75 ตอน ตอนพิเศษ 1 – พาหลานเที่ยว
โดย Beloved_Moouan
“กรี๊ดด ยุงเหยือ ยงๆ” ทันทีที่เห็นลุงเหนือเดินเข้ามาในบ้านน้องของขวัญที่อยู่ในอ้อมแขนของวายุที่กำลังเดินลงมาจากบันไดก็ดิ้นที่จะลงทันที
“เดี๋ยวก่อนลูก เดี๋ยวน้องของขวัญจะตกบันไดเอานะคะ” วายุเสียหลักเซไปเล็กน้อยที่น้องของขวัญดิ้นแบบที่ตัวเองยังไม่ทันได้ตั้งตัว
“เบาๆค่ะ อย่าวิ่งเดี๋ยวล้ม” เหนือรีบเดินไปหาหลานสาวตัวน้อยที่พอวายุปล่อยลงบนพื้นก็รีบวิ่งมาหาตัวเองทันที
“หมับ!! ฟอดๆ ลุงเหนือคิดถึงน้องของขวัญจังเลยค่ะ น้องของขวัญคิดถึงลุงเหนือบ้างมั้ยเอ่ย ฟอด” ทันทีที่หลานสาวมาอยู่ในอ้อมกอดลุงเหนือก็หอมไปที่แก้มหลานสาวทั้งสองข้างด้วยความคิดถึง เพราะเป็นเวลาอาทิตย์กว่าแล้วที่เหนือไม่ได้เจอกับหลานสาวสุดที่รักเลย
“ถึงๆค่ะ ที่ฉุดในโยกเยย” น้องของขวัญพูดพร้อมกางมือออกกว้าง และส่งยิ้มหวานไปให้
ปีนี้น้องของขวัญอายุได้สองขวบกว่าแล้ว และพูดได้เป็นประโยคแล้วแต่ยังไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ พร้อมทั้งกำลังอยู่ในช่วงพูดเก่งช่างอ้อนช่างเอาอกเอาใจจนบรรดาลุงๆถึงกับตกหลุมรักหลานสาวตัวน้อยอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
หลานสาวตัวน้อยของทุกคนนั้นหน้าตาถอดแบบคุณแม่สายน้ำมาแบบยังไงยังงั้นเลย และยิ่งนับวันก็จะยิ่งฉายแววความสวยความน่ารักออกมาให้ได้เห็น เผลอๆจะสวยและน่ารักกว่าคุณแม่ซะด้วยซ้ำเมื่อโตขึ้น ทำให้คุณพ่อและบรรดาลุงๆยิ่งหวงเละห่วงมากขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว
“ว๊าา แล้วไม่มีใครคิดถึงลุงอิฐบ้างเลยเหรอคะ อย่างนี้ลุงอิฐต้องน้อยใจมั้ยเอ่ย” อิฐที่เดินมาทันน้องของขวัญพูดคิดถึงลุงเหนือก็แกล้งตีหน้าเศร้าเรียกร้องความสนใจจากหลานสาวทันทีที่มาถึง วายุได้แต่นั่งส่ายหน้ายิ้มๆเพราะเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นซ้ำกันทุกครั้งไป
“โอ๋ๆ ไม่ย้องนะ ไม่ย้องนะคะ ยุงอิกขา” น้องของขวัญที่เห็นท่าทางน้อยใจของลุงสุดที่รักอีกคนของตัวเองก็รีบผละจากลุงเหนือมาหาโดยทันที
“อืมม น้องของขวัญต้องทำยังไงคะลุงถึงจะหายเศร้า” อิฐพูดพร้อมกับหันแก้มไปให้หลานสาวได้หอม
ฟอด! ฟอด!
