32 ตอน ทวงของขวัญ
โดย Beloved_Moouan
“พี่ดินครับ ตื่นได้แล้วครับลุกขึ้นไปใส่บาตรกันนะครับ” ฟ้าครามปลุกดินให้ตื่นตั้งแต่เช้าเพราะวันนี้เป็นวันเกิดของดิน
“ครับๆตื่นแล้วครับ” ดินที่พอได้ยินฟ้าครามเรียกก็รีบลุกขึ้นมาทันทีแบบไม่มีโอ้เอ้เลย เพราะเมื่อคืนเค้าทั้งสองคนได้ตกลงและคุยกันแล้วว่าเช้านี้จะตื่นมาใส่บาตรด้วยกัน
พอทั้งคู่ล้างหน้าล้างตาและเปลี่ยนเสื้อผ้ากันเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินลงมาด้านล่างเพื่อเตรียมใส่บาตร ส่วนเรื่องของใส่นั้นบาตรป้าเตือนหัวหน้าแม่บ้านของสายน้ำก็ตระเตรียมเอาไว้ให้เสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว
“สุขสันต์วันเกิดนะครับ ฟ้าขอให้พี่ดินได้พบเจอแต่สิ่งที่ดีๆ ปลอดภัยแคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งหลายทั้งปวง ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บมาเยือน แล้วก็รักฟ้าให้มากๆด้วยนะครับ ฟ้ารักพี่ดินนะครับ จุ๊บๆ” พอทั้งคู่ใส่บาตรกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฟ้าครามก็ถือโอกาสอวยพรวันเกิดให้กับดินเป็นคนแรก และจบท้ายด้วยการจูบไปริมฝีปากหยักหนา
“จุ๊บ! ขอบคุณนะครับคนดีของพี่ ว่าแต่ว่าประโยคหลังนี่มันใช่คำอวยพรเหรอครับ หืมม” ดินจูบไปที่ริมฝีปากบางของฟ้าครามเป็นการขอบคุณเช่นเดียวกันและเอ่ยแซวออกมายิ้มๆ ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินกอดประคองกันเข้ามาในบ้าน
“ประโยคหลังนี่เป็นการท่องมนต์ใส่ครับ พี่ดินจะได้รักฟ้าให้มากๆไงครับ” ฟ้าครามบอกออกไปยิ้มๆและนั่งลงที่ตักของดิน
“หึๆ ไม่ต้องท่องมนต์ใส่พี่หรอกครับ แค่นี้พี่ก็ทั้งรักทั้งหลงจนไปไหนไม่รอดแล้วครับ” ดินพูดพร้อมกับใช้จมูกโด่งคลอเคลียปัดป่ายไปมาอยู่ที่แก้มใสที่เค้าแสนจะหลงใหล หรือถ้าจะเรียกให้ถูกก็คือเค้าหลงทุกส่วนทุกตารางนิ้วที่เป็นฟ้าครามเลยก็ว่าได้
“ฟ้าเองก็หลงพี่ดินเหมือนกันครับ หลงจนไปไหนไม่ได้แล้ว” ฟ้าครามพูดพร้อมกับใช้นิ้วเรียวลูบไล้ไปตามกรอบหน้าคมชัดของดิน และไล่ไปยังคิ้วเข้มก่อนที่จะค่อยๆลงไปที่จมูกโด่งและริมฝีปากหยักหนาอย่างหลงใหลเช่นเดียวกัน ดินเองก็ยกยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจเมื่ออีกคนก็ทำท่าว่าจะหลงเค้าไม่แพ้กัน
