48 ตอน งานหลวงงานราษฎร์
โดย Beloved_Moouan
“น้องน้ำครับ” หินผาร้องเรียกน้องชายขึ้นขณะที่เดินตามวายุและสายน้ำเข้ามาในห้องของวายุ โดยที่วาริขอตัวแยกเข้าห้องของหินผาไปแล้ว
“พี่กายครับน้องขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับเหนียวตัวจะแย่แล้ว ฟอด!” สายน้ำหันไปพูดกับวายุและเขย่งปลายเท้าขึ้นไปหอมแก้มคนรักและเดินเข้าห้องนอนไปทันที
หินผามองภาพตรงหน้าอย่างปวดใจ นี่เค้าไม่ได้รับสัมผัสนี้จากน้องมานานเท่าไหร่แล้วอาจจะ 3 หรือ 4 เดือนได้เลยทีเดียว นี่เค้าละเลยน้องนานขนาดนี้เลยเหรอ ถ้าน้องไม่พูดตัดพ้อขึ้นมาเค้าก็คงจะยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำไป เค้าคิดแต่ว่าน้องชายมีวายุคอยดูแลอยู่แล้วทั้งคนเลยไม่ได้ใส่ใจมากนัก แต่ก็ลืมคิดไปว่าความรักการดูแลเอาใจใส่ของคนรักมันคนละส่วนกันกับคนในครอบครัว
“นั่งก่อน เดี๋ยวตัวเล็กก็หายงอน” วายุเห็นหน้าเพื่อนก็อดสงสารไม่ได้ เพราะถ้าเป็นเค้าโดนเมินแบบเมื่อกี๊ก็คงปวดใจไม่น้อยเหมือนกัน สู้ให้อีกคนโวยวายหรือทุบตีเค้าเสียยังจะดีกว่า
“กูผิดมากเลยใช่มั้ยวะ ที่มัวแต่สนใจเรื่องของตัวเองจนไม่เคยสนใจหรือถามไถ่อะไรน้องเลย” หินผาพูดด้วยเสียงอ่อยๆ
“ถ้าจะให้บอกตรงๆกูก็ต้องบอกว่าใช่ เพราะทุกครั้งที่ตัวเล็กชวนมึงไปเที่ยวไปกินข้าวชวนไปนู่นไปนี่ หรือชวนมึงกลับไปนอนค้างที่บ้านด้วยกัน กูจะเห็นตัวเล็กเดินกลับมาหรือวางสายพร้อมกับน้ำตาคลอทุกที แต่ตัวเล็กก็ไม่เคยพูดอะไรออกมาเลย นี่คงจะสุดๆแล้วจริงๆ” วายุพูดพร้อมกับมองเข้าไปที่ประตูห้องนอนของตัวเอง เค้ารู้ว่าคนรักของเค้าน้อยใจพี่ชายตัวเองมาตลอด เรียกว่าแทบจะทั้งเทอมนี้เลยก็ว่าได้
พอวายุพูดจบหินผาก็ได้แต่แหงนหน้าพิงโซฟาพร้อมกับหลับตาลงน้ำตาลูกผู้ชายค่อยๆไหลออกมาจากหางตาทั้งสองข้าง
วายุเห็นเพื่อนเป็นแบบนั้นเค้าเลยลุกขึ้นไปอย่างเงียบๆและเปิดประตูห้องนอนเข้าไป
“มาครับพี่เช็ดผมให้” วายุเดินไปหยุดอยู่ข้างหลังคนตัวเล็กที่กำลังเช็ดผมที่เปียกของตัวเองอยู่ พร้อมกับดึงผ้าขนหนูมาไว้ในมือตัวเองแทน
“ขอบคุณครับ” สายน้ำเห็นดังนั้นก็หันไปหยิบครีมมาทาหน้าและทาตามตัวแทน
“ตัวเล็กครับ” พอเช็ดผมน้องจนแห้งแล้ววายุก็เอ่ยขึ้นพร้อมกับหันเก้าอี้ของน้องให้หันหน้ามาทางเค้าและคุกเข่าลงตรงหน้า
“ครับ พี่กายมีอะไรเหรอครับ” สายน้ำขานรับพร้อมกับส่งยิ้มบางมาให้คนพี่ แต่ในรอยยิ้มนั้นมันเต็มไปด้วยแววตาที่เศร้าไม่สดใสร่าเริงเหมือนเก่า
“อย่าเป็นแบบนี้ได้มั้ยครับ พี่ขอตัวเล็กคนเดิมของพี่คืนได้รึเปล่าครับ รู้มั้ยว่าพี่ปวดใจมากแค่ไหนที่เห็นตัวเล็กเป็นแบบนี้” ทันทีที่วายุพูดจบน้ำตาที่ถูกกักเก็บเอาไว้ก็ถูกปล่อยให้ไหลมาจากดวงตาที่เคยกลมโตใส
“ฮึก น้องก็ไม่ได้อยากเป็นแบบนี้ แต่..ฮึก ฮึก พี่ผา ฮึก พี่ผาเค้าไม่รักน้องไม่สนใจน้องแล้ว” ความอัดอั้นตันใจได้ถูกถ่ายทอดออกมาพร้อมกับเสียงสะอื้นปานขาดใจและน้ำตาที่ไหลรินออกมาไม่หยุด
แกร็ก!!
