53 ตอน สิ่งที่ไม่คาดหวัง
โดย Beloved_Moouan
“ฮึกๆๆ ฮือออ”
“ตัวเล็กเป็นอะไรไปครับ เจ็บตรงไหนครับไม่ร้องนะครับคนดี ไม่ร้องครับเดี๋ยวปวดหัว” วายุสะดุ้งตื่นขึ้นทันทีเมื่อได้ยินเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นและรับรู้ได้ถึงไอร้อนของคนในอ้อมกอด
“ฮึกๆ น้องปวดหัว ปวดตัวไปหมดเลย น้องขยับไม่ได้เลย ฮึก” สายน้ำสะอื้นไห้บอกคนพี่
“ครับๆ เจ็บมากมั้ยครับ พี่ขอโทษนะครับที่ทำรุนแรงกับตัวเล็ก ไม่ร้องนะครับคนดีเดี๋ยวพี่ให้กินข้าวแล้วจะได้กินยากันนะครับ จุ๊บ!” วายุลูบหัวพูดปลอบคนที่นอนร้องไห้สะอื้นหน้าแดงตัวแดงอยู่ด้วยความสงสาร เค้าไม่น่าจะทำรุนแรงกับน้องเลย ตอนนี้อยากจะต่อยตัวเองแรงๆสักทีสองทีให้สาสมกับที่ทำให้น้องต้องเจ็บ
“ฮึกๆ พี่กายนั่นแหละ น้องบอกว่าไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้ว พี่กายก็ยังทำต่อ คอยดูนะน้องจะให้พี่กายงดทำไปเลยเดือนหนึ่งเลย ฮึก!” สายน้ำยังพูดว่าคนพี่ทั้งๆที่ยังหลับตาร้องไห้อยู่
“ครับๆ งดครับงด แต่ตอนนี้ตัวเล็กต้องหยุดร้องไห้ก่อนนะครับเดี๋ยวจะยิ่งปวดหัวไปกันใหญ่” ตอนนี้คนตัวเล็กให้เค้าทำอะไรคงต้องตกปากรับคำไปก่อน
“อุ้มๆ น้องอยากเข้าห้องน้ำครับ” สายน้ำที่พอเงียบตามพี่คนพี่บอกแล้วก็ร้อง.ห้คนพี่อุ้มพาตัวเองเข้าห้องน้ำ
“อึ้บ! ไปครับเดี๋ยวพี่พาล้างหน้าแปรงฟันเลยนะครับ เสร็จแล้วเดี๋ยวพี่โทรสั่งข้าวต้มให้กินนะครับจะได้กินยากัน”
หลังจากพาน้องจัดการธุระในห้องน้ำเสร็จเรียบร้อยร้อยเจ้าตัวก็รีบโทรสั่งข้าวต้มกุ้งของโปรดให้คนไม่สบายทันที
“มาครับเดี๋ยวพี่เช็ดตัวให้นะครับเดี๋ยวจะได้ทายา พอเสร็จข้าวต้มก็มาส่งพอดี หิวรึยังครับ” วายุพูดพร้อมกับยกกะละมังและผ้าขนหนูมาวางไว้ข้างๆเตียง เพราะนี่ก็กินเวลาไปเกือบจะ 10 โมงเช้าแล้วเค้ากลัวว่าคนตัวเล็กของเค้าจะปวดท้องขึ้นมาอีกอย่าง
สายน้ำได้แต่ส่ายหน้าไปมาเพราะตอนนี้เค้าเริ่มที่จะเจ็บคอปวดหัวและปวดตัวมากขึ้นเรื่อยๆจนไม่อยากจะรับรู้หรือพูดอะไรเลย
วายุได้แต่นั่งมองอาการของสายน้ำด้วยใบหน้าไม่สู้จะดีนัก ครั้นจะพาไปหาหมอก็ไม่ได้ เพราะตามเนื้อตามตัวของสายน้ำนั้นมีแต่รอยรักของเค้าเต็มไปหมด เรียกได้ว่าตั้งแต่ต้นคอลงไปจนถึงยันข้อเท้า นี่ใครที่ไม่รู้คงคิดว่าน้องเป็นโรคติดต่อร้ายแรง คิดได้อย่างนั้นอยากจะตบหัวตัวเองแรงๆสักทีสองทีที่ทำให้ผิวขาวเนียนของคนตัวเล็กต้องมามีมลทินเพราะความไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจของตัวเค้าเอง ไม่รู้ว่าผีตัวไหนเข้าสิงเค้ากันแน่ เค้าขอสัญญากับตัวเองไว้เลยว่าจะไม่ทำรอยทิ้งไว้บนตัวของคนตัวเล็กอีกเป็นอันขาด เค้าชอบเนื้อตัวที่ดูสะอาดตาและผิวที่เนียนใสอมชมพูของน้องมากกว่า
