39 ตอน ไม่ได้หนีเที่ยว
โดย Beloved_Moouan
“อ่าา…..อากาศสดชื่นมากก คิดถึงที่สุดเล้ยยย” พอได้ลงจากรถสายน้ำก็รีบวิ่งมาตรงจุดให้ชมวิวทันทีเพื่อรับอากาศบริสุทธิ์ พร้อมกับตะโกนออกมาเสียงดัง จนทุกคนที่เดินตามลงมาจากรถกันถึงกับขำกับท่าทางของคุณแม่
ตอนนี้พวกเค้าทั้งหมด 16 คน ได้มาถึงที่รีสอร์ตของพ่อแม่ของวาริที่จังหวัดเชียงใหม่กันแล้ว โดยมีรถตู้ของทางรีสอร์ตไปรอรับที่สนามบินเหมือนกับคราวที่แล้ว และก็ยังมีรถกะบะอีกหนึ่งคันเพื่อไปขนกระเป๋าของพวกเค้ามาให้โดยเฉพาะ และนี่ก็เป็นครั้งที่สองที่ทุกคนได้มีโอกาสมาเที่ยวที่นี่กัน จะมีก็แต่ฟ้าคราม ข้าวปั้น ไนท์ และนพพรเท่านั้นที่ได้มาที่นี่เป็นครั้งแรก
“น้องของขวัญหนูเห็นมั้ยภูเขาตรงนั้นสวยมากๆเลยลูก” สายน้ำหันมาบอกกับลูกสาวตัวน้อยที่หินผาอุ้มมาหยุดยืนอยู่ข้างๆตัวเอง
“แอ๊ะๆ เอิ๊กๆๆ” น้องของขวัญร้องออกมาพร้อมกับชี้ไปที่นกที่กำลังบินมาเกาะอยู่ที่กิ่งไม้อยู่
“นานๆจะได้มาสูดอากาศดีๆแบบนี้สักทีก็สดชื่นดีเหมือนกันนะ หลานลุงชอบมั้ยคะ ฟอด!” หินผาพูดออกมาพร้อมกับก้มลงมาหอมแก้มยุ้ยของหลานสาวที่กำลังตื่นเต้นกับการดูนกอยู่
“พี่ผาต้องหาเวลาพักผ่อนบ้างนะครับ เห็นน้องวาบอกว่าหลังๆมานี่พี่ผางานยุ่งมากเลยใช่มั้ยครับ น้องขอโทษนะครับที่ช่วยอะไรพี่ผาไม่ได้เลย” สายน้ำเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าพี่ชายและพูดออกมาด้วยความรู้สึกผิดที่ตัวเองไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย เค้ารู้ว่างานของหินผานั้นหนักมาก ไหนจะสายการบินทั้งในและนอกประเทศที่หินผาต้องคุมบังเหียนอยู่คนเดียว
“พี่ไม่เป็นไรหรอกครับ แค่ช่วงที่ผ่านมาเป็นช่วงไฮซีซั่นน่ะครับงานก็เลยดูยุ่งๆ แต่พอมาช่วงนี้ก็จะกลับเข้าโหมดปกติแล้ว สายการบินก็อย่างนี้แหละครับยุ่งบ้างไม่ยุ่งบ้างมันเป็นเรื่องธรรมดา น้องอย่าลืมสิครับว่าป๊าเราก็ทำงานมาคนเดียวโดยตลอดเหมือนกับพี่ที่ทำอยู่ในตอนนี้นี่แหละ
