60 ตอน ของขวัญชิ้นที่พิเศษที่สุด
โดย Beloved_Moouan
“ดะ เดี๋ยวนะเมื่อกี๊มึงว่ายังไงนะ กูฟังไม่ค่อยชัด” เหนือถามขึ้นอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองนั้นไม่ได้ฟังผิดแต่อย่างใด
“เป็นไปได้ยังไงวะ น้องน้ำเป็นผู้ชายไม่ใช่เหรอวะ นี่ถ้าบอกว่าน้องเป็นผู้หญิงแล้วปลอมตัวมาเป็นผู้ชายกูยังจะเชื่อมากกว่าเลยนะ” ไฟพูดขึ้นโดยมีเหนือคอยพยักหน้าตามอยู่ข้างๆ
“พวกมึงสัมภาษณ์กันให้พอแล้วกันกูจะพาตัวเล็กไปหาหมอ” วายุที่เริ่มจะรำคาญก็พูดตัดบทขึ้นมา
“เฮ้ยๆ พวกกูไปด้วย เดี๋ยวค่อยไปคุยกันต่อบนรถก็ได้” วายุส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่ายทันทีที่เหนือพูดขึ้น แต่เหนือก็หาได้สนใจไม่ เพราะเค้าชินกับท่าทางของเพื่อนคนนี้ซะแล้ว
“งั้นมึงอุ้มน้องน้ำไปเดี๋ยวกูจะโทรหาอาหมอว่ายังอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่รึเปล่ากูไม่อยากให้เรื่องนี้มีคนรู้เยอะ” หินผาพูดพร้อมกับยกมือถือขึ้นมาโทรหาอาหมอทันที ส่วนวายุก็เดินมาอุ้มคนตัวเล็กไว้ในท่าคาดเอว
“ไอ้ไฟมึงเดินไปเอากระเป๋าสตางค์ของกูกับตัวเล็กแล้วก็กุญแจรถในห้องกูมาที”
“เออๆ แต่เดี๋ยวไปรถกูก็ได้เดี๋ยวกูขับให้มึงจะได้ดูน้องไป” ไฟพูดจบก็เดินตรงไปยังห้องนอนของวายุทันที
“อื้ออ พี่กายเราจะไปไหนกันเหรอครับ” สายน้ำที่ตื่นขึ้นมาหลังจากที่พวกเค้านั่งรถออกกันมาได้สักพัก โดยมีไฟเป็นคนขับให้และมีเหนือนั่งข้างหน้าคู่กับไฟ
“พี่กำลังจะพาตัวเล็กไปหาหมอครับ ตอนนี้ตัวเล็กรู้สึกยังไงบ้างครับ จุ๊บ!” วายุตอบสายน้ำด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“แต่น้องไม่ได้เป็นอะไรแล้วนะครับ ได้นอนอีกหน่อยก็น่าจะหายดีแล้ว”
“ไม่ได้หรอกนะครับพี่เป็นห่วง ไปให้หมอตรวจดูสักหน่อยนะครับพี่จะได้สบายใจ” สายน้ำก็ได้แต่พยักหน้าตอบพร้อมกับฟุบหน้าลงที่อกของวายุอีกรอบ เค้ารู้สึกเหมือนกับว่าอยากที่จะนอนอยู่ตลอดเวลาเลยตอนนี้
“สวัสดีครับ ผมนัดคุณหมอดิชพล วัฒนไพศาลกิจ ไว้ครับ” พอเข้ามาโรงพยาบาลหินผาก็เดินมาแจ้งที่เคาน์เตอร์ทันที เพราะเค้าได้โทรนัดอาหมอเอาไว้แล้ว และบอกรายละเอียดให้กับอาหมอได้รับทราบทั้งหมดแล้ว และก็เป็นอาหมอของเค้าคนนี้นี่แหละที่เป็นคนตรวจเจอว่าสายน้ำนั้นมีมดลูก
