"คุณปู่คุณย่าพวกผมกลับก่อนนะครับไว้จะมาเที่ยวหาใหม่นะครับ" หินผาเอ่ยลาผู้ใหญ่ท้้งสองท่านหลังจากอยู่เที่ยวพักผ่อนกันมาแล้ว 3 วันด้วยกัน 

"น้ำกลับก่อนนะครับคุณปุ่คุณย่า อยู่ทางนี้ดูแลสุขภาพกันด้วยนะครับ น้ำยังไม่อยากกลับเลย" สายน้ำพูดลาพร้อมกับยังกอดเอวคุณปู่อยู่อย่างออดอ้อน

"หึๆเอาไว้วันหยุดยาวก็มาค่อยมาเที่ยวหาปู่กับย่าใหม่นะ กลับไปนี่ก็ตั้งใจเรียนนะลูก แล้วก็อย่าดื้ออย่าเอาแต่ใจกับพี่เค้าให้มากนักล่ะ ปู่ฝากแก้วตาดวงใจของปู่ด้วยนะตาวายุ" คุณปู่พูดหลานรักเสร็จก็หันมาคุยกับวายุเพื่อฝากฝังหลานสุดที่รักของตัวเอง

"ครับคุณปู่ ผมจะดูแลน้องอย่างดีเลยครับ เอาไว้มีวันหยุดยาวผมจะพาน้องมาเที่ยวหาใหม่นะครับ"

"ออกเดินทางกันได้แล้วลูกนี่ก็บ่ายมากแล้วเดี๋ยวจะถึงบ้านกันมืดค่ำเสียก่อน" คุณย่าเมื่อเห็นว่าปู่กับหลานร่ำลากันไม่เสร็จเสียทีจึงเอ่ยปาก

"งั้นผมลากลับเลยนะครับ สวัสดีครับ" เป็นวายุที่เอ่ยลาพร้อมยกมือไหว้คนแรก

"สวัสดีครับคุณปู่คุณย่าไว้พวกผมจะมารบกวนใหม่นะครับ สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะ" ไฟบอกลาคุณปู่คุณย่าตามด้วยทุกคนที่ทยอยกันไหว้ลา

วายุ เดินจับมือสายน้ำไปที่รถและเปิดประตูหลังให้สายน้ำเข้าไปนั่ง พร้อมเดินขึ้นรถไปนั่งประจำที่คนขับ

"เดี๋ยวมึงแวะร้านของฝากข้างทางด้วยนะ กูจะซื้อไปฝากคนงานที่บ้าน" หินผาพูดขึ้นหลังจากขึ้นมานั่งข้างคนขับแล้ว เค้าต้องกลับกับวายุ เนื่องจากป๊ากับม๊ากลับไปตั้งแต่บ่ายวันอาทิตย์แล้วเพราะว่าป๊ามีประชุมผู้บริหารเช้าวันจันทร์

"อือ"

"แล้วนี่มึงจะเอาน้องกูไปนอนด้วยวันนี้เลยเหรอวะ"

ป้าบ!!!!!!!! ทันทีที่หินผาพูดจบก็มีฝ่ามือน้อยๆฟาดลงมาที่แขนข้างขวา

"โอ๊ย! น้องน้ำตีพี่ทำไมครับ"

"ก็พี่ผาพูดจาไม่ดีนี่ครับ" สายน้ำเอ่ยตำหนิพี่ชายด้วยแก้มที่แดงระเรื่อ

"หึๆ" วายุเหลือบมองกระจกหลังก็เห็นคนตัวเล็กนั่งค้อนพี่ชายอยู่ด้วยสีหน้าที่บ่งบอกถึงความเขินอายกับคำพูดสองแง่สองง่ามของพี่ชาย

"เดี๋ยวนี้มีแฟนแล้วลงไม้ลงมือกับพี่นะครับ ใช่สิพี่มันหมาหัวเน่าแล้วนี่ ใครจะไปเหมือนคนที่นอนกอดกันนอนห้องเดียวกันทุกคืนล่ะ" หินผาแสร้งเสียงตัดพ้อด้วยความน้อยใจ

