105 ตอน ตอนที่ 105 ออกเดินทาง
โดย YukiCoCo
ตอนที่ 105 ออกเดินทาง
เวลาผ่านไปหลังจากกลับมาจากสุสาน ปู่สัญญาว่าจะเตรียมเรือไว้ให้ถ้าพวกเธอพร้อมที่จะไป โพรทาเลียเข้าใจในทันทีที่เพียงแต่ว่าเธอจะพาใครไปด้วยก็เท่านั้น เพราะว่าไม่รู้ว่านอกจากเทพีแล้วมีใครอยู่ที่เกาะนั้นอีกไหม นอกจากพี่น้องของเธอสี่คนจะพาไปอีกดี แต่เรื่องนี้เธอไม่อยากบอกแม่เท่าไหร่เดียวถ้าว่าเธอจะไปทำอะไรอันตรายอีก แม่ยิ่งห่วง ๆ อยู่ ระหว่างที่กำลังคิดเธอก็กวาดสายตามองรอบ ๆ บ้านที่ทำให้นึกถึงสมัยเด็ก ๆ ที่เธอกับพี่น้องจะวิ่งเล่นในห้องนั่งเล่นตลอด ทำให้นึกถึงสมัยก่อนสุด ๆ
‘คิดถึงจังนะ...’ โพรทาเลียคิด
แต่ว่าน่าเสียดายที่บ้านหลังนี้ไม่มีอีกแล้วเนื่องจากว่าเมื่อหลายปีก่อนบ้านนี้พังจากฝีมือปีศาจที่บุกมาโจมตีครอบครัวเธอ คงเพราะเป็นคำสั่งของนูอัสแน่ ๆ แต่ดีที่ตอนนี้ไม่มียัยนั้นในโลกของเธอแล้ว แต่ก็มาเจอกันในโลกนี้แทนช่างเป็นคู่กรรมคู่เวรจริง ๆ โพรทาเลียถอนหายใจออกมาอย่างรุนแรง ก็มีสิ่งบางอย่างมาวางตรงหน้า เธอลืมตาขึ้นมาเห็นสิ่งที่เธอเคยเห็นก่อนทำให้ดวงตาลุกวาวขึ้นมานั้นก็คือ เค้กสตรอเบอรี่ เหมือนเป็นเดจาวูตามที่พี่เคยพูดเหตุการณ์ซ้ำซ้อน เธอหันไปมองคนที่วางจานเค้กตรงหน้าเธอว่าเป็นใคร
“พี่โอราอุส...”
“กลัวว่าจะเบื่อเลยเอาเค้กมาให้ทานสักหน่อยล่ะนะ”
“ขอบคุณค่ะ” โพรทาเลียเอ่ยขอบคุณกับพี่ชาย “แล้วพวกพี่เบเดอร์ล่ะ?”
“พวกนั้นไปร้านผู้ใหญ่นะ”
“ร้านผู้ใหญ่? อย่าบอกนะว่ามีร้านจำพวก…เรื่องบนเตียงเหรอ?”
“พรวดดดดดดดด!!” โอราอุสถึงกับสำลักน้ำที่กำลังดื่มทันที “ไม่ใช่แบบนั้น…พี่หมายถึงร้านเหล้านะ”
“อ๋อ ร้านเหล้า…นึกว่าร้านพวก 18+ สักอีก”
“เธอรู้เรื่องพวกนั้นด้วยเหรอ?”
“เห็นบ่อยตอนอยู่บนเกาะที่จะไปนะ”
“พูดจริงสิ!?”
“พอเถอะ ฉันอยากกินเค้กอย่างสบาย…” โพรทาเลียก้มมองเค้กด้วยสายตาสงสัย ก่อนจะหันไปถามพี่ ”พี่เป็นคนทำเหรอ?”
“อ๊ะ...เปล่านะ...พึ่งสั่งมานะ...”
