46 ตอน ถ้าไม่ต้องตื่น
โดย Beloved_Moouan
“ปั้นน!!!!”
"เฮ้ย!!!!"
.
.
“ปั้น ปั้นครับ ปั้นตื่นเร็ว ปั้นอย่าเป็นอะไรนะ ทำไมทำแบบนี้ ทำไม” อิฐตะโกนเรียกข้าวปั้นอย่างคนขาดสติพร้อมกับเขย่าตัวข้าวปั้นไปมาเมื่อเอาตัวข้าวปั้นขึ้นมาจากอ่างอาบน้ำได้แล้ว
“ไอ้อิฐมึงตั้งสติก่อน พาน้องออกไปข้างนอกก่อนในนี้หายใจไม่สะดวก” ไฟรีบบอกกับรุ่นน้องพร้อมกับหันไปรับผ้าขนหนูมาจากวาริที่ยืนน้ำตาไหลอยู่ข้างๆหินผามาห่อตัวให้กับข้าวปั้นที่หมดสติอยู่
อิฐที่ได้ไฟช่วยเตือนสติก็รีบอุ้มข้าวปั้นออกไปที่ห้องโถงใหญ่ทันที พอดีกับที่ทุกคนที่ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจึงเดินมาเห็นเข้าพอดีเช่นกัน ทุกคนต่างก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ก็ไม่มีใครกล้าถามอะไรออกมาเพราะทุกคนยังวุ่นวายกันอยู่
“ปั้นครับ ปั้นตื่นขึ้นมาสิ ไม่มีปั้นแล้วพี่จะอยู่ยังไง พี่ขอร้อง” อิฐพูดบอกออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาเค้าเพิ่งเข้าใจความรู้สึกของวายุก็วันนี้นี่เองเมื่อวันที่เกือบจะสูญเสียคนรักไป อิฐพูดพร้อมกับตบไปที่หน้าของข้าวปั้นเบาๆ
“น้องน่าจะแค่สลบไปมึงใจเย็นๆก่อนไอ้อิฐตั้งสติดีๆสิวะ” ดินที่ตั้งสติได้ก่อนใครรีบเข้ามาดูข้าวปั้นพร้อมกับยกมือขึ้นมาอังที่จมูกและลองจับชีพจรของข้าวปั้นดูตามที่เคยได้อบรมมาตอนที่เป็นพี่ว๊ากแต่ก็พบว่ามันปกติดีเค้าจึงหันไปบอกกับรุ่นน้องตัวเอง
“กูว่าเปลี่ยนเสื้อผ้าให้น้องก่อนดีมั้ยวะ อยู่แบบนี้นานๆไม่ดีแน่” เหนือพูดขึ้นเมื่อพวกเค้ายืนดูสถานการณ์อยู่ห่างๆ เพราะห้องนี้ค่อนข้างที่จะแคบจึงไม่อยากที่จะทำให้ที่นอนสลบไม่ได้สติอยู่อึดอัด
“เดี๋ยวฟ้าไปเอาเสื้อผ้าของปั้นมาให้ครับ” ฟ้าครามเดินเข้าไปในห้องพร้อมกับวาริทันทีที่พูดจบ พอผ่านไปสักพักทั้งคู่ก็ออกมาพร้อมกับเสื้อผ้าชุดใหม่ของข้าวปั้นและในมือวาริก็ยังมีผ้าห่มผืนใหญ่ที่ไว้ใช้คลุมตัวให้กับข้าวปั้นอีกด้วย ต่อจากนั้นอิฐจึงจัดการเช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กับข้าวปั้นจนเสร็จเรียบร้อย โดยมีฟ้าครามคอยช่วยอยู่ด้วย