“แล้ววันนี้ฟ้าอยากไปไหนรึเปล่าครับ แล้วเดี๋ยวบ่ายๆเราค่อยกลับมาช่วยน้องน้ำเตรียมงานกัน” หลังจากที่นั่งคลอเคลียกันอยู่ได้สักพัก ดินก็ถามฟ้าครามขึ้นมาเพราะวันนี้เค้าทั้งสองพร้อมใจกันลาหยุดงานหนึ่งวัน โดยขอให้คุณเจนเนตรเป็นคนรับเรื่องของฝ่ายต่างๆไว้ให้
วันนี้สายน้ำขอเป็นเจ้าภาพเรื่องสถานที่และอาหารการกินเอง เพราะวันนี้สายน้ำมีเรียนแค่ช่วงเช้าวิชาเดียว เสร็จแล้วตอนบ่ายจึงจะกลับมาจัดการทุกอย่างเอง โดยทุกคนสัญญาว่าจะเลิกงานเร็วๆเพื่อที่จะได้มีเวลามาเจอและคุยกันให้มาก ส่วนคนที่ต้องไปเรียนก็จะรีบกลับมาให้เร็วที่สุดด้วยเหมือนกัน เพราะนานๆทีพวกเค้าจะมีโอกาสสำคัญๆที่จะได้มารวมตัวกันครบสักที หรือจะพูดให้ดีมันก็คือข้ออ้างที่จะมาใช้รวมตัวและดื่มสังสรรค์กันนั่นเอง
“อืมม....ฟ้าอยากไปไหว้พระแล้วก็ทำบุญถวายสังฆทานสักหน่อยน่ะครับ แล้วก็ไปนั่งหาอะไรๆอร่อยๆกินที่ร้านคาเฟ่ร้านโปรดของฟ้ากัน ฟ้าจะได้ซื้อเค้กมาฝากน้องๆด้วย แล้วเดี๋ยวเราจะได้กลับมาช่วยน้องน้ำกัน” ฟ้าครามทำท่านึกและบอกดินออกไป
“โอเคงั้นก็ตามนี้เลยครับ พี่เองก็ไม่ได้ไปทำบุญนานแล้วเหมือนกัน งั้นเราขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวกันดีกว่านะครับ เดี๋ยวสายกว่านี้แดดจะร้อนเอา ฟอด!” พูดจบดินก็อดที่จะหอมลงไปที่แก้มนุ่มของคนหน้าสวยที่นั่งมองหน้าเค้าอยู่ไม่ได้ จากนั้นทั้งคู่ก็เดินโอบเอวประคองกันขึ้นไปด้านบนเพื่ออาบน้ำแต่งตัวกัน
...
“พี่ดินครับ ไปให้อาหารปลากันก่อนนะครับแล้วเดี๋ยวค่อยไปกัน” พอถวายสังฆทานกันเสร็จเรียบร้อยแล้วฟ้าครามก็ชวนดินไปให้อาหารปลาที่อยู่ด้านหลังของวัด
วัดนี้เป็นวัดที่ฟ้าครามเคยมาทำบุญกับพ่อและแม่แล้วสองถึงสามครั้งด้วยกัน เจ้าตัวจึงเลือกที่จะพาดินมาที่วัดนี้ เพราะค่อนข้างที่จะคุ้นเคยเป็นอย่างดี บรรยากาศที่นี่โอบล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ทำให้มีลมพัดเย็นสบายตลอดทั้งวัน
“เย็นดีจังเลยนะครับ รู้สึกดีจังพอได้ทำบุญแล้วพี่ดินว่ามั้ยครับ” ฟ้าครามหันมาคุยกับดินขณะที่ทั้งคู่กำลังให้อาหารปลากันอยู่
“ครับ พี่เห็นฟ้ารู้สึกดีและสบายใจพี่ก็พลอยรู้สึกดีไปด้วย” ดินหันมาบอกและมองหน้าคนรักที่กำลังฉีกยิ้มมาให้กับเค้าจนตาหยีและหันกลับไปเงยหน้ารับลมเย็นๆที่ยังพัดเข้ามาไม่หยุด
