54 ตอน ภูธาราวารี (NC นิดหน่อย)
โดย Beloved_Moouan
“ว้าวววว สวยจัง พี่กายเห็นมั้ยครับ เห็นแต่สีส้มเต็มไปหมดเลย นู่นๆด้านนู้นก็มีแต่สีเขียวเต็มไปหมดเหมือนกัน” สายน้ำชี้โบ๊ชี้เบ๊ให้วายุดูอย่างตื่นเต้น
“หึๆ ฟอด! ครับๆเห็นแล้วครับ” วายุอดมันเขี้ยวกับท่าทางตื่นเต้นดีใจเหมือนเด็กของคนรักไม่ได้
ตอนนี้พวกเค้าทั้ง 12 ชีวิต คือ วายุ สายน้ำ หินผา วาริ ไฟ ออกัส เหนือ เบล ดิน อิฐ นัท และขนมพาย นั่งอยู่บนรถตู้ของรีสอร์ตที่ไปรอรับพวกเค้าจากสนามบินเชียงใหม่ และกำลังขับเข้าไปเขตพื้นที่ของไร่ชาและสวนส้ม โดยใช้เวลาจากสนามบินมาถึงที่นี่ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
หลังจากวันที่วายุประกาศว่าคนตัวเล็กเป็นอะไรกับเค้าแล้วนั้น ทุกคนก็ไม่ได้เจอกันอีกเลยจนกระทั่งงานหมั้นของเหนือกับเบล แต่วายุก็ได้ทำการเตือนทุกคนผ่านทางไลน์กลุ่มและไลน์ส่วนตัวว่าห้ามไม่ให้ล้อคนตัวเล็กของเค้า เพราะถ้ามีการล้อเกิดขึ้นเค้าจะพาคนตัวเล็กของเค้าบินไปเที่ยวที่ต่างประเทศกันสองคนแทนที่จะมาเที่ยวที่ไร่ชาและสวนส้มของวาริ ทำให้ไม่มีใครกล้าเอ่ยปากถามหรือล้อให้สายน้ำต้องอายหรือเขินม้วน
“พี่เหนือ พรุ่งนี้เช้าเราตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นกันนะคะ เบลอยากดูนะๆ”
“ได้สิคะ หนูตั้งนาฬิกาปลุกไว้แล้วกันนะคะเดี๋ยวจะไม่ตื่นเอา ฟอด!” เหนือเองก็อดที่จะเอ็นดูคู่หมั้นหมาดๆของตัวเองไม่ได้เหมือนกัน เพราะแววตาที่เป็นประกายนั้นบ่งบอกว่าตอนนี้คู่หมั้นของเค้านั้นมีความสุขมากแค่ไหน
“ง่วงมั้ยครับ เหนื่อยรึเปล่า” หินผาหันไปถามคนที่ตัวเองนั่งจับมือไม่ปล่อยอยู่
“ไม่เลยครับวาสบายมาก” วาริหันไปตอบหินผาด้วยใบหน้าที่ยิ้มจนตาหยี
“โอ๊ย ไอ้อิฐ ไอ้นัท ไอ้พาย กูว่าเราหาสาวเหนือหนุ่มเหนือมาเป็นแฟนสักคนสองคนดีกว่าว่ะ กูรู้สึกว่าการเที่ยวครั้งนี้นี่จะทำให้กูเลี่ยนหรือไม่ก็เบาหวานขึ้นตาจนตาย
“ผมก็ว่าอย่างนั้นแหละเฮีย”
“อิฐก็หวานกับพี่ดินสิ เราหนับหนุนนะ คิกๆ” สายน้ำที่ได้ยินดินและอิฐพูดกันก็ลุกขึ้นมานั่งตั้งเข่าบนเบาะและยื่นหน้ามาบอกกับอิฐ
“ฮ่าๆๆๆ สุดยอดเลยครับน้องน้ำ” ทุกคนถึงกับกลั้นขำเอาไว้ไม่อยู่ จนไฟต้องยื่นมือมาไฮไฟว์กับสายน้ำ
“อิฐของอนน้ำได้มั้ยเนี่ย” อิฐได้แต่นั่งหน้าบึ้งค้อนเพื่อนตัวเล็กของตัวเอง เพราะทำอะไรไปไม่ได้มากกว่านี้