“ลุงอิก หายน้าา โอ๋ๆ” พอหอมแก้มปลอบใจลุงเสร็จแล้วน้องของขวัญก็โผเข้ามากอดอิฐทันทีอย่างเอาใจ อิฐก็หอมแก้มหลานสาวตัวน้อยและอุ้มเดินไปที่วายุและเหนือที่นั่งมองมาที่ตนกับหลานอยู่ พร้อมกับยักคิ้วกวนๆส่งไปให้
“แล้วนี่ที่เหลือยังไม่มากันเหรอ” เหนือถามวายุขึ้นมาเมื่อยังไม่เห็นใครนอกจากตัวเอง เบลและอิฐ พออยู่ต่อหน้าหลานสาวคำพูดหยาบจึงต้องพับเก็บเอาไว้ก่อนตามที่สายน้ำเคยขอเอาไว้ เพราะน้องของขวัญในตอนนี้นั้นกำลังช่างจดช่างจำมากเลยทีเดียว
“เดี๋ยวก็มานี่ยังไม่ถึงเวลาเลย นั่นไงมาพอดี” วายุพูดขึ้นเมื่อเห็น ดิน ไฟและออกัสกำลังเดินเข้ามาในบ้าน ตามด้วยเสียงรถเข้ามาจอดที่คาดว่าน่าจะเป็นรถของหินผา
วันนี้ทุกคนนัดกันไปเที่ยวที่ภูเก็ตซึ่งเป็นโรงแรมแห่งใหม่ที่บริษัทของวายุและดินร่วมกันลงทุนสร้างขึ้นมาเมื่อปีที่แล้ว และตอนนี้วายุก็ได้ย้ายไปบริหารงานที่โรงแรมแทนพ่อและแม่ของตัวเองได้ปีกว่าแล้ว
พอทุกคนเดินเข้ามาถึงอย่างแรกก็คือต้องตรงดิ่งมาหาหลานสาวก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งหลานสาวคนสวยก็รู้งานเป็นอย่างดี ด้วยการบอกคิดถึงคนนู้นทีคนนี้ที จบท้ายด้วยการพยายามปีนขึ้นมาหาพ่อตัวเองบนโซฟาตัวใหญ่โดยมีวายุคอยช่วยพยุงไว้อยู่
“จุ๊บ! คุงพ่อขา คุงแม่ล่ะคะ” น้องของขวัญปีนขึ้นไปยืนอยู่บนตักของวายุและจูบลงไปที่ปากหยักของพ่อตัวเองอย่างเอาใจเพราะกลัวว่าพ่อของตัวเองจะน้อยใจที่มัวแต่สนใจแต่ลุงๆและป้า และจะเป็นอย่างนี้ทุกครั้งเมื่อลุงๆมากัน
“หึๆ เดี๋ยวคุณแม่ก็ลงมาค่ะ คุณแม่เตรียมจัดของให้หนูอยู่ไงคะ ฟอด” วายุพูดตอบลูกสาวและอดที่จะหอมแก้มยุ้ยของลูกสาวตัวน้อยไม่ได้ด้วยความเอ็นดู
พอผ่านไปสักพักระหว่างที่ทุกคนกำลังนั่งคุยกันอยู่ สายน้ำก็เดินลงมาพร้อมกับเบลและออกัสที่ขึ้นไปหา วายุที่เห็นดังนั้นก็รีบอุ้มลูกเดินเข้าไปหาเมียตัวเองทันที
“จัดของเสร็จแล้วเหรอครับ” วายุเดินเข้าไปสวมกอดที่เอวอีกของสายน้ำโดยที่อีกมือหนึ่งก็ยังคงอุ้มลูกเอาไว้อยู่
“เรียบร้อยแล้วครับ น้องแค่ตรวจดูความเรียบร้อยว่าไม่ลืมอะไรแล้วโดยเฉพาะของน้องของขวัญน่ะครับ” สายน้ำตอบยิ้มๆพร้อมกับเอื้อมมือไปรับตัวลูกสาวตัวน้อยที่โผเข้ามาหาตัวเอง
“สวัสดีครับพี่ๆทุกคน น้องวาด้วยนะครับ ขอโทษทีครับที่ช้าไปหน่อย” สายน้ำเดินเข้ามาทักทายทุกคนพร้อมกับเอ่ยขอโทษขึ้นมาเมื่อเห็นว่าทุกคนมาครบกันหมดแล้ว
