49 ตอน สามี-ภรรยา
โดย Beloved_Moouan
“ตื่นเต้นรึเปล่าครับ” อิฐหันไปถามข้าวปั้นเมื่อไฟขับรถที่เช่าเอาไว้มาจอดอยู่ตรงหน้าตึกที่พวกเค้าทั้ง 6 คู่จะต้องเข้าไปจดทะเบียนสมรสกัน
ตอนแรกคู่ของเหนือกับเบลไม่ได้กะจะมาจดทะเบียนสมรสด้วยหรอกเพียงแต่อยากตามมาเที่ยวด้วยเฉยๆ แต่พอเห็นว่าเพื่อนทั้ง 4 คนของเค้ารวมถึงรุ่นน้องคนสนิทอย่างอิฐได้จดทะเบียนสมรสพร้อมกันเจ้าตัวจึงคิดเปลี่ยนใจและคุยกับเบล ซึ่งเบลเองก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรเพราะทุกวันนี้ก็แทบจะกินอยู่ด้วยกันตลอดอยู่แล้ว เพียงแต่แค่หมั้นกันไว้และยังไม่ได้แต่งงานกันเท่านั้นเอง ดีซะอีกที่เจ้าตัวจะได้จดทะเบียนพร้อมกันกับเพื่อนอีก 3 คนด้วย
พอเบลตอบตกลงเหนือก็รีบโทรไปขออนุญาตพ่อและแม่ของเบลทันที ตอนแรกพวกท่านก็จะไม่ยอมเพราะว่าเบลยังเรียนไม่จบและยังเป็นผู้หญิงอีกด้วย แต่พอโดนลูกสาวอ้อนนิดอ้อนหน่อยทั้งสองท่านก็ยอมใจอ่อน เหนือจึงให้สัญญากับท่านทั้งสองไปว่าทันทีที่เบลเรียนจบจะขอเบลแต่งงานทันทีพร้อมกับจะจัดงานแต่งงานให้สมเกียรติไม่ให้น้อยหน้าใครอีกด้วย
“ตื่นเต้นไม่ตื่นเต้นไม่รู้ครับ แต่ที่แน่ๆมือปั้นนี่เย็นอย่างกับน้ำแข็งไปแล้ว พี่อิฐลองจับดูสิครับ” ไม่พูดเปล่าข้าวปั้นยังยกมือที่ติดซีดและสั่นมาให้กับอิฐได้ดูด้วย
“หึๆ เชื่อแล้วครับว่าตื่นเต้น แต่ที่ซีดแล้วก็สั่นนี่เพราะว่ามันหนาวใช่มั้ยครับ ไม่ใช่ว่าเป็นโรคขาดเลือดเน๊าะ” อิฐหันมาแซวคนรักพร้อมกับยื่นมือไปจับมือของข้าวปั้นมาใส่ถุงมือให้ ตอนแรกข้าวปั้นไม่ยอมใส่เพราะบอกว่าอึดอัดและไม่ชอบแต่ตอนนี้คงต้องยอมใส่แล้วล่ะ เพราะอากาศข้างนอกรถนั้นเย็นมาก ดีนะที่หลานสาวตัวน้อยของเค้าไม่ได้มาด้วยไม่อย่างนั้นแก้มแดงๆคงได้แตกเป็นแน่
“ป่ะไปกัน เดี๋ยวพอเสร็จจากนี่กูจะพาไปหาลุงหมอต่อเลยนะนัดเอาไว้แล้ว” ไฟหันมาบอกกับทุกคนเมื่อเห็นว่ายังไม่มีใครขยับเพราะมัวแต่ตื่นเต้นกันอยู่
...
