55 ตอน แสดงความรักด้วยภาษากาย
โดย Beloved_Moouan
“หืออ จุ๊บๆ” หินผาได้แต่ครางรับอยู่ในลำคอในขณะที่ปากก็ยังคงจูบอยู่ที่หน้าท้องของน้องอย่างอดใจเอาไว้ไม่อยู่ ก็ใครใช้ให้ตัวน้องหอมไปหมดแบบนี้ ตัวเค้าเองก็รู้ว่าน้องยังเด็กอยู่มากเค้าก็ได้แค่ตอดเล็กตอดน้อยอยู่แบบนี้ไปวันๆใครใช้ให้ไปหลงรักเด็กล่ะ
“อื้ออ พี่ผา หยุดก่อนครับ ถ้าไม่หยุดวาจะโกรธแล้วนะครับ” วาริพอตั้งสติได้ก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจังจนทำให้หินผาถึงกับชะงักไปในทันที
หินผาหยุดการกระทำทุกอย่างลงและนอนนิ่งอยู่อย่างนั้น แขนที่เคยโอบไว้รอบเอวบางก็คลายลง แต่ยังคงซุกหน้าอยู่กับเสื้อของน้องไว้อย่างนั้น วาริที่ไม่รู้อารมณ์ของคนตัวใหญ่ก็ได้แต่นิ่งเงียบ
“เอ่อ พี่ผาครับ ลุกขึ้นก่อนได้มั้ยครับ คือว่าวา....” วาริเมื่อเห็นคนที่นอนอยู่บนตักเงียบไปนานแล้วก็เอ่ยเรียกขึ้น เพราะตอนนี้ขาเค้าก็เริ่มที่จะเป็นเหน็บแล้วด้วย
“พี่ขอออกไปเดินเล่นข้างนอกรอนะครับ ขอโทษด้วยนะครับที่พี่เอาแต่ใจจนทำให้น้องวาต้องอึดอัด” หินผาลุกขึ้นนั่งทันทีที่วาริบอก เค้าพูดขึ้นพร้อมกับส่งยิ้มบางๆมาให้ ซึ่งมันเป็นยิ้มที่ฝืนจนวาริสัมผัสได้ แววตาที่เคยเปล่งประกายและแสดงความรักความห่วงใยที่มีให้กับเค้ามาโดยตลอดบัดนี้มันกลับมีแต่ความว่างเปล่า
พูดจบหินผาก็ลุกขึ้นยืนและเดินออกไปจากห้อง ทิ้งให้วาริได้แต่นั่งอึ้งอยู่อย่างนั้น เพราะไม่เคยเจอหินผาในเวอร์ชันนี้มาก่อน
ก๊อก! ก๊อก ก๊อก!
“ใครวะ ไอ้อิฐมึงไปดูดิ๊” ดินที่นอนเล่นเกมอยู่บนเตียงใช้เท้าสะกิดบอกรุ่นน้องที่นอนอยู่ข้างๆกัน
“คร้าบๆบอส กระผมจะไปเดี๋ยวนี้ล่ะครับ” อิฐได้แต่ลุกขึ้นอย่างจำใจเพราะเค้าก็กำลังเล่นเกมติดพันอยู่เหมือนกัน
“อ้าวเฮีย ไม่อยู่กับน้องวาเหรอ” อิฐที่เปิดประตูออกแล้วเจอเข้ากับหินผาก็ถามขึ้น
หินผาไม่พูดอะไรตอบกลับมาแต่เดินมาทิ้งตัวลงนอนอยู่ข้างๆดินแทน ดินที่เล่นเกมอยู่ก็ทิ้งมือถือลงข้างตัวทันที
“อะไรวะเฮีย” อิฐถามดินแบบไม่ออกเสียง ดินก็ได้แต่ยักไหล่กลับไป เค้ารู้แต่ว่าอาการเพื่อนของเค้าแบบนี้คือไม่ปกติแน่
“เฮ้ย ไอ้ดินไอ้อิฐเค้าตามให้ไปกินข้าวแล้วว่ะ” เหนือที่ยังไม่รู้เรื่องอะไรก็ร้องบอกเพื่อนและรุ่นน้องและเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับเบล
“อ้าว ไอ้ผามึงทำไมมานอนอยู่นี่วะ ไม่อยู่เฝ้าน้องวาของมึงแล้วไง บรรยากาศเป็นใจแบบนี้มึงพลาดได้ยังไงวะ” เหนือพูดถามและล้อเพื่อนขึ้นมาอย่างคนอารมณ์ดีอย่างที่ไม่รู้อะไรเลย