“ไม่เป็นไรเลยครับ พี่รู้ว่าอุปกรณ์ของเจ้าแสบคงเยอะมากเลยต้องตรวจดูให้ดีๆ” ดินพูดขึ้นพร้อมกับมองไปที่หลานสาวตัวน้อยที่ตอนนี้เริ่มจะฟุบหน้าไปที่ไหล่ของแม่พร้อมกับตาที่ปรือเต็มที เพราะเมื่อคืนกว่าที่หนูน้อยจะหลับได้ก็เล่นเอาดึกดื่นด้วยความตื่นเต้นที่จะได้ไปเที่ยวทะเล แถมพอตอนเช้าก็ยังเป็นฝ่ายตื่นขึ้นมาปลุกพ่อและแม่อีกด้วย
“มาครับพี่อุ้มเอง” หินผาเดินมาหาสายน้ำเพื่อขออุ้มหลานสาวเอาไว้เองเมื่อทุกคนกำลังจะเดินไปที่รถตู้คันใหญ่เพื่อไปสนามบินโดยมีทับเป็นคนขับรถไปส่ง
ทุกคนทั้งหมดต่างช่วยกันขนกระเป๋าขึ้นรถซึ่งต้องเอารถอีกคนหนึ่งไปต่างหากเพื่อใส่กระเป๋าเดินทางโดยเฉพาะ โดยมีคนขับรถของที่บ้านไฟมาช่วยขับไป พอเสร็จเรียบร้อยทุกคนก็ขึ้นไปนั่งประจำที่โดยที่น้องของขวัญนอนซบอยู่ที่อกของหินผา โดยมีวาริคอยจัดระเบียบร่างกายและเสื้อผ้าของหลานให้เข้าที่อีกที
“น้องวาซ้อมเอาไว้ตอนที่มีลูกเหรอครับ” เหนือที่นั่งอยู่ด้านหลังของหินผาเอ่ยแซวขึ้นเมื่อเห็นวาริคอยจัดท่าจัดทางให้กับหลานสาวเพื่อที่จะได้นอนได้สบาย
“พี่ผา ดูพี่เหนือสิครับ” วาริก็ยังคงเป็นวาริที่พอถูกแซวก็ถึงกับไปไม่เป็น ได้แต่หันไปฟ้องคนที่นั่งยิ้มอยู่ข้างๆ
“เออ กูกับน้องซ้อมไว้เผื่อจะได้เลี้ยงลูกเร็วๆนี้” หินผาหันไปตอบแทนและยักคิ้วส่งไปให้กับเพื่อน
“พี่ผาไปหาอาหมอมาแล้วเหรอครับ แล้วผลเป็นยังไงบ้างครับ” สายน้ำที่ได้ยินก็รีบหันมาถามทันที เพราะหินผาบอกไว้ว่าพอหลังจากที่แต่งงานกันเสร็จเรียบร้อยแล้วจะพาวาริไปปรึกษาอาหมอเรื่องมีลูกทันที เพราะพอเห็นความน่ารักของหลานสาวตัวน้อยแล้วก็อยากจะมีลูกเป็นของตัวเองบ้าง
“พี่เพิ่งไปหาอาหมอมาเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่เองครับ อาหมอบอกว่ามดลูกแล้วก็ร่างกายของน้องวาแข็งแรงสมบูรณ์ดีครับถ้าจะมีลูกก็มีได้เลย พี่เลยถือทริปนี้เป็นทริปซ้อมฮันนีมูนไปด้วยในตัว” หินผาพูดขึ้นยิ้มๆอย่างภูมิใจที่เจ้าตัวกำลังจะได้มีลูกกับเค้าสักที หินผากับวาริแต่งงานกันเมื่อเดือนที่แล้วและตอนนี้วาริก็อยู่ปี 4 เทอม 2 แล้ว ซึ่งพอเปิดเทอมมาวาริก็จะต้องไปฝึกงานกับหินผาและต่อด้วยทำโปรเจคจบ หินผาจึงไม่ซีเรียสถ้าวาริจะท้องขึ้นมาในตอนนี้เพราะยังไงวาริก็อยู่กับตัวเองตลอดเวลาอยู่แล้ว
“เฮ้ยๆรอกูก่อนสิวะ มึงจะรีบไปไหนวะไอ้ผา” ไฟที่ตะโกนข้ามมาจากด้านหลัง เพราะไฟเองก็เพิ่งแต่งงานกับออกัสเมื่อสองเดือนที่แล้วก่อนหน้าหินผาหนึ่งเดือน และพอทุกอย่างเรียบร้อยไฟก็พาออกัสไปปลูกถ่ายมดลูกที่ต่างประเทศทันที คงจะต้องรอความพร้อมของมดลูกอีกสักปีหนึ่งกว่าที่ออกัสจะมีตั้งท้องได้
