40 ตอน คนที่ใช่
โดย Beloved_Moouan
ตึ่ง!! ตึ่ง!! โป๊ะ!!
ตึ่ง!! ตึ่ง!! โป๊ะ!!
ตึ่ง!! ตึ่ง!! โป๊ะ!!
“น้องๆคนไหนที่มาถึงแล้ว มานั่งรวมแถวกับเพื่อนๆได้เลยนะคะ” เสียงใสของเบลประกาศผ่านโทรโข่งตัวใหญ่ออกมา
ตอนนี้สายน้ำและเพื่อนๆกกันลายมาเป็นรุ่นพี่ปี 2 อย่างเต็มตัวแล้ว โดยมีทอยเพื่อนในห้องเป็นเฮดสันทนาการและมีเบลเป็นรองเฮดสันทนาการ ทางด้านสายน้ำและออกัสก็ไปอยู่ฝ่ายปฐมพยาบาลกับเพื่อนๆอีกหลายคน
ปีนี้กลุ่มของวายุและเพื่อนรุ่นเดียวกันกลายเป็นพี่ใหญ่สุดจึงไม่ต้องทำอะไร แค่คอยดูแลความเรียบร้อยและให้คำปรึกษากับน้องๆเท่านั้น
สายตาคมของวายุยังคงจับจ้องไปที่คนตัวเล็กของเค้าที่นั่งรวมกลุ่มอยู่กับกลุ่มเพื่อนด้านหลังของน้องที่กำลังทยอยมาเข้าแถวกันอยู่ วายุมองสายน้ำด้วยแววตาที่อ่อนโยนไม่มีเปลี่ยนจะมีก็แต่จะเพิ่มมากขึ้นในทุกๆวัน
หลังจากที่หมั้นกันแล้วชีวิตของเค้าและสายน้ำก็ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆในทุกๆวัน สิ่งที่ทั้งสองปฏิบัติต่อกันมีแต่ความดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน จะมีงอนกันบ้างตามประสาคนรักที่ต้องอยู่ด้วยกันเกือบจะตลอด 24 ชั่วโมง แต่เค้าก็ไม่เคยเบื่อคนตัวเล็กของเค้าเลยที่นับวันจะยิ่งเพิ่มความขี้อ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนเรื่องที่มหา'ลัยหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ครั้งล่าสุดที่มีกลุ่มสามสาวมาขอให้สายน้ำช่วยติวให้ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งวุ่นวายอีก จะมีก็แต่แฟนคลับที่คอยส่งนู่นส่งนี่มาให้คนตัวเล็กของเค้าที่นับวันจะยิ่งมีมากขึ้นเรื่อยๆ ก็คนตัวเล็กของเค้าเล่นส่งยิ้มหวานให้กับทุกคนที่มองมา จากคนที่ขี้กลัวไม่กล้าที่จะคุยกับคนแปลกหน้ากลับกลายเป็นเข้าได้ดีแทบจะทุกคนที่เข้ามาคุยด้วย แต่เค้าก็โล่งใจได้อย่างหนึ่งคือน้องจะไม่คุยกับคนที่ไม่น่าไว้ใจซึ่งน้องก็ค่อนข้างแยกแยะคนประเภทนี้ได้ดีทีเดียว