ป๊าเรายังผ่านมันมาได้แล้วก็ยังทำได้ดีมากอีกด้วย แล้วทำไมพี่ถึงจะทำมันไม่ได้อย่างที่ป๊าเคยทำไว้ล่ะครับ แล้วก็ไม่ต้องคิดมากนะครับน้องแค่อยู่ตรงนี้เป็นกำลังใจให้พี่ก็พอแล้ว พี่ผารักน้องมากนะครับ ฟอดๆ” หินผาพูดบอกกับน้องชายสุดที่รักของตัวเองพร้อมกับก้มลงไปหอมที่แก้มทั้งสองข้างของน้องก่อนจะดึงเข้ามากอดเอาไว้ด้วยความรักและคิดถึง เพราะช่วงหลังๆมานี้เค้าทั้งสองคนแทบจะไม่ค่อยได้คุยกันเลย เพราะต่างคนต่างก็มีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบแตกต่างกันออกไป
“น้องก็รักพี่ผามากนะครับ น้องจะคอยเป็นกำลังใจให้พี่ผานะครับ ฟอด!” สายน้ำบอกออกไปพร้อมกับเขย่งตัวขึ้นไปหอมที่แก้มของพี่ชายสุดที่รัก
“อ๊ะๆ อื้ออ” น้องของขวัญที่เห็นแม่ของตัวเองหอมไปที่แก้มของลุงก็โผเข้าหาสายน้ำด้วยทันทีพร้อมกับชี้ไปที่แก้มของตัวเอง
“ฮ่าๆๆ อยากให้แม่หอมหนูบ้างเหรอคะ” สายน้ำกับหินผาถึงกับหัวเราะออกมากับความช่างรู้ของน้องของขวัญ
“แอ๊ๆ” น้องขวัญยังคงร้องเมื่อแม่ไม่ยอมที่จะหอมแก้มของตัวเองสักทีจึงใช้แก้มของตัวเองถูกไถไปมากับแก้มของสายน้ำ
“ฟอดๆๆๆๆ พอรึยังครับ หืมม ฟอดๆๆๆ” สายน้ำแกล้งหอมแก้มของน้องของขวัญจนแก้มยุ้ยนั้นบี้แบนไปหมด น้องของขวัญก็ได้แต่หัวเราะเอิ๊กอ๊ากออกมาอย่างพอใจที่แม่เล่นกับตัวเอง
“หึๆ” หินผายืนมองภาพตรงหน้าและยิ้มออกมาอย่างมีความสุข เค้าไม่คิดว่าน้องชายที่เค้าทั้งรักทั้งหวงและห่วงจะมีวันนี้ให้ได้เห็นเร็วขนาดนี้ น้องชายตัวน้อยที่เค้าคอยเฝ้าทะนุถนอมมาโตขึ้นมากแล้วสินะ
ทุกคนที่ช่วยกันขนกระเป๋าไปเก็บที่ห้องของตัวเองกันเรียบร้อยแล้ว ก็ได้มายืนมองสองพี่น้องและหลานตัวเล็กด้วยใบหน้าที่ยิ้มไปกับภาพที่เห็นตรงหน้า วายุและวาริเองก็ไม่ได้เดินเข้าไปหาคนรักเช่นเดียวกัน เพราะพวกเค้าต่างก็รู้ว่าสองพี่น้องคู่นี้ต่างก็ต้องการเวลาส่วนตัวที่จะคุยกันตามลำพังบ้าง ส่วนพวกเค้าจะคุยกันตอนไหนก็ได้
...
