24 ตอน สติที่ดับลง
โดย Beloved_Moouan
"ว้าวววว....สวยมากเลยกัส เบล อิฐดูดิ รีสอร์ตก็สวยน้ำทะเลก็ใส น้ำไม่ได้มาทะเลตั้งนานแล้ว ฮือ!! อยากเล่นน้ำ" ทันทีที่ลงจากรถได้สายน้ำก็วิ่งตรงไปยังทะเลพร้อมกับถอดรองเท้าถุงเท้าออกแบบลืมไปเลยว่าตัวเองนั้นมารับน้อง
หมับ!!!!
"เหวอออออ!!!"
ทันทีที่สายน้ำกำลังจะเอาเท้าแตะน้ำทะเลก็โดนแขนแกร่งของวายุอุ้มเอาไว้ด้วยแขนข้างเดียวจนตัวของสายน้ำนั้นลอยอยู่ในท่าบิน
"ฮ่าๆๆๆๆๆ" เพื่อนๆพี่ๆที่อยู่บริเวณรอบๆรวมทั้งที่กำลังทยอยลงมาจากรถบัสต่างพากันหัวเราะและยิ้มให้กับความน่ารักสดใสของสายน้ำ เพราะทุกคนนั้นเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ที่สายน้ำวิ่งไปหาน้ำทะเลโดยมีวายุเดินตามไปติดๆ นี่แหละมั้งที่ทำให้เฮดว๊ากของพวกเค้าตกหลุมรักเจ้าก้อนคนนี้
"ฮือ!! พี่กายน้องอยากเอาเท้าจุ่มน้ำทะเลครับ" สายน้ำที่ตอนนี้ถูกวายุอุ้มอยู่ในท่าเหมือนอุ้มเด็กนั้นทำหน้ายู่เหมือนเด็กโดนขัดใจไม่มีผิด
"หึๆ เอาไว้พรุ่งนี้เช้านะครับเดี๋ยวพี่พามาเดินเล่นนะ ตอนนี้เราต้องไปเข้าแถวก่อนครับเพื่อนๆรออยู่เห็นมั้ยครับ" วายุพูดพร้อมกับชี้ไปทางจุดที่นักศึกษาปี 1 กำลังทยอยมารวมแถวกัน
"หือออ....น้องขอโทษครับน้องลืมตัวอีกแล้วคงจะคิดถึงทะเลมากไปหน่อย แหะๆ" สายน้ำพูดพร้อมกับยกขึ้นเกาแก้มแก้เขิน
"ไม่เป็นไรครับ มาใส่ถุงเท้ารองเท้าก่อนครับ" วายุพาสายน้ำมานั่งตรงม้าหินใต้ร่มไม้ใกล้ๆกับจุดรวมแถว
"พี่กายทำอะไรครับ เดี๋ยวน้องทำเองครับ พี่กายแก่กว่าน้องตั้งสองปีนะ" สายน้ำรีบชักเท้าออกทันทีที่วายุนั่งคุกเข่าตรงหน้าและใช้มือปัดเท้าที่เปื้อนทรายออก แถมตอนนี้เค้ากับวายุกำลังตกเป็นเป้าสายตาของทุกคนไปแล้ว สายน้ำนะสายน้ำนี่เฮดว๊ากเชียวนะ ฮือ..
