116 ตอน ตอนที่ 116 แสดงพลังออกมาเสียนั้น
โดย YukiCoCo
ตอนที่ 116 แสดงพลังออกมาเสียนั้น
ห้วงแห่งจิตใจนั้นเงียบสงัดกว่าพื้นป่าที่จะมีเสียงสายลม แต่ว่าที่นี่ไร้เสียงของผู้คนที่จะสนทนาอยู่ตลอดเวลา โพรทาเลียมองซ้ายมองขวาอย่างสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับทุกคน แล้วยิ่งเธอใช้พลังของพวกเฟอร์ร่าไม่ได้ยิ่งลำบากเข้าไปอีกแต่ยังดีที่เธอมีพลังต้นของปู่อยู่ เธอค่อย ๆ เดินลงมาอยู่ชั้นแรกที่มีห้องโถงอยู่ เธอไม่เห็นวี่แววของทุกคนเลยแม้แต่น้อย ยิ่งสับสนว่าทุกคนนั้นหายตัวไปไหนกันยิ่งรู้สึกแปลกประหลาด เพราะก่อนจะย้อนเวลามานั้นทุกคนก็ยังอยู่ข้าง ๆ จนมากาลเวลานี้ ระหว่างที่เธอกำลังคิดอยู่นั้นก็มีสิ่งบางอย่างตกจากโต๊ะห้องครัว
ตึง!! ตึง!!
“กรี๊ด!!”
โพรทาเลียสะดุ้งตกใจกับเสียงนั้น เธอหันไปมองก็ไม่เห็นอะไรนอกจากสิ่งที่กำลังกลิ้งอยู่บนพื้นอย่างแอปเปิล
‘ตกมาได้ไงกัน?’ โพรทาเลียคิด
เธอเดินตรงไปข้างหน้าทีละก้าวโดยรู้สึกหวาดระแวงต่อรอบตัวที่ผิดปกติตอนนี้ เมื่อตรงมาใกล้กับแอปเปิลเธอก็ย่อตัวลงไปหยิบอย่างไม่ลังเล แต่ก็มีสิ่งบางอย่างวิ่งผ่านข้างหลังไปอย่างรวดเร็ว โพรทาเลียหันขวับไปอย่างรวดเร็วแต่ไร้วี่แววสิ่งมีชีวิตทางด้านหลังยิ่งทำให้ประหลาดใจว่าความรู้สึกเมื่อกี้มันคืออะไรหรือว่าจะเป็นพวกเฟอร์ร่า
“พวกเรา...อยู่แถวนี้หรือไหม?”
คำถามนั้นไร้ซึ่งคำตอบรับยิ่งทำให้โพรทาเลียรู้สึกอ้างว้างกว่าเดิม แต่ก็มีความรู้สึกแปลก ๆ ที่กำลังผ่านร่างเธอ
“มนต์บังตา? หรือเปล่านะ…แต่มันไม่น่าจะผ่านร่างกายได้นี่น่า?”
โพรทาเลียพึมพำอยู่คนเดียวโดยไม่รู้ถึงซึ่งที่เกิดขึ้น เธอลองหันกลับไปที่แถวเคาน์เตอร์แล้วเพ่งจิตมองอย่างตั้งใจ แต่ก็ไร้ซึ่งการตอบสนองนั้นทำให้เธอคิดว่าคงไม่มีอะไรแถวนี้แต่พอไม่มีทุกคนแล้วมันช่างรู้สึกเหมือนกลับไปตอนอยู่บนเกาะจริง ๆ
“รู้สึกเหงาเลยแฮะ...พวกเธอ...เป็นเหมือนครอบครัวของฉันเลยนี่นา...”
เสียงอันเศร้าสร้อยนั้นดังอยู่เพียงภายในห้วงเวลานี้เท่านั้น ก่อนที่โพรทาเลียคิดว่าตัวเองไม่ควรเสียเวลาเพียงเพราะพวกอดีตชาติหายไป เธอต้องหาทางพาพวกเขากลับมา เธอวางแอปเปิลขึ้นมาวางบนโต๊ะก่อนจะเดินไปที่ประตูทางเชื่อมสู่ความจริง แต่เธอกำลังเดินออกไปนั้นก็มีเสียงแผ่วเบาเอ่ยเรียกเธอด้วยเสียงที่ขาดหาย
“โ_ทา...เ_ย...”