“โอ๋ๆ ไม่งอนนะไม่งอน เดี๋ยวน้ำจะซื้อขนมให้อิฐกินเยอะๆเลยนะ ดีกันนะ” สายน้ำพูดพร้อมกับยื่นนิ้วก้อยน้อยๆไปตรงหน้าอิฐที่นั่งอยู่เบาะหลัง
“หึๆ ครับๆอิฐทำอะไรไม่ได้อยู่แล้วนี่” อิฐได้แต่จำใจยื่นนิ้วก้อยมาเกี่ยวกับนิ้วเรียวเล็กของเพื่อนตัวเล็กของตัวเอง
“ฮ่าๆๆ ผมเห็นพี่อิฐไม่เคยงอนพี่น้ำได้สักที กับคนอื่นนี้เห็นนิ่งใส่จัง” เป็นขนมพายที่หัวเราะและพูดขึ้นมา เพราะเค้าเห็นอดีตเดือนมหา'ลัยคนนี้ยอมให้สายน้ำอยู่คนเดียวคนอื่นอย่าได้หวัง ขนาดพี่เบลที่เป็นผู้หญิงแถมพ่วงด้วยตำแหน่งลูกพี่ลูกน้องยังโดนพี่อิฐเอ็ดเอาไม่เว้นแต่ละวัน แถมบางทีก็โดนพี่อิฐตบหัวเอาซะด้วยซ้ำไปไม่เว้นแม้แต่ออกัสก็ยังพลอยโดนไปด้วย ยิ่งเป็นผู้หญิงที่ชอบเข้าทำเนียนคุยด้วยนี่ยิ่งแล้วใหญ่ พ่ออดีตเดือนมหา'ลัยยิ่งตอกกลับแบบไม่ต้องมีหน้ามาคุยด้วยอีกเลย หรือไม่ก็เดินหนีไปซะเฉยๆ ปล่อยให้คนที่เข้ามาคุยได้เหวอไปตามๆกัน
“ใช่ๆน้องพายพูดถูกต้องที่สุดเลยครับ ขนาดพี่กับพี่เบลยังโดนเหวี่ยงเป็นประจำเลย” ออกัสรีบพูดเห็นด้วยขึ้นมาทันทีด้วยความหมั่นไส้เพื่อนตัวใหญ่
“หึๆ ไม่ได้เกิดเป็นน้องน้ำก็ลำบากกันหน่อยนะครับ เพราะไอ้นี่มันยอมลงให้อยู่คนเดียว” ดินพูดเสริมขึ้น เพราะถ้าเป็นเค้าเค้าก็คงต้องยอมเหมือนที่ไอ้อิฐมันยอมเนี่ยแหละ เห็นหน้าอ้อนๆหวานๆแล้วใครจะทำได้ลงคอล่ะ
“ตัวแสบมานี่เลยครับ ไม่ต้องไปป่วนเค้าแล้ว ฟอด!” วายุรีบจับคนตัวเล็กของเค้ามานั่งตักและหอมแก้มนุ่มไปฟอดใหญ่ สายน้ำก็ยอมมานั่งแต่โดยดีเมื่อง้อเพื่อนได้แล้ว
ใช้เวลาอีกสักพักรถที่พวกเค้านั่งมาก็เลี้ยวเข้ามาในเขตของรีสอร์ตซึ่งอยู่คนละส่วนของไร่ชาและสวนส้ม แต่หากลูกค้าหรือนักท่องเที่ยวคนไหนต้องการที่จะเดินทางไปเที่ยวที่ไร่หรือที่สวน ทางรีสอร์ตก็จะมีรถจักรยานหรือรถกอล์ฟไว้บริการให้กับลูกค้าและนักท่องเที่ยว หรือใครที่อยากเดินออกกำลังกายก็สามารถเดินไปได้เหมือนกันเพราะอยู่ไม่ไกลกันมากนัก
“ว้าว!! บรรยากาศดีมากเลยอ่ะ อากาศก็สดชื๊นสดชื่น เหมือนอยู่ในป่าอเมซอนอย่างไงอย่างงั้นเลย” เมื่อลงจากรถได้เบลก็รีบเดินสำรวจบรรยากาศรอบๆโดยทันที พร้อมกับชูมือขึ้นและหายใจเข้าปอดลึกๆ เพื่อสูดรับอากาศบริสุทธิ์
