วายุถึงกับอึ้งกับคำที่น้องต่อว่าเค้าออกมา เพราะเค้าไม่คิดว่าคำว่า "แกล้ง" จะส่งผลต่อจิตใจน้องขนาดนี้ ทำไมเค้าจึงลืมไปว่าน้องยังไม่ประสาเรื่องทำนองนี้ ไอ้วายุนะไอ้วายุเริ่มแรกก็ทำให้น้องต้องเสียน้ำตาซะแล้ว นี่เหรอที่มึงบอกกับตนเองว่าจะปกป้องน้อง มึงกลับเป็นคนทำให้น้องต้องเสียใจเสียน้ำตาเสียเอง

"พี่ขอโทษครับ พี่ขอโทษ หยุดร้องไห้ก่อนนะครับเดี๋ยวจะปวดหัวเอา ตัวเล็กยิ่งตัวรุมๆอยู่" วายุพูดพร้อมกับจะยื่นมือไปเช็ดน้ำตาให้น้องแต่.....

"เพี๊ยะ!!~" สายน้ำปัดมือวายุออกอย่างแรง

"ฮึก! น้องอยากกลับบ้าน น้องไม่อยากอยู่กับพี่กายแล้ว" สายน้ำพูดพร้อมทำท่าจะลุกขึ้นด้วยความทุลักทุเลพร้อมเซเล็กน้อย ทั้งเจ็บทั้งตึงแผลไหนจะอาการมึนหัวเวียนหัวที่เริ่มจะรุมเร้าเข้ามานี่คือสิ่งที่สายน้ำรู้สึก

"ไม่ครับพี่ไม่ให้กลับ ตัวเล็กต้องอยู่คุยกับพี่ให้รู้เรื่องก่อนครับ ที่พี่บอกว่าแกล้งพี่ไม่ได้ความว่าอย่างนั้นครับ" วายุพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เค้าไม่คิดว่าคนตัวเล็กของเค้าเวลาโกรธขึ้นมาจะเอาเรื่องและดื้อขนาดนี้

"อึก~" สายน้ำลุกขึ้นยืนพร้อมทำหน้าเหยเกด้วยความเจ็บแผลที่หัวเข่า วายุที่กำลังจะยื่นมือไปช่วยจับถึงกับต้องชะงักเมื่อเจอสายน้ำมองกลับมา

"ตัวเล็กจะไปไหนครับ" สายน้ำไม่ตอบคำถามแต่ค่อยๆเดินกะเผลกๆไปที่หน้าประตูเพื่อจะกลับบ้าน

"หมับ!!!!"

"พี่ไม่ให้ตัวเล็กไปไหนนะครับ เราต้องคุยกันให้รู้เรื่องก่อน แล้วสภาพแบบนี้จะไปได้ยังไงครับ หืม~" วายุเข้ามากอดสายน้ำทางด้านหลัง พร้อมพูดกับคนตัวเล็กด้วยความใจเย็นปนมันเขี้ยวนิดๆ

"พี่วายุปล่อยครับน้ำนะครับ น้ำจะกลับบ้าน" สายน้ำพูดพร้อมกับดิ้นเพื่อจะให้หลุดจากอ้อมกอดของคนขี้แกล้ง

"หือ!!!" ถ้าเมื่อกี๊เค้าฟังไม่ผิดน้องเรียกเค้าว่าวายุแล้วแทนตัวเองว่าน้ำ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังเรียกพี่กายพร้อมแทนตัวเองว่าน้องอยู่เลย เจ้าเด็กแสบเอ๊ย คอยดูนะถ้าหายจะตีให้ก้นลายเลย ฮึ่ม!! วายุได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่ในใจ

"ฮึบ!!"

"เหวอ!!"

วายุไม่พูดพร่ำทำเพลงเค้าอุ้มสายน้ำขึ้นท่าเจ้าสาวพร้อมกับก้าวเดินไปทางห้องนอนของตนเอง โดยที่สายน้ำพอหายตกใจแล้วก็ดิ้นไม่หยุดถึงแม้จะเจ็บแผลมากก็ตาม

เมื่อถึงห้องนอนวายุก็วางสายน้ำลงบนเตียงด้วยความเบามือ แต่สายน้ำก็ยังทำท่าจะลุกขึ้นมาอีก