“นี่ไอ้วายุน้องน้ำของมึงเค้าไม่หายไปไหนหรอกมึงก็เลิกจ้องน้องเค้าได้แล้ว ไอ้ไฟกับไอ้เหนือกูยังไม่เห็นว่ามันจะเป็นแบบมึงเลย” ดินที่อดที่จะหมั่นไส้เพื่อนไม่ได้ เพราะนับวันเพื่อนคนนี้ของเค้าก็จะยิ่งขี้หวงขี้ห่วงแฟนหนักขึ้นเรื่อยๆ เพราะสายน้ำนั้นนับวันยิ่งสวยยิ่งน่ารัก ยิ้มทีนี่คนที่ถูกยิ้มให้แทบจะละลายกันเลยทีเดียว ขนาดเค้าที่รู้จักน้องมาเป็นปีแล้วยังอดที่จะเคลิ้มไม่ได้เลย
“หึๆ” หินผาได้แต่หัวเราะเพื่อนที่แทบไม่ละสายตาไปจากน้องชายเค้าเลย
“กูอยากกินกาแฟว่ะ รู้สึกเหมือนยังไม่ค่อยตื่นยังไงไม่รู้ว่ะ พวกมึงเอากันมั้ย” อยู่ๆไฟก็พูดถามขึ้นมา
“เออกูไปด้วยดิ๊ อยากกินอยู่พอดี พวกมึงล่ะ” เป็นหินผาที่พูดและที่ลุกขึ้นตามไฟ
“กูเอาเหมือนเดิมแล้วก็เอามาให้ตัวเล็กด้วย” วายุพูดสั่งเพื่อนขึ้นมาแต่ตาก็ยังคงมองไปยังคนตัวเล็กของเค้าเป็นระยะๆ
“กูกับไอ้เหนือด้วยเหมือนเดิม” ดินพูดสั่งขึ้นมาอีกคน
“นี่ถ้ากูไม่ไปนี่พวกมึงก็จะไม่แดกกันใช่มั้ยวะ ไอ้พวกเพื่อนเวร” ไฟพูดบ่นขึ้นพร้อมกับเดินกอดคอหินผาออกไป
ปึก!!!!
“เฮ้ย!”
“โอ๊ย!”
“น้องเป็นอะไรรึเปล่าครับ” หินผาถามคนตัวเล็กที่ตอนนี้นั่งกองลงไปกับพื้นพร้อมกับยกมือขึ้นมาลูบหน้าผากตัวเองป้อยๆ ก็เล่นวิ่งมาชนตรงหน้าอกของเค้าเข้าอย่างแรงจนเจ้าตัวกระเด็นไปนั่งอยู่กับพื้น ในขณะที่ตัวเค้าเองยังยืนอยู่ที่เดิมแค่เซเล็กน้อยเท่านั้น
“อู้ย....ไม่เป็นอะไรมากครับ ผมขอโทษนะครับผมรีบไปหน่อยกลัวจะเข้าประชุมเชียร์สายน่ะครับ” คนตัวเล็กค่อยๆมองสำรวจตัวเองพร้อมกับพยายามลุกขึ้นยืนแต่ดูเหมือนว่าข้อเท้าของตัวเองนั้นจะมีปัญหา
“มาครับพี่ช่วย” หินผาที่เห็นน้องที่น่าจะเป็นนักศึกษาปี 1 ของคณะเค้าก็เท่ากับว่าเป็นรุ่นน้องของเค้าด้วยทำท่าจะลุกขึ้นไม่ไหวจึงรีบเข้าไปช่วยประคอง
“โอ๊ย!!”
ปึก!