"น้องขอโทษครับ" สายน้ำที่รู้ตัวเองว่าเดี๋ยวนี้เวลาเขินชอบลงไม้ลงมือกับพี่ชายก็รู้สึกผิดขึ้นมาทันที และพูดขอโทษออกมาเสียงเบา"

หินผาที่จับน้ำเสียงน้องได้ก็รีบหันไปมอง แต่ก็ต้องใจเสียเพราะน้ำตาเริ่มมาคลอที่หน่วยตาของน้องแล้ว

"น้องน้ำครับพี่พูดเล่นครับไม่ร้องนะครับ ไอ้วายุจอดรถก่อนซิกูจะไปนั่งกับน้อง"

"หึๆ" วายุได้แต่ส่ายหัวกับเพื่อนตัวเองที่เล่นซะได้เรื่อง

"โอ๋ พี่ขอโทษครับพี่แกล้งแหย่เล่นแค่นั้นเอง พี่รู้ครับว่าน้องเขินเลยตีพี่ พี่ไม่ได้เจ็บเลยครับพี่แค่แอ็กติ้งไปอย่างนั้นเอง ฟอด!" หลังจากที่ขึ้นมานั่งด้านหลังกันน้องแล้ว หินผาก็ทั้งพูดทั้งปลอบทั้งหอมน้องเพราะกลัวว่าน้องจะคิดมาก คิดว่าตัวเองนั้นน้อยใจน้องจริงๆ

"พี่ผาไม่ได้น้อยใจน้องจริงๆใช่มั้ยครับ"

"ครับ พี่แค่หมั่นไส้ไอ้วายุมันน่ะครับ ฟอด!"

"มึงเลิกพูดทีหอมแก้มตัวเล็กทีได้แล้วมั้ยวะ แก้มแฟนกูช้ำหมดแล้วมั้ง ตัวเล็กก็นั่งให้มันหอมอยู่ได้นะครับ"

"อ้าว!" สายน้ำอุทานออกมาอย่างไม่เข้าใจคนที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาขับรถอย่างตั้งใจ แต่ตาก็ยังเหลือบมองเค้าสองพี่น้องทางกระจกหลังเป็นระยะๆ

"ฮ่าๆๆๆๆ อิจฉากูล่ะสิที่มึงได้แค่นอนกอดน้องกูอย่างเดียว แก้มน้องกูกูมีสิทธิ์หอมโว้ย ฟอด! ปากน้องกูกูก็มีสิทธิ์จุ๊บโว้ย จุ๊บๆ ฟอดๆ" หินผาพูดออกมาอย่างมั่นอกมั่นใจว่าเพื่อนเค้าได้แค่นอนกอด ก็เพราะเค้าแอบกระซิบถามน้องเค้ามาแล้วนั่นเอง ว่าไอ้เพื่อนตัวดีมันได้รังแกน้องเค้ามั้ย

"ฮ่าๆๆๆ พี่ผาพอแล้วครับน้องจั๊กจี้ครับ" สายน้ำที่หัวเราะไปด้วยพูดไปด้วยเพราะพี่ชายเค้าเล่นฟัดซะจนเค้ารู้สึกว่าแก้มน่าจะช้ำไปหมดแล้ว

"หึๆ พอแล้วครับๆ เดี๋ยวเราลงไปซื้อของไปฝากคนงานที่บ้านกันนะครับ" หินผาที่ได้แกล้งเพื่อนจนสมใจแล้วก็ให้น้องได้พักเหนื่อยจากที่โดนเค้าปล้ำหอมอยู่นาน