หลังจากนั้นวาริก็โทรให้หมอที่ประจำอยู่ที่ไร่ให้มาช่วยดูอาการของข้าวปั้นเพื่อตรวจดูให้แน่ใจอีกที แต่ก็พบว่าข้าวปั้นนั้นเพียงแค่สลบไปจริงๆ ไม่ได้ถึงกับเป็นอะไรมากทุกคนจึงเบาใจขึ้นมาหน่อย ยังดีที่ไร่แห่งนี้พ่อและแม่ของวาริได้สร้างคลินิกเล็กๆและจ้างหมอเอาไว้ เพื่อที่จะให้คนงานในไร่และสวนได้ไปรักษากันเวลาที่เจ็บป่วยไม่สบายกัน เพราะที่นี่ต้องใช้เวลาเดินทางถึงชั่วโมงครึ่งกว่าที่จะถึงตัวเมืองและโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด
“เกิดอะไรขึ้นวะ กูเห็นน้องดูไม่ค่อยร่าเริงตั้งแต่ตอนบ่ายๆหลังจากที่เก็บส้มกลับมากันแล้ว” ดินถามอิฐขึ้นมาเมื่ออิฐพาข้าวปั้นเข้ามานอนในห้อง ตอนนี้ทุกคนต่างก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนแล้วเมื่อเห็นว่าข้าวปั้นไม่เป็นอะไรมาก จะเหลือก็แต่หินผา ดิน เหนือ ไฟ และวายุ เท่านั้นที่ยังอยู่ในห้องเป็นเพื่อนอิฐอยู่
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันเฮีย ตอนที่พาน้องของขวัญไปนั่งเล่นก็ยังคุยกันดีๆอยู่เลย” อิฐตอบออกไปโดยที่มือยังคงลูบไปมาอยู่ที่มือเล็กของข้าวปั้นอยู่ และสีหน้าของอิฐนั้นก็ดูเครียดอยู่ตลอดเวลาทุกคนจึงไม่อยากทิ้งให้อิฐอยู่กับข้าวปั้นตามลำพัง
“กูว่าต้องมีอะไร ไม่อย่างนั้นน้องมันไม่เป็นถึงขนาดนี้หรอก เพราะจะบอกว่าอยู่ๆน้องอยากจะลงไปแช่น้ำอย่างนั้นก็คงจะไม่ใช่” ไฟพูดขึ้นมาบ้างเพราะตอนที่เค้าพังประตูห้องน้ำเข้าไปพร้อมกับอิฐ ภาพที่ทุกคนเห็นกันก็คือร่างของข้าวปั้นนั้นลงไปนอนจมอยู่ในอ่างอาบน้ำแล้วและน้ำในอ่างอาบน้ำก็ถูกเปิดจนเต็มและล้นออกมาอยู่ตลอด
“มึงค่อยๆนึกไอ้อิฐว่ามึงคุยอะไรกับน้องบ้าง ค่อยๆลำดับมา” วายุพูดเตือนสติอิฐอย่างใจเย็นเพราะเค้าดูออกว่าอิฐคงจะสับสนและเครียดอยู่มากเลยทีเดียว ถ้าเป็นเค้าก็คงจะเครียดไม่แพ้กันเมื่อต้องมาเจอภาพคนรักอยู่ในสภาพแบบนั้น
อิฐหลับตาลงพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าลึกๆและค่อยๆลำดับเหตุการณ์เผื่อว่าจะนึกอะไรออกมาขึ้นมาบ้าง
“พอผมอุ้มน้องของขวัญมาจากเฮียแล้ว ก็พากันมานั่งตรงแคร่ไม้ หลังจากนั้นผมก็จัดการเปลี่ยนแพมเพิสให้หลาน พอเปลี่ยนเสร็จผมก็นั่งมองหลานเล่นของเล่น” อิฐพยายามค่อยๆลำดับเหตุการณ์และพูดออกมาให้ทุกคนได้ฟัง