“พี่ทายาให้นะครับ” พอวายุเช็ดตัวให้กับสายน้ำเสร็จเจ้าตัวก็เดินเอากะละมังและผ้าขนหนูไปเก็บไว้ในห้องน้ำตามเดิม แล้วลงมานั่งข้างๆคนตัวเล็กที่ทำท่าเหมือนจะหลับลงไปอีกรอบ
วายุบรรจงทายาไปตามรอยรักที่ตัวเองทำทิ้งไว้อย่างเบามือ เสร็จแล้วจึงเปลี่ยนเป็นหยิบหลอดยาทาภายในมาและนำหมอนมารองก้นของคนตัวเล็กเอาไว้และตั้งขาให้กว้างขึ้น จากนั้นเจ้าตัวจึงค่อยๆใช้นิ้วสอดและควานเข้าไปทายาภายในจนทั่ว สายน้ำมีร้องออกมาบ้างขณะที่กำลังทายาแต่ก็ไม่ตื่นขึ้นมาแต่อย่างใด อาการบวมแดงค่อยทุเลาลงมาบ้างแล้วไม่บวมแดงเหมือนกับเมื่อคืน ทำให้วายุนั้นเบาใจขึ้นมาได้บ้าง
“ตัวเล็กครับ ลุกขึ้นมากินข้าวก่อนนะครับ เดี๋ยวจะปวดท้อง” วายุสะกิดเรียกคนที่ยังนอนหลับอยู่เบาๆ
“อื้ออ น้องจะนอน น้องปวดหัว น้องปวดตัว ฮึก” สายน้ำร้องบอกออกมาด้วยเสียงที่แหบแห้ง
“ตื่นขึ้นมากินข้าวก่อนนะครับ เดี๋ยวไม่หาย” วายุพยายามพูดบอกด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนและนุ่มนวลให้ได้มากที่สุด
“ฮึก น้องลุกไม่ไหว” สายน้ำทำหน้าตาเหยเกเมื่อเค้าลองขยับตัวเพื่อจะลุก
“ชู่ววว ไม่ร้องนะครับคนเก่งของพี่กาย เดี๋ยวพี่ช่วยนะครับ” วายุพยุงตัวสายน้ำขึ้นและไปนั่งซ้อนข้างหลังของน้องไว้เพื่อพยุงให้น้องได้นั่ง
“พอแล้วครับ น้องอิ่มแล้ว” พอกินเข้าไปได้แค่สามคำ สายน้ำก็เบือนหน้าหนีทันที
“ฝืนกินหน่อยนะครับ เดี๋ยวจะได้กินยา” สายน้ำได้แต่นั่งส่ายหน้าไปมาพร้อมกับหลับตาลง
“ครับๆ งั้นตัวเล็กกินยาก่อนนะครับจะได้นอนต่อ” วายุเอื้อมมือไปหยิบยาและน้ำ และส่งมาให้สายน้ำกิน สายน้ำก็รับมากินแต่โดยดีโดยไม่อิดออด
พอผ่านไปสักพักวายุก็ค่อยๆประคองคนตัวเล็กให้นอนลงอีกรอบ และนำผ้าชุบน้ำมาเช็ดที่ริมฝีปากบางที่ตอนนี้มันดูขาวซีดต่างจากเมื่อก่อนที่เกือบจะเป็นสีแดงสด
“หายเร็วๆนะครับที่รักของพี่กาย พี่เห็นน้องเจ็บพี่ก็เจ็บไปด้วย พี่เห็นน้องปวดพี่ก็ปวดยิ่งกว่า พี่กายขอโทษอีกครั้งนะครับ จุ๊บ!” วายุก้มลงไปจูบที่ริมฝีปากซีดเบาๆก่อนจะเดินหายเข้าไปที่ห้องแต่งตัว