คุณหมอดิชพล วัฒนไพศาลกิจ เป็นน้องชายแท้ๆของ คุณศุภสิษฐ์ วัฒนไพศาลกิจ ซึ่งก็เป็นอาแท้ๆของหินผาและสายน้ำนั่นเอง ปกติแล้วท่านจะไม่ลงมาตรวจคนไข้ด้วยตัวเองถ้าไม่ใช่เคสที่พิเศษจริงๆ ท่านจะบริหารงานเพียงอย่างเดียว โรงพยาบาลแห่งนี้ก็เป็นกิจการของครอบครัววัฒนไพศาลกิจอีกแห่งหนึ่งด้วยเหมือนกัน ด้วยความที่คุณหมอดิชพลหรืออาจารย์หมอดิชพล ท่านสนใจและชอบที่จะเรียนแพทย์มาตั้งแต่เด็กๆคุณศุภสิษฐ์พ่อของหินผาและสายน้ำจึงยกกิจการให้น้องชายได้เป็นคนดูแลและจัดการบริหารเอง หลังจากที่พ่อกับแม่ของพวกเค้าวางมือลง
ส่วนด้านคุณศุภสิษฐ์เองก็หันมาบริหารกิจการสายการบินแทน จึงทำให้ท่านไม่ค่อยจะมีเวลาอยู่บ้านมากนัก เพราะต้องบินไปดูแลกิจการสายการบินที่ประเทศอื่นด้วย แต่ทั้งคุณศุภสิษฐ์และคุณหมอดิชพลเองก็มีหุ้นอยู่ที่ทั้งโรงพยาบาลและสายการบินด้วยกันทั้งคู่ เพียงแต่แบ่งกันบริหารงานตามความถนัดของแต่ละคนเท่านั้นเอง
“อ๋อค่ะ คุณศิลา วัฒนไพศาลกิจ ใช่มั้ยคะ”
“ใช่ครับ”
“งั้นเชิญทางนี้เลยค่ะ อาจารย์หมอได้แจ้งดิฉันไว้แล้วค่ะ” พูดจบพยาบาลสาวก็ผายมือให้หินผาและเดินนำไปทันที หินผาจึงพยักหน้าให้วายุที่อุ้มสายน้ำอยู่ให้เดินตามมา จะเหลือก็แต่ไฟและเหนือที่ยังคงนั่งรออยู่ที่เดิม
“นี่ๆ คนนี้ใช่หลานชายคนโตของอาจารย์หมอมั้ย” ทันทีที่หินผาและวายุเดินออกไปพยาบาลที่อยู่บริเวณนั้นก็รีบเดินมาจับกลุ่มคุยกันทันที
“น่าจะใช่นะ นามสกุลเดียวกันกับอาจารย์หมอเลย หล่อมากเลยเน๊าะ”
“ใช่ๆ หล่อมากเลยเน๊อะ เคยเห็นแต่ในทีวีแล้วก็ตามหนังสือดาราไฮโซที่เค้าลงรูปงานหมั้นของหลานชายคนเล็กของอาจารย์หมอ ไม่คิดว่าตัวจริงจะหล่อขนาดนี้”
“งั้นคนที่เดินอุ้มคนตัวเล็กๆมานี่ใช่หลานเขยอาจารย์หมอมั้ย ฉันว่าเหมือนคุ้นๆว่าจะใช่นะ”
“ใช่ๆฉันก็จำได้ ฉันว่าคุณศิลาหล่อแล้วนะเจอหลานเขยอาจารย์หมอคนนี้เข้าไปหล่อยิ่งกว่าอีก”
ทุกบทสนทนาที่พยาบาลสาวคุยกัน ไฟและเหนือที่นั่งอยู่ก็ได้ยินทั้งหมดพวกเค้าได้แต่ทำเป็นนั่งก้มหน้าก้มตาเล่นมือถือไปก็เท่านั้นเอง
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
“เชิญครับ” ทันทีที่คุณหมอดิชพลได้ยินเสียงเคาะประตูห้องเจ้าตัวก็เอ่ยอนุญาตให้เข้ามาได้ทันที เพราะคงจะเป็นหลานชายของเค้าเองที่โทรมานัดไว้เมื่อเกือบชั่วโมงก่อน