“หนาวมั้ยครับคุณภรรยา” วายุหันมาถามสายน้ำด้วยใบหน้าที่ยิ้มกว้างเมื่อพวกเค้าทั้งหมดได้ผ่านการจดทะเบียนสมรสกันมาเรียบร้อยแล้ว
“ไม่ค่อยเท่าไหร่ครับน้องชอบอากาศเย็นๆแบบนี้ น้องอบอุ่นมากกว่าที่มีคุณสามีคอยอยู่ใกล้ๆ จุ๊บ! ขอบคุณนะครับที่คอยอยู่เคียงข้างกันตลอดมา น้องเป็นคนที่โชคดีที่สุดที่ได้มีพี่กายคอยอยู่ข้างๆกันในทุกๆวัน” สายน้ำเงยหน้าขึ้นไปบอกกับวายุพร้อมกับยิ้มกว้างส่งไปให้จนตาหยีโชว์ลักยิ้มบุ๋มสองข้างที่เป็นเอกลักษณ์ของเจ้าตัว พร้อมกับเขย่งขึ้นไปจูบที่ปลายคางของวายุ
“ขอบคุณเช่นกันนะครับที่ให้โอกาสพี่ขอบคุณที่คอยอยู่เคียงข้างกัน จุ๊บ!” วายุบอกออกมาและยิ้มกว้างกลับมาเช่นเดียวกันซึ่งเป็นภาพที่หาดูได้ยากมาก
ริมฝีปากหนาค่อยๆเคลื่อนลงมาจูบและละเลียดขบเม้มที่ริมฝีปากบางสีเชอรี่ของสายน้ำอีกครั้งอย่างไม่แคร์สายตาคนอื่นและเพื่อนๆที่มองมาอยู่ วายุมักจะแสดงความรักกับสายน้ำเช่นนี้เสมอเมื่อเค้าอยากที่จะทำมัน
“อะแฮ่มๆ เบาได้เบานะเพื่อน เดี๋ยวหิมะมันจะกลายเป็นเกล็ดน้ำตาลซะก่อนกูยังไม่อยากให้มดขึ้นเมืองนี้” และก็เป็นเหนืออีกเช่นเคยที่เดินเข้ามาขัดจังหวะสวีทของเพื่อน จนสายน้ำต้องซุกหน้าเข้ากับอกของวายุทันที วายุก็กอดสายน้ำเอาไว้จนแทบจะจมหายไปกับอกแกร่งพร้อมกับหันมามองเพื่อนตาขวาง
“อยากได้แบบนี้บ้างมั้ยครับคุณภรรยา ฟอด!” ดินหันมาถามฟ้าครามที่ยืนหน้าแดงบิดซ้ายบิดขวาพร้อมกับข้าวปั้นอยู่ เมื่อเห็นวายุกับสายน้ำยืนจูบกันอยู่ที่รถ
“อยากได้ครับ แต่เอาไว้คืนนี้ก่อนนะครับคุณสามี จุ๊บ!” ฟ้าครามหันมาบอกกับดินด้วยใบหน้าที่แดงจัด โดยที่เจ้าตัวนั้นเขย่งตัวขึ้นและจูบไปที่ริมฝีปากหยักของดินก่อนจะรีบวิ่งไปที่รถในทันที ทิ้งให้ดินได้แต่ยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่อย่างนั้นเมื่อได้ยินคนรักเรียกตัวเองว่าสามีเป็นครั้งแรก
“อ้าว!!! ไอ้ดินมึงจะไปมั้ยหรือจะยืนยิ้มอยู่แบบนั้นวะ เฮ้อ! เพื่อนกูแต่ละคนพอจดทะเบียนแล้วแม่งเพี้ยนกันไปหมด” เหนือตะโกนเรียกดินที่ยังยืนยิ้มอยู่คนเดียว จนคนอื่นเริ่มทยอยขึ้นรถกันไปหมดแล้ว
...