“ไม่นะครับน้องน้ำพี่ไม่เคยคิดอย่างนั้นเลยนะครับ พี่ขอโทษ พี่ขอโทษนะครับ” ทันทีที่หินผาได้ยินประโยคที่น้องพูดโดยที่ตัวเองยืนแอบฟังอยู่หน้าประตูนั้นก็รีบเปิดประตูและเดินเข้ามาหาน้องชายทันที
ทางด้านวายุที่เห็นดังนั้นก็เตรียมลุกขึ้นเพื่อให้พี่น้องได้ปรับความเข้าใจกัน แต่ก็โดยมือเล็กคว้าเอาไว้จนแน่น
“ตัวเล็กครับ ตัวเล็กต้องคุยกับไอ้ผามันนะครับ มันก็ปวดใจไม่แพ้พี่เหมือนกันที่เห็นตัวเล็กเป็นแบบนี้ คุยกันให้เข้าใจก่อนนะครับเดี๋ยวพี่มา พี่จะไปซื้อมัคคิอาโต้มาให้ตัวเล็กดีมั้ยครับ” วายุพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนเป็นที่สุดพร้อมกับนิ้วเรียวที่ทำหน้าที่คอยเช็ดน้ำตาที่แก้มใสไปด้วย
สายน้ำชำเลืองมองไปตรงพี่ชายยืนอยู่นิดๆก่อนจะพยักหน้าให้กับวายุเล็กน้อย
“ดีมากครับคนดีของพี่กาย งั้นเดี๋ยวพี่มานะครับ จุ๊บ!” วายุยื่นหน้าไปจุ๊บที่ปากแดงของน้องก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง พร้อมกับหันไปตบที่ไหล่ของเพื่อนเบาๆก่อนที่จะเดินออกไป
“น้องน้ำครับ” เมื่อเวลาผ่านไปสักพักหินผาก็เอ่ยเรียกน้องชายตัวเองที่ยังคงนั่งก้มหน้าอยู่อย่างนั้นเมื่อวายุเดินออกไปแล้ว
หินผาค่อยๆเขยิบเดินไปใกล้ๆน้องพร้อมกับนั่งลงคุกเข่าแทนที่วายุ เค้าเชยคางมนของน้องขึ้นมาก็พบว่าดวงตาที่เคยกลมโตในบัดนี้มันได้บวมแดงขึ้นมาถึงจะไม่มากแต่มันก็ทำให้เค้าปวดที่ใจไม่น้อยที่สาเหตุนั้นมาจากตัวเอง
“น้องน้ำครับ มานั่งตรงนี้มาครับ” หินผาลุกขึ้นและจับจูงมือของน้องชายให้มานั่งลงบนตักของตัวเองบนเตียงใหญ่ สายน้ำก็เดินตามมาอย่างว่าง่ายแต่ก็ยังคงไม่มองหน้าพี่ชายตัวเองอยู่ดี
“พี่ผาขอโทษนะครับ ที่ละเลยความรู้สึกของน้อง ขอโทษที่เห็นแก่ตัว ขอโทษที่สนใจแต่เรื่องของตัวเองจนลืมที่จะสนใจและดูแลน้อง พี่เพิ่งรู้ตัวว่าพี่โหยหาสัมผัสของน้องมากแค่ไหนก็ตอนที่น้องไม่สนใจพี่แล้ว ที่ผ่านมาพี่ขอโทษนะครับที่ทำให้น้องต้องเสียใจ ฟอด! ขอโทษนะครับ ขอโทษ พี่จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้วนะครับ พี่สัญญา น้องยกโทษให้พี่ได้มั้ยครับ ฟอด!” หินผาพูดขอโทษไปก็หอมแก้มนุ่มที่เค้าแสนคิดถึงไปด้วย นานเท่าไหร่แล้วที่เค้าไม่ได้มานั่งคุยกับน้องแบบนี้
สายน้ำได้แต่นั่งฟังพี่ชายนิ่งๆโดยไม่พูดหรือแสดงท่าทีอะไรออกมาเลย หินผาก็ได้แต่เงียบเพื่อให้เวลาน้องชายของตัวเอง แต่สองแขนก็ยังคงกอดรัดน้องไว้อยู่
