35 ตอน เทศกาลสอบ
โดย Beloved_Moouan
“เฮ้อออ!! เมื่อยชะมัดเลย พี่ผาจ๋าขอน้องพักแป๊บหนึ่งได้มั้ยครับ ขาน้องเป็นเหน็บชาไปหมดแล้วครับ” สายน้ำหันตัวไปนั่งพิงโซฟาพร้อมกับยืดขาออกมาบีบๆนวดตามน่องไปด้วย
ตอนนี้กลุ่มของสายน้ำทั้งหมดมารวมตัวกันติวหนังสือสอบที่ห้องของวายุ เพราะอาทิตย์หน้าก็จะเริ่มสอบแล้ว วันนี้พวกเค้าและพี่ๆไม่มีเรียนเลยพากันมารวมตัวกันโดยมีหินผาและวายุคอยผลัดกันติวให้
“ตัวเล็กเป็นอะไรครับ” วายุที่เพิ่งเดินออกมาจากครัวเห็นคนตัวเล็กของเค้านั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดพร้อมกับใช้มือบีบนวดตามน่องไปด้วย เจ้าตัวจึงหย่อนตัวลงไปนั่งอยู่ข้างหน้าของน้อง
“ขาน้องเป็นเหน็บชาน่ะครับ สงสัยนั่งทับกันนานไปหน่อย”
“มาครับพี่นวดให้” วายุพูดพร้อมกับยกขาของน้องขึ้นพาดไว้บนตักตัวเอง
“ไม่เป็นไรครับพี่กาย เดี๋ยวน้องทำเองครับ โอ๊ย!” สายน้ำรีบชักขาออกมาแทบจะทันทีที่เห็นวายุเอาขาเค้าไปวางพาดบนตัก แต่ก็ต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บ
“อย่าดื้อครับตัวเล็ก แค่นี้เองครับพี่ไม่ถือหรอกเราเป็นแฟนกันนะ” วายุพูดดุน้องแต่มือก็ยังค่อยๆบีบนวดให้ ไล่จากนิ้วเท้าไปจนเกือบถึงเข่า
“อิจฉาน้ำจังมีคนนวดให้ด้วยอ่ะ” เบลพูดพร้อมกับยืดแข้งยืดขาเพราะตัวเธอเองก็เมื่อยเหมือนกัน
“เดี๋ยวถ้าพี่เหนือมาถึงน้ำจะบอกพี่เหนือให้นะว่าเบลอยากมีคนนวดให้ คิกคิก” สายน้ำพูดพร้อมกับหัวเราะคิกคัก พลอยเรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับทุกคนที่ค่อนข้างตึงเครียดกับการติวเข้มกันมา
“น้ำเดี๋ยวเถอะนะ เดี๋ยวนี้ตั้งแต่มีแฟนแล้วปากคอเราะร้ายขึ้นนะเราน่ะ” เบลพูดพร้อมกับทำท่าจะยกมือขึ้นตีสายน้ำ พอสายน้ำเห็นดังนั้นจึงรีบขยับตัวไปนั่งข้างๆวายุทันที
“หึๆ มานี่ครับตัวแสบ ฟอด!” วายุจับตัวน้องขึ้นมานั่งตักแล้วก็ฟัดลงไปที่แก้มนุ่มเสียงดังด้วยความมันเขี้ยวที่นับวันแฟนเค้าก็จะยิ่งแสบขึ้นเรื่อยๆ
“โว๊ะ! เฮียผาทำไมห้องนี้มดมันเยอะจังเลยครับฮะ กัดผมจนเจ็บไปหมดแล้วเนี่ย”
“หึๆ มึงก็หาสักคนสิจะได้ไม่ต้องมานั่งอิจฉาเค้า” หินผาหันไปบอกรุ่นน้อง
“ไม่อ่ะ ผมมีเฮียผาเป็นไอดอลนะจะบอกให้ผมจะอยู่ครองโสดอย่างมีคุณค่าแบบเฮีย เดือนมหา'ลัยอย่างผมจะอยู่แบบโสดๆให้สาวๆเสียดายเล่น” ใช่แล้วการประกวดดาวเดือนมหา'ลัยที่ผ่านมาอิฐได้ตำแหน่งเดือนมหา'ลัยมาครองด้วยการนับคะแนนจากดอกกุหลาบอย่างท่วมท้น ด้วยรูปร่างที่ค่อนข้างสูงใหญ่ หน้าตาคมเข้ม ผิวขาว เรียกได้ว่าเป็นดาราหรือนายแบบได้อย่างสบายๆ ทำให้ตอนนี้เดินไปไหนมาไหนก็มีทั้งสาวน้อยสาวใหญ่ส่งสายตาระยิบระยับเชิญชวนมาให้เค้าตลอดทาง แต่อิฐก็ไม่ได้สนใจแต่อย่างใด บุคลิกภายนอกอิฐอาจจะดูเป็นคนขี้เล่นเมื่ออยู่ในกลุ่มของตัวเองหรืออยู่กับแก๊งรุ่นพี่ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เค้าต้องอยู่คนเดียวหรือต้องพูดต้องคุยกับคนอื่นเค้าก็จะวางตัวให้เหมาะสมกับสถานการณ์นั้นๆ เค้าจะไม่ให้ความสนิทสนมกับใครเป็นพิเศษและจะไม่ให้ความหวังใครเช่นกัน
“เออ แล้วกูจะคอยดูไอ้หล่อไอ้เดือนมหา'ลัย” หินผาพูดกับรุ่นน้องที่ชอบพร่ำบอกว่ามีเค้าเป็นไอดอลอย่างนั้นอย่างนี้ เอาจริงๆเค้าก็ไม่ได้อยากจะครองโสดแบบนี้ไปตลอดหรอก แต่ทำไงได้ก็มันยังไม่เจอคนที่ใช่นี่หว่า หินผาหันไปมองเพื่อนสนิทกับน้องชายของเค้าที่นั่งหยอกล้อกันอยู่อย่างมีความสุขก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ ถ้าถึงเวลาก็คงจะเจอคนที่ใช่เองนั่นแหละเหมือนอย่างกับเพื่อนของเค้าที่ไม่เคยสนใจใครไม่เคยมองใครมาเกือบทั้งชีวิตแต่กลับมาตกหลุมรักน้องเค้าตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น
อ๊อด! อ๊อด!