“มึงปล่อยมันไปเถอะ ไว้มึงค่อยให้ออกัสท้องพร้อมกับเมียกูก็ได้ เพราะกูยังอยากจะเที่ยวกันสองคนอีกสักปีหนึ่งก่อนค่อยมีลูก จริงมั้ยจ๊ะเมียจ๋า” เหนือหันไปบอกกับไฟและหันกลับมาซบลงที่ไหล่ของเบลอย่างอ้อนๆ
“เออก็ได้วะกูยอมให้มึงนำหน้าไปก่อนก็ได้ มีแต่ไอ้สองตัวนี้แหละที่ลอยไปลอยมาไม่ยอมลงหลักปักฐานกันสักที” ไฟบอกกับเหนือแต่ก็ยังไม่วายหันไปเหน็บดินและอิฐที่เอาแต่นั่งฟังทุกคนคุยกันวางแผนเรื่องมีลูกทั้งๆที่มันสองคนก็มีแฟนเป็นตัวเป็นตนกับเค้าแล้ว
“ผมยังติดหลานอยู่ ยังไม่อยากแต่งงานมีครอบครัว เอาไว้ผมพร้อมเมื่อไหร่จะบอกเฮียๆก็แล้วกัน” อิฐที่นั่งอยู่ตรงเบาะเดี่ยวแถวเดียวกันกับหินผาหันไปมองหน้าหลานสาวสุดที่รัก และคิดว่าตัวเองยังไม่พร้อมที่จะมีครอบครัวของตัวเองในตอนนี้ ไอ้รักแฟนมันก็รักมากอยู่หรอก แต่อิฐก็คิดว่าถ้าตัวเองมีครอบครัวเป็นของตัวเองเมื่อไหร่ก็คงจะมีเวลาให้กับหลานสาวตัวน้อยน้อยลงไปอีก ซึ่งตัวอิฐเองยอมรับเลยว่ารักเละติดหลานสาวคนนี้มากซึ่งแฟนของอิฐเองก็รู้และเข้าใจดี ทุกวันนี้อิฐจะสลับไปค้างกับแฟนบ้างและมาค้างกับหลานสาวบ้างจนแทบจะไม่ได้เข้าไปนอนที่บ้านของตัวเองเลย เอาไว้ถ้าแต่งงานกันแล้วอิฐคงจะให้แฟนย้ายมาอยู่ด้วยกัน เพียงแต่ตอนนี้คอนโดที่แฟนของอิฐอยู่มันอยู่ใกล้กับมหา'ลัยมากกว่าเลยยังไม่อยากที่จะย้ายมา
“แล้วนี่ทำไมมึงสองคนไม่พาแฟนมาเที่ยวด้วยกันวะ” เหนือถามขึ้นด้วยความแปลกใจ
“ไม่อยู่ เห็นบอกว่าพ่อแม่พาไปเยี่ยมญาติที่ลำปาง” อิฐตอบเหนือกลับมา
“แล้วมึงล่ะวะไอ้ดิน” เหนือชะเง้อไปถามดินที่นั่งอยู่กับพี่ทับด้านหน้า
“แฟนกูเค้าอาสาอยู่ดูงานให้น่ะ เห็นว่าอยากให้กูมาเที่ยวกับหลานให้สบายใจโดยไม่ต้องห่วงงานที่บริษัท” ดินพูดขึ้นยิ้มๆอย่างต้องการอวดแฟนของตัวเองที่มีความเป็นผู้ใหญ่และไม่เคยงอแงกับเรื่องเล็กๆน้อยๆเลย เพราะพอเค้าบอกว่าเคยให้สัญญากับหลานไว้ว่าจะพาไปเที่ยวทะเลด้วยกันทั้งหมด แฟนเค้าก็อาสาที่จะรับดูงานอยู่ที่บริษัทแทนทันทีเพื่อความสบายใจของเค้าเองด้วย
“โว๊ะ กูล่ะหมั่นไส้ความอวดแฟน” เหนือพูดพร้อมกับทำปากเบ้ด้วยความหมั่นไส้ พลอยทำให้ทุกคนยิ้มตามไปด้วย
“เยๆ ถึงเยแย้ว เยฉวยๆ คุงพ่อคุงแม่คุงยุง เยฉวยๆค่ะ” ระหว่างที่ทุกคนกำลังเดินไปที่พักในส่วนที่เป็นวิลล่าอยู่นั้นน้องของขวัญที่ถูกวายุอุ้มไว้อยู่ก็เอาแต่ชี้และตะโกนไปที่ทะเลไม่หยุด พร้อมกับเรียกทุกคนให้หันไปดูด้วย เพราะพอได้นอนหลับไปเต็มตาแล้วเลยทำให้พลังงานของเจ้าตัวแสบมาเต็มเลยทีนี้ จนทุกคนได้แต่ยิ้มขำกับท่าทางของหลานสาวตัวน้อยกัน
“เย่นเย ฝานเย่นเยค่ะคุงพ่อ” ของขวัญพูดพร้อมกับพยายามจะดิ้นลงจากอ้อมแขนแกร่งของพ่อตัวเอง
