6 ตอน บทที่ 5: สปอยล์เกม
โดย RiFourver
“ขอต้อนรับและแสดงความยินดีกับนักเรียนใหม่ทุกคนสู่โรงเรียนเอลเซียส์…”
ตั้งแต่เจอนางเอกในเกมจีบหนุ่มที่เคยเล่นสมัยหนุ่มๆ เมื่อชาติก่อน สมองเกล็นได้ทำการชัตดาวน์เพื่อรักษาอาการช็อกหมดสติไปชั่วขณะ พอลืมตาอีกทีก็อยู่ห้องพยาบาลเลยต้องรีบจ้ำอ้าวเข้าฟังปฐมนิเทศ โชคดีที่อาคารอยู่ติดกันจึงสามารถมาฟังอาจารย์ใหญ่พูดได้ทัน
“แมรีแอนน์จากเกมนั่นจริงเหรอ?” เขาตั้งคำถามเดิมๆ วนเวียนเป็นร้อยรอบพลางสูดกลิ่นสมุนไพรในกระปุกโลหะกะทัดรัด “เอ๊ะ? ไม่ได้นั่งตรงนั้นนี่นา”
เพราะไม่พบแมรีแอนน์นั่งอยู่ตำแหน่งของนักเรียนผู้มีคะแนนสอบสูงสุดห้าอันดับแรก เกล็นก็กวาดสายตาหาเด็กสาวด้วยความสับสน เขาจำได้ว่าช่วงเปิดเรื่องเนื้อหาเกมกล่าวว่านางเอกจะมีคะแนนอยู่เป็นอันดับสาม เพราะความขยันหมั่นเพียรอ่านหนังสือ แม้ว่าเจ้าหล่อนสามารถเข้าโรงเรียนได้แน่ๆ จากการใช้เวทแสงรักษาคณาจารย์ที่ประสบอุบัติเหตุระหว่างเดินทางใกล้เมืองที่เธออาศัย โดยตอนนี้แมรีแอนน์ในชีวิตจริงของเขานั่งเยื้องอยู่ทางด้านหลังเล็กน้อย
“ก็... เหมือนอยู่นะ... มั้ง” เสียงกลืนน้ำลายดังเอื๊อก เริ่มมั่นใจขึ้นทีละนิดว่าเจ้าหล่อนเป็นคนเดียวกับไวฟุสองมิติ “เกิดใหม่ในเกมหรือนิยายเนี่ยมันจะเป็นจริงได้ไงกันล่ะ เอาตรงๆ ตอนรู้ว่าเกิดใหม่ต่างโลกกว่าจะรับได้ก็หลายวันอยู่ แต่นี่…”
เกล็นไตร่ตรองและหรี่ตามองเด็กหนุ่มดูมีราศีตรงเก้าอี้แถวหน้า ชายร่างสูงโปร่งตรงที่นั่งคณะอาจารย์ คนสวมแว่นในกลุ่มรุ่นพี่
“ขาดไปคนหนึ่งก็จริง แต่สามคนนั้นเป็นหนึ่งในเป้าหมายจีบได้ แล้วถ้าคิดดูดีๆ หลายอย่างก็เข้าแก๊ปด้วยสิ”
ทั้งยุคสมัยที่เซตติ้งไม่เก่าโบราณหรือไม่ใหม่ทันสมัย วิธีการออกเสียงบางคำเป็นภาษาอังกฤษ บางงานเทศกาลสากลที่ตรงกับโลกเดิม ทุกอย่างล้วนแล้วมีเหตุและผลขึ้นพริบตา
“พอเป็นแบบนี้ทำเอาความคิดเราเปลี่ยนไปหมดเลย”
เสียงปรบมือดังก้องหอประชุม ช่วยปลุกเกล็นที่อยากทึ้งผมตัวเองออกจากห้วงความคิด แล้วรีบตามน้ำกับนักเรียนคนอื่นๆ จากนั้นพวกรุ่นพี่ก็รับช่วงต่อจากอาจารย์ใหญ่มาประกาศหมายเลขตามเอกสารแบ่งนักเรียนปีหนึ่งเป็นสามกลุ่มเท่ากับจำนวนหอพักของโรงเรียน เกล็น ชาร์ล็อต และเพื่อนร่วมรุ่นเกือบสี่สิบชีวิตได้อยู่หอแรก