"ตัวเล็กครับ นี่พี่เหนื่อยกับเราแล้วนะครับ ทำไมเราถึงได้ดื้อแบบนี้ครับ" วายุพูดขึ้นเสียงดังพร้อมกับถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยที่ต้องต่อสู้กับคนตัวเล็กไหนจะทั้งดิ้นทั้งทุบเค้าเรียกได้ว่าแทบหมดพลังกันเลยทีเดียว

"กึก!~" สายน้ำได้ยินดังนั้นถึงกับชะงัก น้ำตาที่หายไปตั้งแต่ตอนแรกเริ่มกลับมาคลอเบ้าแต่ก็พยามยามกลั้นไว้ไม่ให้ไหลออกมา พร้อมกับหันหน้าหนีแล้วหลับตาลง เค้าไม่อยากรับรู้อะไรแล้วนี่หรือพี่กายที่แสนจะใจดีกับเค้า แท้ที่จริงแล้วก็เห็นเค้าเป็นที่น้องที่น่าแกล้งน่ารำคาญคิดจะทำอะไรก็ได้ใช่หรือไม่

"ตัวเล็กครับ พี่ขอโทษ พี่กายขอโทษ" วายุเมื่อได้สติว่าตนเองได้พูดได้กระทำท่าทางอะไรลงไปกับน้อง ก็แทบอยากจะเอาหัวโขกกำแพงซะให้มันรู้แล้วรู้รอด ไอ้วายุไอ้เหี้ยเอ๊ย

สายน้ำยังนอนหลับตานิ่งจะมีแต่น้ำตาที่ไหลรินลงมาจากหางตา วายุได้เห็นถึงกับเจ็บปวด นี่น้องมาอยู่กับเค้ายังไม่ถึงวันเค้าทำให้น้องร้องไห้ไปแล้วถึงสองครั้งสองครา

"ตัวเล็กนอนพักก่อนนะครับ ตื่นมาเราค่อยมาคุยกัน พี่จะบอกทุกสิ่งทุกอย่างที่พี่รู้สึกกับตัวเล็ก พี่กายขอโทษอีกครั้งนะครับ ขอโทษจริงๆที่ทำให้ตัวเล็กของพี่กายรู้สึกแย่ทำให้ตัวเล็กของพี่กายต้องร้องไห้ จุ๊บ!!" วายุก้มลงไปจูบตรงดวงตาของสายน้ำพร้อมทั้งห่มผ้าให้น้องแล้วจึงเดินออกไปด้านนอก

สายน้ำลืมตาขึ้นมาหลังจากที่วายุเดินออกไปแล้ว เค้าได้ยินทุกคำพูดของวายุรับรู้ถึงสัมผัสที่วายุมอบให้ ตอนนี้จิตใจเค้ามันสับสนวุ่นวายไปหมด สายน้ำไม่รู้ว่าที่เค้ารู้สึกอยู่ตอนนี้มันคืออะไร ใจเต้นทุกครั้งเขินทุกครั้งที่วายุเข้ามาใกล้ไม่เหมือนกับเพื่อนพี่ชายคนอื่นๆที่เค้าคุยด้วย

เวลาผ่านไปสักพักสายน้ำก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลียพร้อมกับฤทธิ์ไข้ที่กำลังเล่นงานคนตัวเล็ก

วายุเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับกะละมังและผ้าขนหนูผืนเล็กซึ่งเค้าคาดว่าคนตัวเล็กของเค้าน่าจะมีไข้แน่นอนก็ทั้งแผลงฤทธิ์ทั้งร้องไห้ไหนจะแผลที่อักเสบจากทั้งดิ้นทั้งเดินอีก

วายุเอาผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆแล้วค่อยๆบรรจงเช็ดที่หน้าน้องอย่างเบามือ จากนั้นก็ถอดเสื้อน้องออก วายุถึงกับกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากก็ตัวของน้องนั้นขาวอมชมพูไปทั้งตัว ไหนจะยอดอกที่มีสีชมพูระเรื่อ แถมเอวที่ยังคอดเล็กเห็นแล้วน่าขยำให้แหลกคามือนั่นอีก

อ๊อด!!! อ๊อด!!! วายุที่ได้ยินเสียงกดออดหน้าประตูถึงกับได้สติพร้อมทั้งส่ายหัวสะบัดไล่ความคิดตนเองที่มีก่อนหน้านี้ วายุหันไปห่มผ้าให้สายน้ำแล้วลุกขึ้นเดินไปเปิดประตู

"น้องกูเป็นยังไงบ้าง"

"ไข้ขึ้น กำลังเช็ดตัวให้อยู่"

