47 ตอน สัญญาพี่น้อง
โดย Beloved_Moouan
แสงแดดยามเช้าสาดส่องลอดผ่านช่องผ้าม่านเข้ามากระทบกับดวงตาคู่สวย เบลได้แต่ยกมือขึ้นเพื่อบดบังแสงอาทิตย์ที่ตกลงมากระทบกับดวงตาของเธอเข้าพอดี เธอขยับตัวเล็กน้อยเพื่อหลบเลี่ยงแสงแดดยามเช้าแต่ก็ขยับได้ไม่มากนัก นั่นเป็นเพราะตัวของเธอถูกกอดรัดเอาไว้ด้วยอ้อมแขนแกร่งของใครบางคน
เบลเงยหน้าขึ้นไปมองผู้ชายที่มีหน้าตาหล่อคมตรงหน้า เธอตกหลุมรักเหนือตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็น ตอนที่เธอเห็นเหนือครั้งแรกคือตอนที่เธอกำลังจะเดินไปลงทะเบียนพร้อมกับอิฐในวันแรกของการเปิดเทอม วันนั้นในขณะที่เธอมองสำรวจไปรอบๆตัวนั้น สายตาของเธอก็ไปสะดุดอยู่กับผู้ชายอยู่คนหนึ่งที่กำลังก้าวลงมาจากรถ ผู้ชายคนนั้นมีรูปร่างสูงเพรียวตัวไม่หนาและไม่บางจนเกินไป ผิวขาว คิ้วหนาเข้ม ใบหน้าคม จมูกโด่งรับกับใบหน้า ปากหยักได้รูปสีชมพูอ่อน เบลมองค้างอยู่แบบนั้นอยู่นานจนอิฐถึงกับต้องกึ่งลากกึ่งจูงไปลงทะเบียน
จากนั้นอีกไม่กี่วันเธอก็ได้รู้จักกับสายน้ำและได้มารู้จักกับกลุ่มของเหนืออีกทีเมื่อพี่ชายของเพื่อนใหม่ของเธออยู่กลุ่มเดียวกันกับผู้ชายที่เป็นรักแรกของเธอ เธอเก็บความรู้สึกแบบนั้นมาโดยตลอดแม้กระทั่งอิฐเองเธอก็ไม่ได้บอกให้รู้ ทุกครั้งที่เธอต้องพบกับกลุ่มของเหนือเธอก็จะพยายามทำตัวให้เป็นธรรมชาติที่สุด เก็บกดอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองไว้ข้างใน มันเจ็บทุกครั้งที่เห็นผู้ชายคนนี้ไปกับคนอื่นต่อหน้าต่อตา เธอพยายามอยู่หลายครั้งเพื่อที่จะตัดใจ แต่ก็ไม่มีสักครั้งที่เธอทำมันสำเร็จ
เบลนอนมองเหนืออยู่นาน นิ้วมือเรียวสวยลูบไล้ไปตามกรอบหน้าคมเข้มของคนที่ยังนอนหลับอยู่ เธอดีใจอย่างบอกไม่ถูกที่วันนี้มีผู้ชายคนนี้มานอนกอดอยู่ข้างๆตัว เธอไม่สามารถล่วงรู้อนาคตได้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไรรู้แต่ว่าวันนี้และตอนนี้เธอมีความสุขและจะขอตักตวงความสุขนี้ไว้ให้ได้มากที่สุด
เบลกระชับกอดและซุกหน้าจมหายเข้าไปกับอกแกร่งพร้อมกับหลับตาลงด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม
จุ๊บ!