“คนไข้มาแล้วค่ะอาจารย์หมอ” เป็นพยาบาลสาวที่เปิดประตูเข้ามาเป็นคนแรก
“เชิญคุณออกไปได้เลยนะ ผมขอคุยกับคนไข้เป็นการส่วนตัวครับ” คุณหมอดิชพล เอ่ยบอกกับพยาบาลที่เตรียมจะมาทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยคุณหมอจำเป็นเพราะว่าพยาบาลที่อยู่เวรตอนนี้ไม่ว่างกันเลย ปกติแล้วคุณหมอดิชพลจะไม่รับตรวจคนไข้เลยไม่มีพยาบาลที่คอยติดตามประจำ
“ได้ค่ะ” พยาบาลยิ้มให้ออกมาอย่างแหยๆเพราะเธอกะว่าจะอยู่ในเหตุการณ์ด้วยสักหน่อยที่อยู่ดีๆหลานชายของอาจารย์หมอก็มาหาถึงที่
“สวัสดีครับอาหมอ” ทั้งวายุและหินผายกมือขึ้นสวัสดีคุณหมอดิชพลพร้อมกัน
“นั่งก่อนๆ ตามสบายนะคนกันเองทั้งนั้น แล้วนี่น้องน้ำอาการหนักเลยเหรอ” คุณหมอดิชพลมองไปยังหลานชายคนเล็กที่ยังคงซบอยู่ที่อกของวายุ
“ก็อย่างที่ผมบอกอาหมอไปนั่นแหละครับ แล้วนี่ตั้งแต่ขึ้นรถมาจนตอนนี้ก็ยังหลับไม่รู้เรื่องอยู่เลย”
“ตัวเล็กครับ ตื่นขึ้นมาก่อนครับมาให้อาหมอตรวจดูก่อนนะ” วายุพยายามปลุกสายน้ำให้ลุกขึ้นมา
“เดี๋ยววายุพาน้องไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำก่อนก็ได้น้องจะได้ตื่น แล้วเดี๋ยวเราจะได้มาเริ่มตรวจกัน” พอคุณหมอดิชพลพูดจบวายุก็ลุกขึ้นและพาสายน้ำหายเข้าไปในห้องน้ำ
พอผ่านไปสักพักวายุก็เดินออกมาพร้อมกับสายน้ำที่หน้าตายังไม่ตื่นดีนัก
“ไงเราเจ้าแสบหมดฤทธิ์เลยรึไงเรา” คุณหมอดิชพลเอ่ยแซวทันทีที่เห็นหน้าหลานชายสุดที่รัก พร้อมกับกางมือออก
ส่วนสายน้ำก็รู้หน้าที่เป็นอย่างดีโดยการเดินเข้าไปกอดอาหมอของตัวเองและหอมแก้มอาหมอสุดที่รักไปฟอดใหญ่
“ฟอด! น้องน้ำคิดถึงอาหมอที่สุดในโลกเลยครับ อาหมอไม่เห็นไปหาน้องน้ำบ้างเลย” พอเจอหน้าคุณอาสุดที่รักสายน้ำก็รีบอ้อนทันที เพราะตอนเด็กๆก็ได้คุณอาคนนี้นี่แหละที่คอยเลี้ยงดูเค้ากับหินผาตอนที่ป๊าและม๊าของพวกเค้าต้องบินไปดูงานที่ต่างประเทศ
“หึๆ ทำอย่างกับว่าถ้าอาไปหาเราแล้วเราจะอยู่บ้านให้อาไปหาอย่างนั้นแหละเจ้าแสบ” คุณหมอดิชพลพูดพร้อมกับโยกหัวหลานชายสุดที่รักไปด้วย จนหลานชายสุดที่รักถึงกับทำหน้ายู่ใส่ที่โดนคุณอารู้ทัน
“ว่าแต่ตอนนี้น้องน้ำรู้สึกยังไงบ้าง ยังเวียนหัวหรือยังอยากจะอาเจียนอยู่มั้ย” พอกอดกันพอให้หายคิดถึงแล้วคุณหมอดิชพลก็ปล่อยหลานชายให้ไปนั่งข้างๆกับคู่หมั้นและสอบถามอาการ