ที่รีสอร์ตแห่งนี้ถูกตกแต่งด้วยบรรยากาศที่ค่อนข้างจะใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด มีต้นไม้น้อยใหญ่ให้ความร่มรื่นตลอดแนว เรียกว่าถ้าเดินอยู่ในรีสอร์ตแห่งนี้ตัวก็แทบจะไม่โดนแสงแดดเลย อีกทั้งบรรยากาศก็เย็นสบายแม้จะเป็นช่วงเวลาเกือบจะ 11 โมงแล้วก็ตาม เนื่องจากพื้นที่แห่งนี้ค่อนข้างจะสูงกว่าระดับน้ำทะเลอยู่มากเพื่อให้เหมาะกับการปลูกชา
“คุณวาริสวัสดีค่ะ” สาวิตรีที่เป็นหัวหน้าแผนกต้อนรับเมื่อเห็นรถตู้ของทางรีสอร์ตที่ไปรับกลับมาแล้วก็เดินมากล่าวทักทายและสวัสดี
“พี่สาสวัสดีครับ ทุกคนครับนี่พี่สาเป็นหัวหน้าแผนกต้อนรับครับ” วาริยกมือไหว้สาวิตรีและแนะนำให้ทุกคนได้รู้จัก ถึงแม้ตัวเองจะเป็นลูกเจ้าของที่นี่แต่ด้วยความที่อายุน้อยกว่ามากก็ไม่ได้ถือตัวแต่อย่างใด แต่เจ้าตัวยังคงยกมือไหว้พนักงานที่อายุมากกว่าทุกคนอย่างให้ความเคารพ ทำให้พนักงานที่นี่เอ็นดูและรักนายน้อยของพวกเค้ามาก
“สวัสดีครับพี่สา / สวัสดีค่ะพี่สา” ทุกคนต่างก็ยกมือไหว้สาวิตรีตามวาริโดยไม่มีใครถือตัว
“สวัสดีค่ะ รีสอร์ตภูธาราวารียินดีต้อนรับนะคะ” สาวิตรียกมือขึ้นรับไหว้ทุกคนพร้อมกับกล่าวต้อนรับอย่างเป็นทางการ
“แล้วนี่คุณพ่อกับคุณแม่ไม่อยู่เหรอครับพี่สา”
“พ่อเลี้ยงกับแม่เลี้ยงลงไปดูที่ไร่ชาตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ เห็นว่าที่ไร่มีปัญหา ท่านสั่งเอาไว้ว่าถ้าคุณวาริกับเพื่อนๆมาถึงแล้ว ก็ให้พักผ่อนได้ตามสบายเลยนะคะ ท่านคงจะไม่ได้กลับมาทานข้าวกลางวันด้วย เดี๋ยวบ่ายๆท่านคงจะพากันกลับมาน่ะค่ะ”
“อ๋อ งั้นเหรอครับ งั้นผมรบกวนพี่สานำไปที่พักหน่อยนะครับ”
“ได้ค่ะ ทุกคนเชิญทางนี้เลยนะคะ ส่วนกระเป๋าไม่ต้องเอามาด้วยนะคะเดี๋ยวพี่จะให้พนักงานมาช่วยกันขนไปไว้ให้ค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับพี่สา พวกผมมีกันตั้ง 12 คน เดี๋ยวช่วยกันยกไปคนละกระเป๋าสองกระเป๋าก็หมดแล้วครับ” เป็นหินผาที่เอ่ยบอกกับสาวิตรีเพราะถ้าขืนให้พนักงานของที่นี่มาช่วยกันถือละก็ คงจะได้เดินกันคนละหลายรอบเป็นแน่ก็ดูกระเป๋าพวกเค้าแต่ละคนสิน้อยๆกันซะที่ไหน เหมือนกับว่าจะมาอยู่กันเป็นเดือนๆก็ไม่ปาน
“เอาอย่างนั้นเหรอคะ ก็ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ” สาวิตรีหันไปมองหน้าทุกคน ซึ่งทุกคนก็พร้อมใจกันพยักหน้าตอบรับ
