38 ตอน สุดที่รัก (NC)
โดย Beloved_Moouan
“อื้อ อ่าส์~ พี่กายน้องเสียวครับ โอ๊ย!” อยู่ๆคนตัวเล็กในอ้อมกอดของวายุก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“พี่ขอโทษครับ ตัวเล็กเจ็บมากมั้ยครับ” วายุที่อารมณ์กำลังพลุ่งพล่านอย่างฉุดไม่อยู่ เผลอบีบตรงแขนน้องที่มีรอยฟกช้ำทำให้คนตัวเล็กถึงกับสะดุ้งและร้องออกมาด้วยความเจ็บ
วายุหยุดการกระทำทุกอย่างและดูตรงที่คิดว่าน้องเจ็บ เค้าถกแขนเสื้อของน้องขึ้นก็พบว่ามันเป็นรอบช้ำที่ค่อนข้างใหญ่กว่าตรงอื่น
“เดี๋ยวเราไปอาบน้ำกันดีกว่านะครับ เดี๋ยวพี่จะได้ทายาให้แล้วก็กินข้าวกินยากันนะครับ” วายุที่เห็นหน้าน้องเจ็บก็อดสงสารไม่ได้ เค้านี่เห็นแก่ตัวจริงๆน้องเจ็บขนาดนี้ยังคิดที่จะเอาแต่ใจสนองแต่ความต้องการของตัวเอง
“แต่ว่าพี่กาย....” สายน้ำหน้าแดงขึ้นมาทันทีที่เหลือบไปเห็นว่าตัวตนของพี่กายของเค้านั้นยังคงแข็งตัวอยู่
“หึๆ ไม่เป็นไรครับคนดี เดี๋ยวมันก็ลงเองครับ” วายุนึกเอ็นดูแฟนตัวเล็กของตัวเอง ขนาดว่าตัวเองเจ็บอยู่ยังนึกห่วงเค้าอีก
“นะ น้องอยากช่วย” สายน้ำพูดขึ้นแต่ก็ยังไม่กล้าที่จะมองหน้าคนพี่
“หึๆ อยากช่วยพี่ยังไงคะ ไหนบอกพี่ทีสิคะ ฟอด!” วายุที่เห็นหน้าน้องแดงก็ยิ่งมีอารมณ์แต่ก็พยายามหักห้ามใจเอาไว้อยู่ เพราะกลัวว่าจะเผลอทำให้น้องเจ็บอีก
“เอ่อ...คือ พี่กายหลับตาก่อนได้มั้ยครับ” สายน้ำที่ตอนนี้หน้าแดงตัวแดงไปหมด ก็เพราะทั้งสายตาที่ฉ่ำเยิ้มของคนพี่ที่มองมายังเค้า ไหนจะคำพูดคำจาหวานหูที่คนพี่ขยันหยอดมาอีก แต่เค้าก็อยากที่จะช่วยเพราะเข้าใจอารมณ์อยากปลดปล่อยของผู้ชายดี ถ้ามันเกิดขึ้นแล้วก็ยากที่จะลงได้ง่ายๆ
“หึๆ” วายุยอมหลับตาลงอย่างว่าง่ายเค้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าคนตัวเล็กของเค้าจะช่วยเค้ายังไง
สายน้ำลุกขึ้นจากตักของคนตัวใหญ่ทันทีที่เห็นว่าคนตรงหน้าได้หลับตาตามคำขอของเค้าแล้ว เค้าค่อยๆดันไหล่ให้วายุเอนหลังนอนลงไปกับที่นอนนุ่ม วายุรอดูสถานการณ์ด้วยใจสั่นระทึกเพราะที่ผ่านมามีแต่เค้าที่เป็นฝ่ายกระทำคนตัวเล็ก
สายน้ำค่อยๆเลิกเสื้อของคนที่นอนหลับตาอยู่ขึ้นไปจนถึงหน้าอก เค้าเปลี่ยนมานั่งทับที่หน้าขาของคนตัวใหญ่