ระหว่างเดินผ่านนักเรียนที่เหลือ เกล็นได้เจอเป้าหมายจีบคนที่สี่ซึ่งมีส่วนสูงและผิวสีแทนดูโดดเด่น เขารีบหลุบตาลงกลัวอีกฝ่ายรู้สึกตัวว่าถูกจับจ้อง และซ่อนอาการดีใจออกนอกหน้าไม่ให้เพื่อนสนิทจับสังเกตไปด้วย
“เจอแล้วๆ นั่นเด็กอายุสิบหกจริงดิ ดูดีชะมัด! ให้ตาย น้ำตาจะไหลเลยเหรอเนี่ย”
เมื่อพ้นเขตอาคารหอประชุมหลัก การเดินชมโรงเรียนแบบสังเขปได้เริ่มขึ้น จริงอยู่ว่าพวกนักเรียนปีหนึ่งเคยเห็นตึกต่างๆ ตอนสอบ ทว่าคราวนี้พวกเขารู้รายละเอียดเพิ่มขึ้นว่าแต่ละอาคารมีอะไรสำคัญบ้าง ทุกตึกยกเว้นหอประชุมสร้างด้วยอิฐแดงเก่าๆ อายุร้อยกว่าปี คล้ายพวกสิ่งปลูกสร้างแบบตะวันตกโบราณที่เรียกว่าสไตล์กอทิก
หลังแนะนำสถานที่เสร็จ ทุกคนเดินผ่านรั้วอิฐแบ่งเขตโรงเรียนกับหอพักอย่างชัดเจน ผ่านสวนหย่อมตกแต่งต้นไม้สวยงาม มีซุ้มศาลาไม้สีขาวทรงโดมและม้านั่งหินตั้งกระจายตามจุดต่างๆ ไม่เยอะจนอัดแน่นเสียภูมิทัศน์ เบื้องหน้าพวกเขาคืออาคารห้าชั้นทั้งหมดสามตึกที่หันหน้าเข้าหารูปปั้นชายชราหนวดเครายาวสวมชุดแบบชาวกรีกโบราณนั่งก้มหน้าถือม้วนกระดาษ
“ให้เทพแห่งปัญญาอยู่หน้าหอพักเลยเรอะ…” เกล็นและเหล่านักเรียนปีหนึ่งคิดเหมือนกันโดยมิได้นัดหมาย
พอเข้าอาคารซ้ายมือ ที่โถงกลางเต็มไปด้วยรุ่นพี่ต้อนรับอย่างเป็นกันเอง ชี้แจงว่าใครมีหน้าที่รับผิดชอบส่วนไหน กฎระเบียบมีอะไรบ้าง ปิดท้ายด้วยกิจกรรมรับน้องเล็กๆ จนตกเย็น จากนั้นก็จับแยกชายหญิงขึ้นบันไดคนละฝั่งเพื่อตกลงเรื่องห้อนนอนและเก็บสัมภาระที่ขนมาเรียบร้อยให้ทันเวลาดับไฟ
“เรื่องรูมเมตพวกนายจัดการเอาเองนะ หนึ่งห้องอยู่ได้สองคน อืม… ดูเหมือนจำนวนคนไม่ครบคู่แฮะ” เขานับหัวรุ่นน้องได้สิบเจ็ดคน “งั้นขอให้โชคดีในการชิงห้องเดี่ยวนะ ฮ่าๆๆๆ”
แล้วเขาก็โบกมือลา โดยทิ้งระเบิดตูมหนึ่งให้เด็กปีหนึ่งให้ส่งสายตาไปมา เพราะมีความคิดเดียวกันว่าอยากได้ห้องเดี่ยว ความเงียบเลยปกคลุมบรรยากาศไม่มีใครปริปากจะแบ่งห้องกันยังไง กระทั่งเด็กหนุ่มผมทองผู้มีคะแนนสูงสุดเสนอให้จับสลากเลือกห้อง ทุกคนเห็นด้วยกับวิธีนี้และเชื่อมั่นว่าผลที่ได้นั้นยุติธรรมที่สุด
ช่วงที่เด็กสองคนช่วยทำสลาก เกล็นที่อยากอยู่คนเดียวต้องการที่พึ่งทางใจจึงตั้งจิตอธิษฐาน
“หลวงปู่ทวดข้ามโลกมาช่วยลูกช้างได้ห้องเดี่ยวได้ไหม”
เขาขอความช่วยเหลือจากหลวงปู่ละแวกบ้านแบบเดียวกับตอนกดสุ่มตัวละครเกมกาชาที่ชอบมาก ส่วนของตอบแทนคือ...