ระหว่างที่หินผากำลังช่วยพยุงตัวคนตัวเล็กตรงหน้าให้ยืนขึ้นอยู่นั้น พอเจ้าตัวทิ้งน้ำหนักลงไปข้างที่ทำท่าว่าจะเจ็บก็ร้องออกมาเสียงดังจนเซเข้าไปหาหินผาในท่าทีเอาคางมาเกยอยู่ที่อกของหินผาทำให้ดวงตาเรียวยาวสบตาเข้ากับดวงตากลมโตเข้าอย่างจัง
ตึกตัก ตึกตัก
เสียงหัวใจของคนทั้งคู่แทบจะแข่งกันเต้นในทันทีที่คนทั้งสองสบตากัน
หินผาที่รู้สึกเหมือนโลกหยุดหมุนไปชั่วขณะดวงตาเรียวยาวของเค้ากวาดมองไปทั่วทั้งใบหน้าหวานที่มีดวงตากลมโตใส ขนตางอนเรียงกันเป็นแพร จมูกโด่งรับกับใบหน้ารูปไข่ พร้อมกับปากกระจับสีชมพูน่าจูบ ถึงแม้คนในอ้อมกอดของเค้าคนนี้จะมีใบหน้าหวานไม่เท่ากับน้องชายของเค้า แต่ก็เรียกได้ว่าน่ารักมากเลยทีเดียว ไหนจะกลิ่นตัวหอมที่เป็นเอกลักษณ์นี่อีกทำให้เค้าไม่อยากที่จะปล่อยคนตรงหน้าให้หลุดไปจากอ้อมกอดเค้าเลย
“ไอ้ผากูไปซื้อกาแฟก่อนนะ เดี๋ยวกูโทรตามไอ้ดินมาช่วยถือเอง มึงก็จัดการธุระของมึงให้เสร็จแล้วกัน” ไฟที่ยืนมองคนทั้งคู่อยู่นานก็เอ่ยขึ้นมาพร้อมกับยกยิ้มมุมปาก เพราะดูเหมือนว่าเพื่อนเค้ามันคงจะไม่ไปจากตรงนี้ง่ายๆแน่
“อะ เอ่อ พี่ครับ ปล่อยผมก่อนได้มั้ยครับ” คนในอ้อมกอดของหินผาที่เริ่มได้สติเพราะได้ยินเสียงของไฟพูดขึ้นมาก็เริ่มดิ้น
“อื้ม! ขอโทษครับเจ็บข้อเท้าเหรอ” หินผาที่ได้สติขึ้นมาก็รีบปล่อยแต่มือก็ยังคงจับแขนเล็กประคองไว้อยู่ด้วยเพราะกลัวคนตรงหน้าจะล้มลงไปอีกรอบ
“นิดหน่อยครับ ไม่น่าเป็นอะไรมากหรอกครับ ขอบคุณพี่มากนะครับ” คนน้องพูดบอกพร้อมกับหน้าที่ขึ้นสีเล็กน้อย ดวงตากลมโตเหลือบมองไปยังมือใหญ่ที่ยังคงช่วยประคองเค้าไม่ยอมปล่อย
“หึๆ งั้นเราไปนั่งตรงนั้นกันก่อนครับเดี๋ยวพี่ดูให้”
“เอ่อ...ไม่เป็นไรครับพี่ อีกอย่างตอนนี้ผมน่าจะสายแล้วด้วยต้องโดนลงโทษแน่ๆเลย” คนตัวเล็กพูดพร้อมกับทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ขึ้นมา
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวพี่จัดการให้วันนี้ไม่ต้องเข้าประชุมเชียร์หรอกแค่ไปนั่งดูก็พอ” หินผาพูดพร้อมกับถือวิสาสะโอบเอวบางแล้วค่อยๆพาเดินไปนั่งม้าหินอ่อนที่อยู่ใกล้ๆ
“ขอบคุณมากนะครับ พี่......” คนตัวเล็กพูดพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้
“พี่ชื่อหินผาครับ หรือเรียกพี่ผาก็ได้ครับ แล้วน้องชื่ออะไรครับ” หินผาพูดพร้อมกับประคองคนตัวเล็กให้นั่งลง
