15 ตอน บทที่ 8(1)_สายตา...มากกว่าคำพูดใด
โดย เซิ่งไคฉาฮวา《盛开茶花》
บทที่ 8(1)
สายตา...มากกว่าคำพูดใด
หงเทียนสิงไม่ได้ไปไหนไกลอย่างที่เซียวเยี่ยนจื่อคาดเอาไว้จริงๆ นางเดาว่าเขาคงหลบมาอยู่ที่ประจำของตัวเอง นั่นก็คือศาลเจ้าร้างที่อยู่ห่างออกมาจากร้านค้าของหวังซูเพียงไม่กี่ตรอก เมื่อตามมาหญิงสาวก็พบเขาอยู่ที่นั่น
เซียวเยี่ยนจื่อคาดเดาไปต่างๆ นาๆ ถึงสาเหตุที่จู่ๆ ชายหนุ่มก็วิ่งหนีออกมาเช่นนี้ แต่ไม่ว่าอย่างไรนางก็ไม่มีทางเดาความคิดของเขาออก ก่อนหน้านี้หงเทียนสิงผลุนผลันออกมาเช่นนั้นเป็นเพราะเขายังคิดไม่ตก จึงแอบหลบมาอยู่ที่นี่ชั่วคราว ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนไปกว่านั้น
หญิงสาวต้องการหลุดพ้นจากการเป็นนางโลมจึงคิดใช้เขาเป็นเครื่องมือ เขาเองก็ไม่ได้เซ่อซ่าอย่างที่นางเข้าใจ ทั้งยังคิดลึกซึ้งกับนางอยู่เป็นทุนเดิม จึงไม่มีทางยินยอมให้นางเป็นนางโลมไปตลอดชีวิตเช่นกัน
เดิมทีเขาเพียงผลักเรือตามน้ำ เดินตามแผนการที่นางวางไว้ ไม่คิดแม้แต่น้อยว่าสุดท้ายแล้วเหตุการณ์จะลงเอยเช่นนี้
ทว่าตอนนี้เขาคิดตกแล้ว เป็นเช่นนี้แม้อาจมีเรื่องยุ่งยากตามมาภายหลัง แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้เขามีโอกาสค้นหาสิ่งที่ต้องการได้ง่ายขึ้น เขายินดีกับบทสรุปเช่นนี้ เพราะลึกๆ แล้วตัวเขาย่อมมีความโลภของบุรุษ ต่อให้เรื่องนี้ไม่ทำให้เขาได้ประโยชน์อะไรเลย แต่ผู้ใดจะรู้ว่าสำหรับเขาแล้วเพียงแค่ได้ใกล้ชิดนางนั้นนับว่าคุ้มค่าแล้ว
ยามนี้ชายหนุ่มกลับมามีท่าทีไม่เต็มเต็งเช่นเดิมแล้ว เซียวเยี่ยนจื่อนั่งลงข้างๆ เขาโดยไม่รังเกียจว่ากระโปรงตัวเองจะเปรอะเปื้อน
“เจ้า...” นางอยากเอ่ยอะไรบางอย่าง แต่ก็ยากที่จะสรรหาถ้อยคำที่ตรงกับสิ่งที่ตัวเองอยากรู้ แต่ในที่สุดแล้วก็ยังพยายามกลั่นกรอมันงออกมา “ตลอดมา เจ้าฟังที่ข้าพูดเข้าใจทั้งหมด”
เซียวเยี่ยนจื่อทั้งคล้ายจะเอ่ยถามและคล้ายตั้งใจจะบอกว่านางมองเขาอย่างทะลุปรุโปร่งแล้ว เสแสร้งแกล้งทำต่อไปก็ไม่มีประโยชน์
หงเทียนสิงยังคงนิ่งเงียบ เซียวเยี่ยนจื่อจึงเริ่มรู้สึกไม่พอใจ “จะเสแสร้งแกล้งเสียสติเพื่อหากำไรกับข้าไปถึงเมื่อไร” เอ่ยไปแล้วก็พบว่าใบหน้าพลันเห่อร้อนขึ้นมา หญิงสาวรู้ตัวทันทีว่าตัวเองหน้าแดงแล้ว
หงเทียนสิงหันขวับมามองนางทันที สีหน้าตกใจอย่างเห็นได้ชัด เขาขมวดคิ้วส่งเสียงอือๆ อาๆ พลางส่ายหน้าปฏิเสธเป็นพัลวัน ท่าทางโง่งมหายวับ
สีหน้าท่าทางเซียวเยี่ยนจื่อดูพออกพอใจขึ้น แต่ยังคงอดโมโหไม่ได้ที่เขาทำให้นางเผลอไปทำตัวสนิทสนมด้วยจนเกินงาม เพราะหลงเชื่อในท่าทีไม่ประสาของเขามาโดยตลอด