“อ้าวเหรอ...นึกว่าพี่ทำ...หนูชอบเค้กฝีมือพี่มากกว่า...” โพรทาเลียพูดพร้อมกับหยิบส้อมขึ้นมาตักเค้กทานทันที “แต่ก็ขอบคุณค่ะที่ซื้อมาให้...”
โอราอุสเอียงคออย่างสงสัย “พี่ในโลกของเธอ ทำเค้กเป็นด้วยเหรอ?”
“อืม” โพรทาเลียพยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะตักเค้กเข้าปาก รสชาติแลกของตัวครีมอันหวานแหลมพุ่งเข้ามาทันที “อึ้ก…บ้าจริง…หวานกว่าเค้กของพี่อีก…”
คำบ่นของน้องสาวทำเอาโอราอุสอยากรู้เลยว่ารสชาติเค้กของเขาจะเป็นยังไง เพราะเขาก็ไม่เคยทำเค้กสักครั้งจนเวลาผ่านไปบนจานที่มีเค้กนั้นได้หายไปอย่างรวดเร็ว คนเป็นพี่จ้องมองน้องสาวที่ดูเหมือนจะชอบขนมมาก ๆ ทำให้อยากรู้อะไรบางอย่าง
“แล้วตัวพี่ในโลกเธอนั้น ทำเค้กให้ตอนไหนนะ?”
“หือ…ก็…เขาเอาเค้กที่ตัวเองทำให้ตอนที่ชวนฉันไปที่บ้านเขานะ”
“บ้านพี่เหรอ?”
โอราอุสถึงกับตาโตกับคำว่าบ้านเขา เพราะตัวเขานั้นยังไม่มีบ้านของตัวเองนอกจากห้องเช่าเล็ก ๆ ที่เขาเช่าอยู่เวลากลับมาจากที่ทำงานเดือนละครั้งหรือเป็นปีกว่าจะกลับ แต่พอเขาฟังแบบนั้นก็รู้สึกด้อยค่าตัวเองสุด ๆ ที่ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักที
“ตัวฉันนี้…เก่งจังนะ…”
“พี่ตอนนี้ก็เก่งค่ะ คนเราเก่งกันคนละอย่างนะ พี่หนูในโลกหนูก็เก่งในแบบศิลปินสร้างผลงานแต่งนิยายไปเรื่อยกับเป็นที่ปรึกษาบ้านโพไซดอนด้วย”
“ผลงาน…แต่งนิยายเหรอ? ที่ปรึกษา? พี่เนี่ยนะ!”
“ใช่ พี่นั้นล่ะ”
“นึกไม่ฝันเลยนะ…ว่าฉันจะทำงานอะไรแบบนั้น”
โอราอุสคาดไม่ถึงว่าตัวเองนั้นจะมีสองหน้าที่สองตำแหน่ง งานอีกงานก็ดูสบายอีกงานก็ดูไม่ยากสำหรับเขา แต่เรื่องใช้จ่ายนี้ล่ะเขาต้องดูแลทั้งครอบครัวถึงแม่จะช่วย แต่เขาก็ต้องช่วยให้น้อง ๆ มีเงินใช้เงินเรียนอยู่ดี
“...”