"ห๊ะ!!!" นี่อย่าบอกนะว่ามึงเป็นคนเช็ดตัวให้น้องกู

"ก็ถ้าไม่ใช่กูแล้วมึงจะให้ใครเป็นคนเช็ด" วายุตอบหินผาด้วยหน้าตานิ่งๆ แต่ใจของเค้านี่สิไม่นิ่งเลยสักนิดเมื่อคิดถึงร่างกายขาวอมชมพูนั่น ให้ตายเค้าไม่คิดว่าร่างกายของคนตัวเล็กจะมีอิทธิพลกับเค้าขนาดนี้

หินผารีบเดินไปที่ห้องรับแขกแต่ก็ไม่เจอน้องตนเอง เค้าจึงเดินไปอีกห้องซึ่งเป็นห้องของวายุ พอเปิดประตูไปเจอสายน้ำที่นอนนิ่งทั้งไหล่ขาวยังโผล่พ้นผ้าห่มขึ้นมาอีก หินผาถึงกับกัดฟันกรอดด้วยความหวงน้อง นี่เค้าก็ยังคงทำใจไม่ได้อยู่ดีที่จะให้คนอื่นต้องมาแตะต้องน้องชายสุดรักสุดหวงของเค้า

หินผาหันมามองวายุตาเขียว วายุได้แต่ยักไหล่กวนๆกลับไปให้

"มึงออกไปก่อนเดี๋ยวกูเช็ดตัวน้องกูต่อเอง"

"อือ" วายุรับคำอย่างว่าง่าย ก็ดีเค้าจะได้สงบจิตสงบใจสักพัก

เมื่อวายุเดินออกไปแล้วหินผาก็ทำหน้าที่พี่ชาย เช็ดตัวให้น้องอย่างคล่องแคล่ว เค้าเป็นคนคอยดูแลสายน้ำตลอดเวลาที่สายน้ำไม่สบายภาพที่เห็นจึงเป็นภาพที่ชินตา ร่างกายน้องเค้าถ้าตัดตรงที่ไม่มีหน้าอกกับของผู้ชายออกก็ผู้หญิงดีๆนี่เอง นี่คือสาเหตุที่เค้าหวงน้องนักหวงน้องหนา ร้อยทั้งร้อยต่อให้ผู้ชายที่แมนทั้งแท่งก็ยังต้องหลง

"เสร็จแล้ว" วายุถามขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนถือกะละมังออกมาจากห้อง

"อือ"

หินผานำกะละมังไปเก็บไว้ในห้องครัวตามเดิม พร้อมเดินมานั่งลงข้างๆวายุที่นั่งดูทีวีอยู่ก่อนแล้ว

"ทำไมน้องกูร้องไห้ มึงทำอะไรน้องกู" หินผาพูดเสียงเย็นโดยที่ตายังคงจับจ้องรายการทีวีอยู่ เค้ากลัวว่าถ้าหันมามองหน้าวายุอาจจะเผลอบีบคอมันจนตาย ทำไมเค้าจะไม่รู้ว่าน้องเค้าร้องไห้หนักขนาดไหน ทั้งคราบน้ำตาที่หมอนไหนจะตาที่บวมจนเห็นเด่นชัดนั่นอีก

"เฮ้อ!!!" วายุถึงกับถอนหายใจ ก้มหน้าพร้อมกับยกมือขึ้นมาปิดหน้าตัวเอง ก่อนจะตัดสินใจเล่าเรื่องทั้งหมดให้หินผาฟังโดยไม่ปิดบังแม้แต่น้อย เค้าหวังว่าไอ้เพื่อนคนนี้จะมีวิธีให้เค้าได้ง้อคนตัวเล็ก

พลั่ก!! พลั่ก!!~ โครม!!~ เพล้ง!!~

หินผาต่อยเข้าที่หน้าของวายุ พร้อมทั้งดึงคอเสื้อของวายุให้ลุกขึ้นมาแล้วตามด้วยอีกหมัดทำให้วายุที่เสียหลักล้มลงไปบนโต๊ะหน้าทีวีที่เป็นกระจกจนแตก วายุไม่คิดแม้แต่จะตอบโต้หรือป้องกันตัวแม้แต่น้อย

เค้าสมควรที่จะโดนแล้ว คราวที่ขอหินผาจีบสายน้ำเค้าให้สัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะกับหินผาว่าจะไม่ทำให้สายน้ำต้องเสียใจเสียน้ำตา แต่นี่เค้ากลับทำไมได้ตั้งแต่วันแรกที่ขอน้องมาอยู่ด้วย