“อ๊ะ ซี๊ดดด ตัวเล็กครับ” วายุถึงกับร้องขึ้นมาเสียงหลงเมื่อสัมผัสได้ถึงความเย็นชื้นที่ยอดอกของตัวเอง นี่เค้าโดนน้องเล่นเข้าให้แล้วใช่มั้ย
สายน้ำค่อยๆใช้ลิ้นลากเลียสัมผัสอยู่แถวหน้าอกของคนพี่ เค้าทำแบบเดียวกันกับที่วายุเคยทำให้เค้า ลิ้นเล็กนุ่มเลียวนอยู่ตรงยอดอกพร้อมกับดูดดุนอย่างเพลิดเพลินกับสัมผัสแปลกใหม่ มันคนละความรู้สึกกับการถูกกระทำ
“อ๊าส์ ตัวเล็กครับ ทำไมเก่งจังเลยครับ” วายุลืมตาขึ้นมองโดยทันทีที่ได้รับสัมผัสว่ายอดอกของเค้ากำลังถูกดูดกลืนหายเข้าไปในปากเล็กสีชมพู
สายน้ำที่ได้รับคำชมจากคนพี่ก็ยิ่งได้ใจ เค้าค่อยๆลากลิ้นร้อนมาจนถึงซิกแพคแกร่ง และดูดเม้มขบกัดอย่างเอาแต่ใจถึงมันแทบจะกัดไม่เข้าเลยก็ตาม เหมือนกับเด็กเล็กที่กำลังเห่อของเล่นใหม่ที่ทั้งอยากลองและสนุกในเวลาเดียวกัน วายุถึงกับต้องนอนแขม่วท้องด้วยความเสียวที่น้องมอบให้
มือเล็กเลื่อนลงมาที่ขอบกางเกงยางยืดของคนตัวใหญ่ ขณะที่กำลังเลื่อนกางเกงลงมามือเล็กก็มีอาการสั่นเล็กน้อยเนื่องจากขนาดตัวตนที่ใหญ่โต ถึงแม้จะมีอะไรกันภายนอกหลายครั้งแล้วแต่เค้าก็ยังไม่เคยเห็นแบบเต็มๆชัดๆขนาดนี้มาก่อน เพราะที่ผ่านมาเค้าพยายามที่จะไม่มองมันเนื่องจากความใหญ่โตทำให้เค้าต้องเขินอายทุกครั้งที่มอง
สายน้ำถึงกับกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบากเมื่อแก่นกายใหญ่อันเขื่องดีดผึงออกมาปรากฏอยู่ตรงหน้าของเค้า
“ตัวเล็กครับ เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะครับ พี่ไม่เป็นอะไร” วายุอดที่จะสงสารน้องไม่ได้เมื่อเห็นน้องดูทำหน้าลำบากใจ เพราะเนื่องจากขนาดของเค้ามันคงจะเข้าปากเล็กของน้องได้ไม่หมดอย่างแน่นอน สายน้ำได้แต่ส่ายหน้าไปมาอย่างไม่ยอมแพ้
มือเล็กค่อยเอื้อมมาจับแก่นกายใหญ่อย่างช้าๆ พร้อมกับค่อยๆชักรูดขึ้นรูดลงทีละนิด
“ซี๊ดดด อ่าส์~” ทันทีที่มือนุ่มได้สัมผัสตัวตนของเค้า วายุก็ร้องครางขึ้นมาโดยทันทีด้วยความเสียว
สายน้ำที่เห็นคนพี่แหงนหน้าหลับตาพริ้มอยู่ ก็ค่อยๆก้มลงมาใช้ลิ้นแตะที่ส่วนปลายสีชมพู ลิ้นเล็กไล่เลียวนอยู่รอบๆส่วนปลายอยู่สักพัก พอเริ่มที่จะชินแล้วคนตัวเล็กก็ไล่เลียจากโคนไปจนถึงปลายอย่างช้าๆ