“หลังจากนั้นก็นั่งเล่นกันไปเรื่อยๆ แล้วน้องก็ถามผมว่าผมอยากมีลูกเป็นของตัวเองบ้างมั้ย ผมก็ตอบออกไปว่าอนาคตอยากจะมีสักสองคนจะได้เป็นเพื่อนเล่นกัน แล้วอีกอย่างจะได้มาช่วยกะ..............” พอเล่ามาถึงตรงนี้อิฐก็หยุดชะงักลงทันที และหันไปมองหน้าคนที่นอนหลับไม่ได้สติอยู่ทันที ก่อนจะหันไปมองหน้าเฮียๆทุกคนด้วยความตกใจ
“แล้วมึงก็ไม่ได้บอกน้องไปด้วยว่าใครจะเป็นแม่ของลูกมึงในอนาคตด้วยใช่มั้ย แล้วมึงก็ยังไม่ได้คุยเรื่องการวางแผนในอนาคตที่จะมีลูกกับน้องเลยด้วยใช่รึเปล่า” วายุถามออกมานิ่งๆเมื่อพอที่จะรู้สาเหตุแล้ว อิฐเองก็ได้แต่พยักหน้ารับ
“แถมตอนที่กูแซวมึงว่าซ้อมเลี้ยงลูก มึงก็ยังรับมุกกูอีก” ยิ่งดินพูดอิฐก็ยิ่งรู้สึกผิดขึ้นมาทันที ถ้าเค้าจะสังเกตน้องสักนิด น้องเงียบไปในทันทีและมีท่าทีเหม่อลอยให้ได้เห็นเมื่อเค้าบอกว่าอยากจะมีลูกสักสองคน
“มึงรู้อะไรมั้ยไอ้อิฐ ตอนที่กูบอกกับเมียกูว่าอยากจะมีลูกเป็นของตัวเองนะ กูทะเลาะกับเมียกูบ้านแทบแตก เมียกูแม่งเล่นไม่ฟังอะไรเลยไล่แต่ให้กูไปแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น หรือไม่ก็ไปหาผู้ชายที่ท้องได้มาอยู่ด้วยจะได้มีลูกสมใจแถมยังหนีกูกลับบ้านไม่ยอมฟังอะไรเลยอีกต่างหาก กว่ากูจะตามง้อตามอธิบายได้ก็เล่นกูซะเกือบตาย ดังนั้นมึงต้องพูดให้เคลียร์เว้ยว่าอนาคตมึงจะมีลูกกับใครอะไรยังไง นี่น้องคงจะคิดว่าอนาคตของมึงคงจะไม่มีน้องอยู่ด้วยถึงได้ออกมาเป็นแบบนี้
มึงฟังกูนะถ้าได้ขึ้นชื่อว่าเป็นมนุษย์เมียนี่ร้อยทั้งร้อยคิดมากฉิบหายไม่ว่าจะเรื่องเล็กเรื่องน้อยเรื่องขี้ปะติ๋ว แล้วมนุษย์เมียนี่แม่งก็โคตรเก่งเรื่องมโนเอาเรื่องนู้นเรื่องนี้มาผสมปนเปมาจินตนาการเข้าหากันเป็นตุเป็นตะได้หมดนั่นแหละ นี่ขนาดว่ากูอยู่ด้วยกันมาก่อนคู่มึงตั้งนานยังทะเลาะกันบ้านแทบแตกเลย แล้วนับประสาอะไรกับน้องที่มึงไม่เคยคุยอะไรเป็นเรื่องเป็นราวด้วยกันเลยวะ เฮ้อ!!” ไฟพูดออกมายาวเหยียดพร้อมกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“จริงอย่างที่ไอ้ไฟพูด ตอนแรกที่กูบอกกับฟ้านะว่าในอนาคตกูอยากจะมีลูก ฟ้านี่ร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรเลยแถมยังขังตัวเองอยู่แต่ในห้องน้ำ กูเลยต้องไปนั่งอธิบายให้ฟังอยู่ตรงหน้าประตูห้องน้ำกว่าจะเข้าใจกันกูนี่แทบจะปูเสื่อนอนตรงนั้นเลย” ดินพูดบอกประสบการณ์ที่ตัวเองได้เจอมาให้กับรุ่นน้องได้ฟัง