“ฮึก พี่ผาเบื่อมั้ยครับที่จะต้องมาคอยดูแลสนใจน้องทั้งๆที่น้องก็มีพี่กายอยู่แล้ว พี่ผารำคาญมั้ยครับที่น้องไปหาหรือโทรไปรบกวนเวลาส่วนตัวของพี่ผาบ่อยๆ ฮึก พี่ผาหงุดหงิดบ้างมั้ยครับที่น้องคอยเข้าไปขัดจังหวะความสุขของพี่ผาบ่อยๆ แล้วพี่ผา......ฮึก” สายน้ำพูดไปพร้อมกับร้องไห้สะอื้นไปด้วย
“พอครับ พอแล้วครับ น้องไม่ต้องพูดแล้ว พี่ขอโทษครับพี่ขอโทษ ที่ผ่านมาพี่ทำให้น้องต้องรู้สึกแบบนั้นมาโดยตลอดเลยใช่มั้ยครับ พี่เป็นพี่ชายที่ไม่ได้เรื่องเลยใช่มั้ย ฮึก” หินผาถึงกับสะอื้นไห้ออกมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นี่เค้าทำร้ายจิตใจแก้วตาดวงใจของเค้าได้มากขนาดนี้เชียวหรือ
ทุกคนที่ฟังอยู่ข้างนอกถึงกับน้ำคลอไปตามๆกัน จะมีก็แต่เบล ออกัส และวาริที่ตอนนี้นั่งร้องไห้ตามสองคนในห้องไปเรียบร้อยแล้ว พวกเค้าเข้ามาตอนที่วายุกำลังจะออกไปข้างนอกพอดี และประกอบกับที่วายุปิดห้องไม่สนิทจึงทำให้ทุกคนได้ยินสิ่งที่สองพี่น้องคุยกัน
“ยกโทษให้พี่นะครับ ต่อไปนี้พี่จะเป็นกลับมาเป็นพี่ชายคนดีคนเดิมของน้อง พี่จะแยกเรื่องส่วนตัวกับเรื่องครอบครัวให้ออกให้เป็นเวลาอย่างที่น้องเคยทำให้พี่นะครับ ยกโทษให้พี่ชายโง่ๆคนนี้ด้วยนะครับ นะครับ จุ๊บๆ ฟอดๆ” หินผาพูดจบก็ไล่หอมไล่จูบไปที่แก้มและปากของน้องอย่างคิดถึง
“คิกคิก พี่ผาพอแล้วครับน้องจั๊กจี้นะ เดี๋ยวก่อนครับน้องยังไม่หายโกรธพี่ผาเลยนะครับ” เมื่อโดนหนวดแข็งของพี่ชายจิ้มไปที่แก้ม สายน้ำก็ส่งเสียงหัวเราะคิกคักออกมาทันทีด้วยความที่ตัวเองเป็นคนบ้าจี้อยู่แล้วด้วย ทั้งๆที่ยังมีคราบน้ำตาอยู่
“ครับๆ พี่ต้องทำยังไงน้องถึงจะยอมยกโทษและหายโกรธพี่ชายโง่ๆคนนี้ได้ครับ หืม ฟอด!” หินผาพูดพร้อมกับกดจมูกลงไปที่แก้มนุ่มอีกครั้งด้วยความมันเขี้ยวและเช็ดคราบน้ำตาที่ยังคงมีเหลืออยู่ให้น้องไปด้วย
“ว่าแต่ว่าพี่ผาไม่ได้ฝืนใจใช่มั้ยครับที่พี่ผาพูดมาทั้งหมดเมื่อกี๊นี้” สายน้ำพูดจริงจังขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับจ้องมองเข้าไปในดวงตาเรียวยาวของพี่ชาย
“ไม่ครับ พี่ไม่เคยฝืนใจเลย อะไรที่เป็นเรื่องของน้องพี่ยินดีและเต็มใจทำให้ทุกอย่างนะครับ พี่บอกแล้วไงครับว่าพี่เป็นแค่พี่ชายโง่ๆคนหนึ่งแค่นั้น ฟอด!”