“อื้อ อ่าส์ ซี๊ดดดด สุดยอดมากครับที่รัก” วายุร้องขึ้นทันทีที่ปากเล็กได้ครอบครองแกนกายใหญ่ของตัวเองเข้าไปแต่ก็ได้ไม่ถึงครึ่ง เค้าเด้งเอวรับพร้อมกับจังหวะที่น้องใช้ปากรูดขึ้นรูดลงให้กับเค้า มือใหญ่จิกลงไปกับที่นอนเพราะเค้าไม่กล้าที่แตะตัวของคนตัวเล็กกลัวว่าจะเผลอทำให้น้องเจ็บตัวอีก
“อ๊ะ อ่าส์ ซี๊ดส์ ที่รักครับ พอก่อนครับพี่จะเสร็จ” วายุพูดพร้อมกับพยายามที่จะดันหัวของน้องออก แต่น้องก็ยังไม่ยอมปล่อยปากออกจากกายแกร่ง ยังคงใช้ปากดูดดึงแถมยังเพิ่มแรงขึ้นมาอีก
“อ๊าส์ ที่รักครับ พอครับ พี่จะไม่ไหวแล้ว” วายุที่พยายามกลั้นไว้ เค้าไม่อยากปล่อยใส่ปากของน้องเพราะเกรงว่าจะสำลักเอา
“อื้อ อ่าส์ ที่รักครับ พี่ อ่าส์ จะไม่ไหว” สะโพกแกร่งยกขึ้นตามแรงดูดดึงของคนตัวเล็กที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยปากออกจากแก่นกายของเค้า คนตัวใหญ่นอนบิดตัวด้วยความเสียว เค้าไม่คิดว่าคนตัวเล็กของเค้าจะเก่งกาจถึงเพียงนี้
“อ่าส์ ซี๊ดดด” ไม่นานน้ำรักจำนวนมากก็ถูกปล่อยออกมาเต็มปากเล็กจนล้นไหลออกมาตามมุมปาก
“อึก” คนตัวเล็กกลืนน้ำรักของเข้าไปในทันทีไม่ทันที่วายุจะเอ่ยปากห้าม
“ตัวเล็กกลืนเข้าไปทำไมครับ ทำไมไม่คายออกมาครับ” นอกจากจะดื้อไม่ยอมคายน้ำรักออกมาแล้วเจ้าตัวยังใช้ลิ้นเล็กยื่นออกมาเลียตามมุมปากอีกด้วย วายุที่เห็นว่าน้องกำลังยื่นลิ้นออกมาเลียน้ำรักของตัวเองที่ติดอยู่ตามมุมปากก็แทบจะอดใจไม่ไหวกับความเซ็กซี่ที่คนตัวเล็กของเค้ากำลังทำขึ้นมาแบบไม่รู้ตัว
“จุ๊บ อื้อ.....จ๊วบๆ” วายุจับคนตัวเล็กนอนหงายพร้อมกับตามไปบดจูบอย่างหื่นกระหาย
“ที่รักยั่วพี่เองนะครับ” วายุถอนปากออกมาพร้อมกับปลดเปลื้องเสื้อผ้าของน้องจนเหลือแต่ตัวเปล่า เค้าซุกจมูกคมเข้าไปตรงซอกคอหอมของน้องทันที ริมฝีปากร้อนไล่เล็มขบเม้มจนมาถึงหน้าอกจนเกิดรอยรักสีกุหลาบขึ้นจางๆ
จ๊วบ! จ๊วบ!
“อ๊ะ อ๊าส์ พี่กาย นะ น้องเสียว” สายน้ำได้แต่นอนแอ่นหน้าอกให้คนพี่ได้เชยชมอย่างเต็มที่
“เดี๋ยวที่รักจะเสียวมากกว่านี้อีกครับ” วายุเปลี่ยนเป็นค่อยๆประคองน้องให้ลุกขึ้นมา ถึงความต้องการของเค้าจะพลุ่งพล่านมากแค่ไหน แต่เจ้าตัวก็ยังคงระวังว่าน้องยังเจ็บอยู่ เค้าจับให้น้องนอนคว่ำลงและจับสะโพกน้องให้ยกขึ้นเผยให้เห็นช่องทางรักสีสวยที่ขมิบเชิญชวนเค้าอยู่
แผล่บ! แผล่บ!