“เดี๋ยวกัสไปเปิดให้เองครับ พวกพี่ไฟคงจะมากันแล้ว”
“ไงครับหิวรึยังครับ ฟอด!” ทันทีที่ออกัสเปิดประตู ไฟที่เข้ามาเป็นคนแรกก็เอ่ยถามแฟนตัวเองพร้อมกับก้มลงหอมแก้มฟอดใหญ่
“โว๊ะ! วันนี้มันวันอะไรวะวันน้ำตาลน้ำเชื่อมหกรึยังไงวะ เฮียดินมานั่งนี่มา ไอ้เบลเคลียร์สถานที่เลยกูเริ่มหิวแล้ว” เป็นอิฐที่โวยวายขึ้นเมื่อเห็นคู่รักอีกคู่โผล่เข้ามาถึงก็ทำหวานใส่กันเลย ไอ้เพื่อนสองคนของเค้าก็ไม่คิดที่จะรักนวลสงวนตัวกันเลย อีกคนก็นั่งให้เค้ากอดเค้าหอม ส่วนอีกคนก็ยืนให้เค้าลูบหน้าลูบหัวหอมแก้มอยู่ได้ ไอ้อิฐเครียดโว้ย
“มึงเป็นอะไรวะไอ้อิฐ โมโหหิวรึไงมึง พวกกูก็ไม่ได้ไปกันนานเลยนะ” ดินพูดพร้อมกับวางของกินลงบนโต๊ะญี่ปุ่นตัวใหญ่
“หึๆ ไอ้อิฐมันโรคขี้อิจฉากำเริบน่ะ เมื่อกี๊ก็รอบหนึ่งแล้ว พอไอ้ไฟมามันเลยกำเริบขึ้นมาอีกรอบ” หินผาหันไปบอกดินที่ทำหน้างงกับอาการของรุ่นน้องอยู่
“อ๋อ กูก็ว่าเรื่องอะไร มาเดี๋ยวกูหอมแก้มมึงให้มาน้องรัก” ดินพูดพร้อมทำท่าจะยื่นหน้าไปหาอิฐ
“เฮ้ยๆๆเฮีย เดี๋ยวฟ้าก็ได้ผ่าตายกันพอดีตัวอย่างกับหมีควายด้วยกันทั้งคู่ ไปไกลๆผมเลยไป หยึ๋ยยย~ ขนลุกฉิบหายเลยว่ะ” อิฐพูดพร้อมกับผลักหน้าดินออกมือก็ลูบแขนที่ขนลุกไปด้วย
“ฮ่าๆๆๆๆ” ท่าทางของดินและอิฐทำให้เรียกเสียงหัวเราะได้ลั่นห้องเลยทีเดียว
“น้องเบลจ๋า หิวรึยังครับพี่เหนือซื้อผัดไทยเจ้าโปรดมาให้ด้วยนะ” เหนือพูดพร้อมกับโชว์ห่อผัดไทยให้ดู
“ว้าววว~ จริงเหรอคะ พี่เหนือนี่รู้ใจเบลที่สุดเลย ขอบคุณนะคะ” นับตั้งแต่วันที่เหนือกับเบลตกลงว่าจะคุยกันดูกันไปเรื่อยๆก่อนนี่ก็ผ่านมาได้เกือบเดือนแล้ว และตอนนี้ทั้งคู่ก็ได้ตกลงคบหาเป็นแฟนกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย โดยการที่เหนือนั้นทำเซอร์ไพรส์ชวนน้องไปทานข้าวที่ร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมกับขึ้นไปร้องเพลงบนเวทีและขอเบลเป็นแฟนประกาศออกไมค์เลยทีเดียว พอเบลตกลงเป็นแฟนด้วยเรียบร้อย เพื่อนๆที่คอยยืนลุ้นกันอยู่หลังเวทีก็ออกมาแสดงความยินดีและเลี้ยงฉลองให้คู่รักคู่ใหม่ไปพร้อมกัน
“ไหนรางวัลล่ะคะ” เหนือทำท่ายื่นแก้มแล้วทำแก้มพองๆเข้าไปใกล้ๆน้อง
จุ๊บ!
