33 ตอน มีแฟนดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
โดย Beloved_Moouan
“ตัวเล็กครับ ตื่นได้แล้วครับวันนี้เรามีเรียนเช้านะครับ” วายุเรียกคนที่ยังนอนซุกหน้าเข้ากับอกเค้าเบาๆ เนื่องจากวันนี้ทั้งเค้ากับน้องมีเรียนเช้าด้วยกันทั้งคู่ แต่ว่าเค้ามีเรียน 2 วิชาขณะที่คนตัวเล็กมีเรียนแค่วิชาเดียวเท่านั้น
“อื้อ...ขออีก 5 นาทีนะครับ”
“พี่ให้แค่ 5 นาทีเท่านั้นนะครับ เพราะเดี๋ยวพี่ต้องทำแผลแล้วก็ทายาให้ตัวเล็กด้วย”
“อื้อ...” สายน้ำตอบครางในลำคอพร้อมกับเบียดซุกเข้าหาอกอุ่นอีกรอบ
“หึๆ เด็กน้อย ฟอด!” วายุกดจมูกคมเข้ากับกลุ่มผมนุ่มของคนในอ้อมกอด
“ตัวเล็กครับตื่นได้แล้วครับเดี๋ยวไปเรียนไม่ทันนะ” วายุพูดพร้อมกับมองนาฬิกาที่วางอยู่ข้างหัวเตียง แต่จนแล้วจนเล่าก็ยังไม่มีเสียงตอบรับจากเด็กน้อยของเค้า
“หึๆ ตัวเล็กบังคับให้พี่ต้องทำเองนะครับ”
วายุค่อยๆเลื่อนตัวลงพร้อมกับปลดกระดุมเสื้อนอนของคนที่ยังนอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่ทีละเม็ด เมื่อกระดุมถูกถอดจนหมดทุกเม็ดแล้ว ลิ้นร้อนของคนตัวใหญ่ก็ค่อยๆแตะไปที่ยอดอกสีชมพู จากที่ค่อยๆไล่เล็มทีละนิดเพราะเค้าแค่จะแกล้งคนตัวเล็ก แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นเค้าเองที่เริ่มฉุดอารมณ์ตัวเองไม่อยู่
จ๊วบ! จ๊วบ!
“อ๊ะ! อื้อ!”
เสียงดูดดึงและความเสียวที่ยอดอกที่ตอนนี้กำลังแข็งสู้ลิ้นหนาทำให้ร่างบางเริ่มที่จะขยับตัวพร้อมกับยกมือขึ้นมาปัดป่ายสิ่งที่รบกวนการนอนของเค้า
ริมฝีปากหยักได้รูปไล่ขบเม้มผิวนุ่มมาจนถึงหน้าท้องแบนราบพร้อมกับหยุดหยอกล้ออยู่ที่แอ่งสะดือเล็ก
“อ๊ะ อ๊าส์~ พะ พี่กายทำอะไรน้องครับ อ๊ะ อื้อ~” คนตัวเล็กที่พอเริ่มได้สติขึ้นมาก็ร้องถามคนพี่ด้วยความเสียว
“พี่ก็ปลุกตัวเล็กยังไงล่ะครับ” วายุตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่าพร้อมกับใช้มือดึงรั้งกางเกงนอนของคนน้องออกไปทางปลายเท้า แต่ปากและลิ้นก็ยังคงทำหน้าที่อยู่อย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง
“พะ พี่กายครับ ดะ เดี๋ยวสายนะครับ”
“ไม่สายหรอกครับเดี๋ยวเราค่อยไปอาบน้ำพร้อมกับทีเดียวจะได้ประหยัดเวลานะครับ” วายุพูดจบก็ก้มลงใช้ปากครอบไปที่แก่นกายเล็กของน้อง
“อ๊ะ อ๊าส์~” สายน้ำร้องออกมาด้วยความเสียวที่คนพี่มอบให้ ลำตัวบิดเร่าส่ายไปมามือเล็กเอื้อมมาดึงรั้งเส้นผมดกดำของคนพี่อย่างต้องการหาที่ระบาย สะโพกกลมยกขึ้นส่ายไปมาตามแรงดูดดึงที่คนพี่มอบให้
วายุค่อยๆถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกแต่ปากก็ยังไม่ได้ละไปจากแกนกายเล็กของน้องแต่อย่างใด เค้าลุกขึ้นใช้สองขาของคนตัวเล็กให้หนีบแก่นกายใหญ่ของเค้าไว้พร้อมกับชักรูดให้กับคนตัวเล็กไปด้วย
พั่บ! พั่บ! พั่บ! พั่บ!