“อ๊ะ อ๊าส์ พี่กาย อ๊าส์~” สายน้ำถึงกับร้องขึ้นเสียงหลงเมื่อลิ้นร้อนสัมผัสเข้ากับรอยจีบของตัวเองแบบไม่ทันได้ตั้งตัว ก้นกลมกลึงส่ายไปมาด้วยความเสียว
มือใหญ่เอื้อมมาด้านหน้าชักรูดแกนกายเล็กของคนใต้ร่างไปด้วย ลิ้นหนาก็ทำหน้าที่แยงเข้าไปในช่องทางรักสีสวยจนคนตัวเล็กถึงร้องครวญครางดิ้นพล่านด้วยความเสียว เพราะเค้าโดนปรนเปรอทั้งข้างหน้าและข้างหลังพร้อมๆกัน
“อ๊าส์ อื้อ พะ พี่กาย อ๊ะ พอ อื้อ ก่อนครับ นะ น้องใจจะขาดแล้ว” สายน้ำที่พูดขอร้องขึ้นมาอย่างยากลำบาก น้ำตาไหลออกมาด้วยความเสียว หน้าตาบิดเบี้ยวเนื้อตัวบิดเร่าบ่งบอกได้ถึงความเสียวที่ได้รับว่ามีมากขนาดไหน วันนี้พี่กายของเค้าร้อนแรงกว่าทุกๆครั้งที่ผ่านมา
“เรามาเสร็จพร้อมกันนะครับที่รัก” วายุค่อยๆจับคนตัวเล็กยกขึ้นและยกน้องขึ้นมาคร่อมตักโดยหันหน้าเข้าหากัน เค้าจับมือเล็กให้กอบกุมความใหญ่โตของเค้าและแก่นกายเล็กของน้องเอาไว้ โดยมีมือใหญ่ของเค้าช่วยประคองอีกที
“อ๊ะ อ๊าส์ / อ่าส์ ซี๊ดส์~” สองเสียงร้องครางประสานกันทันที ที่เค้าเริ่มชักรูดแกนกายของทั้งคู่ขึ้นลง แกนกายทั้งสองเสียดสีกันไปมาตามแรงขยับ ไม่นานนักน้ำรักของคนทั้งคู่ก็ถูกปลดปล่อยออกมา
“อ่าาาส์~ / ซี๊ดดดด~” สายน้ำที่หมดแรงถึงกับฟุบหน้าลงกับไหล่แกร่งของคนพี่ทันที วายุก็ไล่จูบซับอยู่ตามซอกคอหอมของน้อง เค้าชอบที่จะได้กลิ่นเหงื่อของน้องใครจะว่าเค้าโรคจิตก็ช่าง แต่คนตัวเล็กของเค้านั้นตัวหอมและนุ่มมากยิ่งมีกลิ่นเหงื่อผสมมาด้วยก็ยิ่งหอม
“มาครับเดี๋ยวพี่พาไปอาบน้ำนะครับ ฟอด!” พอให้น้องพักพอหายเหนื่อยแล้ววายุก็อุ้มกระเตงน้องเข้าไปในห้องน้ำ เค้าค่อยๆวางคนตัวเล็กของเค้าบนเคาน์เตอร์ล้างหน้า พร้อมกับบีบยาสีฟันให้น้องอย่างที่เคยทำเป็นประจำ
ผ่านไปสักพักทั้งคู่ก็ออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าคลุมอาบน้ำ วายุให้น้องไปนั่งรอที่เตียงส่วนตัวเค้าเองก็เดินไปหยิบยามาทาแผลให้น้อง
“จุ๊บ! เจ็บมั้ยครับที่รัก” วายุก้มลงจูบเบาๆตรงที่เป็นรอบช้ำ เค้าค่อยๆบรรจงทายาอย่างเบามือ