“ผมชื่อวาริครับ หรือจะเรียกสั้นๆ ว่าวาก็ได้ครับ” วาริพูดพร้อมกับหันมายิ้มให้กับหินผา
“ชื่อเพราะจังเลยนะครับ ใช่วาริที่แปลว่าน้ำรึเปล่าครับ”
“ใช่ครับ พี่ผารู้ความหมายด้วยเหรอครับ” วาริมีท่าทีผ่อนคลายลงมากเมื่อได้พูดคุยกับรุ่นพี่ตรงหน้าไปเรื่อยๆ
“ครับ น้องชายพี่ชื่อสายน้ำ ชื่อจริงว่าธาราที่แปลว่าสายน้ำน่ะครับก็เลยพอรู้บ้าง” วาริพยักหน้าตอบรับรุ่นพี่ตรงหน้า
“เดี๋ยวพี่ดูข้อเท้าให้ดีกว่านะครับ” หินผาพูดพร้อมกับย่อตัวลงไปนั่งอยู่ตรงหน้าของวาริ
“เอ่อ ไม่ต้องครับพี่ผา ผมเกรงใจมันไม่ได้เจ็บมากเท่าไหร่ครับ” วาริรีบชักขาตัวเองเข้ามาทันทีที่เห็นว่าหินผาจะจับขึ้นมาดู
“ไม่เป็นไรครับพี่เต็มใจ ไหนดูซิ” หินผาไม่พูดเปล่าแต่ยังถอดรองเท้าของวาริออกพร้อมทั้งยังขยับตรงข้อเท้าของวาริไปมาอย่างไม่มีท่าทีรังเกียจเลย
วารินั่งมองคนตรงหน้าด้วยดวงตาสั่นไหว หัวใจเค้าตอนนี้เต้นระรัวจนน่ากลัวว่าคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเค้าจะได้ยิน ดวงตากลมโตมองสำรวจใบหน้าของหินผาอย่างหลงใหล เค้ามองไล่ลงไปตั้งแต่คิ้วที่เข้มได้รูป ดวงตาเรียวยาว ขนตาที่ยาวแต่ก็ไม่ถึงกับงอนมาก จมูกโด่งมีสันเป็นคม ปากหยักไม่หนาไม่บางที่ออกไปทางสีชมพูอ่อน ไหนจะใบหน้าที่ใสเผลอๆจะใสกว่าผู้หญิงบางคนซะอีก
“น้องวาครับ ได้ยินที่พี่พูดมั้ยครับ” หินผาที่เรียกคนน้องที่นั่งมองหน้าเค้าอยู่แทบไม่กะพริบตา เค้ายื่นมือไปโบกอยู่ตรงหน้าของน้องไปมา
“คะ ครับ ขอโทษครับ พี่ผาว่ายังไงนะครับ” วาริที่เพิ่งได้สติถึงกับสะดุ้ง
“หึๆ คิดอะไรอยู่เหรอครับ” หินผามองหน้าคนน้องที่ตอนนี้หน้าเริ่มขึ้นสีขึ้นเรื่อยๆ
“ปะ เปล่าครับ ว่าแต่พี่ผาว่ายังไงนะครับเมื่อกี๊นี้” วาริตอบหินผาแต่ก็ยังก้มหน้าพยายามซ่อนใบหน้าที่ร้อนผ่าวของตัวเองไปด้วย ที่เผลอนั่งมองหน้าของหินผาไปตั้งนานสองนาน
“พี่จะบอกว่าเดี๋ยวพี่จะพาเราไปทายาแล้วก็พันข้อเท้าตรงหน่วยปฐมพยาบาลนะครับ แล้วก็อีกอย่าง.....” หินผาพูดพร้อมกับจ้องเข้าไปในดวงตากลมใส
“คะ ครับ” วาริมองหน้าคนตรงหน้าที่นั่งจ้องเค้าอยู่ด้วยดวงตาสั่นระริก
“พี่ผาขอจองแล้วก็ขอจีบน้องวาได้มั้ยครับ” หินผาพูดพร้อมกับยื่นมือไปจับมือเล็กนุ่มของน้องเอาไว้ และยื่นมืออีกข้างมาเกลี่ยแก้มใสที่ตอนนี้ขึ้นเป็นสีแดงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