“พอใจรึยังคะพี่เหนือ” เป็นอิฐที่แอบย่องมาข้างหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ยื่นหน้ามาจุ๊บแก้มเหนือแทนลูกพี่ลูกน้องของตนเอง
“ไอ้เหี้ยอิฐ ไอ้น้องเลว ไอ้ๆๆๆ มึงมานี่เลยนะมาให้กูกระทืบซะดีๆ” เหนือที่พูดด่าอิฐก็ยกมือขึ้นมาถูแก้มตัวเองข้างที่ถูกอิฐหอมไปด้วยจนแดง
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ” ทุกคนพาหัวเราะให้กับภาพที่เห็นคือเหนือวิ่งไล่เตะอิฐแต่ก็ไม่ถูกซะที เนื่องจากอิฐนั้นมีความไวพอตัว
“แฮ่กๆๆๆ พอก่อนเฮียพักก่อนผมเหนื่อยแล้ว” อิฐที่วิ่งไปแอบหลังดินและหินผาร้องบอกขึ้น
“แฮ่กๆๆๆ เออกูฝากไว้ก่อนเถอะมึง เดี๋ยวกูจะหากะเทยมาไล่ปล้ำมึงคอยดูไอ้น้องเลว” เหนือที่วิ่งไล่อิฐจนหน้าดำหน้าแดงพูดพร้อมกับชี้หน้าคาดโทษรุ่นน้องไปด้วย
“น้ำค่ะพี่เหนือ คิกคิก” เบลยื่นน้ำให้กับเหนือทันทีที่เหนือนั่งลงข้างๆเธอ
ฟอด!
“โทษฐานที่หัวเราะพี่ หึๆ” เหนือยกยิ้มพร้อมกับยักคิ้วส่งไปให้คนที่นั่งหน้าแดงอยู่
“ตัวเล็กหิวข้าวรึยังครับ” วายุที่ละสายตาจากเพื่อนๆหันมาถามคนตัวเล็กของเค้าที่ตอนนี้นั่งหัวเราะคนนู้นทีคนนี้ทีอย่างชอบใจอยู่บนตักของเค้า ตอนแรกๆที่วายุจับคนตัวเล็กมานั่งตักต่อหน้าเพื่อนๆหรือคนในมหา'ลัยคนตัวเล็กก็มีท่าทีอิดออดเขินอาย แต่พอหลังๆมานี่เค้านั้นทำบ่อยๆเข้าเลยกลายเป็นความเคยชินของคนทั้งคู่ แรกๆเพื่อนๆในกลุ่มหรือคนในมหาลัยก็มีล้อๆหรือมองมาด้วยความอิจฉาปนเขินกันบ้างแต่ตอนนี้กลับกลายเป็นภาพชินตาของใครหลายๆคนไปซะแล้ว
“อืม~ เริ่มหิวแล้วเหมือนกันครับ สงสัยจะใช้พลังงานเยอะไปหน่อย แหะๆ” สายน้ำพูดพร้อมกับยกมือขึ้นมาลูบท้องตัวเองไปด้วย
“หึๆ งั้นก็ลุกครับเดี๋ยวพี่ดูให้ว่าไอ้พวกนี้ซื้ออะไรมาให้กิน”
“งั้นเดี๋ยวน้องไปช่วยด้วยครับ”
“เดี๋ยวกัสช่วยนะครับ” ออกัสที่ยืนคุยอยู่กับไฟเมื่อเห็นวายุและสายน้ำกำลังหอบหิ้วถุงกับข้าวเข้ามาในครัวก็รีบอาสามาช่วยเทกับข้าวด้วยคน และแน่นอนเมื่อมีออกัสก็ต้องมีไฟตามเข้ามาด้วย
“ว้าววว น่ากินทั้งนั้นเลยนะเนี่ย มีกุ้งแชบ๊วยทอดซีอิ๊วของโปรดน้องด้วย พี่กายสั่งมาให้น้องเหรอครับ” สายน้ำถึงกับตาโตที่เห็นเมนูโปรดของตัวเอง
“ครับ พี่เห็นว่าตัวเล็กไม่ได้กินนานก็เลยให้ไอ้พวกนี้ไปซื้อกับข้าวที่ร้านนั้นเลยทีเดียว แต่คืนนี้ต้องมีรางวัลสำหรับคนรู้ใจให้พี่นะครับ” ประโยคหลังวายุเข้ามากระซิบเบาๆที่ข้างหูของสายน้ำพร้อมกับขบเม้มเบาๆลงไปที่ติ่งหูก่อนที่จะใช้ปากไล่เม้มลงมาที่ซอกคอ