“ไม่เจ็บเหรอครับถ้าไม่ไปกดมันแรงๆ” สายน้ำพูดพร้อมกับหน้าที่ขึ้นสี เพราะเมื่อกี๊เค้าได้ยินคนตัวใหญ่เรียกเค้าว่าที่รัก เค้าคิดว่าจะถูกเรียกเฉพาะตอนที่กำลัง...เท่านั้น ยิ่งคิดเจ้าตัวก็ยิ่งหน้าแดง
“หืม ที่รักเป็นอะไรครับ หน้าแดงเชียว” วายุที่ทายาเสร็จแล้วพอเงยหน้ามาก็พบว่าคนตัวเล็กของเค้านั่งหน้าแดงอยู่ก่อนแล้วจึงเอ่ยถาม สายน้ำก็เอาแต่หลบตาส่ายหน้าจนผมที่ยังไม่แห้งดีสะบัดไปมา
“หึๆ คิดอะไรทะลึ่งอยู่รึเปล่าครับ ถึงได้หน้าแดงขนาดนี้ หืม” วายุพูดพร้อมกับยื่นมือไปบีบจมูกรั้นส่ายไปมาด้วยความมันเขี้ยว
“ปะ เปล่านะครับ น้องแค่เขินที่พี่กายเรียกน้องว่า.....” สายน้ำที่ยิ่งพูดก็ยิ่งหน้าแดง
“ที่รักเหรอครับ” สายน้ำได้แต่พยักหน้ารับหงึกๆ
“ก็ที่รักเป็นสุดที่รักของพี่จริงๆนี่ครับ พี่กายขอเรียกตัวเล็กว่าที่รักนะครับ จุ๊บ” ไม่พูดของเปล่าแต่เจ้าตัวยังยื่นหน้าไปจูบริมฝีปากบางที่กำลังเม้มเข้าหากันอยู่ด้วยความเขิน
“ใครจะไปว่าอะไรเล่า น้องไปแต่งตัวดีกว่า” พูดจบสายน้ำก็ลุกหนีเข้าไปในห้องแต่งตัวทันที
“หึๆ น่ารักว่ะ” วายุได้แต่ส่งยิ้มตามหลังคนขี้เขิน พร้อมกับหันไปมองตัวเองในกระจกที่เวลานี้ใบหน้าของเค้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มและยังเห็นลักยิ้มน้อยๆปรากฏขึ้นมาอีกด้วย ยิ่งคิดถึงคนในห้องแต่งตัวเค้าก็ยิ่งยิ้มกว้างให้กับตัวเอง เค้าไม่เคยคิดว่าในชีวิตนี้เค้าจะมีรอยยิ้มและจะยิ้มกว้างได้ขนาดนี้มาก่อนเลย
“ป๊าจ๋า ม๊าจ๋า พี่ผาจ๋า น้องมาแล้วครับ” สายน้ำเมื่อลงจากรถได้ก็รีบวิ่งเข้าไปในบ้านทันที โดยที่ทิ้งวายุไว้กับขนมเค้กหลายชิ้นเพราะเจ้าตัวอยากซื้อมาฝากคนที่บ้านแล้วก็คนงานในบ้านด้วย
“หึๆ เจ้าแสบ” วายุมองตามหลังคนที่วิ่งดุ๊กดิ๊กเข้าไปในบ้านพร้อมทั้งส่ายหัวให้กับคนช่างลืม ตอนอยู่ในรถก็ยังบอกเค้าอยู่เลยว่าจะขนเค้กทั้งหมดลงไปเองแล้วก็จะเอาไปแจกคนงานด้วยตัวเอง แต่ดูตอนนี้สิ
พรึ่บ!!
“อ้าว! มาได้ยังไงครับน้องน้ำ ฟอด!” หินผาที่เพิ่งเดินลงมาจากชั้นบนก็ถูกน้องชายกระโดดใส่ในท่าคาดเอวทันทีที่มาถึง
ฟอด! ฟอด!
