36 ตอน อยากทำความรู้จักเหรอออ
โดย Beloved_Moouan
วันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายของสายน้ำและเพื่อนๆ ส่วนกลุ่มของวายุนั้นยังเหลือสอบวันนี้และพรุ่งนี้อีกวัน วิชาสอบรอบเช้านั้นกลุ่มของสายน้ำทำผ่านไปได้ด้วยดีเพราะมีติวเตอร์คอยเก็งข้อสอบให้อย่างแม่นยำถึงสองคน จะเหลือแค่สอบช่วงบ่ายอีกแค่วิชาเดียวเท่านั้นเอง
“ฮือออ น้ำจ๋าเบลจะตายแล้วอ่ะ หมดแรงจะเดินแล้วเนี่ยนี่เราอยู่ปี 1 เทอม 1 กันจริงดิ” เบลกับอิฐที่ตอนนี้มีสภาพไม่ต่างกับซอมบี้ทิ้งตัวลงไปฟุบกับโต๊ะม้าหินอ่อนที่ประจำของพวกเค้าทันทีที่มาถึง
“ฮ่าๆๆ มันขนาดนั้นเลยเหรอเบล” สายน้ำที่ตอนนี้กำลังนั่งทบทวนวิชาที่จะสอบต่อไปกับออกัสอยู่ก็อดที่จะขำกับท่าทางของเพื่อนไม่ได้ ส่วนอิฐนั้นไม่ต้องพูดถึงเพราะตั้งแต่ลงมาจากห้องสอบก็ไม่พูดไม่จาฟุบหน้าลงกับโต๊ะสลบไสลไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วไม่เหลือมาดเดือนมหา'ลัยผู้หล่อเหลาเอาไว้เลย
“เอาน่าเบลเหลืออีกแค่วิชาเดียวก็สอบเสร็จแล้วเดี๋ยวเราค่อยไปหาอะไรอร่อยๆกินกันเพื่อเป็นการเติมพลังกันดีมั้ย” ออกัสที่เห็นเพื่อนเอาแต่เอาหัวฟุบลงไปบนโต๊ะก็พูดเพื่อปลอบขึ้นมา
“อือ ก็คงต้องเป็นอย่างนั้นแหละแต่ตอนนี้ขอเบลพักสัก 10 นาทีนะ น้ำจ๋ากัสจ๋าช่วยทำสรุปสั้นๆไว้ให้เบลทีได้มั้ยอ่ะ ตอนนี้สมองเบลน่าจะรับสารได้ไม่เกิน 10 บรรทัดแล้วน่ะ” เบลพูดพร้อมกับส่งตาปริบๆไปให้เพื่อน
“ได้สิ เบลพักก่อนก็ได้นะเดี๋ยวน้ำกับกัสจะช่วยกันทำสรุปไว้ให้นะ” สายน้ำตอบพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้เพื่อน
“น่ารักจังเลย ใจดีสุดๆเลยด้วย เพื่อนใครเนี่ยขอบใจนะจ๊ะ” พูดจบเบลก็ฟุบหน้าลงกับโต๊ะทันที
พอเห็นเพื่อนสลบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสายน้ำและออกัสก็ก้มหน้าก้มตาทบทวนวิชาที่จะสอบของตัวเองทันทีแต่ก็ไม่ลืมที่จะทำสรุปแบบสั้นๆไว้ให้เพื่อนทั้งสองคนด้วย
“เอ่อ....สายน้ำจ๊ะ” เวลาผ่านไปได้สักพักก็มีผู้หญิง 3 คนมายืนอยู่ข้างๆสายน้ำพร้อมกับสะกิดเพราะเธอยืนเรียกสายน้ำหลายรอบแล้วแต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับ ส่วนออกัสนั้นเสียบสมอลทอร์กใส่หูไว้เลยทำให้ไม่ได้ยิน