โพรทาเลียมองท่าทางของพี่ชายที่มีสีหน้าต่างจากเมื่อกี้ มันดูเหมือนคนที่มีอารมณ์แบบอมทุกข์ยังไงชอบกล จนเธอยื่นมือเข้าไปจับมืออีกฝ่ายเบา ๆ
“อย่าอมทุกข์เลยนะ ถึงตอนนี้พี่ยังเลิกทำสิ่งที่ตัวเองชอบไม่ได้ แต่พี่ก็เข้มแข็งมากเลยนะ เป็นทั้งเรื่องงานแล้วก็หัวหน้าครอบครัวนะ เก่งมากเลยนะคะ” โพรทาเลียพูดพร้อมกับยกมือขึ้นมาลูบหัวของพี่ชายเบา ๆ
“โพรทาเลีย…”
คำพูดอันอ่อนโยนและอบอุ่นของน้องสาวจนเขานั้นอยากได้รับการปลอบโยนอย่างสบายใจ ทั้งสองคนนั้นกำลังพูดคุยกันอยู่ภายในห้องนั่งเล่นอยู่นั้น โฟกัสกำลังเดินลงมาจากชั้นบนหลังจากอาบน้ำเสร็จ เธอก็เดินหาคนอื่น ๆ ก็ไม่เจอจนเธอเดินมาแถว ๆ ห้องนั่งเล่นก็เห็นว่าพี่สาวกำลังลูบหัวพี่ชายอยู่ ทำให้สงสัยว่าทำอะไรกันจนเธอนั้นลองเอ่ยพูดก่อนจะเข้าไปร่วมวงด้วย
“ทั้งสองคนกำลังทำอะไรอยู่นะ?”
“หือ?”
ทั้งสองคนต่างหันไปมองต้นเสียงที่อยู่ทางเข้ามายังห้องนั่งเล่นก็ทำให้โพรทาเลียสะดุ้งเล็กน้อยกับการแต่งกายของน้องสาว ชุดนอนอมชมพูดแสนหวานเย็นตั้งแต่หัวจรดเท้า ทำเอาโพรทาเลียขนลุกกับการแต่งกายของน้องสาว
“ชุดใครนะ!? ดูแบบ…!!”
“อ๋อ…” โฟกัสก้มมองชุดของเธอก็ทำได้แต่ยิ้มแห้งให้พี่สาว “เอ่อ…ห้องหนู…ก็ชุดของเมก้านั้นล่ะ”
“ชุดเมก้าเหรอ? หวานเกิน!! แบบ…เจ้าหญิงสมัยเด็ก ๆ เลยล่ะ!!”
“ใช่ เมก้าจะชอบอะไรที่…สดใส…จนแบบ…”
“แสบตามาก!!”
โพรทาเลียกล่าวด้วยสายตาพิฆาตกับชุดที่น้องใส่ที่มันหวานเกินไปสำหรับน้องสาวเธอ ถ้าเป็นโฟกัสมันต้องโทนสีฟ้าขาวเหมาะมากกว่าสีชมพูหวานเย็นนี้สุด ๆ จนน้องสาวเห็นท่าทางพี่สาวก็เอาขำหน่อย ๆ ก่อนจะเอ่ยพูดขึ้น
“แหม~ พูดแบบนั้นสิ…หนูว่าของหนูยังน้อยแล้วนะ…ของพี่นะ…ยังอลังกว่าหนูอีกนะ”
“หือ? ว่าไงนะ?”
ตัดภาพมายังชั้นสองของบ้านแจ็กสัน ห้องของโพรทาเลียไม่ได้ตำแหน่งเดียวกันกับห้องของเธอในอีกโลก พอเดินขึ้นบันไดจนมาถึงชั้นสองก็เดินไปทางด้านขวาแล้วเขี้ยวซ้ายไปยังสุดทางเดินที่พี่ชายบอกว่าห้องในสุดเป็นห้องของตัวเธออีกคน พอเดินตรงมาถึงเธอจ้องมองลูกบิคอย่างครุ่นคิด ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างรุนแรงก่อนจะเปิดประตูเข้าไป ภาพแรกที่เห็นนั้นสีชมพูอันแสบตายิ่งกว่าอะไร ทั้งห้องนั้นประดับด้วยของสีชมพูกับขาวยิ่งทำเอาโพรทาเลียที่เคยอยู่กับสีโทนดำมาตลอดถึงกับชะงักจนต้องรีบปิดประตูทันที โอราอุสที่เดินตามมาที่หลังก็มองสภาพน้องสาวก็หัวเราะออกมาเบา ๆ
“หึ ๆ เห็นสภาพห้องตัวเองในโลกนี้แล้วเป็นใคร”
โพรทาเลียค่อย ๆ หันหน้าไปมองพี่ชายด้วยสีหน้าที่ไม่ชอบใจสุด ๆ “เลวร้ายที่สุด สภาพเหมือนห้องของยัยนูอัสที่ปลอมเป็นหนูไม่มีผิด”
“นูอัส…ผู้หญิงคนที่ต่อสู้กับแม่สินะ”
“ใช่…ยัยนั้นปลอมเป็นชั้นตั้งเกือบ 9 ปี”
“ยาวนานจังนะ…แล้วเธอไปอยู่ไหนกัน?”