“ชื่นใจจัง น้องมากับพี่กายครับ คืนนี้น้องจะมานอนค้างที่นี่ด้วยแหละ” สายน้ำหอมแก้มพี่ชายสองฟอดใหญ่อย่างเอาใจ
“หึๆครับ ป๊ากับม๊าต้องดีใจมากแน่ๆเลยครับที่น้องมานอนค้างด้วย ว่าแต่ไอ้วายุล่ะครับยังไม่เห็นขึ้นมา” หินผาพูดพร้อมกับมองหาเพื่อนตัวเอง
“เอ๋ หือ! ตายล่ะหว่า พี่ผาปล่อยน้องลงก่อนครับ” สายน้ำตาโตขึ้นทันทีที่พี่ชายถามหาเพื่อนพร้อมทั้งดิ้นลงจากเอวของพี่ชาย เค้าลืมไปซะสนิทเลยว่าขนซื้อเค้กมาจากร้านกาแฟเยอะมากแถมยังบอกคนพี่อีกว่าจะขนลงมาเอง แต่พอถึงบ้านเจ้าตัวดันลืมไปซะสนิทเลย
“พี่กายน้องขอโทษครับ” สายน้ำที่วิ่งออกมายังไม่พ้นประตูบ้านก็เห็นวายุหอบหิ้วถุงขนมเค้กพะรุงพะรังเต็มไม้เต็มมือไปหมด สายน้ำยกมือไหว้ขอโทษอย่างรู้สึกผิดขึ้นมาทันที ก็เค้านั้นทั้งร้องกินนู่นกินนี่สารพัดแล้วไหนยังจะร้องซื้อกลับบ้านเงินก็ไม่ได้ออกสักบาทแถมคนพี่ก็แสนจะตามใจเค้าอีก
ฟอด!
“ไม่เป็นไรครับ พี่หอมทะ...เอ่อเป็นรางวัลที่ต้องถือของมาให้แล้วนี่ไงครับ” วายุแทบอยากจะกัดลิ้นตัวเองทันที เค้าเกือบเผลอพูดคำต้องห้ามออกไป
“งั้นมาครับ น้องช่วยถือ” สายน้ำเมื่อเห็นว่าคนพี่ไม่ได้ว่าอะไรก็รีบอาสาช่วยถือ พร้อมทั้งบอกว่าจะเอาขนมไปแจกคนงานในบ้านก่อน
“น้องน้ำเป็นยังไงบ้างวะ” หินผาถามเพื่อนตัวเองขึ้นทันทีหลังจากที่วายุช่วยน้องเอาขนมทั้งหมดไปไว้ในครัวแล้ว
“ก็อย่างที่มึงบอก ตัวเล็กตื่นขึ้นมาก็จำอะไรไม่ได้เลยภาพสุดท้ายที่จำได้ก็คือตอนที่รับโทรศัพท์ที่ร้าน แต่พอเห็นรอยที่แขนกับขาตัวเองก็ถามแต่ก็เหมือนน้องพอจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเลยขอให้กูเล่าให้ฟัง พอกูเล่าให้ฟังจบก็ขอโทษที่ออกไปโดยไม่บอกกล่าวแต่กูก็ขอโทษน้องไปด้วยที่ไม่ค่อยสนใจถามน้องว่าน้องต้องการหรืออยากได้อะไร” วายุพูดเล่าแต่ในตาก็ยังแฝงไปด้วยความเจ็บปวด ภาพที่เค้าเห็นน้องนั่งอยู่ในห้องน้ำและหยิกตัวเองยังคงติดตาเค้าอยู่ หินผาก็พยักหน้ารับรู้แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
“แล้วนี่ป๊ากับม๊ารู้รึเปล่า แล้วท่านอยู่รึเปล่า” วายุถามพร้อมกับมองไปรอบๆในตัวบ้าน เค้าไม่รู้ว่าป๊ากับม๊ารู้เรื่องรึยังจึงให้คนตัวเล็กของเค้าใส่ทั้งกางเกงขายาวและเสื้อแขนยาวเพื่อปกปิดรอยช้ำเอาไว้