“เดี๋ยวจะถวายไข่ต้มเก้าฟองให้นะ ดีลใช่ไหมครับ ดีลเนอะ สาธุ อยู่โลกนี้หาได้เท่านี้จริงๆ หลวงปู่”
“ฮ่าๆๆๆ หลวงปู่ศักดิ์สิทธิ์ข้ามภพเลยวุ้ย”
เกล็นกระโดดโลดเต้นหัวเราะดีใจได้ห้องเดี่ยวแถมตำแหน่งจัดว่าดี เพราะอยู่ริมสุดเจอเสียงรบกวนแค่ด้านเดียว อีกทั้งมีหน้าต่างสองฝั่งทำให้ห้องรับแสงได้ดีเหมาะดูแลต้นไม้ที่ขนมาด้วย อีกทั้งสามารถจัดการตามใจตัวเอง ทำให้สภาพห้องค่อนข้างรกเอาเรื่อง เหมือนขอแค่ให้รู้ว่าอยู่ตรงไหนก็พอแล้ว
ด้วยการทำเช่นนั้น เด็กหนุ่มจึงมีเวลานั่งทบทวนสิ่งสำคัญ เขาคว้าปากกากับสมุดบันทึกเก่าๆ มานั่งไล่เรียบเรียงเกี่ยวกับเกม ‘Time of Love’ ที่เป็นเกมจีบหนุ่มผสมแนว RPG ที่ระหว่างการเล่นจะสุ่มเจอมอนสเตอร์และผลัดกันสู้ Turn-Based[1] ที่การควบคุมตัวละครคล้ายคลึงกับ Strategy RPGs[2] รวมทั้งรีวิวส่วนใหญ่ให้แง่บวกจึงหาข้อมูลเพิ่มเติม
ด้านเนื้อเรื่องเป็นพล็อตง่ายๆ ที่นางเอกผู้มีพลังกล้าแกร่งถูกเชิญให้สอบชิงทุนเข้าโรงเรียนคนรวย ระหว่างลงดันเจี้ยนป่าหลังโรงเรียนวันสอบปลายภาค ‘จี้เข็มทิศ’ ได้นำทางไปเจอหนึ่งในผลึกที่เต็มเปี่ยมด้วยพลังเวทของเทพมังกรเบเลธ ต่อมาไม่นานมีการเปิดเผยว่าเธอคือทายาทตระกูลผู้ปราบมังกรมารที่รอดตายจากการสังหารหมู่เมื่อสิบหกปีก่อน กลุ่มตัวเอกจึงจำเป็นออกผจญภัยนอกโรงเรียนเพื่อทำภารกิจไปพลาง จีบหนุ่มไปพลาง ตลอดช่วงสามปีของเกม แน่นอนว่าฉากจบคือการปราบตัวร้ายสำเร็จและครองรักกับหนุ่มเจ้าของรูท[3]
ถึงการต่อสู้ดูเป็นแนววางกลยุทธ์ แต่ความจริงกลับให้อิสระการควบคุมตัวละครเดินตามช่องนิดหน่อย เลยไม่ยากชวนหัวเสียหรือง่ายเกินจนน่าเบื่อ ระบบจีบขาประจำของสายนี้ลงความเห็นว่าไม่ต่างจากเกมอื่น การอัญเชิญมอนสเตอร์เหมือนมีไว้ทำชาเลนจ์สะสมกับเคลียร์เงื่อนไขบางอีเวนต์ เนื้อเรื่องไม่ว้าวแต่เพลินเหมือนอ่านเทพนิยายพล็อตคลาสสิก
ภาพรวมเลยถือว่าโอเคพอมีเงินทุนไปผลิตสื่อประเภทอื่นและสินค้าต่างๆ ไหนจะลดราคาซื้อไปก็ไม่เสียดาย ตรงกับวันหยุดยาวอีก ไม่นานก็ตกหลุมรักแมรีแอนน์ในฐานะไวฟุ ถึงขั้นซื้อแผ่นเกมกับของสะสมแสดงความรักที่มีต่อเธอ แถมเปิดประสบการณ์ใหม่ในการเล่นเกมแนวนี้ เลยไล่หาเกมอื่นที่รีวิวบวกเยอะๆ เพื่อเสพเนื้อเรื่องต่อ เล่นเอาติดเกมจีบไปช่วงหนึ่ง
กระทั่งเขาสิ้นอายุขัย เกิดใหม่และใช้ชีวิตใหม่นานสิบปี ก็ไม่เอะใจเลยว่าที่นี่คือโลกเกมจีบหนุ่ม รวมทั้งจำตัวละครอย่างเกล็นกับชาร์ล็อตไม่ได้ด้วย จนได้มาเจอแมรีแอนน์ที่โรงเรียน
“เอาเป็นว่าตอนนี้เราเกิดใหม่ในโลกเกมจีบหนุ่มที่เคยเล่นมาก่อน” เด็กหนุ่มทำหน้าปลงควงปากกาเล่น “งั้นมาดูกันก่อนดีกว่าว่าใครเป็นใคร”
เริ่มจากนางเอกของเกม ‘แมรีแอนน์ ไบลธ์’ อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ตระกูลเธอถูกตัวร้ายสังหารตัดไฟแต่ต้นลม ไม่ให้ขัดขวางการคืนชีพของมังกรร้ายเชเบอร์ทอส แต่ด้วยโชคชะตาฟ้าลิขิตมอบโอกาสให้เธอเข้าโรงเรียนเอลเซียส์ ที่นั่นเธอได้พบกับหนุ่มทั้งห้าคนที่เป็นเป้าหมายจีบได้แก่