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊าส์~ พี่กายเร็วอีกได้มั้ยครับ น้องไม่ไหวแล้ว / ซี๊ดดดส์ จัดให้ครับคนดี”
พั่บ! พั่บ! พั่บ! พั่บ!
“อ๊ะ อ๊าาาส์ / ซี๊ดส์ อ่าาาส์” เวลาผ่านไปสักพักทั้งสองร่างก็ปลดปล่อยออกมาแทบจะพร้อมกัน ร่างหนาฟุบตัวลงกับอกของร่างบางทันทีที่ทั้งสองได้ปลดปล่อยออกมา
“มาครับเดี๋ยวพี่พาไปอาบน้ำนะครับ เดี๋ยวจะสาย ไหวมั้ยครับ หืม”
ตุ้บ!
“ก็ใครใช้พี่กายมาหื่นตั้งแต่เช้าแบบนี้เล่า” สายน้ำพูดพร้อมกับมองค้อนคนตัวใหญ่ที่ตอนนี้อุ้มกระเตงเค้าเดินเข้ามาในห้องน้ำแล้ววางเค้าไว้ที่เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า พร้อมกับยื่นแปรงสีฟันที่บีบยาสีฟันมาให้แล้ว
หลังจากแปรงฟันเสร็จแล้ววายุก็อุ้มน้องมายืนใต้ฝักบัวพร้อมกับอาบน้ำถูตัวถูสบู่ให้น้องอย่างเบามือแทบจะทุกซอกทุกมุม ด้านสายน้ำก็ยืนอยู่เฉยๆให้คนพี่อาบน้ำให้แต่โดยดี ไอ้อายมันอายอยู่หรอกนะที่ต้องมายืนให้คนพี่อาบน้ำถูสบู่ให้แบบนี้ แต่ตอนนี้เค้าหมดแรงแล้วจริงๆแรงจะยืนยังแทบจะไม่มีแข้งขามันพากันอ่อนแรงไปซะหมด
“หึๆ ก็ตัวเล็กไม่ตื่นเองนี่ครับ พี่เลยต้องปลุกในแบบของพี่ แต่เมื่อกี๊ตัวเล็กยังบอกให้พี่เร็วๆอยู่เลยนะครับ” วายุพอเห็นว่าคนตัวเล็กยังไม่หยุดมองค้อนตัวเองก็เอ่ยขึ้นอย่างขำๆ
“พี่กายถ้ายังไม่หยุดพูดน้องจะโกรธแล้วนะ” สายน้ำโวยวายขึ้นพร้อมกับหน้าและตัวที่ค่อยๆขึ้นสี
“ครับๆพี่ยอมแพ้แล้วครับ” วายุทำท่ายกมือยอมแพ้แต่ปากก็ยังยกยิ้มอยู่
“เห็นมั้ยเพราะพี่กายเลย น้องกินข้าวไม่ทันเลยเนี่ย เหลืออีกแค่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็จะได้เวลาเข้าเรียนแล้ว หึ่ย!” พอรถเข้ามาจอดตรงที่จอดรถหน้าตึกเรียนสายน้ำก็โวยวายคนพี่ขึ้นมาอีกรอบ ปากเล็กสีชมพูเชิดขึ้นจนแทบจะติดกับจมูก
“หึๆ พี่ให้ไอ้ผามันซื้อแซนด์วิชแซลมอนรมควันไว้ให้ตัวเล็กแล้วครับ ไม่ต้องห่วงหรอกครับ พี่ไม่ปล่อยให้แฟนพี่อดหรอกนะครับ” วายุพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปโยกหัวคนที่นั่งกอดอกทำปากจู๋อยู่ ซึ่งเค้าดูยังไงก็น่ารักไม่ได้น่ากลัวเลยสักนิด
“อ้าวมากันแล้วเหรอวะ แล้วทำไมน้องน้ำทำหน้าอย่างนั้นวะ” เป็นดินที่ทักขึ้นเมื่อเห็นว่าสายน้ำเดินทำหน้าบึ้งปากจู๋ตรงมาหาพี่ชายที่นั่งยิ้มอยู่
“หึๆ” วายุได้ส่งเสียงหัวเราะในลำคอไปให้เพื่อน
“อ่ะ กินแซนด์วิชก่อนนะครับเดี๋ยวจะได้ขึ้นเรียนกัน” หินผาที่พอน้องมานั่งข้างๆก็ยื่นแซนด์วิชที่วายุส่งข้อความมาบอกให้ซื้อกับน้อง