"ไม่เป็นไรครับพี่เต็มใจทำให้ตัวเล็กครับ มาเร็วเดี๋ยวจะได้ไปรวมแถวกับเพื่อนๆ" วายุพูดพร้อมกับดึงข้อเท้าเล็กมาปัดทรายให้ เค้าค่อยๆสวมใส่ถุงเท้าและรองเท้าให้คนตัวเล็กอย่างเบามือ พอวายุใส่รองเท้าให้เสร็จแล้วสายน้ำก็ไม่ลืมที่จะยกมือไหว้ขอบคุณคนพี่
ทุกการกระทำของเฮดว๊ากคนหน้าดุตกอยู่ในสายตาของทุกคนที่มองมาอย่างอึ้งๆ ไม่คิดว่าคนที่ได้รับฉายาเจ้าชายเย็นชาจะมีมุมอ่อนโยนกับเขาแบบนี้ด้วย ส่วนสายน้ำนั้นก็นิสัยดีน่ารักถึงแม้จะเป็นแฟนกันแต่พอคนพี่ใส่รองเท้าให้ก็ยังยกมือไหว้ขอบคุณ
"ตัวเล็กไปรวมแถวกับเพื่อนนะครับ เดี๋ยวพี่กับพวกไอ้ผาต้องไปตรวจดูฐานที่จะใช้เล่นช่วงบ่ายกันก่อน ส่วนกระเป๋าเดี๋ยวพี่ตามไปให้ทีหลังนะครับ" วายุพูดเสร็จก็ลูบผมน้องแล้วเดินออกไปหาเพื่อนที่ยืนรออยู่ด้วยหน้าตาล้อเลียน
สายน้ำที่เดินมารวมกลุ่มกับพวกเพื่อนๆก็ถึงกับต้องเดินก้มหน้าก้มตาหลบสายตาของทุกคนที่มองมาเช่นกัน เสียงซุบซิบนินทาตลอดทางที่สายน้ำเดินผ่านก่อนจะเดินไปถึงเพื่อนในกลุ่ม
"แกฉันอยากได้แบบพี่วายุอ่ะ อบอุ่นอ่อนโยนเว่อร์"
"แต่แกอย่าลืมเค้าอ่อนโยนกับแฟนเค้าคนเดียวนะ คนอื่นนี่โคตรโหดอ่ะ ดูอย่างในคลิปดิฉันไม่เอาด้วยหรอก"
"ต้องทำบุญด้วยอะไรอ่ะแกเฮดว๊ากหน้าดุถึงยอมให้ขนาดนั้น"
"อิจฉาอ่ะแกฉันอยากตัวเล็กตัวน้อยแบบนั้นบ้าง พี่วายุอุ้มทีนี่แทบจะลอยเลย"
"อยากเป็นพี่วายุหว่ะ ได้อุ้มคนน่ารักด้วย"
และอีกหลายๆเสียงที่ผ่านเข้ามาในหูของสายน้ำ จนเจ้าตัวนี้ไม่รู้จะเอาหน้าเอาตัวที่ไหนไปแดงแล้ว อยากจะมีระบบทำลายตัวเองได้แล้วหายตัวไปจากตรงนี้เลยด้วยซ้ำ 'พี่กายนะพี่กายทำให้เขินแล้วก็ไม่อยู่รับผิดชอบร่วมกันด้วย'
"เอาล่ะครับน้องๆเดี๋ยวพี่จะแจกคีย์การ์ดห้องพักให้นะครับ พักห้องละ 3 คน ตกลงกันเอาเองว่าใครจะนอนกับใคร พอได้คีย์การ์ดแล้วก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนนะครับ เจอกันอีกทีตอนเที่ยงที่ห้องอาหารที่เห็นเป็นบ้านเรือนไทยทางด้ายซ้ายมือ หลังจากทานข้าวกันแล้วน้องๆจะต้องลงเล่นฐานที่พวกพี่ๆจัดเตรียมไว้ให้นะครับ ใครที่ได้เพื่อนร่วมห้องครบตามจำนวนแล้วก็ส่งตัวแทนมารับคีย์การ์ดกันได้เลยนะครับ" พอดิวพูดจบน้องๆก็ทยอยกันเดินไปรับคีย์การ์ดกับรุ่นพี่ปี 2 ที่ยืนแจกกันอยู่
นักศึกษาปี 1 และปี 2 ได้ที่พักแบบที่เป็นห้อง ส่วนพี่ๆปี 3 และกลุ่มเฮดว๊ากจะพักในส่วนของวิลล่า ซึ่งที่พักทั้งหมดทางพ่อแม่ของดินคิดในราคาแค่ 50% เท่านั้น