‘จูเลียส ดีน อมาดิออส’ เด็กหนุ่มคนเดียวกับที่เสนอวิธีจับสลากเลือกห้อง ลูกคนสุดท้อง เจ้าชายลำดับที่สามของราชวงศ์ เจ้าของคาแรกเตอร์ตรงตามขนบธรรมเนียนสายเจ้าชาย ผมตัดสั้นเรียบร้อยสีทอง ดวงตาสีเขียวสดใส รูปลักษณ์สง่าผ่าเผย ผิวพรรณเปล่งปลั่ง นิสัยดีสไตล์คุณชายเลี้ยงมาดี และมีความสามารถรอบด้านจึงเป็นที่นับหน้าถือหน้า
เหตุการณ์ระหว่างจูเลียสกับนางเอกนั้นเรียบง่าย เขาประทับใจความมองโลกในแง่ดี ทั้งที่ถูกกลั่นแกล้งจากพวกลูกขุนนางจนร้องไห้เสียใจ เธอกลับยิ้มสู้ต่อไปได้ แล้วเมื่อดอกรักรูทนี้เบ่งบาน คุณหนูหัวโจกจะมาขัดขวางเพื่อช่วยสานสัมพันธ์อันดีงามให้ทั้งสองพบฉากจบแสนหวานละมุน โดยเฉลยว่าหลงรักอีกฝ่ายแต่แรกพบ
ส่วนชะตากรรมของสาวคนนั้นเป็นไงบ้างหลังจากนั้น ตอบได้แค่ว่าอกหัก เพราะเธอไม่ได้เป็นคู่หมั้น
อันที่จริงต้องบอกว่าเกมจีบหนุ่มไม่มีตัวละครประเภทนี้แต่แรก อย่างมากคือคู่แข่งหัวใจ ที่เห็นกันส่วนใหญ่จะอยู่ในนิยายหรือหนังสือการ์ตูนเท่านั้น ซึ่งมีหลายเรื่องเลยที่เขาชอบเพราะมันสนุกดี แต่แง่เกมผู้เล่นมือเก๋า ต่อให้หมั้นด้วยเหตุผลใดๆ คงมีความคิดว่า [จะมีบทนี้ทำไม ไม่ใช่ทุกคนอยากรับบทเป็นนางเอกแย่งแฟนชาวบ้านจ้า แล้วผู้ชายพรรค์นี้นอกใจไม่พอ จัดการปัญหาก็ไม่เป็น ชอบลงจริงดิ แค่หล่อก็ให้ผ่านงี้เหรอ ฮ่าๆๆๆ เสียอารมณ์เล่นชะมัด]
ต่อมา คนที่สอง หนุ่มหน้ามนสายเย็นชา ‘เกล็น ฮิลเนสัน’ ลูกหลานตระกูลจอมเวทมีชื่อ ปู่เขาเป็นเพื่อนกับมหาปราชญ์ผู้รับใช้เทพมังกร มีปมตามประสาลูกคนกลาง ให้ความสำคัญกับพี่ มอบความรักกับน้อง ตัวเองไม่มีใครแล วิธีพิชิตรูทหนุ่มคนนี้ไม่มีอะไรยาก แค่ใช้ละลายน้ำแข็งด้วยความอ่อนโยนพิชิตหัวใจ
สำหรับรูทนี้จะมีเด็กสาวคนหนึ่งรับบทเป็นเพื่อนผู้ช่วยเหลือนางเอกด้านต่างๆ แตกต่างกันไปแต่ละรูท ทว่าเมื่อเข้ารูทเกล็นในมุมพระเจ้าหรือผู้เล่นรู้ทันทีว่า ‘ชาร์ล็อต คาเลนเซีย’ แอบชอบเกล็นอยู่ เพราะพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป ค่อนข้างเย็นชากับแมรีแอนน์กว่าช่วงแรก ขณะเดียวกันก็ไม่อยากตัดขาดความเป็นเพื่อนและไม่สรรหาวิธีขัดขวาง กว่าตัวละครจะรู้ก็ตอนได้ฉากแบดเอนด์ เพราะเกล็นจะเลือกชาร์ล็อตพร้อมบอกเหตุผลเบสิกว่า [ลึกๆ ในหัวใจมีแค่เธอคนนั้น] ชาร์ล็อตจึงมีโอกาสบอกความในใจตัวเองกลับ พร้อมข่าวลือตามมาทีหลังว่าสองคนนี้เป็นคู่หมั้นกัน
“ไอ้เจ้านี่มันเหยียบเรือสองแคมชัดๆ ปัดโธ่! ทำมาเป็นพูดว่าเพิ่งรู้ใจตัวเอง แล้วที่น่าเจ็บใจกว่าคือ…”