“ก็อยู่บนเกาะที่จะไปไงล่ะ…แต่…อยู่ที่นั่นเจออะไร…อย่าถามดีที่สุด…” โพรทาเลียพูดจบก็เตรียมตัวจะเดินหนีจากตรงนั้น
โฟกัสเห็นอีกฝ่ายกำลังจะเดินไปไหนก็ถามออกไป “พี่กำลังจะไปไหนนะ?”
“ถามได้ก็ไปนอนนะสิ…แต่นอนห้องนั้นเล่น ฉันไม่ยอมนอนที่มันหวานแหววหรือฟรุ้งฟริ้งแบบนั้นเด็ดขาด!!”
โพรทาเลียพูดแบบนั้นจบก็เดินหนีไปในทันที โดยที่น้องสาวกับพี่ชายยังอยู่ตรงนั้น ทำเอาโฟกัสหัวเราะชอบใจเบา ๆ
“คิก ๆ พวกโทนสีหวาน ๆ ดูจะไม่ชอบสุด ๆ เลยนะ ทำไงได้ล่ะนะ พี่เขาอยู่กับโทนมืดมานานแล้วน่านะ”
“โทนมืด?”
“ก็…สถานที่มืดมิด อันน่ากลัวแล้วมีแสงแค่ช่วงเช้า…พวกสีโทนหวาน ๆ ไม่ค่อยได้เจอหรอกนะคะ”
โฟกัสพูดพร้อมกับเดินออกจากตรงนั้น ทิ้งให้โอราอุสจ้องมองอย่างสงสัยว่าในคำพูดของน้องสาวว่าหมายถึงอะไร ในคืนนั้นโพรทาเลียกับโฟกัสก็พากันนอนที่ห้องนั่งเล่น โอราอุสเห็นน้องสาวทั้งสองก็รู้สึกเลยว่าสองคนนี้ช่างมีบรรยากาศต่างจากน้องสาวของเขา ถึงน้องสาวเขาจะดูเป็นเด็กน่ารักน่าเอ็นดู แต่สองคนตรงหน้าของเขานั้นดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเขาเสียอีก ทำให้ยิ่งนึกสงสัยว่าโลกที่น้องสาวอยู่นั้นทำอะไรให้สองคนนี้ดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเขา ทำให้เขาอยากลองเดินทางไปยังโลกอีกฝั่งหนึ่งจริง ๆ
หลังจากคืนนั้นก็ผ่านพ้นมายังเช้าวันใหม่ แต่เป็นยามเช้าที่ไม่น่าพึ่งประสงค์ เพราะสภาพพี่ชายทั้งสองแฝดของพวกเธอ กลิ่นตัวเต็มไปด้วยเหล้าและอาการที่ยังเมาค้าง ทำให้พี่โอราอุสนั้นต้องสาดน้ำไปสักสองสามรอบกว่าจะหลุดจากอาการเมาค้าง ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ท่าเรือในนิวยอร์ก เนื่องจากคุณปู่นัดหมายให้พวกเรามายังที่แห่งนี้เลยต้องเดินทางกันมาจนมาเจอกับคุณปู่แล้วคนจำนวนหนึ่ง พอเห็นคนจำนวนนั้นเธอกับรู้สึกไม่ดีกับหนึ่งในนั้น
‘ซวยแล้ว ๆ’ เฟอร์ร่าเอ่ยพูดในหัวของโพรทาเลีย ตลอดหลายชั่วโมงพวกอดีตชาติไม่ได้พูดเสียงนาน
‘เฟอร์ร่า เป็นอะไร?’
