้างเมล็ดพืชปลูกบทที่แห้งแล้งเนี่ยนะ!! ใครมันจะทำได้กัน! รัลลลลลลลลลลลลลลลล!!”
โพรทาเลียตะโกนไปสุดเสียงโดยไร้การตอบสนองจากอีกฝ่ายที่หายไป เธอถึงกับเกาหัวอย่างหงุดหงิดที่ตนเองต้องมารับการฝึกที่ไม่คาดคิดแบบนี้อีก แล้วทำให้สงสัยว่าการฝึกแต่ละอันมันช่วยเธอในเรื่องอะไรกัน ก่อนที่เธอจะหายใจเข้าหายใจออกทำใจอยู่สักระยะหนึ่งว่าถึงเธอหงุดหงิดไปมันก็ไม่ช่วยอะไรเธอเลยสักนิด ตอนนี้เธอรู้สึกอย่างเดียวนั้นก็คือ การอิจฉาตัวเองที่อยู่ด้านนอกที่ไม่ต้องมาทำการทดสอบอะไรแบบนี้
ทางด้านโลกแห่งความจริงพวกโอราอุสลงมาหาพ่อแม่ที่อยู่ชั้นสอง พวกน้อง ๆ บางคนรีบพุ่งตัวไปหาคนเป็นย่ากับปู่เลี้ยงแล้วกอดพวกเขา ทำเอาโพไซดอนหงอยไปเลยที่หลาน ๆ ไม่ได้สนใจตนเท่าไร ก่อนที่เด็กน้อยคนหนึ่งจะเดินเข้ามานั้นก็คือโฟกัสที่อยู่ในวัยสิบขวบเข้ามาทักทายเทพทั้งสองอย่างดีใจที่ได้เจอ แต่ก็ทำเอาเทพทั้งสองตกใจที่หลานสาวพวกเขาเปลี่ยนร่างอีกแล้ว
“โฟกัส...หลาน...” อาธีน่าตะลึงที่หลานสาวตัวโตขึ้นเพียงเล็กน้อย
“อายุเพิ่มแล้วสินะ แล้วจำเรื่องก่อนหน้าได้ไหมนะ?” โพไซดอนเอ่ยถามหลานสาวพร้อมกับจูงหลานสาวมานั่งตัก
“เรื่องตอนก่อนหน้าที่อายุ 6 ขวบสินะคะ หนูจำไม่ได้เลยนะคะ” โฟกัสเกาแก้มอย่างเขิน ๆ ที่ตัวเธอไม่มีความทรงจำในปัจจุบันเลย
“แย่เลยนะ ฮ่า ๆ”
เทพทั้งสองให้ความสนใจหลานสาวตัวน้อย คนอื่นก็หันไปมองโฟกัสในวัยสิบขวบกำลังพูดคุยกับปู่กับยายอย่างสนุก เพอร์ซีย์เห็นแบบนั้นก็ยิ้มเล็กน้อยก่อนที่โอราอุสจะเข้ามาหาพ่อเพื่อคุยบางอย่าง
“ไม่เป็นไรแล้วใช่ไหมครับ? พ่อ”
“อ๊ะ...ไม่เป็นแล้วนะ” เพอร์ซีย์ตอบคำถามของลูกชาย “แล้วโพรทาเลียล่ะ?”
“น่าจะสักพักหนึ่งเดียวก็ลงมานะครับ จริงสิ พ่อจำเรื่องที่พวกบ้านเฮอร์มีสไล่ต้อนเรือปริศนาเข้ามาในค่ายได้ไหม?”
“ได้สิ ต้องควบคุมไว้จนกว่าจะหาสาเหตุว่ามันเป็นเรืออะไรถึงมีชีวิตนะ”
“ไม่ต้องหาสาเหตุแล้วล่ะ” โอราอุสทำใบหน้าฉีกยิ้มที่บ่งบอกถึงคนรู้เรื่องบางอย่างที่คนเป็นพ่อไม่รู้
“ยิ้มแบบนั้นไปรู้อะไรมานะ?”