หมอนี่ที่ว่าคือเขาเอง พอนึกสภาพตัวเองพูดประโยคแบดเอนด์นั่นก็ขนลุก ที่ผ่านมาไม่รู้ตัวสักนิดว่าเกิดใหม่โลกเกมเลยใช้ชีวิตคุ้มค่าอีกรอบ ชาร์ล็อตไม่น้อยหน้าในเกมเธอมีความสามารถด้านเวทแต่ตอนนี้เป็นศูนย์ ดีที่มีความเป็นลูกคุณหนูติดตัวตามต้นฉบับไว้นิดหนึ่ง
“ใครจะไปคิดว่าเกิดใหม่ในโลกเกมจีบหนุ่ม… เดี๋ยว หรือว่าที่เราเกิดมาในโลกนี้ได้เพราะน้องอัญเอาเกมเผามาด้วย” เกล็นคิดถึงความเป็นไปได้ที่กลับชาติมาเกิดในโลกของเกม “บ้าบอจะเป็นแบบนั้นได้ไงกันล่ะ…ฮะๆ…”
คนที่สามซึ่งเป็นคนสุดท้ายที่เกล็นเจอ ‘อิกนิส ฟรานเซนไทน์’ บุตรชายตระกูลดยุกสายอัศวิน เขาเป็นเด็กหนุ่มผิวแทนหน้าตาคมคาย รูปร่างสูงใหญ่แข็งแรง ผมสีดำไว้ยาวประบ่าจัดทรงดูดี ดวงตาสีม่วงอ่อน ยิ่งตัวละครสายขรึมเวลายิ้มช่างมีเสน่ห์พาหัวใจพองโต ใจเย็น สุขุม เจอตัวเป็นๆ ช่างดูโตเกินอายุสิบหกอย่างกับชายหนุ่มรูปงาม แต่นิสัยค่อนข้างจริงจังจนเป็นข้อเสีย ซึ่งเป็นผลมาจากปัญหาระหว่างเขากับน้องชายฝาแฝด ‘คลาริส’
“ให้ตายสิ สลัดภาพฟันฉลามเจ้านั่นไม่ออกเลย” เกล็นกุมหัวที่ภาพคลาริส 2D ยิ้มโชว์ฟันฉลามติดหัวมายันชาตินี้
รูทอิกนิสไม่มีคู่แข่ง หน้าที่ที่นางเอกได้รับจึงเป็นการช่วยเชื่อมความสัมพันธ์ให้พี่น้องดีกัน หลังชิงดีชิงเด่นแย่งชิงตำแหน่งเจ้าตระกูลคนถัดไป ทั้งเนื้อเรื่องรูท นิสัย และหน้าตา อิกนิสเป็นตัวละครที่เกล็นชอบรองจากแมรีแอนน์ กลับกันภาพรวมรูทนี้เรียบง่ายไม่หวือหวาเท่าสองคนแรก ขาดรสชาติความวุ่นวายจากสาวๆ แต่ไม่ถึงขั้นจืดชืดแบบสองคนหลังในความรู้สึกเขา
“เทียบกับในเกม อิกนิสกับคลาริสสลับหอกันแฮะ” เกล็นเอนหลังพิงเก้าอี้ ใช้ด้ามปากกาเกาหลังคอ ถ้าจำไม่ผิดหอนี้จะมีคนหน้าตาคล้ายอิกนิส “เดี๋ยว ไม่ใช่แค่อิกนิส แมรีแอนน์ด้วยนี่หว่า แบบนี้จะเจอตัวละครรุ่นพี่ยังไงล่ะเนี่ย”
‘อาร์วิน บาเกอร์’ รุ่นพี่หน้าหวานร่างสูง ผมประบ่าสีส้ม ดวงตาสีฟ้าสวมแว่นทรงกลม เขาอยู่ร่วมหอพักเดียวกับนางเอก แต่ตอนนี้เธอไปอยู่อีกหอซะแล้ว โดยอาร์วินเป็นคนนิสัยใจดี รักสัตว์โลก เห็นอกเห็นใจผู้อื่น เป็นผู้รับฟังปัญหาของแมรีแอนน์ก่อเกิดเป็นความรักที่ไม่ค่อยซู่ซ่านัก แต่เรื่องฮีลจัดว่าเต็งหนึ่งมีติดปาร์ตี้แล้วอุ่นใจสำหรับคนติดตัวฮีล
“อีกคนก็ชื่อแมทธิวสินะ แต่เป็นอาจารย์ประจำชั้น ยังมีโอกาสได้เจอแมรีแอนน์อยู่”
คนสุดท้าย เล่นแง่ศีลธรรมความรักระหว่างอาจารย์และนักเรียน ‘แมทธิว เพียร์ซ’ ชายหนุ่มผมสั้นระท้ายทอยสีน้ำเงินเข้ม ดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้นช่างแสนอ่อนโยน ด้วยอายุกับหน้าที่การงานจึงเป็นที่เคารพของนางเอก ด้วยเหตุการณ์หลายอย่างสองคนนี้จะเจอกับปรากฏการณ์ทฤษฎีสะพานแขวนจนมีใจให้กัน แต่กว่าจะลงเอยก็คือตอนหลังจบเกมที่ฝ่ายหญิงโตมีการมีงานแล้วค่อยสารภาพรัก คบหา แต่งงาน