วายุเข้าไปเปลี่ยนเสื้อของตัวเองที่ใส่อยู่ให้เป็นเสื้อคอปกเพื่อปกปิดร่องรอยที่คอ ถึงแม้มันจะเห็นไม่ชัดเท่าไหร่เพราะตำแหน่งที่โดนกัดนั้นไม่ได้อยู่สูงมาก แต่สายตาของเพื่อนเค้าเเต่ละตัวนั้นก็ใช่ย่อย พอเปลี่ยนเสื้อตัวเองเสร็จเรียบร้อยแล้วเค้าก็เดินออกมาพร้อมกับบอกเซอร์ตัวเล็กและค่อยๆใส่ให้น้องอย่างเบามือ จากนั้นก็จัดการห่มผ้าห่มให้ก่อนจะเดินออกไปในครัวเพื่อจัดการหาอะไรลงท้องของตัวเองบ้าง
วายุนั่งดูงานในแมคบุ๊คไปเรื่อยๆอยู่บนเตียงข้างๆกับสายน้ำ โดยที่เค้าคอยเช็ดตัวให้กับสายน้ำทุกๆครึ่งชั่วโมงและปลุกให้คนตัวเล็กลุกขึ้นมากินยาอีกครั้ง ตอนนี้อาการไข้ทุเลาลงไปเยอะแล้วจะเหลือแต่ตัวที่อุ่นๆรุมๆอยู่เพียงเท่านั้น แต่อาการปวดเมื่อยตามตัวคงต้องใช้เวลาอีกสักวันสองวัน เค้าหวังว่าคนตัวเล็กของเค้าจะหายทันงานหมั้นของไอ้เหนือ ไม่งั้นเค้ามีสิทธิ์ได้โดนงอนยาวแน่
อ๊อด!! อ๊อด!!
เสียงกดออดทำให้วายุรีบลุกขึ้นไปดูทันที เพราะเค้ากลัวคนที่กำลังหลับอยู่จะตื่นขึ้นมางอแง
แกร็ก!!!
“ไงมึงเมื่อคืนไปฉลองที่ไหนกันมาวะ กูเห็นมีรูปลงในไอจีใช่ร้านที่กูพาเบลไปมั้ยวะ” ทันทีที่วายุเปิดประตูห้อง เหนือก็เป็นคนแรกที่เดินเข้ามาและถามขึ้น ตามด้วยเบล ดิน ไฟ ออกัสและอิฐที่ถือของพะรุงพะรังมากันเต็มสองไม้สองมือกันทุกคน
“อย่างที่เห็น” วายุตอบและหันไปมองหน้าออกัสเล็กน้อย ออกัสพอเห็นวายุมองมาก็ถึงกับสะดุ้ง ถึงแม้จะคุ้นชินกันแล้วแต่ก็อดไม่ได้ที่จะผวาทุกครั้งที่สายตาคมนั้นมองมา
“นี่มึงอย่ามาทำหน้าแบบนี้ใส่แฟนกู แฟนกูยิ่งขวัญอ่อนอยู่” ไฟพูดพร้อมกับดึงออกัสเข้ามากอดและลูบหัวปลอบ เมื่อเห็นว่าคนรักของตัวเองไม่กล้าสบตาเพื่อนของเค้า
“แล้วนี่น้ำไปไหนอ่ะเฮีย อย่าบอกนะว่ายังไม่ตื่นอ่ะ” อิฐถามขึ้นหลังจากที่นั่งลงบนโซฟาแล้วสายตาก็สอดส่ายมองหาเพื่อนตัวเล็กไปทั่วห้อง
“ยัง ตัวเล็กไม่ค่อยสบายวันนี้อาจจะออกมากินด้วยไม่ไหว”
“เอ่อ แล้วน้ำเป็นอะไรมากมั้ยครับ” ออกัสทำใจดีสู้เสือถามออกไปทั้งๆที่เจ้าตัวก็รู้อยู่แก่ใจว่าสาเหตุที่เพื่อนตัวเล็กของตัวเองไม่สบายนั้นเกิดจากสาเหตุอะไร
“ค่อยยังชั่วแล้วไม่ค่อยมีไข้แล้ว พรุ่งนี้น่าจะหาย” วายุตอบกลับมาแต่ตาก็คอยมองที่ประตูไว้เค้ากลัวว่าคนในห้องจะตื่นมาแล้วไม่เห็นใคร
“เบลว่าเรามาช่วยกันเตรียมของกันดีมั้ยคะนี่ก็ 4 โมงเย็นแล้วเดี๋ยวจะค่ำซะก่อน”
“ถ้าอย่างนั้นพี่ฝากทำข้าวต้มให้ตัวเล็กด้วยได้มั้ย”
“ได้ค่ะพี่วายุ สบายมากเดี๋ยวเบลจัดการให้นะคะ”
“ฟอด! แฟนใครเนี่ยทั้งใจดีทั้งเก่ง”