"พี่ผา!!! พี่กาย!!! เกิดอะไรขึ้นครับ" สายน้ำที่ได้ยินเสียงดังโครมครามก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา พอเปิดประตูออกมาถึงกับตกใจกับสภาพที่เห็น

พี่ชายของเค้ายืนจ้องหน้าวายุอยู่แทบจะกินเลือดกินเนื้อ ส่วนวายุนั้นมุมปากทั้ง 2 ข้างมีเลือดซึมออกมา มือของวายุมีเลือดไหลจากตอนที่ล้มแล้วเอามือไปเท้ากระจกจนแตก

สายน้ำรีบเดินมาด้วยความทุลักทุเลพอสมควรเพื่อที่จะมาดูวายุที่นั่งจ้องหน้าตนเองอยู่ด้วยสายตาที่วูบไหวอย่างบอกไม่ถูก

"หมับ! น้องน้ำกลับบ้านกับพี่ครับ" หินผาคว้าข้อมือน้องไว้ก่อนที่สายน้ำจะเดินถึงตัววายุ

"พรึ่บ! หมับ! ไม่....ตัวเล็กต้องอยู่กับกู" วายุขยับตัวมาพร้อมกับนั่งคุกเข่าเข้ามากอดเอวของสายน้ำเอาไว้

"พี่กาย..." สายน้ำเรียกชื่อวายุด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เค้าอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมพี่กายถึงมีสภาพแบบนี้

"มึงปล่อยมือจากตัวน้องกูเดี๋ยวนี้ มึงจะมาเรียกร้องอะไรในเมื่อสัญญาที่มึงให้กูไว้มึงยังรักษามันไว้ไม่ได้ ตั้งแต่เกิดมาคนในครอบครัวของกูยังไม่เคยทำให้น้องกูต้องร้องไห้หนักขนาดนี้มาก่อนเลย" หินผาพูดด้วยเสียงแข็งกร้าว

เค้ารู้ว่าเค้าทำเกินไป ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ แต่เรื่องนี้จะสอนให้คนอย่างวายุรู้ว่าต้องมีความอดทนมากขนาดไหนที่จะต้องอยู่กับน้องเค้า น้องเค้าดูภายนอกถึงจะดูอ่อนโยนร่าเริงสดใสมองโลกในแง่ดี แต่ถ้ามีเรื่องให้สายน้ำต้องคิดมากหรือโกรธน้องจะเปลี่ยนไปเป็นอีกคนก็ว่าได้ ที่วายุเจอยังไม่ได้ครึ่งหนึ่งของความเป็นตัวตนของสายน้ำเลย

ครอบครัวของเค้าเลี้ยงดูสายน้ำมาด้วยความรักดูแลเอาใจใส่อย่างดี สายน้ำถูกสอนให้เป็นเด็กมีเหตุมีผลทั้งการกระทำและความคิด ชอบให้คนพูดจาด้วยแบบตรงไปตรงมา คิดยังไงแสดงออกแบบนั้น แต่พอมาเจอวายุที่ใช้วิธีเข้าการเข้าหาแบบนี้ก็อาจจะทำให้สายน้ำสับสนได้ ยิ่งสิ่งที่วายุทำส่งผลต่อสภาพจิตใจด้วยแล้วน้องคงจะไม่เข้าใจว่าสิ่งที่วายุพยายามจะสื่อคืออะไรกันแน่หรือแค่ล้อเล่นกับความรู้สึกเพียงเท่านั้น

"เฮ้อ!!" หินผาถึงกับถอนหายใจยาวกับภาพตรงหน้า ก็เพื่อนตัวดียังคงกอดเอวน้องชายเค้าแน่นยิ่งกว่าคีมเหล็กเสียอีก

พรึ่บ!!!!~

หินผาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาด้วยความเหนื่อยใจ วายุที่คนที่แสนจะเย็นชาไม่สนใจโลก คนที่เคยจิตใจมั่นคงแข็งแกร่งดั่งหินผาไม่เคยหวั่นไหวต่อสิ่งใด ไหงมาตกม้าตายเอากับน้องชายตัวเล็กๆของเค้าไปได้ หึๆ