อีกด้านหนึ่ง ณ ค่ายฮาล์ฟบลัด
พื้นป่าอันเงียบสงบมีเพียงเสียงดังจากเสียงกระทบของดาบปะทะกันอย่างดุเดือด เสียงหัวเราะคิกคักอย่างสนุกสนานภายในสถานพยาบาล เสียงฝีเท้ากำลังเดินไปเดินมา เสียงพวกนั้นกำลังตีไปตีมาจนประสาทการได้ยินทำให้คนคนหนึ่งที่กำลังหลับอยู่นั้นรู้สึกปวดหูไปหมด แต่ทว่าก็มีกลิ่นอายบางอย่างปะทะเข้าจมูกของเด็กสาวที่นอนอยู่จนเธอรู้สึกคุ้นเคยกับกลิ่นนั้นเป็นอย่างมาก
‘กลิ่นนี่มัน…กลิ่นต้นสน…มินต์…ทะเล…ฉันเคยได้กลิ่นนี้…กลิ่นที่คุ้นเคยของ…’
โฟกัสกำลังคิดถึงกลิ่นนี้ว่าเป็นกลิ่นของอะไร เปลือกตาของเธอก็ค่อย ๆ เปิดอย่างช้า ๆ ภาพตรงหน้าที่กำลังเบลอก็เริ่มชัดขึ้นก่อนที่เธอจะเห็นเด็กสาวตรงหน้าอย่างชัดเจน
“คุณเรเชล...”
หญิงสาวผมสีแดงที่ยืนกระปุกสมุนไพรให้อีกฝ่ายดมกลิ่นอยู่นั้นก็ยิ้มอย่างชอบใจที่ได้ยินน้ำเสียงของอีกฝ่าย
“หึ ๆ รู้สึกว่าจะตื่นแล้วนะ เด็กน้อย~”
โฟกัสมองอีกฝ่ายที่หัวเราะเหมือนทุกครั้งที่เจอกัน แต่สิ่งบางอย่างทำให้เธอตะลึงคือความอ่อนเยาว์ของอีกฝ่ายที่ดูเด็กกว่าครั้งล่าสุดที่เธอเจอ แต่การเจออีกฝ่ายเป็นอะไรที่เธอคาดไม่ถึงมากกว่าจนเธอสะดุ้งลุกขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนที่อีกฝ่ายจะรีบจับตัวเธอ
“อย่าพึ่งลุกขึ้นสิ เธอตกลงมาอย่างแรงเลยนะ ถึงจะไม่บาดเจ็บมากก็ตามที”
“ตกลงเหรอ?” โฟกัสได้ยินแบบนั้นก็จำได้ว่าก่อนหน้านั้นเกิดอะไรขึ้น แล้วเธอจำทิศทางที่ตกลงมาได้ “ค่ายฮาล์ฟบลัด...”
“ถูกต้อง! สาวน้อยที่นี่คือค่ายฮาล์ฟบลัด”
“ตอนนี้ตกมีใครได้รับบาดเจ็บไหม!?”
“ไม่นะ ทุกคนหนีออกจากจุดที่เธอตกได้อย่างรวดเร็วนะ”
โฟกัสได้ยินแบบนั้นก็โล่งใจที่ไม่มีคนบาดเจ็บตอนที่เธอลงมา แต่ทว่าตอนนี้เธอกับคิดบางอย่างต่อว่าเธออยู่ในช่วงเวลาไหนของอดีตกันแน่ โฟกัสหันไปหาอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว
“คุณเรเชล คุณตอนนี้อายุเท่าไหร่นะคะ?”
“อายุเหรอ? 30 ปีนะ”
“เอ๊ะ!?”