“ขอบคุณครับพี่ผา น่ากินจังเลย แล้วมีของพี่กายมั้ยครับ” สายน้ำพูดพร้อมกับเอาแซนด์วิชเข้าปาก แต่ก็ยังไม่วายห่วงคนที่ตัวเองกำลังงอนอยู่
“น้องน้ำงอนมันอยู่ไม่ใช่เหรอครับ พี่ก็เลยไม่ให้มันกินครับเป็นการลงโทษดีมั้ยครับ” หินผาแกล้งถามน้องชายขึ้นมา ในขณะที่สายน้ำถึงกับชะงักกับคำพูดของพี่ชายก็หันไปมองวายุที่กำลังมองเค้ากินอยู่
“อ่ะ พี่กายกินกับน้องก็ได้ครับ เดี๋ยวพี่กายจะหิวเอา” สายน้ำหยุดคิดไปพักหนึ่งก่อนที่จะยื่นแซนด์วิชในมือที่เหลืออีกครึ่งให้กับแฟนตัวเอง
“หึๆ พี่ไม่หิวหรอกครับตัวเล็กกินเถอะครับเดี๋ยวเข้าเรียนไม่ทันนะ เพื่อนๆขึ้นไปรอกันหมดแล้ว” วายุพูดพร้อมกับดูนาฬิกาไปด้วย เพราะตอนนี้เหลือเวลาอีกไม่ถึง 20 นาที โชคดีที่พวกเค้ามีเรียนตึกใกล้ๆนี่เอง
“แต่ว่า......” สายน้ำมีท่าทีลังเลว่าจะกินต่อดีหรือจะให้พี่กายของเค้าดีเพราะเค้าก็ยังไม่อิ่มเหมือนกัน
“อ่ะๆ พี่ไม่แกล้งแล้วก็ได้ครับ น้องกินเข้าไปเลยครับเดี๋ยวจะไม่อิ่ม พี่ซื้อมาเผื่อไอ้วายุมันอยู่ครับ นี่ไง” หินผาพูดพร้อมกับโยนแซนด์วิชไปให้กับวายุซึ่งวายุก็รับทันพอดี
ทันทีที่วายุได้รับแซนด์วิชจากหินผา สายน้ำก็กัดแซนด์วิชคำโตเข้าไปจนเต็มปากด้วยความแค้นที่โดนพี่ชายตัวเองหลอก เคี้ยวไปก็มองค้อนพี่ชายตัวเองไปด้วย ทำให้เรียกเสียงหัวเราะให้กับ หินผา วายุ ดินและเหนือได้ดีทีเดียว
“เดี๋ยวถ้าตัวเล็กเลิกเรียนก่อน ตัวเล็กขึ้นไปรอพี่ที่ห้องเรียนนะครับ วันนี้พี่เรียนชั้น 5 ห้อง 3 แต่ถ้าพี่เลิกก่อนพี่จะมารอที่หน้าห้องนะครับ” วายุที่เดินมาส่งสายน้ำถึงหน้าห้องบอกย้ำน้องอีกครั้งเพราะเค้าไม่อยากให้น้องลงไปรอเค้าข้างล่างอีก
“ได้ครับ งั้นน้องเข้าห้องก่อนนะครับ” สายน้ำพูดพร้อมกับหันไปยิ้มให้กับเพื่อนที่โบกมือมาให้ตนเอง
พอถึงเวลาเลิกเรียนก็เกิดเสียงกรี๊ดกร๊าดฮือฮาขึ้นมาทันที เพราะกลุ่มพี่ว๊ากพากันมานั่งรอกันอยู่ที่หน้าห้อง
“พี่ๆเลิกเรียนเร็วเหรอครับ” สายน้ำที่เดินเข้ามาคนแรกเอ่ยถามขึ้น
“อาจารย์ยกคลาสกะทันหันน่ะครับ พวกพี่เลยว่างรวมทั้งวิชาต่อไปด้วย” เป็นวายุพี่ตอบแทนทุกคน
“งั้นเราไปกินชาบูกันดีมั้ยคะ เบลอยากกินไม่ได้กินนานแล้วค่ะ” เบลรีบยื่นข้อเสนอขึ้นมาทันทีเพราะทั้งเค้าและกลุ่มรุ่นพี่ต่างก็ไม่มีเรียนแล้วทั้งคู่
“ก็ดีนะ น้ำก็อยากกินเหมือนกันเมื่อเช้ายังกินไม่อิ่มเลย คอยดูนะจะกินให้พุงแตกเลย”
