หลังจากที่นั่งพูดคุยกันได้สักพักก็ได้เวลาอาหารเย็นพอดี ทั้งหมดจึงพากันเข้าไปในห้องรับประทานอาหารของบ้านโดยมีวายุช่วยพยุงสายน้ำเข้าไปในบ้าน

บรรยากาศบนโต๊ะรับประทานอาหารเป็นไปด้วยความชื่นมื่น สายน้ำจากตอนที่มาถึงช่วงสายๆดูจะเงียบๆและหน้าตาค่อนข้างเศร้าก็ผิดกับตอนนี้ลิบลับที่มีทั้งเสียงหัวเราะและรอยยิ้มที่ไม่เคยหายไปจากใบหน้า

คุณปู่คุณย่าได้แต่มองหลานชายตัวน้อยพร้อมยกยิ้มเอ็นดูที่คอยอ้อนพี่ชายทีอ้อนวายุทีให้ตักนู่นตักนี่ให้ราวกับว่ากลัวคนทั้ง 2 จะน้อยใจหากไม่ได้รับความสนใจจากตนเองเท่าๆกัน

พอทุกคนอิ่มทั้งของคาวและของหวานกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็พากันมานั่งย่อยอยู่ที่ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่

"เอ่อ.....คุณลุงคุณป้าครับ ผมมีเรื่องจะขออนุญาตอีกหนึ่งเรื่องครับ" เป็นวายุที่เอ่ยขึ้นขณะที่ทุกคนกำลังให้ความสนใจกับข่าวบนหน้าจอทีวี

"เรียกป๊ากับม๊าเหมือนน้องก็ได้จ้ะ ไหนๆเราก็มาเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว" คุณหญิงสุภัตราเอ่ยบอกคนรักของลูกชายคนเล็ก

"ครับ ขอบคุณป๊ากับม๊ามากนะครับ" วายุพูดพร้อมยกมือไหว้ท่านทั้งสอง

"แล้วเรายังมีเรื่องอะไรจะขออนุญาตอีกล่ะ" ป๊าพูดถามขึ้น ในขณะที่ทุกคนก็เลิกให้ความสนใจกับทีวีมารอฟังวายุแทนรวมทั้งสายน้ำด้วย

"คือ ถ้าผมจะขอให้น้องไปอยู่คอนโดกับผมได้มั้ยครับ ผมอยากรู้จักน้องให้มากกว่านี้ อยากให้เราเรียนรู้ซึ่งกันและกันมีอะไรจะได้ปรับจูนเข้าหากันน่ะครับ ผมไม่ได้อยากรู้จักน้องแค่ผิวเผินที่ได้เจอน้องเฉพาะในมหา'ลัยน่ะครับ" วายุพูดจบพร้อมมองหน้าป๊ากับม๊าเพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่าเค้าไม่ได้จะเล่นๆกับสายน้ำและนั่นหมายถึงเค้าจะอยู่กับสายน้ำไปจนตลอดชีวิต

"ก็ดีนะคะคุณ ตาผาจะได้มีเวลาหาฟงหาแฟนกับเค้าซะที มัวแต่ติดน้องอยู่แบบนี้เมื่อไหร่เราจะได้อุ้มหลานกันล่ะคะ อีกแค่ไม่ถึงสองปีตาผาก็จะจบแล้ว พอถึงเวลานั้นก็คงจะมัวแต่ทำงานไม่มีเวลาหาแฟนอีกพอดี"

"ม๊าครับ ม๊าจะให้น้องไปอยู่กับผู้ชายสองต่อสองได้ยังไงล่ะครับ" หินผาโวยวายขึ้นมาทันทีที่ม๊าพูดจบ

"ว่ายังไงล่ะเรา อยากไปอยู่กับพี่เค้ามั้ย" ป๊าหันไปถามลูกชายคนเล็กที่ตอนนี้นั่งก้มหน้าหน้าแดงอยู่ข้างๆแฟน

"เอ่อ...น้ำแล้วแต่ป๊ากับม๊าครับน้ำยังไงก็ได้"

"น้องน้ำทำไมเราไม่รักนวลสงวนตัวเลยครับ น้องจะไปอยู่กับผู้ชายสองต่อสองได้ยังไงกันครับ" หินผาที่ยังโวยวายไม่เลิกหันมาพูดกับน้องแทน

"นี่ตาผาเอ๊ยลูก เผื่อเราจะลืมไปนะว่าน้องเราน่ะเป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิงนะ ฮ่าๆๆๆ" คุณปู่พูดเสร็จก็หัวเราะหลานชายคนโตที่หวงน้องจนไม่ลืมหูลืมตา