“ดีนะที่เมียกูท้องได้” อยู่ๆวายุและหินผากูพูดขึ้นมาพร้อมกันและหันมายักคิ้วกวนๆใส่กัน
“เออ..ดีนะที่กูมีเมียเป็นผู้หญิงปวดหัวฉิบหาย ไม่มีอะไรแล้วกูขอตัวไปนอนกกเมียกูก่อนนะ ป่านนี้หนีกูหลับไปแล้วมั้ง” เหนือพูดพร้อมกับเกาหัวแกรกๆเดินออกจากห้องไป
“พอน้องตื่นขึ้นมามึงก็ใจเย็นๆค่อยๆคุยกับน้องให้เข้าใจก็แล้วกัน พยายามพูดรวบรัดนะมึงไม่ต้องยืดเยื้อเดี๋ยวน้องจะจินตนาการเตลิดไปกันใหญ่ แล้วมึงก็จำให้ขึ้นใจเลยนะว่าถ้าเมียมึงบอกว่าไม่เป็นอะไรนั่นแหละมึงคือเป็นชัวร์ๆกูรับรองได้เลยกูเจอมาบ่อย กูไปล่ะ” ไฟพูดออกมาพร้อมกับตบไปที่ไหล่ของอิฐเบาๆเพื่อให้กำลังใจ วายุและหินผาเองก็ลุกไปพร้อมกับไฟด้วยและหันมาพยักหน้าให้อิฐเป็นกำลังใจ
“ถ้าได้คุยกันแล้วมึงก็บอกถึงแผนอนาคตที่มึงได้คุยไว้กับพวกกูให้กับน้องฟังไปด้วยเลย น้องจะได้สบายใจว่าอนาคตของมึงจะต้องมีน้องอยู่ในนั้นด้วยแน่นอน มันไม่เกี่ยวหรอกนะเว้ยว่าน้องจะอายุเท่าไหร่หรือว่าจะพร้อมหรือเปล่าในตอนนี้ แต่มันคือความเชื่อมั่นที่มึงจะต้องมีให้กับน้องก็เท่านั้นเอง” ดินพูดบอกกับรุ่นน้องคนสนิทออกไป
“ขอบใจพวกเฮียๆมากนะที่คอยให้คำปรึกษาแล้วก็อยู่ข้างกันตลอด ถ้าผมไม่ได้พวกเฮียผมก็คงจะไม่รู้อะไรเลย” อิฐหันไปบอกกับดินยิ้มๆจากใจจริง
“มึงอย่ามาซึ้งไอ้อิฐกูขนลุกว่ะ หึ่ย!! กูไปหาเมียกูดีกว่า” ดินพูดออกมาพร้อมกับทำท่าขนลุกไปด้วยจนอิฐยังต้องขำออกมา
พอทุกคนออกไปจากห้องกันหมดแล้วอิฐก็หันมามองคนที่ยังคงนอนหลับหมดสติอยู่ ใบหน้าที่เคยยิ้มเมื่อสักครู่กลับมานิ่งเหมือนเดิม จริงอยู่ว่าเค้าอยากที่จะมีลูกเป็นของตัวเอง แต่ถ้าแม่ของลูกเค้าไม่ใช่คนที่อยู่ตรงหน้านี้แล้วล่ะก็เค้าก็ไม่มีทางที่จะมีได้หรอก