“งั้นก็ตกลงตามนี้นะ เดี๋ยววันมะรืนนี้เข้ามาหาลุงตามเวลาที่นัดกันเอาไว้ ส่วนเรื่องห้องพักฟื้นลุงได้จองห้องใหญ่เอาไว้ให้แล้วให้ได้อยู่ห้องเดียวกันทั้ง 3 คนเลย” นายแพทย์คณินบอกออกมาอย่างผู้ใหญ่ใจดี หลังจากที่ ออกัส ฟ้าครามและข้าวปั้นได้ผ่านการตรวจร่างกายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต่อจากนั้นพวกเค้าทั้ง 3 คู่ก็ได้มานั่งฟังรายละเอียดของการผ่าตัดและจัดการเซ็นเอกสารรับทราบและยินยอมเรียบร้อยแล้วด้วยเช่นกัน
“ขอบคุณคุณลุงมากเลยนะครับที่เป็นธุระจัดการเรื่องให้ทั้งหมด ถ้าไม่มีคุณลุงผมก็ไม่รู้ว่าจะไปปรึกษาใครเหมือนกัน” ไฟยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณผู้ใหญ่ตรงหน้าที่เปรียบเสมือนญาติแท้ๆของตัวเอง เพราะตอนที่ไฟยังเด็กๆอยู่นั้นนายแพทย์คณินยังอยู่ที่ประเทศไทยอยู่จึงไปมาหาสู่กับลุงของไฟอยู่เรื่อยจนทั้งสองครอบครัวสนิทกัน จนภายหลังนายแพทย์คณินก็ได้ย้ายตามภรรยาที่เป็นนักการฑูตมาประจำอยู่ที่ประเทศนี้เจ้าตัวจึงย้ายตามมาตั้งรกรากและลงหลักปักฐานอยู่ที่นี่เป็นการถาวรเลย
“ไม่เป็นไรหรอก ไฟกับเพื่อนของไฟทุกคนก็เหมือนกับหลานแท้ๆของลุงเช่นเดียวกัน ลุงดีใจนะที่ไฟเลือกที่จะมาปรึกษาลุงแล้วลุงก็ดีใจที่จะได้เห็นอนาคตของหลานๆทุกคนมีชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ สมัยนี้ไม่ต้องเฉพาะผู้ชายกับผู้หญิงเท่านั้นที่จะสามารถมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบได้ ผู้ชายกับผู้ชายก็สามารถมีได้เหมือนกันเดี๋ยวนี้โลกของเราเปิดกว้างขึ้นทุกทีแล้ว” นายแพทย์คณินหันมาบอกกับทุกคนและลูบไปที่ผมของไฟอย่างเอ็นดูเหมือนเมื่อตอนเด็กๆ เค้าอดจะภูมิใจไม่ได้ที่ได้เห็นหลานชายของเพื่อนสนิทเติบโตขึ้นมาเป็นคนดีและเป็นที่พึ่งให้กับครอบครัวได้ เพราะเพื่อนสนิทของเค้าก็ไม่ได้มีทายาทที่ไหน เพราะหลังจากที่ได้เสียภรรยาไปลุงของไฟก็ไม่ได้สนใจผู้หญิงคนไหนอีกเลย ท่านจึงทุ่มเทความรักมาให้กับหลานชายเพียงคนเดียวของท่านเท่านั้น
หลังจากที่อยู่พูดคุยกันได้อีกสักพัก ทุกคนก็ลานายแพทย์คณินกลับเพราะท่านมีคิวต้องผ่าตัดในช่วงบ่ายวันนี้ จากนั้นทั้ง 6 คนจึงเดินมาหาเพื่อนๆที่นั่งรออยู่ที่คาเฟ่ที่อยู่ติดกับโรงพยาบาล
“ไงเรียบร้อยดีมั้ยวะ” ทันทีที่เห็นหน้าเพื่อนหินผาก็ถามขึ้นทันที
“อือ...เรียบร้อยดี ลุงหมอนัดเข้ามาอีกทีวันมะรืนแล้วก็คงได้เริ่มผ่าตัดช่วงบ่ายเลย” ไฟเป็นคนบอกตอบหินผากลับไป ซึ่งทุกคนที่นั่งฟังอยู่ก็พยักหน้าเป็นอันเข้าใจ