พอถึงที่แวะซื้อของฝากวายุก็จอดให้สองพี่น้องได้ลงไปเลือกซื้อของฝากกันโดยที่เค้าไม่ได้ลงไปด้วย เนื่องจากยังคงโมโหเพื่อนตัวเองและน้อยใจคนตัวเล็กอยู่นั่นเอง ทีกับเค้าคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนจะกอดจะหอมแต่ละทีต้องขอแล้วขออีก ต่างกับไอ้เพื่อนตัวดีที่ทั้งกอดทั้งหอมทั้งจุ๊บได้จนคนตัวเล็กของเค้าช้ำไปหมดแล้ว

"ป่ะ ยิงยาวกลับบ้านเลยเดี๋ยวจะเย็นซะก่อน" เมื่อหินผาและสายน้ำซื้อของฝากเสร็จและเข้ามานั่งประจำที่แล้วก็เอ่ยปากบอกเพื่อนโดยไม่ได้สังเกตหน้าตาของคนวายุเลยสักนิด รอบนี้หินผาย้ายมานั่งข้างคนขับเหมือนเดิมเพราะกะจะให้น้องได้นอนเหยียดขายาวเผื่อรถติดและน้องเกิดง่วงขึ้นมา

รถ BMW สีดำคันหรู เคลื่อนตัวมาจอดอยู่หน้าบ้านสีครีมหลังใหญ่หรือจะเรียกว่าคฤหาสน์ก็ไม่ผิด

พอรถจอดสนิทแล้วหินผากับสายน้ำก็ก้าวลงมาจากรถ สายน้ำที่เห็นวายุยังไม่ลงจากรถก็เดินอ้อมมาฝั่งคนขับที่วายุนั่งอยู่ วายุเห็นดังนั้นจึงเปิดประตูรถให้น้อง

"เอ่อ พี่กายไม่ลงเหรอครับ" สายน้ำที่เดินมาหาวายุได้เอ่ยถามขึ้นเพราะตั้งแต่ที่พี่ชายกับเค้าเล่นกันในรถวายุก็เงียบไม่พูดไม่จาไม่มองหน้าเค้าอีกเลยจนกระทั่งตอนนี้

"ไม่ล่ะครับ พี่เหนื่อยอยากพักผ่อน เดี๋ยวพี่คงจะกลับคอนโดเลย" วายุพยายามพูดด้วยเสียงที่เป็นปกติที่สุด เค้าไม่อยากให้น้องไม่สบายใจด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง

หินผาที่พอจะเดาอารมณ์ของเพื่อนตัวเองออก ก็ปล่อยให้สองคนได้เคลียร์กันเอง เค้าหวังว่าทั้งสองจะไม่ทะเลาะกันด้วยเรื่องแค่นี้หรอกนะ

"พี่กายเป็นอะไรไปครับ โกรธอะไรน้อง" สายน้ำพูดพร้อมคุกเข่านั่งยองๆอยู่ข้างรถ

"พี่ไม่ได้โกรธไม่ได้เป็นอะไรครับ พี่แค่เหนื่อยตัวเล็กก็ขึ้นไปพักผ่อนเถอะครับ" วายุพูดพร้อมกับลูบผมน้องไปด้วย

"ไม่ครับ พี่กายต้องขึ้นไปกับน้องด้วย วันนี้พี่กายขับรถมาเหนื่อยแล้วคืนนี้นอนกับน้องที่นี่นะครับ แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้เราค่อยไปคอนโดพี่กายกัน นะน๊า นะครับ" สายน้ำพูดพร้อมทำหน้าอ้อน

"ก็ได้ครับ" วายุถึงกับยกยิ้มมุมปากเมื่อเจอลูกอ้อนแบบนี้เข้าไป

"อ้าว! มากันพอดีเลยลูก มากินข้าวกันก่อนนะ แล้วเดี๋ยวค่อยขึ้นไปพักผ่อนทีเดียว" วายุและสายน้ำเมื่อเดินเข้ามาในบ้านก็เจอกับม๊าที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องครัวพอดี

"วายุคืนนี้ก็พักที่นี่เลยนะจ๊ะขับรถมาเหนื่อยๆจะได้พัก นี่ก็จวนเจียนจะมืดค่ำแล้วขับรถกลับคอนโดตอนนี้ม๊าเป็นห่วง"