“แล้วเราจะได้ไปเก็บส้มกันตอนไหนเหรอครับ” ข้าวปั้นถามขึ้นมาระหว่างที่ทุกคนกำลังนั่งกินข้าวกันอยู่ที่ร้านอาหารในรีสอร์ต ซึ่งพอข้าวปั้นถามออกมาฟ้าครามและนพพรก็เงยหน้าขึ้นมามองพร้อมกับพยักหน้าตามเห็นด้วยกับคำถามของข้าวปั้นทันที
“น่าจะเป็นวันมะรืนนะครับเดี๋ยววาลองไปถามดูให้อีกทีรับรองว่าได้เก็บส้มกันแน่ๆ ครับ แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้วาจะพาทุกคนไปไหว้พระในตัวเมืองกันนะครับเพราะคราวที่แล้วที่มากันก็ไม่ได้ไป” วาริตอบข้าวปั้นออกไปพร้อมกับบอกโปรแกรมของวันพรุ่งนี้ไปด้วย
“แล้วนี่พ่อกับแม่ของน้องวาไม่อยู่เหรอครับ” ฟ้าครามหันมาถามวาริที่นั่งอยู่ข้างๆ กัน
“เห็นพี่สาบอกว่าพ่อกับแม่ออกไปซื้อของในเมืองกันน่ะครับ แล้วก็จะไปหาซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารเหนือให้ทุกคนได้กินกันด้วยเลยต้องเข้าเมืองเองกลัวว่าถ้าฝากใครไปซื้อแล้วจะไม่ได้ดั่งใจน่ะครับ” วาริตอบออกมายิ้มๆเพราะตอนที่เค้าโทรมาบอกว่าทุกคนจะมาที่นี่กันพ่อกับแม่ของเค้าดีใจกันใหญ่ เพราะท่านทั้งสองก็คิดถึงทุกคนเช่นกัน
“แล้วนี่พี่ชายของน้องวายังไม่กลับมาอีกเหรอครับ เห็นคราวที่แล้วบอกว่าต้องเรียนต่ออีก 1 ปี” ออกัสถามวาริออกไปด้วยความสงสัย
“เห็นพ่อกับแม่บอกว่าอีกประมาณสองเดือนก็กลับแล้วล่ะครับ” วาริตอบออกัสพร้อมกับยิ้มกว้างออกมาเพราะเค้าเองก็คิดถึงพี่ชายมากเช่นกัน
หลังจากที่ได้ทุกคนกินข้าวอิ่มกันแล้วก็นั่งคุยกันต่อสักพัก จากนั้นจึงต่างก็แยกย้ายกันกลับไปนอนพักที่ห้องของใครของมัน ส่วนวายุกับสายน้ำขอตัวกลับไปที่ห้องพักกันตั้งแต่ที่ทั้งคู่กินข้าวกันอิ่มแล้วเพราะต้องเอาน้องของขวัญไปกินนมนอน
“พี่อิฐครับ พรุ่งนี้เราตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นกันนะครับ เห็นพี่ๆบอกว่าสวยมาก” ข้าวปั้นบอกกับอิฐเมื่อทั้งคู่กำลังนอนดูทีวีกันอยู่บนเตียง
“เอาสิครับ ว่าแต่จะตื่นรึเปล่าเถอะเราน่ะ” อิฐหันมาบอกพร้อมกับยื่นนิ้วมาบีบจมูกของข้าวปั้นพร้อมกับส่ายไปมาเล็กน้อย
“อื้ออ ตื่นสิครับถ้าพี่อิฐปลุกปั้นนะ ฮ่าๆๆ” ข้าวปั้นหัวเราะออกมากับคำพูดของตัวเองอิฐก็พลอยยิ้มขำตามไปด้วย หลังจากนั้นทั้งคู่ก็นอนดูหนังกันไปเงียบๆถือเป็นการพักผ่อนไปในตัว
ครืด!! ครืด!!