“ตื่นแล้วเหรอคะคนดี” เหนือจูบเข้ากับกลุ่มผมนุ่มของอีกคนที่กำลังซุกหน้าอยู่กับอกของตัวเอง
เบลได้แต่ส่ายหน้าไปมาด้วยความเขิน เพราะเมื่อนึกถึงภาพเมื่อคืนทีไรก็ยิ่งทำให้เธอเขินมากขึ้นทุกครั้งที่คิดถึงมัน จนเธอเองไม่กล้าที่จะสบสายตากับผู้ชายตรงหน้า
“หึๆ ยังไม่ตื่นแล้วตอบได้ยังไงคะ หืม ฟอด!” เหนือได้แต่หัวเราะกับการกระทำของเมียป้ายแดงหมาดๆของเค้า เค้ารู้สึกตัวตั้งแต่เช้าแล้วพร้อมทั้งไลน์ไปบอกเพื่อนๆและน้องในกลุ่มแล้วด้วยว่าเบลหยุดเพราะไม่ค่อยสบายและเค้าก็จะอยู่ดูแลเอง ไอ้เพื่อนๆตัวดีก็ตอบกลับเข้ามาในไลน์อีกกลุ่มที่ไม่ใช่กลุ่มรวม ถามว่าเมื่อคืนนี้เค้าทำอะไรน้องน้องถึงได้ไม่สบาย เค้าก็ได้แต่ส่งสติ๊กเกอร์ยักไหล่กลับไปให้ เพราะเป็นที่รู้ๆกันว่าเค้ากับเบลแทบจะไม่เคยนอนห้องเดียวกันเลยจะมีอิฐที่คอยเป็นไม้กันหมาให้กับเบลตลอดเวลา แต่เมื่อคืนไอ้เดือนมหา'ลัยตัวดีดันเสือกเมา เค้าก็เลยถือโอกาสนี้แกล้งเมาเพื่อที่จะได้ใกล้ชิดกับน้องให้มากกว่าเดิม ตอนแรกกะจะแค่นอนกอดเฉยแต่พอได้กลิ่นตัวหอมๆของอีกคนเข้าไปอารมณ์มันก็เลยพาเตลิดไปจนกู่ไม่กลับ บวกกับน้องที่ไม่มีทีท่าว่ารังเกียจหรือขัดขืนเค้าก็ยิ่งได้ใจใหญ่
“ไหนเงยหน้ามาคุยกับพี่สิคะ ว่ายังเจ็บอยู่รึเปล่า” เหนือพูดพร้อมกับขยับตัวออกเล็กน้อยและใช้มือเชยคางคนที่บอกว่ายังไม่ตื่นขึ้นมา
“ว่ายังไงคะยังเจ็บอยู่รึเปล่า” เหนือถามย้ำอีกทีเมื่อเห็นว่าคนถูกถามเอาแต่ก้มหน้างุดและเขินจนหน้าแดงอยู่อย่างนั้น
“ใครเค้าถามเรื่องแบบนี้กันเล่า เบลก็อายเป็นเหมือนกันนะ” เบลตอบพร้อมกับพยายามซุกหน้าหนีความเขินอายอีกครั้ง
“ไม่ต้องอายหรอกค่ะ พี่อยากรู้ว่าหนูยังเจ็บอยู่มั้ยพี่จะได้สบายใจแล้วก็ขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้หนูเจ็บ ไหนพี่ขอดูหน่อยดีกว่าว่ามันยังบวมอยู่รึเปล่า” เหนือพูดจบก็ลุกขึ้นทันทีพร้อมกับคลานไปนั่งอยู่ตรงปลายเท้าของเบลและจับข้อเท้าของเธอไว้
“ว๊าย!! พี่เหนือจะทำอะไรคะ ไม่เอานะเบลอาย แล้วมันก็สกปรกด้วย” เบลพูดพร้อมกับขยับตัวหนีและพยายามดึงข้อเท้าของตัวเองให้หลุดจากการจับกุมของมือใหญ่
“ไม่ต้องอายค่ะ พี่เคยเห็นเคยสัมผัสเคยเห็นมาแล้วพี่อยากดูให้แน่ใจว่าหนูไม่เป็นอะไรแล้วจริงๆ แต่ถ้าหนูอายหนูก็หลับตาไว้ก็ได้นะคะ” เหนือพูดบอกพร้อมกับดึงข้อเท้าเบลให้เข้ามาใกล้ตัวเอง
“พะ พี่เหนือคะ งะ งั้นเบลของอาบน้ำก่อนได้มั้ยคะ เผื่อจะได้ทายาทีเดียว” เบลที่พยายามจะหาทางออกให้กับตัวเองก็รีบยื่นข้อเสนอที่คิดได้ในตอนนี้ออกไปทันที
“อือ เอาอย่างนั้นก็ได้ค่ะ งั้นเดี๋ยวพี่อาบน้ำให้หนูนะคะ”
“มะ ไม่เป็นไรค่ะ เบลอาบเองได้ค่ะเดี๋ยวเบลขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ” พูดจบเบลก็รีบกระโดดลงจากเตียงไปทันทีที่เหนือปล่อยมือจากข้อเท้าของเธอ
“หึๆ ตัวแสบ” เหนือได้แต่ยิ้มตามหลังของคนรักไป
แกร๊ก!!!
ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงเบลก็ค่อยๆโผล่หน้าออกมาจากห้องน้ำเพื่อมองหาเหนือโดยมีผ้าขนหนูห่อหุ้มร่างบางไว้แค่ผืนเดียว เพราะเธอรีบจึงลืมคิดไปว่าเสื้อผ้าของเธออยู่อีกห้อง
“หนูทำอะไรคะ มองหาพี่เหรอคะ” เหนือถามขึ้นยิ้มๆเมื่อเค้ามายืนรอเบลอยู่หน้าห้องน้ำนานแล้วแต่ที่เบลไม่เห็นเพราะว่าเธอมัวแต่มองไปอีกทางที่เป็นเตียงนอน
“พะ พี่เหนือ เอ่อคือเบล คือว่า...อ๋อ เบลจะไปเอาเสื้อผ้าห้องนู้นน่ะค่ะ เดี๋ยวเบลมานะคะ”
หมับ!!
“ไม่ต้องหรอกค่ะพี่เอามาให้แล้ว มาค่ะมาให้พี่ดูดีกว่าว่าหายบวมรึยังและจะต้องทายาอีกรึเปล่า” เหนือพูดพร้อมกับจับจูงมือเบลไปที่เตียงนอน ส่วนเบลก็พยายามฝืนตัวเอาไว้อีกมือหนึ่งก็กุมผ้าเช็ดตัวไว้ด้วยกลัวว่ามันจะหลุด
“พี่เหนือไม่ดูได้มั้ยคะ แค่นี้เบลก็อายจะแย่แล้วที่ยอมพี่เหนือ เบลอายที่เบลเป็นผู้หญิงใจง่ายไม่รักนวลสงวนตัว” เบลพูดขึ้นพร้อมกับน้ำตาที่เริ่มไหลลงมาที่แก้มนวลใส
“ชู่ววว ไม่ร้องนะคนดีของพี่ ฟังพี่นะคะ หนูไม่ใช่ผู้หญิงใจง่ายเบลเป็นของขวัญที่มีค่ามากที่สุดสำหรับพี่ ที่เราเป็นของกันและกันนั่นเกิดขึ้นจากความรักไม่ใช่จากความใคร่ พี่รักหนูแล้วหนูก็รักพี่ พี่จะรับผิดชอบทุกอย่างที่พี่ได้ทำลงไป พี่จะไม่มีวันทอดทิ้งหนูไปไหนเป็นอันขาดพี่ขอสัญญา ไม่ร้องนะคะคนดี จุ๊บ!” เหนือดึงเบลเข้ามากอดและจูบลงที่หน้าผากเพื่อปลอบพร้อมกับลูบหัวไปด้วย
“ปิดเทอมนี้เราหมั้นกันไว้ก่อนนะคะ พี่อยากทำอะไรให้มันถูกต้องมากกว่านี้ พี่อยากให้หนูสบายใจและมั่นใจในตัวพี่ว่าพี่จะไม่มีวันเปลี่ยนใจไปจากหนู นะคะ” เบลได้แต่ยิ้มและพยักหน้าอยู่ในอ้อมกอดของเหนือ เธอเลือกรักคนไม่ผิดจริงๆสินะ
.............................................