"ครับม๊า ขอบคุณนะครับ"

หลังจากที่กินข้าวกินปลาและนั่งคุยกันได้สักพัก หินผาก็ขอตัวขึ้นห้องและตามด้วยวายุกับสายน้ำ จะเหลือก็แต่ป๊าและม๊าที่ยังนั่งดูซีรีส์เกาหลีกันอยู่

"ตัวเล็กอาบน้ำก่อนเลยนะครับ พี่ขอคุยโทรศัพท์กับพ่อแป๊บหนึ่ง"

"ครับ พี่กาย"

เมื่อสายน้ำหยิบผ้าขนหนูและชุดนอนเดินเข้าห้องน้ำไปแล้ว วายุก็เดินออกมานอกระเบียงเพื่อโทรหาพ่อ หลังจากเสร็จรับน้องแล้วเค้าจะต้องเข้าไปเรียนรู้งานที่บริษัท ตามที่เคยตกลงกันไว้กับพ่อว่าหลังจากขึ้นปี 3 แล้วเค้าจะต้องมาเรียนรู้งานกับวาโยพี่ชายของเค้าอย่างเต็มตัว แต่เนื่องจากเค้าติดภารกิจรับน้องจึงยังไม่ได้เข้าไปเสียที

(ว่าไงไอ้เสือนึกว่ามีแฟนแล้วจะลืมพ่อลืมแม่ซะแล้ว)

"หึๆ ยังครับพอดีเพิ่งกลับมาจากบ้านสวนคุณปู่คุณย่าของสายน้ำน่ะครับ"

(เอ้อ แล้วสรุปเรื่องน้องนี่เราจริงจังใช่มั้ย เพราะว่าวันศุกร์นี้พ่อกับแม่จะต้องไปงานเปิดตัวโรงแรมxxx และคงจะได้เจอกับคุณศุภสิษฐ์และคุณหญิงสุภัตรา พ่อจะได้เกริ่นๆกับทางนั้นเค้าไว้ก่อน)

"จริงจังครับพ่อ เดี๋ยวพรุ่งนี้น้องก็จะย้ายไปอยู่กับผมที่คอนโดแล้วด้วยครับ"

(เออเว้ย ให้มันได้อย่างนี้สิไอ้เสือ ฮ่าๆๆ งั้นพ่อคงต้องเปลี่ยนเป็นพูดจาสู่ขอและก็เตรียมสินสอดไว้แล้วสินะเล่นเอาลูกเค้ามาอยู่ด้วยแบบนี้แล้ว)

"หึๆ แล้วแต่พ่อสะดวกเลยครับ"

(แล้วอย่าลืมจันทร์หน้าเข้ามาที่บริษัทด้วยนะ เอ้อ...เอาน้องมาด้วยนะพ่อกับแม่และกานต์จะได้เจอน้องสักที มากินข้าวเย็นด้วยกัน)

"ได้ครับพ่องั้นแค่นี้ก่อนนะครับไว้เจอกัน ฝากสวัสดีคุณแม่ด้วยนะครับ"

(อืมๆ แล้วเจอกันไอ้เสือ)

หลังจากที่วายุคุยโทรศัพท์เสร็จก็เห็นสายน้ำนั่งทาครีมอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้ง เจ้าตัวจึงเดินไปหยิบผ้าขนหนูที่วางไว้บนเตียงที่คาดว่าน้องน่าจะเตรียมไว้ให้เค้า แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป

วายุที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วก็เดินไปหยิบแมคบุ๊คที่หยิบติดมือมาจากรถด้วยและเดินไปนั่งที่โซฟาเพื่อเปิดดูเมลที่วาโยส่งงานมาให้ศึกษาดูไว้ก่อนล่วงหน้า