“พะ พี่กายทะลึ่ง คนบ้าไม่คุยด้วยแล้ว หึ่ย~” พอพูดว่าคนพี่เสร็จเจ้าตัวก็เดินหน้าแดงออกไปทันที คนพี่ได้แต่ยืนยิ้มให้กับอาการเขินของน้องที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไหร่คนตัวเล็กของเค้าก็ยังมีหลุดอาการเขินออกมาให้ได้เห็นเรื่อยๆ
“อ้าว น้ำไปไหนล่ะครับพี่วายุ” ออกัสที่หันมาไม่เห็นเพื่อนก็เอ่ยถาม
“คงไปเข้าห้องน้ำมั้งครับ” วายุตอบรุ่นน้องกลับไปเสียงนิ่ง
“พี่ผา น้องนั่งด้วยคนครับ อิฐขยับไปหน่อยสิ” สายน้ำพูดพร้อมกับพาตัวเองมานั่งแทรกระหว่างกลางหินผากับอิฐ
“เอ้าๆ อะไรของน้ำเนี่ย เมื่อกี๊ยังเห็นงุ๊งงิ๊งกันเข้าไปในครัวอยู่เลยงอนกันแล้วเหรอ” อิฐพูดพลางมองหน้าแดงๆของเพื่อนตัวเล็ก
“ไม่ได้งอนซะหน่อยใครบอกว่างอนเล่า” สายน้ำที่พูดไปก็ขยับลุกขึ้นไปนั่งตักหินผาพร้อมกับซบหน้าที่ยังแดงไม่หายลงกับอกอุ่นของพี่ชาย
“หึๆ แล้วไอ้วายุมันทำอะไรให้น้องพี่เขินขนาดนี้ครับ หืม ฟอด!” หินผาถามขึ้นพร้อมก้มลงไปหอมหัวทุยของน้อง สายน้ำได้แต่ส่ายหน้าไปมาอยู่กับอกของคนพี่
“น้องน้ำนี่น่ารักเหมือนหมากระเป๋าเลยว่ะ ตัวเล็กตัวน้อยมาก คนอุ้มคงจะไม่รู้สึกอะไร ขนาดไอ้วายุมันเอานั่งตักนานๆกูก็ยังเห็นมันลุกขึ้นเดินได้เฉยเลย” ดินพูดพร้อมกับมองคนที่นั่งซุกอกเพื่อนอยู่ยิ้มๆ
“อืออ เบาฉิบไม่รู้กินแล้วเอาไปไว้ไหนหมดกินก็เก่งแต่ไม่อ้วนตั้งแต่เด็กแล้ว” หินผาพูดพร้อมกับลูบผมน้องที่เริ่มยาวปะบ่าเล่นไปด้วย
“มาแล้วๆ กับข้าวร้อนๆมาแล้วครับ” พอผ่านไปสักพักก็เป็นออกัสที่ยกกับข้าวที่อุ่นเสร็จแล้วเข้ามาคนแรก
“อ้าวหลับเหรอวะ” วายุที่ยกกับข้าวตามหลังมาถามขึ้นเมื่อเห็นตัวเล็กของเค้านั่งนิ่งซบอกพี่ชายอยู่
“ไม่นะเมื่อกี๊ยังคุยกันอยู่ น้องน้ำครับๆ” หินผาลองเรียกน้องเบาๆ
“เออว่ะสงสัยหลับ มึงเดินมาดูดิ๊” หินผาเรียกให้เพื่อนตัวเองเดินมาดูคนขี้เซา
“ตัวเล็กครับกินข้าวครับ เดี๋ยวจะปวดท้องเอานะ” วายุสะกิดเรียกน้องเบาๆ
“อื้อ ครับๆ” สายน้ำครางรับในลำคอพร้อมกับพยายามลืมตา
“ไปครับเดี๋ยวพี่พาไปล้างหน้าล้างตาก่อนจะได้ตื่น” วายุอุ้มคนตัวเล็กขึ้นมาในท่าอุ้มเด็ก โดยที่สายน้ำก็รู้งานโดยใช้สองขาหนีบเอวคนพี่ไว้แน่น มือก็กอดคอไว้กันตกและซุกหน้าเข้ากับไหล่กว้าง