“ก็รู้แค่ว่าเจ้าของเรือนั้นอยู่ใกล้เราแค่นิ้วก้อยเองนะครับ”
“จริงเหรอ!!” เพอร์ซีย์ตาโตอย่างสนใจ
“ใครกันนะ? โอราอุส ลูกอย่างเอาแต่เล่นลิ้นสิ” แอนนาเบ็ธจ้องมองลูกชายที่เอาแต่เล่นลิ้นไม่พูดสักที
“เจ้าของเรือนั้นคือ หนูเองค่ะ” เสียงของโพรทาเลียดังขึ้น เธอกำลังเดินลงมาจากบันไดโดยการอุ้มเจ้าตัวเล็กทั้งสองไว้ที่แขนทั้งสองข้างของเธอ “เรือนั้นชื่อ กลูด้า ถ้าหนูจำไม่ผิดนะ”
เพอร์ซีย์หันไปมองลูกสาวที่กำลังอุ้มหลานทั้งสองลงมา เขาไม่คิดเลยว่าพอได้เห็นเต็มสองตาก็ได้เห็นลูกสาวในร่างที่ควรจะมีลูกได้
“โพร...”
“โพรทาเลีย?” แซลลี่เอ่ยชื่อหลานสาวเบา ๆ
พวกผู้ใหญ่ทั้งห้าต่างหันไปมองคนที่แซลลี่เอ่ยเรียก นั้นก็ทำให้พวกเขาตาโตอย่างตื่นตกใจที่คนที่กำลังลงมานั้นมีใบหน้าที่งดงามอย่างกับหญิงงาม แต่ก็ต้องตกใจกับคำเรียกที่แซลลี่เรียกหญิงสาว เพราะเธอคือโพรทาเลีย นั้นทำให้พวกผู้ใหญ่คนอื่น ๆ ต่างตกใจว่าหลานพวกเขาทำไมถึงอยู่ในร่างนี้ โพรทาเลียลงมาถึงพื้นเธอก็ย่อตัวลงแล้ววางลูก ๆ ลงที่พื้นก่อนที่เธอจะเดินไปหาพ่อแม่แล้วนั่งลงที่พื้นตรงหน้าพวกเขา
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ...คุณแม่...คุณพ่อ...” โพรทาเลียเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูเศร้าสร้อย
เพอร์ซีได้ยินคำพูดของลูกสาวนั้นก็ถึงกับเก็บความรู้สึกเกือบไม่อยู่ การที่ต้องมาเจอลูกสาวในแต่ละวัยมันรู้สึกทรมานใจเขาที่ต้องเห็นลูกที่โตขึ้นโดยไม่มีพวกเขา เพอร์ซีย์เขยิบเข้าหาลูกสาวแล้วยกมือขึ้นมาสัมผัสใบหน้าของเธอ แล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้แล้วนำหน้าผากชนกับหน้าผากของลูกสาว
“โทษนะ ที่พ่อมันอ่อนแอที่ไม่รู้เลยว่าลูกโดนเทพบ้านั้นจับตัวไป พ่อขอโทษนะ”
โพรทาเลียหลับตาลงเมื่อหน้าผากของคนเป็นพ่อสัมผัสกับหน้าผากของเธออย่างอ่อนโยน คำพูดอีกฝ่ายทำให้เธอจะเก็บความรู้สึกไม่ไหวจนหลั่งน้ำตาออกมาอาบข้างแก้ม เธอยกมือขึ้นมาสัมผัสมืออันหยาบกร้านของผู้เป็นพ่อ
“เมื่อปีก่อน ๆ หนูยังคิดโทษโกรธพ่อแม่อยู่เลย...ว่าทำไมถึงไม่รู้ตัวสักทีว่าคนที่อยู่ตรงนั้นไม่ใช่หนู...แต่มาฟังพ่อขอโทษยิ่งรู้สึกแย่จริง ๆ ที่เมื่อก่อนหนูโทษอยู่คนเดียว”
“ไม่ ไม่ โพรทาเลีย ลูกโกรธหรือโทษพ่อแม่ก็ได้ เพราะบางอย่างมันก็ผิดที่พ่อแม่เหมือนกัน”
โพรทาเลียจ้องมองพ่อของเธอที่ดูใบหน้าดูรู้สึกเจ็บปวดกับคำพูดของเธอ
“หนูไม่รู้นะคะว่าตัวเองในอนาคตปรับตัวยังไงถึงไม่โกรธพ่อแม่กัน...แต่พอมานึก ๆ สิ่งทุกอย่างก็ไม่ได้ผิดที่พ่อแม่ แต่ผิดที่คนที่ทำแบบนี้กับหนูมากกว่า...หนูเลยจะไม่โกรธพ่อแม่เด็ดขาด”
แอนนาเบ็ธยิ่งเข้าใจลูกสาวแล้วลูบหัวอย่างอ่อนโยน “โพร...ลูกจะไม่โกรธพ่อแม่เลยหรือไง?”