ความจริงแล้วหากเขาเป็นคนเสียสติจริงๆ นางยังทำใจแต่งงานกับเขาได้ง่ายดายกว่านี้ ทว่าตอนนี้ต่อให้นึกเสียใจภายหลังขึ้นมาแล้ว นางยังจะทำอะไรได้อีก
หญิงสาวผุดลุดขึ้น ก่อนออกไปนางเอ่ยทิ้งท้ายโดยไม่หันมามองว่า “พรุ่งนี้ไปพบข้าที่หมู่บ้านริมกำแพงเมือง”
เมื่อถึงเวลาตามที่นัดแนะกัน เซียวเยี่ยนจื่อที่อยู่ในชุดเจ้าสาวตัวเก่าของหวังซูก็มองเห็นหงเทียนสิง ไม่รู้ว่าเขาไปแอบอาบน้ำมาตอนไหนและที่ใด แต่เห็นเขารู้จักทำตัวให้สะอาดเรียบร้อยเพื่องานในวันนี้หญิงสาวก็แน่ใจแล้วว่าท่าทางโง่งมของเขาที่นางเห็นมาตลอดล้วนเป็นการแสดง
ชายหนุ่มรับอาภรณ์ที่หวังซูส่งมาให้ด้วยท่าทางคล้ายไม่เต็มใจ นำมาสวมทับชุดเดิมของตนอย่างรีบร้อนเพื่อเข้าพิธี ที่ได้เตรียมการทุกอย่างรอไว้พร้อมสรรพแล้ว
งานแต่งงานของเซียวเยี่ยนจื่อกับหงเทียนสิงเป็นไปอย่างเรียบง่ายและจบลงอย่างรวดเร็ว ผู้คนที่มาร่วมงานหากบอกว่าถูกหวังซูจ้างมาก็ไม่ถือว่าผิดซะทีเดียว เมื่อนางเอาอาหารมื้อหนึ่งเข้าล่อ แลกกับการมาร่วมงานแต่งงานในครั้งนี้ คนที่รู้จักใช้เงินย่อมไม่ปฏิเสธ
บ้านของสองสามีภรรยาข้าวใหม่ปลามันเป็นบ้านพักชั่วคราวที่สร้างแบบแกนๆ ของคนงานที่คอยมารดน้ำผักให้นายท่านตระกูลหวัง แปลงผักที่บัดนี้กลายเป็นผืนดินรกร้างเป็นของคนตระกูลหวัง แต่ที่ดินกลับเป็นของนายท่านตระกูลเซียว ที่ไม่ถูกริบไปตอนที่ตระกูลเซียวถูกตัดสินโทษก็เพราะการกระทำอันแยบยลบางประการระหว่างนายท่านสองตระกูล
ยามนี้บุตรสาวผู้ตกทุกข์ได้ยากของนายท่านตระกูลเซียวได้ใช้ประโยชน์ หากเขารู้เข้าก็คงตื้นตันจนต้องหลั่งน้ำตา
เซียวเยี่ยนจื่อเดินเข้าไปในบ้าน หงเทียนสิงเดินตามโดยไม่ส่งเสียง หญิงสาวกวาดตามองสภาพภายในแล้วพลันรู้สึกหดหู่ เตียงไม้เก่าขนาดเล็กหนึ่งหลัง ตั่งไม้สภาพเดียวกันหนึ่งตัว กับเตาสำหรับก่อไฟหุงหาอาหารอีกหนึ่งอัน วางอยู่รวมกันภายในบ้านที่มองไปแล้วเป็นเพียงลานโล่งมุงหลังคาหยาบๆ ฝาผนังกับประตูถูกทำขึ้นมาง่ายๆ เท่านั้น
หงเทียนสิงมองเห็นสภาพภายในบ้านแล้วเช่นกัน อันที่จริงบ้านที่ไม่ต่างกับห้องเก็บฟืน ทั้งยังมีข้าวของเพียงไม่กี่อย่างเช่นนี้มองปราดเดียวก็เห็นจนครบหมดแล้ว ชายหนุ่มขมวดคิ้ว ผละออกมาเดินสำรวจไปรอบบ้าน
เขารู้สึกหนักใจไม่น้อย ตัวเขาเป็นบุรุษ ไม่ต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายก็ใช้ชีวิตผ่านไปแต่ละวันได้ไม่ยาก แต่เซียวเยี่ยนจื่อนั้นไม่เหมือนกัน