“ถ้าอย่างนั้นวันนี้เราไปเดินเที่ยวเดินช้อปกันดีมั้ยครับ แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้กัส พี่ฟ้า แล้วก็น้องปั้นจะได้นอนพักผ่อนอยู่ที่ห้องเพื่อเตรียมผ่าตัดกัน ตกลงเอาตามนี้นะครับ แต่ว่าตอนนี้น้องปั้นครับเราไปเลือกเค้กกันดีกว่าพี่ยังไม่อิ่มเลยครับป่ะ” สายน้ำพูดเสนอขึ้นมาพร้อมกับเออออเองเสร็จสรรพ ซึ่งทุกคนก็ชินกันซะแล้วเพราะอะไรที่สายน้ำเสนอขึ้นมาเจ้าตัวก็มักจะสรุปเองแบบนี้ทุกที แต่ก็เป็นข้อเสนอที่ถือว่าดีทุกครั้ง เพราะบรรดาเหล่าแม่บ้านทั้งหลายก็พลอยพยักหน้าตามหงึกๆเห็นด้วยทุกครั้งไป
“หึๆ นี่ถ้าบางทีน้องน้ำไม่พูดอะไรที่ดูมีความคิดเป็นผู้ใหญ่ออกมานะ กูคงจะคิดว่าน้องน้ำกับน้องปั้นนี่อายุเท่ากันว่ะ” ดินพูดออกมายิ้มๆขณะที่มองดูเพื่อนซี้ต่างไวและขนาดตัวที่ต่างกันที่กำลังช่วยกันเลือกเค้กจนหน้าแทบจะติดตู้เค้กกันอยู่แล้ว ดีที่ทุกคนที่มาต่างก็เก่งภาษาด้วยกันทั้งนั้นจึงไม่เป็นอุปสรรคสักเท่าไหร่ในการช่วยเหลือตัวเอง
“อ่ะ นี่ครับของพี่ฟ้าปั้นรู้ว่าพี่ฟ้าชอบกินช็อกโกแลตม๊ากมากครับ ส่วนนี้ของพี่กัสพี่น้ำเป็นคนเลือกให้ครับ” ข้าวปั้นยกเค้กมาเสิร์ฟให้กับทุกคนที่นั่งอยู่เพราะทั้งเค้าและสายน้ำเลือกมาให้จนครบทุกคนจะยกเว้นก็แต่เหล่าบรรดาพ่อบ้านที่ไม่ค่อยจะชอบกินของหวานกันสักเท่าไหร่นักจะมีชิมบ้างนิดหน่อยก็เท่านั้นเอง
ระหว่างที่ทุกคนกำลังลงมือกินเค้กกัน วายุก็เดินไปหาสายน้ำที่กำลังรออเดอร์น้ำที่สั่งไปอยู่อย่างเงียบๆ
“พี่วายุนี่ดูรักน้องน้ำมากๆเลยนะครับ” อยู่ๆฟ้าครามก็พูดออกมาหลังจากที่เห็นว่าวายุนั้นเดินไปหาสายน้ำเพื่อที่จะช่วยสายน้ำยกน้ำมา เพราะมีหลายครั้งที่เค้าเห็นว่าวายุนั้นแทบจะไม่ปล่อยให้สายน้ำได้คาดสายตาเลย แต่ก็ไม่ถึงกับต้องตัวติดกันตลอดเวลา เพียงแต่ว่าวายุจะคอยสังเกตอยู่ตลอดว่าสายน้ำจะทำอะไร หรือต้องการให้ตัวเองเข้าไปช่วยหรือเปล่าโดยที่สายน้ำเองก็ไม่ต้องหันมาบอกหรือเรียกเลยสักครั้ง เหมือนกับว่ามันเป็นไปเองโดยอัตโนมัติมากกว่า
“คู่นี้เค้าผ่านอะไรมาด้วยกันเยอะครับ ไอ้วายุมันเกือบจะต้องเสียน้องน้ำไปแล้วถึงสองครั้งมันก็คงจะไม่อยากที่จะพลาดอีก เอาไว้พี่จะเล่าให้ฟังทีหลังนะครับ” ดินหันมาบอกกับฟ้าครามและก็มีอยู่แว๊บปหนึ่งที่แววตาของดินนั้นเศร้าลงไปแต่ก็เพียงแค่แป๊บเดียวเท่านั้นเอง และก็ไม่ใช่เฉพาะกับดินแต่ทุกคนก็เป็นเช่นเดียวกันหมด โดยเฉพาะอิฐที่ข้าวปั้นเห็นว่าแววตาของอิฐนั้นดูเศร้าลงไปถนัดตาเลยทีเดียวเมื่อได้ยินที่ดินพูด
“มาแล้วคร้าบบ กาแฟร้อนๆ โกโก้ร้อนๆ ครับ” ทันทีที่สายน้ำเดินมาที่โต๊ะบรรยากาศภายในโต๊ะก็เปลี่ยนกลับมาเหมือนเดิมทันที เพราะสายน้ำนั้นจะมีรอยยิ้มแทบจะตลอดเวลา ฟ้าครามก็ได้แต่มองหน้าคนทั้งสองสลับกันไปมาและยังคงสงสัยในสิ่งที่ดินพูดอยู่