พอเห็นเพื่อนไม่โต้ตอบอะไรกลับมาได้แต่กลับนอนคว่ำหน้าอยู่อย่างนั้นเหมือนเดิมก็อดที่จะหันไปมองหน้าดินไม่ได้
“มันเป็นอะไรวะ” เหนือถามดินแบบไม่ออกเสียงเช่นเดียวกันกับอิฐ ดินก็ได้แต่ยักไหล่กลับไปเหมือนเดิม ด้านเบลก็หันไปมองหน้าอิฐอย่างตั้งคำถามอิฐก็ได้แต่ส่ายหน้ากลับมาเหมือนกัน
“พวกกูจะไปกินข้าวกัน มึงจะไปด้วยกันรึเปล่า” ดินถามคนที่นอนคว่ำหน้าอยู่ แต่ก็ได้รับแต่ความเงียบกลับมา
“งั้นพวกกูไปกันก่อนนะเดี๋ยวกูกินกันเสร็จจะเอาข้าวมาให้แล้วกัน” ดินพูดพร้อมกับยื่นมือไปตบที่ไหล่ของเพื่อนเบาๆ เค้าก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเหมือนกันเพราะตั้งแต่คบกันมาครั้งนี้เพิ่งจะเป็นครั้งที่สองที่หินผามีอาการแบบนี้ ครั้งแรกคือครั้งที่งอนและน้อยใจน้องชายสุดที่รักเล่นเอาซึมไม่พูดไม่จากับใครไปหลายวัน พอน้องมาง้อเข้าหน่อยก็กลับมากระดี๊กระด๊าเหมือนเดิม
“น้องน้ำครับ พี่ขอคุยด้วยหน่อยครับ” ดินที่เดินออกมาจากที่พักและเจอสายน้ำกำลังเดินออกมาพร้อมกับวายุ วาริ ไฟและออกัส เข้าพอดี
“ครับ พี่ดินมีอะไรกับน้ำเหรอครับ เดี๋ยวน้องวาเดินไปกับน้องพายแล้วก็น้องนัทก่อนเลยนะครับ ไม่ต้องรอพี่” สายน้ำเดินเข้ามาหาดินแต่ก็ไม่ลืมที่จะหันไปบอกกับวาริ
วาริได้แต่พยักหน้ารับ แต่สายตาก็คอยสอดส่ายหาคนที่เดินหายออกไปจากห้องเมื่อ 15 นาทีที่แล้วด้วย
“คืออย่างนี้นะครับน้องน้ำ.................” ดินเล่าให้สายน้ำฟังถึงอาการของหินผาโดยมีวายุยืนฟังอยู่ด้วย
“อืมม งั้นเดี๋ยวน้ำจะขอไปดูพี่ผาก่อนนะครับ น้ำรบกวนพี่ดินให้ทางรีสอร์ตจัดข้าวมาให้ที่นี่ทีได้มั้ยครับ เอาเป็นแบบอาหารจานเดียวง่ายๆก็ได้ครับสามที่”
“ได้ครับเดี๋ยวพี่จัดการให้ งั้นเดี๋ยวพี่ไปก่อนนะครับ จะได้ให้เค้าเอาข้าวมาให้ด้วย” ดินพูดจบก็เดินออกไปทันที สายน้ำกับวายุจึงเดินเข้าไปในวิลล่าหลังที่เป็นห้องของดิน
“พี่ผาครับ” เมื่อสายน้ำเปิดประตูห้องเข้าไปก็เห็นพี่ชายนอนฟุบหน้าอยู่กับหมอนจึงลองเรียกดู แต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบรับแต่อย่างใด
“พี่ผาเป็นอะไรไปครับ บอกน้องทีได้รึเปล่าครับ พี่ผาเป็นแบบนี้น้องเป็นห่วงนะ” สายน้ำทิ้งตัวลงไปนั่งข้างๆกับพี่ชาย ส่วนวายุก็เดินไปนั่งที่โซฟาตัวเล็กตรงมุมห้องอย่างเงียบๆ
หินผาพอได้ยินน้ำเสียงของน้องที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงเป็นใยก็ขยับตัวมานอนหนุนตักของน้องแทนโดยหันหน้าเข้าหน้าท้องของน้อง” สายน้ำได้แต่ลูบผมปลอบ ไม่บ่อยนักที่เค้าจะเห็นพี่ชายเป็นแบบนี้