เป็นอันครบห้ารูปตามปกเกม ไม่มีรูทฮาเร็ม เมื่อคิดๆ ไปแล้ว ตั้งแต่ไล่เล่นมาเขาเคยเจอพวกรุมรักก็จริง แต่ไม่เคยเจอจบแบบฮาเร็มสักเกม อีกทั้งเกมที่มีการดัดแปลงเป็นอนิเมะก็ดำเนินเรื่องไม่เหมือนกัน เพราะตัวเกมออริจินัลหนุ่มแต่ละคนมีเนื้อเรื่องแยกชัดเจน ขณะที่อนิเมะจะจับยำรูทเด่นๆ ของตัวละครรวมกัน ภายใต้ข้อจำกัดจำนวนตอนและทุนในการสร้าง ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเกมจีบเท่ากับฮาเร็มไปโดยปริยาย ทั้งที่มันคือคนละอย่างกัน หรือสรุปง่ายๆ คือเกมจีบไม่เท่ากับฮาเร็มนั่นเอง เนื่องจากตัวเกมดั้งเดิมจะแบ่งเรื่องราวแต่ละคน อย่างเช่น
เล่นรูท A ตัวละคร B จะเป็นแค่คนรู้จักหรือไม่รู้จักเลย หนักสุดคือกลายเป็นตัวร้าย หรือต่อให้มีรูทที่เข้าหาตัวเอกหมดในแง่มุมรักๆ ใคร่ๆ สุดท้ายหนุ่มที่ไม่ใช่เจ้าของรูทก็แห้วอยู่ดี
และเท่าที่แฝงตัวในคอมมูนิตี้นี้ไว้ส่องเฉลย ที่นั่นค่อนข้างแยกชัดเจนเลยว่าผู้เล่นคือผู้เล่น นางเอกคือนางเอก
หลายคนเล่นเพื่อต้องการดื่มด่ำเนื้อหาเหมือนอ่านนิยายรัก สัมผัสเรื่องราวระหว่างตัวเอกกับตัวละครนั้นๆ ในรูปแบบเกม อาจจะถึงขั้นเอ็นดูนางเอก ถ้าพูดให้เห็นภาพก็ประมาณ [เกม XXX นางเอกน่ารักมากเลย] หรือ [ฮือ รูท C ละมุนกับน้องมาก ไม่เหมือน B ขมคอเป็นบ้า]
เลยเป็นเหตุให้คนในคอมมูนิตี้ส่วนหนึ่งไม่โอเคนัก แม้จะชื่นชอบเหล่าตัวละครชาย แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาเล่นเพราะบ้าผู้ชายหรือหาสามีทิพย์ หากมองดีๆ เกมตระกูลจีบแทบไม่ต่างกับเกมเนื้อเรื่องประเภทอื่น เพียงวิธีการเล่นเน้นไปทางตอบคำถามหรือทำเงื่อนไขมากกว่าต่อสู้แอ็กชัน
ขณะเดียวกัน คนอีกกลุ่มก็ชอบเชิงความรักจริงๆ ในลักษณะตัวเองคู่กับตัวละคร แน่นอนว่าไม่ใช่การสวมวิญญาณสิงนางเอก และไม่ได้จินตนาการคู่กับทุกคน ซึ่งคนสองกลุ่มนี้ไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกันนัก มองว่าเป็นความพึงพอใจการเสพสื่ออย่างหนึ่ง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เกี่ยวกับฮาเร็มที่ว่ามาข้างต้น นับแค่เกมจีบหนุ่มที่ขายตามแพลตฟอร์มบนดิน หากนับพวกเกมใต้ดินหรือมีฉากผู้ใหญ่ ฝั่งจีบสาว ‘มี’ ให้เห็นแน่ๆ
“ถ้าฝั่งนี้มี ฝั่งนั้นคงมีบ้างแหละ” เกล็นยิ้มตาหยี สักพักก็ปรับอารมณ์ด้วยการถอนหายใจ “แต่ไม่มีรูทฮาเร็มดีแล้วล่ะ รูทปกติยังวุ่นวายเลย”
เนื่องจากเกมนี้มีลักษณะใกล้เคียงกับแนวเกมเดตติ้งซิม[4] ที่ให้ทำตามที่ระบบกำหนดไว้ แม้จะไม่ยากแต่เหนื่อยเอาเรื่อง ยิ่งเกมนี้ผู้เล่นต้องตอบคำถาม วิ่งรอบแมพ เก็บเลเวล หาสัตว์วิเศษ บริหารสเตตัสที่ส่งผลต่อรูท จัดตารางเวลาไปเดต ดีที่ไม่มีทำงานพิเศษกับซื้อชุดเหมือนบางเกม ขืนมีขึ้นมาผู้เล่นคงได้หวังปวดหัวที่ต้องมานั่งเดาใจเจ้าพวกเป้าหมายจีบอีกว่าชอบให้แต่งแนวไหน ไม่พอต้องมานั่งหาเงื่อนไขรูทตัวละครลับที่วนไม่รู้กี่รอบกว่าจะเจอ