"งั้นก็ตามนั้นแหละนะ เอาตามที่วายุบอกแล้วกันสายน้ำจะได้เป็นผู้ใหญ่กับเค้าซะที อยู่ที่บ้านก็มีแต่คนคอยประคบประหงมไม่รู้จักโตซะที"

"ป๊าอ่ะ"

"โอ๋ๆพี่ผาของน้อง น้องไปอยู่กับพี่กายก็ใช่ว่าเราจะไม่เจอกันนี่ครับที่มหา'ลัยเราก็ยังเจอกัน แล้วก็พอวันเสาร์อาทิตย์น้องจะกลับไปนอนที่บ้านทุกอาทิตย์ดีมั้ยครับ จุ๊บ!" สายน้ำพูดอ้อนหินผาเสร็จก็จุ๊บแก้มเป็นการเอาใจพี่ชายอีกด้วย

"ก็ได้ครับ แต่น้องต้องสัญญาว่าจะไม่ลืมพี่ชายสุดที่รักคนนี้คนที่รักน้องมากที่สุดในโลกนะครับ ฟอด! ฟอด!" หินผาพอได้ยินน้องพูดเอาใจแบบนี้ก็เลยยอมให้ทันที

"ครับผม" สายน้ำพูดพร้อมทำท่าตะเบ๊ะใส่พี่ชาย

"หึๆ" วายุนึกขำเพื่อนคงไม่มีใครเคยเห็นหินผาในลุคนี้ เพราะอยู่ที่มหา'ลัยมีแต่หินผาคนอบอุ่นและอ่อนโยนของน้องๆและสาวๆ

"ยังไงก็ช่วยดูแลน้องด้วยแล้วกันนะวายุมีอะไรก็ค่อยๆคุยกัน เราก็อย่าเอาแต่ใจมากนักนะน้องน้ำ"

"ครับป๊า/ครับป๊า ขอบคุณนะครับป๊าม๊า" วายุและสายน้ำขานรับป๊าพร้อมกันและวายุก็ไม่ลืมที่ยกมือไหว้ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีทั้งสองท่านที่ทำให้เค้าได้สมหวัง

"เอ่อ คุณปู่คุณย่าครับผมลืมบอกไปน่ะครับว่าพรุ่งนี้เพื่อนผมกับไอ้ผารวมทั้งเพื่อนสายน้ำจะมาเที่ยวที่นี่กันด้วยน่ะครับ"

"เอาสิ บ้านสวนเงียบเหงามานานมีแต่คนแก่อยู่ มีหนุ่มๆสาวๆมากันเยอะๆจะได้ครึกครื้น"

"นี่ไอ้วายุกูข้องใจอยู่อย่าง" อยู่ๆหินผาก็พูดขึ้นมาและมองหน้าวายุ

"อะไรวะ"

"มึงเป็นคนพูดมากพูดประโยคยาวๆแบบนี้เป็นตั้งแต่เมื่อไหร่วะฮะ แล้วไอ้ยิ้มนั่นอีกเมื่อก่อนกูนึกว่ามึงจะยิ้มไม่เป็นกล้ามเนื้อหน้ามึงตายด้านไปหมดแล้ว ตั้งแต่มาที่นี่มึงพูดเยอะกว่าที่เรารู้จักกันมาทั้งชีวิตอีกนะ" หินผาพูดด้วยหน้าตาเคร่งเครียดราวกับว่าเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย

"หึๆ ก็คงเพราะกูเจอคนที่อยากพูดด้วยคุยด้วยแล้วก็เจอคนที่ทำให้กูยิ้มได้แล้วมั้ง ใช่มั้ยครับตัวเล็ก" วายุพูดพร้อมยกมือลูบผมสายน้ำเบาๆ สายน้ำได้แต่ก้มหน้าเขินทั้งหูทั้งคอแดงไปหมด

"โว๊ะไอ้นี่ กูขึ้นไปนอนดูบอลของกูดีกว่าคุยกับมึงมีแต่หงุดหงิด จุ๊บ! กู๊ดไนท์คิสนะครับน้องพี่" หินผาพูดกับวายุเสร็จก็หันไปจุ๊บปากน้อง แล้วหันมายักคิ้วให้กับวายุเป็นการเยาะเย้ย

"ฮ่าๆๆ ตาผานี่หวงน้องยังไงก็หวงอยู่อย่างนั้น อย่าไปถือสาเลยนะลูกวายุ ตาผาก็เป็นแบบนี้แหละความจริงหลานชายย่าคนนี้เป็นคนนิสัยอ่อนโยนน่ารักเป็นสุภาพบุรุษ แต่ถ้าเป็นเรื่องน้องชายเค้าทีไรได้เหวี่ยงได้วีนทุกทีไป" คุณย่าพูดไปยิ้มไปอย่างคนแก่ใจดี