“เดี๋ยวเราไปทานข้าวกันก่อนนะคะ ตอนนี้คุณแม่หิวข้าวมากเลย แล้วเดี๋ยวเย็นๆคุณแม่ค่อยพาไปเล่นน้ำดีมั้ยคะ” สายน้ำหันไปพูดบอกลูกสาวตัวน้อยพร้อมกับทำท่าทีลูบท้องตัวเองไปด้วย
“คุงพ่อ คุงแม่หิวค่ะ กิงข้าวกังก่องน้า อย่าเพิ่งเย่นเยน้า” ของขวัญรีบหันไปบอกพ่อตัวเองทันทีที่เห็นว่าแม่ของตัวเองนั้นทำท่าหิว
“หึๆ ครับๆ ตัวแสบ ฟอด!” วายุหัวเราะออกมาทันทีที่ลูกสาวตัวน้อยนั้นหันมาบอกอย่างกับว่าเค้าเป็นคนที่ร้องจะไปเล่นน้ำทะเลอย่างนั้นแหละ
พอเก็บของเข้าที่พักเรียบร้อยแล้ว ทุกคนก็พากันมานั่งทานข้าวกลางวันอยู่ในห้องอาหารของโรงแรม โดยมีพนักงานคอยออกมาต้อนรับอย่างดีเมื่อรู้ว่าดินและวายุพาครอบครัวและเพื่อนๆเข้ามาพักและทานอาหารที่นี่
“ฝานทางเองค่ะ ฝานเก่งๆ แปะๆ” น้องของขวัญที่นั่งอยู่บนเก้าอี้เด็กยกมือขึ้นตบมือแปะๆเมื่อข้าวผัดที่สายน้ำตักให้มาวางอยู่ตรงหน้าของตัวเอง
พออาหารมาครบแล้วทุกคนต่างก็ลงมือทานและมีพูดคุยกันบ้างโดยมีวายุและอิฐคอยผลัดกันช่วยดูน้องของขวัญที่มีกินเลอะบ้างตามประสาเด็ก
“เก่งจังเลยค่ะหลานลุงอิฐ อิ่มรึยังคะ” อิฐพูดชมหลานขึ้นมาขณะที่กำลังเช็ดปากที่มีเม็ดข้าวติดอยู่ตรงมุมปากของหลานออกให้
“อิ่มๆ พุงกายเยย กิงติมด้ายม้ายคะ ลุงอิกขา” น้องของขวัญพูดขอโดยที่ยังมีมือเล็กๆป้อมๆยังคอยลูบอยู่ที่พุงของตัวเองไปด้วย
“หึๆ ได้สิครับ แต่ก้อนเดียวพอนะครับ เดี๋ยวน้องของขวัญจะจุกเอา” อิฐพูดพร้อมกับก้มลงไปมองพุงกลมๆของหลานสาวไปด้วยท่าทีขำๆ
“ก้องเดียวน๊า เดี๋ยวจุกน๊า” น้องของขวัญพูดตามลุงอิฐของเธอและยื่นนิ้วชี้มาส่ายไปส่ายมาอยู่ตรงหน้าของอิฐ ทำให้ทุกคนต่างยิ้มขำกับท่าทางฉลาดของหลานสาวตัวน้อยที่รู้จักเอาตัวรอดเก่ง
“หึๆ เจ้าแสบ” อิฐได้แต่กัดฟันและยื่นมือไปหยิกแก้มยุ้ยของหลานสาวอย่างอดใจไหว
“กรี๊ดดด!!! ลุงดิงอีกๆ ลุงดิงอีก เอิ้กๆ” เสียงกรีดร้องและเสียงหัวเราะอย่างชอบใจของหลานสาวตัวน้อยเมื่อลุงดินอุ้มให้เท้าน้อยลงไปจุ่มน้ำยามเมื่อคลื่นพัดเข้าหาฝั่ง
“จุ๊บ! ชอบที่นี่มั้ยครับ” วายุเดินมานั่งซ้อนด้านหลังและจูบไปที่ขมับของสายน้ำที่กำลังนั่งมองลูกสาวตัวน้อยของตัวเองเล่นอยู่กับลุงๆและป้าอย่างสนุกสนานและเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ
“ชอบมากๆเลยครับ ที่นี่สวยมากเลย บรรยากาศก็ดีมากอากาศก็กำลังดีเลยครับ” สายน้ำมองไปรอบๆตัวที่ไม่ค่อยจะมีคนพลุกพล่านมากนัก เนื่องจากที่นี่เป็นหาดส่วนตัวที่วายุลงขันกับดินซื้อเอาไว้ทั้งหมดจึงทำให้มีแต่แขกของทางโรงแรมเท่านั้น