แต่ต่อให้เกมนี้เป็นแนววิชวลโนเวล[5] ก็ใช่ว่าจะสบาย เพราะถ้าตอบผิดก็เริ่มใหม่หรือตอบผิดนางเอกตาย มีการจับเวลาตอนเลือกชอยส์ มินิเกมที่ง่ายอยู่ดีๆ ก็เข้าโหมดยาก ไม่ก็ทันกับความเบื่อของรูทที่ยาวมากๆ
ทว่าสิ่งที่เป็นจุดร่วมสองสายนี้คือต้องนั่งเล่นรูทซ้ำๆ เก็บทุกฉากจบ ตามล่าหาฉาก CG ที่แหว่งไป ให้ได้ครบร้อยเปอร์เซ็นต์
“ตอนขึ้นปีสอง ก็จะมีตัวละครรุ่นน้องเพิ่มมาอีกคน แล้วก็ตัวละครลับที่ต้องเคลียร์แฮปปี้เอนด์ครบทุกคน…มั้ง” เกล็นผ่อนลมหายใจขยี้ผมจนยุ่งที่ต้องขุดข้อมูลเก่ากึก ก่อนจะทิ้งตัวไปกับแรงโน้มถ่วง แต่แล้วเขาต้องสะดุ้งตัวโยนเหงื่อผุดเต็มหน้าผากนึกถึงคำพูดของเกรกอรี่เมื่อวาน
[ถ้ามีอะไรติดต่อมาได้ทุกเมื่อเลยนะ]
ความวิตกกังวลก่อตัวจนอยู่ไม่สุขจนต้องเคาะนิ้วบนโต๊ะระบาย
แม้จะยังพิสูจน์ไม่ได้ แต่ยังมีความเป็นไปได้ที่เกรกอรี่ใช้เวทมนต์อ่านความทรงจำของเขาตอนวัยเด็ก แล้วน่าจะรู้เรื่องของแมรีแอนน์ด้วย ถึงได้พูดประโยคนั้นกับเขา ดังนั้นเรื่องนี้ต้องถึงหูเทพมังกรเบเลธเป็นแน่ แต่มันก็น่าแปลกที่พวกเขาไม่มีการเคลื่อนไหว ยิ่งเด็กสาวอยู่ในโรงเรียนตามตัวได้ง่าย แต่ทุกอย่างกลับเป็นปกติ
“หรือปู่แกจะให้เราบอก” เกล็นคิดหาเหตุผลที่เกรกอรี่ยังอยู่นิ่ง “ถ้างั้นต้องยืมไอ้แดงส่งจดหมายพรุ่งนี้… หืม?”
เพราะมีเงาตะคุ่มปรากฏตรงหางตา เด็กหนุ่มขมวดคิ้วเครียดย่องไปชะโงกหน้ามองด้วยความอยากรู้อยากเห็น พอรู้ว่าเป็นอะไรก็ยิ้มโล่งอก ไม่ใช่สิ่งน่ากลัวอย่างที่จินตนาการ ก่อนจะลนลาน
“แมรีแอนน์ไม่ใช่เรอะ!?”
การกระทำเร็วกว่าความคิด เกล็นกวาดตาหาวิธีลงโดยไม่ต้องใช้เวทมนตร์ เขาเจอโครงไม้ประดับข้างหน้าต่างจึงปีนลงด้านล่างอย่างทุลักทุเล เร่งเท้าตามนางเอกเกมจนพบกับเธอที่ยืนอยู่บริเวณลานน้ำพุหน้าตึกเรียน
“เอ่อ… หาอะไรอยู่เหรอ?” เกล็นทักถามหลังเห็นเธอก้มๆ เงยๆ หาอะไรบางอย่างตามพื้น
“ขะ ขอโทษค่ะ คือว่า…” แมรีแอนน์หันขวับแล้วก้มหน้าขอโทษอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงร้อนรน พยายามคิดข้ออ้างที่ออกนอกหอยามวิกาล แต่พอเงยหน้ามาก็พบเด็กที่เป็นลมเมื่อเช้า “เอ๊ะ คุณ”
“คือฉันเห็นคนอยู่ข้างนอกเลยตามมาดูน่ะ ว่าแต่หาอะไรเหรอ?” เขาถามย้ำอีกรอบเผื่อเด็กสาวไม่ได้ยิน
“คะ เครื่องรางค่ะ ฉันคิดว่าน่าจะทำตกแถวนี้ ตอนหยิบผ้าเช็ดหน้าน่ะค่ะ” แมรีแอนน์ตอบพร้อมระบุลักษณะของเครื่องรางที่น่าจะมีขนาดสามนิ้ว “มันทำมาจากไม้ค่ะ”
เด็กหนุ่มพยักหน้ารับรู้สิ่งของเป้าหมายพร้อมเสนอความคิด “งั้นลองหาแถวพุ่มไม้ไหม อาจจะโดนเตะกระเด็น แต่ถ้าไม่เจอคงถูกภารโรงเก็บไปแล้ว”
“ยะ อย่างนั้นก็แย่สิคะ!” เด็กสาวตื่นตระหนัก รีบหาเครื่องรางตามพุ่มไม้กลัวถูกเก็บทิ้งตามข้อสันนิษฐาน ”ไม่มี ตรงนี้ก็ไม่มี”