สายน้ำที่นอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงก็เหลือบมองวายุเป็นพักๆ เพราะปกติวายุจะต้องทำตัวติดกับเค้าพะเน้าพะนอเค้าตลอดแต่นี่กลับกลายเป็นไม่สนใจเค้าไม่ทักไม่ทายเค้าเลยด้วยซ้ำ ไหนตอนเย็นยังทำท่าจะหนีเค้ากลับคอนโดอีก ยิ่งคิดก็ยิ่งหาเหตุผลไม่เจอจะว่าเรื่องที่หินผาหอมแก้มเค้าก็ไม่น่าจะใช่เพราะเค้ากับพี่ชายก็แสดงออกแบบนี้กันมาตลอด หรือวายุจะเบื่อเค้าแล้วเบื่อที่ต้องมานั่งเอาอกเอาใจ หรือว่าวายุจะเบื่อของแปลกที่อยากลองกับผู้ชายซะแล้ว

สายน้ำได้แต่คิดหาเหตุผลต่างๆนาๆจนปวดหัวไปหมด ได้แต่เอามือกุมศีรษะตัวเองและก้มหน้าฟุบลงกับเตียงนุ่ม น้ำตาแห่งความน้อยใจที่ได้กักเก็บเอาไว้ก็ไหลทะลักออกมาไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย เค้าไม่ได้อยากจะร้องไห้หรอกนะแต่ไอ้น้ำตาไม่รักดีนี่สิมันดันไหลออกมาเอง

เมื่อก่อนเค้าแทบจะไม่เคยร้องไห้เลยด้วยซ้ำ แต่พอมาเจอวายุไหงกลับกลายเป็นคนบ่อน้ำตาตื้นไปได้

เมื่อวายุที่เงยหน้าจากแมคบุ๊คก็เห็นสายน้ำเอามือกุมศีรษะเอาไว้แถมไหล่ยังสั่นอีกด้วยก็รีบเดินตรงมาหาน้องที่เตียงทันที

"ตัวเล็กเป็นอะไรครับ ลุกขึ้นมาคุยกับพี่ก่อนครับ" วายุที่พยายามจะจับให้สายน้ำลุกขึ้นนั่งแต่ก็ไม่กล้าจับแรงเพราะกลัวน้องจะเจ็บ ด้านสายน้ำเองก็ขืนตัวไว้ไม่ยอมลุก

"ตัวเล็กครับลุกขึ้นมาเร็วเดี๋ยวหายใจไม่ออกครับ" สายน้ำได้แต่นอนส่ายหัวอยู่อย่างนั้นไม่ยอมที่จะลุกขึ้นมา

พรึ่บ!!!!

วายุตัดสินใจช้อนทั้งตัวของน้องให้มาอยู่บนตักของตัวเอง และก็ได้เห็นหน้าคนตัวเล็กของเค้าที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตาแพรขนตางอนเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุด

"เป็นอะไรไปครับไหนบอกพี่กายทีสิครับ ถ้าตัวเล็กเอาแต่ร้องไห้แบบนี้แล้วพี่กายจะรู้ได้ยังไงครับว่าพี่กายทำอะไรผิด หืมม.." วายุพูดกับสายน้ำด้วยน้ำเสียงอ่อนนุ่ม

"ฮึก! พี่กาย ฮึก! เบื่อน้องแล้ว ฮึก!" สายน้ำพูดพร้อมกับสะอื้นไปด้วย

"หือ!!! ใครบอกตัวเล็กครับว่าพี่เบื่อตัวเล็กแล้ว" วายุพูดพร้อมกับยกมือขึ้นปาดน้ำตาให้คนตัวเล็กไปด้วย

"ไม่มีใครบอกครับ น้องรู้ด้วยตัวเองครับ"

"งั้นลองบอกพี่ทีสิครับว่าอะไรที่ทำให้ตัวเล็กคิดว่าพี่เบื่อตัวเล็กครับ"