“เย้ๆๆ สอบเสร็จแล้ว สอบเสร็จแล้ว สอบเสร็จแล้ว” เมื่อออกจากห้องสอบ เบลที่ออกมามีหลังเพื่อนก็วิ่งไปกอดคนนู้นทีคนนั้นด้วยความดีใจ พร้อมทั้งกระโดดโลดเต้นนำหน้าเพื่อนๆไป เรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนได้เป็นอย่างดี
“มันจะต้องดีใจขนาดนั้นเลยเหรอเบล ฮ่าๆๆ” ออกัสถามขึ้นยิ้มๆและอดขำกับท่าทางของเพื่อนสาวไม่ได้
“ก็ต้องดีใจสิกัส เราจะได้ไปเที่ยวที่ไร่ชากับสวนส้มของน้องวาริกันสักทีไง” เบลหันมาตอบเพื่อนยิ้มๆ
“ใช่เหร๊ออ ไม่ใช่ว่าพอปิดเทอมแล้วจะได้หมั้นกับพี่เหนือหรอกเหรอที่ทำให้เบลดีใจได้มากขนาดนี้” สายน้ำพูดล้อเพื่อนขึ้นยิ้มๆเพราะพอปิดเทอมได้แค่หนึ่งอาทิตย์ก็จะเป็นงานหมั้นของเหนือกับเบลแล้ว จากนั้นอาทิตย์ต่อมาพวกเค้าก็จะไปเที่ยวที่ไร่ชาและสวนส้มของวาริที่บ้านที่เชียงใหม่กัน
“น้ำทำไมเป็นคนแบบนี้เนี่ยห๊ะ มานี่เลยมาให้เบลตีซะดีๆเลยนะ” เบลพูดพร้อมทำท่าและเดินเข้าไปหาสายน้ำ
"อิฐช่วยน้ำด้วยเบลจะตีน้ำ" สายน้ำวิ่งหนีไปหลบอยู่ข้างหลังอิฐ อิฐก็ได้แต่หัวเราะเอ็นดูเพื่อนตัวเล็กของเค้าที่ยังเล่นอะไรเหมือนเด็กๆ
“อ๊าาา!!!! พี่กายช่วยน้องด้วยคร้าบบบ” สายน้ำที่วิ่งหนีเบลลงมาจากตึกเรียนพอมองเห็นคนรักนั่งมองมาทางเค้าอยู่ไกลๆก็รีบร้องตะโกนให้ช่วยทันที โดยมีเบลวิ่งไล่ตามหลังมาติดๆ
หมับ! อึก!
“เล่นอะไรกันครับตัวแสบ แล้ววิ่งทำไมครับเดี๋ยวก็ล้มได้แผลขึ้นมาอีก” วายุลุกขึ้นไปรับคนตัวเล็กของเค้าทันทีที่ได้ยินน้องเรียกให้ช่วย พร้อมกับกางแขนออกเพื่อรอรับแรงกระแทกจากคนที่วิ่งมา นิ้วมือเรียวยาวยกขึ้นมาเช็ดเม็ดเหงื่อที่ซึมออกมาตามขมับของคนตัวเล็กที่ตอนนี้ยืนหอบหน้าแดงอยู่
“ก็เบลน่ะสิจะตีน้องอ่ะ” สายน้ำพูดฟ้องขึ้นทันที
“แล้วตัวเล็กไปทำอะไรไว้ครับ เบลถึงต้องไล่ตีตัวเล็กมาแบบนี้ หืมม” วายุพูดพร้อมกับจูงมือน้องมานั่งบนตักที่เดิมที่เค้าลุกมา
“แหะๆ ก็...น้องแค่ล้อเรื่องที่เบลดีใจที่กำลังจะได้หมั้นกับพี่เหนือนิดหน่อยเองครับ” สายน้ำพูดพร้อมกับทำมือประกอบ
“หึๆ ตัวแสบ ฟอด!” วายุยกยิ้มขึ้นมาพร้อมกับยื่นหน้าไปหอมแก้มนุ่มของคนรักด้วยความมันเขี้ยว