“ก็นิดหน่อยครับ แต่ไม่มากเหมือนเมื่อตอนเช้าครับ น้องน้ำก็บอกกับพี่กายแล้วก็พี่ผาแล้วด้วยว่าน้องน้ำไม่ได้เป็นอะไรมากสักหน่อยแต่ก็ยังไม่มีใครเชื่อ” สายน้ำตอบกลับไปตามความเป็นจริงแต่ก็แอบมองค้อนพี่ชายกับคนรักไปด้วย
“น้องน้ำฟังที่อาหมอจะพูดต่อไปนี้ให้ดีๆนะครับ แล้วก็ใจเย็นๆตั้งสติดีๆ” สายน้ำก็ได้แต่พยักหน้าตอบรับแบบงงๆ แค่เค้าเวียนหัวกับอาเจียนทำไมทุกคนจะต้องซีเรียสกันขนาดนี้ด้วยก็ไม่รู้ เค้าไม่ได้เป็นโรคร้ายแรงสักหน่อย
พอวายุและหินผาได้ยินที่อาหมอพูดทั้งสองก็ยื่นมือไปจับมือสายน้ำมาไว้คนละข้างทันที สายน้ำได้แต่หันหน้าไปมองหน้าพี่ชายกับคนรัก
“คือแบบนี้นะครับ………………..” หลังจากนั้นคุณหมอดิชพลก็ค่อยๆเล่าให้สายน้ำได้ฟังทีละขั้นตอนเกี่ยวกับร่างกายของตนเองที่เริ่มมีสิ่งผิดปกติตั้งแต่ตอนเด็กๆ ตอนนั้นสายน้ำอายุประมาณห้าขวบเห็นจะได้ สายน้ำเกิดปวดท้องขึ้นอย่างรุนแรงอย่างหาสาเหตุไม่ได้ คุณหมอดิชพลจึงทำการอัลตราซาวด์ดูที่ท้องรวมไปถึงท้องน้อยของหลานชายคนเล็กด้วย
แต่แล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อสิ่งที่เค้าเจอตอนอัลตราซาวด์นั้นมันคือมดลูกที่เหมือนกันกับของผู้หญิงอย่างไม่มีผิดเพี้ยน และผลสรุปจากการปวดท้องในคราวนั้นก็คือเกิดจากลำไส้ที่บิดตัวหรือลำไส้ทำงานเปรปรวนนั่นเอง
ในขณะที่คุณหมอดิชพลค่อยๆเล่าถึงสาเหตุที่ทำให้สายน้ำต้องมานั่งอยู่ตรงนี้อยู่นั้น วายุกับหินผาก็ค่อยๆลูบมือปลอบสายน้ำไปด้วย เค้าทั้งสองคนไม่รู้ว่าน้องจะรู้สึกยังไงจะรับได้หรือไม่ที่ตนเองนั้นมีสภาพร่างกายภายนอกเหมือนผู้ชายทุกอย่าง แต่ภายในนั้นกลับเหมือนของผู้หญิง
สายน้ำตอนนี้นั้นนั่งนิ่งจนทั้งสามคนแทบจะจับอาการนิ่งของคนตัวเล็กไม่ถูกว่าเจ้าตัวกำลังคิดหรือกำลังรู้สึกอะไรอยู่ สายน้ำมักจะเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆแล้ว เมื่อเวลาที่ต้องใช้ความคิด เวลาโกรธหรือน้อยใจ สายน้ำมักจะนิ่งจนน่าใจหายทุกครั้ง
“ตัวเล็กครับ / น้องน้ำครับ” วายุและหินผาเรียกสายน้ำแทบจะพร้อมกันเมื่อเห็นสายน้ำนิ่งไปนาน
สายน้ำดึงมือออกจากคนทั้งสองและยกมือขึ้นห้ามทันที วายุกับหินผาจึงไม่กล้าพูดอะไรต่อ