สายน้ำ ออกัส และอิฐ พอได้คีย์การ์ดแล้วก็เดินแยกออกมาหาห้องตามเลขห้องที่ได้มา ส่วนเบลก็ได้นอนกับเพื่อนที่เรียนสาขาเดียวกัน พออิฐสแกนคีย์การ์ดเปิดประตูเรียบร้อยสายน้ำก็ถอดถุงเท้ารองเท้าและเดินเข้าห้องน้ำเพื่อล้างเท้า พอเสร็จเรียบร้อยก็กระโดดขึ้นเตียงนุ่มทันที
"หึๆ มันเหนื่อยขนาดนั้นเลยเหรอน้ำ" อิฐถามเพื่อนตัวเล็กอย่างขำๆกับท่าทางเหมือนเด็กน้อย ยิ่งได้รู้จักยิ่งสนิทสายน้ำก็ยิ่งเผยมุมที่มีความเป็นเด็กให้ได้เห็นทั้งช่างซักช่างถามตามประสาคนซื่อซึ่งเรียกเสียงหัวเราะให้กับกลุ่มเค้าได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวเรียกว่าเป็นสีสันของกลุ่มเลยก็ว่าได้ ผิดกับตอนแรกๆที่ไม่ค่อยจะกล้าพูดกล้าคุยกับพวกเค้าซักเท่าไหร่
"อือ เราง่วงน่ะเราไม่ถนัดตื่นเช้าด้วย" สายน้ำที่พอได้สัมผัสกับที่นอนนุ่มๆดวงตาที่เคยกลมโตก็ทำท่าจะลืมไม่ขึ้นเอาซะเลย
"น้ำนอนพักเอาแรงก่อนก็ได้นะนี่เพิ่งจะ 10 โมงครึ่งเอง มีเวลาอีกตั้งชั่วโมงครึ่งกว่าจะถึงเที่ยง" ออกัสที่เห็นเพื่อนตัวเล็กเริ่มจะลืมตาไม่ขึ้นแล้วเอ่ยบอก
"อืออออ...ขอบใจนะกัส กู๊ดไนท์" พอสิ้นเสียงดวงตาที่เคยฝืนไว้ก็ปิดสนิทลงในทันที
"อิฐน้ำนอนท่านี้จะหายใจสะดวกเหรอ" กัสที่เริ่มเป็นห่วงกับท่านอนของเพื่อนตัวเล็กที่นอนคว่ำหน้าอยู่
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
"อ้าวเฮีย"
"ตัวเล็กล่ะ"
"นอนหลับอยู่บนเตียงน่ะครับ มาถึงก็กระโดดขึ้นเตียงเลยสงสัยจะง่วงจัด เฮียจะเข้ามาดูมั้ย"
"อือ" วายุเดินเข้ามาในห้องก็เห็นคนตัวเล็กของเค้านอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียง โดยมีออกัสนั่งเล่นมือถืออยู่ข้างๆและพอเห็นว่าวายุเดินมาออกัสก็ลุกขึ้นย้ายมานั่งบนเตียงเล็กที่อยู่ติดผนังอีกด้านทันที
วายุจับคนตัวเล็กให้นอนในท่าที่สบายขึ้น นั่งมองหน้าคนที่นอนหลับลมหายใจสม่ำเสมออยู่สักพักก็ตัดสินใจลุกขึ้นยืน เพราะเค้าต้องไปดูน้องๆเตรียมงานตามฐานต่างๆอีก เพียงแค่อยากแวะมาดูคนตัวเล็กเพื่อความสบายใจของเค้าเท่านั้นเอง
วายุหันหลังแล้วเดินออกไปอย่างเงียบๆทิ้งให้อิฐและออกัสนั่งมองหน้ากันตาปริบๆ
"นี่ถ้าไม่ใช่สายน้ำนี่เฮียแกจะพูดไม่เกิน 3 คำใช่มั้ยวะ" อิฐพูดกับออกัสเสียงเบาเพราะเกรงว่าจะรบกวนการนอนของเด็กน้อยในกลุ่ม
"ยังไม่ชินอีกเหรออิฐ เรายังชินแล้วเลย" ออกัสพูดยิ้มๆให้กับเพื่อนตัวใหญ่
"แต่ก็อย่างว่าแหละนะ น้ำมันน่ารักออกขนาดนี้ใครไม่หลงก็บ้าแล้ว" อิฐพูดพร้อมกับมองสายน้ำด้วยสายตาเอ็นดู
"นี่อย่าบอกนะว่าอิฐก็หลงรักน้ำเข้าให้แล้ว" ออกัสทำท่าตกใจยกมือขึ้นมาปิดปาก
พรึ่บ!!!