พอผ่านไปได้สักพักโทรศัพท์ที่วางไว้ข้างตัวก็สั่นขึ้นมา ข้าวปั้นจึงรีบหยิบขึ้นมาดูทันที และก็ปรากฏว่าเป็นสายน้ำที่ไลน์มานั่นเองแต่ไลน์เข้ามาในกลุ่มแม่บ้าน ข้าวปั้นจึงรีบเงยหน้าขึ้นไปดูว่าอิฐนั้นเห็นหรือเปล่าแต่โชคดีที่อิฐนั้นหลับไปแล้วด้วยลมหายใจที่เข้าออกสม่ำเสมอ เพราะสองสามวันก่อนจะมาที่นี่อิฐรีบเคลียร์งานที่ห้างที่ต้องเข้าไปทำในช่วงปิดเทอมนั่นเอง จึงไม่ค่อยจะได้พักผ่อนสักเท่าไหร่นัก
Sainam : มาเจอกันที่รอบบี้นะทุกคน
Bel : แป๊บนะพี่เหนือเพิ่งจะหลับไปเมื่อกี๊นี้เอง
Orgat : มันจะดีเหรอ พวกพี่ๆจะไม่โกรธเอาเหรอ
Fhakhram : +1
Kaopan : เดี๋ยวจะรีบออกไปนะครับ พี่อิฐหลับแล้ว อิ๊อิ๊
Nopporn : เอ่อ…คือเราจะไม่โดนโกรธกันใช่มั้ยครับ
Sainam : ไม่หรอกครับพี่นพเราแค่ไปขับรถเล่นในไร่กันนี่เอง ก็พี่ๆดูท่าจะเพลียกันเราก็ปล่อยให้หลับไปไงครับ นี่พี่กายก็นอนกอดกับน้องของขวัญหลับไปแล้ว น้ำอยากไปขับรถเล่นดูรอบๆน่ะครับ วันนี้อากาศดีมากเลยด้วย
Kanompie : จัดไปครับพี่น้ำพายพร้อมแล้ว ไนท์ออกไปเดินเล่นเมื่อกี๊นี้เองพายแกล้งหลับ 555
Wari : วาขอตัวนะครับ พี่ผากอดวาแน่นจนขยับไปไหนไม่ได้เลยครับ พี่น้ำแจ้งกับพี่สาได้เลยนะครับ
หลังจากที่คุยตกลงกันอยู่พักใหญ่ทุกคนก็ค่อยๆทยอยกันออกมาจากห้องและมารวมตัวกันที่ล็อบบี้โดยมีสายน้ำเป็นแกนนำ เพราะเค้าอยากที่จะไปเที่ยวเล่นตามประสาบ้างโดยที่ไม่ต้องมีพี่ๆคอยติดตามไปด้วย
สาเหตุที่สายน้ำเลือกที่จะไปในวันนี้แล้วก็ตอนนี้นั้น เป็นเพราะว่าพี่ๆทุกคนนั้นต่างก็อยู่ในอาการอ่อนเพลียด้วยกันทั้งนั้น เพราะก่อนที่จะมาที่นี่ทุกคนก็ต่างอยู่เคลียร์งานกันจนดึกจนดื่นติดต่อกันหลายวัน แล้วพอมาเจออากาศดีๆเย็นๆสบายๆของที่นี่บวกกับเพิ่งจะกินข้าวอิ่มกันมาก็เลยทำให้ทุกคนหลับไปอย่างง่ายดายนั่นเอง
“ไปกันรึยังเบลพร้อมมาก” เบลเดินมาพร้อมกับฟ้าครามที่หน้าตาดูไม่ค่อยจะสู้ดีนักพอๆกับนพพร
“พี่ฟ้าครับ พี่นพครับ ยิ้มหน่อยสิครับ เราไม่ได้จะหนีไปเที่ยวไหนไกลกันสักหน่อยเราแค่จะไปขับรถเล่นรอบๆไร่กันนี่เองครับ แล้วเราก็ไม่ผิดด้วยก็ทุกคนอยากหลับกันเองนี่นาช่วยไม่ได้ คริ๊ๆ” สายน้ำที่หันไปเห็นฟ้าครามกับนพพรทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ก็อดที่จะพูดกระตุ้นไม่ได้