“เลี้ยงง่ายฉิบหาย กูจะไปหาแบบนี้ได้จากที่ไหนอีกวะ” ดินพูดพึมพำเหมือนกับบ่นกับตัวเองมากกว่า หินผาที่ได้ยินเพื่อนพูดก็ส่ายหน้ายิ้มๆ เค้าเองก็คิดเช่นเดียวกันกับเพื่อนเหมือนกัน ถ้าเค้ามีแฟนเค้าคงจะอยากได้แฟนที่เหมือนน้องชายของเค้าล่ะมั้ง ที่มีนิสัยอ่อนโยน เค้าไม่ชอบคนที่ดูเจนโลกมากเกินไปแต่ก็ต้องไม่ดูซื่อจนไม่รู้เรื่องอะไรเลย อีกอย่างเค้าชอบให้มีคนมาคอยออดอ้อนเพราะตั้งแต่เด็กเค้าก็เป็นคนต้องดูแลเทคแคร์เอาอกเอาใจสายน้ำมาตลอดแต่ก็เป็นสิ่งที่เค้าเต็มใจทำทั้งสิ้น มันก็เลยกลายเป็นความเคยชิน พอไม่มีน้องมาคอยอ้อนอยู่ใกล้ๆก็เหมือนกับชีวิตขาดอะไรไปสักอย่าง เค้าไม่ซีเรียสว่าแฟนของเค้าจะต้องเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายขอแค่เป็นคนที่ใช่และเข้าใจกันก็พอ
เมื่อทุกคนกินข้าวกันเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลามานั่งติวกันต่อ โดยมีวายุและหินผาคอยสลับผลัดเปลี่ยนกันเหมือนเดิม จานชามก็ตกเป็นหน้าที่ดินและเหนือที่ต้องล้างไป
“ฮือ ทำไมมันยากอย่างนี้ล่ะคะพี่ผา พี่วายุ ที่ให้ข้อสอบมานี่มันคือวิชาเรียนของปี 1 จริงๆใช่มั้ยคะ” เบลถึงกับร้องโอดครวญออกมาเมื่อวายุและหินผาลองให้ทำแบบทดสอบที่พวกเค้าร่างขึ้นมาเป็นข้อๆดู
“ของจริงอาจจะยากกว่านี้ก็ได้นะครับ หึๆ” หินผาพูดพร้อมกับยื่นมือไปขยี้ผมน้องสาวคนใหม่ของตัวเอง
“ตัวเล็กพอทำได้มั้ยครับ” วายุเอ่ยถามคนที่กำลังก้มหน้าก้มตาเขียนอะไรยิ๊กๆ ลงในแบบทดสอบ
“โหย~ เฮียไม่ต้องไปห่วงหรอกครับรายนั้นน่ะ สงสัยเจ้าจะประทับทรงเรียบร้อยแล้วล่ะครับ” เป็นอิฐที่ตอบคำถามแทนเพื่อน
“หือ?” วายุ หินผาและไฟอุทานขึ้นพร้อมกัน
“คืออย่างนี้ค่ะเวลาเข้าเรียนทีไร น้ำจะไม่สนใจใครเลยค่ะใครถามก็ไม่ตอบ นอกจากจะสนใจอาจารย์ที่กำลังสอนคนเดียว เรียกได้ว่าตัดขาดโลกภายนอกไปเลย ต้องได้ยินเสียงออดหมดเวลาก่อนค่ะน้ำถึงจะหันมาคุยด้วย พวกเราก็เลยตั้งฉายาให้ว่าเจ้าประทับทรงค่ะ” เบลเป็นคนอธิบายไขข้อข้องใจให้กับพี่ๆทุกคนรวมทั้งดินและเหนือที่ล้างจานชามเสร็จพอดี
“หึๆ อย่างนั้นเหรอครับ” วายุพูดพร้อมกับลูบผมนุ่มของคนน้องที่ตอนนี้กำลังทำท่าครุ่นคิดอะไรบางอย่าง พอคิดได้ก็ยิ้มออกมาแล้วลงมือเขียนทันที
“น้องน้ำเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เด็กแล้วครับ ถ้าเรื่องเรียนล่ะก็สบายใจหายห่วงได้เลย เห็นอย่างนี้น้องน้ำความจำค่อนข้างดีเรียนเก่งมาตั้งแต่เด็กแล้วนะ สอบทีไรไม่เคยหลุดจากที่ 1 หรือที่ 2 เลย” หินผาได้ทีพูดอวดความเก่งของน้องตัวเองให้รุ่นน้องและเพื่อนๆได้ฟัง เพราะนี่คืออีกหนึ่งอย่างที่เค้าแสนจะภาคภูมิใจในตัวของน้องชายเค้าคนนี้
ปึก!