“หือ มีอะไรเหรอครับ” สายน้ำพอรับรู้ถึงแรงสะกิดก็สะดุ้งขึ้นทันที ทำให้ออกัสพลอยสะดุ้งตามไปด้วย เบลที่กำลังหลับสบายก็ตื่นขึ้นมาแบบงงๆ
“คือเราขอโทษนะที่ทำให้ตกใจแต่เราเรียกสายน้ำหลายรอบแล้วน่ะ” ผู้หญิงคนนั้นถึงกับหน้าเสียที่ทำให้สายน้ำตกใจ
“อ๋อ ไม่เป็นไรพอดีเราอ่านหนังสือเพลินไปหน่อยน่ะ ว่าแต่มีอะไรกับเราเหรอ” สายน้ำตอบกลับไปยิ้ม
“คือว่า ถ้าเราจะรบกวนให้สายน้ำติววิชาที่จะสอบช่วงบ่ายให้พวกเราหน่อยได้มั้ย พอดีวิชานี้พวกเราอ่านกันไม่ทันน่ะ” ที่จริงพวกเธอไม่ใช่ว่าอ่านกันไม่ทันหรอกแต่ที่ต้องแบกหน้ามาให้สายน้ำช่วยติวให้นั่นเพราะพวกเธอเห็นว่าพอสอบเสร็จทีไรกลุ่มพวกพี่ว๊ากก็จะมารวมตัวกันกับกลุ่มของสายน้ำทุกครั้ง แต่ถ้าพวกเธอมีข้ออ้างที่จะมานั่งรวมกลุ่มด้วยได้ก็เท่ากับว่าพวกเธอมีโอกาสที่จะรู้จักและใกล้ชิดกับกลุ่มรุ่นพี่ไปด้วย
ไม่ใช่ว่าพวกเธอจะไม่รู้หรอกนะว่าใครเป็นแฟนกับใคร คลิปที่ผ่านๆมาพวกเธอก็เห็นกันมาหมดแล้ว แต่พวกเธอก็ไม่เชื่อหรอกว่าผู้หญิงที่ทั้งสวยทั้งหุ่นดีจะแพ้ผู้ชายที่มีดีแค่หน้าหวานแล้วก็ตัวเล็กได้
“นี่แล้วทำไมรู้ว่าจะสอบแต่ไม่อ่านกันมาล่ะ คนอื่นเค้าก็ต้องเตรียมตัวสอบเหมือนกันใครจะมีเวลามานั่งติวให้พวกเธอกันห๊ะ” เบลที่นั่งสังเกตการณ์อยู่สักพักก็พูดขึ้นเพราะเธอจำได้ดีว่ากลุ่มนี้คอยมองกลุ่มของเธอและกลุ่มของวายุตลอด
“เอ่อคือว่าพวกเราอ่านไม่ทันจริงๆน่ะ ช่วยกันหน่อยไม่ได้เหรอเราเรียนห้องเดียวกันแท้ๆนะยังไงก็เพื่อนกัน” เธอพูดพร้อมกับแกล้งตีหน้าเศร้าไปด้วย
“อืม งั้นเราติวให้แค่ 20 นาทีเท่านั้นนะ เพราะเรายังต้องอ่านทบทวนต่ออีก เพราะนี่ก็ใกล้เที่ยงแล้วด้วย” สายน้ำตัดสินใจพูดขึ้นก่อนที่จะมีปัญหากัน
“ได้จ้ะได้ ขอบใจสายน้ำมากนะ” เธอพูดพร้อมกับรีบกุลีกุจอไปนั่งฝั่งตรงข้ามกับสายน้ำ แต่ก็ยังไม่วายเชิดหน้าใส่เบลที่นั่งจ้องหน้าพวกเธออยู่อย่างไม่พอใจ
เบลที่เห็นสายน้ำตั้งท่าจะเตรียมติวให้กับสามสาวก็รีบส่งข้อความเข้ากลุ่มของตัวเองกับรุ่นพี่ทันทีเพราะพวกเค้านั้นสร้างกลุ่มไลน์ไว้ด้วยกันอยู่แล้ว โดยไม่ลืมที่จะบอกว่ากลุ่มนี้ดูไม่น่าไว้ใจเหมือนจะเข้ามาตีสนิทกับสายน้ำเพราะต้องการจะเข้าหาวายุ เพราะเธอคอยสังเกตมานานแล้ว
ไม่นานกลุ่มของวายุที่สอบเสร็จแล้วก็เดินมาทางโต๊ะของสายน้ำ สามสาวที่นั่งอยู่พอเห็นว่ากลุ่มของวายุกำลังเดินตรงมาก็รีบส่งยิ้มไปให้ทันที
ฟอด!