“ฮ่าๆๆ ต้องถึงกับพุงแตกเลยเหรอครับน้องลักยิ้ม” เป็นเหนือที่หัวเราะขึ้นมาให้กับท่าทางน่ารักๆนั่น
“มันก็ต้องอย่างนั้นสิครับ ไม่อย่างนั้นมันก็ไม่คุ้มกับเงินที่เราต้องจ่ายไปนะครับ” สายน้ำยังทำหน้าตาจริงจังพร้อมกับยืนยันเจตนารมณ์ของตัวเอง
“ป่ะ งั้นไปครับเดี๋ยวช่วงบ่ายเราต้องเข้าบริษัทกันอีก” วายุพูดจบก็ยื่นมือมาโอบเอวบางของคนตัวเล็กแล้วเดินนำหน้าไป ตามด้วยคู่ไฟและออกัส
“น้องเบลไปกับพี่นะครับ ไอ้ดินมึงไปกับไอ้ผาแล้วกันนะ” พูดจบเหนือก็เดินจูงมือเบลออกไปทันทีโดยที่เบลก็ยังดูงงๆอยู่ พร้อมกับที่เจ้าตัวนั้นก้มมองดูมือใหญ่ที่กำรอบข้อมือเล็กของตัวเองอยู่อย่างรู้สึกดีแต่ก็ต้องวางฟอร์มเอาไว้ก่อน
ทางด้านหินผาก็หันมายักคิ้วให้กับดินพี่แผนของพวกเค้าทำท่าจะได้ผล ดินเองก็ได้แต่ยักไหล่กลับไป ดินที่ปกติแล้วจะมาพร้อมกับไฟเพราะอยู่คอนโดเดียวกันและเจ้าตัวก็ขี้เกียจขับรถด้วย เค้าก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรจะไปกับใครก็ได้ขอแค่ไม่ต้องขับรถเป็นพอ
ระหว่างทางบรรยากาศในรถระหว่างเหนือและเบลค่อนข้างเงียบและเกร็งจนเมื่อรถเลี้ยวเข้าไปในห้าง
“เอ่อ.. / เอ่อ..”
“น้องเบลพูดก่อนเลยครับ” เป็นเหนือที่พูดขึ้น
“คือทำไมพี่เหนือถึงให้เบลมากับพี่เหนือล่ะคะ” เบลพูดเสร็จก็หันหน้ากลับไปมองด้านหน้าตามเดิม
เหนือนิ่งไปสักพัก เค้าเองก็ยังไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกันว่าคิดยังไงกับน้อง เค้ารู้แต่ว่าไม่ชอบที่เบลจะต้องนั่งรถไปกับไอ้ผาหรือคนอื่น
“เอ่อ ก็เมื่อวานน้องเบลไปกับไอ้ผาแล้วไงครับ วันนี้พี่ก็อยากให้น้องเบลมานั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถให้พี่บ้าง” เหนือที่ไม่รู้จะตอบน้องยังไงก็เลยบอกไปแบบไม่คิดอะไร
“หึ อย่างนั้นเองเหรอคะ พี่เหนือคิดแค่อยากจะมีตุ๊กตาหน้ารถแค่นั้นสินะคะ ทำไมคะรถพี่เหนือนี่จะต้องมีตุ๊กตาหน้ารถตลอดเลยใช่มั้ยคะ เบลคงเป็นได้แค่ตัวแทนของบรรดาสาวๆ ของพี่เหนือแค่นั้นใช่มั้ยคะ” เบลพูดพร้อมกับมองหน้าเหนือด้วยแววตาตัดพ้อ น้ำตาที่ปริ่มอยู่ตรงขอบตาพร้อมจะไหลออกมาถ้าเจ้าตัวไม่พยายามที่จะกลั้นเอาไว้
“คือ...พี่” เหนือถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเห็นแววตาของน้องที่มองมามันเต็มไปด้วยความน้อยใจและตัดพ้อ
“เบลขอลงตรงนี้นะคะ” เมื่อรถของเหนือจอดเพราะรอรถคันหน้าถอยเข้าซองอยู่เบลก็พูดขึ้นโดยไม่หันมามองหน้าเหนือ
“น้องเบลครับคือพี่ไม่ได้.....”