“เพี๊ยะ! พี่เหนือนี่มันใช่เวลามาหื่นมั้ยเนี่ย” เบลฟาดฝ่ามือลงไปที่แขนเหนือไม่แรงมากนักเพราะได้รับสายตาล้อๆมาจากทุกคน
“ก็พี่อยากให้รางวัลนี่ครับ พี่ผิดด้วยเหรอ” เหนือพูดพร้อมกับทำหน้าอ้อนไปด้วย
“เฮ้อ! กูว่ากูไปเตรียมของดีกว่า กูเริ่มจะหมั่นไส้คนแถวนี้ขึ้นมาตงิดๆแล้วว่ะ ไปกันครับ” ไฟพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืนแต่ก็ไม่ลืมจูงมือแฟนตัวเองให้เดินตามมาด้วย
“ไปไอ้อิฐไปช่วยกันจะได้เสร็จเร็วๆ มึงก็เข้าไปดูน้องน้ำเถอะเดี๋ยวพวกกูจัดการกันเอง เดี๋ยวถ้าเสร็จแล้วกูจะไปเคาะเรียก” ดินพูดชวนอิฐเสร็จก็หันมาบอกกับวายุ วายุก็ได้แต่พยักหน้ารับ
หลังจากที่ทุกคนไปช่วยกันเตรียมของที่จะทำชาบูกันแล้ว วายุจึงเดินเข้าห้องไปเพื่อดูคนตัวเล็กของเค้า
วายุจัดการเช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กับคนที่ยังนอนหลับอยู่อีกรอบหนึ่งเพราะกลัวว่าน้องจะไม่สบายตัว รอบนี้เค้าเปลี่ยนเป็นใส่กางเกงขายาวให้เผื่อว่าจะต้องออกไปนอกห้อง สีหน้าของสายน้ำนั้นถือว่าดีขึ้นมากแล้ว
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
เวลาผ่านไปจนเกือบจะ 6 โมงเย็นก็มีเสียงเคาะประตูอยู่หน้าห้องนอน วายุจึงรีบเดินไปเปิดประตู
“กูขอเข้าไปดูน้องหน่อย” เป็นหินผาที่เป็นคนมาเคาะประตูห้องเพราะเค้าเพิ่งจะพาวาริกลับจากไปกินข้าวกลางวันกับป๊าและม๊าที่บริษัทมา และอยู่เคลียร์งานต่ออีกนิดหน่อยจึงค่อยตามมาสมทบกับเพื่อนๆ ส่วนวารินั้นก็ขอแยกไปดูหนังกับเพื่อนๆต่อ เค้าก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะไม่อยากให้น้องอึดอัดมากจนเกินไปที่ต้องมาเกาะติดอยู่กับเค้าตลอดเวลา
“อือ”
วายุเปิดประห้องให้หินผาได้เดินเข้ามา หินผานั่งลงบนเตียงข้างๆน้องชาย เค้ายกมือขึ้นมาอังหน้าผากของสายน้ำ เมื่อเห็นว่าน้องชายตัวไม่ค่อยร้อนเท่าไหร่แล้วก็เบาใจขึ้นมาก
แต่แล้วสายตาอันเฉียบคมก็ไปสะดุดกับรอยสีแดงเข้มตรงต้นคอของน้อง เค้าจึงยื่นมือไปดึงคอเสื้อของน้องลงมา แล้วก็ต้องตกใจเมื่อพบรอยแดงเป็นจ้ำเต็มคอน้องเค้าไปหมด
พรึ่บ!
หินผาตวัดผ้าห่มออกโดยทันที เค้าเปิดเสื้อของน้องและเปิดกางเกงของน้องดู ก็พบรอยแบบเดียวกันเต็มไปหมดทั้งตัว เค้าไม่คิดแปลกใจเลยว่าทำไมน้องเค้าถึงกับต้องนอนจับไข้แบบนี้ ทั้งๆที่เมื่อวานตอนเย็นยังเห็นลงรูปในไอจีอยู่เลย
หินผาเงยขึ้นไปมองหน้าเพื่อนตัวดีด้วยดวงตาวาวโรจน์ วายุก็ได้แต่มองกลับมาอย่างไม่สะทกสะท้าน
“กูขอคำอธิบาย”
“ก็อย่างที่มึงเห็น”
“ไอ้เหี้ย!”