หลังจากที่ทุกคนอิ่มกันแล้ว ไฟก็ขับรถพาทุกคนมาที่แหล่งช้อปปิ้งขึ้นชื่อของเมืองนี้และต่างพากันเดินดูและซื้อของจนสองมือของเหล่าพ่อบ้านนั้นแทบจะไม่มีนิ้วไหนที่ว่างเว้นแล้ว แต่ก็ไม่มีใครบ่นอะไรออกมาสักคำ เพราะพอได้เห็นรอยยิ้มของทุกคนแล้วมันก็บ่นอะไรไม่ออกจริงๆ
“น้ำมาดูชุดนี้สิน่ารักอ่ะ เบลว่าซื้อไปให้น้องของขวัญดีมั้ย” เบลชูชุดขึ้นมาให้ทุกคนดู ซึ่งเป็นชุดกระโปรงของเด็กผู้หญิงที่ค่อนข้างโตแล้ว
“สวยดีนะครับพี่เบล ชุดนี้ก็สวยนะครับ สีนี้ก็ด้วย วาว่าเอาไปทุกชุดเลยดีกว่า” พอพูดจบวาริก็หยิบทุกชุดออกมาไว้ที่มือของตัวเองโดยมีฟ้าครามและข้าวปั้นคอยเป็นฝ่ายสนับสนุนและคอยช่วยถืออยู่
“มึงว่ามั้ยไอ้ผา ชุดที่อยู่ในมือของน้องวาน่ะ มันเป็นชุดของเด็กโตประมาณ 7-8 ขวบไม่ใช่เหรอวะ แต่นี่หลานกูยังไม่ได้ขวบหนึ่งเลยน่ะเว้ย” เหนือพูดกระซิบเบาๆกับหินผาให้ได้ยินกันสองคน เพราะตอนนี้พวกเค้านั่งรอเหล่าแม่บ้านกันอยู่ที่หน้าร้าน
“หึๆ งั้นมึงก็เดินไปบอกเมียมึงสิวะ เมียมึงเป็นคนเริ่มก่อนเลยนี่” หินผาหันกลับไปบอกกับเหนือยิ้มๆและเค้าก็รู้ว่ามันคงไม่กล้าหรอก
“ขืนเดินไปบอกดีไม่ดีกูจะได้จองห้องใหม่น่ะสิ ใครจะกล้าไปบอกวะเล่นเหมาเกือบจะหมดร้านเค้าอยู่แล้ว” เหนือเองก็บ่นออกไปอย่างนั้นเอง เพราะถึงแม้ปากจะบ่นแต่ใบหน้าก็ยังคงยิ้มออกมาอยู่ดี พร้อมกับสายตาที่จับจ้องอยู่ที่เมียของตัวเองที่ดูสนุกกับการเลือกชุดไปฝากหลานสาวซะเหลือเกินแล้วอย่างนี้ใครจะกล้าเข้าไปขัดความสุขได้ลงคอ มีหวังแม่ได้วีนร้านแตกเป็นแน่
“พี่อิฐครับ กระเป๋าสองใบนี้สวยมั้ยครับ” เมื่อเดินมาถึงร้านกระเป๋าข้าวปั้นก็เดินเข้าไปดูด้าน และพอผ่านไปได้สักพักเจ้าตัวก็เดินออกมาพร้อมกับชูกระเป๋าสีดำที่มีสีแดงและสีเขียวคาดอยู่ตรงกลาง ส่วนอีกใบหนึ่งเป็นสีดำล้วนที่ดูเรียบๆ แต่ก็เก๋ดีไปอีกแบบมาให้กับอิฐได้ดู
“สวยครับทั้งสองใบเลย” อิฐตอบข้าวปั้นออกไปตามความจริง
“อืมม…พี่อิฐช่วยปั้นเลือกหน่อยสิครับว่าเอาใบไหนดี ปั้นเลือกไม่ถูกมันสวยกันคนละแบบน่ะครับ” ข้าวปั้นถามอิฐออกมาพร้อมกับทำหน้าลำบากใจเหมือนกับรักพี่เสียดายน้องอะไรทำนองนั้น
“หึๆ งั้นก็เอาทั้งสองใบเลยสิครับเอาไว้สลับกันใช้ก็ได้” อิฐบอกออกมาอย่างรู้ใจคนที่กำลังทำหน้าหนักใจอยู่
“แต่ว่ามันแพงนะครับ อีกอย่างพี่อิฐก็หมดเงินไปเยอะแล้วด้วย” ข้าวปั้นพูดออกมาเสียงอ่อยๆเพราะแค่ผ่านไปไม่ถึงชั่วโมงเค้าคาดว่าอิฐน่าจะหมดเงินไปเกือบครึ่งล้านได้แล้วมั้งดูได้จากถุงที่อยู่ในมือของอิฐในตอนนี้ เพราะที่นี่มีแต่ของแพงๆแล้วก็สวยๆทั้งนั้นเลย ต้องโทษพี่ไฟเลยที่เลือกพาพวกเค้ามาที่นี่กัน