ครั้นเดินมาถึงหลังบ้านก็พบกับบ่อน้ำเล็กๆ บ่อหนึ่ง ดูเหมือนจะถูกขุดไว้เพื่อใช้รดน้ำผัก ถังน้ำใบหนึ่งตั้งอยู่ชิดฝาผนังหลังบ้าน เวลานี้เย็นมากแล้ว หงเทียนสิงจึงถือถังน้ำไปตักน้ำจากในบ่อขึ้นมา ใกล้กันนั้นมีกองฟางกองสุมกันอยู่ สูงระดับอกเขา สามารถใช้เป็นกำแพงบังสายตาได้พอดี ชายหนุ่มจึงตั้งถังน้ำไว้ตรงบริเวณนั้น
หงเทียนสิงเดินกลับเข้าไปในบ้าน เห็นเซียวเยี่ยนจื่อนั่งอยู่บนเตียง นิ้วเรียวขาวลากผ่านเหรียญสำริด เหรียญเงินที่นางเพิ่งเทออกมาจากถุงผ้าทีละเหรียญๆ เงินจำนวนไม่มากใช้เวลาครู่เดียวนางก็นับเสร็จแล้ว หงเทียนสิงเผลอมองจนเพลิน พอนางผินหน้ามาหาเขาถึงรู้สึกตัว
ชายหนุ่มเดินไปดึงแขนนางพลางส่งเสียงอืออาเป็นนัยบอกว่าให้นางเดินตามเขาไป
“จวนจะมืดแล้ว” หญิงสาวลุกขึ้นตามแรงดึงแต่ยังขืนตัวเล็กน้อยไม่ยอมเดินตามไปง่ายๆ “จะพาข้าไปที่ใดอีก”
หงเทียนสิงปล่อยแขนนาง แล้วหันกลับไปเผชิญหน้า เซียวเยี่ยนจื่อผงะถอยหลังเล็กน้อยอย่างตกใจที่จู่ๆ เขาก็หันกลับมากะทันหัน
หญิงสาวยังไม่ทันยืนได้มั่นคง ชายหนุ่มก็ก้มลงไปหา ทำท่าสูดกลิ่นกายนาง อึดใจเดียวก็ยืดตัวขึ้นพลางใช้มืดอุดจมูก
เซียวเยี่ยนจื่อตัวแข็งไปแล้ว ชั่วขณะจึงไม่ทันได้ทำความเข้าใจกับการแสดงท่าทางเพื่อตอบคำถามนางแทนการเปล่งวาจาที่เขาทำไม่ได้
หงเทียนสิงไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าการแสดงออกให้นางเข้าใจว่าเขาจะพานางไปที่ใด ครั้นเห็นพวงแก้มเนียนขาวที่ค่อยๆ ซับสีเลือดเข้มขึ้นช้าๆ เขาถึงตระหนักว่าตนเองทำให้นางเขินอายแล้ว สุดท้ายจึงกลายเป็นฝ่ายนิ่งขึงมองนางบ้าง แล้วมุมปากก็ยกขึ้นโดยไม่รู้ตัว
“ยืนนิ่งอยู่ทำอะไร” เซียวเยี่ยนจื่อเป็นฝ่ายรู้สึกตัวก่อน “จะพาข้าไปอาบน้ำไม่ใช่หรือ” น้ำเสียงแม้ฟังดูแข็งทื่ออยู่บ้าง แต่หัวใจที่เต้นกระหน่ำก่อนหน้าก็สงบลงมาเป็นปกติแล้ว
เขาพูดไม่ได้จะให้เขาทำอย่างไร หากนางถือสาที่เขาทำท่าทำทางใกล้ชิดสนิทสนมเพื่อบอกกล่าวให้รู้แทนการพูดจา ก็นับว่าใจแคบเกินไปแล้ว
หงเทียนสิงพยักหน้า หมุนตัวเดินนำหญิงสาวไปยังบริเวณที่เขาตั้งถังน้ำเอาไว้
ก่อนเดินมาถึงตรงนี้ เซียวเยี่ยนจื่อมองเห็นบ่อน้ำก่อนแล้ว เมื่อเห็นถังน้ำที่ถูกรองน้ำไว้จนเต็มก็ไม่แปลกใจว่าเขาไปเอาน้ำมาจากที่ใด หากจะรู้สึกแปลกใจอยู่บ้างก็คงเป็นเรื่องที่เขานึกถึงนางทันทีที่พบบ่อน้ำหลังบ้าน ทั้งยังรองน้ำเตรียมไว้ให้นางอาบเสร็จสรรพ
“ขอบใจ” นางเอ่ยโดยไม่มองหน้าเขา กลัวว่าเขาจะสังเกตเห็นสีหน้าที่แปรเปลี่ยนของตนเอง
ถึงยามนี้เขาจะขึ้นชื่อว่าเป็นสามี แต่นางยังไม่อยากยอมรับสถานะนี้เร็วเกินไปนัก