ส่วนเบลนั้นก็ยืนฟ้องเหนืออยู่เหมือนกัน เหนือเลยปลอบใจด้วยการหอมแก้มไปฟอดใหญ่
“แล้วนี่พี่ผาไปไหนเหรอครับน้องยังไม่เห็นเลย” สายน้ำถามหาพี่ชายเพราะตั้งแต่ลงมาเค้ายังไม่เห็นหินผาเลย
“มันจะไปไหนได้ล่ะครับน้องน้ำนอกจากไปรอรับน้องวาริอยู่หน้าห้องสอบตามเคยนั่นแหละครับ” เหนือที่กำลังคุยกับเบลอยู่หันมาตอบ
ตอนนี้วาริย้ายมาอยู่กับหินผาได้ 4 เดือนกว่าแล้ว ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันหินผาให้เกียรติวาริมากไม่ได้เคยทำอะไรให้น้องไม่สบายใจเลย จะมีบ้างที่ตอดเล็กตอดน้อยและฉวยโอกาสหอมแก้มน้องบ้างเวลาที่น้องเผลอหรือไม่ทันได้ตั้งตัวตามประสาคนอดใจไม่ไหวเมื่อเห็นน้องทำตัวน่ารัก หินผายังไม่ได้ขอวาริเป็นแฟนสักที เพราะเจ้าตัวกะเอาไว้ว่าจะขอน้องเป็นแฟนวันที่น้องสอบเสร็จ นั่นก็คือวันนี้นั่นเอง
“นั่นไงพูดถึงก็มาเลยตายยากฉิบหายเลย” ไฟพูดขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนตัวเองเดินยิ้มและคุยมากับน้องวาริและเพื่อนๆอีก 2 คน
วาริมีเพื่อนในกลุ่มด้วยกัน 2 คนคือ ขนมพายและนัท ขนมพายนั้นมีหน้าตาที่จะเรียกว่าหล่อก็หล่อแต่พอมองอีกทีจะว่าน่ารักก็น่ารักและสูงกว่าวารินิดหน่อย รูปร่างเพรียวบาง ส่วนนัทนั้นรูปร่างสูงใหญ่พอๆกันกับอิฐและกลุ่มพี่ๆ แถมยังพ่วงด้วยตำแหน่งเดือนมหา'ลัยปีล่าสุดอีกด้วย ยิ่งเพิ่มความเด่นให้กับกลุ่มนี้เข้าไปกันใหญ่
"เป็นยังไงบ้างครับทำข้อสอบกันได้มั้ย" พอวาริและเพื่อนๆเดินมาถึงสายน้ำก็ถามขึ้นทันที
"คิดว่าทำได้นะครับ ต้องขอบคุณพวกพี่ๆด้วยนะครับที่ช่วยกันติวให้พวกผมทั้งสามคน" วาริตอบสายน้ำพร้อมกับส่งยิ้มมาให้
"แล้วนี่น้องวาจะกลับบ้านวันไหนครับ หรือว่ารอกลับพร้อมพวกพี่เลย" ดินถามวาริขึ้น
"อืมมม วาว่าจะกลับพร้อมกับพี่ๆเลยครับจะได้อยู่งานหมั้นของพี่เหนือกับพี่เบลด้วย"
"งั้นพี่จัดการจองตั๋วเลยนะครับ น้องพายกับนัทไปด้วยกันใช่มั้ย" หินผาหันมาถามเพื่อนน้องอีก 2 คนที่นั่งฟังพวกเขาคุยกันอยู่
"ไปครับไป ผมไปด้วย นัทก็ไปด้วยครับ" ขนมพายรีบตอบหินผาทันทีเพราะกลัวว่าตัวเองจะไม่ได้ไปเที่ยวด้วย