โฟกัสหน้าตาตื่นเลยพออีกฝ่ายบอกแบบนั้น เพราะถ้าอีกฝ่ายอายุเกิดกว่ายี่สิบแปลกว่าพวกเธอพลาดโอกาสช่วยคุณเจสันแล้ว เรเชลเห็นสีหน้าของเด็กน้อยก็แอบหัวเราะออกมาเบา ๆ ที่เห็นสีหน้าอันคาดไม่ถึงแบบนี้ก่อนจะตบหลังเด็กน้อยเบา ๆ
“ฮ่า ๆ ล้อเล่น ๆ ฉันอายุ 20 ปีเองจ้า สาวสวย ๆ แบบนี้อายุ 30 ก็เร็วเกินไปนะจ๊ะ”
“โธ่…คุณเรเชล…”
โฟกัสโล่งใจเลยที่อีกฝ่ายอายุยี่สิบปี แต่ก็เล่นทำเอาเธอตกใจเลยที่อีกฝ่ายบอกอายุสามสิบ เพราะถ้าอายุประมาณนั้นเธอก็คงอายุประมาณห้าหรือหกขวบ แต่พอนึกถ้าเป็นช่วงเวลานั้นคือช่วงที่พี่หายไปพอดี ถ้าเป็นช่วงเวลานั้นจริง ๆ เธอจะช่วยพี่ได้ไหม เธอนึกอยู่สักครู่ก่อนจะส่ายหัวแรง ๆ เพื่อลบความคิดแบบนั้นออกไป เรเชลเห็นท่าทางอีกฝ่ายก็รับรู้สึกความรู้สึกอันสับสนนั้นก่อนที่เธอจะทำให้เด็กหันมาสนใจเธอทันที
“เอาล่ะ ลุกขึ้นไหวไหม?”
“ลุกขึ้น?” โฟกัสมองอย่างสงสัยว่าจะให้เธอลุกไปไหน “เราจะไปไหนกัน?”
“ตามมาก็รู้เอง ฉันไม่อยากเสียเวลาเยอะ เหลืออีกแค่ 4 วันจนกว่าพี่เธอจะทำภารกิจจบ!”
“4 วัน!! งั้นหนูก็ต้องรีบไปหาพี่สาวแล้ว!! ไม่งั้นพี่ทำภารกิจไม่สำเร็จแน่ ๆ”
“จุ๊ ๆ อย่าพึ่งรีบร้อนกว่าเธอจะตามพี่สาวเธอไปก็ใช้เวลาเหมือนกัน เอาล่ะตามฉันมาเลย” เรเชลเดินนำทางอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว
โฟกัสมองอีกฝ่ายที่เดินนำหน้าไปอย่างรวดเร็ว เธอลุกขึ้นออกจากเตียงก็รู้สึกถึงสายตาที่จ้องมองเธอทุกสายตาจับจ้องกันอย่างสงสัย เธอรู้ว่าสายนั้นคือการอยากรู้อยากเห็นและสงสัยว่าเธอเป็นใครแล้วตกลงมาจากฟ้าได้ไง นั้นเป็นความรู้สึกแปลก ๆ ที่พึ่งเคยรู้สึกจนเธอรู้สึกอายก่อนจะเอามือปิดหน้าของตนเองแล้วเดินออกจากสถานพยาบาล พอเดินก้าวออกมานั้นก็ได้เห็นวิวทิวทัศน์เดิมที่เคยเห็นตั้งแต่เด็ก ผู้คนบางส่วนหันมามองเธออย่างสงสัยว่าเป็นใคร ก่อนที่เธอนั้นจะมองหาเรเชลที่โบกมือให้เธออยู่ห่าง ๆ นั้นทำให้เธอเดินตามอย่างรวดเร็ว
“คุณเรเชล…”
“อย่าพึ่งพูดตามมา!” เรเชลพูดจบก็นำทางเธอไปข้างหน้าทันที
ทิศทางที่อีกฝ่ายกำลังพาไปนั้น โฟกัสรู้ดีว่าที่ไหนก่อนจะรีบเดินตามไปทันที “งั้นหนูขอถามระหว่างเดินไปนะคะ คุณรู้เหรอว่าหนูเป็นใคร!?”
