42 ตอน ว่าที่แฟน
โดย Beloved_Moouan
“พี่กายครับ หายงอนน้องนะ น้องไม่ได้อยากออกไปสักหน่อย เป็นทอยต่างหากที่บังคับน้องกับกัสให้ออกไปอ่ะ” สายน้ำที่ตอนนี้นั่งเอาหน้าถูไถไปกับแขนแกร่งของวายุอย่างอ้อนๆ เพื่ออธิบายเหตุการณ์ที่เค้าต้องออกไปยืนอยู่ตรงนั้น
“แล้วทำไมตัวเล็กต้องไปยิ้มโปรยเสน่ห์แบบนั้นด้วยล่ะครับ” วายุที่ยังคงแกล้งงอนน้องอยู่หันมาพูด ที่จริงเค้าหายงอนตั้งแต่เห็นหน้าอ้อนๆของน้องแล้ว
“น้องไม่รู้อ่ะครับ มันยิ้มออกไปของมันเองอ่ะ แหะๆ อย่างงอนน้องเลยนะ ดีกันนะครับ” สายน้ำพูดพร้อมกับยื่นนิ้วก้อยน้อยๆไปตรงหน้าของคนพี่
“หึๆ ตัวแสบไหนมานี่ซิ๊” วายุพูดกัดฟันพร้อมกับยกคนตัวเล็กให้ขึ้นมานั่งบนตักอย่างมันเขี้ยว
ฟอด! ฟอด! จุ๊บ!
“อื้อ พี่กายทำอะไรครับ คนมองมาหมดแล้วน้องอายเค้านะ” สายน้ำพูดพร้อมกับทุบตีไปที่อกของคนรัก หลังจากที่วายุทั้งหอมแก้มและจูบมาที่ปากของเค้าอย่างหนัก
“พี่ก็ทำโทษเด็กดื้อที่เที่ยวไปโปรยยิ้มหว่านเสน่ห์ให้กับคนอื่นที่ไม่ใช่พี่ยังไงล่ะครับ หืมม” วายุบอกออกไปด้วยความมันเขี้ยวจึงยื่นมือมาดึงแก้มนุ่มของน้องไปด้วย
“หึ่ย~” สายน้ำได้แต่หันหน้าหนีคนเอาแต่ใจ เพราะเอวบางของเค้าก็โดนคนพี่ยึดไว้จนขยับไปไหนไม่ได้เลย
“หึๆ หิวข้าวรึยังครับ” วายุจับหัวคนบนตักให้มาพิงไหล่ของตัวเองพร้อมทั้งลูบผมไปด้วย
“นิดหนึ่งครับ เดี๋ยวน้องขอรอพี่ผากับน้องวาก่อนนะครับ แล้วเดี๋ยวค่อยไปกินพร้อมกัน” คนตัวเล็กบนตักพูดงึมงำเบาๆ เพราะพอได้เอนซบไหล่ที่คุ้นเคยก็ทำให้พลอยง่วงไปด้วย สงสัยเค้าจะไปโรคแพ้ไหล่ของคนรักไปซะแล้ว
“พี่ไฟกัสบอกไปแล้วไงครับว่าไม่ได้อยากออกไปยืนตรงนั้นสักหน่อย” ออกัสเดินหน้าบึ้งพูดกับไฟมาแล้วนั่งลงบนโต๊ะ
“ก็พี่ไม่ชอบนี่นาที่ใครก็ไม่รู้มาแซวกัส พี่ทั้งหึงทั้งหวงของพี่นี่ครับ” ไฟพูดพร้อมกับจับมือออกัสมาแนบกับหน้าของตัวเอง
“เฮ้อ! เพื่อนกูแต่ละคน” ดินพูดพร้อมกับส่ายหน้าไปมา เมื่อเห็นไฟและออกัสยังเถียงกันไม่เลิกเรื่องออกไปแนะนำตัว
“อ้าวไอ้ผานี่มึงไปอุ้มลูกใครเค้ามาวะ” เหนือที่นั่งคุยกับเบลอยู่ถามขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนเดินมาพร้อมกับมีคนในอ้อมกอดติดมาด้วย
“ว่าที่แฟนกูเอง” หินผาพูดหน้าตายพร้อมกับค่อยๆวางร่างบางในอ้อมกอดลง