“เออๆ มึงเบาๆเดี๋ยวตัวเล็กตื่น” วายุที่เริ่มรู้อารมณ์ของเพื่อนก็รีบเบรกทันที เค้าแค่อยากจะกวนประสาทมันเล่นก็เท่านั้นเอง
“ก็เมื่อวานพอกลับมาจากข้างนอก.................” วายุเล่าให้หินผาฟังอย่างละเอียดจนถึงตอนที่เค้าเห็นกระต่ายน้องเซ็กซี่ปนน่ารักมายืนอยู่ตรงหน้า
หินผาได้แต่ก้มหน้าเอามือลูบหน้าของตัวเองไปมาอย่างหนักใจ วายุสังเกตสีหน้าที่เคร่งเครียดของเพื่อนก็เอ่ยถามขึ้นทันที
“กูรู้ว่ากูทำรุนแรงกับตัวเล็กเกินไป กูขอโทษ แต่ถ้าลองเป็นมึงลองให้น้องวาของมึงมาแต่งแบบนี้แล้วบอกว่าขอยกตัวเองให้เป็นของขวัญวันเกิดบ้างเป็นมึงมึงจะอดใจได้มั้ยล่ะ”
“มึงได้ป้องกันมั้ยวะ” หินผาไม่พูดโต้ตอบอะไรกลับมา แต่เงยหน้าขึ้นมามองหน้าเพื่อนและถามคำถามที่น่างงกับวายุแทน ที่ผ่านมาเค้าไม่เคยคิดเตือนหรือบอกเพื่อนเรื่องนี้เพราะเค้ารู้ดีว่าเพื่อนเค้าจะยังไม่ทำอะไรถ้ายังไม่ถึงเวลาอันสมควรเพราะว่ามันรักน้องเค้ามากและมันจะไม่มีทางทำให้น้องเค้าต้องเจ็บเป็นแน่ แต่เค้าคิดผิดไม่คิดว่าน้องชายของเค้าจะเป็นคนเริ่มเสียเอง
“ทำไมวะ มึงก็รู้ว่ากูไม่เคยมีใครแล้วกูก็เป็นคนแรกของตัวเล็กแล้วทำไมกูจะต้องป้องกันด้วยวะ อีกอย่างตัวเล็กก็เป็นผู้ชาย ถ้าเป็นผู้หญิงก็ว่าไปอย่าง มึงพูดอย่างกับกลัวว่าตัวเล็กจะท้อ......” วายุพูดมาถึงตรงนี้ก็หยุดชะงักทันที เค้ามองเข้าไปในดวงตาที่เต็มไปด้วยความกังวลของเพื่อน
พรึ่บ!!
“นี่มึงอย่าบอกนะว่า........” วายุรีบเดินมานั่งที่เตียงใกล้กับหินผาทันที เค้าเอ่ยถามเพื่อนออกไปด้วยเสียงที่เบาหวิว
“น้องน้ำมีฮอร์โมนเพศหญิงมากกว่าเพศชายตั้งแต่เกิด ทำให้ร่างกายน้องมีมดลูกติดมาด้วย หมอบอกว่ามดลูกนั้นจะค่อยๆเจริญเติบโตเต็มวัยตามวันเวลาและอายุของน้อง เคสของน้องเป็นเคสที่มีหนึ่งในล้านเท่านั้นที่จะเจอ นี่คือสาเหตุที่กูไม่เคยปล่อยให้น้องน้ำต้องคาดสายตาเลยแม้แต่น้อย” หินผาค่อยๆอธิบายให้วายุฟัง เพราะเค้าก็ไม่รู้ว่าเพื่อนเค้าจะรับได้มากน้อยแค่ไหน