"อยากให้เราโดนเฮียวายุกระทืบตายรึไงฮะ เราแค่เอ็นดูแล้วก็รักน้ำอย่างน้องชายก็แค่นั้น อย่าไปพูดให้เฮียวายุแกได้ยินเชียวนะเรายังอยากมีชีวิตอยู่ไปอีกนานๆ" อิฐพูดพร้อมกับปาหมอนใส่ออกัสที่นั่งอยู่บนเตียงเล็ก
"ฮ่าๆๆ เรารู้หรอกน่าเราแค่ล้อเล่นเองทำหน้าตาจริงจังไปได้" ออกัสหัวเราะพร้อมก้มลงเก็บหมอนที่อิฐขว้างใส่เค้าเมื่อกี๊แล้วโยนคืนเจ้าของที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ที่โซฟาตัวเล็กติดกับกระจก
"อือ......กี่โมงแล้วเหรอกัส" สายน้ำที่นอนไปได้เกือบๆชั่วโมงก็ตื่นขึ้น พอเรียกสติได้แล้วก็ลุกขึ้นมานั่ง เห็นเพื่อนทั้งสองของเค้ากำลังก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์กันอยู่คนละมุม
"อ้าว ตื่นแล้วเหรอน้ำ เราว่าจะปลุกอยู่พอดี 11 โมงครึ่งแล้วน่ะ น้ำลุกขึ้นไปล้างหน้าล้างตาไปเราจะได้ไปที่ห้องอาหารกัน"
สายน้ำพอเพื่อนบอกก็ทำตามอย่างว่าง่ายโดยไม่อิดออดเพราะเค้าได้นอนอย่างเต็มตาและชาร์จพลังเต็มที่สำหรับกิจกรรมช่วงบ่ายที่รออยู่
เมื่อน้องๆทานข้าวกลางวันกันเรียบร้อยแล้วพี่ๆก็ให้น้องได้นั่งพักย่อยอาหารกันจนถึงบ่าย 2 โมง หลังจากนั้นก็จัดให้น้องลงเล่นในฐานต่างๆสลับกัน โดยแต่ละกลุ่มจะมีทั้งหมด 10 คนด้วยกัน กลุ่มของสายน้ำนั้นจับฉลากได้กันคนละกลุ่มจึงต้องแยกกันไปแต่ละฐาน กิจกรรมแต่ละฐานส่วนใหญ่จะเน้นเชื่อมความสัมพันธ์และความสามัคคีกันในกลุ่ม
ตอนนี้กลุ่มของสายน้ำถึงฐานวิ่งเปี้ยวที่ต้องแข่งกับอีกกลุ่มซึ่งมีอิฐอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย
"สายน้ำสู้ๆ สายน้ำสู้ๆ"
"สายน้ำเร็วๆ กรี๊ด!!! สายน้ำวิ่งเร็วมาก"
เพื่อนๆในกลุ่มต่างส่งเสียงเชียร์คนตัวเล็กที่วิ่งเร็วมากผิดกับรูปร่างบอบบางเลยก็ว่าได้
การแข่งขันวิ่งเปี้ยวดำเนินต่อไปเรื่อยๆอย่างไม่มีใครยอมใคร จนวนมาถึงสายน้ำรอบที่ 4 ที่เจ้าตัวตอนนี้ยืนหน้าแดงเป็นลูกตำลึงอยู่
"สายน้ำเร็วๆ"
"สายน้ำสู้ๆ"
ปี๊ดดดดดด!!!!!!!
"เฮ!!! เฮ!!! เฮ!!!"
เสียงนกหวีดดังขึ้นหลังจากที่สายน้ำวิ่งไล่แล้วแตะอีกฝ่ายได้ทัน โดยที่เจ้าตัวนั่งหมดเรี่ยวแรงอยู่กับพื้นทราย แต่ก็ยังไม่วายส่งยิ้มกว้างที่มีลักยิ้มบุ๋มเป็นเอกลักษณ์ให้กับเพื่อนๆในกลุ่ม
"เฮ้อ! โชคดีที่สายน้ำทำได้ไม่งั้นให้วิ่งอีกรอบเราคงตายแน่ รุ่นพี่นี่ใจร้ายสุดๆดูระยะทางที่ให้วิ่งดิโคตรไกลเลยใครเป็นคนปักไม้วะ" เพื่อนผู้หญิงที่อยู่กลุ่มเดียวกับสายน้ำบ่นขึ้นหลังจากที่สายน้ำทำให้ทีมชนะได้แล้ว
"แต่สายน้ำวิ่งเร็วมากเลยนะ เคยเป็นนักวิ่งมาก่อนเหรอ" เพื่อนอีกคนในกลุ่มถามขึ้น"
"เคยเป็นตอนมัธยมต้นน่ะ ตอนนั้นเราไม่สบายบ่อยหมอเลยแนะนำให้ออกกำลังกาย วิ่งไปวิ่งมาอาจารย์เลยจับเราลงแข่งน่ะ" สายน้ำพูดพร้อมกับเกาท้ายทอยแก้เขินกับคำชมของเพื่อนในกลุ่ม"