“อื้ออ พี่ผาอ่ะ แก้มน้องช้ำหมดแล้วเนี่ย ไปหอมแก้มน้องวานู่นเลยไป แล้วก็อีกอย่างพี่ผาไม่ได้เป็นพี่ชายโง่ๆสักหน่อยพี่ผาแค่ยังแยกแยะไม่ออกว่าเวลาไหนคือเวลาส่วนตัวหรือว่าเวลาไหนควรที่จะให้กับน้องชายสุดที่รักคนนี้ หรือเวลาไหนที่ควรจะรวมคนรักกับน้องชายสุดที่รักมาไว้ด้วยกันต่างหาก เค้าเรียกว่างานหลวงอย่าให้ขาด งานราษฎร์อย่าให้เสียยังไงล่ะครับ” สายน้ำพูดเจื้อยแจ้วให้พี่ชายสุดที่รักได้ฟัง
“ครับๆทราบแล้วครับท่าน ขอบคุณนะครับที่ยกโทษให้พี่ พี่ขอโทษอีกครั้งนะครับ พี่จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกเป็นอันขาด พี่ขอสัญญานะครับ จุ๊บ!”
“ใครบอกว่าน้องยอมยกโทษให้แล้วครับ”
“อ้าวว แล้วพี่ต้องทำยังไงน้องชายสุดที่รักคนนี้ถึงจะยอมยกโทษให้ล่ะครับ หืมม”
“อืมมม น้องได้ข่าวมาว่ามีกล้องตัวใหม่ออกมาน้องว่าจะไปดูสักหน่อย” สายน้ำทำท่าพูดลอยๆ เพราะเค้าเป็นคนที่ชอบถ่ายรูปคนหนึ่งเพียงแต่ไม่ค่อยมีเวลาและไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหนก็เท่านั้น เค้ากะว่าถ้าได้มาก็เอาไปถ่ายตอนที่ไปเที่ยวที่ไร่ชาและสวนส้มของวาริพอดี
“หึๆ ครับๆ เดี๋ยวพี่จะซื้อมาเป็นของขวัญให้น้องที่น้องยอมยกโทษให้พี่ผาดีมั้ยครับ” หินผาบอกอย่างรู้ทัน ต่อให้เค้าต้องซื้อกล้องอีกสักสิบตัวยี่สิบตัวถ้ามันจะทำให้น้องยอมยกโทษให้กับเค้าเค้าก็ยอม
“เย้! พี่ผาใจดีที่สุดในโลกเลย น้องน้ำรักพี่ผานะครับ ฟอด! ฟอด!” สายน้ำพูดพร้อมกับหอมแก้มพี่ชายสองข้างสลับกันไปมาด้วยความดีใจและโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก
“เฮ้อออ!” เสียงถอนหายใจของทุกคนที่อยู่ข้างนอกดังขึ้นแทบจะพร้อมกันเมื่อเห็นว่าสองพี่น้องคืนดีและตกลงกันได้แล้วก็พลอยทำให้ทุกคนต่างโล่งใจกันไปด้วยโดยเฉพาะวาริที่อดคิดว่าตัวเองเป็นตัวต้นเหตุไม่ได้ถึงแม้ว่าหินผาและสายน้ำจะพูดแบบนั้นก็ตามที
“อ้าว พวกมึงมากันตั้งแต่เมื่อไหร่วะ” พอผ่านไปสักพักหินผาก็เดินจูงมือน้องชายออกมาจากห้อง เพราะเค้ามัวแต่หาผ้าชุบน้ำมาประคบตาที่บวมแดงให้กับน้องอยู่