“ถึงแล้วค่ะ ทุกคนตามสบายกันนะคะ นี่ค่ะคีย์การ์ด เดี๋ยวมื้อกลางวันพี่จะให้พนักงานมาตามไปรับประทานอาหารนะคะ” สาวิตรีพูดจบก็ค้อมหลังให้นิดหน่อยและเดินออกไป
“ว้าว!! น่าอยู่จัง พี่กายเปิดประตูเร็วๆสิครับ น้องอยากเห็นข้างในแล้ว” สายน้ำพูดจบก็รีบหันไปเร่งคนพี่ที่ถือคีย์การ์ดอยู่ให้เปิดประตู
รีสอร์ตที่พวกเค้าพักกันจะเป็นวิลล่าหลังใหญ่ที่เป็นแบบครอบครัว หลังหนึ่งจะมีทั้งหมด 3 ห้องนอน ทุกห้องจะมีห้องน้ำในตัว และจะมีห้องน้ำข้างนอกด้วยอีกหนึ่งห้อง
โดยหลังแรกจะเป็นวายุนอนกับสายน้ำ หินผากับวาริ ไฟกับออกัส หลังถัดไปอีกหลังข้างๆกัน จะเป็นเหนือกับเบล ดินกับอิฐ และขนมพายกับนัท
“อ่าา สดชื่นจังเลยครับสวยมากด้วย พี่กายชอบมั้ยครับ” สายน้ำที่เดินเข้ามาในห้องก็เดินมาเปิดหน้าต่างออกซึ่งจะเห็นวิวเขาด้านนอกอย่างเห็นได้ชัด ด้วยความที่รีสอร์ตแห่งนี้อยู่ค่อนข้างที่จะสูง
“ชอบครับชอบมาก ที่ไหนที่มีตัวเล็กพี่ก็ชอบหมดแหละครับ จุ๊บๆ” วายุเดินไปกอดด้านหลังของคนรักและใช้จมูกคมไล่ปัดป่ายอยู่แถวซอกคอ พร้อมกับจูบลงไปหนักๆ
“พี่กายอ่ะ ไม่ต้องมาหื่นเลยนะ น้องทำโทษพี่กายอยู่นะจำไม่ได้เหรอครับ อ๊ะ!” สายน้ำพูดพร้อมกับหดคอหนีจมูกคมและริมฝีปากร้อนของคนด้านหลัง ไหนยังจะต้องไล่ตะครุบมือปลาหมึกที่กำลังเลื้อยเข้ามาในเสื้อเค้าอีก
“ใจร้ายกับพี่กายจังเลยครับ หืมม พี่จะขาดใจตายแล้วนะครับที่รักรู้มั้ย” วายุพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า นี่เป็นเวลาอาทิตย์กว่าแล้วที่เค้าไม่ได้ทำหรือมีอะไรกับสายน้ำเลย เพราะว่าโดนน้องลงโทษอยู่ ระหว่างที่เจ้าตัวพูดลิ้นร้อนก็ไล่เลียไปตามหลังหูและจงใจที่จะเป่าลมร้อนให้คนตัวเล็กได้กระสันเสียว มือปลาหมึกก็ไม่ละความพยายามที่จะเลื้อยเข้าไปบดขยี้เม็ดตุ่มไต
“อ๊ะ พี่กาย เดี๋ยวใครมาเห็นครับ อ๊าส์ หยุดก่อนครับ” สายน้ำที่ตอนนี้เริ่มจะทรงตัวไม่อยู่เพราะโดนคนพี่รุกหนักก็ได้แต่เอ่ยปากห้าม ทางด้านวายุเองก็ค่อยๆเอื้อมมือไปปิดหน้าต่างและปิดผ้าม่านพร้อมกับอุ้มคนในอ้อมกอดที่กำลังตัวอ่อนปวกเปียกขึ้นไปบนเตียง
“พี่ขอนิดหนึ่งนะครับ ขอแค่ภายนอกก็พอพี่ไม่ไหวแล้วครับ” วายุพูดจบก็จัดการถอดเสื้อผ้าของคนที่สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวออกทันที ต่อจากนั้นก็หันมาจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองต่อ