‘คนที่อยู่ข้าง ๆ ท่านพ่อ…ฉันไม่อยากเจอเขาเลย…’
‘คนข้าง ๆ’
โพรทาเลียมองไปทางข้างหน้าที่มองบุคคลที่อีกฝ่ายพูดถึง บุคคลที่ว่านั้นมีผมยาวลอนหยิกสีน้ำตาล ใบหน้าเป็นกระตั้งแต่แก้มจนถึงแก้มอีกข้างหนึ่ง แต่ท่าทางอีกฝ่ายทำเอาเธอรู้สึกแปลก ๆ เหมือนกัน แต่ความรู้สึกข้างในบอกว่าไม่อยากเจอสุด ๆ
‘ใครนะ?’
‘จะใครอีกล่ะ…บุตรของโพไซดอน ไทรทัน พี่ชายของข้า’
‘อ๋อ…เอ๋!! ว่าไงนะ!!’
โพรทาเลียถึงกับตาโตเลยที่อีกฝ่ายบอกว่าอีกฝ่ายที่อยู่ตรงหน้าปู่เป็นพี่ชาย พอเธอลองนึกย้อนอดีตของเฟอร์ร่ายิ่งทำให้เธอไม่อยากที่จะทำอะไรเลยตอนนี้ แต่ต้องเก็บความรู้สึกที่มีต่อพี่ชายคนนี้เสียก่อน เธอพาทุกคนเดินตรงไปหาปู่ในทันใด ผู้คนจำนวนนั้นต่างมองมาทางนี้ แต่พวกเขาไม่ได้มองเปล่า แต่พวกเขาทำความเคารพพวกเขาแล้วกล่าวออกมาพร้อมกับว่า ‘ขอเคารพเหล่าสายเลือดโพไซดอน’ ทำเอาเธอรู้สึกประหม่าจริง ๆ ก่อนที่ปู่จะเริ่มพูดขึ้น
“ปู่หาคนมาให้เพื่อที่จะพาพวกเจ้าไปยังสถานที่ที่จะไปมันจะได้ปลอดภัยมากกว่าที่พวกเจ้าไป” โพไซดอนขยับมือไปทางลูกน้องของเขาที่ยืนอยู่กันเป็นกลุ่มใหญ่
‘พาตัวเกะกะมานะสิไม่ว่า…’ โพรทาเลียคิด
อุตส่าห์เธอขอแค่เรือไม่ได้ต้องการอะไรเลย แต่ปู่ก็หาอะไรให้เธอจริง ระหว่างที่เธอกำลังคิดแล้วสายตาของเธอมองขึ้นอยู่นั้น ดวงตาของเธอก็ปะทะกับชายที่กำลังจ้องมองเธอนั้นทำให้เธอต้องหันหน้าไปทางอื่นก่อนทันที
“แล้วก็ปู่ได้พาบุคคลขึ้นมาด้วย”
โพรทาเลียยื่นมือไปหาชายหนุ่มที่อายุน่าจะประมาณสามสิบกว่าอยู่ตรงหน้าพวกเธอทั้งห้า ก็ทำให้สงสัยว่าอีกฝ่ายเป็นใครแต่โพรทาเลียรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร
“คนคนนี้?”