ทั้งอิฐ ดิน และไฟ ต่างก็คุยและวางแผนอนาคตครอบครัวและการมีลูกเอาไว้บ้างแล้ว เพราะว่าไฟนั้นมีเพื่อนสนิทของลุงที่เป็นหมออยู่ที่ต่างประเทศ และพอเค้าได้คุยและปรึกษาเรื่องนี้กับเพื่อนสนิทของลุงไปจึงได้พบว่าประเทศที่เพื่อนสนิทของลุงอยู่นั้นมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่สามารถที่จะปลูกถ่ายมดลูกให้กับผู้ชายที่ต้องการจะตั้งท้องด้วยตัวเองได้แล้ว หากคู่รักคู่ไหนไม่ต้องการที่จะอุ้มบุญ แต่ก็มีข้อแม้คือว่าจะต้องเป็นคู่รักที่ผ่านการจดทะเบียนกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วเท่านั้นเอง
และไฟเองก็มีแพลนเอาไว้ว่าเดี๋ยวพอกลับจากนี่ไปก็จะพาออกัสนั้นบินไปจดทะเบียนสมรสพร้อมกับปลูกถ่ายมดลูกด้วยเลยในช่วงที่ยังปิดเทอมอยู่นี้ เพราะการปลูกถ่ายมดลูกนั้นต้องใช้เวลาถึง 1 ปี กว่าที่มดลูกนั้นจะแข็งแรงและสมบูรณ์พอที่จะสามารถตั้งครรภ์ได้ เพราะไฟเองกะเอาไว้ว่าพอออกัสเรียนจบก็จะแต่งงานโดยทันทีพร้อมกับปั๊มลูกเลยเช่นกัน
ส่วนดินและอิฐนั้นยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นตอนไหนเพราะต้องปรึกษากับคนรักของตัวเองเสียก่อนและพอตกลงกันได้ก็จะบินไปพร้อมกันเลย จึงปล่อยให้ไฟได้ล่วงหน้าไปก่อน
…
“น้องปั้นเป็นยังไงบ้างครับ” พอดินเปิดประตูเข้ามาฟ้าครามที่นอนเล่นมือถือรอดินอยู่บนเตียงก็ถามดินขึ้นมาทันที
“ยังไม่ฟื้นเลยครับคงน่าจะดึกๆหรือไม่ก็พรุ่งนี้เช้าเลย จุ๊บ!” ดินขึ้นมานอนบนเตียงและดึงฟ้าครามเข้ามากอดเอาไว้แนบอก ก่อนที่จะตอบออกไปและก้มลงไปจูบที่หน้าผากมนของคนรัก
“แล้วพี่ดินรู้มั้ยครับว่าทำไมน้องปั้นถึงทำแบบนั้น” ฟ้าครามถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่เศร้าเพราะข้าวปั้นที่ทุกคนเห็นนั้นและรู้จักนั้น เป็นเด็กที่ดูร่าเริงอยู่แทบจะตลอดเวลาเค้านึกไม่ออกเลยว่าอะไรที่ทำให้น้องตัดสินใจทำแบบนั้นไป หรือคิดอีกทีอาจจะเป็นอุบัติเหตุก็ได้น้องอาจจะไม่ได้ตั้งใจ
“เฮ้อ!! ฟ้าจำที่พี่เคยบอกฟ้าเรื่องที่พี่อยากจะมีลูกได้รึเปล่าครับ” ดินถามฟ้าครามออกมา พร้อมกับจับมือฟ้าครามมาเล่นไปด้วย
“จำได้สิครับตอนนั้นฟ้าเสียใจแทบแย่แน่ะ นี่อย่าบอกนะครับว่า....” ฟ้าครามพูดออกมาเสียงดังพร้อมกับเงยขึ้นมามองหน้าดินด้วยดวงตาที่โตทันที