“อย่าลืมสิครับว่าคุณภรรยามีสามีรวยนะครับ ถือซะว่าวันนี้เรามาฉลองให้กับทะเบียนสมรสของเราก็แล้วกันนะครับ แล้วก็จำเอาไว้นะครับว่าเมียคนเดียวพี่เลี้ยงได้ต่อให้จะซื้อมากกว่านี้อีก 10 เท่าพี่ก็มีปัญญาจ่ายให้ครับ จุ๊บ!” อิฐบอกออกมายิ้มๆและก้มลงมาจูบที่ริมฝีปากบางที่เม้มเข้าหากันอยู่ของภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเค้าหมาดๆ เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่เพิ่งผ่านมานี่เอง ทำให้ข้าวปั้นถึงกับหน้าแดงด้วยความเขินขึ้นมาทันทีกับคำพูดและการกระทำของคนรัก ดีหน่อยที่คนที่นี่ไม่ค่อยจะสนใจกันสักเท่าไหร่พวกเค้าจึงสามารถที่จะแสดงความรักผ่านภาษากายออกมาได้อย่างไม่เคอะเขินมากเท่าไหร่นัก
“งั้นปั้นจะซื้อให้หมดทุกร้านเลย จะเอาให้พี่อิฐหมดตัวเลยคอยดู” พอเขินเจ้าตัวก็พูดบ่นออกมาและกลั้นยิ้มเอาไว้จนแก้มพองลมก่อนที่จะเดินกลับเข้าไปจ่ายเงิน อิฐก็ได้แต่ยืนยิ้มอยู่อย่างนั้นเพราะพอเจ้าเด็กแสบของเค้าเขินขึ้นมาทีไรก็จะพาลหาเรื่องไปได้ซะทุกที แต่เค้าก็ชอบที่จะให้คนรักเป็นแบบนี้เพราะมันดูเป็นธรรมชาติและเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของข้าวปั้นที่เค้าชอบ
...
ตุ้บ!!!!
พออิฐเปิดประตูห้องเข้ามาข้าวปั้นก็กระโดดลงบนโซฟาตัวใหญ่เลยทันทีอย่างหมดแรง
“หึๆ ฟอดๆมันเหนื่อยขนาดนั้นเลยเหรอครับ หืมม” หลังจากที่วางถุงของที่ซื้อมาแล้วและถอดเสื้อโค้ตของตัวเองเรียบร้อยแล้ว เจ้าตัวก็ลงไปนั่งที่พื้นข้างๆโซฟาและหอมไปที่แก้มของคนที่นอนคว่ำและเอียงหน้ามาทางเค้าอยู่
“เหนื่อยมากเลยครับ ทำไมแค่เดินซื้อของอย่างเดียวมันถึงได้เหนื่อยขนาดนี้ล่ะครับเนี่ย” ข้าวปั้นพูดงอแงออกมาและเลื่อนตัวมากอดคอของอิฐเอาไว้ก่อนที่จะซบหน้าไปที่ซอกคอของอิฐ
“หึๆ เหนื่อยก็ไปอาบน้ำไปครับจะได้สบายตัวเดี๋ยวพี่นวดให้ แล้วนี่ไม่เหม็นเหงื่อพี่รึไงครับ หืมม” อิฐบอกออกมาอย่างใจดีก่อนที่ถามคนที่ซุกหน้าอยู่ที่ซอกคอของเค้า เพราะถึงแม้ว่าอากาศที่นี่จะค่อนข้างหนาว แต่ด้วยความที่พวกเค้าเดินกันเยอะจึงทำให้มีเหงื่อซึมๆบ้างเหมือนกัน
“พี่อิฐตัวหอมครับยิ่งเหงื่อออกก็ยิ่งหอมปั้นชอบ ฟอดๆ” ข้าวปั้นพูดเสียงอู้อี้อยู่ที่ซอกคอของอิฐแถมยังกดจมูกโด่งหอมไปที่ซอกคอของอิฐซ้ำๆกันอีก ทำให้อิฐถึงกับขนลุกขึ้นมาทันทีทั้งๆที่เจ้าตัวก็ไม่ได้คิดอะไรเลย
“อ๊ะ! เด็กแสบ ทำอะไรครับ” อิฐสะดุ้งขึ้นทันทีเมื่อรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาที่ซอกคอของตัวเอง พร้อมกับเอ่ยถามเด็กแสบที่ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาจากซอกคอของเค้าสักที
จ๊วบ!! จ๊วบ!!