“ลุงของพวกเรา ลูกชายของปู่นะ”
หลาน ๆ ทั้งห้ามองอีกฝ่ายว่ามีสีหน้าตึงเครียดแบบสุด ๆ เหมือนอีกฝ่ายจะไม่ชอบพวกเขาเลย
“ลุง…”
โอราอุสมองชายตรงหน้าที่คนเป็นปู่บอกว่าเป็นลุงของพวกเขา ทำให้สงสัยว่าตลอดหลายปีไม่เคยเห็นหน้านอกจากอาไทสันคนเดียว มาเจอกับบุคคลที่ไม่รู้จักยิ่งทำให้ระหว่างกว่าเดิมจนเขาต้องพูดออกมา
“พวกเราว่าไม่ดีกว่าครับ คุณปู่ เราเดินทางกันเองได้นะครับ ไม่ต้องให้…คนที่เราไม่รู้จักแล้วทำหน้าไม่สบอารมณ์แบบนี้มาช่วยก็ได้นะครับ”
คำพูดของโอราอุสทำให้ชายตรงหน้าทำหน้ายกยิ้มขึ้นมา “อย่าคิดว่าพวกเจ้าจะชอบ ข้าก็ไม่ชอบเช่นกัน”
“อย่าทะเลาะกัน! ไทรทัน ข้าให้เจ้าดูแลหลานเจ้า ไม่ใช่ว่าทำตัวไม่พอใจกับลูกหรือหลานของข้า” โพไซดอนเข้าไปจับแขนลูกชายอย่างไม่พอใจ
ไทรทันได้ยินผู้เป็นพ่อเอ่ยแบบนั้นทำให้เขานั้นสะบัดมือที่อีกฝ่ายจับแขนเขาออกไปพร้อมกับสีหน้าไม่พอใจยิ่งกว่าเดิม
“ทำอย่างกับข้าจะชอบในสิ่งที่ท่านยัดเหยียดให้ ท่านพ่อ ข้าเกลียดสายเลือดของท่านที่เกิดจากมนุษย์ที่ไม่ใช่ท่านแม่ แล้วก็อย่าหวังว่าจะให้ข้ายอมรับคนพวกนี้!!”
โพไซดอนชะงักกับคำพูดของลูกชายก่อนที่เจ้าตัวจะเดินออกจากตรงนั้นไปยังเรือที่ปู่เตรียมไว้ให้พวกโพรทาเลีย โพไซดอนได้แต่ส่ายหน้าเบา ๆ ที่ลูกชายพูดแบบนั้นแต่ตัวเองก็ยังขึ้นเรือไปอย่างเงียบ ๆ โพรทาเลียเห็นแบบนั้นรู้สึกเลยว่าสถานการณ์นี้ช่างลำบากต่อความคิดของอีกฝ่าย คงต้องออกห่าง ๆ ไม่ไปยุ่งกับอีกฝ่ายดีกว่า เพื่ออีกฝ่ายจะไม่มายุ่งกับเธอและเฟอร์ร่า
“ปู่ ขอโทษที่เจ้านั้นทำตัวแบบนั้น”
“ช่างไม่น่าคบสุด ๆ”
“จริงที่สุด”
สองแฝดต่างมองไปทิศที่คนเป็นลุงเดินไปแล้ว ทำเอาพวกเขาไม่ชอบใจอีกฝ่ายเหมือนกัน
“เฮ้อ…” โพไซดอนถอนหายใจเบา ๆ
“ช่างเถอะค่ะ ท่านปู่ เราไม่ได้สนว่าเขาจะยอมช่วยเราไหมนะคะ”
“แต่ว่า…”
“ไม่ต้องห่วงค่ะ พวกเราดูตัวเองได้ ส่วนลูกน้องของปู่ หนูขอบคุณมาก ๆ นะคะ จะใช้พวกเขาให้ดีที่สุด งั้นถึงเวลาออกเดินทางงั้นไปกันเถอะค่ะ!!”
“โอ๊ส!!”