“ใช่ เพราะว่าก่อนหน้านั้นมีคนให้ฉันเห็นนิมิตหนึ่ง ถึงรู้ว่าพวกเธอจะมาแล้วก็รู้ว่าใครเป็นผู้ปกครองพวกเธอ”
“อ๊า…” โฟกัสได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับตาโต “คุณจะไม่บอกพ่อแม่หนูใช่ไหม!?”
“ไม่รู้สินะ ขึ้นกับสถานการณ์ของเธอเด็กน้อย แต่ว่าเธอไม่อยู่ที่นี่นานหรอก เพราะเธอนั้นก็ต้องทำภารกิจของตัวเองเช่นกัน”
“หนูเหรอ?”
“ใช่ แต่ต้องหลังจากเจอกับพวกคุณดีก่อนนั้นล่ะนะ”
“คุณดีนะเหรอ?” โฟกัสไม่อยากเจอชายที่ชอบเรียกชื่อเธอผิดจริง ๆ บางครั้งก็ โมน่า หรือไม่ก็ โรร่า บางละจนพ่อบอกให้ทำใจกับไดโอนีซุส “ไม่อยากเจอเลย…”
“ทำไมล่ะ?”
“เขาชอบเรียกชื่อพวกหนูผิด ๆ นี่น่า”
“แล้วนึกเหรอว่าเธอเป็นคนเดียวนะ”
“แต่หนูก็ไม่ชอบอยู่ดี”
“น่า ๆ ไปเถอะ พวกเขาคงอยากถามเยอะเลยว่าเธอนั้นเป็นใครมาจากไหนนะ ถึงตกลงมาที่ค่ายนี้ ถ้าไม่อยากตอบอะไรมาก็แค่บอกว่าไม่ตอบก็จบ”
“คิดว่าไม่ตอบแล้วเขาบังคับหนูไม่ได้เหรอคะ?”
“ฮ่า ๆ สมกับเป็นสายเลือดของ…สองเทพคู่กัดกันมาช้านานจริง ๆ”
“ขอล่ะ ถ้าคุณปู่กับคุณยายได้ยินคงโกรธแน่ ๆ”
“ฉันจะสนเหรอ?”
เรเชลหันมาหยักคิ้วให้อีกฝ่าย แล้วหันกลับไปทางเดิมเพื่อเดินต่อจนมาถึงบ้านใหญ่หลังหนึ่งที่อยู่โดดเดี่ยวบริเวณนี้ โฟกัสมองสภาพบ้านที่ต่างจากอนาคตที่จะมีลานกว้างขนาดใหญ่ พอเรเชลเห็นบ้านใหญ่เธอก็หันมามองอีกฝ่ายที่ตามมา
“รออยู่นี้ล่ะ ฉันจะไปดูว่าพวกเขาอยู่ไหม? ถ้าไม่ฉันจะพาเธอไปเดินเล่นซะหน่อย”
“ตามนั้นค่ะ…”
พอได้คำตอบเรเชลก็เดินออกไปจากตรงนั้นแล้วเดินเข้าไปข้างในบ้านใหญ่เพื่อตามหาคุณดีกับไครอน อีกฝ่ายหายลับเข้าไปในบ้านใหญ่โฟกัสก็หันหลังมามองทิวทัศน์ด้านหน้าที่ต่างจากอนาคตที่ยังมาไม่ถึง ทำให้คิดเลยว่าถ้าทำไม่สำเร็จอนาคตก็จะเหมือนกับโลกที่พวกเธอไปล่าสุด ครั้งนี้เธอกับพี่สาวต้องทำภารกิจให้สำเร็จ ระหว่างที่เธอกำลังครุ่นคิดอยู่นั้นก็มีบางคนที่เดินผ่านหน้าเธอไปพร้อมกับซุบซิบบางอย่าง เธอจับใจความได้แค่ว่าไครอนกับคุณดีไปแถว ๆ คลังแสง ทำให้คิดเลยว่าคุณเรเชลเข้าไปข้างในอย่างเสียเวลาแน่ ๆ แต่แล้วก็มีบางอย่างลอยมาตรงหน้าเธออย่างรวดเร็ว
“แย่แล้ว โฟกัส!!” เฮเลนตะโกนขึ้นมาอย่างเสียงดัง
“เฮเลน!! โผล่มาทำไมนะ!!” โฟกัสรีบจะคว้าเฮเลนมาไว้ในมือ
เฮเลนลอยตัวหนีทัน “ไม่มีคนเห็นหรอก แต่ว่าเกิดเรื่องแล้วล่ะ!!”