วันเกิดปีนี้ของเค้าถือว่าเป็นปีที่พิเศษเอามากๆ เพราะทุกปีที่ผ่านมาเค้าไม่ค่อยจะให้ความสำคัญกับมันสักเท่าไหร่นัก และก็ไม่เคยคิดที่จะจัดงานวันเกิดเลยด้วยซ้ำไป เพราะเค้าเองรู้สึกเขินๆที่คนตัวใหญ่ๆแบบเค้าจะต้องมานั่งเป่าเค้กเป็นเด็กๆ โดยมีทุกคนคอยมาปรบมือและร้องเพลงให้ แค่คิดเจ้าตัวก็ขนลุกขึ้นมาแล้ว
แต่ก็เป็นเพราะฟ้าครามและสายน้ำที่เสนอตัวว่าอยากที่จะจัดงานวันเกิดให้กับเค้า เค้าเลยขัดไม่ได้หรือไม่คิดที่จะขัดนั่นเอง ก็ทั้งแฟนและน้องชายสุดที่รักขอมาแบบนี้เป็นใครจะกล้าขัดได้ลง เพราะเดี๋ยวจะได้มีงอนกันอีก
“เราไปกันเลยมั้ยครับ ฟ้าอยากกินเค้กแล้ว” พอให้อาหารปลาและยืนรับลมไปได้สักพักฟ้าครามก็หันมาชวนดิน ซึ่งดินเองก็พยักหน้ารับและเดินจูงมือฟ้าครามไปที่รถเพื่อไปที่ร้านคาเฟ่ต่อ
วันนี้เป็นวันที่คนทั้งคู่ต่างปล่อยตัวปล่อยใจปล่อยสมองไปกับวันสบายๆโดยที่ไม่ต้องคิดอะไรกันเยอะ ทั้งคู่นั่งคุยกันบ้าง กินเค้กกินกาแฟกันบ้าง หรือบางทีก็หยิบมือถือของตัวเองออกมาเล่น ซึ่งนานๆทีทั้งดินและฟ้าครามจะได้มีเวลามานั่งกันชิลๆแบบนี้สักที
...
“อ้าว!! มากันแล้วเหรอครับ เห็นพี่ทับบอกว่าพี่ดินกับพี่ฟ้าออกไปข้างนอกกัน น้ำนึกว่าจะกลับกันมาเย็นๆซะอีก” สายน้ำเอ่ยทักดินและฟ้าครามขึ้นมา เมื่อทั้งสองคนหอบหิ้วขนมกันมาเต็มสองไม้สองมือเข้ามาในครัว
“พี่กับพี่ดินไปทำบุญแล้วก็ถวายสังฆทานกันมาน่ะครับ เสร็จแล้วก็เลยไปนั่งเล่นที่ร้านคาเฟ่กันอยู่พักหนึ่งไม่ได้ไปไหนกันไกล ขนมพวกนี้ฟ้าฝากแบ่งให้กับทุกคนทีนะครับ แล้วก็ของบ้านพี่ไฟด้วยนะครับ” ฟ้าครามตอบสายน้ำออกไปและหันไปยื่นถุงขนมให้กับเกดคนงานในบ้านของสายน้ำ และจะเป็นอย่างนี้ทุกครั้งที่พอออกไปไหนมาก็มักจะซื้อของฝากเล็กๆน้อยๆติดไม้ติดมือมาให้กับทุกคนรวมทั้งคนงานที่บ้านของไฟด้วย
“ขอบคุณคุณฟ้าแล้วก็คุณดินมากเลยนะคะที่มีของมาฝากมาให้พวกเราอยู่เรื่อยเลย เดี๋ยวเกดจะจัดการแบ่งให้กับทุกคนเองนะคะ” เกดยกมือไหว้ทั้งดินและก็ฟ้าคราม ทั้งๆที่ถุงขนมยังอยู่เต็มไม้เต็มมือทั้งสองข้าง
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ก็ทุกคนช่วยกันดูแลบ้านให้พวกเรานี่ครับ” ฟ้าครามตอบออกไปยิ้มๆซึ่งดินและสายน้ำที่ยืนอยู่ตรงนั้นก็ยิ้มออกมาด้วยเช่นกัน
“น้องน้ำมีอะไรให้พี่ช่วยรึเปล่าครับ” ดินหันมาถามสายน้ำที่กำลังปั้นแป้งสีๆอะไรสักอย่างอยู่