"แล้วนี่เราจะไปกันสักกี่วันดีครับ เพราะพี่ๆต้องกลับมาเตรียมตัวฝึกงานกันด้วยใช่รึเปล่าครับ" ออกัสถามขึ้น เพราะพี่ๆทุกคนก็ขึ้นปี 4 กันแล้วและจะต้องฝึกงานและทำโปรเจคจบกันด้วย
"ไม่ต้องรีบกลับก็ได้ครับอยู่เที่ยวกันหลายๆวันก็ได้ เพราะพวกพี่ต่างก็ฝึกงานที่บริษัทของตัวเองกันทั้งนั้น อีกอย่างเอกสารพวกพี่ก็ยื่นกันไปตั้งนานแล้วด้วย" ไฟพูดพร้อมกับจับหัวออกัสโยกด้วยความเอ็นดูที่น้องยังมีกะจิตกะใจห่วงพวกเค้าอยู่ ไม่ได้คิดแต่จะเที่ยวอย่างเดียว
"เย้! งั้นก็ดีเลยครับ งั้นเราอยู่กันสักอาทิตย์หนึ่งนะครับ น้ำมีที่อยากไปเยอะเลย" สายน้ำชูแขนขึ้นทั้งสองข้างพร้อมกันแสดงความดีใจที่จะได้ไปเที่ยวหลายวัน
"หึๆ ดีใจขนาดนั้นเลยเหรอครับ" หินผาหันไปถามน้องชายตัวเองที่แสดงอาการดีใจอย่างออกหน้าออกตา
"ก็ต้องดีใจสิครับนานๆได้ไปเที่ยวที จะให้พี่กายพาไปพี่กายก็ติดงานไม่ว่างพาไป แต่พอจะให้พี่ผาพาไปช่วงนี้พี่ผาก็ไม่ค่อยจะสนใจน้องสักเท่าไหร่เลยนี่ครับพี่ผาคงลืมน้องไปแล้ว" สายน้ำพูดพร้อมกับกะพริบตาถี่ๆและน้ำเสียงที่สั่นเล็กน้อยในตอนท้าย เพราะน้อยใจพี่ชายตัวเอง ที่ตั้งแต่มีวาริพี่ชายเค้าก็แทบจะไม่สนใจเค้าเลย ไม่ใช่ว่าเค้าจะอิจฉาหรือโกรธวาริหรอกนะ แต่เค้าโกรธและน้อยใจพี่ชายตัวเองมากกว่า ทั้งๆที่สัญญากันไว้แล้วแท้ๆว่าถ้าต่างคนต่างมีแฟนก็จะยังคงปฏิบัติตัวกันเหมือนเดิม ตอนที่เค้ามีวายุเค้าก็ยังไม่เคยทิ้งให้พี่ชายต้องเหงาหรือต้องอยู่คนเดียวเลย
หินผาได้แต่นิ่งอึ้งไปชั่วขณะที่ได้ยินประโยคที่น้องพูด และยิ่งได้ยินน้ำเสียงสั่นๆของน้องก็ยิ่งปวดใจ ใช่เค้าลืมไปเลยว่าที่ผ่านตัวเองไม่ค่อยจะสนใจน้องเลย แม้กระทั่งวันหยุดที่น้องชวนไปเที่ยวไปทานข้าวหรือกลับไปนอนค้างที่บ้านด้วยกันเค้าก็ยังปฏิเสธออกไปทันที เพราะมัวแต่คิดที่จะทำคะแนนจีบวาริอย่างเดียว จนลืมสนใจความรู้สึกของแก้วตาดวงใจดวงนี้ของเค้าไปเลย ทั้งๆที่สัญญากันไว้แล้วแท้ๆ
"พี่กายครับ น้องหิวข้าวแล้วครับไปกินข้าวกัน" สายน้ำเมื่อพูดจบก็เปลี่ยนเรื่องหันไปหาคนรักทันที
"ครับๆ ไปกินข้าวกันครับ" วายุที่เห็นอารมณ์ของน้องในตอนนี้ก็รีบตอบรับทันที
"งานเข้าแล้วมึงไอ้ผา" เหนือพูดขึ้นทันทีที่วายุจับจูงมือสายน้ำเดินออกไป