วายุที่เดินมาถึงคนตัวเล็กของเค้าก่อนก็ก้มลงหอมหัวทุยของน้องทันที เรียกความตกตะลึงให้กับสามสาวเป็นอย่างมาก
“อ้าว พี่กายสอบเสร็จแล้วเหรอครับ เป็นยังไงบ้างครับ” สายน้ำรีบหันไปถามและไม่มีอาการตกใจหรือแปลกใจแต่อย่างใด เพราะเค้าจำกลิ่นกายหอมที่เป็นเอกลักษณ์ของคนพี่ได้ดี
“ครับ แล้วตัวเล็กสอบได้รึเปล่าครับ” วายุเอ่ยเสียงนุ่มถามคนน้องโดยไม่ได้มีท่าทีสนใจผู้หญิงสามคนที่นั่งมองเค้าอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับสายน้ำเลย
ส่วนเหนือ เบล และดินพอมาถึงก็ชวนกันไปหากาแฟกินกันทันทีเพราะทำท่าจะไม่ไหวกัน หินผาก็ปลีกตัวไปนั่งข้างอิฐที่ตอนนี้ตื่นขึ้นมาแล้ว ไฟก็หันไปคุยกับออกัสถึงเรื่องข้อสอบเหมือนกันทำให้ไม่มีใครสนใจที่จะทักหญิงสาวสามคนที่นั่งหน้าเอ๋อกันอยู่เพราะไม่คาดว่าเหตุการณ์จะออกมาเป็นแบบนี้
“เอ่อ พี่วายุคะสวัสดีค่ะ คือพวกเรามะ......” ผู้หญิงคนที่มาขอให้สายน้ำช่วยติวให้พอเห็นว่าไม่มีใครสนใจพวกเธอจึงเอ่ยพูดขึ้น แต่ไม่ทันที่จะพูดจบ
“แล้ววิชาต่อไปตัวเล็กทบทวนไปถึงไหนแล้วครับไหนพี่ดูสิครับ” วายุพูดพร้อมกับยกคนตัวเล็กให้มานั่งบนตักแบบที่ทำเป็นประจำ พร้อมทั้งเอาคางเกยไหล่ของน้องเอาไว้ โดยไม่สนใจคำทักทายของคนตรงหน้าหรือไม่แม้จะชายตาแลเลยก็ว่าได้ หินผากับอิฐก็ทำเป็นก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือแต่ทั้งคู่ก็ยังแอบดูสถานการณ์อยู่
“น้องทวนแบบทดสอบที่พี่ผากับพี่กายทำให้จบแล้วครับ เหลือแค่ทำสรุปสั้นๆให้เบลกับอิฐอีกนิดหน่อยครับ แต่ว่าพอดีเพื่อนในห้องมาขอให้ช่วยติวให้น่ะครับ น้องเลยพักไว้ก่อน”
“แล้วเหลือติวอีกเยอะมั้ยครับ” วายุถามพร้อมกับจับมือคนตัวเล็กขึ้นมาเล่นไปด้วย
“อีกนิดเดียวครับ พี่กายหิวข้าวรึยังครับรอน้องแป๊บหนึ่งได้มั้ยครับ” บทสนทนาของคนทั้งคู่ตกอยู่ในสายตาของสามสาวตรงหน้าทั้งหมด โดยมีสายตาแห่งความอิจฉาริษยาส่งมาให้สายน้ำโดยที่วายุเองก็สังเกตเห็นอยู่เหมือนกัน