“ถ้าพี่ดินล่ะก็ตอนนี้ไม่น่าจะมีนะครับ เดี๋ยวเอาไว้ตอนบ่ายๆพี่ดินค่อยออกไปดูที่สวนแล้วกันนะครับ ส่วนตอนนี้น้ำอยากให้พี่ฟ้าช่วยน้ำปั้นแป้งบัวลอยก่อนน่ะครับเห็นทุกคนบ่นว่าอยากกินกันน้ำเลยจะทำเป็นของหวาน เสร็จแล้วเดี๋ยวจะได้ไปเตรียมทำอย่างอื่นกัน”
“ได้ครับ งั้นเดี๋ยวพี่ไปเล่นกับหลานรอดีกว่า มีอะไรให้พี่ช่วยก็บอกพี่ได้นะครับ” ดินว่าจบก็เดินออกไปทันทีเพื่อปล่อยให้ฟ้าครามได้อยู่ช่วยสายน้ำ
พอดินเดินออกไปแล้ว สายน้ำก็รีบเดินย่องๆตามไปดูว่าดินจะไม่ย้อนกลับมาแล้วจริงๆ ฟ้าครามเองถึงกับต้องกลั้นขำกับท่าทางของสายน้ำที่ดูท่าทางแล้วมันช่างเหมือนกับนักย่องเบาซะเหลือเกินในตอนที่สายน้ำนั้นเดินตามไปดูดิน
“พี่ฟ้ามานี่ครับไปยืนขำอะไรอยู่ตรงนั้นครับ มานี่เร็วๆสิครับ” สายน้ำทำหน้างอใส่ฟ้าครามที่มัวแต่ยืนขำตัวเองอยู่ได้
“ฮ่าๆๆ ขอโทษทีครับ น้องน้ำโคตรจะน่ารักเลย พี่ขอเอาไปนอนกอดสักสองสามคืนได้มั้ยครับ” ฟ้าครามพูดออกมาด้วยความเอ็นดูคุณแม่ลูกหนึ่งที่บางทีก็ดูเหมือนกับเด็กน้อยซะจริงๆ
“เห็นทีคงจะไม่ได้หรอกนะครับ เพราะเดี๋ยวคืนนี้พี่ฟ้าจะมีคนนอนกอดจนแน่นเลยล่ะครับ เผลอๆอาจจะไม่ได้ออกมาเห็นเดือนเห็นตะวันอีกสักสองสามวันเลย คิกๆ” สายน้ำเดินมากระซิบที่ข้างหูของฟ้าครามให้ได้ยินกันสองคน
เพี๊ยะ!!
พอฟ้าครามได้ยินดังนั้นก็เขินจนลืมตัวฟาดฝ่ามือลงไปที่แขนของสายน้ำ แต่ก็ไม่ได้แรงมากนัก แถมหน้าของเจ้าตัวยังออกอาการแดงให้ได้เห็นจนลามไปถึงหูอีกด้วย
“โอ๊ยๆพี่ฟ้าอ่ะ เขินแล้วพาลเหรอครับ ฮ่าๆๆ” สายน้ำแกล้งทำเป็นร้องเสียงดังและใช้มืออีกข้างลูบๆถูๆไปที่แขนของตัวเองที่มันขึ้นรอยแดงทันทีที่โดนฝ่ามือของฟ้าครามตีลงมา เพราะความที่เจ้าตัวเป็นคนที่ผิวขาวมากจึงทำให้พอโดนอะไรนิดอะไรหน่อยก็ขึ้นรอยแดงจนเห็นชัด
“ตัวเล็กเป็นอะไรไปครับ ใครทำอะไรตัวเล็กครับ” วายุที่เพิ่งกลับมาจากที่ทำงานก็รีบวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาที่ครัวทันทีที่ได้ยินเสียงเมียตัวเล็กของตัวเองร้อง
พอฟ้าครามเห็นวายุเดินเข้ามาในครัวก็ถึงกับหน้าถอดสีทันที เพราะเป็นที่รู้กันว่าวายุนั้นถนอมสายน้ำมากขนาดไหน ขนาดอิฐที่ทำสายน้ำร้องไห้ยังเกือบจะมีวางมวยกันเลย