“งั้นก็แสดงว่าอาการที่น้องน้ำเป็นอยู่ตอนนี้น้องน้ำมีสิทธิ์ที่จะท้องได้ใช่มั้ยครับอาหมอ” สายน้ำพอดึงสติตัวเองกลับมาได้แล้วก็เอ่ยถามอาหมอขึ้นในทันที
“ใช่ครับ เพราะน้องน้ำในตอนนี้มีสิทธิ์ท้องได้เทียบเท่ากับผู้หญิงเลยครับ เพียงแต่ว่าเราไม่สามารถนับวันไข่ตกได้เนื่องจากน้องน้ำนั้นไม่ได้มีรอบเดือนเหมือนกับผู้หญิง”
“งั้นเราก็มาเริ่มตรวจกันเลยสิครับจะได้รู้ว่าน้องน้ำท้องรึเปล่า จะว่าไปก็เริ่มตื่นเต้นแล้วสิครับ” คราวนี้สายน้ำพูดออกมาด้วยหน้าตาที่ยิ้มแย้มสดใส และออกจะรนๆนิดๆ ด้วยซ้ำ จนทำให้อาหมอ หินผา และวายุถึงกับหันมามองหน้ากันทันที
“ครับๆ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวอาขอเจาะเลือดน้องน้ำไปตรวจเลยแล้วกันนะครับ” พอคุณหมอพูดจบก็ลุกขึ้นไปเตรียมอุปกรณ์ทันที
“ตัวเล็กครับ” วายุเรียกคนรักด้วยน้ำเสียงที่เบาหวิว แต่สายน้ำก็ยังได้ยินมันอยู่ดี
“ครับพี่กาย ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะครับ พี่กายอย่าคิดมากไปเลยนะครับน้องไม่เป็นอะไรเลย ดีซะอีกถ้าเกิดน้องท้องขึ้นมาเราทั้งสองครอบครัวจะได้มีทายาทไว้สืบสกุลกันยังไงล่ะครับ หรือพี่กายไม่ดีใจเหรอครับที่น้องมีโอกาสที่จะท้องได้” สายน้ำรู้ว่าตอนนี้คนรักของเค้ารู้สึกยังไงก็รีบพูดปลอบทันที มันไม่ใช่ความผิดของใครเลยถ้าเค้าจะท้องในตอนนี้ แต่มันจะเป็นของขวัญที่พิเศษที่สุดต่างหาก
“ขอบคุณนะครับที่เข้าใจพี่ พี่กลัวว่าตัวเล็กจะคิดมาก กลัวว่าตัวเล็กจะรับไม่ได้ที่ตัวเองเป็นผู้ชายแต่ต้องมาอุ้มท้อง แล้วพี่ก็ดีใจมากนะครับถ้าเราจะมีลูกด้วยกัน แต่พี่ก็ต้องแคร์ความรู้สึกของตัวเล็กก่อนด้วย” วายุที่เริ่มจะยิ้มได้เมื่อคนรักของตัวเองไม่เป็นอะไรหรือไม่ได้รู้สึกแย่อย่างที่เค้าคิดไว้ เจ้าตัวดึงคนตัวเล็กเข้ามากอดไว้ทันทีด้วยความดีใจ
“พอก่อนครับเดี๋ยวค่อยกลับไปกอดกันที่บ้านนะครับ ตอนนี้น้องน้ำมานั่งบนเตียงก่อนครับ เดี๋ยวอาจะเจาะเลือดให้” คุณหมอที่หันมาจากการเตรียมอุปกรณ์เรียบร้อยแล้วก็อดที่จะแซวหลานชายและว่าที่หลานเขยไม่ได้
“หึๆ ไปครับเดี๋ยวพี่ช่วยพยุงนะครับ” วายุลุกขึ้นและช่วยพยุงสายน้ำขึ้นไปบนเตียงทันทีที่อาหมอบอก เพราะเค้าเองก็เริ่มที่จะตื่นเต้นบ้างแล้วเมื่อหมดความกังวลใจต่างๆไป