วาริได้แต่นั่งนิ่งอยู่กับที่อย่างที่ไม่คิดว่าวันแรกในรั้วมหาวิทยาลัยเค้าจะถูกขอจีบกันแบบโต้งๆแบบนี้ หนำซ้ำคนที่มาขอจีบเค้าก็ไม่ใช่ตาสีตาสาที่ไหนแต่กลับเป็นพ่อเทพบุตรที่จัดได้ว่าหล่อมากเลยทีเดียวแถมยังมีท่าทีอ่อนโยนสุภาพ ไม่ว่าจะเคลื่อนไหวทำอะไรก็ดูดีไปซะหมด ที่ผ่านมานั้นมีคนเข้ามาจีบเค้าค่อนข้างจะเยอะมากแต่เค้าก็บอกปฏิเสธไปซะทุกราย เพราะยังไม่เจอคนที่ใช่คนที่ทำให้หัวใจเค้าต้องเต้นแรงไม่ว่าคนๆนั้นจะหล่อมากแค่ไหนก็ตาม แต่นี่มันไม่เหมือนกันเค้าใจเต้นแรงตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็นหน้าและสบตาเข้ากับดวงตาเรียวยาวของคนตรงหน้าแล้ว
“ว่ายังไงครับ น้องวาอนุญาตให้พี่จีบน้องได้รึเปล่าครับ” หินผาที่เห็นน้องยังนั่งมองเค้าอยู่ก็เอ่ยถามซ้ำขึ้นมา เพราะเค้าคิดว่าน้องน่ามีใจตรงกันกับเค้าบ้างไม่มากก็น้อย
“เอ่อ...คือว่ามันจะไม่เร็วไปเหรอครับ เราเพิ่งเจอกันแค่แป๊บเดียวเองนะครับ” วาริพูดพร้อมกับก้มหน้ามองมือของตัวเองที่ถูกคนตัวใหญ่ตรงหน้าจับอยู่
“ไม่มีคำว่าเร็วไปหรอกครับ ในเมื่อพี่เจอคนที่ถูกใจคนที่พี่คิดว่าใช่แล้ว รู้มั้ยครับว่าพี่ไม่เคยชอบใคร ไม่เคยจีบใครเลย พี่ไม่เคยมีแฟน ไม่เคยเจอใครที่ถูกใจและคิดว่าใช่ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของพี่ และพี่ก็คิดว่าน้องวาเป็นคนที่ใช่ที่พี่คิดว่าพี่รออยู่ครับ พี่ไม่อยากที่จะเสียเวลาอีกเพราะนี่พี่ก็อยู่ปี 4 แล้วอีกไม่นานพี่ก็ต้องไปฝึกงานแล้วก็คงจะหาเวลาเจอกับน้องวาได้ยากขึ้น น้องวาเข้าใจที่พี่พูดใช่มั้ยครับ” หินผาพูดด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่จริงจังพร้อมกับจ้องเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของน้องไปด้วยในระหว่างที่เค้าพูด
“อะ เอ่อ คือว่าวา.....” วาริยังคงนั่งก้มหน้ามองมือตัวเองอยู่
“หรือว่าน้องวารังเกียจพี่เหรอครับ พี่ขอโทษนะครับพี่อาจจะใจร้อนไปหน่อย ถ้าอย่างนั้นคิดซะว่าพี่ไม่เคยพูดไม่คะ......” ทันทีที่หินผากำลังจะพูดต่อวาริก็ยกมือขึ้นมาปิดปากของคนตัวใหญ่ที่ทำหน้าเศร้าไว้
“ครับ วาให้พี่ผาจีบวาก็ได้ แต่ว่า...วาเองก็ไม่รู้หรอกนะครับว่าพี่ผาจะยอมรับนิสัยของวาแล้วก็ทุกๆอย่างที่วาเป็นได้รึเปล่า เพราะเราก็เพิ่งได้เจอกันด้วย” วาริพูดพร้อมกับมองหน้าหินผาไปด้วย เค้ายอมรับว่าเค้าก็ชอบคนตรงหน้าและรู้สึกดีด้วยอย่างรวดเร็วแบบที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน เค้าจึงอยากจะลองให้โอกาสตัวเองและหินผาดูสักครั้ง มันไม่ง่ายเลยที่เราจะรู้สึกแบบนี้กับใครสักคน