“กูเล่าให้ป๊ากับม๊าฟังแล้ว ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไรแค่ไม่คิดว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นอีก ท่านก็บอกว่าค่อยๆเรียนรู้กันไปเรื่อยๆ ตอนนี้ท่านออกไปข้างนอกน่ะเห็นว่าไปคุยกันเรื่องรายละเอียดที่จะจัดงานหมั้นกับพ่อแม่มึงนั่นแหละ” พอหินผาพูดจบวายุก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก พร้อมกับพยักหน้ารับรู้
“กูว่าเย็นนี้ชวนไอ้พวกนั้นกับน้องๆมาทำอะไรกินที่บ้านดีมั้ยวะ ไม่ได้เจอกันจะเป็นอาทิตย์แล้ว” หินผาเอ่ยถามเพื่อนขึ้นมาเพราะเห็นว่าวายุนั้นยังคงคิดมากอยู่
“อือก็ดี ตัวเล็กก็คงจะคิดถึงเพื่อนเหมือนกัน”
พอตกเย็นกลุ่มเพื่อนๆของสายน้ำและวายุก็มากันแบบครบทีม ทุกคนต่างซื้อของกินติดไม้ติดมือกันเต็มไปหมด เนื่องจากไม่ได้เจอกันเกือบอาทิตย์จึงมีแต่เสียงพูโคุยกันไม่หยุด วายุที่นั่งคุยอยู่กับกลุ่มเพื่อนก็คอยหันไปมองคนตัวเล็กของเค้าเป็นระยะ เมื่อเห็นว่าน้องเป็นปกติหัวเราะร่าเริงดีเค้าก็ค่อยหมดห่วงขึ้นมาหน่อย
“วายุไม่ต้องคิดมากนะจ๊ะ เรื่องมันผ่านมาแล้ว ไม่มีใครผิดใครถูกหรอกจ้ะ” แม่ของสายน้ำเมื่อเห็นว่าวายุยังคงคอยหันไปมองลูกชายคนเล็กของเธออยู่บ่อยๆก็พอที่จะเดาใจได้ก็เลยพูดปลอบออกไป
“ครับม๊า แต่ผมก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้อยู่ดีครับ” วายุตอบกลับไปพร้อมกับยิ้มน้อยๆ เพื่อนๆที่ได้นั่งฟังบทสนทนาก็อดแปลกใจไม่ได้แต่ก็ไม่มีใครกล้าถามขึ้นมา
“นี่ก็เริ่มดึกแล้วป๊าว่าป๊ากับม๊าขอตัวขึ้นห้องก่อนดีกว่า ส่วนเด็กๆก็ตามสบายกันนะ ถ้ายังไงก็ค้างกันซะที่นี่แหละนะม๊าเค้าให้แม่บ้านทำความสะอาดห้องไว้ให้แล้ว”
“ครับป๊าขอบคุณป๊าม๊ามากนะครับ” ทุกคนในกลุ่มยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองคน
“น้องน้ำคะ ป๊ากับม๊าขอตัวไปนอนก่อนนะคะ ไว้เดี๋ยวพรุ่งนี้เจอกันที่โต๊ะอาหารตอนเช้านะคะ ฟอด!” ก่อนขึ้นห้องม๊าก็ไม่ลืมที่จะแวะไปบอกลูกชายคนเล็กของเธอก่อน
“ครับม๊า กู๊ดไนท์นะครับ ฝันดีนะครับ ฟอด!”