“พี่ดีใจนะครับที่ตัวเล็กชอบ เอาไว้ถ้าพี่ว่างๆเราสามคนมาเที่ยวด้วยกันอีกนะครับ”
“พี่กายจะพาน้องของขวัญหนีลุงๆกับป้าๆมาเที่ยวเหรอครับ เดี๋ยวต้องมีโวยวายกันแน่ๆเลย” สายน้ำถามขึ้นยิ้มๆพร้อมกับเอนตัวไปพิงที่หน้าอกแกร่งของผู้เป็นสามี
“พี่ก็อยากใช้เวลาอยู่กับครอบครัวของพี่ตามลำพังบ้างสิครับ นะครับเมียนะ” วายุพูดอ้อนๆอยู่ข้างๆหูของสายน้ำ เพราะตั้งแต่ทั้งคู่มีเจ้าตัวน้อยออกมา บ้านของวายุและสายน้ำก็ไม่เคยว่างเว้นจากเหล่าบรรดาเพื่อนๆของทั้งคู่เลยแม้แต่สักวันเดียว มันจะต้องผลัดเปลี่ยนกันมาหาหลานสาวกันแทบทุกวัน จนบางทีวายุก็อยากให้พวกมันพากันมีลูกๆกันซะให้หมดๆ จะได้ไม่ต้องมาแย่งลูกสาวตัวน้อยของตัวเองไป โดยเฉพาะไอ้อิฐที่รายนั้นดูท่าจะติดหลานมากกว่าใครเพื่อน บางทีก็แย่งลูกสาวเค้าไปนอนกอดหน้าตาเฉยลูกสาวของเค้าก็ช่างดีแสนดีกลัวว่าลุงจะน้อยใจจึงขอพ่อกับแม่ไปนอนเป็นเพื่อนลุง ก็จะทำยังไงได้ล่ะก็พวกมันเลี้ยงของพวกมันมาตั้งแต่เท้ายังเท่าฝาหอย คอยเช็ดฉี่เช็ดอึให้หลานมาตั้งแต่ตัวยังน้อย
“คิดอะไรอยู่เหรอครับ” สายน้ำถามวายุขึ้นมาเมื่อเห็นว่าอีกคนเงียบไปนาน
“เปล่าหรอกครับพี่แค่คิดอะไรไปเรื่อยนะครับ นานๆสมองจะว่างสักทีไม่ต้องคิดเรื่องงาน ฟอด” วายุก้มลงไปหอมแก้มนุ่มของเมียที่หอมเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักเบื่อ
“เหนื่อยมากมั้ยครับ” สายน้ำยกมือเรียวเล็กขึ้นมาลูบแก้มของวายุและถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เลยครับ เพื่อลูกเพื่อเมียแค่นี้พี่สบายมาก พี่จะหาเงินไว้เปย์เมียกับลูกของพี่เยอะๆ” วายุพูดขึ้นยิ้มๆอย่างมีความสุข ต่อให้เค้าเหนื่อยแค่ไหนแต่พอกลับมาบ้านได้เจอหน้าลูกกับเมียความเหนื่อยที่มีสะสมมาทั้งวันก็หายไปแทบจะทันที
“งั้นพี่กายก็ต้องทำงานหนักขึ้นอีกหลายเท่าเลยสิครับจะได้มีเงินมาเปย์เมียกับลูกๆให้เยอะๆ” สายน้ำจับมือใหญ่ของวายุให้มาวางอยู่ตรงหน้าท้องแบนราบของตัวเอง
“หือ ลูกๆเหรอครับ” วายุถึงกับอึ้งในทันทีที่ได้ยินสายน้ำพูดออกมา ตอนแรกวายุก็ไม่ได้คิดอะไรกระทั่งสายน้ำจับมือใหญ่ไปวางที่หน้าท้องแบนราบของตัวเอง
สายน้ำหันหน้าเข้าหาวายุและพยักหน้าให้พร้อมกับยิ้มกว้าง เพราะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่สายน้ำนั้นรู้สึกเวียนหัวคลื่นไส้จะอาเจียนมาได้จะเป็นอาทิตย์แล้วจึงให้พี่ทับขับรถไปส่งหาอาหมอที่โรงพยาบาลโดยฝากให้พี่งามตากับพี่น้ำหวานดูน้องของขวัญให้ ผลสรุปก็คือเจ้าตัวนั้นตั้งครรภ์ได้ห้าสัปดาห์แล้วและอาหมอก็บอกว่าครั้งนี้มดลูกแข็งแรงและสมบูรณ์ดีมากต่อให้มีลูกแฝดก็ไม่ต้องห่วง