โพรทาเลียส่ายหน้าอย่างเชื่องช้า แล้วหันหน้าไปมองคนเป็นแม่ด้วยรอยยิ้ม
“ไม่ค่ะ พ่อแม่ไม่รู้...สิ่งบางอย่างที่ตัวปลอมทำ มันคงทำให้พ่อแม่คิดว่าเป็นหนู...แต่ตอนนี้ตัวหนูในปัจจุบันก็ทำให้ตัวเองกลับมาหาพ่อแม่ แล้วได้อยู่ด้วยกันอีกครั้ง ถึงหนูไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงอยู่แบบนี้หรือตัวหนูปัจจุบันกำลังทำอะไร แต่หนูก็ดีใจได้มาเจอพ่อแม่...แล้วก็...”
โพรทาเลียหันไปมองสมาชิกครอบครัวของเธอที่เธอไม่ได้เจอมานานตั้งสี่กว่าปี
“ครอบครัวที่หนูรัก แค่ได้กลับมาก็ดีใจมากแล้วค่ะ” โพรทาเลียยิ้มให้แก่พ่อแม่
รอยยิ้มนั้นทำเอาคนเป็นพ่อแม่เข้าไปกอดลูกสาวที่ไม่เคยได้รับการกอดจากพวกเขา พวกเขาหวังว่าเจอลูกแต่ละช่วงเวลาพวกเขาจะไม่อภัยให้พวกเขา แต่เจอกับลูกกี่ครั้งลูกก็อภัยให้พวกเขาตลอดแบบนี้ ตอนเจอโพรทาเลียอายุหกขวบ พวกเขาก็ได้เห็นความกลัวของลูกสาวที่โดยเทพอย่างแซเทิร์นควบคุมจนหลอนไปว่าตรงหน้าไม่ใช่พ่อแม่ แต่ตอนนี้พวกเขาจะทำให้ลูกสาวมีความสุขเท่าที่พวกเขาจะทำได้ พวกพี่น้องต่างเห็นพ่อแม่กอดโพรทาเลียพวกเขาก็เดินกันไปร่วมกอดด้วยในทันที
“พวกเราก็รักเธอ โพรทาเลีย” โอราอุสยิ้มแล้วหอมศีรษะน้องสาวเบา ๆ
“จริงด้วยนะ เธอยังมีพวกเราที่รักเธอนะ” เบเดอร์กล่าวพูดอย่างอ่อนโยน
ทุกคนก็เข้ามากอดกันอย่างแนบแน่นกันมาก ๆ จนโพรทาเลียได้รับอ้อมกอดนี้ก็มีความสุขมาก ๆ
“หึ ๆ ขอบคุณนะ ทุกคน” โพรทาเลียมองพี่น้องที่เข้ามากอดเธอด้วย
“เดียวสิ!!” เดวิคตะโกนขึ้นมาในทันใด
เสียงของเด็กน้อยตะโกนจนเหล่าผู้ใหญ่ทุกคนต่างหันไปมองก็เห็นเด็กน้อยกำลังทำท่าทางอย่างไม่พอใจ จนคนเป็นลุงต้องถามขึ้น
“เดวิค หลานเป็นอะไร!?”
“ทุกคนเอาแต่กอดแม่ของพวกผมอยู่นะ!! แม่เป็นของพวกเรา พวกเรากอดได้สองคนนะ!!”
“พี่...เลิกทำเป็นเด็กขี้แยเถอะนะ” คาเร็นน่าใช้หางตามองพี่ชายด้วยสีหน้าที่เบื่อหน่ายกับนิสัยของพี่
“อะไรของเธอ ไม่อิจฉาหรือไง? แม่โดนพวกคุณตากอดอยู่นะ”
“จะอิจฉาทำไม เราก็ได้กอดแม่เป็นประจำอยู่แล้วนะ” คาเร็นน่ากอดอกมองพี่ชายอย่างสงสัย
ระหว่างที่เด็กน้อยทั้งสองกำลังทะเลาะกันนั้น พวกผู้ใหญ่ที่กำลังจ้องมองเด็ก ๆ อย่างสงสัยว่าเด็กสองคนนี้เป็นลูกของหลานสาวพวกเขาจริงอย่างงั้นหรือจนทำให้พวกเขาสงสัยว่ามันเรื่องอะไรกัน โพรทาเลียที่จ้องมองลูกทำเอาเธอขำออกมาเล็กน้อย
“เดวิค คาเร็นน่ามาหาแม่เร็ว” โพรทาเลียอ้าแขนให้ลูกมาหาในทันที
“แม่!!” เด็กทั้งสองคนรีบวิ่งเข้าไปกอดคนเป็นแม่ในทันใด
“หลาน ๆ นี้ ขี้อ้อนเกินไปจริง ๆ นะ” เบเดอร์จ้องมองหลานที่แทรกเข้ามาตรงกลาง แล้วเข้ามากอดซุกแม่ของพวกเขา
“หึ ๆ พวกผมยังเด็ก!!” เดวิคหันหน้าไปซุกแม่ในทันที
“แม่ ๆ เดียวกลับค่ายไปหาพ่อกันนะคะ”
“พ่อเหรอ?” โพรทาเลียมองลูกสาวอย่างสงสัย
“ค่ะ คุณพ่อคนที่เป็นเจ้าของเส้นผมที่ทำให้พวกหนูเกิดมานะ!”