"น้องน้ำครับมาหาพี่ครับ" หินผาเรียกสายน้ำพร้อมกับตบที่ตักตนเอง

"พี่กายปล่อยน้องก่อนครับ" สายน้ำพยายามแกะมือของวายุออก

"แต่......." วายุเงยหน้ามามองคนตัวเล็กของเค้าด้วยความลังเลว่าจะปล่อยดีไม่ปล่อยดี

"มึงปล่อยน้องกูก่อนน้องกูไม่สบายอยู่แถมเจ็บแผลอีก หรือมึงจะให้น้องกูยืนเจ็บแผลอยู่อย่างนี้" พอได้ยินที่หินผาพูดเท่านั้นแหละวายุจึงค่อยคลายอ้อมกอดจากสายน้ำทันที

"น้องมาหาพี่มาครับ" สายน้ำเดินไปนั่งตักพี่ชายอย่างว่าง่าย วายุจึงลุกตามไปนั่งใกล้ๆกัน

"ปวดหัวรึเปล่าครับ ตัวยังร้อนอยู่เลย แล้วนี่เจ็บแผลมากมั้ยครับ เดี๋ยวพี่สั่งข้าวต้มมาให้กินนะเสร็จแล้วจะได้กินยา" หินผาพูดถามน้องพร้อมทั้งเอาหลังมืออังหน้าผาก

"ไม่ค่อยปวดเท่าไหร่แล้วครับคงเพราะได้นอนพัก ส่วนแผลก็ตึงๆเจ็บๆครับแต่ไม่มากเท่าไหร่" สายน้ำพูดตอบพร้อมรอยยิ้มบางส่งให้พี่ชาย พี่ชายเค้ายังอบอุ่นเสมอเมื่อเวลาที่เค้าต้องการที่พึ่ง

"ตัวเล็กครับ พี่ขอคุยด้วยหน่อยได้มั้ยครับ" หลังจากที่เงียบเป็นผู้ฟังที่ดีอยู่สักพัก วายุก็ทำใจดีสู้เสือเรียกคนตัวเล็กของเค้า

"พี่กายทำแผลก่อนมั้ยครับเลือดไหลเยอะเลย" สายน้ำพูดโดยไม่มองหน้าวายุ พร้อมกับเอาหน้าซบลงที่อกของหินผา

วายุรู้สึกเจ็บปวดเป็นที่สุดที่สายน้ำแสดงออกต่อเค้าแบบนี้ มิน่าหินผามันถึงแทบเป็นบ้าเป็นหลังเมื่อคราวที่โดนสายน้ำโกรธ

"กูว่ามึงทำแผลก่อนแล้วค่อยคุยกับน้องกู ให้เวลาน้องกูได้ทำใจก่อน"

พอพูดบอกเพื่อนเสร็จ หินผาก็จัดการโทรสั่งข้าวต้มกุ้งของโปรดของน้องและข้าวของเค้ากับวายุอีกคนละกล่อง หลังจากนั้นก็เดินไปเอากล่องปฐมพยาบาลมาทำแผลให้เพื่อนตัวดี

หลังจากที่ทำแผล ทำความสะอาดสถานที่ และกินข้าวกันเสร็จสรรพแล้ว หินผาก็จัดการให้น้องกินยาและเช็ดตัวให้อีกรอบพร้อมกับเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เตรียมมาจากบ้าน

หินผาเดินออกมาจากห้องก็เห็นวายุนั่งมองมาก่อนอยู่แล้วจึงเดินเข้าไปนั่งโซฟาเดี่ยวที่หันหน้าเข้าหาเพื่อน

"กูจะให้โอกาสมึงคุยกับน้องกู แต่กูบอกไว้ก่อนไม่ว่าน้องกูจะตัดสินใจยังไงมึงจะต้องเคารพการตัดสินใจของน้องกูด้วยรวมทั้งตัวกูก็ด้วย" วายุพยักหน้ารับ

"น้องน้ำเป็นเด็กอ่อนโยนเป็นเด็กสดใสร่าเริง มองโลกในแง่ดีอย่างที่มึงเห็น ที่บ้านกูสอนและเลี้ยงน้องมาด้วยการพูดตรงไปตรงมาด้วยเหตุและผล น้องไม่ชอบการโกหกหลอกลวง ไม่ชอบให้มีเรื่องปิดบัง น้องกูไม่เคยมีความรักไม่เคยรู้จักคำๆนี้นอกจากความรักจากครอบครัวและเพื่อน ไม่แปลกที่น้องจะคิดว่ามึงแกล้งและเล่นกับความรู้สึกของน้อง น้องกูยังอ่อนกับเรื่องนี้อยู่มากกูหวังว่ามึงจะเข้าใจ กูก็ช่วยมึงได้แค่นี้แหละ ที่เหลือก็แล้วแต่ความสามารถของมึงแล้วว่าจะทำให้น้องกูเปิดใจยอมรับมึงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตได้รึเปล่า"