“ไม่เป็นไรค่ะ เบลผิดเองที่หลงไปชอบคนอย่างพี่ ผิดเองที่หวังกับคนอย่างพี่เหนือมากเกินไป ทั้งๆที่พี่เหนือเองก็ไม่มีอะไรคู่ควรที่จะให้เบลหวังได้เลย ตอนแรกเบลดีใจมากที่พี่เหนือชวนเบลมาด้วยกันจนแอบหวังอยู่ลึกๆว่าพี่เหนือคงจะมีใจตรงกันกับเบลบ้าง แต่มันก็ไม่ใช่ เบลขอโทษนะคะที่หวังในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ แล้วพี่เหนือก็ไม่ต้องรู้สึกผิดหรอกนะคะ เพราะตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไปเบลจะตัดใจจากพี่ให้ได้ คิดซะว่าเบลก็เหมือนผู้หญิงทั่วไปที่เข้ามาชอบและมาสารภาพกับพี่แล้วก็ผ่านไปแล้วกันนะคะ เบลขอโทษอีกครั้งที่ทำให้พี่เหนือต้องมาหนักใจเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง” พอพูดจบเบลก็ยกมือขึ้นไหว้พร้อมกับเปิดประตูออกไปในทันที
“โธ่โว้ย ไอ้เหนือไอ้เหี้ย นี่มึงทำอะไรอยู่วะ” เหนือที่พอเรียกสติได้ก็ตะโกนด่าตัวเองออกมาลั่นรถพร้อมกับดึงทึ้งหัวเองอย่างแรง
“พี่ผาช่วยเบลด้วย เบลเจ็บ ฮึก! ฮืออออ” ทันทีที่เบลเห็นหน้าหินผา เจ้าตัวก็โผเข้าไปกอดหินผาอย่างแรงจนหินผาเองก็เซไปข้างหลังยังดีที่ดินจับไว้ได้ทัน
“เกิดอะไรขึ้นครับเบล ใจเย็นๆนะครับ” หินผายื่นมือมากอดตอบเบลพร้อมกับลูบหัวเบาๆก่อนที่จะหันมามองหน้าดิน ซึ่งดินเองทำได้แค่เพียงส่ายหน้าไปมาเพราะเค้าก็มาพร้อมกันกับเพื่อนเหมือนกัน แต่ที่แน่ๆคงต้องเกี่ยวกับไอ้เพื่อนตัวดีอย่างแน่นอน
วายุ สายน้ำ ไฟ และออกัส ที่มาถึงทีหลัง ก็ส่งสายตาถามเช่นกันแต่ก็ไม่มีใครให้คำตอบได้ เพราะเบลนั้นเอาแต่ร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่ยอมที่จะเงยหน้าขึ้นมาเลย
ทางด้านเหนือที่พอหาที่จอดได้แล้วก็รีบวิ่งมาเพื่อที่จะมาตามหาเบล แต่ก็เจอกับกลุ่มเพื่อนและน้องๆที่ยืนมองเบลร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของหินผา เค้าได้แต่ยืนหลบอยู่หลังเสาด้วยความเสียใจ
“วันนี้แยกย้ายกันก่อนแล้วกันว่ะ ไอ้ผาเดี๋ยวมึงพาเบลไปที่ห้องกูก่อน เดี๋ยวกูโทรบอกไอ้อิฐเองส่วนมึงไอ้ดิน” ไฟพูดขึ้นเมื่อยืนกันอยู่สักพักแต่สถานการณ์ไม่ดีขึ้น พร้อมกับพยักหน้าให้ดินมองไปที่เสาต้นที่เหนือยืนพิงอยู่ เค้าเห็นตั้งแต่เหนือเดินเข้ามาแล้ว
ดินก็เข้าใจได้อย่างง่ายดาย เค้าเดินไปกอดคอเหนือแล้วพาเดินไปที่รถ เหนือที่หลบอยู่ถึงกับสะดุ้งเพราะไม่คิดว่าจะมีใครได้ทันเห็น
“มึงมีเรื่องต้องอธิบายยาวไอ้เหี้ยเหนือ เอากุญแจรถมึงมาวันนี้กูจะขับเอง” เหนือที่ไม่มีกะจิตกะใจจะเถียงหรือโต้ตอบก็ยื่นกุญแจรถให้เพื่อนแต่โดยดี
“พี่กายครับ เบลจะเป็นอะไรมั้ยครับ” สายน้ำถามวายุขึ้นมาด้วยสีหน้าเศร้าเมื่อขับรถออกมาจากห้างกันแล้ว ทุกคนก็เลยพลอยไม่ได้กินอะไรกันไปด้วยเพราะกินไม่ลงกัน
“ไม่เป็นอะไรหรอกครับตัวเล็กวางใจเถอะนะครับ พี่เชื่อว่า ไอ้ผา ไอ้ไฟ แล้วก็ไอ้ดินมันจัดการได้ครับไม่ต้องห่วงนะ” วายุพูดพร้อมกับยื่นมือไปลูบหัวน้องเพื่อปลอบ
พอถึงที่บริษัทวายุก็ลงมาเปิดประตูให้คนตัวเล็กของเค้าที่นั่งทำหน้าเศร้าและเหม่ออยู่โดยไม่ยอมขยับเขยื้อนไปไหน
ฟอด!