“พี่ผาเป็นอะไรบอกน้องทีได้มั้ยครับ มีอะไรที่น้องพอจะช่วยพี่ผาได้รึเปล่า หรือแค่เป็นที่ระบายก็ยังดี” สายน้ำสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นที่ท้องของเค้าจึงเอ่ยถามขึ้น น้ำตาของคนเป็นน้องค่อยๆไหลลงมา เค้าไม่ค่อยจะได้เห็นน้ำตาของพี่ชายตัวเองสักเท่าไหร่แสดงว่าครั้งนี้คงจะหนักหนาพอสมควร ถึงได้ทำให้พี่ชายสุดที่รักของเค้าเสียน้ำตาได้
เป็นจังหวะเดียวกันกับที่วาริเดินเข้ามาพอที่จะทันได้ยินสายน้ำพูดถามพี่ชาย วาริที่ไม่เห็นสายน้ำและวายุเดินตามมาก็เลยหันไปถามดิน ก็เลยรู้ว่าสายน้ำและวายุขอตัวไปดูหินผาที่นอนอยู่ในห้องของดิน เจ้าตัวก็เลยขอเสียมารยาทกับแขกเพื่อเดินมาดูแฟนของตัวเองและรุ่นพี่
วาริยืนมาหยุดและนั่งลงตรงโซฟาตัวถัดไปจากวายุอย่างเงียบๆ เค้ามองหน้ารุ่นพี่ที่บัดนี้มีน้ำตาอยู่บนหน้าสวยด้วยความไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น
“พี่ก็ไม่รู้ครับว่าพี่เป็นอะไรหรือต้องรู้สึกยังไงในตอนนี้ แล้วพี่ก็เริ่มที่จะไม่แน่ใจแล้วด้วยว่าน้องวารู้สึกแบบเดียวกันกับพี่รึเปล่า เหมือนที่ผ่านมาพี่กำลังรู้สึกกับน้องวาอยู่ฝ่ายเดียว ทุกครั้งที่พี่เข้าใกล้หรืออยากจะสัมผัสอยากจะแสดงความรักอย่างที่คนรักเค้าทำกัน เหมือนกับว่าน้องวาพยายามที่จะผลักไสพี่ให้พี่ออกไปไกลๆอยู่ตลอดเวลา” พอมาถึงตรงนี้หินผาก็เงียบลงไปอีกครั้ง ก่อนที่จะพูดต่อโดยมีสายน้ำลูบผมปลอบพี่ชายไปเรื่อยๆ ทางด้านวายุและวาริก็นั่งฟังอยู่อย่างเงียบๆ วาริตอนนี้เริ่มที่จะมีน้ำตาคลอให้ได้เห็น
“ทุกครั้งที่พี่ต้องการแสดงความรักพี่จะโดนน้องวาต่อว่ากลับมาหรือไม่ก็พยายามที่จะผลักดันพี่ให้ออกไปทุกครั้ง กลายเป็นว่าเหมือนกับพี่ต้องใช้กำลังทุกครั้งที่พี่อยากทำหรืออยากที่จะแสดงมันออกมา พี่มันน่ารังเกียจขนาดนั้นเลยเหรอครับ พี่แค่อยากที่จะแสดงความรักในแบบของพี่” พอพูดมาถึงตอนนี้หินผาก็กอดกระชับเอวบางของน้องไว้แน่น น้ำตาลูกผู้ชายไหลรินออกมาอีกครั้ง
“พี่ผาฟังน้องนะครับ คนเราไม่ได้เกิดมาในครอบครัวที่เหมือนกัน น้องวาอาจจะโตมาในแบบของน้องซึ่งต่างจากที่พี่ผาและน้องโตมา ครอบครัวของเราโตขึ้นมาพร้อมกับการแสดงออกถึงความรักทางภาษากายไม่ว่าจะเป็นการกอดหอมหรือว่าจูบ ซึ่งพี่ผาอาจจะมองว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าเราลองคิดในมุมของน้อง น้องอาจจะไม่ถนัดที่จะแสดงความรักในรูปแบบนี้และอาจจะยังอายหรือเขินที่จะแสดงความรู้สึกอยู่” สายน้ำพูดพร้อมกับส่งยิ้มไปให้กับวาริที่ตอนนี้นั่งน้ำตาไหลอยู่