“เอ๋?” โพรทาเลียตกใจเล็กน้อยที่เด็ก ๆ หาเจ้าของเส้นผมนั้นเจอ เพราะเธอยังจำไม่ได้เลยนี่สิ
พวกชายหนุ่มบ้านแจ็กสันต่างพาทำหน้าไม่พอใจเล็กน้อยที่หลาน ๆ พูดถึงพ่อของพวกเขา ระหว่างที่ทุกคนกำลังพูดคุยกันนั้น พวกผู้ใหญ่ทั้งห้ามคนก็มีข้อสงสัยจนคนหนึ่งในนั้นตั้งคำถามขึ้นมา
“เอ่อ...โพรทาเลีย...ปู่ขอถามอะไรหน่อยสิ” โพไซดอนเอ่ยถามหลานสาวอย่างสงสัย
“ค่ะ?” โพรทาเลียหันไปมองคุณปู่หลังจากที่ทุกคนต่างพากันลุกมานั่งที่โซฟากัน โพรทาเลียก็ลุกขึ้นตามที่พ่อแม่พาลุกมานั่งตรงกลางระหว่างพวกเขา “จะถามอะไรคะ?”
“หลานมีลูกตอนอายุเท่าไรนะ?”
“อ๊า...คือ...ตอนอายุเท่านี้ล่ะค่ะ...ก็ 10 ขวบนี้ล่ะ...”
“10 ขวบ!!” พวกผู้ใหญ่ทั้งห้าคนต่างตกใจกับสิ่งที่หลานสาวพูด
“ไอ้เว้ยหน้าไหนมาทำหลานยายท้องกัน!!” อาธีน่าลุกขึ้นอย่างโกรธเกรี้ยวที่ใครมาทำกับหลานของนางแบบนี้ “บอกยายมาเลย โพรทาเลีย ยายจะไปจัดการมัน!!”
“จริงด้วย กล้าดียังไงมาทำหลานปู่ท้องแบบนี้!!”
“พ่อครับ...”
“แม่ค่ะ...”
“ช่วยใจเย็นหน่อยครับ/ค่ะ” สองสามีภรรยาต่างพูดพร้อมกันเพื่อห้ามคนเป็นพ่อแม่ของตนเอง
เทพทั้งสองต่างนั่งกันอย่างสงบเงียบ เพอร์ซีย์เห็นก็ถอนหายใจออกมาอย่างเบา ๆ เขานึกว่าจะได้เห็นความโกรธเกรี้ยวของทวยเทพซะแล้ว เขาเข้าใจทั้งสองฝ่ายที่ต้องโกรธเป็นธรรมชาติ ยิ่งพวกเขาเริ่มเข้าหาลูก ๆ ความโกรธของคนเป็นพ่อแม่ก็ยิ่งทวีคูณขึ้นกว่าแต่ก่อนที่พวกเขาไม่สนใจลูกหลานสายเลือดของตน พอยกเลิกกฎหลายอย่างทำให้พวกเขาอยากลงมาอยู่โลกมนุษย์มากขึ้นกัน แต่ตอนนี้คงต้องเล่าเรื่องของโพรทาเลียให้เทพทั้งสองกับพ่อเลี้ยง แม่ และพ่อตาฟังสักหน่อยล่ะนะ
‘อยากรีบกลับบ้านเลยแฮะ...’ เพอร์ซีย์คิด
จบตอนที่ 82 โปรดติดตามตอนที่ 83 ต่อไป
Comments (0)