“คืออะไรวะที่ม๊าพูด” พอป๊าและม๊าเข้าไปในบ้านแล้วไฟก็ถามขึ้นทันที วายุหันมาสบตากับหินผาว่าจะเล่าให้เพื่อนๆฟังดีมั้ย
“กูว่าเล่าให้พวกมันฟังก็ดีนะจะได้ช่วยกันระวังช่วยกันดูแลด้วยอีกแรง” หินผาที่พูดเหมือนเข้าไปนั่งอยู่ในใจของวายุ
“อะไรของพวกมึงวะ มองหน้าแล้วก็คุยกันอยู่สองคนรู้เรื่องกันอยู่สองคนเนี่ย” เหนือที่เริ่มอึดอัดเพราะว่าเพื่อนยังไม่ยอมที่จะเล่า มัวแต่มองหน้ากันไปมาราวกับว่าส่งกระแสจิตคุยกัน
วายุเองก็หันไปมองคนตัวเล็กของเค้าที่นั่งคุยเสียงเจื้อยแจ้วอยู่กับเพื่อน
“เกี่ยวกับน้องน้ำเหรอวะ” ดินถามขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนหันไปมองแฟนตัวเล็กของตัวเอง
“อือ เรื่องที่กูจะเล่ากูขอให้เก็บเป็นความลับและให้รู้เฉพาะพวกเราในกลุ่มเท่านั้นนะ” วายุมองหน้าเพื่อนและพูดเสียงจริงจังขึ้นมาทันที ต่อจากนั้นวายุก็เล่าเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาสดๆร้อนๆเมื่อวานให้เพื่อนๆฟัง โดยมีหินผาคอยมองน้องชายอยู่เกรงว่าน้องจะเดินมาตอนที่กำลังเล่ากันอยู่
“โหน้องแม่งโคตรเข้มแข็งเลยว่ะ นี่ถ้ามึงไม่บอกกูก็ไม่รู้เลยนะว่าน้องเพิ่งผ่านอะไรมา มึงก็เบาๆกับน้องบ้างวันหยุดทั้งทีงานการก็อย่าเสือกเอากลับมาทำ แล้วก็ไอ้น้ำเสียงนิ่งๆเย็นๆหน้าตาดุๆโหดๆของมึงเนี่ยก็เก็บเอาไว้ทำกับคนอื่นไม่ต้องมาทำกับน้องลักยิ้มของกู” เหนือที่พอได้ฟังก็รีบพูดสั่งสอนเพื่อนทันที
“เออๆพอๆแค่นี้ไอ้วายุมันก็รู้แล้วมึงก็ไม่ต้องเสือกไปสั่งสอนมันหรอกเอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะมึงน่ะ” ไฟที่เห็นสายตาวูบไหวของวายุในขณะที่เหนือพูดก็รีบพูดตัดบทขึ้นทันที
“พี่กายน้องขอกินเค้กอีกได้มั้ยครับ นะๆน้องขอกินอีกชิ้นหนึ่งนะครับ น้องอยากให้เพื่อนๆได้ชิมด้วยว่ามันอร่อยแค่ไหน” สายน้ำที่พอคุยกับเพื่อนเสร็จก็รีบมานั่งลงที่ตักของแฟนตัวเองพร้อมกับอ้อนขอกินเค้กไปด้วย สาเหตุที่ต้องขอเพราะว่าวันนี้เค้ากินไป 4 ชิ้นแล้วและพี่กายของเค้าก็บอกว่ากินแค่นี้ก็พอส่วนที่ซื้อไว้ก็เอาไว้ไปกินที่ทำงานพรุ่งนี้เอา
“หึๆ เจ้าเล่ห์นักนะเราน่ะ ก็ได้ครับงั้นเดี๋ยวพี่เดินไปเอาให้นะครับ” วายุพูดพร้อมกับทำท่าจะลุกขึ้น
“ไม่เป็นไรครับพี่กายนั่งคุยกับเพื่อนต่อเถอะ เดี๋ยวน้องไปหยิบเองครับ จุ๊บ! ขอบคุณนะครับผู้ใหญ่ใจดี” สายน้ำก้มลงไปจูบที่ปากของวายุแล้วก็รีบวิ่งเข้าไปในบ้านทันที
“เดี๋ยวนี้มีขอบคงขอบคุณกันแบบนี้ด้วยเหรอวะ เมื่อก่อนกูเห็นน้องเขินจะตายตอนที่มึงทำอะไรแบบนี้” เป็นดินที่ถามขึ้นเค้าเองก็ตกตะลึงไปเหมือนกันที่เห็นน้องจูบปากเพื่อนเค้าต่อหน้าต่อตา
“หึๆ สงสัยจะดีใจจนลืมตัว ปกติน้องจะทำแบบนี้เฉพาะตอนที่อยู่กับกูแค่สองคน” วายุพูดพร้อมกับยกยิ้มมุมปาก
Comments (0)