“ใช่ครับ พอดีว่าน้องปั้นเห็นไอ้อิฐนั่งเล่นอยู่กับน้องของขวัญน่ะ เลยถามไอ้อิฐไปว่าอยากมีลูกเป็นของตัวเองบ้างรึเปล่า ไอ้นั่นก็พาซื่อตอบออกไปว่าอนาคตอยากจะมีสักสองคน โดยที่ไม่ทันได้สังเกตท่าทีหรืออาการของน้องปั้นเลย ทำให้น้องปั้นอาจจะคิดมากว่าไอ้อิฐอาจจะทิ้งตัวเอง เหมือนกับที่น้องกัสแล้วก็ฟ้าคิดน่ะครับ แต่นี่ก็แค่ข้อสันนิษฐานของพวกพี่ๆเท่านั้นน่ะครับ ต้องรอให้น้องปั้นฟื้นขึ้นมาก่อนถึงจะรู้ความจริงกัน” ดินบอกกับฟ้าครามออกไป ฟ้าครามก็ได้แต่คิดเห็นใจข้าวปั้นเพราะว่าหัวอกเดียวกัน เป็นใครใครจะไม่คิดมากบ้างในเมื่อตัวเองก็ไม่ใช่ผู้หญิงและก็ไม่ใช่ผู้ชายที่ท้องได้เหมือนสายน้ำกับวาริด้วย
“เฮ้อ!! หวังว่าทั้งคู่จะปรับความเข้าใจกันได้เร็วๆนะครับ” ฟ้าครามได้แต่ถอนหายใจออกมาและส่งกำลังใจไปให้คนทั้งคู่
…
“อื้ออ...แค่ก!! แค่ก!!” อิฐที่นั่งหลับอยู่บนเตียงโดยที่ยังไม่ได้ปิดไฟแต่อย่างใด พอได้ยินเสียงข้าวปั้นก็รีบลุกขึ้นจากเตียงแล้วไปรินน้ำเตรียมรอไว้ให้น้องในทันที
“ดื่มน้ำก่อนนะครับ” อิฐยกตัวข้าวปั้นขึ้นมาทั้งๆที่ข้าวปั้นยังไม่ทันที่จะได้ลืมตา พร้อมกับใช้หลอดจ่อไปที่ริมฝีปากบางของข้าวปั้น ข้าวปั้นเองก็รีบดูดน้ำเข้าไปในทันทีเหมือนกัน
“ปั้นครับ ปั้นได้ยินพี่มั้ยครับ” พอดื่มน้ำเสร็จเรียบแล้วอิฐจึงค่อยๆจับข้าวปั้นให้ลงไปนอนตามเดิมและถามขึ้นอย่างคนใจร้อน
“ครับ” ข้าวปั้นที่ยังดูมึนๆงงๆอยู่ตอบออกมาทั้งๆที่ยังไม่ได้ลืมตา อิฐที่เห็นดังนั้นจึงยังไม่อยากที่จะเร่งถามอะไรมากนักทั้งๆที่ในใจเค้านั้นร้อนรนไปหมดแล้ว
พอผ่านไปสักพักข้าวปั้นจึงค่อยๆลืมตาขึ้นมาพร้อมกับมองไปรอบๆห้องอย่างงงๆ เพราะเค้าจำได้ว่าภาพสุดท้ายนั้นก็คือเค้าต้องการที่จะสงบจิตใจของตัวเองจึงเดินไปเปิดน้ำในอ่างอาบน้ำและลงไปแช่ทั้งตัวโดยที่ยังไม่ทันที่จะได้ถอดเสื้อผ้าออกเลยด้วยซ้ำไป จากนั้นเค้าก็นอนหลับตาลงพร้อมกับคิดเล่นๆว่าถ้าไม่ต้องตื่นขึ้นมารับรู้อะไรอีกเลยก็คงจะดีไม่น้อยเลยทีเดียว หลังจากนั้นก็เหมือนกับว่าตัวเค้าเองไม่รู้สึกหรือรับรู้อะไรอีกเลย
“ปั้นมานอนตรงนี้ได้ยังไงครับ” พอเจ้าตัวหันมาเห็นหน้าของอิฐที่นั่งมองอยู่ก็เอ่ยถามขึ้นทันที
“ปั้นจำได้มั้ยครับว่าตอนที่ปั้นอยู่ในห้องน้ำปั้นทำอะไรเป็นอย่างสุดท้ายครับ” อิฐถามออกไปอย่างใจเย็นเพราะอีกคนดูจะยังงงๆมึนๆอยู่