“หึๆ นี่ก็แสดงว่าตัวเล็กก็มีสิทธิ์ท้องใช่มั้ยวะ แล้วกูก็มีสิทธิ์ที่จะเป็นพ่อคนจริงๆใช่มั้ยวะ แล้วตัวเล็กรู้ตัวรึเปล่า” วายุพูดด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้มตลอดเวลา เจ้าตัวมองไปยังคนตัวเล็กที่ยังนอนหลับตาพริ้มไม่รู้เรื่องอยู่ด้วยแววตารักใคร่อย่างปิดไม่มิด นี่คือสิ่งที่เค้าไม่เคยคิดจะคาดหวังและฝันมาก่อนในชีวิต หินผาเห็นสายตาที่เพื่อนเค้ามองไปยังน้องก็พลอยทำให้สบายใจไปด้วย
“น้องไม่รู้พวกเราไม่เคยบอก แล้วกูก็ไม่รู้ว่าน้องสามารถตั้งท้องได้เลยมั้ย เพราะป๊าม๊าแล้วก็กูก็ไม่เคยถามหมอจริงๆจังๆสักที หลังๆออกจะลืมเรื่องนี้ไปแล้วด้วยซ้ำ กูเพิ่งมานึกได้ตอนที่เห็นรอยบนตัวน้องกูที่มึงฝากไว้นี่แหละ มึงก็เบาๆกับน้องกูหน่อยน้องกูก็ตัวแค่นี้มึงสงสารน้องกูบ้างเถอะ อีกอย่างน้องกูยังเรียนไม่จบเผื่อมึงจะลืม” หินผาพูดแขวะเพื่อนขึ้นเมื่อได้เห็นทีท่าของเพื่อน มันทำให้เค้าสบายใจขึ้นมามาก เค้ากลัวว่ามันจะคิดว่าน้องน้ำของเค้าแปลกประหลาดไปกว่าคนอื่น แต่ก็ลืมคิดไปว่ามันรักน้องเค้ายิ่งกว่าอะไรดี
“พวกมึงหายเข้าไปทำอะไรกันนานสองนานวะ” ทันทีที่ประตูห้องเปิดออก เหนือก็ถามขึ้นทันที
“เสือก” วายุพูดว่าเหนือแต่เจ้าตัวก็ยังยกยิ้มอย่างอารมณ์ดี
“เออ วันนี้แม่งมาแปลก ด่ากูแต่เสือกยิ้ม กูถามจริงมึงแย่งยาน้องลักยิ้มของกูมากินแล้วลืมเขย่าขวดใช่มั้ยวะ” ยังคงเป็นเหนือที่ยืนปักหลักถามเพื่อนอยู่ ในขณะที่คนอื่นๆ ก็ช่วยกันทยอยยกของออกมาจากครัว
“หึ / หึ” วายุและหินผาหัวเราะในลำคอขึ้นมาพร้อมกัน
“พวกมึงสองคนนี่ท่าจะบ้า กูไปหาแฟนกูดีกว่าเดี๋ยวกูจะพลอยเป็นประสาทไปกับพวกมึงด้วยอีกคน หนูจ๋าพี่มาแล้วค่ะ” เหนือพูดเสร็จก็หันเดินเข้าไปในครัวทันที
“แล้วนี่น้องน้ำยังไม่ตื่นเหรอวะ นานแล้วน่ะเว้ย มึงไม่ไปปลุกน้องมากินข้าวกินปลาเดี๋ยวก็ปวดท้องเอาหรอก” หลังจากนั่งกินไปได้สักพักไฟก็พูดถามขึ้นมา เพราะเค้าก็เป็นห่วงและรักรุ่นน้องตัวเล็กคนนี้อยู่ไม่น้อย
แกร็ก!!