“ห๊ะ!!!!!” ทุกคนอุทานขึ้นอย่างตกใจแทบจะพร้อมกัน ยกเว้นก็แต่สายน้ำที่หลับไปแล้วและวายุกับไฟที่ไม่ได้มีท่าทีตกใจอะไร
“พี่ผา ปล่อยวาได้แล้วครับ” วาริที่ตอนนี้หน้าแดงหูแดงพูดพร้อมกับพยายามแกะมือปลาหมึกที่ยังจับอยู่ที่เอวเค้าอยู่ออก
“เดี๋ยวๆนี่มึงช่วยอธิบายให้พวกกูฟังก่อนได้มั้ยวะ” เหนือที่ยังไม่หายข้องใจเพื่อนถามขึ้น
“เฮ้อ! กูเจอกับน้องวาเมื่อเช้าตอนที่เดินไปซื้อกาแฟกับไอ้ไฟนั่นแหละ แล้วพอได้คุยกันกูก็รู้สึกว่ากูชอบน้องเค้ากูก็เลยขอน้องเค้าจีบก็แค่นี้ จบมั้ย” หินผาพูดบอกเพื่อนไปเพราะเค้ารู้ว่ามันคงจะไม่หยุดแน่ๆถ้ามันยังไม่ได้คำตอบที่มันต้องการจะรู้
ระหว่างที่หินผาพูดอธิบายให้เพื่อนฟังอยู่นั้นวาริก็ยืนหน้าแดงอยู่ข้างๆด้วย คนอะไรจะตรงปานนั้น เจ้าตัวได้แต่ยืนคิดอยู่ในใจ
“อ๋อ น้องที่มึงเดินชนเมื่อเช้าสินะ ไอ้นี่บทจะไวก็ไวฉิบหายเลย” เหนือพูดพร้อมกับทำหน้าตาล้อเลียนเพื่อนตัวเอง
“น้องวาครับนี่เพื่อนพี่ชื่อไฟ ดิน เหนือ แล้วก็วายุครับ ส่วนนี่เป็นรุ่นพี่ปี 2 ที่น้องวาน่าจะรู้จักบ้างแล้ว นี่เบล ออกัส แล้วก็สายน้ำน้องชายพี่ครับ” หินผาแนะนำให้วาริได้รู้จักทีละคนโดยวาริเองก็ยกมือไหว้ทุกคนที่หินผาแนะนำเช่นกัน
“แล้วก็นี่น้องวาริ อยู่คณะเดียวกันกับเรา” หินผาแนะนำวาริให้ทุกคนได้รู้จักซึ่งทุกคนก็ส่งยิ้มให้กับวาริอย่างเป็นกันเอง จะยกเว้นก็แต่วายุที่มองมานิ่งๆ
หินผาให้วารินั่งลงตรงข้ามกับที่วายุและสายน้ำนั่งอยู่ พอวาริเงยหน้าไปสบเข้ากับตาคมดุและหน้านิ่งๆของวายุเข้าก็ถึงกับสะดุ้งขึ้นทันทีพร้อมกับก้มหน้าหลบสายตาคมตรงหน้า ตอนที่เค้าเห็นวายุเดินมาหาสายน้ำที่ฝ่ายปฐมพยาบาลก็ยังดูพี่เค้ามีท่าทางอ่อนโยนอยู่เลยถึงแม้จะไม่ค่อยยิ้มก็ตาม ไม่ได้มีมาดดุเหมือนกับตอนนี้เลยสักนิดเดียว
“หึๆ น้องวาริไม่ต้องกลัวไอ้วายุมันหรอกครับ หน้ามันเป็นแบบนั้นเอง เดี๋ยวอีกหน่อยก็จะชินไปเอง” ดินพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าวาริสะดุ้งขึ้นเมื่อเผลอไปสบตาเข้ากับเพื่อนจอมเย็นชาของตัวเองเข้า วายุก็ยังคงเป็นวายุจอมเย็นชาและนิ่งที่ไม่สนใจใครเหมือนเดิม จะมีก็แต่จะพูดเยอะขึ้นและอ่อนโยนเฉพาะตอนที่อยู่กับสายน้ำเท่านั้นทำให้พวกเค้าและน้องๆที่อยู่กลุ่มเดียวกันชินซะแล้ว
“คะ ครับ” วาริตอบรับทั้งๆที่ยังไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมา
“หึๆ หิวรึยังครับ” หินผาก้มลงมาถามวาริไม่ดังมากนัก
“นิดหนึ่งครับ” วาริเงยหน้าขึ้นไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆและตอบออกมา
“งั้นพวกเราไปกินข้าวกันคนน่าจะเริ่มน้อยลงแล้ว มึงปลุกน้องน้ำได้แล้วป่ะ เดี๋ยวจะปวดท้องเอา” หินผาหันไปชวนเพื่อนๆและน้องๆที่นั่งคุยกันอยู่ก่อนที่จะหันไปบอกกับวายุ
“ตัวเล็กครับตื่นได้แล้วครับไปกินข้าวกันนะครับ” วายุพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มน่าฟังพร้อมกับลูบแขนน้องเบาๆ
“ฮ่าๆๆ น้องวาริไม่ต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้นก็ได้ค่ะ อย่างที่พี่ดินบอกเดี๋ยวน้องวาริก็จะชินไปเองเหมือนกับพวกพี่นี่แหละค่ะ” เบลที่อดจะหัวเราะไปกับตาโตๆที่ขยายใหญ่พร้อมกับคิ้วที่เลิกขึ้นอย่างแปลกใจของวาริไม่ได้เมื่อได้ยินที่วายุพูดกับสายน้ำ
“หึๆ กูว่ากูรู้แล้วว่าทำไมไอ้ผามันถึงได้ชอบน้องวาริแล้วตกลงปลงใจที่จะจีบน้องทันที” เป็นดินที่พูดขึ้นเบาๆกับไฟและเหนือ โดยมีออกัสชะโงกหน้ามาฟังกับเค้าด้วยจนโดนไฟล็อกคอมาไว้ตรงใต้วงแขน
“อื้ออ พี่ไฟอย่าสิครับ” ออกัสดิ้นเล็กน้อยเมื่อโดนล็อกคอ
“หึๆ อยากรู้ขนาดนั้นเลยเหรอครับ หืม ฟอด!” ไฟพูดพร้อมกับกดจมูกลงไปบนเส้นผมนุ่มของออกัส ออกัสก็พยักหน้าขึ้นลงอย่างเร็ว
“ทำไมเหรอวะ” เป็นเหนือที่ถามต่อหลังจากที่ไฟกับออกัสเงียบลงแล้ว
“ก็มึงดูหน้าตาน้องวาริตอนตกใจหรือลักษณะท่าทางแล้วก็นิสัยสิวะว่าคล้ายๆ ใคร” พอดินพูดจบทุกคนก็หันไปทางวาริที่นั่งคุยกับเบลและสายน้ำที่ตื่นขึ้นมาแล้ว
“เออว่ะ มิน่าไอ้ผาแม่งไม่ลังเลเลย น้องวารินี่บุคลิกท่าทางอย่างกับก้อปปี้น้องลักยิ้มของกูตอนมาใหม่ๆยังไงยังงั้นเลยว่ะ” เหนือพูดขึ้นทั้งที่สายตายังมองไปยังว่าที่แฟนของเพื่อนตัวเอง
“ใช่มั้ยล่ะ มันเคยบอกว่ามันอยากได้แฟนที่มีบุคลิกแล้วก็นิสัยคล้ายๆน้องชายตัวเองแล้วมันก็หาจนเจอ แม่งพรหมลิขิตชัดๆ เฮ้อ!” ดินพูดขึ้นพร้อมถอนหายใจออกมา ก็คงจะเหลือแต่เค้าสินะที่ยังหาเนื้อคู่ตัวเองไม่เจอ ถ้าเค้าเลือกได้เค้าก็อยากจะให้มีน้องน้ำของไอ้วายุอีกสักคน ที่ทั้งใจดี ช่างอ้อน พูดจาสุภาพ สดใสร่าเริง ใครที่ได้อยู่ใกล้ๆก็คงจะตกหลุมรักได้ไม่ยาก ไหนจะหน้าตาที่ออกไปทางสวยหวานน่ารักนั่นอีก
“พี่ๆไปกินข้าวกันครับน้ำหิวแล้ว” สายน้ำที่คุยโม้กับเบลและวาริจนเพลินก็ท้องร้องขึ้นมาจึงหันมาชวนทุกคน