“เย้ๆ เสร็จแล้ว น้ำทำเสร็จแล้วๆ” ระหว่างที่ทุกคนกำลังให้ความสนใจกับหัวข้อที่หินผากำลังพูดอยู่สายน้ำก็วางปากกาลงพร้อมกับส่ายตัวดุ๊กดิ๊กไปมาด้วยความดีใจ
“ห๊ะ!! / ห๊ะ!! / ห๊ะ!!” เบล ออกัส และอิฐร้องขึ้นแทบจะพร้อมกันเพราะพวกเค้ายังไปไม่พ้นข้อแรกกันเลย แต่นี่สายน้ำกลับทำเสร็จ 20 ข้อแล้ว
“ตกใจอะไรกันเหรอ น้ำทำอะไรผิดเหรอครับ” สายน้ำที่เห็นเพื่อนทำท่าตกใจก็เอ่ยถามเพื่อน พร้อมกับหันไปถามประโยคหลังกับแฟนตัวเองที่นั่งอยู่ข้างๆ
“หึๆ ไม่มีอะไรหรอกครับ ตัวเล็กเก่งที่สุดเลยครับ ฟอด!” วายุยิ้มให้กับคนตัวเล็กของเค้าพร้อมกับอุ้มน้องมานั่งตักแล้วหอมแก้มเป็นการให้รางวัลคนเก่ง
“ไหนพี่ขอตรวจก่อนนะครับ” วายุหยิบแบบทดสอบของน้องมาตรวจดูปรากฏว่าคนตัวเล็กของเค้าเก่งสมคำคุยของพี่ชายจริงๆเพราะน้องทำถูกหมดทุกข้อไม่มีผิดแม้แต่ข้อเดียว
“เป็นไงน้องกูเก่งใช่มั้ยล่ะ” หินผาถามพร้อมกับยักคิ้วให้กับเพื่อนตัวเอง
“ไหนกูดูดิ๊” ไฟยื่นมือมาดึงแบบทดสอบของสายน้ำจากมือของวายุ ทำให้ดินและเหนือเขยิบเข้ามาดูด้วย
“ป้าดโธ่! เจ๋งจริงว่ะ” เหนือพึมพำขึ้นมาเบาๆเพราะเค้าเห็นสายน้ำทำยังไม่ถึง 10 นาทีเลย เท่ากับว่าข้อหนึ่งน้องทำยังไม่ถึง 2 นาทีด้วยซ้ำไป
“น้องเบลของพี่เหนือต้องอย่ายอมแพ้น้องลักยิ้มนะครับ” เหนือเห็นดังนั้นก็เขยิบมานั่งใกล้ๆแฟนตัวเองทันที
“แพ้เพ้ออะไรล่ะคะ นี่ข้อแรกเบลยังคิดไม่ออกเลย พี่เหนือไปนั่งไกลๆได้มั้ยคะคนยิ่งคิดไม่ออกอยู่”
“อ้าวววว” เหนือถึงกับเกาหัวตัวเองแกรกๆเมื่อเจอเบลเหวี่ยงกลับมา เจ้าตัวจึงทำท่างอนแล้วขยับขึ้นไปนั่งบนโซฟาแทน แต่เบลที่กำลังคิดไม่ตกกับแบบทดสอบอยู่ก็หาได้สนใจไม่
ทุกคนได้แต่นั่งอมยิ้มให้กับภาพที่เห็นแต่ก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมา
“เฮ้อ! เสร็จสักที” เบลที่ร้องออกมาพร้อมกับออกัสถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่กว่าจะเสร็จหินผาก็ต้องวนอธิบายให้อีก 2 รอบถึงจะทำกันได้
“เอาล่ะครับวันนี้พอแค่นี้ก่อนก็แล้วกันนะครับ ไว้วันเสาร์เราค่อยมาติวกันอีกที เพราะกว่าจะสอบก็วันอังคารกันใช่มั้ยครับ” หินผาที่วันนี้เห็นว่าน้องๆคงจะเหนื่อยกันแล้วก็เลยยุติการติวลงแต่เพียงเท่านี้ก่อน
……………………………..
“สาธุ สาธุ สาธุ ขอให้ทำได้ ขอให้ทำได้ด้วยเถิด สาธู้~” ตอนนี้สายน้ำ ออกัส เบลและอิฐ ได้มายืนอยู่หน้าห้องสอบแล้วเพราะวันนี้เป็นที่พวกเค้ามีสอบวันแรก แต่ทว่าทุกสายตากำลังหันมาให้ความสนใจเบลที่กำลังพึมพำพร้อมกับยกมือไหว้ท่วมหัวอยู่
“ฮ่าๆๆ ถ้าทำแบบนี้แล้วมันจะสอบได้จริงๆเหรอ” สายน้ำถึงกับเอามือไปกุมที่ท้องตัวเอง เพราะอดที่จะขำไม่ไหวจริงๆกับท่าทางและคำขอของเพื่อน
“น้ำอ่ะอย่าขำเราสิ นี่คือที่พึ่งทางเดียวที่เหลืออยู่ของเราเลยนะ” เบลบอกเพื่อนด้วยหน้าตาที่จริงจัง จนกระทั่งถึงเวลาเข้าห้องสอบทุกคนก็แยกย้ายกันเข้าไปนั่งประจำที่