“ครับๆอะไรจะเกิดก็ต้องเกิดเน๊าะ” ฟ้าครามพูดออกมาอย่างปลงๆ ไอ้โดนดุนี่เค้าไม่ค่อยจะกลัวสักเท่าไหร่หรอกเพราะดินคงไม่กล้าจะดุเค้ามากนักหรอก แต่ไอ้ที่กลัวนี่คือกลัวว่าจะโดนลงโทษจนลุกขึ้นจากเตียงไม่ไหวนี่สิที่เค้ากลัว
เช่นเดียวกันกับนพพรที่นัทเคยขู่เอาไว้ว่าถ้าทำให้ไม่พอใจหรือโกรธอีกจะโดนลงโทษไม่ใช่แค่การจูบเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เค้าจึงรู้สึกเสียวๆสันหลังยังไงก็ไม่รู้ แต่จะให้ทำยังไงได้ล่ะในเมื่อเข้ามาเป็นสมาชิกของกลุ่มแม่บ้านแล้วนี่นา เค้ายังนึกอิจฉาวาริไม่หายเลยที่โดนหินผากอดเอาไว้จนแน่นทำให้มาด้วยไม่ได้ ทำไมนัทไม่นอนกอดเค้าไว้แน่นๆอย่างที่หินผาทำบ้างนะ คิดแล้วเรื่องมันเศร้า
“ไปกันเถอะครับ พายอยากไปจะแย่แล้วครับ เดี๋ยวถ้าเกิดไนท์เดินมาเจอเข้าจะไม่ได้ไปไหนกันพอดี” ขนมพายพูดพร้อมกับหันหน้าหันหลังชะเง้อมองไปด้วยอย่างหวาดระแวง
“เฮ่อ!!! จะรอดมั้ยเนี่ยกู” ออกัสบ่นกับตัวเองก่อนที่จะเดินตามทุกคนออกไป เค้าจะไม่ไปด้วยก็ดูจะยังไงอยู่ เพราะถ้าเพื่อนไปไหนเค้าก็พร้อมที่จะล่มหัวจมท้ายด้วยกันอยู่แล้ว
“ว้าว!!! สวยมากเลยครับ ถ้าพี่ไม่ได้มาด้วยคงได้พลาดอะไรสวยๆงามๆไปแน่ๆ เลยใช่มั้ยครับ” ฟ้าครามพูดออกมาพร้อมกับยิ้มกว้างทันทีที่ได้เห็นน้ำตกที่อยู่ท้ายไร่ หลังจากที่พวกเค้าขับผ่านสวนส้มกันมาแล้ว ความกังวลใจที่มีอยู่ของทุกคนก่อนหน้านี้ถูกภาพสวยงามตรงหน้ากลืนกินมลายหายสิ้นไปจนหมดแล้ว
“สวยมากเลยครับ ไม่น่าเชื่อว่าในไร่จะมีน้ำตกสวยๆแบบนี้อยู่ด้วย” นพพรที่อยู่บนรถกอล์ฟคนละคันกับฟ้าครามหันไปพูดกับข้าวปั้นพร้อมกับยิ้มกว้างออกมาจนตาหยีเพราะตั้งแต่พ่อและแม่ของเค้าเสียไปเค้าก็ไม่เคยได้ไปเที่ยวไหนอีกเลย
รถกอล์ฟทั้งสองคันจะมีพนักงานของรีสอร์ตเป็นคนขับให้เพราะว่าสาวิตรีบอกว่าหากจะให้ขับกันมาเองก็กลัวว่าจะหลงทางกันแล้วเดี๋ยวจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา
“ขอโทษนะครับ ถ้าพวกผมจะลงเล่นน้ำกันจะสะดวกพวกพี่รึเปล่าครับ” อยู่ๆข้าวปั้นก็ชะโงกหน้าไปถามพี่คนขับด้านหน้า เพราะพอเจ้าตัวเห็นน้ำใสๆแล้วก็อดที่จะอยากกระโดดลงไปเล่นไม่ได้