วายุถึงกับยกยิ้มกับคำพูดของเพื่อนตนเอง เค้ารู้ว่าหินผารักน้องมากและก็รักเพื่อนมากเช่นกัน และอีกอย่างเค้าก็ไม่คิดโกรธที่โดนต่อยเพราะมันสมควรแล้วที่จะโดน

สายน้ำเงยหน้าขึ้นมาเมื่อรู้สึกได้ว่ามีคนเดินเข้ามาในห้อง ดวงตากลมโตสบตาเข้ากับดวงตาคมที่มองมายังตน

"ตัวเล็กครับ เงยหน้าขึ้นมาคุยขึ้นมามองพี่กายหน่อยได้มั้ยครับ หรือตัวเล็กรังเกียจและเกลียดขี้หน้าพี่กายคนนี้แล้วครับ" วายุเข้าไปนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าน้องแล้วพูดอ้อนขึ้นหลังจากที่สายน้ำก้มหน้าลงไปอีกครั้งเมื่อเห็นตนเองเดินเข้ามาในห้อง

"มะ ไม่ได้รังเกียจแล้วก็ไม่ได้เกลียดครับ แต่.....น้อง" สายน้ำเงยหน้าขึ้นและส่ายหน้าจนผมสะบัดไปมา

"น้องอะไรครับ หืม......" วายุรู้สึกว่าหน้าตาน้องตอนนี้น่ารักมากจนอยากจับฟัด แต่คงต้องหักห้ามใจไว้ก่อนมึงกำลังง้อน้องอยู่เดี๋ยวได้โดนโกรธยาว

"พี่กายเบื่อน้องแล้ว พี่กายว่าน้องดื้อ" สายน้ำตอบวายุด้วยดวงตาสั่นระริกอย่างพยายามกลั้นน้ำตาไว้

"ชู่ว์!!!!! ไม่เอาครับไม่ร้องเรามาคุยกันดีๆนะครับ" สายน้ำพยักหน้าตอบรับทันทีที่วายุบอก

"พี่กายขอโทษนะครับที่เสียงดังใส่ตัวเล็ก ขอโทษที่ว่าตัวเล็กดื้อ พี่แค่เหนื่อยที่อุ้มน้องเข้ามาในห้อง แถมตัวเล็กยังทั้งดิ้นและทุบตีพี่จนพี่เจ็บไปหมดเลยทำให้พี่เผลอพูดอะไรที่ไม่ทันได้คิดออกไป พี่ขอโทษนะครับ" สายน้ำนั่งฟังนิ่งๆพร้อมน้ำตาที่ค่อยไหลออกมา

"น้องก็ขอโทษครับที่ทำร้ายพี่กายทำให้ต้องเจ็บตัว แถมยังทำให้พี่กายโดยพี่ผาทำร้ายอีก ฮึก!!"

"พี่ไม่เป็นไรแล้วครับ ไม่ร้องนะครับ แผลแค่นี้พี่ไม่เจ็บหรอกมันเทียบกับที่ทำตัวเล็กร้องไห้ไม่ได้เลย" วายุพูดปลอบพร้อมใช้นิ้วโป้งเกลี่ยน้ำตาจากหน้าใส

"ตัวเล็กครับ"

"ครับ พี่กาย"

"ถ้าพี่จะบอกว่าที่พี่หอม ที่พี่จูบ พยายามทำตัวใกล้ชิด นั่นเป็นเพราะพี่รักและพี่อยากเป็นแฟนกับตัวเล็ก ไม่ใช่เพราะว่าอยากแกล้งอย่างที่พี่บอกเราตอนแรก ตัวเล็กจะว่ายังไงครับ"

หลังจากวายุพูดจบสายน้ำถึงกับตาโตมองหน้าวายุนิ่งราวกับว่าสติได้หลุดลอยไปแล้ว เค้ารู้สึกเหมือนมีผีเสื้อนับร้อยบินวนอยู่ในท้อง มันมวนท้องอย่างบอกไม่ถูก หัวใจเต้นรัวและแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน อะไรคืออยากเป็นแฟน พี่กายชอบน้องน้ำเหรอ นี่คือที่สายน้ำคิดถามตนเองอยู่ในหัวหลายต่อหลายรอบ