“อื้ออ ปั้นครับ พอก่อนครับเดี๋ยวเราจะโดนแล้วนะ” อิฐกัดฟันพูดออกไปเมื่ออีกคนยังไม่ยอมหยุดที่จะดูดที่ซอกคอของเค้าและเค้าเองก็ไม่อยากที่จะทำอะไรรุนแรงกับน้องด้วยเพราะเดี๋ยวน้องก็ต้องเข้าผ่าตัดแล้ว แต่เด็กแสบของเค้านี่สิพอเห็นว่าที่นี่ต้องใส่เสื้อโค้ตไว้ตลอดตอนออกไปข้างนอกเด็กแสบของเค้าเลยได้ใจทำใหญ่เลย
“อ่าา…เสร็จแล้วครับ พี่อิฐดูสิเป็นรูปหัวใจเลย ปั้นเก่งมั้ยครับ” พอข้าวปั้นเงยหน้าขึ้นมาก็เอ่ยชมผลงานของตัวเองที่บรรจงสร้างไว้ที่คอของอิฐทันที
“หืออ!! รูปหัวใจเหรอครับ” อิฐพูดออกมาพร้อมกับใช้มือลูบๆคลำๆอยู่ที่ต้นคอของตัวเองก่อนที่จะลุกขึ้นไปส่องกระจกดู
หมับ!!!
“เป็นไงครับปั้นเก่งใช่มั้ยล่ะ ปั้นดูคลิปมาเลยอยากลองทำดูบ้าง สวยมั้ยครับ” ข้าวปั้นเข้ามาสวมกอดอิฐจากทางด้านหลัง ขณะที่อิฐกำลังดูผลงานของเด็กแสบที่ดูยังไงมันก็ยังไม่ใช่รูปหัวใจอยู่ดีมันก็แค่เป็นรอยดูดสองรอยต่อกันแค่นั้นเอง
“ครับสวยครับ เมียพี่เก่งที่สุดในโลกเลยครับ ฟอด!” อิฐหันกลับไปกอดข้าวปั้นและชมออกไปพร้อมกับหอมแก้มเป็นรางวัลฟอดใหญ่ เพราะถ้าขืนเค้าบอกว่าไม่สวยและไม่เหมือนรูปหัวใจมีหวังคงจะได้นอนที่โซฟาเป็นแน่
“คิ๊กๆ พี่อิฐของปั้นนี่น่ารักที่สุดเลยครับ นี่ขนาดปั้นดูยังไงก็ไม่เห็นจะเหมือนรูปหัวใจเลย แต่พี่อิฐก็ยังบอกว่าเหมือน ขอบคุณนะครับคุณสามี ปั้นรักพี่อิฐที่สุดในโลกเลยครับ จุ๊บๆ” ข้าวปั้นบอกออกมาพร้อมกับยิ้มกว้างจนตาหยีและจูบไปที่ริมฝีปากหยักย้ำๆ เค้าแค่นึกสนุกอยากจะลองใจอิฐดูก็เท่านั้นเองว่าอิฐจะว่ายังไง แต่ก็ไม่คิดว่าอีกคนจะน่ารักขนาดนี้
“หึๆ เด็กแสบนับวันจะยิ่งแสบนะเรา จุ๊บ!” อิฐได้แต่ส่ายหัวไปมาให้กับความแสบของเมียตัวเองและจูบไปที่หน้าผากแรงๆหนึ่งทีอย่างมันเขี้ยว
“แสบแล้วรักมั้ยครับ” ข้าวปั้นถามออกไปพร้อมกับเงยหน้ามามองอิฐตาแป๋ว
“ต่อให้แสบกว่านี้ร้อยเท่าพันเท่าพี่ก็รักครับ พี่รักปั้นนะครับรักที่สุด” อิฐบอกออกมาพร้อมกับกระชับกอดร่างบางเอาไว้แน่นด้วยความรักและหวงแหน
Comments (0)