“ตัวเล็กครับ ถึงแล้วครับ” วายุพูดบอกพร้อมกับเอื้อมเข้ามาปลดสายเบลล์ให้กับคนตัวเล็ก
“ถึงแล้วเหรอครับ ขอโทษครับน้องเหม่อไปหน่อย”
“อืม เอาอย่างนี้ดีมั้ยครับ เดี๋ยวถ้าเสร็จงานเร็วพี่พาตัวเล็กไปหาเบลดีมั้ย แต่ระหว่างนี้เราก็โทรถามไอ้ผาไปพลางๆก่อน” วายุที่เห็นน้องไม่ร่าเริงสดใสก็รีบยื่นข้อเสนอให้ทันทีเพราะใบหน้าเศร้าๆแบบนี้ไม่เหมาะกับคนรักของเค้าเอาซะเลย
“จริงๆนะครับ งั้นพี่กายต้องรีบทำงานให้เสร็จเร็วๆนะ เดี๋ยวน้องช่วย” ทันทีที่วายุพูดจบสายน้ำก็มีรอยยิ้มผุดขึ้นมาบนใบหน้าทันที
“หึๆ ครับ เดี๋ยวพี่จะรีบทำอย่างไวเลยครับ”
“อ๋อ จริงสิ” สายน้ำที่พอก้าวลงมาจากรถพลันสายตาก็เหลือบไปเห็นร้านกาแฟที่ตัวเองไปนั่งกินมาเมื่อวาน ทำให้นึกได้ว่าตัวเองนั้นไปทำอะไรเอาไว้ ทำให้อุทานออกมาเสียงดัง
“หือ ตัวเล็กเป็นอะไรครับ” วายุที่เห็นอารมณ์น้องเปลี่ยนแทบจะทันทีที่ก้าวลงมาจากรถ พร้อมทั้งยังร้องออกมาเสียงดังจนเจ้าตัวยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองเอาไว้
“ไม่มีอะไรครับ น้องแค่คิดอะไรไปเรื่อยน่ะครับ แหะๆ” สายน้ำพูดพร้อมกับยิ้มให้กับวายุจนตาหยี ผิดกันเป็นคนละคนกับคนก่อนหน้านี้เลย
“หึๆ งั้นเหรอครับ พี่นึกว่าแฟนพี่เพี้ยนไปซะแล้ว เดี๋ยวเศร้าเดี๋ยวยิ้ม” วายุพูดพร้อมกับขยี้ผมด้วยความเอ็นดู
“พี่กายอ่ะ ผมน้องยุ่งหมดแล้วนะ เดี๋ยวก็หมดหล่อกันพอดี” สายน้ำพูดว่าคนพี่พร้อมกับจัดทรงผมตัวเองให้เข้าที่ไปด้วย
“หึๆ หน้าแบบนี้เค้าเรียกว่าน่ารักครับถ้าหล่อต้องแบบพี่นี่ครับ ป่ะ รีบเข้าไปข้างในกันเถอะครับข้างนอกมันร้อน”
“ตื่นเต้นจังเลย” สายน้ำรีบเดินนำหน้าพร้อมกับกระโดดโลดเต้นไปด้วย เรียกรอยยิ้มให้กับวายุที่เดินตามหลังได้ไม่น้อย นี่ท่าทางแฟนเค้าจะเพี้ยนไปแล้วจริงๆสินะ เมื่อกี๊ยังทำท่าทำทางหมดอาลัยอยู่เลย
“พี่กายเร็วๆสิครับ ขาก็ยาวทำไมเดินช้าจังล่ะครับ” สายน้ำที่ไปยืนเท้าสะเอวรอคนพี่อยู่ตรงประตูทางเข้าขวักมือเรียกคนตัวสูงขายาวยิ๊กๆ
“หึๆ เป็นอะไรไปครับ หืม ทำไมไม่เข้าไปก่อนล่ะครับ” สายน้ำได้แต่ส่ายหน้าตอบกลับคนพี่พร้อมกับยื่นมือมาให้จับ ซึ่งวายุก็ยื่นมือไปจับมือเล็กอย่างว่าง่าย
“คุณวายุขอบคุณมากนะคะ” ทันทีที่ทั้งสองคนเปิดประตูเข้ามา ก็มีเสียงขอบคุณดังไปทั่วและตลอดทาง ตั้งแต่พนักงานที่อยู่ตรงเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์และพนักงานที่พวกเค้าเดินผ่านทุกคน ทุกคนยกมือไหว้พร้อมกับพูดขอบคุณ วายุถึงกับขมวดคิ้วเข้าหากันทันที ส่วนคนตัวเล็กที่เดินข้างๆเค้าน่ะเหรอส่งยิ้มกว้างจนตาหยีพร้อมลักยิ้มบุ๋มให้กับพนักงานของเค้าตลอดทางที่เดินมาอย่างกับนางสาวไทยก็ไม่ปาน