“ได้ครับ พี่ให้เวลาแค่สิบนาทีนะครับเดี๋ยวตัวเล็กจะปวดท้องเอานี่ก็ใกล้จะเที่ยงแล้วด้วย” วายุพูดกับน้องยิ้มๆแต่พอน้องเผลอก็ส่งสายตาคมดุไปให้กับสามสาวทันที ทางฝั่งของหญิงสาวทั้งสามคนก็เริ่มรู้สึกร้อนๆหนาวๆขึ้นมาบ้างแล้วเหมือนกัน เพราะเท่าทีเคยได้ยินมาคือกลุ่มพี่ว๊ากกลุ่มนี้เข้าถึงได้ยากและเรียกได้ว่าโหดที่สุดในมหา'ลัยในตอนนี้เลยก็ว่าได้ แต่พอพวกเธอเห็นว่าพอกลุ่มรุ่นพี่อยู่กับกลุ่มของสายน้ำอยู่ด้วยกันทีไรจะดูยิ้มแย้มอารมณ์ดี พวกเธอก็เลยคิดว่ามันน่าจะง่ายถ้าทำแบบนี้ แต่พวกเธอกลับคิดผิดถนัด เพราะตั้งแต่ที่กลุ่มรุ่นพี่มาถึงไม่มีใครมองหน้าหรือทักทายพวกเธอเลยแม้แต่คนเดียวทำอย่างกับว่าพวกเธอนั้นเป็นอากาศธาตุกันซะอย่างนั้น
ระหว่างที่สายน้ำนั่งติวให้กับสามสาวอยู่นั้น พวกเธอแทบจะไม่มีสมาธิเลยด้วยซ้ำ เพราะวายุที่นั่งโอบเอวบางของน้องอยู่นั้นคอยส่งสายตาแข็งกร้าวมายังฝั่งของพวกเธอเป็นระยะ หรือไม่ก็ไล่กดจมูกคมปัดป่ายอยู่แถวหลังคอของสายน้ำ บางทีริมฝีปากหยักได้รูปก็จูบลงไปที่ไหล่ของน้องจนเกิดเสียงดังขึ้นมาเหมือนเป็นการจงใจทำลายสมาธิพวกเธอไปด้วย
“ตัวเล็กครับ”
“คะ..อุ๊บ~ อื้อ” สายน้ำที่กำลังจะพูดตอบพร้อมกับหันไปหาคนพี่ริมฝีปากบางก็ถูกริมฝีปากหยักได้รูปของคนพี่ปิดไว้ทันทีแต่ก็แค่แป๊บเดียวเท่านั้น เพราะเค้าก็ไม่อยากให้น้องถูกมองไม่ดีเช่นกัน
“พี่กายทำอะไรครับ มีคนอื่นอยู่ด้วยไม่เห็นเหรอครับ เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!” สายน้ำว่าพร้อมกับตีไปที่ไหล่ของคนพี่ทันที พอตีจนพอใจแล้วเจ้าตัวก็ซบหน้าลงไปที่อกของวายุทันทีด้วยความเขิน เพราะตรงนี้ไม่ได้มีเค้าแค่โต๊ะเดียวเสียเมื่อไหร่กัน
“หึๆ จุ๊บ” วายุก็ไม่ได้ถือโทษโกรธน้องหรือระคายเคืองเลยสักนิดที่โดนตี พอน้องซบหน้าลงกับอกได้ก็ก้มลงไปจูบหัวทุยอีกรอบ แต่พอเงยหน้าขึ้นมาสายตาอ่อนโยนที่เคยมีไว้ให้สำหรับคนตัวเล็กของเค้าก็เปลี่ยนเป็นสายตาที่แข็งและนิ่งน่ากลัวขึ้นทันทีพร้อมกับจ้องมองไปยังสามสาวที่นั่งอยู่
“เอ่อ น้องน้ำครับพี่อยากกินขนมที่ร้านป้าใจน้องน้ำไปเป็นเพื่อนพี่ผาทีได้มั้ยครับ” หินผาที่คอยสังเกตเพื่อนตัวเองอยู่ก็รู้หน้าที่ทันที จึงรีบเอ่ยชวนน้องให้ออกไปจากตรงนี้
“ได้สิครับ ดีเลยน้องจะได้ให้พี่ผาซื้อขนมไว้ให้น้องเยอะๆเลย เอาไปไว้กินที่ห้องด้วย คิกคิก” สายน้ำที่พอพี่ชายชวนไปซื้อขนมที่ร้านโปรดก็ลืมสิ้นทุกสิ่งอย่างในทันทีแม้กระทั่งเพื่อนใหม่ที่ตัวเองกำลังติวให้อยู่
“เดี๋ยวน้องมานะครับพี่กาย เดี๋ยวมานะทุกๆคน” พอบอกทุกคนเสร็จเจ้าตัวก็รีบเกาะแขนพี่ชายตัวเองเดินออกไปทันที ทางด้านหินผาก็ส่งสายตาไปให้ไฟกับอิฐให้เตรียมพร้อมรับมือทันที ไฟกับอิฐก็เหมือนจะรับรู้ชะตากรรมเช่นกัน