“เป็นยังไงครับทำได้มั้ยครับ” วายุเมื่อเห็นน้องลงมาจากตึกด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มก็รีบเดินไปหาทันที
“คิดว่าได้นะครับ แต่ว่ามีประมาณ 2-3 ที่น้องไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่น่ะครับ” สายน้ำพูดพร้อมกับเดินตามแรงโอบเอวของคนพี่ไปด้วย
“หึๆ แค่นี้แฟนพี่ก็เก่งมากแล้วครับ เดี๋ยวถ้าสอบเสร็จพี่มีรางวัลให้คนเก่งด้วยนะครับ”
“จริงนะครับ พี่กายห้ามหลอกน้องนะ” สายน้ำพูดพร้อมกับนั่งลงตักคนพี่ด้วยความเคยชิน
“ครับผม แล้วนี่ตอนบ่ายยังมีสอบอีกหนึ่งวิชาใช่มั้ยครับ”
“ใช่ครับ แต่ว่าวิชานี้ไม่น่ายากเหมือนเมื่อเช้าครับ สบายมาก”
“น้องเบลทำได้มั้ยครับ” เหนือที่เห็นแฟนนั่งคุยกับออกัสเรื่องข้อสอบอยู่ก็เอ่ยถามขึ้น
“อือ คิดว่าคงได้มั้งคะ” เบลทำท่าคิดแล้วตอบเหนือไปด้วย
“เฮียไม่ต้องห่วงไอ้เบลมันหรอกครับ รายนั้นเค้ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยช่วยอยู่”
“คืออะไรวะ” เหนือกับดินถามขึ้นเกือบจะพร้อมกัน
“นี่ไงเฮีย” อิฐยื่นมือถือที่เค้าได้ถ่ายวีดีโอของลูกพี่ลูกน้องตัวเองไว้ให้กับเหนือ
“ฮ่ๆๆๆๆ” เหนือกับดินหัวเราะออกมาพร้อมกันเมื่อได้ดูคลิป ทำให้ทุกคนในโต๊ะที่กำลังคุยกันถึงกับหันมามอง รวมถึงนักศึกษาคนอื่นๆที่เดินผ่านไปผ่านมาด้วย
“พี่เหนือ อย่ามาหัวเราะเบลนะ” เบลที่เห็นเหนือนั่งหัวเราะตัวเองในคลิปอยู่ถึงกับโกรธหน้าดำหน้าแดง ใครจะหัวเราะเธอก็ได้แต่ต้องไม่ใช่คนที่เธอเรียกว่าแฟน พอพูดเสร็จเบลก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปทันที
“ซวยแล้วไอ้เหนือ เบลจ๋าพี่เหนือขอโทษ” พอตั้งสติได้ว่าทำให้แฟนโกรธเหนือก็รีบวิ่งตามทันที
“หมดกันไอ้เสือเพื่อนกู” ดินมองดูเพื่อนที่วิ่งตามก้นแฟนต้อยๆถึงกับต้องส่ายหัว
“เออแล้วนี่สอบเสร็จมึงจัดงานหมั้นเลยเหรอวะ แล้วจะจัดที่ไหนวะ” เมื่อคุยกับแฟนตัวเองเสร็จไฟก็หันมาถามเพื่อนที่กำลังอยู่ในโลกส่วนตัวอยู่
“สอบเสร็จประมาณสองอาทิตย์ คงจัดที่บ้านน้องเพราะไม่ได้เชิญใครมาก เชิญแค่ญาติๆแล้วก็ผู้ใหญ่ที่พ่อแม่กูแล้วก็ป๊าม๊าสนิทด้วยเท่านั้น”
“มีอะไรให้ช่วยก็บอกแล้วกัน” ดินบอกกับเพื่อนออกไปเมื่อรู้กำหนดการ
“เร็วว่ะ แป๊บๆก็จะผ่านไปเทอมหนึ่งแล้ว เดี๋ยวปีหน้าพวกเราก็ต้องฝึกงานแล้วก็จะจบกันแล้ว” อยู่ๆไฟก็พูดขึ้นมา
“เออเร็วฉิบหายเลย กูยังไม่อยากทำงานเลยเนี่ย” ดินพูดขึ้นเพราะเค้าก็ต้องไปช่วยพี่สาวดูแลงานที่โรงแรมเหมือนกัน เพราะพ่อกับแม่เค้าจะดูแลแค่รีสอร์ตที่ปราณบุรีเพียงอย่างเดียวนอกนั้นก็ยกให้พี่สาวและเค้าช่วยกันดูต่อทั้งหมด
“เออกูว่าจะถามมึงตั้งนานแล้ว ว่าชั้นที่มึงอยู่มีทั้งหมด 4 ห้องใช่มั้ยวะ” ไฟที่เพิ่งนึกออกก็เอ่ยถามวายุ
“อือ ทำไมวะ”
“ยังว่างอยู่มั้ยวะ กูว่าจะขายห้องที่กูอยู่ตอนนี้ทิ้ง แล้วก็ซื้อห้องใหม่ที่อยู่ชั้นเดียวกับมึง”