ทางด้านวาริเองเค้าก็เพิ่งจะรู้ว่าหินผารู้สึกยังไง เพราะทุกครั้งที่เค้าโดนหินผาฉวยโอกาสโดยการกอดหอมหรือว่าจูบที่ปากนั้น เค้าก็จะพยายามผลักหรือดันออกทันทีบางครั้งก็ต่อว่าไปบ้างเพื่อกลบเกลื่อนความเขินอายของตัวเอง แต่นั่นเค้าก็ไม่รู้เลยว่าได้ทำร้ายความรู้สึกของอีกคนหนึ่งไปโดยไม่รู้ตัว เค้ารู้ว่ามันเป็นเรื่องธรรมดามากที่คนรักจะแสดงความรักต่อกัน เค้ากับหินผานั้นก็ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันจนเกือบจะห้าเดือนแล้วมันกึไม่แปลกที่หินผานั้นอยากจะให้อะไรมันคืบหน้าไปมากกว่านี้ แต่ด้วยความที่ตัวเองไม่เคยมีแฟนมาก่อนจึงทำให้ยังอายที่จะแสดงความรักแบบนี้อยู่
“พี่ผาเข้าใจที่น้องพูดมั้ยครับ น้องอยากให้พี่ผาลองคิดกลับกันในมุมของน้องวาดูบ้างนะครับ ถ้ามีอะไรที่ไม่เข้าใจกันพี่ผาก็ต้องคุยกับน้องวาให้รู้เรื่อง ไม่ใช่ว่าหนีมาแบบนี้ ถ้าน้องวาเกิดเบื่อพี่ผาขึ้นมาจริงๆ แล้วมีคนเข้ามาจีบน้องวาจนน้องวายอมใจอ่อนพี่ผาจะยอมได้เหรอครับ”
“ไม่ครับพี่ไม่ยอมเด็ดขาดนะครับ พี่แค่น้อยใจแล้วก็สับสนแค่นั้นเอง” หินผาดีดตัวลุกขึ้นทันทีที่ได้ยินประโยคหลังของน้องชาย โดยที่ไม่ทันสังเกตว่ามีใครนั่งอยู่ด้านหลังของตัวเอง
“งั้นพี่ผาก็ต้องคุยกับน้องให้รู้เรื่องว่าพี่ผารู้สึกยังไงแล้วน้องรู้สึกยังไงนะครับ” สายน้ำพูดพร้อมกับยื่นมือมาเช็ดน้ำตาให้พี่ชายและส่งยิ้มไปให้
“ขอบคุณนะครับ ที่น้องน้ำช่วยเตือนสติพี่ พี่มันงี่เง่าไปเองใช่มั้ยครับ”
“ไม่หรอกครับเรื่องของความรักมันไม่มีคำว่างี่เง่าหรอกครับ มีแต่คำว่าเข้าใจหรือไม่เข้าใจกันมากกว่า อย่างที่เค้าว่ากันว่าคนเราเวลามีความรักมักจะอ่อนไหวง่าย พี่ผาไม่เคยได้ยินเหรอครับ คิกคิก” สายน้ำพูดพร้อมกับหัวเราะพี่ชายไปด้วย
“หึๆ เดี๋ยวนี้หัดเป็นกูรูเรื่องความรักไปตั้งแต่เมื่อไหร่ครับน้องพี่ แต่ถึงยังไงพี่ก็ขอบคุณน้องมากนะครับที่ทำให้พี่คิดอะไรได้หลายๆอย่าง พี่คงจะเอาแต่ใจตัวเองมากจนเกินไป เร่งรัดน้องวามากไปจนทำให้น้องต้องอึดอัด ต่อไปพี่จะพยายามเว้นระยะห่างกับน้องวาให้มากขึ้น ขอบคุณอีกครั้งนะครับน้องรักของพี่ ฟอดๆ จุ๊บๆ” หินผาพูดจบก็ระดมหอมแก้มและจูบไปที่ปากของสายน้ำรัวๆทำให้สายน้ำถึงกับต้องดิ้นหนีพร้อมกับหัวเราะคิกคักไปด้วย เพราะบางจังหวะก็โดนหนวดที่เพิ่งขึ้นใหม่ของพี่ชายทิ่มเอา