“ครับๆ” ทุกคนพร้อมใจกันตอบรับและลุกขึ้นทันทีที่สายน้ำชวน
“เดินไหวมั้ยครับ ต้องให้พี่ช่วยอุ้มรึเปล่า” หินผาหันไปถามวาริยิ้มๆ
“มะ ไม่ต้องครับ วาไม่ได้เจ็บอะไรมากนี่ก็ค่อยยังชั่วขึ้นมากแล้วครับ” วาริก้มหน้าก้มตาตอบคนตัวใหญ่ออกไป
“หึๆ งั้นไปครับเดี๋ยวพี่ช่วยประคองไป” พูดจบหินผาก็เดินมาประชิดตัวกับร่างบางแล้วใช้มือโอบไปที่เอวบางของวาริส่วนมืออีกข้างก็ช่วยพยุงให้วาริเดินไปด้วย
ทางด้านวารินั้นก็หน้าขึ้นสีอย่างเห็นได้ชัดแต่ก็คงจะทำอะไรไม่ได้นอกจากปล่อยเลยตามเลย ถ้าเกิดเค้าขัดขึ้นมาดีไม่ดีเกิดโดนอุ้มขึ้นมาอีกได้อายมากไปกว่านี้เป็นแน่
เสียงฮือฮาเกิดขึ้นทันทีที่กลุ่มของพวกเค้าก้าวเข้าไปในโรงอาหาร โดยเฉพาะน้องๆ ปี 1 ที่เคยเห็นแต่เบล สายน้ำและออกัสที่ว่าน่ารักสุดๆแล้ว พอมาเจอเดินมากับกลุ่มของวายุก็ยิ่งดูเด่นเข้าไปกันใหญ่
“เฮ้ยๆนี่แกนี่ใช่กลุ่มฟ้าประทานรึเปล่าวะแก” นักศึกษาปี 1 ต่างพากันซุบซิบไปมาเมื่อเห็นกลุ่มของวายุและสายน้ำเดินเข้ามา
ที่พวกเธอเรียกว่ากุล่มฟ้าประทานนั้นไม่ผิดนัก เพราะเพจของทางมหาวิทยาลัยได้ลงรูปกลุ่มของวายุนั้นเรื่อยๆหรือเรียกได้ว่าบ่อยมากเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นตอนที่ทุกคนนั่งคุยกันหรือพากันไปเที่ยวในที่ต่างๆ จะมีทั้งรูปภาพที่ถูกแคปมาจากในเฟสหรือในไอจีแล้วมาลงในเพจ แต่ที่จะมีมากที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นรูปของวายุและสายน้ำนั่นเอง พร้อมทั้งยังตั้งฉายาให้กลุ่มของวายุว่ากลุ่มที่มีเบ้าหน้าฟ้าประทานหรือเรียกสั้นๆว่ากลุ่มฟ้าประทานเพราะคิดว่าทุกคนในกลุ่มนั้นเป็นลูกรักของพระเจ้าอะไรทำนองนั้น
กลุ่มของวายุทุกคนก็เคยได้ยินได้ดูมาบ้างแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร ส่วนใหญ่จะมีก็แต่เหนือและเบลที่คอยสอดส่องเพจนู้นทีเพจนั้นทีแล้วเอามาเล่าสู่กันฟัง สมกับที่เป็นแฟนกันซะจริงๆ
“เอ่อ พี่เบลครับ ทำไมคนถึงมองมาทางเราเยอะจังเลยครับ” วาริที่เห็นสายตาของทุกคนมองมายังกลุ่มของตนเองก็อดที่จะสงสัยไม่ได้เลยสะกิดถามเบลที่เดินอยู่ข้างๆ
“น้องวาริเคยเข้าไปดูในเพจของมหา'ลัยรึเปล่าคะ” เบลหันไปถามรุ่นน้องยิ้มๆ วาริเองได้แต่ส่ายหน้าไปมาเพราะว่าเค้าเพิ่งมาจากต่างจังหวัดจึงไม่ค่อยได้สนใจอะไรมากนักนอกเสียจากการเตรียมตัวสอบและย้ายมาอยู่ที่คอนโด