“น่าจะยังว่างอยู่เดี๋ยวกูถามให้ แล้วคิดยังไงถึงจะย้าย” คอนโดที่วายุอยู่เป็นของเพื่อนพ่อมีทั้งหมด 39 ชั้นด้วยกัน ชั้นที่เค้าอยู่คือชั้นบนสุด และมีแค่ 4 ห้องเท่านั้น ห้องของเค้ามีขนาดที่กว้างมากเรียกได้ว่าพื้นที่ใช้สอยเหลือเฟือกันเลยทีเดียว และด้วยราคาที่ค่อนข้างแพงจึงทำให้ห้องยังคงว่างอยู่
“กูกลัวว่าตอนที่พวกเราต้องฝึกงานกันกัสจะเหงาว่ะ แล้วอีกอย่างระบบรักษาความปลอดภัยก็สู้ของมึงไม่ได้ด้วย ถ้าย้ายมาอยู่ที่เดียวกันเวลากูไปฝึกงานกูก็ไม่ต้องเป็นห่วงเป็นกังวลมาก อีกอย่างกัสก็สามารถไปอยู่กับน้องน้ำได้อีกด้วย” ไฟพูดอธิบายให้เพื่อนได้ฟัง
“เออก็ดี ตัวเล็กจะได้มีเพื่อน งั้นมึงบอกขายได้เลยเดี๋ยวกูจัดการให้”
“อ้าวๆ แล้วกูล่ะ” ดินพูดพร้อมกับชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง ไฟได้แต่ยักไหล่ให้ไป
“ไอ้เพื่อนเวรทิ้งกู มึงดูให้กูด้วยไอ้วายุ แล้วมึงไอ้ไฟมึงจัดการบอกขายให้กูด้วยโทษฐานที่คิดจะทิ้งกู”
“อะไรกันวะใครทิ้งใครวะ” เหนือที่เดินมาพร้อมกับเบลที่บัดนี้มีทั้งกาแฟ น้ำขนมเต็มไม้เต็มมือไปหมดเอ่ยถามขึ้นเมื่อได้ยินที่ดินพูด
“ก็ไอ้ไฟมันจะย้ายไปอยู่ที่เดียวกันกับไอ้วายุ กูก็เลยจะย้ายตามไปด้วย” ดินบอกให้เหนือได้รู้
“อ้าวได้ไงวะพวกมึงย้ายไปอยู่ด้วยกันหมดแล้วกูล่ะ” เหนือพูดโวยวายขึ้นมาทันทีที่ได้รู้ข้อมูลจากเพื่อน
“ไอ้เหนืออย่างกับว่าตอนนี้มึงอยู่กับพวกกูเน๊าะ ที่กูย้ายตามมันไปเพราะกูไม่อยากขับรถเองโว้ยกูเลยจะตามไปเกาะมันเป็นปลิงอยู่แบบนี้แหละ”
“ทำอย่างกับถ้ามึงทำงานแล้วมึงจะไม่ต้องขับรถเองงั้นสิ” ไฟถามเพื่อนตัวเองขึ้นอย่างหมั่นไส้เพราะดินตามเกาะติดเค้าตั้งแต่ปี 1 แล้ว
“นั่นมันก็ตอนทำงานโว้ย แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ทำ ไม่รู้ล่ะพวกมึงสองคนจัดการให้กูด้วย” ดินพูดตอบกลับอย่างไม่ยอม
“งั้นห้องก็ยังเหลืออีกหนึ่งใช่มั้ยวะ” เหนือเห็นอย่างนั้นก็เลยถามขึ้น
“ไม่เหลือแล้ว” หินผารีบตอบแทนวายุทันที
“ทำไมถึงไม่เหลือวะ ก็มันมี 4 ห้องไม่ใช่เหรอวะ กูไปทีไรก็ยังเห็นมันว่างอยู่ไม่เห็นมีใครมาอยู่” เหนือถามเพื่อนพร้อมกับทำหน้านิ่วคิ้วขมวด
“ก็อีกห้องกูซื้อไว้แล้ว” หินผาพูดให้ความกระจ่างแก่เพื่อน
“ห๊ะ! / ห๊ะ! / ห๊ะ!” ไฟ ดินและเหนือถึงกับอุทานขึ้นพร้อมกันนี่พวกเค้าตกข่าวไปได้ยังไงกัน ไม่เคยเห็นไอ้เพื่อนคนนี้มีท่าทีที่จะย้ายไปอยู่คอนโดเลย ทุกทีก็เห็นมันกลับแต่บ้าน
“กูซื้อไว้ตั้งแต่น้องกูย้ายมาอยู่กับไอ้วายุนั่นแหละ แต่กูยังไม่ได้ย้ายเข้าไปอยู่แค่ซื้อไว้เฉยๆ เผื่อกูมีฟงมีแฟนกับเค้ากูจะได้ย้ายมาอยู่กับแฟนไง” หินผาพูดขึ้นและยักคิ้วให้เพื่อนอย่างเป็นต่อ
“งั้นไอ้ดินกูแชร์ห้องกับมึง”
“อ้าวไอ้นี่ มึงช่วยถามความเห็นกูหน่อยมั้ย”
“ไม่ต้องถามหรอก ห้องตั้งกว้างแฟนมึงก็ไม่มีกับเค้าอย่ามาเรื่องมากมึง ไอ้วายุจัดการให้กูด้วยนะห้องนี้ใช้ชื่อกูกับไอ้ดินเป็นเจ้าของด้วยกัน” เหนือพูดเองเออเองเสร็จสรรพ
ชีวิตเค้าต่อแต่นี้ไปคงจะหาความสงบสุขไม่เจอเป็นแน่ วายุได้แต่คิดคร่ำครวญอยู่ในใจ
Comments (0)