“เรื่อง? เรื่องอะไร?”
“พวกเฟอร์ร่าไม่สามารถติดต่อกับโพรทาเลียได้!!”
“หมายความว่าไง?” โฟกัสขมวดคิ้วถาม
“คือหลังจากที่มาอดีตนี้ พวกเฟอร์ร่าจะเรียกคุยกับโพรทาเลีย แต่พี่สาวเธอก็ไม่มีการตอบสนองจนเจ้าตัวรู้แล้วว่าพวกเฟอร์ร่าหายไปนะ”
“แล้วมันเกิดขึ้นได้ไง?”
“อันนี้ยังไม่แน่ใจ แต่ว่าเหมือนมีสิ่งบางอย่างปิดกั้นไม่ให้โพรทาเลียรับรู้ถึงพวกเฟอร์ร่าได้ แถมยังไม่สามารถใช้พลังได้อีก”
โฟกัสตาลุกวาวการไม่มีพลังของอดีตชาติช่วยเป็นอะไรที่ลำบากถึงมีพลังของต้นกำเนิดอยู่ก็ตามที
“แล้วพวกเธอช่วยได้ไหม?”
“ก่อนหน้าโพรทาเลียเข้าไปในห้วงแห่งจิตใจ พวกเราช่วยกันพยายามให้โพรทาเลียเห็นแต่ไม่เป็นผม แต่ว่ารัลพยายามจะสะบัดของบางอย่างจนสะบัดแอปเปิลตก โพรทาเลียรับรู้ว่ามีของตกก็มาดู แล้วเซเรน่าก็ลองวิ่งผ่านหลังของโพรทาเลียนั้นก็ทำให้เธอสัมผัสได้ แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกจนโพรทาเลียออกจากห้วงจิตใจไปนะ”
“งั้นฉันต้อง...”
โฟกัสกำลังจะพูดกับเฮเลนอยู่นั้นก็รู้สึกถึงสายตาแปลก ๆ ที่กำลังมองเธอที่กำลังคุยอยู่กับเฮเลนทำให้เธอรับรู้ว่าเพราะอะไร
“ทุกคนไม่เห็นเธอตอนนี้สินะ”
“ใช่ เราปกปิดตัวเองไม่ให้ใครเห็นนะ...”
พออีกฝ่ายกล่าวแบบนั้นทำให้โฟกัสรู้ว่าคนพวกนั้นกำลังเห็นเหมือนเธอเป็นบ้าที่กำลังพูดอยู่คนเดียว
“เฮ้อ...” โฟกัสส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนจะหันหน้าไปทางบ้านใหญ่ ก่อนจะเรียกเฮเลนมาใกล้ ๆ “ฉันว่าเราต้องรีบตามหาพี่สาวโดยเร็วที่สุด ไม่งั้นเราแย่แน่ ๆ เราเหลือเวลาแค่ 4 วันในการช่วยเหลือคุณเจสัน”
“4 วัน พูดจริงสิ!”
“ใช่...ฉันว่าฉันรีบหนี...”
“ฉันว่าเธออย่าพึ่งรีบร้อนดีกว่านะ” เรเชลเอ่ยขึ้น เธอเดินออกมาจากบ้านใหญ่แล้วเดินตรงมาหาโฟกัส
“คุณเรเชล!! หนูต้องไปหาพี่สาว เขากำลังตกอยู่ในอันตราย ถ้าไม่มี...”