"น้องๆครับถ้าหายเหนื่อยกันแล้วก็เตรียมตัวไปฐานต่อไปกันเลยนะครับ" รุ่นพี่ที่คุมฐานวิ่งเปี้ยวพูดขึ้นเมื่อให้น้องๆได้พักเหนื่อยกันได้สักพักแล้ว
ฐานต่อมาคือฐานเก็บลูกบอล ซึ่งลูกบอลจะมีจำนวนเท่ากับคนในกลุ่มเท่ากับว่าถ้าทุกคนเก็บมาได้ครบก็จะได้ 10 คะแนนเต็ม แต่เรื่องของเรื่องคือลูกบอลมันถูกถ่วงอยู่ในทะเลซึ่งอยู่ห่างจากชายหาดประมาณ 200 เมตรเห็นจะได้
"โหยยยยย"
พอรุ่นพี่ประจำฐานบอกกติกาให้กับน้องๆได้ทราบกัน ก็ตามมาด้วยเสียงโอดโอยโหยหวนกันเลยทีเดียว ก็พวกเค้าเพิ่งผ่านฐานวิ่งเปี้ยวกันมาคนละตั้งหลายรอบ เรียกว่าเดินต่อมายังฐานนี้ได้ก็บุญแค่ไหนแล้ว นี่ยังจะต้องมาว่ายน้ำต่ออีก
สายน้ำที่ตอนนี้ที่แทบจะหมดแรงยืนแล้วด้วยซ้ำ เนื่องจากเค้าใช้พลังงานไปกับการวิ่งจนเกือบหมดบวกกับเจ้าตัวที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายมากนัก กำลังทำท่าคิดหนักเพราะถ้าเค้าไม่ลงก็เท่ากับว่าเค้าจะทำให้กลุ่มไม่ได้คะแนนเต็มตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลย สายน้ำไม่อยากเป็นตัวถ่วงของกลุ่ม คงต้องว่ายไปเก็บลูกบอลสินะ
"มีใครว่ายน้ำไม่เป็นหรือไม่แข็งบ้างมั้ยครับ" รุ่นพี่ประจำฐานถามขึ้น
"ถ้าไม่มีใครว่ายน้ำไม่เป็นหรือไม่แข็งก็เตรียมตัวฟังเสียงนกหวีดนะครับ"
ปี๊ดดดดด!!!!!
พอสิ้นสุดเสียงนกหวีดกลุ่มของสายน้ำก็ต่างพากันเดินลงไปที่ทะเลและเริ่มต้นว่ายไปเก็บลูกบอลกัน
สายน้ำที่ตอนนี้ว่ายมาได้ครึ่งทางแล้วก็เงยหน้าขึ้นเพื่อมองหาลูกบอล เค้ารู้สึกเหมือนขาและแขนเริ่มหมดแรงแต่ก็ยังฝืนตัวเองว่ายต่อไปจนกระทั่งถึงลูกบอล
พอได้ลูกบอลมาอยู่ในมือแล้วเจ้าตัวก็ตั้งท่าจะว่ายกลับไปหาฝั่งในขณะที่เพื่อนๆกำลังจะถึงฝั่งกันแล้วเกือบทุกคน แต่ขณะที่กำลังจะว่ายกลับเข้าฝั่งนั้นสายน้ำรู้สึกปวดเกร็งที่น่องขาขวาเป็นอย่างมาก สายน้ำร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดทำให้สำลักน้ำเข้าไปจนแสบคอ เจ้าตัวได้แต่ดิ้นทุรนทุรายพร้อมกับพยายามทรงตัวให้อยู่
"เฮ้ย!!!! นั่นน้องน้ำรึเปล่าวะ" ดินที่เดินนำหน้าเพื่อนๆมาตะโกนบอกพร้อมกับชี้ให้กลุ่มของตัวเองดู พวกเค้าเพิ่งกลับจากไปดูน้องเตรียมพิธีบายศรีสู่ขวัญที่จะมีขึ้นในคืนนี้
"เฮ้ย!!! ไอ้วายุ" ทันทีที่วายุมองไปตามมือที่ดินชี้เจ้าตัวถึงกับตกใจแล้วออกตัววิ่งแบบไม่คิดชีวิตเลยทีเดียว
หินผาที่เห็นเพื่อนวิ่งไปจุดที่ดินชี้บอกก็รีบวิ่งตามวายุไปเมื่อเห็นว่าคนในทะเลคือน้องชายของตัวเอง
ตู้ม!!!!!
เสียงกระโดดลงน้ำของวายุทำให้ทุกคนบนฝั่งที่กำลังสนใจลูกบอลที่ถูกโยนลงมาในตะกร้าหันไปมองเป็นตาเดียวกัน
รุ่นพี่ที่เฝ้าฐานถึงกับหน้าซีดเมื่อเห็นว่าเป็นวายุที่กำลังว่ายไปหาสายน้ำที่ดูเหมือนจะจมน้ำอยู่กลางทะเล
สายน้ำที่ตอนนี้ได้หมดแรงลงแล้วก็ปล่อยให้ร่างตัวเองค่อยๆจมลงไปพร้อมกับสติที่ดับลงไปเช่นเดียวกัน
'พี่กาย พี่ผาช่วยน้องด้วย น้องไม่ไหวแล้ว'
Comments (0)