“ขอบคุณนะครับ เรามาค่อยๆศึกษากันและกันนะครับ ขอบคุณที่ให้โอกาสพี่ พี่สัญญาว่าพี่จะรักษาโอกาสนี้ของเราไว้อย่างดีที่สุดครับ จุ๊บ!” หินผาพูดพร้อมกับส่งยิ้มกว้างให้กับคนตรงหน้าและก้มลงไปจูบที่มือน้องจนเสียงดังอย่างลืมตัว เพราะเค้าทำแบบนี้กับน้องชายเป็นประจำอยู่แล้ว
“พี่ผาาาา นี่ยังไม่ทันไรเลยนะครับ” วาริพูดพร้อมกับชักมือตัวเองมากุมไว้กับอก พร้อมกับหน้าที่ขึ้นสีแดงจนตอนนี้ลามไปที่หูแล้ว
“เอ่อ ขอโทษครับพี่ลืมตัวไปหน่อยครับ นึกว่าอยู่กับน้องชาย หึๆ” หินผาพูดพร้อมกับยกมือขึ้นลูบหัวน้องไปด้วย
“เอ่อ..ว่าแต่เราจะไปกันได้รึยังครับ” วาริที่รีบหาทางออกจากตรงนี้เอ่ยขึ้น เพราะถ้าขืนอยู่แบบนี้ต่อไปเค้าคงได้เขินตัวแตกกันพอดี นี่แค่วันแรกเจอกันยังไม่ถึงชั่วโมงคนตรงหน้าก็ทำเค้าเขินหน้าแดงไปกี่รอบต่อกี่รอบแล้วก็ไม่รู้
“ครับๆไปครับ แล้วนี่พอเดินไหวมั้ยครับหรือจะให้พี่อุ้มไปดีครับ” หินผาแกล้งถามขึ้น
“พี่ผาาาา นี่วาคิดถูกหรือคิดผิดครับเนี่ยที่ให้พี่จีบวาเนี่ย” วาริพูดพร้อมกับทำหน้ายุ่งใส่คนตัวใหญ่ทันที
“ฮ่าๆๆ โอเคครับ พี่ไม่แกล้งแล้วครับ ไปครับ” หินผารีบเข้ามาช่วยประคองน้องให้ค่อยๆเดินไป เพราะที่เค้าอยู่ก็ไม่ได้ไกลจากคณะมากนัก
“น้องน้ำครับ” เมื่อเดินมาถึงหินผาก็เรียกน้องชายทันที
“ครับพี่ผา อ้าวนั่นน้องเป็นอะไรมาเหรอครับ” สายน้ำที่ขานทันทีที่ได้ยินน้ำเสียงที่คุ้นเคย
“น้องน่าจะข้อเท้าแพลงน่ะครับ เดี๋ยวพี่ฝากดูน้องด้วยนะครับ แล้วก็...” จากนั้นหินผาก้มลงไปกระซิบอะไรบางอย่างกับสายน้ำ
“หืออออ คิกคิก” สายน้ำพอได้ยินสิ่งที่หินผากระซิบบอกตนเองแล้วนั้น เจ้าตัวก็ทำตาโตขึ้นมาทันทีพร้อมทั้งยังหัวเราะออกมาและยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองทันทีที่เห็นว่าวาริมองเค้าอยู่
“หึๆ ตัวแสบ งั้นเดี๋ยวพี่เดินไปหาไอ้พวกนั้นก่อนนะครับ ฟอด!” หินผาพูดจบก็ก้มลงมาหอมที่แก้มของน้องชายสุดที่รักและเดินออกไป แต่เจ้าตัวก็ยังไม่ลืมที่จะหันมาส่งยิ้มให้วาริที่นั่งอยู่ข้างๆสายน้ำด้วย
ทำเอาเพื่อนๆของสายน้ำนั่งเขินหน้าแดงกันเป็นแถวรวมทั้งตัววาริเองด้วย ขนาดพวกเธอเห็นกันจนชินแล้วยังอดที่จะเขินแทนสายน้ำไม่ได้เลย
Comments (0)