“เธอคิดว่าพี่สาวเธอต้องการพลังของอดีตชาติขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“คุณรู้...แต่ช่างเถอะ” โฟกัสไม่อยากถามเลยว่าอีกฝ่ายรู้ได้ไง ก่อนจะเอ่ยพูดกับอีกฝ่ายต่อ “แต่ว่า...พี่หนู...”
“เขาต่อสู้ตัวคนเดียวมาตลอดด้วยพลังของตัวเองไม่เคยมีพลังของอดีตชาติช่วยสักครั้งเนี่ยนะ? แล้วเธอจะห่วงเขาไปทำไม?”
“แต่เขาเป็นพี่สาวหนูนะ!!”
“แล้วคิดเหรอว่าพี่สาวจะยอมให้น้องสาวมาเสี่ยงอันตราย?”
เรเชลพูดแบบนั้นออกมาทำให้โฟกัสคิดว่าพี่สาวเธอต้องไม่ยอมให้เธอมาหาแน่ ๆ ถ้ามันมีอันตรายถึงขั้นแย่งพลังของพวกเธอไปได้ เธออาจจะเป็นตัวถ่วงของพี่เช่นกัน จนเธอก้มหน้าแล้วยอมรับสิ่งที่อีกฝ่ายกล่าวออกมา
“จริงของคุณ...”
“งั้นก็ปล่อยวางซะ เพราะยังไงพี่สาวเธอก็ดูแลตัวเองได้นะ”
“ทำไมคุณดูรู้จักพี่หนู...”
“ฉันเคยบอกแล้วนี่ ฉันเห็นนิมิตก็ต้องรู้ว่าพวกเธอนั้นมีความแข็งแกร่งที่ต่างกัน พี่สาวเธอมีความแข็งแกร่งทางร่างกาย ส่วนเธอมีความแข็งแกร่งทางด้านสมอง ส่วนทางร่างกายยังอ่อนแอกว่าพี่สาวเธออยู่ก็ตามที”
โฟกัสกำหมัดแน่นเมื่อได้ยินแบบนั้นแต่เธอก็ต้องปล่อยวาง แล้วเงยหน้ามองอีกฝ่าย “แล้วพี่เขาจะ...ปลอดภัยใช่ไหม?”
เรเชลเท้าเอวมองอีกฝ่ายพร้อมรอยยิ้ม “แน่อยู่ เธอน่าจะรู้นะว่าพี่สาวของเธอเป็นใคร”
“เป็นพี่สาวที่แข็งแกร่งของหนู...”
เฮเลนมองการสนทนาของมนุษย์ทั้งสองแต่สายตาของเธอจับจ้องไปที่หญิงสาวผมแดงที่มีออร่าอันน่าสะพรึงกลัว แล้วออร่านั้นคือออร่าสีเขียวที่บ่งบอกถึงการเป็นผู้หยั่งรู้ยิ่งทำให้เธอไม่อยากหญิงคนนี้ขึ้นมาจนหลบไปอยู่หลังคอของโฟกัส เรเชลที่กำลังคุยกับโฟกัสก็ชายตามองเห็นเฮเลนที่หลบอยู่บริเวณต้นคอเด็กสาวตรงหน้าเธอ เฮเลนยื่นหน้าออกมาเล็กน้อยก็เห็นว่าอีกฝ่ายโค้งเล็กน้อยให้เธอจนทำให้เฮเลนรู้สึกขนลุกกับอีกฝ่ายที่มองเห็นเธอ ถึงจะผ่านไปนานแค่ไหนพวกหยั่งรู้แต่ละคนของพี่ชายอย่างอะพอลโลก็น่ากลัวไปหมดทุกคน ระหว่างที่เฮเลนกำลังจ้องมองอีกฝ่ายอยู่นั้น เรเชลก็หันกลับมามองโฟกัสแล้วกล่าวบางอย่างต่อ
“รู้สึกว่าคุณดีกับไครอนไม่อยู่ที่บ้านนะ?”
“เอ่อ...หนูว่าหนูรู้นะเขาอยู่ไหนนะ”
“พูดจริงเหรอ? เธอรู้ได้ไง?”