พวกพี่น้องแจ็กสันต่างเฮฮากันอย่างพอใจ ก่อนจะเตรียมตัวที่จะเดินทางกันไปที่เรือทันที โพไซดอนมองพี่น้องเดินกันไป ก่อนที่โพไซดอนจะหันไปมองหลานสาวอย่างสงสัย
“หลานจะไปที่แห่งไหนกัน?”
“ไปยังเกาะที่มีคนที่พอจะช่วยหลานกลับโลกเดิมได้นะคะ”
โพไซดอนจ้องมองหลานสาวพร้อมกับขมวดคิ้วอย่างสงสัย “แล้วหลานรู้หรือว่าเกาะที่ว่านั้นอยู่ที่ไหน?”
“ไม่รู้ค่ะ!”
“แล้วจะตามหาเจอเหรอ?”
“ไม่ต้องห่วงค่ะ หนูจะใช้สัญชาตญาณของหนูที่เคยอยู่ที่นั่นตามหาให้เจอค่ะ” โพรทาเลียขยิบตาให้ปู่แล้วเดินตามพี่ ๆ ไป
การกล่าวแบบนั้นทำเอาลูกน้องของโพไซดอนต่างมองมาที่เจ้านายของตนเองอย่างสงสัย เขาเห็นท่าทางแบบนั้นก็ได้แต่ให้พวกนั้นตามขึ้นเรือไปแล้ว ตัวเขาเองก็ไม่แน่ใจว่าเกาะที่เด็กน้อยตามหาที่ที่ใด แต่เขาก็วาดฝันให้เด็กน้อยเจอเกาะที่ว่านั้น ไม่นานนักเรือก็แล่นออกจากท่าเรือ โพรทาเลียสั่งการให้พวกลูกเรือทำการแล่นเรือไปในทิศที่เธออยากไปถึงอาจจะใช้เวลานานก็ขอความร่วมมือกับคนอื่น ๆ ลูกเรือแต่ละคนเข้าใจแล้วทำตาม โพรทาเลียเห็นแบบนั้นก็ดีใจแล้วขอให้สิ่งที่เธอตามหาขอให้เจอเร็ว ๆ
ช่วงเวลานั้นช่างช้าและเรื่อยเปื่อย แต่ทว่าตอนนี้ก็ผ่านมาเป็นอาทิตย์หลังออกมาจากท่าเรือที่นิวยอร์กแถมห่างออกไปหลายไมล์แล้วตอนนี้ ช่วงเวลาหนึ่งอาทิตย์นั้นช่างไร้ค่า เธออุตส่าห์ใช้พลังหลายอย่างเพื่อตามหาเกาะ แต่ก็ไม่เป็นผลจนตอนนี้เธอเหนื่อยและท้อแท้ยิ่งกว่าเดิมว่าเรือที่ตามหาเพื่อจะขอความช่วยเหลือจากคนคนหนึ่งมันช่างลำบากเป็นอย่างมาก ทางอาทิตย์ตรงหน้าของเธอกำลังตกลงอย่างช้า ๆ กำลังเข้าสู่ช่วงเวลาอันมืดมิดอีกครั้ง
แสงสว่างจากเรือก็เริ่มสว่างขึ้น โพรทาเลียที่กำลังนั่งอยู่ที่หัวเรือกำลังครุ่นคิดว่าจุดตอนนี้อยู่ไหนแล้ว แล้วจะพยายามหาทางเพื่อตามหาเกาะที่ต้องการให้เจอ แต่รู้สึกว่าการวิเคราะห์และสัญชาตญาณของเธอจะไม่ช่วยอะไรสัก ยิ่งทำให้คิดเลยว่าตอนนี้เธอกำลังเหมือนงมเข็มในมหาสมุทรอยู่ถึงเรือจะแล่นไปเรื่อย ๆ ก็ตามที ประตูทางเข้าข้างในเรือเปิดออก โฟกัสกำลังเดินออกมาช้า ๆ ด้วยชุดนอนสบาย ๆ เสื้อคอวีแขนสั้นกับกางเกงขายาว เธอออกมาดูว่าพี่สาวกำลังทำอะไร เพราะเวลานี้ถึงเวลาที่จะต้องพักผ่อนแล้ว เธอหันไปมองทางหัวเรือก็เห็นพี่สาวกำลังนั่งครุ่นคิดอย่างเคร่งเครียดเธอพยายามเดินไปหาอีกฝ่าย