“ถ้าอย่างนั้นว่างๆน้องวาริก็เข้าไปดูที่เพจของมหา'ลัยนะคะ แล้วจะรู้คำตอบทุกๆคำตอบที่น้องวาริสงสัยเลยค่ะ” วาริได้แต่พยักหน้าหงึกๆกับสิ่งที่รุ่นพี่พูด แต่ก็ยังอดที่จะสงสัยไม่ได้เจ้าตัวได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ก่อนเอาไว้เย็นนี้ค่อยไปดูในเพจตามที่พี่เบลบอกมา
“เป็นอะไรครับ ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะครับ หืม” หินผาที่หันมาเห็นน้องทำหน้ายุ่งคิ้วขมวดเข้าหากันก็เอ่ยถามขึ้นพร้อมทั้งจับหัววาริโยกไปมาด้วยความเอ็นดู นี่แค่วันแรกคนตรงหน้าก็ทำให้เค้าหลงได้ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย หินผาได้แต่มองหน้าวาริแล้วคิดอยู่ในใจ
“กรี๊ด!!! แกพี่หินผาอ่อนโยนละมุนเว่อร์วังมากอ่ะแก”
“น้องคนนั้นใครวะคนที่พี่หินผาโยกหัวน่ะ ทำไมพวกเราไม่เห็นเลยวะ”
ทันทีที่หินผายิ้มและเล่นกับวาริก็เกิดเสียงซุบซิบตามขึ้นมาอีกระลอกทันที ไม่ใช่ว่าพวกเค้าจะไม่ได้ยินแต่เรียกว่าชินกันแล้วจะดีกว่า จะห่วงก็แต่น้องใหม่ของกลุ่มนี่แหละที่ต้องรับมือหนักหน่อยเพราะหินผานี่ก็หลัวแห่งชาติพอๆกันกับวายุเลย
“ตัวเล็กกินอะไรดีครับ” เมื่อได้โต๊ะแล้วทั้งหมดก็แยกย้ายกันไปสั่งข้าวจะเหลือก็แต่วายุ สายน้ำ หินผาแล้วก็วาริ
“อืมม เอาเส้นเล็กเย็นตาโฟก็แล้วกันครับน้องอยากกิน” สายน้ำพูดพร้อมกับส่งยิ้มไปให้
“ครับ งั้นรอแป๊บหนึ่งนะครับ” วายุยกมือขึ้นลูบผมน้องพร้อมกับยิ้มให้บางๆก่อนที่จะเดินออกไป
“น้องวากินอะไรดีครับ” หินผาเองก็หันมาถามวาริที่นั่งมองวายุและสายน้ำอยู่
“อ๋อ เอ่อ วากินแบบเดียวกับพี่ผาก็ได้ครับจะได้เหมือนกัน” จากนั้นหินผาก็เดินไปต่อแถวร้านก๋วยเตี๋ยวร้านเดียวกันกับที่วายุยืนต่อแถวอยู่ก่อนแล้ว
“น้องวาเป็นคนที่ไหนเหรอครับ” ทันทีที่หินผาเดินออกไปแล้วสายน้ำก็เริ่มชวนน้องคุยทันทีเพราะกลัวว่าน้องจะเกร็งมากไปกว่านี้ เค้านึกถึงตัวเองที่เข้ามาปี 1 ใหม่ๆขนาดมีพี่ชายอยู่ด้วยเค้ายังรู้สึกเกร็งและกดดันไปหมดแต่นี่น้องมาคนเดียวก็คงจะรู้สึกแย่ยิ่งกว่าเค้าในตอนนั้นเป็นแน่
“วาเป็นคนเชียงใหม่ครับ” วาริตอบสายน้ำด้วยสายตาที่ชื่นชมในตัวรุ่นพี่คนนี้ เพราะตั้งแต่ที่เค้าไปนั่งด้วยที่ฝ่ายปฐมพยาบาลสายน้ำก็ไม่เคยทิ้งให้เค้าต้องนั่งเหงาอยู่คนเดียวได้นานเลย เค้าคิดว่าตัวเองนั้นโชคดีมากๆที่เจอะเจอคนดีๆอย่างหินผาและรุ่นพี่กลุ่มนี้ตั้งแต่วันแรกที่เค้าเข้ามาเหยียบที่นี่เลย