“พวกมึงคิดจะทำอะไร” ทันทีที่หินผาและสายน้ำเดินออกไป วายุก็หันมาถามผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงหน้าด้วยน้ำเสียงนิ่งและเย็นจนน่ากลัว
“อะ เอ่อ พะ พวกเราแค่อยากให้สายน้ำช่วยพวกเราติวน่ะค่ะ” เธอตอบออกไปด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา เพื่อนข้างๆของเธอสองคนก็นั่งตัวสั่นพอๆกัน
“กูให้โอกาสอีกครั้งว่าพวกมึงต้องการอะไร หรือว่าอยากรู้จักพวกกูกันมากขนาดนั้นเลยเหรอ” วายุไม่สนใจคำแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้นก็ได้ถามต่อ
“คะ คือ พะ พวกเราแค่ แค่.....” เธอไม่ตอบได้แต่หันมองซ้ายมองขวาอย่างคนต้องการความช่วยเหลือ
“แค่อะไร กูถามว่าพวกมึงอยากรู้จักพวกกูกันมากขนาดนั้นเลยเหรอฮะ” วายุไม่พูดเปล่าแต่ยังเอื้อมมือไปบีบคอคนตรงหน้าแต่ก็ไม่ได้ออกแรงมากนัก
“กรี๊ด!! / กรี๊ด!!”
เพื่อนของหญิงสาวถึงกับร้องออกมาด้วยความตกใจ พวกเธอเคยเห็นแต่ในคลิปตอนที่สายน้ำโดนชนล้มไม่คิดว่าเพื่อนของพวกเธอจะมาโดนเอง
“แค่กๆๆ มะไม่อยากแล้ว ขะ ขอโทษค่ะ” เธอพูดด้วยเสียงขาดๆหายๆพร้อมกับพยายามที่จะแกะมือใหญ่ให้พ้นออกจากคอไป เพราะถึงแม้วายุจะออกแรงไม่มากเท่าไหร่แต่ฝ่ามือใหญ่ก็กำคอเธอจนเกือบรอบและเพิ่มแรงบีบตามอารมณ์ไปด้วย เธอพยายามส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปให้ไฟและอิฐที่นั่งมองอยู่ แต่ก็ไม่มีใครขยับเขยื้อนที่จะเข้ามาช่วยเธอเลยกลับมองดูด้วยสายตานิ่งเฉย กลุ่มรุ่นพี่กลุ่มนี้จะน่ากลัวเกินไปแล้ว
“เฮ้ย! อะไรกันวะ” ดิน เหนือและเบลที่เพิ่งเดินมาถึงก็ร้องถามขึ้นแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะห้ามนอกจากถามเท่านั้น
“เด็กมันวอนตีนน่ะ” ไฟตอบคำถามเพื่อนไปแบบส่งๆ
“อ๋อ” เหนือตอบรับในลำคอพร้อมกับยกกาแฟขึ้นมาดูด และมองดูภาพตรงหน้าด้วยใบหน้านิ่งเฉย
“พี่คะพวกหนูขอโทษค่ะ ปล่อยเพื่อนหนูเถอะนะคะ พวกหนูจะไม่มายุ่งวุ่นวายกับกลุ่มของสายน้ำและกลุ่มของพวกพี่อีกเลยนะคะ” เพื่อนคนหนึ่งของหญิงสาวที่โดนบีบคออยู่ยกมือไหว้พร้อมกับพูดขอร้องออกมา เพราะเธอดูแล้วว่าคงจะไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วยแน่ กลุ่มรุ่นพี่กลุ่มนี้น่ากลัวกันทุกคนจริงๆ
พลั่ก!!