“อ๋อ พอดีเมื่อกี๊มียุงมากัดที่แขนของน้องน่ะครับ น้องเลยวานให้พี่ฟ้าตีให้” สายน้ำที่เห็นวายุมองมาที่แขนตรงที่มีรอยแดงของเค้าพร้อมกับทำหน้ายุ่งๆเลยรีบพูดแก้ตัวออกไป ครั้นจะบอกว่าตัวเองตีเองก็ไม่น่าจะใช่เพราะสองมือของเค้านั้นขาวไปด้วยแป้งบัวลอย และขืนบอกไปว่าฟ้าครามเป็นตีเค้าเพราะเขินคงจะได้มีเคืองกันบ้างแหละ
“งั้นเหรอครับ แล้วตอนนี้มันตายรึยังครับ” วายุจับแขนของสายน้ำขึ้นมาดูพร้อมกับลูบไปมาอย่างเบามือ แต่ก็ยังไม่วายที่จะมองแรงมาที่ฟ้าคราม
‘นี่ขนาดน้องน้ำบอกว่าตียุงนะยังมองแรงขนาดนี้ ถ้าบอกออกไปตรงๆมีหวัง....บรึ๋ยย!!’ ฟ้าครามได้แต่คิดแล้วก็ขนลุกอยู่คนเดียวในใจ
“เอ่อ พี่กายขึ้นไปอาบน้ำหรือไม่ก็เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีมั้ยครับจะได้สบายตัว เดี๋ยวน้องกับพี่ฟ้าจะช่วยกันเตรียมอาหารแล้วก็ของหวานกันก่อน” สายน้ำที่เห็นสีหน้าของฟ้าครามที่ไม่สู้ดีมากนักจึงบอกวายุออกไป
“งั้นเดี๋ยวพี่ไปอาบน้ำก่อนดีกว่าครับจะได้สบายตัว จุ๊บ!” วายุพูดจบก็กดจูบไปที่หน้าผากมนของสายน้ำและเดินออกไปทันที ก่อนเดินออกไปยังไม่ลืมที่จะมองไปที่แขนของสายน้ำที่มันขึ้นรอยแดงอยู่ด้วย
“เฮ้ออ!” พอวายุเดินออกไปฟ้าครามก็ถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เลยทีเดียว วายุเป็นคนเดียวที่ฟ้าครามกลัวและเกรงมากที่สุดในเหล่าบรรดาเพื่อนๆของดินทุกคน เพราะถ้าไม่ใช่สายน้ำหรือเพื่อนๆในกลุ่มที่สนิทแล้ว เจ้าตัวก็แทบจะไม่ค่อยได้พูดอะไรกับใครสักเท่าไหร่ เพราะเท่าที่เค้าคบกับดินมาเค้าสามารถนับคำที่คุยกับวายุได้เลย
“ฮ่าๆๆ ต้องขนาดนั้นเลยเหรอครับ” สายน้ำหัวเราะออกมาทันทีที่เห็นฟ้าครามถอนหายใจ
“น้องน้ำไม่รู้อะไรหรอกครับ ว่ารัศมีความน่ากลัวของพี่วายุของน้องน้ำน่ะมันรุนแรงขนาดไหน” ฟ้าครามพูดออกมาพร้อมกับมองค้อนสายน้ำไปแบบไม่จริงจังมากนัก
“เอ้อ! พี่ฟ้าน้ำเกือบลืมบอกแผนกับพี่ฟ้าไปเลย” ระหว่างที่ทั้งคู่ช่วยกันปั้นแป้งบัวลอยกันอยู่นั้นสายน้ำก็พูดขึ้นมาเมื่อเจ้าตัวนึกขึ้นมาได้
“หือ! ถึงขนาดจะต้องมีแผนกันเลยเหรอครับ” ฟ้าครามหยุดชะงักทันทีที่ได้ยินสายน้ำพูดขึ้นมา
“ของอย่างนี้ก็ต้องมีสิครับ เราอุตส่าห์มาไกลกันถึงขนาดนี้แล้ว” สายน้ำพูดจบก็ยักคิ้วส่งมาให้กับฟ้าคราม จนฟ้าครามชักเริ่มที่จะกลัวขึ้นมาบ้างแล้วสิ เค้าไม่รู้ว่าตัวเค้าเองคิดถูกหรือเปล่าที่ต้องการจะเซอร์ไพรส์วันเกิดดินแบบนี้ เพราะขนาดชุดที่เค้าจะต้องใส่ในคืนนี้เค้ายังไม่ได้เห็นชุดเลยว่าชุดมันเป็นยังไง