สายน้ำได้แต่หันหน้าหนีให้กับหุ่นของคนตรงหน้า แม้จะเคยเห็นกันมาหลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่อาจทำให้เค้าชินได้สักที
“หึๆ ยังไม่ชินอีกเหรอครับที่รักของพี่ หืม” วายุที่เห็นคนใต้ร่างนอนหน้าแดงอยู่ก็อดที่จะแซวไม่ได้
“ตุบ! ไม่ต้องมาแซวเลยนะ ใครจะเหมือนพี่กายเล่า”
“ครับๆ พี่ไม่แซวแล้วครับ เรามาเริ่มกันดีกว่าเน๊าะเดี๋ยวจะไม่ทัน” พูดจบวายุก็ก้มลงประกบริมฝีปากบางทันที ลิ้นหนาไล่เกี่ยวตวัดหยอกล้อลิ้นเล็กและชอนไชชิมความหวานในโพรงปากที่เค้าแสนคิดถึงตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา จนเวลาผ่านไปสักพักเค้าจึงยอมที่จะปล่อยริมฝีปากของคนใต้ร่างให้เป็นอิสระ
จมูกคมเละริมฝีปากร้อนไล่ซุกไซร้และจูบพรมไปตามซอกคอหอมที่เค้าไม่รู้จักเบื่อ มือหนาค่อยๆเลื่อนลงไปบดขยี้ยอดอกสีชมพูที่กำลังแข็งชูชันสู้มือ ส่วนมืออีกข้างก็ค่อยๆเลื่อนลงไปหยอกล้อกับแกนกายเล็กสีชมพูพร้อมกับชักรูดขึ้นลงเบาๆ
“อ๊ะ อ๊าส์ พะ พี่กาย น้องจะไม่ไหว น้องเสียว อ๊าส์” สายน้ำที่ตอนนี้ถูกโจมตีไปทุกส่วนที่เป็นจุดเสียวได้แต่นอนร้องร่างกายบิดเร่า สะโพกยกขึ้นร่อนไปมาด้วยความเสียวที่คนพี่มอบให้
“เรามาเสร็จพร้อมกันนะครับที่รัก จุ๊บ” วายุหยัดตัวลุกขึ้นพร้อมกับจับขาของคนตัวเล็กยกขึ้นแบบเท้าชี้ฟ้าและจับแยกออกจากกัน พร้อมกับสอดแกนกายใหญ่ของเค้าเข้าไปที่ช่องว่างระหว่างขาอ่อนของคนตัวเล็กเละจับขาหนีบแกนกายของเค้าไว้
“ซี๊ด อ่าส์” ทันทีที่เริ่มขยับวายุก็เชิดหน้าร้องครางขึ้นมาด้วยความเสียว เค้าค่อยๆขยับเร็วและแรงขึ้น มือก็ทำหน้าที่ชักรูดแกนกายเล็กของน้องไปด้วย
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊าส์ พี่กาย เร็วอีกหน่อยครับ อ๊าส์ น้องจะเสร็จ”
“รอพี่ด้วยนะครับคนดี อ่าส์” วายุรีบขยับเร่งจังหวะของตัวเองและมือไปพร้อมๆ กันอย่างไม่ออมแรง
พั่บ! พั่บ! พั่บ! พั่บ!
เสียงหน้าขากระทบกันดังไปทั่วห้อง อารมณ์ของคนทั้งคู่ตอนนี้ได้กระเจิดกระเจิงจนไม่สามารถห้ามเสียงร้องและเสียงครางเสียวของตัวเองได้แล้ว
“อ่าส์ อีกนิดเดียวครับ พร้อมกันนะครับที่รัก ซี๊ด”
พั่บ! พั่บ! พั่บ! พั่บ!