“” ว๊าย!! / กรี๊ด!!”
วายุปล่อยมือจากคอของเธอคนนั้นพร้อมกับผลักเธอจนหงายหลังตกจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่
“แค่กๆๆ”
“รู้จักพวกกูแล้วใช่มั้ยว่าเป็นยังไง” วายุพูดพร้อมกับจ้องหน้าทั้งสามคนเขม็ง รวมทั้งไฟ ดิน และเหนือด้วย พวกเค้าไม่คิดที่จะยุ่งกับใครก่อนแต่บอกแล้วไงว่าอย่ามาล้ำเส้นกัน ทุกๆคนจะรู้ดีแต่ก็จะมีพวกที่อยากลองดีอยู่บ้างอย่างเช่นพวกสามสาวนี่
“คะ ค่ะ” พวกเธอพูดตอบแทบจะพร้อมกัน
“กูขอเตือนไว้ก่อน ว่าอย่ามายุ่งกับแฟนกูหรือกับใครในกลุ่มอีก ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่ากูไม่เตือน แล้วกูก็ไม่สนด้วยว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง” วายุพูดพร้อมกับมองไปยังฝูงชนรอบๆที่มายืนดูและยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายกันอยู่
“และอย่าให้กูรู้นะว่ามีคลิปวีดีโอหลุดออกมาจากเครื่องใคร เพราะกูก็จะไม่เอาไว้เหมือนกัน” ทำให้คนที่ถ่ายวีดีโออยู่ถึงกับสะดุ้งและชะงักไปตามๆกันและรีบลบกันแทบไม่ทันเลยทีเดียว เพราะวายุนั้นไม่อยากให้เหตุการณ์นี้รู้ไปถึงหูของคนตัวเล็กของเค้า
“เฮ้อ แม่งมีแต่เรื่องเป็นอะไรกับพวกเรากันนักวะ” ดินพูดขึ้นเมื่อเหตุการณ์เริ่มสงบลงแล้ว
“กูรู้ว่ามึงห่วงน้องกลัวจะมีคนไม่หวังดีมาทำร้ายน้องอีก ต่อไปนี้ก็คงไม่มีใครกล้าแล้วล่ะเลิกทำหน้าแบบนั้นได้แล้วมึง เดี๋ยวน้องมาเห็นหน้ามึงเป็นแบบนี้จะไม่สบายใจเอา” ไฟที่มองหน้าเพื่อนแล้วพูดขึ้น เค้ารู้ดีว่าถ้าเลือกได้เพื่อนเค้าก็ไม่อยากจะรุนแรงอะไรนักหรอก แต่ถ้าไม่ทำแบบนี้ก็จะมีเข้ามาแบบนี้อีกเรื่อยๆ มันเหมือนกับต้องเชือดไก่ให้ลิงดู เพราะคนที่อยากจะเข้ามาทำความรู้จักกับพวกเค้านั้นมีเยอะ พอเข้าทางพวกเค้าไม่ได้ก็หันมาเข้าทางกลุ่มน้องแทน
“อืม” วายุตอบรับพร้อมกับเอามือถูหน้าตัวเองไปมาอย่างต้องการสงบสติอารมณ์
“พี่กายยยยย น้องมาแล้ว” ทันทีที่สายน้ำเดินมาเกือบจะถึงโต๊ะก็วิ่งพร้อมกับร้องตะโกนเรียกชื่อแฟนตัวเองมาแต่ไกล
“หึๆ ได้อะไรมาเยอะแยะครับ” วายุที่เห็นหน้าของคนตัวเล็กก็อารมณ์ดีขึ้นมาทันที มือใหญ่ยื่นมือไปรับคนตัวเล็กพร้อมกับเอ่ยถามขึ้นเพราะเหลือบไปเห็นถุงขนมในมือของหินผา
“เยอะเลยครับ น้องซื้อไปตุนไว้ที่ห้องด้วย มีคนเลี้ยงทั้งทีต้องเอาให้คุ้มครับ” สายน้ำพูดพร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง โดยไม่ได้รับรู้ถึงเหตุการณ์ตึงเครียดก่อนหน้านี้เลย
“ไง เรียบร้อย” หินผาวางถุงขนมลงบนโต๊ะแล้วหันไปถามไฟ
“อือ” ไฟแต่ตอบรับในลำคอ
............................................