"ก็...พี่กายไม่มองหน้าน้อง ไม่สนใจน้อง ไม่คุยกับน้อง แถมเมื่อตอนเย็นยังจะหนีน้องกลับคอนโดอีกด้วย" สายน้ำพูดบอกออกมาเสียงเบาพร้อมกับก้มหน้าก้มตา

"หึๆ ที่พี่ทำไปทั้งหมดตัวเล็กรู้มั้ยครับว่าทำไม" สายน้ำมองหน้าวายุและส่ายหน้า ตอนนี้น้ำตาได้หยุดไหลไปแล้วเหลือแต่คราบน้ำตาที่วายุยังคงค่อยๆเช็ดให้อย่างเบามือ

"เพราะพี่ไม่อยากที่จะเข้าใกล้ตัวเล็กมากไปกว่านี้ครับ พี่กลัวห้ามใจตัวเองไม่ได้ ยิ่งพี่อยู่ใกล้เรามากเท่าไหร่พี่ก็ยิ่งมีความต้องการมากขึ้นเท่านั้น พี่เลยต้องพยายามหักห้ามใจไม่ให้เข้าใกล้เราไปมากกว่านี้ และยิ่งได้เห็นไอ้ผาทั้งกอดทั้งหอมแล้วก็จูบเรา แต่พี่กลับทำอะไรมากไปกว่านอนกอดตัวเล็กไม่ได้เลยทำให้พี่ยิ่งน้อยใจตัวเอง" สายน้ำได้แต่นั่งฟังคนพี่พูดความในใจออกมาด้วยอกข้างซ้ายที่เต้นระรัว เค้าไม่คิดว่าคนพี่จะคิดกับเค้าแบบนี้

"พี่ไม่เคยคิดเบื่อตัวเล็กเลยนะครับ มีแต่อยากจะเข้าใกล้อยากจะสัมผัสให้มากขึ้นในทุกๆวัน แต่พี่ก็รู้ว่าตัวเล็กยังไม่พร้อมครับ ฟอด!" วายุพูดจบพร้อมกับหอมแก้มคนตัวเล็กอย่างอดใจไม่ได้

สายน้ำได้แต่มองหน้าคนพี่เหมือนกำลังตัดสินใจอะไรบางอย่างอยู่ เค้ารู้ว่าผู้ชายทุกคนย่อมมีความต้องการและยิ่งได้อยู่ใกล้ชิดกับคนที่รักด้วยแล้ว เค้ารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนเห็นแก่ตัวที่ให้วายุอดทนอยู่ฝ่ายเดียว

จุ๊บ! ไวเท่าความคิดสายน้ำยื่นหน้าแนบริมฝีปากบางของตัวเองกับริมฝีปากหยักได้รูปของคนพี่ ริมฝีปากบางขยับแบบเก้ๆกังๆแบบไม่รู้ว่าต้องทำยังไงต่อ

"หึๆ" วายุได้แต่หัวเราะอยู่ในลำคอกับท่าท่างของน้อง ที่ตอนนี้ทั้งแก้มและหูรวมถึงลำคอขึ้นสีแดงไปหมดแล้ว อาจจะรวมทั้งตัวเลยด้วยซ้ำหากจับคนตัวเล็กของเค้าเปลื้องผ้าออกหมด

ตุ้บ! สายน้ำทุบไปที่อกของคนพี่เบาๆเป็นการลงโทษที่บังอาจมาหัวเราะเยาะเค้าพร้อมกับซบหน้าลงกับอกแกร่ง ก็คนมันทำไม่เป็นนี่นาแค่นี้ก็เขินจนตัวแทบจะระเบิดอยู่แล้ว

"ตัวเล็กแน่ใจแล้วเหรอครับที่อ่อยพี่แบบนี้" วายุถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่าพร้อมกับขบเม้มลงไปที่ใบหูและไล่ลงจนมาถึงซอกคอหอม จนคนที่อยู่บนตักถึงกับขนลุกซู่กับความเสียวซ่านที่เพิ่งเคยได้รับ

"อ๊าส์ พี่กาย"