“เล่นครับเล่นพี่อยากเล่นมากเลยครับ พลีสส” สายน้ำที่อยู่รถคันหน้าพอได้ยินที่ข้าวปั้นถามออกก็รีบตะโกนบอกออกมาทันที ทำให้คนขับรถทั้งสองคันถึงกับยิ้มออกมาให้กับความน่ารักน่าเอ็นดูของสายน้ำที่ดูเหมือนเด็กๆที่จะเล่นของเล่นอย่างไงอย่างนั้น พวกเค้าจำกลุ่มของสายน้ำได้ดีเพราะเมื่อปีที่แล้วก็เป็นเค้าทั้งสองคนนี่แหละที่คอยขับรถพาไปนู่นไปนี่
“ได้ครับไม่มีปัญหาครับ ถ้าอย่างนั้นจะให้พวกผมจอดตรงไหนก็บอกได้เลยนะครับ รับรองว่าที่นี่ปลอดภัย 100% ครับ เพราะตรงนี้เราไม่ได้อนุญาตให้คนนอกเข้ามาครับแม้แต่นักท่องเที่ยวด้วย” พี่คนขับรถบอกออกไปยิ้มๆเค้าจะต้องเป็นตัวแทนของรีสอร์ตคอยดูแลความปลอดภัยให้กับกลุ่มของสายน้ำด้วย เพราะถูกทั้งพ่อเลี้ยงและแม่เลี้ยงสั่งกำชับแล้วกำชับอีก
“จอดตรงนี้ก็ได้ครับ ฮืออ น้ำน่าเล่นมากเลย” สายน้ำบอกคนขับรถให้จอดทันทีที่เห็นแอ่งน้ำตรงหน้าที่ดูไม่ค่อยลึกมากนัก ยังไงเค้าก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของทุกคนด้วย
“พี่ครับผมวานถ่ายรูปให้หน่อยได้มั้ยครับ” สายน้ำที่พกกล้องถ่ายรูปของตัวเองมาด้วยก็วานให้พี่ที่ขับรถมาให้ช่วยถ่ายรูปให้
หลังจากที่สายน้ำสอนวิธีการถ่ายรูปให้กับพี่คนขับแล้วก็เดินมารวมตัวกับทุกคนหน้าน้ำตก และแล้วมหกรรมการถ่ายภาพนิ่งก็เกิดขึ้นอย่างยาวนาน เพราะทุกคนทั้งโพสต์ท่าถ่ายภาพกลุ่ม ภาพคู่และภาพเดี่ยวกันอย่างไม่มีใครคิดจะยอมใครเลย โดยที่การถ่ายภาพคู่และภาพนิ่งนั้นจะเป็นทุกคนที่สลับกันถ่าย โดยพี่คนขับรถทั้งสองคนก็เพียงยืนดูอยู่ห่างๆ พร้อมกับคอยมองดูรอบๆไปด้วยเพื่อความปลอดภัย
“พี่ๆครับเรามาเล่นน้ำกันเถอะ เดี๋ยวพอเย็นแล้วจะอดเล่นซะก่อน” พอถ่ายรูปจนเป็นที่พอใจแล้วข้าวปั้นก็เป็นคนชวนทุกคนลงเล่นน้ำด้วยกัน
“น้องปั้นนำไปก่อนเลยครับ เดี๋ยวพี่ขอลงรูปในไอจีแป๊บ” สายน้ำพูดพร้อมกับกดๆจิ้มๆอยู่ที่มือถือของตัวเองหลังจากที่เค้าส่งรูปจากกล้องเข้ามาในมือถือแล้ว
“อ่า....เรียบร้อย” สายน้ำที่ลงรูปในไอจีเรียบร้อยแล้วก็พูดพึมพำอยู่กับตัวเอง และเค้าก็ไม่ลืมที่จะแท็กถึงทุกคนในรูปรวมทั้งวาริที่มาไม่ได้ด้วย