“พี่กายจ๋า”
“หืม อะไรครับ” วายุตอบรับในลำคอ แต่ตาก็ยังไล่อ่านข้อความในอีเมลไปด้วย ตอนนี้พวกเค้าทั้งหมดสอบเสร็จกันแล้วและก็ปิดเทอมแล้ว วันนี้เป็นวันหยุดทำให้เค้าไม่ต้องเข้าไปดูงานที่บริษัทอีกด้วย และอีกไม่ถึงสองอาทิตย์ก็จะถึงงานหมั้นของคนทั้งคู่แล้ว
“พี่กายจ๋า” คนตัวเล็กยังคงร้องเรียกคนที่ยังทำหน้าตาเคร่งเครียดอยู่
“หืม ว่ายังไงครับตัวเล็กอยากได้อะไรครับ” วายุขานรับในลำคออีกรอบแต่ก็ยังไม่ละสายตาจากแมคบุ๊คเพราะว่ากำลังอ่านติดพันอยู่
สายน้ำที่เห็นคนพี่กำลังยุ่งอยู่ก็ลุกขึ้นออกมาเบาๆ เพราะกลัวว่าจะเป็นการรบกวนสมาธิของอีกคน เพราะถ้าวายุไม่ยุ่งก็คงจะหันกลับมามองเค้าแล้ว แต่นี่เค้าเรียกถึงสองรอบแต่คนพี่ก็ยังไม่วายจ้องไปที่ตัวหนังสือข้างหน้าอยู่
สาเหตุที่เค้าร้องเรียกคนพี่ถึงสองครั้งสองคราเพราะตอนนี้เค้าอยากกินเค้กม๊ากมากกกก แต่จะให้คนที่กำลังยุ่งขับรถไปส่งซื้อก็คงจะไม่ดี พวกพี่ๆก็ยังไม่ย้ายเข้ามากัน เค้าเลยตัดสินใจว่าจะนั่งแท็กซี่ไปเองดีกว่า
สายน้ำหายเข้าไปในห้องเพื่อกลับเข้าไปเอากระเป๋าสตางค์ จากนั้นก็ค่อยๆเปิดประตูออกไปอย่างเบามือ โดยที่วายุเองก็ไม่ทันได้สังเกตหรือได้ยินเพราะเค้ากำลังจดจ่ออยู่กับการดูรายการบัญชีของโรงแรมที่วาโยส่งมาให้ตรวจสอบอยู่
เวลาผ่านไปสักพักใหญ่วายุก็ตรวจบัญชีเสร็จ เค้าละสายตาจากแมคบุ๊คหันซ้ายหันขวาเพื่อมองหาคนตัวเล็กของเค้า
“ตัวเล็กครับๆ” วายุร้องเรียกหาคนตัวเล็กแต่กลับไม่มีเสียงตอบรับ คิ้วเข้มเริ่มที่จะขมวดเข้าหากันทันที
ทางด้านสายน้ำที่ตอนนี้นั่งฮัมเพลงพร้อมกับกินโกโก้และเค้กดาร์กช็อกโกแลตไปด้วยอย่างมีความสุข
“วันนี้ทำไมน้องน้ำถึงได้มาคนเดียวได้ล่ะคะ” แก้มพนักงานสาวเอ่ยถามคนตัวเล็กที่กำลังนั่งกินขนมเค้กด้วยใบหน้าที่ดูมีความสุขอยู่ ตอนนี้เธอและพนักงานในร้านค่อนข้างที่จะสนิทกับคนตัวเล็กเพราะสายน้ำจะแวะมากินทุกครั้งที่มากับวายุ และด้วยความช่างพูดช่างคุยและยิ้มเก่งทำให้เป็นที่เอ็นดูของคนในร้านเป็นอย่างมาก