“พี่ ไปนอนเถอะนะ”
โพรทาเลียได้ยินเสียงน้องสาวก็เงยหน้าขึ้นมามองอีกฝ่ายที่เดินมาหา “ไม่ล่ะ พี่ขออยู่อีกสักพักแล้วเดียวไปนอนนะ”
“พี่ค่ะ…เลิกเถอะ…ไม่เจอแน่ ๆ นี้ก็เดินเรือมาเกือบอาทิตย์แล้วนะคะ”
“พี่รู้…แต่…เรายังเดินทางไม่ถึงไหนเลยนะ…แล้วยิ่ง…ไม่เจอเกาะนั้นอีก…” โพรทาเลียขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจสุด ๆ “ทำไมกัน…พออยากหาก็หาไม่เจอ แต่พอไม่อยากหากับหาเจอ…ช่างเป็นอะไรที่น่ารำคาญจริง ๆ”
“เอาเถอะ ไว้พรุ่งนี้ค่อยมาหาต่อ ไปนอนกันเถอะ”
โฟกัสยื่นมือไปหาพี่สาวเพื่อหาเธอไปนอน โพรทาเลียจ้องมองน้องสาวที่ยื่นมือมาหาก็ยิ่งทำให้ต้องยอมนอนสาวก่อนจะจับมืออีกฝ่ายแล้วลุกขึ้นทั้งสองยิ้มให้กันก่อนจะเดินเพื่อเข้าข้างใน แต่ว่าลูกเรือคนหนึ่งหันไปเห็นสิ่งบางอย่างที่ห่างออกไปก่อนจะรีบวิ่งมาหาสองสาวทันที
“ท่านหญิงทั้งสอง ข้าเห็นบางอย่างข้างด้านขวาเรือขอรับ!”
“ด้านขวาเหรอ?”
โพรทาเลียหันไปมองทางด้านขวาของเรือก็เห็นเงาบางอย่างที่กำลังลอยไปอย่างช้า ๆ เธอเห็นแบบนั้นก็เดินไปที่ขอบเรือพร้อมกับใช้สายตาในความมืดมองทอดออกไปก็เห็นสิ่งที่เธอไม่คาดคิดอยู่ตรงหน้าแล้วจริง ๆ
“พี่…หรือว่า…”
“ใช่! มันโผล่มาแล้ว!”
“เอาล่ะ! พวกเราเดินเรือตามเกาะนั้นไป!”
“ครับ!!”
ลูกเรือที่ยังยืนอยู่กำลังเตรียมตัวหันเรือไปทิศที่กำลังจะไป โพรทาเลียตั้งใจเลยว่าเธอจะขึ้นไปที่เกาะนั้นให้ได้
“พี่…ถึงเกาะนั้นแล้วจะทำอะไรต่อนะ”
“เราจะหยุดเรือ แล้วเข้าไปข้างในเกาะ พี่จะไปช่วยอลิซ่าเบ็ธกับคนอื่น ๆ”
“เอาจริงสิ…แล้ว…เทพองค์นั้นล่ะ…”
“ไม่ต้องห่วง…ถ้ามีเทพี เจ้านั้นทำอะไรไม่ได้แน่ ๆ เชื่อพี่เถอะ” โพรทาเลียยิ้มออกมาเธอเตรียมตัวพร้อมเลยที่จะไปช่วยเทพีที่เคยช่วยเธอ
จบตอนที่ 105 โปรดติดตามตอนที่ 106 ต่อไป
Comments (0)