"เอ่อ..พี่ผาครับ" วาริหันมามองหน้าหินผาและเรียกขึ้น เมื่อเห็นหน้าของคนข้างๆนั้นไม่ค่อยจะสู้ดีเท่าไหร่นัก
"เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับน้องวาหรอกนะครับ พี่ผิดเองที่ลืมสัญญาที่ให้ไว้กับน้องน้ำ พี่มัวแต่สนใจตัวเองมากไปหน่อยทั้งๆที่น้องวาก็อยู่ตรงนี้ไม่ได้หนีพี่ไปไหน น้องวาไม่ต้องคิดมากนะครับ" หินผาพูดขึ้นเมื่อเห็นวาริทำหน้าไม่สบายใจ
"น้องวามานั่งนี่ครับมาพี่ซื้อข้าวมาเผื่อแล้ว" เมื่อทุกคนเดินมาที่โรงอาหารก็เห็นวายุและสายน้ำนั่งกินข้าวกันอยู่ก่อนแล้ว ทันทีที่สายน้ำเห็นวาริเดินเข้ามาก็รีบขวักมือเรียกพร้อมกับตบที่นั่งข้างๆของตัวเองให้วาริเข้ามานั่งด้วยทันที
วาริมีท่าทางอึกอักเล็กน้อยแต่เมื่อหันไปมองหน้าหินผา หินผาก็พยักหน้าให้เข้าไปนั่ง เจ้าตัวจึงเดินเข้าไปนั่งข้างๆรุ่นพี่หน้าหวาน
"น้องวาไม่ต้องคิดมากนะครับ พี่ไม่เคยคิดโกรธหรือโทษน้องวาเลยนะครับ ที่พี่พูดกับพี่ผาไปแบบนั้นก็เพื่อเตือนสติให้กับพี่ผาได้รู้ตัวเท่านั้นเอง เพราะไม่ใช่ว่าพอคนเรามีแฟนแล้วจะต้องละทิ้งทุกอย่างหรือตัดขาดจากทุกคน อีกอย่างมันเป็นสัญญาพี่น้องระหว่างพี่กับพี่ผาน่ะครับ" เมื่อทุกคนแยกย้ายกันไปซื้อข้าวกันแล้ว สายน้ำจึงพูดกับวาริยิ้มๆเพราะเค้าต้องอธิบายให้น้องฟังด้วยเพราะกลัวว่าน้องจะคิดมากและโทษตัวเอง
วาริเมื่อได้ฟังคำพูดบอกของสายน้ำก็ทำให้สบายใจขึ้นมาเยอะเลยทีเดียว รุ่นพี่คนนี้ถึงภายนอกจะดูเป็นเด็กแต่พอเอาเข้าจริงๆแล้ว ความคิดความอ่านและเหตุผลกลับโตมากทีเดียว
"น้องน้ำครับพี่ซื้อโกโก้เย็นมาฝากครับ" ผ่านไปสักพักหินผาก็เดินถือจานข้าวมาพร้อมกับโกโก้เย็นในมือสองแก้ว
ทุกคนต่างพากันนั่งยิ้มกับแผนง้อน้องชายสุดที่รักของหินผา
"พี่กายจ๋า วันนี้น้องอยากกินมัคคิอาโต้จังเลยครับเดี๋ยวถ้าเรากินข้าวกันเสร็จแล้วพี่กายพาน้องไปซื้อทีนะครับ" สายน้ำหันไปพูดกับวายุทันทีที่หินผานำแก้วโกโก้มาวางไว้ตรงหน้า
หินผาถึงกับหน้าจ๋อยลงทันทีที่รู้ว่าโดนน้องชายโกรธเข้าให้แล้ว สายน้ำเป็นคนที่ไม่ชอบโวยวายมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่ถ้าเวลาโกรธน้องจะนิ่งเงียบและไม่สนใจเลยทันที
Comments (0)