“เมื่อกี้บางคนที่เดินผ่านหนูไปพวกเขาบอกว่าไครอนกับคุณดีกำลังอยู่ที่คลังแสง เหมือนกำลังทำอะไรสักอย่างอยู่”
“อ๋อ...งั้นเหรอ...งั้นไปกันดีกว่า”
เรเชลกอดคอเด็กน้อยพร้อมกับพาไปยังคลังแสงกันอย่างรวดเร็ว ตามทางเดินจากบ้านใหญ่ไปยังคลังแสงใช้เวลาไม่นานก็เห็นบางคนกำลังช่วยกันเอาน้ำมาดับไฟ ถึงจะมีสายเลือดโพไซดอนอย่างเพอร์ซีย์ช่วย แต่บางจุดยังไม่มีก็ต้องช่วยกันเอง เรเชลเห็นแบบนั้นก็รู้สึกว่าอาการหนักจริง ๆ สำหรับสถานที่ตรงหน้า โฟกัสเห็นก็คิดเช่นกันก่อนจะเห็นการเผาไหม้ที่พุ่งไปยังทิศที่เธอรู้
“หนูตกแถวบ้านพักเหรอ?”
“ใช่ แต่ไม่มีอะไรหนักหนา ไม่ต้องห่วง”
“ไม่ต้องห่วง...” โฟกัสมองต้นไม้ที่โดนเผาไหม้เธอเห็นแล้วเจ็บปวดใจสุด ๆ
เรเชลเดินนำทางไปหาอาจารย์ไครอนที่อยู่แถวคลังแสงอย่างรวดเร็วปล่อยให้โฟกัสมองสถานการณ์ จนเธอไปจ๊ะเอ๋เข้ากับคนที่เธอคิดถึงมาก ๆ พ่อของเธอ เพอร์ซีย์
“พ่อ...” โฟกัสพึมพำออกมาเบา ๆ
เพอร์ซีย์หยุดใช้พลังก่อนจะยกเสื้อขึ้นมาเช็ดหน้าที่มีแต่เหงื่อ จนทำให้เห็นกล้ามท้องจนสาว ๆ บางคนมองกันอย่างสนใจ ทำเอาโฟกัสที่อยู่แถวนั้นมองอย่างไม่ชอบใจเลยที่มีคนสนใจพ่อเธอแบบนั้น แต่มีคนหนึ่งก็เห็นสายตาของโฟกัสที่มองเพอร์ซีย์ด้วยสายตาแปลก ๆ อย่างแอนนาเบ็ธที่อยู่ด้านข้าง เธอก็มองเพอร์ซีย์อย่างไม่ชอบใจที่อีกฝ่ายไม่อายอะไรเลยว่าเช็ดหน้าด้วยเสื้อแล้วเสื้อก็เปิดออกจนเห็นกล้ามหน้าท้องจนเธอหึงอย่างไม่พอใจที่มีคนสนใจ แต่ความรู้สึกบางอย่างก็บ่งบอกว่ามีสายตาที่คล้ายกับอารมณ์ของเธอตอนนี้กำลังจ้องมองแฟนหนุ่มของเธอ จนเธอหันไปมองก็เห็นเด็กสาวปริศนาที่เธอไม่รู้จักกำลังมองแฟนหนุ่มของเธอ แต่เธอพินิจจ้องมองเด็กสาวที่มีสายตาคุ้น ๆ แต่เธอนึกไม่ออกว่าคุ้นที่ไหน แต่ใบหน้าของเด็กสาวปริศนาทำให้เธอรู้สึกว่าเคยเห็นที่ไหนจนความทรงจำหนึ่งผุดขึ้นมา
‘เดียวนะ!!...เด็กคนนี้คนที่ตกลงมาจากฟ้า!!’ แอนนาเบ็ธคิด
แอนนาเบ็ธมองอย่างสงสัยว่าเด็กสาวคนนั้นฟื้นตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วมาทำอะไรตรงนี้ ระหว่างนั้นเรเชลคุยกับไครอนและคุณดีเสร็จพอดี เธอกำลังหันไปหาโฟกัสเพื่อที่จะเรียกให้อีกฝ่ายมาหา แต่สายตากับเห็นสิ่งที่ไม่คาดคิดนั้นขึ้นคือชายหนุ่มสองคนจากบ้านไหนสักบ้านหนึ่งกำลังเล่นสาดน้ำกันแต่ทิศทางของสองหนุ่มเหมือนจะมาทางโฟกัส ทำให้เรเชลตะโกนเตือนอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว
“โฟกัส!! ระวังเจ้าพวกนั้น!!”