“อ้าวแล้วอย่างนี้น้องวาพักที่ไหนกับใครล่ะครับ แล้วที่พักนี่ไกลจากมหา'ลัยมากรึเปล่าครับ” สายน้ำถามกลับด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียดขึ้นมาทันที
“วาพักอยู่คอนโดคนเดียวน่ะครับ พ่อกับแม่วาหาเช่าไว้ให้ครับ แล้วก็ไม่ได้ไกลจากมหา'ลัยมากเท่าไหร่ครับประมาณ 4 ป้ายรถเมล์น่าจะได้ครับ” วาริตอบสายน้ำไปตามความจริง
“ตัวเล็กเป็นอะไรไปครับ ทำไมทำหน้าแบบนั้นครับ” วายุที่เดินถือชามก๋วยเตี๋ยวมาพร้อมกับหินผาถามขึ้นเมื่อเห็นคิ้วของคนรักขมวดเข้าหาจนแทบจะชนกัน
“ก็น้องวาน่ะสิครับเป็นคนเชียงใหม่ แถมตอนนี้ยังพักอยู่ที่คอนโดคนเดียวด้วย แล้วไหนจะเท้าที่ยังเจ็บอยู่นี่อีก น้องเป็นห่วงน้องวาครับ” สายน้ำตอบกลับไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เค้าทั้งสงสารและเห็นใจน้อง ไหนจะจากบ้านมาตั้งไกลขนาดนี้แล้วยังต้องมาอยู่ตัวคนเดียวอีกด้วยถ้าเป็นเค้าคงจะต้องนอนร้องไห้ทุกคืนเป็นแน่ ส่วนวายุนั้นได้แต่หันไปสบตากับเพื่อนตัวเอง
หินผาที่นั่งฟังน้องชายพูดก็อดคิดมากไม่ได้ เค้าไม่ยอมให้น้องต้องอยู่คนเดียวแน่
“ห้องที่น้องวาอยู่ซื้อหรือว่าเช่าครับ” หินผาหันไปถามวาริ
“คุณพ่อกับคุณแม่เช่าให้วาก่อนหน้าที่จะมาได้ 2 อาทิตย์ครับ” วาริหันไปตอบหินผาแบบงงๆ
“เอาอย่างนี้มั้ยครับพี่มีห้องว่างอยู่แล้วก็อยู่คอนโดเดียวกันกับสายน้ำด้วย น้องวาย้ายไปเช่าห้องพี่ดีมั้ยครับจะได้มีเพื่อน เพราะพวกพี่ทั้งหมดก็อยู่คอนโดเดียวกันหมดเลย” หินผาพยายามพูดเกลี้ยกล่อมน้องพร้อมกับส่งสายตาไปให้น้องชาย
“นะครับน้องวานะๆ อยู่คนเดียวพี่เป็นห่วงแย่เลย” สายน้ำพูดพร้อมส่งสายตาอ้อนวอนไปให้กับวาริ
“แต่ว่าพวกพี่ยังไม่รู้จักวาดีเลยนะครับ อยู่ๆจะให้วาไปอยู่ด้วยได้ยังไง แล้วอีกอย่างพี่ผาไม่ได้อยู่ที่ห้องเหรอครับ” วาริพูดตามความคิดของตัวเองแล้วหันไปถามหินผาประโยคหลัง
“ก็พี่บอกอยู่นี่ไงครับว่าห้องว่าง แต่ถ้าน้องวาไม่สบายใจหรือไม่สนิทใจกับพวกพี่ก็รอดูอีกสักพักหนึ่งก็ได้นะครับ” หินผากลัวว่าจะเป็นการเร่งรัดน้องจนเกินไปจึงยอมถอยให้น้องได้มีเวลาตัดสินใจ