“อย่างสบายเลยอ่ะ เอาไว้วันไหนพาทุกคนมาที่นี่กันอีกรอบนะ” เบลพูดขึ้นมาหลังจากที่ทุกคนเล่นน้ำกันไปได้สักพักแล้ว ซึ่งทุกคนก็พากันพยักหน้ารับ
“พี่ว่านี่ก็ใกล้จะเย็นแล้ว เรากลับกันดีกว่ามั้ยครับ เดี๋ยวถ้าทุกคนตื่นมาไม่เจอเราจะเป็นห่วงกันซะเปล่าๆ” นพพรในฐานะพี่โตสุดหันไปบอกกับน้องๆที่ยังดูสนุกกันอยู่
“ก็ได้ครับ ไว้เดี๋ยววันหลังเราค่อยมากันใหม่มาให้เร็วกว่านี้หน่อยจะได้ไม่ต้องรีบ” พอนพพรบอกออกมาสายน้ำก็พยักหน้ารับเพราะถึงยังไงเค้าก็ต้องเชื่อคนที่เป็นผู้ใหญ่กว่าอยู่ดี ถึงแม้ว่าตัวเองยังไม่อยากที่จะกลับก็ตามที พอสายน้ำบอกออกไปอย่างนั้นทุกคนก็ค่อยๆทยอยกันเดินขึ้นมาจากน้ำ
“นี่ครับผ้าขนหนูครับ” พอทุกคนขึ้นมาจากน้ำแล้วพี่คนขับรถคันของสายน้ำก็รีบเดินเอาผ้าขนหนูมาแจกให้กับทุกคนทันที
“หืออ นี่เตรียมพร้อมขนาดนี้เลยเหรอครับดีจัง ขอบคุณมากเลยนะครับ ผมนึกว่าจะต้องนั่งสั่นไปจนถึงรีสอร์ตซะอีก” ขนมพายยื่นมือออกไปรับผ้าขนหนูเป็นคนแรกและพูดขึ้นยิ้มๆ
“ปกติก็ไม่ได้มีหรอกครับ แต่คุณสาเธอจัดเตรียมมาให้น่ะครับ เห็นว่าเดี๋ยวจะต้องผ่านน้ำตกเลยคิดว่าเตรียมมาเผื่อไว้น่าจะดีกว่าน่ะครับ” พี่คนขับรถบอกออกมาและยิ้มอย่างใจดีพร้อมกับเดินแจกผ้าขนหนูให้กับทุกคน ซึ่งทุกคนก็ยกมือไหว้ขอบคุณ
...
“อื้ออ.....” เหนือที่เริ่มรู้สึกตัวก็เริ่มขยับตัวและบิดขี้เกียจไปมา พร้อมกับมองหาคู่หมั้นของตัวเองไปด้วย
“หนูเบลครับ อยู่ในห้องน้ำรึเปล่าครับ” เมื่อมองหาไม่เจอเจ้าตัวจึงลุกขึ้นไปดูในห้องน้ำแต่ก็ยังไม่เจออยู่ดี
“หรือว่าจะออกไปเดินเล่นวะ” เหนือยังคงบ่นพึมพำกับตัวเองและเดินมาเพื่อที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือเพื่อที่จะโทรหาดู
แต่ก่อนที่เค้าจะได้กดโทรหาเบล เค้าก็เห็นข้อความเตือนจากไอจีของเบล รวมทั้งของสายน้ำ ออกัส วาริ และขนมพาย ที่เค้ากดติดตามไว้อยู่ปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอ เจ้าตัวจึงลองกดเข้าไปดู
“หืออออ!!!!!!!”
“พวกมึงโว้ยยยย!!! ตื่นกันได้แล้วโว้ยเมียพวกมึงหนีเที่ยวกันแล้ว ยังเสือกนอนกันอยู่ได้” เหนือรีบเดินออกมาจากห้องและตะโกนบอกกับดินและอิฐที่พักอยู่วิลล่าหลังเดียวกันทันที พร้อมกับยังเดินไปยังวิลล่าอีกสองหลังด้วย
Comments (0)