ย้อนกลับไปเมื่อเช้าที่เรียกได้ว่าแทบจะเกิดจลาจลย่อยๆขึ้น เริ่มจากที่ทางผู้จัดการร้านกาแฟเดินมาแจ้งกับพนักงานตรงเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ว่าคุณวายุได้สั่งซื้อกาแฟและน้ำอื่นๆไม่ว่าจะเป็น โกโก้ ชา นม อิตาเลี่ยนโซดา สมู้ทตี้ ที่สั่งคละเคล้าปะปนกันไป พร้อมกับเค้กมาแจกให้กับพนักงานทุกคนที่บริษัทรวมไปถึงทุกคนที่ทำงานอยู่ในโรงงานด้วย เพื่อเป็นการปลอบขวัญที่เค้าทำให้ทุกคนต้องตกใจและเสียขวัญกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน
เท่านั้นแหละพนักงานตรงเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ถึงกับอึ้งไปพักหนึ่งเลยทีเดียว พอตั้งสติได้แล้วจึงโทรไปแจ้งตามแผนกต่างๆให้ส่งตัวแทนมารับแผนกละ 2 คน ซึ่งน้ำที่ทางร้านกาแฟเทียวมาส่งให้ก็ได้แค่เที่ยวละ 20 แก้วบ้าง 30 แก้วบ้าง จนรอบหลังๆตัวแทนแผนกจึงเปลี่ยนเป็นไปรอรับที่ร้านเลยดีกว่าพร้อมกับแจ้งว่าคนในแผนกตัวเองมีกี่คนและค่อยๆทำให้ทีละแผนก พอใกล้หมดแผนกนี้ก็เรียกแผนกต่อไปให้มารับเพื่อเป็นการไม่เสียเวลางานด้วย
กว่าจะเสร็จสิ้นก็กินเวลาตั้งแต่ 8 โมงครึ่งยันเกือบจะเที่ยง เล่นเอาร้านกาแฟปิดร้านในทันทีที่ทำเสร็จ พนักงานในร้านที่มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 7 คนถึงกับล้มนอนกองรวมกันอยู่ที่พื้นเมื่อทำครบตามออเดอร์ แต่ก็ถือว่าคุ้มซะยิ่งกว่าคุ้มเพราะพวกเค้าได้พักเพิ่มอีกตั้งครึ่งวันจากที่ปกติกว่าจะปิดร้านก็ปาเข้าไปหกโมงเย็นแล้ว
“ไงพ่อคนใจป้ำ” ทันทีที่วายุเปิดประห้องตัวเองเข้าไปก็เจอพี่ชายนั่งรออยู่ที่โซฟาอยู่ก่อนแล้ว
“อะไรวะ” วายุยังคงทำหน้างง ไม่ใช่ว่าเพิ่งจะมางงแต่เค้างงตั้งแต่ที่ก้าวเข้ามาในบริษัทแล้วต่างหาก
“นี่อย่าบอกนะว่าไม่รู้เรื่องที่ตัวเองสั่งน้ำสั่งกาแฟแล้วก็เค้กมาเลี้ยงคนทั้งบริษัทรวมทั้งในโรงงานด้วย” วาโยพูดอธิบายให้น้องชายได้ฟังเมื่อยังเห็นทำหน้างงอยู่ แต่เค้าก็ยังอดที่จะติดใจและสงสัยไม่ได้อยู่ดีว่าคนอย่างวายุนี่นะจะใจดีทำอะไรแบบนี้
“หือ? ทั้งบริษัททั้งโรงงานเลยเหรอวะ มิน่า....” วายุพูดพร้อมหันไปมองตัวการที่นั่งส่งยิ้มหน้าบานมาให้เค้าอยู่