“ปะ เปล่านะครับ ไม่ใช่ว่าวาไม่ไว้ใจพวกพี่นะครับ แต่ว่าวาเกรงใจน่ะครับ เราเพิ่งจะรู้จักกันเองวากลัวว่าจะทำให้พวกพี่เดือดร้อนกันมากกว่า” วาริพูดพร้อมกับไล่มองหน้าทุกคนที่กำลังมองมาที่เค้าเป็นตาเดียวจะยกเว้นก็แต่วายุที่เค้าไม่กล้าแม้แต่จะเฉียดสายตาเข้าไปใกล้
“น้องวาไม่ต้องเกรงใจหรอกครับแฟนเอ๊ยว่าที่แฟนไอ้ผาก็เหมือนกับน้องพวกพี่นั่นแหละครับ อีกอย่างน้องวาตัวคนเดียวบ้านก็ไกลหากเกิดอะไรขึ้นมาจะทำยังไงครับ” ไฟที่เห็นน้องทำท่าลำบากใจก็ช่วยพูดอีกแรง
“งะ งั้นวาขอถามพ่อกับแม่ก่อนได้มั้ยครับ ไหนจะค่าเงินประกันอีก วาเสียดายน่ะครับไม่ใช่น้อยๆเลย” วาริพอเห็นว่าพี่ๆต่างก็ยินดีที่จะให้เค้าไปอยู่คอนโดเดียวกันก็สบายใจขึ้น ถ้าถามว่าเค้าอยากไปอยู่ด้วยมั้ยเค้าสามารถตอบได้เลยว่าอยากไปอยู่ด้วยมาก เพราะตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่เค้าต้องใช้ชีวิตคนเดียวอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมทำให้เค้านั้นเหงามากบางคืนก็นอนร้องไห้เพราะคิดถึงบ้าน เค้ายังคิดอยู่ว่านี่เค้าคิดถูกหรือคิดผิดที่มาเรียนไกลบ้านแบบนี้
“งั้นก็เอาแบบนี้น้องวาริก็ย้ายไปอยู่ห้องไอ้ผาก่อน แต่ก็ยังไม่ต้องคืนห้องจนกว่าจะครบกำหนดเงินประกัน แล้วก็ยังไม่ต้องจ่ายค่าเช่าห้องให้ไอ้ผามันจนกว่าจะได้เงินประกันคืนเหมือนกัน” เป็นไฟที่ยื่นข้อเสนอให้
“เออว่ะ มึงนี่สุดยอดเลยว่ะไอ้ไฟมึงคิดได้ยังไงวะ ขนาดฉลาดๆแบบกูยังคิดไม่ได้เลย” เหนือเอ่ยชมเพื่อนตัวเองแต่ก็ยังไม่วายชมตัวเองอยู่ดี
“แต่ว่าถ้าอย่างนั้นพี่ผาก็ขาดทุนน่ะสิครับ” วาริหันไปมองหน้าหินผาที่นั่งยิ้มอยู่แบบไม่ทุกข์ไม่ร้อนเลยที่ตัวเองจะไม่ได้ค่าเช่าห้องจากเค้า
“ไม่เป็นไรหรอกครับน้องวา น้องวาก็ทำความสะอาดห้องแทนค่าเช่าไปก่อนก็แล้วกันนะครับ แค่นี้เองจิ๊บๆขนหน้าแข้งพี่ผาไม่ร่วงหรอกอีกอย่างพี่ผาก็ซื้อคอนโดนี้ไว้แล้วไม่ได้เช่าเหมือนของน้องวา ส่วนเรื่องพ่อกับแม่ของน้องวาเดี๋ยวเย็นนี้พี่จะให้น้องวาวีดีโอคอลคุยกับท่านแล้วพี่ก็จะเป็นคนขออนุญาตท่านให้เอง พอท่านอนุญาตแล้วน้องวาก็ขนของไปอยู่กับพี่ผาเอ๊ยห้องพี่ผาได้เลย โอเคตามนี้นะครับ” สายน้ำพูดเออออเองเสร็จสรรพ พร้อมกับก้มหน้ากินก๋วยเตี๋ยวแบบไม่สนใจใครอีกเลย ส่วนวารินั้นได้แต่นั่งทบทวนคำพูดของสายน้ำแบบงงๆซึ่งเรียกรอยยิ้มให้กับรุ่นพี่ได้ดีทีเดียว
Comments (0)