“วันนี้พี่กายดูยุ่งๆน่ะครับ น้ำก็เลยนั่งแท็กซี่มาคนเดียวไม่อยากรบกวนเวลาพี่กาย” สายน้ำพูดตอบแต่มือและปากก็ทำหน้าที่สัมพันธ์กันเป็นอย่างดีในการตักขนมเค้กเข้าปากพร้อมกับสลับดูดโกโก้ไปด้วย
“ห๊ะ!! นี่น้องน้ำนั่งแท็กซี่มาคนเดียวเหรอคะ แล้วนี่คุณวายุรู้รึยังคะว่าน้องน้ำมาถึงที่นี่” แก้มถึงกับอุทานออกมาอย่างตกใจ เพราะที่ผ่านมาสายน้ำจะต้องมาพร้อมกับวายุตลอด เธอพอจะรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาบ้าง เพราะเป็นที่เลื่องลือกันเป็นอย่างมากว่าวายุนั้นหวงคนตัวเล็กที่อยู่ตรงหน้าเธอนั้นเสียยิ่งกว่าอะไรดี
“ไม่รู้หรอกครับน้ำแอบมา เดี๋ยวว่าจะโทรบอกทีหลัง ว่าแล้วก็โทรบอกเลยดีกว่าป่านนี้คงทำงานเสร็จแล้ว” สายน้ำพูดพร้อมกับล้วงกระเป๋ากางเกงของตัวเองไปด้วย
“ตายล่ะหว่า ตายๆๆ” สายน้ำถึงกับตาโตทำท่าลุกลี้ลุกลนและยืนขึ้นล้วงกระเป๋ากางเกงซ้ำไปซ้ำมา
“นี่อย่าบอกนะคะว่าลืมหยิบโทรศัพท์มาด้วย” แก้มพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าสายน้ำกำลังล้วงกระเป๋าเหมือนหาอะไรบางอย่างอยู่
“แหะๆ น้ำรีบน่ะครับเลยคว้ามาได้แต่กระเป๋าสตางค์” สายน้ำหันไปยิ้มแหยส่งไปให้กับคนตรงหน้า
“งั้นเอาโทรศัพท์พี่ไปโทรก่อนก็ได้ค่ะ ป่านนี้คุณวายุไม่เป็นห่วงแย่แล้วเหรอคะ นี่น้องน้ำก็ออกมานานแล้วด้วย” จะไม่ให้นานได้ยังไงก็เล่นกินเค้กหมดไปแล้วตั้ง 4 ก้อนแล้ว เธอล่ะเป็นห่วงสวัสดิภาพของคนตัวเล็กตรงหน้าเธอซะจริงๆ
“แฮร่ๆ น้ำจำเบอร์ไม่ได้หรอกครับเพราะพี่กายเป็นคนเมมให้ น้ำก็เลยไม่เคยเห็น” สายน้ำพูดพร้อมกับเกาหัวตัวเองไปด้วย แต่ตาก็ยังเหลือบมองขนมเค้กที่เหลืออยู่อีกครึ่งในจานอยู่
Comments (0)