เสียงสั่นเครือคล้ายร้องไห้ดังกดดันเกล็นที่ช่วยหา ไหนต้องแข่งกับเวลาก่อนถูกผู้ดูแลจับข้อหาแอบออกนอกเขตหอพักยามวิกาล หากอดีตเพื่อนร่วมงานของลินดารู้เข้า คงเอาเรื่องนี้ไปบอกผู้เป็นย่าแน่ว่า [นี่คุณพี่รู้หรือเปล่าว่าหลานชายแหกกฎตั้งแต่วันแรกแหละ] อะไรทำนองนี้ แน่นอนว่าเขาไม่ยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้น
“เจอแล้วค่ะ!” แมรีแอนน์น้ำตาคลอเบ้าดีใจพร้อมชูกระบอกไม้อันเล็ก “ฉันเจอแล้ว ดีใจจังที่เจอ”
เธอกุมเครื่องรางอย่างโล่งอกพลางเช็ดน้ำตา ทว่าเกล็นก็แสดงความยินดีกับแมรีแอนน์ไม่ได้นาน รีบชวนเด็กสาวกลับหอก่อนที่จะมีใครมาเจอ ทั้งสองคนจึงพากันวิ่งและทำความรู้จักสั้นๆ
“ขอบคุณที่ช่วยนะคะ ฉันแมรีแอนน์ ไบลธ์ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” น้ำเสียงหวานเข้ากับรอยยิ้มแนะนำตัว
ผิดกับฝ่ายชายตะกุกตะกักพูดผิดๆ ถูกๆ อยากจะหยิกแก้มว่านี่ไม่ใช่ความฝัน “กะ เกล็น ฮิลเนสัน ยะ ยินดีที่ได้เจอ เอ้ย! รู้จักเช่นกัน”
“มะ ไม่ใช่ความฝัน นี่เราเกิดใหม่ในเกมที่หลานเผามาให้จริงเหรอ?” เกล็นเสตาไปทางอื่นไม่กล้ามองแมรีแอนน์ตรงๆ กระทั่งทั้งคู่วิ่งเข้าใกล้เขตหอพัก เด็กหนุ่มจึงได้หันไปหาเธอ
“เดี๋ยวต้องแยกล่ะ ไปคนเดียวได้หรือเปล่า?”
“ได้ค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะคุณเกล็น” เธอพยักหน้าตอบ “ขอบคุณอีกครั้งที่อุตส่าห์ลงมาช่วยค่ะ”
“ไม่เป็นไร แล้วก็เรียกเกล็นเฉยๆ ก็พอ… แบบว่าเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันนี่เนอะ”
“และจะเป็นเพื่อนร่วมปาร์ตี้ด้วย” เขาเสริมประโยคในใจรู้ดีว่ายังไงต้องได้อยู่ห้องเดียวกัน
เมื่อถึงบริเวณหอพัก เด็กหนุ่มสาวก็อำลาแยกย้ายกลับขึ้นห้อง โชคดีที่เกล็นพักอยู่คนเดียว ถ้าเป็นตามเกมแมรีแอนน์ก็น่าจะอยู่คนเดียวเช่นกัน เท่านี้เรื่องที่พวกเขาละเมิดกฎโรงเรียนไม่มีทางแตก เป็นความลับระหว่างเขากับเธอ
หลังเกล็นเข้าห้องเรียบร้อย เขาได้นั่งไตร่ตรองอีกครั้งว่าควรบอกเรื่องนี้กับเกรกอรี่ดีหรือไม่ ถึงแม้ว่าในใจมีคำตอบที่ต้องการมากที่สุดแล้วก็ตาม
[1] Turn-Based เป็นระบบต่อสู้ที่ผลัดกันเป็นรอบๆ จะควบคุมตัวละครได้ต่อเมื่อถึงรอบการเล่นของตัวเอง
[2] Strategy RPGs เป็นระบบต่อสู้แนววางกลยุทธ์ มีรูปแบบการเล่นให้ตัวละครเดินตามช่องคล้ายกับหมากรุก
[3] มีความหมายตรงตัวว่าเส้นทาง ในแง่เกมจีบหมายถึงเส้นเรื่องของตัวละครที่เป็นเป้าหมาย
[4] Dating Simulator (เดตติ้งซูมิเลชั่น) คือหมวดย่อยหนึ่งของวีดิโอเกมอยู่ในกลุ่มจำลองสถานการณ์ โดยมีความรักเป็นองค์ประกอบหลัก ส่วนมากเกมแนวนี้จะเน้นการบริหารเวลาหรือเพิ่มค่าสเตตัสที่ส่งผลต่อตัวละครและเนื้อเรื่อง
[5] Visual Novel (วิชวลโนเวล) เป็นวีดิโอเกมที่อยู่หมวด Interactive fiction (นิยายแนวปฏิสัมพันธ์) เน้นการนำเสนอเนื้อเรื่องเป็นหลัก ที่ผู้เล่นมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ มักเจอในเกมประเภทจีบหรือสืบสวน
Comments (0)