“เฮ้ยๆ พอๆ แก้มกับปากแฟนกูช้ำหมดแล้ว ไปไล่หอมไล่จูบแฟนมึงโน่น” เป็นวายุที่ทนไม่ไหวรีบลุกขึ้นมาคว้าร่างเล็กของแฟนตัวเองมาไว้ในอ้อมกอดอย่างหวงแหน ถึงแม้อีกคนจะเป็นพี่ชายก็เถอะ
“เฮ้ย!! น้องวามาได้ยังไงครับ” หินผาที่เพิ่งหันมาเห็นวาริก็กระเถิบถอยหลังไปจนชิดหัวเตียง
“มาตั้งแต่ตอนแรกๆที่น้องถามเลยครับ คิกๆ” สายน้ำเป็นฝ่ายตอบพี่ชายเองพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะตามมาด้วย
“เอ่อ งั้นน้องวาก็ได้ยินทั้งหมดเลยเหรอครับ” หินผาหน้าตาสลดลงทันทีที่ได้ยินน้องพูดตอบ
“ตัวเล็กครับเราไปกินข้าวกันเถอะครับ พี่เค้ายกมาให้แล้ว เดี๋ยวตัวเล็กจะปวดท้องเอานี่ก็เลยเวลามาตั้งเยอะแล้ว มึงมีอะไรก็เคลียร์ๆกันให้จบๆถ้ายังอยากจะคบกันและก็เที่ยวกันแบบมีความสุขอยู่” พูดจบวายุก็เดินโอบเอวสายน้ำออกไปทันทีโดยไม่ลืมที่จะปิดประตูและล็อกให้ด้วย
ทั้งห้องกลับมาเงียบอีกครั้งเมื่อต้องอยู่ในห้องกันสองต่อสอง หินผาก็ได้แต่นั่งก้มหน้าอย่างไม่รู้จะพูดอะไรดี เพราะเค้าไม่รู้ว่าตอนนี้คนตรงหน้าของเค้านั้นรู้สึกหรือว่ากำลังคิดอะไรอยู่ จะรู้สึกว่าเค้านั้นเห็นแก่ตัวรึเปล่าที่พอไม่ได้ดั่งใจก็หนีออกมาซะดื้อๆ
วาริตัดสินใจลุกขึ้นมานั่งบนเตียงใกล้กับหินผา
“วาขอโทษนะครับที่ทำให้พี่ผาต้องคิดมากคิดว่าวารังเกียจที่พี่ผาแสดงความรักกับวาแบบนี้ วาแค่เขินและอายก็เลยไม่รู้ว่าจะต้องแสดงออกหรือต้องทำยังไง” วาริพูดพร้อมกับมองจ้องเข้าไปในดวงตาเรียวยาว
“พี่ก็ต้องขอโทษน้องวาด้วยนะครับที่พี่อาจจะรุกน้องวาเร็วเกินไป พี่ขอโทษที่ทำให้น้องต้องไม่สบายใจทำให้น้องต้องอึดอัดใจเพราะพี่ เรามาเริ่มต้นกันใหม่นะครับ ต่อไปนี้พี่จะไม่เร่งรัดอะไรน้องวาอีก พี่พยายามจะเว้นระยะห่างขอ.........”
จุ๊บ!!!
ทันทีที่หินผากำลังจะพูดต่อ วาริก็ยื่นหน้ามาประกบจูบริมฝีปากบางของตัวเองเข้ากับริมฝีปากหนาทันที ปากเล็กพยายามที่จะขยับและขบเม้มในแบบที่หินผาเคยทำกับเค้า ลิ้นเล็กก็พยายามที่จะสอดแทรกเข้ามาในโพรงปากของคนตัวใหญ่
หินผาที่ตกใจกับการกระทำของแฟนตัวเองอยู่ก็เพิ่งหาสติของตัวเองเจอ เค้าเปิดปากให้ลิ้นเล็กของน้องได้เข้ามาชิมความหวานด้านใน ถึงแม้จะดูเก้ๆกังๆไม่ประสาแต่มันก็ช่วยให้เค้าเป็นสุขใจมากขึ้น
พอปล่อยให้น้องนำเกมไปได้สักพักหินผาก็กลับมาเป็นฝ่ายควบคุมเกมเอง ลิ้นหนาตวัดหยอกเย้าไล่ต้อนลิ้นเล็กและชิมความหวานไปทั่วโพรงปาก สองแขนโอบกอดร่างบางให้มาแนบชิดกับตัว
จ๊วบ! จ๊วบ!