พอไฟพูดจบเสียงประตูห้องก็ดังและเปิดออกขึ้นทันที ทำให้ทุกสายตาหันไปมองในทางเดียวกัน
จะมีก็แต่หินผาและวายุที่รีบกระเด้งตัวและลุกขึ้นมาในทันทีที่ประตูเปิดออก
“ตัวเล็กทำไมไม่เรียกพี่ล่ะครับ แล้วนี่เดินไหวเหรอครับ หืม” วายุถามขึ้นพร้อมกับเข้าไปประคองคนตัวเล็กที่ยืนโงนเงนหน้าตางัวเงียอยู่
“มึงพาน้องไปล้างหน้าล้างตาก่อนไป เดี๋ยวจะได้กินข้าวกินยา” หินผาพูดบอกขึ้น
วายุก็พยักหน้ารับพร้อมกับอุ้มสายน้ำขึ้นในท่าเจ้าสาวและเดินหายเข้าไปในห้องอีกครั้ง
พอประตูเปิดออกมาอีกครั้ง วายุก็อุ้มสายน้ำออกมาในท่าคาดเอวและนั่งลงข้างๆ กับหินผา
“จุ๊บ! น้องเป็นยังไงบ้างครับ ค่อยยังชั่วรึยังครับ ยังเจ็บตรงไหนอยู่มั้ย” ทันทีที่วายุอุ้มน้องมานั่งข้างๆ หินผาก็ก้มลงไปจูบที่หน้าผากของน้องชายตัวเอง และเอ่ยถามขึ้น
“ดีขึ้นเยอะแล้วครับ แต่ก็ยังเจ็บที่ เอ่อ....” สายน้ำพูดตอบด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้งเล็กน้อยพร้อมกับก้มหน้าลงไปซุกที่อกของคนรักอย่างเขินๆ วายุบอกเค้าตอนที่อยู่ในห้องน้ำแล้วว่าหินผารู้เรื่องหมดแล้ว
“น้ำดีขึ้นมากแล้วใช่มั้ย” ออกัสที่เป็นห่วงเพื่อนตัวเล็กถามขึ้น
“อื้อ น้ำไม่เป็นอะไรแล้วขอบใจนะ” สายน้ำหันหน้ามามองเพื่อนพร้อมกับหน้าและหูที่แดง ทั้งคู่ส่งยิ้มและหัวเราะคิกคักให้กันจนทุกคนแปลกใจ จะมีก็แต่วายุเท่านั้นที่พอจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เค้าพอจะเดาเหตุการณ์ได้เมื่อนึกย้อนไปในวันที่น้องบอกว่านั่งดูหนังผีกับเพื่อนอยู่
“เดี๋ยวๆคืออะไร น้ำกับกัสหัวเราะอะไรกันเหรอ แค่ถามอาการมันมีเรื่องให้ต้องหัวเราะด้วยเหรอ” เบลถึงกับต้องเอ่ยถามขึ้นมาทันทีที่เห็นเพื่อนตัวเล็กของเธอทั้งสองคนส่งสายตาและส่งยิ้มให้กันไปมาเหมือนมีลับลมคมใน
“อ๋อ...เราใช่มั้ยครับที่เป็นตัวต้นคิดและแนะนำเพื่อน หืมมม” ไฟที่เริ่มมองสถานการณ์ออกเมื่อสบตาเข้ากับวายุ และประจวบเหมาะกับที่เห็นรอยแดงที่คอที่ผมปิดไม่หมดบางส่วนและที่ข้อเท้าของสายน้ำด้วยแล้วยิ่งทำให้มั่นใจ คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากฝีมือเมียตัวน้อยของเค้าที่หลายวันมานี้มีอาการลุกลี้ลุกลนแปลกๆ
“คิกๆ พี่ไฟไม่เอากัสจั๊กกะจี๋ ฮ่าๆๆ” ออกัสดีดดิ้นอยู่ในอ้อมกอดของไฟที่ใช้มือจี้ไปที่เอวของเค้าไม่หยุด
“เดี๋ยวๆ พวกมึงหยุดจู๋จี๋กันก่อนดิ๊ นี่กูยังไม่เคลียร์นะโว้ย อะไรของมึงวะไอ้ไฟ อ๋อนี่คืออ๋ออะไรวะ” เหนือที่ยังคงนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ด้วยกันกับเบลเอ่ยขึ้นอย่างอารมณ์เสีย
“เสือก กินๆเข้าไปมึงอ่ะ ไม่ต้องรู้สักเรื่องก็ได้” เป็นหินผาที่พูดเบรกขึ้นมา เหนือได้แต่ชี้หน้าคาดโทษไฟเอาไว้ เพราะถ้าเป็นหินผาพูดแสดงว่าเค้าต้องหยุดถามจริงๆ
“พี่กายน้องหิวแล้วครับ” สายน้ำพูดขึ้นเมื่อท้องเค้าเริ่มที่จะร้องประท้วงแล้ว