“น้องวาร้องไห้ทำไมครับ ใครทำอะไรน้องวาครับ” หินผาที่หันไปเห็นวารินั่งตาบวมแดงจมูกแดงอยู่ก็รีบเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆทันที โดยที่ไม่ลืมจูงมือน้องชายมาด้วย
“ก็มึงไงที่ทำ ดูสภาพแต่ละคนสิ อย่างกับเป็นน้องน้ำคนที่ 2 3 4 ก็ไม่ปาน” เหนือพูดพร้อมกับชี้ไปที่วาริ เบล และออกัสที่มีสภาพไม่ต่างกัน นั่นคือทุกคนตาบวมแดงจมูกแดงกันหมด
“เอ่อ กูเหรอ” หินผาชี้มือเข้าหาตัวเองอย่างงงๆ
“ก็เออน่ะสิ ก็ประตูมันปิดไม่สนิทพวกกูก็เลยได้ยินกันหมด ลุ้นกันซะเยี่ยวเหนียวไปหมด” ดินพูดตอบขึ้นมาเมื่อเห็นเพื่อนยังงงๆอยู่
“พี่ขอโทษนะครับ ที่พลอยทำให้น้องวาต้องคิดมากไปด้วย ขอโทษนะครับ จุ๊บ!” หินผาพูดพร้อมกับดึงวาริเข้ามากอดแล้วจูบลงตรงกลางกระหม่อม อีกมือก็ดึงน้องชายเข้ามากอดอีกข้างพร้อมกับก้มลงไปจูบที่ขมับของสายน้ำเช่นเดียวกัน
“พี่ผาปล่อยนะ เพื่อนๆพี่ก็อยู่นะ” วาริพยายามดันตัวหินผาออกเพราะความเขินที่มีมากเกินไป ก็เล่นมากอดเค้าต่อหน้าพี่ๆทุกคนเค้าก็อายน่ะสิ
“งั้นแปลว่าถ้าไม่มีใครพี่ก็กอดได้ใช่มั้ยครับ” หินผาพูดพร้อมกับส่งยิ้มกรุ้มกริ่มไปให้
“เบาได้เบาเพื่อน นี่น้องยังไม่ได้เป็นอะไรกับมึงนะครับคุณเพื่อนเผื่อคุณจะลืมไปนะครับ” เป็นดินที่ขัดคอขึ้นมา
“งั้นน้องวามาเป็นแฟนกับพี่ได้มั้ยครับ พี่อยากมีแฟนแล้ว นะครับนะ”
วาริถึงกับตกตะลึงอ้าปากค้างอยู่อย่างนั้น ใครใช้ให้มาขอเค้าเป็นแฟนต่อหน้าทุกคนกันเนี่ยคนหน้าไม่อาย
“ฮื้อ พี่ผาวาไม่พูดด้วยแล้ว โป้งพี่ผาแล้วด้วย” วาริที่ตอนนี้หน้าแดงเป็นลูกมะเขือเทศสุกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วพูดว่าหินผาพร้อมกับลุกขึ้นเดินออกไปทันที
“อ้าว น้องวาครับรอพี่ด้วยครับ น้องน้ำครับพี่ไปก่อนนะครับ แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้สายๆพี่จะพาไปซื้อกล้องตัวใหม่นะครับ รักน้องมากนะครับ ฟอด! ฟอด! จุ๊บ!” ก่อนจะเดินตามวาริออกไปหินผายังไม่ลืมที่จะหันมาบอกลาน้องพร้อมกับหอมแก้มนุ่มสองข้างและจุ๊บที่ปากเล็ก
“ฮ่าๆๆๆ นี่กูจะขำหรือจะหัวเราะไอ้ผาดีวะที่จะไปตามง้อว่าที่แฟนแต่ก็ยังห่วงว่าน้องจะโกรธที่ตัวเองไม่สนใจ ฮ่าๆๆๆๆ” เหนือพูดพร้อมกับหัวเราะไปด้วยจนตัวงอ สายน้ำได้แต่มองตามหลังพี่ชายไปอย่างยิ้มๆ
แกร็ก!!!