“ปั้นจำได้ว่าปั้นลงไปนอนแช่ในอ่างอาบน้ำครับ แล้วปั้นน่าจะเผลอหลับไปน่ะครับ” ข้าวปั้นตอบออกไปตามความจริงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น พร้อมกับส่งยิ้มไปให้กับอิฐแต่อิฐก็รู้ว่ายิ้มนั้นมันเป็นยิ้มที่ฝืน เพราะตอนนี้ในแววตาของคนรักของเค้านั้นมันมีแต่ความเศร้าเต็มไปหมดไม่เหลือเค้าความสดใสอย่างที่เคยเป็นไว้เลย
“พี่อิฐร้องไห้ทำไมครับ ปั้นไม่ได้เป็นอะไรแล้วซะหน่อย ปั้นขอโทษนะครับที่ปั้นต้องทำให้พี่อิฐเป็นห่วง ปั้นนี่ใช้ไม่ได้จริงๆเลยใช่มั้ยครับ เอาไว้ปั้นจะไถ่โทษให้นะครับที่ทำให้พี่อิฐต้องเป็นห่วง” ข้าวปั้นยังฝืนยิ้มส่งไปให้อิฐและพยายามที่จะพูดคุยให้เป็นปกติที่สุดเท่าที่ตัวเองจะทำได้
หมับ!!!
“ฮึก!! พี่ขอโทษครับ พี่ขอโทษ พี่ขอร้องปั้นอย่าทำแบบนี้อีกได้มั้ยครับ พี่ใจจะขาดตายอยู่แล้วรู้มั้ย พี่อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีปั้น ไม่มีใครมาแทนที่ปั้นได้ทั้งนั้น และแม่ของลูกพี่ก็ต้องเป็นปั้นคนนี้คนเดียวเท่านั้นด้วยไม่ใช่คนอื่น พี่ขอโทษครับที่พูดออกไปไม่คิด ขอโทษที่พี่บอกปั้นออกไปไม่หมด ฮึก!!” อิฐโผเข้ากอดเข้าปั้นพร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมาอย่างไม่คิดอายและพูดสารภาพความในใจออกมาจนหมด เค้าคิดไม่ออกเลยว่าถ้าเค้าเข้าไปช่วยน้องไว้ไม่ทันจะเกิดอะไรขึ้นและเค้าจะอยู่ต่อไปได้ยังไง
ข้าวปั้นที่ได้ยินดังนั้นก็ยิ้มออกมาทั้งน้ำตา หัวใจที่เคยห่อเหี่ยวก็กลับมาเต้นเป็นจังหวะอีกครั้ง ถึงแม้ว่าเค้าจะไม่รู้ว่าที่อิฐพูดว่าเค้าจะต้องเป็นแม่ของลูกนั้นมันจะเป็นไปได้มากน้อยเพียงใดหรือจะต้องทำอะไรยังไงบ้างก็ตาม แค่นี้เค้าก็พอใจมากแล้ว
"ฮึก!! ปั้นขอโทษนะครับ ปั้นไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ปั้นแค่อยากหลับโดยที่ไม่ต้องคิดอะไรแค่นั้นเองจริงๆนะครับ ฮึก!!" ข้าวปั้นตอบอิฐออกไปตามที่ตัวเองรู้สึกจริงๆ เพราะถ้าไม่อย่างนั้นเค้าก็คงจะคิดมากและคิดไปไกลจนใจเค้าเจ็บปวดไปหมด เค้าแค่อยากที่จะทำให้ตัวเองได้หยุดคิดและหลับพักผ่อนโดยที่ไม่ต้องคิดและไม่ต้องรับรู้อะไรอีกก็แค่นั้นเอง