“อ๊ะ อ๊าส์~ / ซี๊ดด อ่าส์” ผ่านไปไม่นานร่างกายของทั้งคู่ก็กระตุกเกร็งและปลดปล่อยน้ำรักออกมาพร้อมกัน วายุได้แต่ฟุบหน้าลงไปกับอกของคนใต้ร่างที่นอนหอบหายใจแรงอยู่อย่างนั้น
“เดี๋ยวพี่พาไปอาบน้ำนะครับ จะได้สบายตัว” สายน้ำไม่มีแม้แต่แรงที่จะตอบรับได้แต่มอบค้อนวงใหญ่ให้กับคนเอาแต่ใจกลับไป
‘อ๊ะ อ๊าส์ พะ พี่กาย น้องจะไม่ไหว น้องเสียว อ๊าส์’
‘ซี๊ด อ่าส์’
เสียงข้างห้องที่ดังสลับกันไปมาทำให้วาริที่นั่งรื้อกระเป๋าเสื้อผ้าอยู่บนเตียงถึงกับต้องหยุดชะงักมือลงทันที ใบหน้าและหูเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ เค้าจะไปบอกรุ่นพี่ห้องข้างๆดีมั้ยว่าให้เบาๆกันหน่อยเพราะว่าห้องมันไม่ได้เก็บเสียงได้ดีเหมือนกับห้องที่คอนโด แล้วไหนจะยังห้องของไฟและออกัสอีก นี่เค้าคงคิดผิดมากเลยใช่มั้ยที่เลือกที่จะอยู่ห้องตรงกลางของทั้งสองคู่นี้ ตายแน่วาริเอ๋ย
หินผาที่นอนเล่นมือถืออยู่บนเตียงก็ได้แต่ยิ้มนิดๆที่มุมปากเมื่อเห็นท่าทางของแฟนตัวน้อย เค้าแกล้งที่จะทำเป็นไม่สนใจหรือทำเป็นไม่ได้ยินเสียง ตั้งแต่วันที่น้องตกลงเป็นแฟนกับเค้าเค้าก็ไม่ได้ล่วงเกินอะไรน้องอีกเลย จะมีก็แต่กอดหรือไม่ก็หอมและจูบกันบ้างตามเวลาและโอกาส
“เอ่อ พี่ผาอยากออกไปเดินเล่นข้างนอกมั้ยครับ” วาริที่เริ่มทนได้ยินเสียงไม่ไหวก็เริ่มพูดเอ่ยชวนขึ้นมา
“อืม เดี๋ยวเราออกไปตอนกินข้าวทีเดียวเลยก็ได้ครับ พี่เมื่อยๆหลังอยากเอนหลังสักหน่อย”
‘อ๊ะ อ๊าส์’ วาริถึงกับตาโตกับเสียงที่ดังขึ้นเรื่อยๆ
“อะ เอ่อ งะ งั้นวาขอไปเดินเล่นหน่อยนะครับ”
พรึ่บ!
“เดี๋ยวค่อยออกไปพร้อมพี่นะครับ พี่ขอเอนหลังแป๊บหนึ่งนะครับ” หินผาไม่พูดเปล่าแต่ยังยกตัวของวาริให้มานั่งพิงที่หัวเตียงและขยับตัวเองให้มานอนหนุนที่ตักนุ่มของน้องโดยหันหน้าเข้าหาท้องของน้องและแกล้งเป่าลมหายใจร้อนไปที่ท้อง ทำให้วารินั้นได้แต่นั่งตัวเกร็งไม่กล้าที่จะขยับตัว
เมื่อนอนไปได้สักพักหินผาก็วาดมือไปกอดกระชับเอวบางของน้องและซุกหน้าเข้าไปในเสื้อของน้อง
“อ๊ะ พี่ผา ทะ ทำอะไรครับ” วาริสะดุ้งตัวโยนทันทีที่ลมหายใจร้อนของคนตัวใหญ่รินรดอยู่ที่หน้าท้องของตัวเอง
“จุ๊บๆ ขอพี่หอมหน่อยนะครับ ตัวน้องวาหอมจังเลยครับ” หินผาไม่พูดเปล่าแต่ยังใช้ลิ้นไล่เลียไปรอบๆหลุมสะดือเล็ก
“อ๊ะ พะ พี่ผา อื้ม” วาริเผลอร้องครางเสียวออกมาเมื่อได้รับสัมผัสจากลิ้นร้อน
Comments (0)