หงเทียนสิงทิ้งเสียงเสียดสีของเนื้อผ้า เสียงกวักน้ำ และเสียงขยับตัวของเซียวเยี่ยนจื่อเอาไว้เบื้องหลัง ล่วงรู้ความคิดของนางเป็นอย่างดีว่าตอนนี้เขายังคงเป็นแค่ชายแปลกหน้า
เมื่อเดินกลับเข้ามาในบ้าน สายตาคมกริบพลันเหลือบมองไปที่สัมภาระเพียงไม่กี่ชิ้นของนางที่ตั้งกองเอาไว้บนตั่งไม้ ทว่าเพียงไม่นานก็ดึงสายตากลับมา แล้วก็ไม่ได้ทำอะไรอีก
เวลานี้เป็นโอกาสเหมาะที่หาได้ยาก หากเขาคิดจะค้นหาสิ่งที่ต้องการ แต่เขาเองก็บอกไม่ถูกว่าเหตุใดถึงยอมทิ้งโอกาสดีๆ เช่นนี้ และอยากจะรั้งรอต่อไป
อีกสักหน่อย… อีกสักหน่อยเท่านั้น
พอบอกตัวเองได้แบบนี้แล้ว ใจที่เดิมทีกระสับกระส่ายและลังเลก็พลันสงบลง
แม้จะยังไม่เต็มใจยอมรับหงเทียนสิงเป็นสามี แต่เซียวเยี่ยนจื่อก็ไม่ได้ใจดำถึงขนาดยอมให้เขานอนร่วมเตียงไม่ได้ เพราะนอกจากเตียงเล็กๆ หลังนี้ก็ไม่มีที่อื่นให้นอนได้แล้ว เหลือก็แต่พื้นเย็นๆ เขาตัวโตเกินกว่าจะนอนบนตั่งที่แม้แต่กับเซียวเยี่ยนจื่อก็ยังนับว่าเล็กเกินไป
ทั้งคู่นอนเคียงข้างกันบนเตียงที่พื้นที่ไม่ได้กว้างอะไรนัก ทั้งยังแข็งจนนอนไม่สบาย ทว่าทั้งหงเทียนสิงและเซียวเยี่ยนจื่อกลับนอนหลับได้ไม่ยาก
เซียวเยี่ยนจื่อเคยนอนบนตั่งเตียงขนาดใหญ่ สะอาดสะอ้านและนุ่มสบายมาแทบจะตลอดชีวิตก็จริง แต่ช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นแล้ว ร่างกายย่อมถูกฝึกจนชินกับสภาพอัตคัดเช่นนี้ได้นานแล้ว ส่วนหงเทียนสิง... ร่างกายเขาถูกเคี่ยวกรำมาหนักหนาและเนิ่นนานกว่าหญิงสาวมากนัก
กลางดึกที่ควรจะเงียบสงัด กลับอึกทึกไปด้วยเสียงสาดซัดของสายฝน หงเทียนสิงถูกน้ำฝนที่หยดลงมาจากหลังคาไม่หยุดปลุกให้ตื่น แล้วก็พบว่าเสื้อของตนเองเปียกชุ่มไปแถบหนึ่งแล้ว
ชายหนุ่มหันไปมองคนที่นอนอยู่ข้างกันทันที หญิงสาวนอนตะแคงหันหลังให้เขา ยังคงหลับสนิท ฝั่งที่นางนอนไม่มีน้ำหยด แต่หากปล่อยไว้อีกสักพัก รอจนรอยรั่วบนหลังคาขยาย นางคงมีสภาพไม่ต่างกันกับเขา
หงเทียนสิงตัดสินใจลุกขึ้นเดินอ้อมไปที่เตียงฝั่งหญิงสาว แล้วช้อนอุ้มนางขึ้นมา พาไปนอนบนตั่งที่เต็มไปด้วยกองผ้าวางพับซ้อนกันชั่วคราว ความกังวลทำให้ไม่ทันรู้สึกถึงการเกร็งตัวของคนในอ้อมแขน
เซียวเยี่ยนจื่อที่ดูเหมือนหลับ แท้จริงแม้จะเพลียไม่น้อย แต่นางไม่คุ้นชินกับการมีชายหนุ่มมานอนอยู่ข้างๆ ความร้อนที่แผ่ออกจากกายเขาคอยแต่จะรบกวนนางอยู่ตลอดเวลา ยากจะข่มใจให้สงบเพื่อนอนหลับได้อย่างสบายใจ
-------------------------------------------------------------------------------
ศ. ส. อา. นี้ ติดธุระ ไม่ได้เจอกันนะคะ
ก็เลยมาอัปให้ก่อนค่ะ
^ ^
Comments (0)