“เอ๊ะ?” โฟกัสหันไปมองอีกฝ่ายที่พูดแบบนั้น
แต่ความรู้สึกบางอย่างบอกว่ามีน้ำกำลังตรงมาทางเธอ โฟกัสเห็นสองหนุ่มที่กำลังวิ่งสาดน้ำใส่กันและกันอย่างไม่หยุดโดยในมือถือถังน้ำ โฟกัสเห็นเลยว่าถังนั้นเป็นสิ่งประดิษฐ์ของบ้านเฮเฟตัสแน่ ๆ ก่อนที่พวกนั้นจะวิ่งมาทางนี้แล้วเริ่มสาดน้ำมาทางที่เธออยู่ ทุกคนเห็นแบบนั้นก็รู้เลยว่าเด็กสาวผมบลอนด์ได้ตัวเปียกแน่ ๆ สองหนุ่มเห็นแบบนั้นก็ตกใจเล็กน้อย เพอร์ซีย์พยายามจะควบคุมน้ำที่พุ่งไปหาอีกฝ่าย แต่ทว่าโฟกัสยกมือขึ้นอย่างรวดเร็วน้ำที่พุ่งมาก็หยุดนิ่งอย่างรวดเร็ว ทุกสายตาจับจ้องอย่างตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น น้ำที่ตอนแรกกำลังจะพุ่งใส่เด็กสาวกับหยุดนิ่งอย่างรวดเร็ว โฟกัสหันไปทางหนุ่มทั้งสองคนที่สาดน้ำมาทางเธอด้วยรอยยิ้มพิฆาต
“ไม่เคยมีคนบอกหรือไง? ว่าอย่าเล่นกันระหว่างทำงานนะ?!”
“อ๊ะ...คือว่า...พวกเรา…”
“ไม่ได้…ตั้งใจ…”
โฟกัสไม่รอคำตอบของหนุ่มเธอก็ยกมือขึ้นยกขาขึ้นเหมือนท่าปาเบสบอลแล้วปาบอลน้ำใส่สองหนุ่มนั้นอย่างรวดเร็วจนสองหนุ่มนั้นล้มไปกับพื้นอย่างรวดเร็ว
“แก้ตัวไปก็เท่านั้น!! เล่นหาอะไรไม่ทราบ!!” โฟกัสตะโกนใส่สองหนุ่มจนทั้งสองลุกขึ้นมาก้มขอโทษทันที
“ขอโทษคร้าบบบบบบบบ!!”
“หึ!”
เรเชลเห็นอีกฝ่ายปล่อยอารมณ์ไม่พอใจหนุ่ม ๆ ที่เล่นกันในเวลางาน ทำเอาเธอนึกถึงใครบางคนเลยจริง ๆ ก่อนที่เธอจะเอ่ยเรียกอีกฝ่ายทันที
“โฟกัส...” เรเชลเรียกอีกฝ่ายเบา ๆ
“ค่ะ” โฟกัสหันไปมองคุณเรเชลทันที
“คือว่า...เราออกจากตรงนี้แล้ว...ไปคุยกันที่อื่นดีกว่า...นะ...”
เรเชลใช้ห่างตามองชายข้าง ๆ สองคนที่ตกตะลึงกับการใช้พลังของโฟกัส ทำให้โฟกัสมองก็รู้ว่าหมายความว่าไง
“ซวยล่ะ...”
จบตอนที่ 116 โปรดติดตามตอนที่ 117 ต่อไป
Comments (0)