"ครับผมไม่ถือหรอกครับ เราเป็นเพื่อนกันมานานรู้จักนิสัยใจคอกันดีครับ ผมก็เพิ่งมาเจอหินผาอีกโหมดก็ตอนหวงน้องนี่เองแหละครับ" วายุพูดตอบกลับคุณย่าพร้อมยิ้มน้อยๆ

"เอาล่ะ นี่ก็มืดค่ำมากแล้วแยกย้ายกันไปพักผ่อนเถอะ เดินทางกันมาเหนื่อยๆ ส่วนเราตาวายุก็นอนกับน้องเลยแล้วกันนะเพราะเตียงค่อนข้างใหญ่อยู่ ปู่ไม่ได้ให้เค้าทำความสะอาดเผื่อไว้น่ะ" พอคุณปู่พูดจบก็เดินจูงมือกับคุณย่าไปยังห้องนอนชั้นล่างที่อยู่ทางปีกซ้าย

"เราก็ไปกันเถอะค่ะคุณ ดิชั้นก็อยากเอนหลังจะแย่แล้ว กู๊ดไนท์นะจ๊ะลูกรัก จุ๊บ!" พูดเสร็จม๊าก็รีบเดินจูงมือป๊าขึ้นไปชั้น 2 ทันที

สายน้ำได้แต่นั่งตาโตอ้าปากค้างอยู่แบบนั้น ประโยคของคุณปู่ยังติดอยู่ในหูของสายน้ำอยู่เลย จะให้พี่กายนอนห้องเดียวกับเรางั้นเหรอ

"หึๆ! อะไรจะตกใจขนาดนั้นครับแค่ต้องนอนห้องเดียวกับพี่ หรือว่าตัวเล็กรังเกียจพี่ครับเดี๋ยวพี่นอนบนพื้นก็ได้นะครับ ตัวเล็กจะได้ไม่ต้องลำบากใจ" วายุพูดพร้อมยื่นมือไปแตะคางสายน้ำให้ปากนั้นหุบลง พร้อมทั้งพูดด้วยเสียงปนน้อยใจ

"เอ่อ...คือ..คือว่าน้องไม่ได้รังเกียจพี่กายนะครับ เพียงแต่ว่าน้องไม่เคยนอนเตียงเดียวกับคนอื่นที่ไม่ใช่ป๊าม๊าแล้วก็พี่ผาน่ะครับ" สายน้ำพูดพร้อมทั้งจ้องหน้าวายุด้วยกลัวว่าเจ้าตัวจะน้อยใจ แต่แก้มเจ้าตัวก็ขึ้นสีแดงระเรื่อจนเห็นชัดแค่คิดว่าจะได้นอนข้างๆคนพี่ก็อดเขินไม่ได้แล้ว

"อ๋อ ไอ้เราก็นึกว่ารังเกียจกันซะอีก ถ้าอย่างนั้นเราขึ้นห้องไปนอนกันเลยนะครับ"

ป้าบ!!!!!

"โอ๊ย!! ตีพี่ทำไมครับ หึๆ" วายุแกล้งร้องออกมาพร้อมกับลูบไปมาบริเวณที่ถูกน้องตีด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

"พี่กายจะพูดให้น้องเขินทำไมล่ะครับ"

"พี่ยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะครับ แค่ชวนเราขึ้นห้องเฉยๆ"

"พี่กาย" สายน้ำเรียกวายุเสียงดังด้วยคำพูดคำจาคนพี่นั้นส่อไปทางสองแง่สองง่าม เค้าไม่ได้ใสซื่อซะจนไม่รู้ว่าที่วายุพูดแปลว่าอะไรหรอกนะ

"ครับๆ พี่ไม่แกล้งแล้วครับ มาม๊ะเดี๋ยวพี่อุ้มขึ้นไปนะครับ จะได้ไม่ต้องเดินให้ตึงแผลมากเดี๋ยวจะหายช้าเข้าไปอีก" สายน้ำพยักหน้ารับพร้อมยกมือไปคล้องคอคนพี่กันตก

"ตัวเล็กจะอาบน้ำเลยมั้ยครับพี่จะได้อาบให้" เมื่อถึงห้องวายุแกล้งถามคนตัวเล็ก

"มะ ไม่ต้องครับน้องอาบเองได้ครับ" สายน้ำปฏิเสธด้วยการส่ายหน้าจนผมสะบัดไปมาอย่างน่าเอ็นดู

"หึๆ พี่ล้อเล่นครับ งั้นไปอาบน้ำได้แล้วครับเดี๋ยวจะดึกไปกว่านี้"