ตอนแรกสายน้ำคิดอยากจะเก็บเอาไว้บอกคืนนี้เพราะที่ผ่านมาวายุมัวแต่ยุ่งๆเคลียร์งานอยู่เลยไม่มีโอกาสได้บอกสักที
“แล้วเรื่องนั้นล่ะครับ ไหนเราตกลงกันแล้วว่าจะไปตรวจกันก่อน” วายุพูดขึ้นมาอย่างเหม่อลอย ถ้าถามว่าดีใจไหมเค้าตอบได้เต็มปากเลยว่าดีใจมากที่จะมีลูกที่เกิดจากความรักของเค้าและสายน้ำอีกคน แต่ความกลัวจากครั้งที่แล้วยังคอยกัดกินหัวใจของเค้าอยู่จนถึงทุกวันนี้
วายุได้แต่คิดย้อนไปถึงเมื่อเดือนก่อนที่เค้ามีอะไรกับสายน้ำและลืมตัวเผลอปลดปล่อยเข้าข้างในตัวของสายน้ำแต่ก็คิดว่าคงไม่น่าจะเป็นอะไรแค่ครั้งเดียวคงจะเป็นครั้งนั้นสินะ เพราะตลอดที่ผ่านมาสองปีกว่าวายุจะคอยเตือนตัวเองอยู่เสมอเวลาที่มีอะไรกัน
“พี่กายไม่ต้องคิดมากไปนะครับ น้องไปตรวจสุขภาพกับอาหมอมาเรียบร้อยแล้วครับ อาหมอบอกว่ามดลูกของน้องนั้นสมบูรณ์แล้วก็แข็งแรงดีมาก แถมอาหมอยังบอกอีกว่ามีลูกแฝดยังได้เลยนะครับ” สายน้ำพูดพร้อมกับเอามือขนาบเข้ากับสองแก้มของวายุและจ้องเข้าไปในดวงตาคมที่กำลังบ่งบอกถึงความกลัวอยู่
“จริงเหรอครับ ตัวเล็กไม่ได้หลอกพี่ใช่มั้ยครับ” วายุยิ้มออกมาได้นิดๆ เพราะวายุเองก็ค่อนข้างที่จะเชื่อใจและเชื่อมั่นในตัวอาหมอมาก
“ถ้าพี่กายไม่เชื่อไว้กลับไปเราไปหาอาหมอด้วยกันอีกทีก็ได้นะครับ” วายุก็ได้แต่ยิ้มและพยักหน้าตอบรับ
“ตัวเล็กไม่โกรธพี่ใช่มั้ยครับที่พี่เป็นกังวลมากจนเกินไป” วายุก้มหน้าเอาหน้าผากไปจรดกับหน้าผากของสายน้ำและถามขึ้น
“ไม่เลยครับ น้องรู้ว่าพี่กายรักน้องมาก พี่กายเสียน้องไปไม่ได้ และอีกอย่างน้องก็จะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นอีกเป็นอันขาด พี่กายเชื่อใจน้องกับลูกได้เลยนะครับ” เป็นอีกครั้งที่สายน้ำจับมือของวายุมาวางไว้ที่หน้าท้องของตัวเองพร้อมกับส่งยิ้มกว้างไปให้
“แสดงว่าน้ำยาพี่นี่ต้องดีและแข็งแรงมากๆเลยใช่มั้ยครับที่ขนาดปล่อยข้างในแค่ครั้งเดียวก็ติดเลย” พอหมดเรื่องที่ต้องกังวลใจวายุก็จับสายน้ำหันมานั่งพิงตามเดิมโดยมีมือใหญ่คอยลูบอยู่ที่ท้องของสายน้ำไปมาอยู่
“พี่กายนี่ทะลึ่งใหญ่แล้วเดี๋ยวเหอะ” สายน้ำที่ได้ยินคนด้านหลังพูดออกมาก็ยกมือขึ้นมาตีที่ต้นแขนด้วยความเขิน
“หึๆ ก็มันเรื่องจริงนี้ครับไม่เห็นเป็นอะไรเลย” วายุพูดพร้อมกับเป่าลมร้อนไปที่หูของสายน้ำ
“น้องไม่คุยด้วยแล้วไปหาลูกดีกว่า หึ่ย!” สายน้ำที่ขนลุกชันอยู่ก็รีบเปลี่ยนเรื่องและลุกขึ้นเดินไปทันที
“ตัวเล็กอย่าเดินเร็วสิครับเดี๋ยวล้ม” วายุที่เห็นเมียเดินตัวปลิวไปก็รีบลุกขึ้นวิ่งตามไปทันที