เสียงเปิดประตูทำให้ทุกสายตาหันไปมอง ก็พบว่าเป็นวายุและอิฐที่เดินถือน้ำและกระเป๋าเก็บความเย็นเข้ามา
“เย้! มัคคิอาโต้ของน้องมาแล้ว” ทันทีที่เห็นหน้าคนรักสายน้ำก็แทบจะพุ่งตัวไปหาเลยทันที
“หึๆ คุยกันเรียบร้อยแล้วใช่มั้ยครับ ฟอด!” วายุถามขึ้นพร้อมกับก้มลงมาหอมแก้มคนตัวเล็กของเค้า
“โว๊ะ! มีแต่คนหอมกันจูบกันให้รำคาญตาโว้ย หนูจ๋าเรากลับห้องกันดีกว่านะคะ พี่อยากกอดอยากหอมหนูบ้างอ่ะ นะคะ” เหนือพูดพร้อมกับถูหน้าตัวเองไปที่แขนของเบลพร้อมกับส่งสายตาอ้อนๆไปให้ด้วย
“บ้าา พี่เหนืออ่ะ พูดอะไรก็ไม่รู้ กลับกันก็ได้ค่ะ งั้นเดี๋ยวเจอกันพรุ่งนี้นะน้ำ” เบลพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืนทำให้เหนือรีบกระเด้งตัวลุกขึ้นตามโดยทันที
“เฮ้อ! เพื่อนกูแต่ละคน ไปไอ้อิฐงั้นมึงไปตี้เกมกับกูตามประสาคนโสดดีกว่าโว้ย” ดินพูดพร้อมกับลุกขึ้นเดินไปกอดคอรุ่นน้องออกไปจากห้องอีกหนึ่งคู่
“เออไปกันให้หมด งั้นเราก็กลับห้องกันเถอะครับพี่ก็อยากเอนหลังแล้วเหมือนกัน” ไฟพูดพร้อมกับลุกขึ้นและจูงมือออกัสออกไป
“สบายใจขึ้นรึยังครับที่รัก ฟอด!” วายุพาคนตัวเล็กที่กำลังก้มหน้าก้มตาดูดน้ำในแก้วอย่างเมามันมานั่งที่โซฟาและนั่งบนตักของเค้า ตั้งแต่คบกับคนตัวเล็กมาเค้าก็กลายเป็นคนที่ติดการสกินชิฟกับคนตัวเล็กไปโดยปริยาย เค้าชอบที่จะให้คนตัวเล็กของเค้ามานั่งที่ตัก ชอบที่จะกอดเนื้อตัวนุ่มนิ่ม ชอบที่จะหอมแก้มนุ่มใส ชอบที่จะกดจูบลงไปที่ปากแดงๆ ชอบที่จะหอมหัวลูบผมนุ่มน่าสัมผัส ชอบทุกอย่างที่เป็นคนตัวเล็กคนนี้ โดยเฉพาะกลิ่นกายหอมที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
“สบายใจขึ้นเยอะเลยครับ เหมือนได้ยกภูเขาออกจากอกน้องไปเลยครับ ขอบคุณพี่กายนะครับ จุ๊บ!” สายน้ำพูดจบก็จูบไปที่ริมฝีปากหยักของคนพี่เป็นการให้รางวัล
“ถ้าอย่างนั้นพี่ขอรางวัลได้มั้ยครับ หืม จุ๊บ! จุ๊บ!” วายุพูดพร้อมกับจูบไปที่ซอกคอขาว จมูกโด่งก็ไล่คลอเคลียอยู่แถวๆซอกคอของน้อง
“อื้ออ พะ พี่กายเดี๋ยวก่อนครับ น้องขอให้รางวัลรวมกับของขวัญวันเกิดของพี่กายเลยได้มั้ยครับ” ใช่แล้วอีกสามวันก็จะถึงวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 22 ปีเต็มของวายุแล้ว
“หือออ!!!” วายุเงยหน้ามาด้วยความแปลกใจเพราะเค้าก็ลืมวันเกิดเค้าไปซะสนิทเลยเหมือนกันถ้าน้องไม่พูดขึ้นมา
Comments (0)