“งั้นเดี๋ยวกูไปเอาข้าวต้มมาให้” เป็นหินผาที่พูดและลุกขึ้นทันที
“งั้นน้องหันหน้านั่งดีๆก่อนครับจะได้กินถนัดๆ” วายุพูดพร้อมกับจับคนตัวเล็กบนตักให้นั่งหันหน้าออกแต่ก็ยังคงให้น้องนั่งอยู่บนตักของเค้าอยู่เพราะกลัวว่าน้องจะเจ็บก้นเอาได้ถ้าต้องนั่งกับพื้น
“อร่อยจังเลยครับ นี่ต้องเป็นฝีมือเบลแน่ๆเลยใช่มั้ย” พอตักข้าวต้มเข้าปากไปคำแรกสายน้ำก็เอ่ยชมออกมาทันที เพราะเจ้าตัวนั้นจำรสมือของเพื่อนสาวได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเบลชอบทำมาให้กินบ่อยๆ
“ใช่แล้ว อร่อยก็กินเยอะๆนะ น้ำยังหน้าซีดอยู่เลย แล้วยังปวดหัวอยู่มั้ย” เบลถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง เพราะเพื่อนตัวเล็กของเธอนั้นหน้าและปากยังดูซีดเซียวอยู่เลยจากหน้าที่เคยอมชมพูและริมฝีปากที่เคยแดงเหมือนลูกเชอรี่
“น้ำไม่ค่อยปวดหัวแล้ว มีแต่ยังมึนๆนิดหน่อย วันนี้ได้นอนพักทั้งวันเลยค่อยยังชั่วขึ้นเยอะ” สายน้ำพูดตอบเพื่อนพร้อมกับตักข้าวต้มเข้าปากไปด้วย เพราะเค้านั้นหิวมากๆ วันนี้ทั้งวันเท่าที่จำได้เค้ามีข้าวตกถึงท้องไปเพียงแค่สามคำเท่านั้น
วายุที่เห็นคนรักกินได้แล้วก็ถึงกับยิ้มออก นิ้วมือเรียวจับผมที่ร่วงไปปกหน้าของคนตัวเล็กขึ้นมาทัดหู
“เฮ้ย!! ไอ้วายุ” อยู่ดีๆเหนือก็ร้องขึ้นเสียงดัง ทุกคนที่กำลังก้มหน้าก้มตากินกันอยู่ถึงกับสะดุ้งขึ้น
“อะไรของมึงวะไอ้เหนือ กูเกือบปล่อยแก้วเบียร์ทิ้งแล้วมั้ยล่ะ ไอ้เพื่อนเวร” ดินโวยวายขึ้นทันทีเพราะเค้าถือแก้วเบียร์กำลังจะยกขึ้นดื่ม
“นี่มึงอย่าบอกนะว่าวันเกิดมึง มึง......” เหนือพูดพร้อมกับชี้ไปที่คอและข้อเท้าของสายน้ำ โดยไม่ได้สนใจคำด่าของดินแม้แต่น้อย
“ห๊ะ! นี่อย่างบอกนะว่า กัส..น้ำ” เบลที่มองตามมือของเหนือที่ชี้ไปก็เริ่มปะติดปะต่อเรื่องขึ้นมาได้ เพราะว่าตอนวันเกิดของไฟออกัสมาปรึกษาเธอเรื่องของขวัญวันเกิดที่จะให้กับไฟ เหนือกับเบลก็เลยแนะนำไปเล่นๆ ว่าให้ผูกโบว์ตัวเองเป็นของขวัญและใส่ชุดเซ็กซี่ๆนิดหน่อยแค่นี้ก็พอแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าเพื่อนของเธอจะบ้าจี้ทำมันจริงๆ
“เฮ้อ!” วายุถึงกับต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่กับความขี้เสือกขี้สงสัยของสองผัวเมียคู่นี้
“ตัวเล็กครับ............” สายน้ำที่ยังตกใจกับเหตุการณ์โวยวายตรงหน้าอยู่ก็หันมามองคนด้านหลัง พร้อมกับวายุที่ก้มลงไปกระซิบที่หูของสายน้ำให้ได้ยินกันอยู่สองคน พอวายุเงยหน้าขึ้นมาสายน้ำก็พยักหน้ารับพร้อมกับใบหน้าและหูที่แดงก่ำ และหันหน้าเข้าซุกอกของวายุทันที
“ตัวเล็กเป็นของขวัญวันเกิดที่ล้ำค่าและพิเศษที่สุดในชีวิตกู น้องเป็นเมียกูแล้ว ถ้าเข้าใจแล้วก็เลิกถามเลิกเสือก”
“ห๊ะ!!!!!!!!!!!”
วายุพูดจบก็ลุกขึ้นและอุ้มคนตัวเล็กของเค้าหายเข้าไปในห้องปล่อยให้เหนือ เบล ดิน และอิฐ นั่งตกตะลึงตาค้างนั่งอ้าปากหวอกันอยู่อย่างนั้น
Comments (0)