"ไม่เป็นไรนะครับ ปั้นนอนพักต่อนะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นมาตอนเช้าเราค่อยมาคุยกันนะครับ พี่มีเรื่องจะคุยกับปั้นเยอะแยะเลยรวมถึงเรื่องลูกของเราด้วย" อิฐส่งยิ้มไปให้กับข้าวปั้นพร้อมกับเช็ดน้้ำตาให้กับตัวเองและข้าวปั้นไปด้วย
อิฐที่เห็นว่าข้าวปั้นนั้นยังคงหน้ายังคงซีดอยู่จึงอยากให้น้องได้นอนพักผ่อนให้เต็มที่ซะก่อนเพราะนี่ก็ดึกมากแล้วด้วย เค้าน่าจะคุยกับน้องให้เป็นเรื่องเป็นราวตั้งนานแล้ว เค้าไม่น่ารอเวลาให้มันผ่านล่วงเลยจนมาถึงวันนี้อย่างที่พี่ๆเคยเตือนเคยบอก เค้าเพียงแต่คิดว่าข้าวปั้นนั้นยังเด็กและคงจะยังไม่ถึงเวลาที่น้องจะต้องรู้ แต่ตัวเค้าเองก็ลืมไปว่าเค้าจะต้องสร้างความมั่นใจให้กับน้องด้วยเหมือนกัน ถึงภายนอกข้าวปั้นจะดูสดใสร่าเริงแต่เค้ารู้ดีว่าคนรักของเค้านั้นเป็นคนที่ค่อนข้างคิดมากคนหนึ่งเลยทีเดียว
"พี่อิฐนอนกอดปั้นนะครับ" ข้าวปั้นพูดพร้อมกับส่งสายตาอ้อนวอนมาให้อิฐอย่างน่าเอ็นดู
"ได้ครับ เดี๋ยวพี่ขอไปปิดไฟก่อนนะครับ" อิฐยิ้มออกมาให้กับความขี้อ้อนของคนรักและลุกขึ้นเดินไปปิดไฟ ต่อจากนั้นจึงขึ้นมานอนและดึงข้าวปั้นมากอดเอาไว้ ข้าวปั้นเองก็ซุกหน้าเข้ากับแผงอกอุ่นของอิฐโดยทันทีเหมือนกัน
"พี่รักปั้นนะครับ รักยิ่งกว่าชีวิตของพี่เสียอีก ไม่มีทางที่พี่จะปล่อยมือจากปั้นไปได้ปั้นจำคำพี่ไว้นะครับ จุ๊บ!" อิฐเอ่ยบอกกับข้าวปั้นผ่านความมืดและจูบลงที่หน้าผากของข้าวปั้น จนกระทั่งเค้าสัมผัสได้ถึงความชื้นแฉะที่หน้าอกของตัวเองพร้อมกับเสียงสะอึกสะอื้นของคนในอ้อมกอด
"ชู่ววว~ ไม่ร้องนะครับคนเก่ง หากจะมีใครผิดพี่ขอเป็นฝ่ายผิดเองคนเดียว รู้ทั้งรู้ว่าปั้นเป็นคนคิดมากแต่พี่ก็ยังปล่อยมันผ่านไป อย่าคิดมากอีกเลยนะครับเด็กดีของพี่ นอนซะนะครับพี่จะอยู่ตรงนี้กับปั้นตลอดไปเอง" อิฐพูดปลอบออกมาพร้อมกับลูบไปมาที่หลังของข้าวปั้นเป็นการปลอบไปด้วย ข้าวปั้นเองก็ได้แต่พยักหน้ารับ และพอผ่านไปสักพักคนในอ้อมกอดก็นิ่งลงไปในที่สุด
พอเห็นว่าคนรักหลับไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อิฐจึงเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมาและกดส่งข้อความหาไฟและดิน จากนั้นจึงวางโทรศัพท์ลงและหันกลับมากระชับกอดคนในอ้อมกอดอีกครั้งและหลับไปในที่สุดด้วยความเพลีย
Comments (0)