เสียงดูดดึงแลกลิ้นดังไปทั่วห้องอย่างไม่มีใครยอมแพ้ใคร จนเมื่อร่างบางเริ่มที่จะหายใจไม่ทันหินผาจึงต้องถอนริมฝีปากออกอย่างแสนเสียดาย
แฮ่ก! แฮ่ก!
“ขอบคุณนะครับที่ไม่โกรธไม่เกลียดพี่ จุ๊บ!” หินผาพูดพร้อมกับกอดกระชับร่างบางและจูบลงไปที่ขมับเบาๆ
“วาไม่เคยคิดโกรธหรือเกลียดพี่ผาเลยนะครับ พี่ผาอย่าพูดแบบนี้อีกนะครับ แล้วก็อีกอย่างวาไม่เคยต้องอึดอัดเลยที่มีพี่ผาอยู่ใกล้ๆ วากลับรู้สึกอบอุ่นใจทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้กับพี่ผา วาอาจจะแสดงออกได้ไม่เก่งวาต้องรบกวนพี่ผาค่อยๆสอนวาด้วยนะครับ พี่ผาอย่าอยู่ห่างจากวาหรือคิดที่จะเว้นระยะห่างจากวาอีกนะครับ วาขอร้อง” วาริพูดพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมามองคนที่กอดเค้าไว้อยู่
“อย่าทำหน้าแบบนี้สิครับเดี๋ยวพี่จะอดใจไม่ไหวซะก่อน จุ๊บ!” หินผาพูดพร้อมกับมองแววตาอ้อนๆของคนในอ้อมกอดที่ตอนนี้มันน่าขย้ำเหลือเกิน
“อะไรเล่า วายังไม่ได้ทำอะไรเลยสักหน่อย” วาริพูดพร้อมกับก้มหลบสายตาแพรวพราวที่ส่งมาทันที
“หึๆ แค่น้องวามองหน้าพี่แบบเมื่อกี๊พี่ก็แทบจะอดใจไม่ไหวแล้วล่ะครับ”
“ตุบ! พี่ผาอ่ะ ชอบพูดให้วาเขินแบบเนี๊ยะ”
“ฮ่าๆๆ พี่ไม่แกล้งแล้วครับ ว่าแต่ว่าน้องวาครับ”
“ครับ พี่ผามีอะไรเหรอครับ” วาริถามขึ้นเมื่อเห็นคนตรงหน้าเริ่มมีน้ำเสียงจริงจังขึ้นมา
“ถ้าพี่จะขอหมั้นน้องวาไว้ก่อนจะได้มั้ยครับ พี่อยากทำอะไรให้มันถูกต้องมากกว่านี้ พี่ไม่อยากให้ใครมองน้องไม่ดี เพราะว่าน้องเองก็ย้ายมาอยู่ด้วยกันกับพี่ตั้งนานแล้วด้วย” มาคราวนี้เค้าตั้งใจที่จะมาคุยกับพ่อแม่ของน้องอยู่แล้ว เพราะเค้าขอดูแลน้องกับพ่อแม่ของน้องตั้งแต่วันแรกที่เค้าขอวาริเป็นแฟน พ่อแม่ของน้องก็เข้าใจและไม่ได้ว่าอะไร แถมยังฝากฝังให้ช่วยดูแลน้องให้ดีด้วย
“ก็แล้วแต่พี่ผาสิครับ” วาริได้แต่ก้มหน้าก้มตาตอบเพื่อหลบความเขินอาย
“แล้วน้องวาอยากหมั้นกับพี่มั้ยครับ หืมมม” หินผาพูดพร้อมกับก้มเอาจมูกคมปัดป่ายไปมาอยู่แถวแก้มใสที่ตอนนี้เริ่มเป็นสีแดงขึ้นเรื่อยๆ
“ถึงขนาดนี้แล้วยังจะต้องถามอีกเหรอไงเล่า ไม่คุยกับพี่ผาแล้ววาออกไปกินข้าวกับพี่น้ำดีกว่า แบร่!” พูดจบวาริก็รีบลุกขึ้นและเดินไปเปิดประตู ก่อนไปยังไม่วายหันมาแลบลิ้นปลิ้นตาหลอกคนพี่ ทิ้งให้หินผานั้นนั่งยิ้มอยู่บนเตียงคนเดียว
Comments (0)