“น้องของขวัญพอได้แล้วมั้งคะเดี๋ยวจะไม่สบายเอานะลูก” สายน้ำที่เดินมาเห็นว่าลูกสาวตัวน้อยกำลังลอยคออยู่ในทะเลโดยมีไฟอุ้มประคองไว้อยู่ก็ร้องเรียกขึ้นมา
“เยๆ คุงแม่มาเล่งเยกัง หนุกน๊า” น้องของขวัญที่ไม่ฟังที่แม่พูดแถมยังขวักมือเรียกแม่ตัวเองให้ลงมาเล่นด้วยอีก
“วันนี้เราเล่นกันแค่นี้ก่อนนะคะ เดี๋ยวน้องของขวัญจะไม่สบาย เดี๋ยวพรุ่งนี้อดเล่นลุงไฟไม่รู้ด้วยนะคะ” ไฟพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าหลานสาวคงจะไม่ยอมขึ้นง่ายๆ
“ไม่บายเหยอ อกเล่งเยเหยอ” น้องของขวัญหันลุงไฟและถามขึ้นด้วยหน้างงๆ
“ก็ถ้าน้องของขวัญไม่สบายก็ต้องไปให้ตาหมอฉีดยาให้ แล้วก็จะไม่ได้กลับมาเล่นน้ำทะเลด้วยนะครับ” ไฟพูดขึ้นขณะที่กำลังอุ้มพาน้องของขวัญเดินขึ้นมาจากน้ำ
“ฉีกยาเยยเหยอ ขึ้งๆนะ ไม่เล่นแย้วนะ ยุงอิก ยุงเหยือ ขึ้งๆไม่บายน๊า” พอได้ยินคำว่าต้องฉีดยาน้องของขวัญก็รีบหันไปเรียกอิฐกับเหนือที่ยังลอยคออยู่ในน้ำในขณะที่หินผา วาริ เบล ออกัสและดิน ขึ้นไปนั่งพักกันแล้ว
หลังจากที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันเสร็จเรียบร้อยแล้วทั้งหมดก็พากันออกมาที่หน้าชายหาดอีกครั้ง โดยที่พนักงานได้เตรียมอาหารทะเลปิ้งย่างที่ดินเป็นคนสั่งไว้ตั้งแต่ตอนที่มาถึง
“ตัวเล็กค่อยๆเดินนะครับเดี๋ยวจะสะดุดเอา แล้วนี่ทำไมถึงยังอุ้มน้องของขวัญอยู่อีกล่ะครับ น่าจะบอกพี่เร็วกว่านี้จะได้ช่วยกันระวัง” วายุเดินประคองสายน้ำมาจนถึงโต๊ะที่เพื่อนๆนั่งรออยู่ก่อนแล้ว ส่วนน้องของขวัญเบลก็อาสาเป็นคนพาไปอาบน้ำเอง
“มึงเป็นอะไรวะ เดินบ่นน้องมาแต่ไกลเลย แล้วทำไมน้องน้ำจะอุ้มน้องของขวัญไม่ได้วะ” เหนือถามขึ้นเมื่อเห็นวายุเดินบ่นมาตลอดทางและยังทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอีกด้วย
“ก็จะอุ้มได้ยังไงล่ะ เกิดลูกกูเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง” วายุพูดพร้อมกับประคองให้สายน้ำนั่งลงเบาๆ
“อะไรของมึงวะ น้องน้ำก็แค่อุ้มลูกแล้วจะเป็นอะไรขึ้นมาได้ยังไงวะ” เหนือพูดพร้อมกับเกาหัวด้วยความงง
“กูไม่ได้หมายถึงน้องของขวัญแต่กูหมายถึงลูกของกูอีกคนที่อยู่ในนี้” วายุก้มลงไปลูบที่หน้าท้องแบนราบของเมียเพื่อเป็นการอวด พร้อมกับยักคิ้วส่งไปให้เหนือยิ้มๆ
“ห๊ะ!! ทุกคนต่างร้องออกมาพร้อมกัน รวมทั้งเบลและอิฐที่กำลังอุ้มน้องของขวัญออกมาด้วย
“หาไยเหยอ ฝานหาย้วยด้ายม้ายย” น้องของขวัญถามขึ้นอย่างงงๆเมื่อได้ยินทุกคนอุทานขึ้นมาแทบจะพร้อมกัน
Comments (0)