“เรียบร้อย งั้นเดี๋ยวนั่งรออากันอยู่ในห้องนี้ก่อนนะ อาจะเอาผลเลือดไปตรวจก่อน ส่วนเราเจ้าแสบนอนรอไปก่อนลุกขึ้นมาเดี๋ยวจะเวียนหัวเอาอีก” พูดจบคุณหมอดิชพลก็เดินออกไปจากทันที
“ตื่นเต้นมั้ยครับ” วายุที่จับมือของสายน้ำไว้เอ่ยถามขึ้นเพราะตอนนี้มือของคนตัวเล็กนั้นเย็นมาก
“มากครับพี่กาย ว่าแต่ว่าพี่กายกับพี่ผารู้มาก่อนรึเปล่าครับว่าน้องสามารถท้องได้”
“พี่ก็เพิ่งจะรู้หลังจากที่พี่ได้ของขวัญวันเกิดจากตัวเล็กหนึ่งวันนั่นแหละครับ พี่ชายเรานั่นแหละที่บอก ตอนแรกมันก็ถามพี่ว่าพี่ได้ป้องกันรึเปล่า พอคุยกันไปคุยกันมามันก็เลยยอมบอกว่าตัวเล็กนั้นท้องได้” วายุพูดพร้อมกับลูบผมของคนรักไปด้วยด้วยความรู้สึกที่บอกออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ เค้ารู้สึกโชคดีที่ได้มาเจอคนตัวเล็กของเค้าคนนี้ และรู้สึกโชดดียิ่งกว่าก็คือตอนนี้เค้ากำลังจะได้ของขวัญชิ้นที่พิเศษที่สุดจริงๆ
“พี่ผาขอโทษนะครับ ที่ไม่เคยบอกน้องเลย พี่แทบจะลืมเรื่องนี้ไปเลยด้วยซ้ำถ้าพี่ไม่ได้เข้าไปเห็นในวันนั้น น้องน้ำโกรธพี่รึเปล่าครับ”
“ไม่เลยครับ น้องจะโกรธพี่ผาทำไมล่ะครับ ที่ผ่านมาพี่ผาทำเพื่อน้องมาตลอด และนี่ก็คือเรื่องดีๆที่กำลังจะเกิดขึ้นไม่ใช่เหรอครับ เพราะถ้าน้องเลือกได้น้องก็เลือกที่จะทำเหมือนเดิมนั่นแหละครับ คิ๊กๆ”
โป๊ก!!
“แก่แดดใหญ่แล้วนะเราน่ะ” หินผาส่งมะเหงกไปให้กับเด็กแก่แดดหนึ่งทีแต่ไม่แรงมากนัก
“โอ๊ย! พี่ผาน้องเจ็บนะ พี่กายดูสิพี่ผาแกล้งน้อง” สายน้ำหันมาอ้อนคนรักทันทีที่โดนพี่ชายแกล้ง
“โอ๋ๆ ไหนพี่ดูสิครับว่าเจ็บมากมั้ยครับ จุ๊บๆ” วายุรีบก้มไปดูที่หน้าผากของคนรักทันที และจูบลงไปที่รอยแดงตรงหน้าผาก
“เออๆ เอากันเข้าไปนี่ถ้าน้องกูท้องขึ้นมาจริงๆคงจะโอ๋กันยิ่งกว่านี้แน่ๆ” หินผาได้แต่ส่ายหน้าให้กับความโอ๋ของเพื่อนเค้าที่มีต่อน้องชายของเค้า เค้าไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่าจะได้เห็นไอ้เพื่อนที่ได้รับฉายาเจ้าชายน้ำแข็งในรูปแบบนี้เหมือนกัน ตั้งแต่ที่มันได้เป็นแฟนกับน้องชายของเค้ามันก็เปลี่ยนไปมากเลยทีเดียวแต่ก็เฉพาะกับเพื่อนๆและก็น้องๆในกลุ่มเท่านั้น แต่กับคนอื่นมันก็ยังคงเป็นเจ้าชายน้ำแข็งคนเดิมอยู่ดี
แกร็ก!!!
หลังจากผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมง คุณหมอดิชพลก็เปิดประตูเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้ม
ทางด้านสายน้ำที่นอนอยู่ก็รีบลุกขึ้นมาทันที จนวายุจับไว้แทบไม่ทัน
“ค่อยๆลุกครับตัวเล็ก เดี๋ยวจะเวียนหัวขึ้นมาอีก”
“แหะๆ น้องขอโทษครับ น้องตื่นเต้นไปหน่อย”
“ผลเป็นยังไงบ้านครับอาหมอ” วายุและหินผาถามขึ้นแทบจะพร้อมกันทันทีที่คุณหมอดิชพลเดินมานั่งที่เก้าอี้แล้ว วายุจึงประคองสายน้ำให้กลับมานั่งที่เก้าอี้ตามเดิม
“อาดีใจด้วยนะที่ทั้งสองคนจะได้เป็นคุณพ่อคุณแม่กันแล้ว เดี๋ยวเรามาทำการอัลตราซาว์กันดูว่าเด็กในท้องอายุได้กี่สัปดาห์แล้ว แล้วเดี๋ยวอาจะทำการฝากครรภ์ไว้ให้เลยแล้วกันนะ อาจะเป็นหมอเจ้าของไข้ให้เอง”
ทันทีที่อาหมอพูดจบทั้งสามคนก็แทบจะแข่งกันฉีกยิ้มขึ้นมาทันที วายุถึงกับน้ำตาคลอเลยทีเดียว เค้าเข้าไปกอดสายน้ำไว้ทันที มันเป็นความรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก
“ขอบคุณนะครับ ที่มอบของขวัญชิ้นนี้ให้กับพี่ ขอบคุณมากนะครับ พี่รักตัวเล็กมากนะ ฟอดๆ” วายุพูดพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่คิดจะอายใคร เค้าไม่คิดว่าจะมีวันนี้ด้วยซ้ำไป วันที่เค้าได้มีลูกกับคนที่เค้ารักจริงๆ และยิ่งคนที่เค้ารักคนนั้นเป็นผู้ชายยิ่งแล้วใหญ่ เค้ารู้สึกขอบคุณทุกๆสิ่งทุกๆอย่างจริงๆ
“น้องก็ขอบคุณพี่กายมากนะครับ ที่มอบของขวัญชิ้นพิเศษที่สุดนี้ให้กับน้อง” สายน้ำเองก็น้ำตาไหลตามคนรักไปด้วยเหมือนกัน พร้อมกับยกมือขึ้นลูบท้องของตัวเองที่ยังคงแบนราบอยู่ไปด้วย
“พี่จะได้เป็นลุงแล้วสินะครับ” หินผาเองก็ยื่นมือไปลูบหน้าท้องที่แบนราบของน้องด้วยเช่นกัน
“งั้นเดี๋ยวอาจะจัดยาบำรุงครรภ์แล้วก็ยาแก้แพ้ไปให้นะ แล้วก็พากันไปนั่งรอรับยาด้านล่างเลยก็ได้ เคสของน้องน้ำเป็นเคสค่อนข้างที่จะพิเศษ อาจะจัดนางพยาบาลที่ไว้ใจได้ไว้สักสองคนไว้คอยดูแลเราเวลาที่เรามาตรวจหรือต้องรับยา”
“เป็นยังไงบ้างวะน้องลักยิ้มของกูท้องมั้ยวะ” ทันทีที่เหนือเห็นทุกคนเดินออกมาจากลิฟต์ เจ้าตัวก็รีบเดินเข้าไปถามทันทีด้วยความตื่นเต้น
ป้าบ!!!