“น้องเก่งใช่มั้ยล่าาา ทีนี้พนักงานที่นี่ก็จะเลิกกลัวพี่กายกันยังไงล่ะครับ” สายน้ำพูดพร้อมกับยักคิ้วไปด้วยก่อนจะกางนิ้งโป้งและนิ้วชี้มารองใต้คาง ประมาณว่าเท่ใช่มั้ยล่ะ
“ฮ่าๆๆๆๆ นี่ฝีมือน้องน้ำเองหรอกเหรอครับ สุดยอดเลยครับพี่ยกนิ้วให้สองนิ้วเลย ไม่ได้การแล้วเดี๋ยวพี่ต้องโทรไปเล่าให้คุณพ่อกับคุณแม่ฟังก่อน เสียดายที่วันนี้ท่านเข้าโรงแรมไม่ได้เมาข้าที่นี่” วาโยยกนิ้วโป้งให้กับสายน้ำพร้อมกับเดินหัวเราะจากห้องไปอย่างอารมณ์ดี
“หึๆ มานี่เลยครับตัวแสบ ทำอะไรไว้ครับ หืมมม....” ทันทีที่วาโยเดินออกไปจากห้องวายุก็เดินไปล็อกประตูและกระโจนเข้าหาคนตัวเล็กในทันที
“ฮ่าๆๆๆ พี่กายไม่เอา น้องจั๊กจี้นะ ยอมแล้วครับ ยอมแล้ว ฮ่าๆๆๆ” วายุที่ปลุกปล้ำซุกไซร้พร้อมกับไล่กดจมูกคมไปตามร่างบางไปได้สักพักก็ยอมหยุดเพราะกลัวคนตัวเล็กจะขาดใจเพราะบ้าจี้ไปซะก่อน
แฮ่ก! แฮ่ก! แฮ่ก! สายน้ำถึงกับนอนหอบหน้าแดงอยู่บนโซฟาอย่างหมดแรง
“ไหนมาเล่าให้พี่ฟังสิครับว่าเราไปทำอะไรไว้ครับ หืม ฟอด! ฟอด! จุ๊บๆๆ” วายุพูดพร้อมกับอุ้มคนตัวเล็กให้ขึ้นมานั่งคร่อมตักตัวเองแต่ก็ยังไม่วายก้มลงไปฟัดแก้มแดงๆ พร้อมกับจูบที่ปากย้ำๆไปด้วย
“แสบจริงๆนะเรา พี่ก็สงสัยอยู่ว่าเงินในบัตรพี่หายไปไหนตั้งแสนกว่า ที่แท้แฟนพี่เอาไปเปย์ให้พนักงานหมดนี่เอง ฟอด” หลังจากที่สายน้ำเล่าให้วายุฟังแล้วเจ้าตัวก็อดที่จะภูมิใจในตัวคนรักของตัวเองไม่ได้ เค้าไม่คิดว่าคนตัวเล็กของเค้าที่ดูว่ายังเป็นเด็กอยู่จะมีความคิดไปไกลขนาดนี้ ถึงขนาดที่ว่าไม่อยากให้พนักงานติดภาพเค้าที่เป็นคนโหดร้ายจนพากันกลัวไม่กล้าเข้าหน้าไม่กล้าที่จะร่วมงานด้วย เพราะถ้าต่อไปเค้าต้องเข้ามาบริหารที่นี่อย่างเต็มตัวหากทุกคนยังกลัวเค้ากันอยู่ก็คงจะไม่กล้าเสนอความคิดเห็นอะไรกันเลย มันจะทำให้บริษัทก้าวต่อไปข้างหน้าไม่ได้ถ้าหากทุกคนไม่ร่วมแรงร่วมใจและร่วมมือกัน
“พี่กายไม่โกรธน้องใช่มั้ยครับที่น้องทำไปโดยไม่ได้บอก”
“ไม่เลยครับ พี่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเล็กทำไปทั้งหมดก็เพื่อพี่ พี่กายคนนี้จะโกรธน้องได้ยังไงล่ะครับ ขอบคุณนะครับที่เข้ามาในชีวิตพี่ ยอมเป็นแฟนกับคนเย็นชาอย่างพี่ ขอบคุณจริงๆครับ” วายุพูดพร้อมกับกอดร่างบางที่อยู่บนตักแน่น ยิ่งนับวันเค้ายิ่งหลงรักคนในอ้อมกอดของเค้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า นี่แหละมั้งเค้าถึงได้บอกกันว่ามีแฟนดีมีชัยไปกว่าครึ่ง เค้าดีใจที่เลือกคนไม่ผิดเลยจริงๆ
Comments (0)