หลังจากที่สายน้ำเข้าห้องน้ำไปแล้ว วายุก็เดินลงมาชั้นล่างอีกครั้งเพื่อเอากระเป๋าเสื้อผ้าของตนเอง

"พี่กายครับ น้องอาบเสร็จแล้วครับพี่กายเข้าไปอาบต่อได้เลยครับจะได้นอนกัน" สายน้ำที่ออกมาจากห้องน้ำพร้อมชุดนอนขายาวแขนสั้นลายน่ารักหันมาบอกคนพี่

"อยากนอนกับพี่แล้วเหรอครับ"วายุเข้าไปกระซิบข้างหูสายน้ำด้วยเสียงแหบพร่า

"มะ ไม่ใช่ซะหน่อยถ้าพี่กายไม่อยากอาบก็ไม่ต้องอาบครับแล้วก็ห้ามมานอนบนเตียงกับน้องด้วย น้องจะนอนแล้ว" สายน้ำแกล้งโวยวายกลบเกลื่อนความเขิน จากนั้นเจ้าตัวก็กระโดดขึ้นเตียงพร้อมคลุมโปงทันที

"หึๆ เขินแล้วโวยวายเก่งนะครับตัวเล็ก" ว่าจบวายุก็เดินไปหยิบผ้าขนหนูแล้วเดินผิวปากเข้าห้องน้ำไปอย่างอารมณ์ดีชนิดที่ว่าตัวเค้าเองก็ไม่คิดว่าตัวเองนั้นจะอารมณ์ดีได้ขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต

"หึ่ย!! ไอ้พี่กายบ้า พี่กายคนเย็นชาหายไปไหนเนี่ยเหลือแต่พี่กายคนหื่นเจ้าเล่ห์" สายน้ำได้แต่นอนบ่นพึมพำอยู่คนเดียว ถึงปากเจ้าตัวจะบ่นแต่ใบหน้าก็ยังคงปรากฏรอยยิ้มกว้างพร้อมลักยิ้มบุ๋มให้ได้เห็นอยู่ดี

เมื่อวายุอาบน้ำเสร็จออกมาก็เห็นคนตัวเล็กของเค้าหลับไปแล้ว เจ้าตัวจึงเดินไปเปิดไฟหัวเตียงไว้แล้วเดินไปปิดไฟดวงใหญ่

วายุค่อยๆคลานขึ้นไปบนเตียงและมุดตัวเข้าไปในผ้าห่มผืนเดียวกันกับคนตัวเล็ก

สายตาคมจับจ้องใบหน้าที่หวานเสียยิ่งกว่าผู้หญิง ขนตางอนเป็นแพร จมูกโด่งรั้น ปากเล็กสีแดงสดน่าจูบ ไหนผิวที่ดูนุ่มลื่นนุ่มนิ่มน่ากอดไปทั้งตัวนั่นอีก

และหลังจากที่นอนมองหน้าคนตรงหน้าอยู่นานสายตาคมก็เลื่อนต่ำลงมาหยุดอยู่ที่ลำคอขาวของคนตัวเล็ก

"อึก!" วายุถึงกลับกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เค้าอยากจะสูดดมซอกคอหอมของคนตัวเล็กใจจะขาด กลิ่นตัวที่หอมของคนตรงหน้าช่างเย้ายวนใจยิ่งนัก

ว่าแล้วมือหนาค่อยๆยื่นไปสัมผัสแก้มนุ่มของคนที่นอนหลับหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ

"อื้อ..." คนตัวเล็กส่งเสียงครางในลำคอพร้อมยกมือขึ้นมาปัดตรงแก้มอย่างหงุดหงิดเมื่อรู้สึกว่ามีบางอย่างมารบกวนการนอน

"พี่ผาอย่ากวนน้อง"

"หึๆ นี่พี่กายเองครับตัวเล็ก ไม่ใช่ไอ้ผาครับ" วายุพูดตอบน้องแต่มือก็ยังวนเวียนอยู่กับแก้มนุ่มไปด้วย

"อือ..พี่กายเหรอครับ นอนกันครับน้องง่วงแล้ว"เจ้าตัวพูดออกมาอย่างสะลึมสะลือ โดยลืมความเขินก่อนหน้านี้ไปซะสนิทที่ต้องนอนเตียงเดียวกันกับวายุ

"ตัวเล็กครับ พี่ขอกู๊ดไนท์คิสแบบไอ้ผาได้มั้ยครับ"

"หือ!!” ความง่วงที่มีมาก่อนหน้านี้แทบจะหายเป็นปลิดทิ้งสติที่กำลังจะดับไปกลับคืนมาเกือบจะเต็มร้อย เมื่อได้ยินประโยคคำขอของคนตัวใหญ่ตรงหน้า