“โอ๊ย! ไอ้เหี้ยไฟมึงจะตบกูทำไมเนี่ย” เหนือพูดพร้อมกับยกมือขึ้นมาลูบหัวตรงที่ถูกไฟตบลงมา
“แล้วมึงจะแหกปากทำเหี้ยอะไร กลัวคนอื่นเค้าไม่รู้รึไง” ทันทีที่ไฟพูดขึ้นเหนือก็รีบยกมือขึ้นมาปิดปากและมองไปรอบๆทันที ดีที่ตอนนี้ค่อนข้างจะดึกแล้วจึงไม่ค่อยมีคนไข้ เค้าลืมไปซะสนิทเลยว่าเคสของสายน้ำเป็นเคสพิเศษ
“เออๆ โทษทีว่ะกูลืมตัวตื่นเต้นไปหน่อย”
ระหว่างที่ไฟกับเหนือยืนเถียงกันอยู่วายุก็ประคองสายน้ำให้มานั่งที่เก้าอี้เพื่อรอรับยา
“ว่ายังไงครับน้องลักยิ้มของพี่ หมอว่ายังไงบ้างครับ” เหนือตามมานั่งยองๆอยู่ตรงหน้าของสายน้ำและถามขึ้น
“ตอนนี้น้ำท้องได้ 1 เดือนแล้วครับ” สายน้ำพูดบอกเหนือเบาๆ แต่ก็ส่งยิ้มไปให้กับเหนือจนตาหยีเห็นลักยิ้มบุ๋ม
“จริงเหรอครับ พะ พี่ขอจับดูหน่อยได้มั้ยครับ” เหนือพูดขอสายน้ำแต่ก็หันหน้าเป็นเชิงขอวายุไปด้วย วายุที่เห็นเพื่อนตื่นเต้นไม่แพ้ตัวเองก็พยักหน้าให้เป็นการอนุญาต
เมื่อเห็นเพื่อนอนุญาตแล้ว เหนือก็ค่อยๆยื่นมือไปแนบไว้กับท้องของสายน้ำ
“มึงจะจับเพื่ออะไรวะไอ้เหนือ น้องน้ำเพิ่งจะท้องได้เดือนเดียว เด็กในท้องยังไม่ดิ้นเลย” ไฟที่เห็นท่าทางของเพื่อนก็อดที่จะหมั่นไส้ไม่ได้
“ทำไมกูจะจับไม่ได้วะ ขนาดไอ้วายุมันยังไม่ว่าอะไรกูเลย ที่กูจับเพราะว่ากูกำลังส่งกระแสจิตคุยกับหลานกูอยู่โว้ย พอหลานกูคลอดออกมาหลานจะได้รักกูมากๆ” เหนือพูดยิ้มๆแต่ตาก็ยังมองไปที่ท้องแบนราบของสายน้ำอยู่
“ไร้สาระนะมึงน่ะ” ไฟได้แต่ส่ายหัวให้กับความไร้สาระของเพื่อน
“เดี๋ยวนะกูมีเรื่องที่กูยังสงสัยและยังคาใจกูอยู่” เหนือพูดพร้อมกับหันไปมองหน้าวายุ
“อะไร” วายุที่เห็นเหนือหันมามองหน้าตัวเองก็ถามขึ้น
“ก็ตั้งแต่วันเกิดมึงจนถึงตอนนี้ก็ได้เดือนหนึ่งแทบจะพอดิบพอดี นี่มึงอย่าบอกนะว่า ที่น้องน้ำให้ของขวัญวันเกิดมึงแล้วก็ติดมาเป็นหลานกูเลย”
“เออว่ะ” คราวนี้เป็นหินผาและไฟที่อุทานขึ้นมาพร้อมกัน
“หึๆ มึงคิดว่ายังไงล่ะ” วายุพูดพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปากและยักคิ้วข้างเดียวส่งไปให้เพื่อนแบบกวนๆ แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะดึงคนที่นั่งหน้าแดงเพราะคำถามของเพื่อนตัวเองอยู่เข้ามากอดเอาไว้ด้วย
Comments (0)