“คืออย่างนี้นะครับ พอ.............” สายน้ำได้เริ่มเล่าแผนการที่ตัวเองวางไว้ให้กับฟ้าครามฟังเป็นฉากๆโดยที่ดวงตาเรียวสวยของฟ้าครามก็ค่อยๆโตขึ้นเรื่อยๆระหว่างที่สายน้ำกำลังเล่า
“น้ำรับรองเลยครับว่าพี่ดินจะต้องกระอักออกมาเป็นเลือดจนเลือดหมดตัวแน่ๆ เลย ฮ่าๆๆ” พอเจ้าตัวเล่าแผนการที่วางไว้จนจบก็หัวเราะออกมาอย่างภูมิใจกับความคิดของตัวเอง โดยมีฟ้าครามส่งยิ้มกลับมาให้แหยๆ
“หัวเราะอะไรกันเหรอน้ำเสียงดังออกไปข้างนอกเลย” เบลที่เพิ่งกลับมาจากซื้อของกับอิฐ ออกัสและข้าวปั้น ถามขึ้นมาอย่างสงสัย เพราะเธอได้ยินเสียงหัวเราะของสายน้ำนั้นดังมาแต่ไกลเลย
“อ๋อ เมื่อกี๊พี่ฟ้าเล่าเรื่องตลกให้ฟังน่ะ” สายน้ำรีบพูดแก้ตัวออกไป ส่วนฟ้าครามเองนั้นก็ต้องรีบปรับสีหน้าของตัวเองให้เป็นปกติโดยทันทีที่เบลและออกัสเดินเข้ามา
“มีอะไรให้เราช่วยรึเปล่า” ออกัสถามสายน้ำขึ้นมาเมื่อเห็นว่ามีของที่คนงานเตรียมไว้บ้างแล้ว
“อืมงั้นกัสมาช่วยพี่ฟ้าปั้นแป้งแล้วกันนะ ส่วนเบลก็ช่วยขูดมะพร้าวให้น้ำหน่อย น้ำจะได้ไปเตรียมน้ำกะทิต่อ ส่วนอาหารคาวกับกับแก้มวันนี้ป้าเตือนกับทุกคนขอแสดงฝีมือเองน่ะ เห็นบอกว่าอยากจะทำเป็นการตอบแทนที่พี่ดินชอบซื้ออะไรอร่อยๆมาฝาก แล้วนี่อิฐกับน้องปั้นล่ะ” สายน้ำบอกออกัสและเบลกลับไป และยังไม่ลืมที่จะถามถึงเพื่อนตัวใหญ่กับแฟน เพราะเค้าแยกตัวกลับมาบ้านก่อนโดยมีทับไปรับ
“กลับไปอาบน้ำที่บ้านเห็นบ่นว่าเหนียวตัวเดี๋ยวสักพักก็คงมา” เบลเป็นคนตอบสายน้ำกลับมา และหลังจากนั้นทั้งสี่คนก็ช่วยกันลงมือทำบัวลอยไข่หวานกัน
“ไงมึง ซ้อมเลี้ยงลูกเหรอวะ” วายุที่เสร็จจากการอาบน้ำมาเรียบร้อยแล้ว เห็นดินกำลังนั่นป้อนข้าวให้น้องของขวัญในวัยเจ็ดเดือนอยู่ จึงเอ่ยแซวเพื่อนขึ้นมา
“หึๆ กูขอเลี้ยงหลานไปก่อนแล้วกัน ยังอยากอยู่กันสองคนก่อนว่ะ” ดินหันมาตอบเพื่อนตัวเองยิ้มๆ
“แอ๊ะๆ หม่ำๆๆ” น้องของขวัญที่เห็นดินขาดช่วงในการป้อนข้าวตัวเอง ก็ทำท่ายื่นมือมาจะจับช้อนที่อยู่ในมือของดิน แต่ติดตรงที่เก้าอี้นั่งกินข้าวที่ตัวเองนั่งอยู่จึงเอื้อมมือมาไม่ถึง
“โอ๋ ลุงดินขอโทษนะคะ หนูหิวมากเลยใช่มั้ยเนี่ย อ่ะ อ้ำๆค่ะ” ดินที่หันไปตามเสียงของหลานก็รีบเอ่ยขอโทษหลานสาวตัวน้อยที่กำลังหิว พร้อมกับตักข้าวบดละเอียดคำน้อยป้อนเข้าปากเล็กไป
วายุเองก็ได้แต่ยิ้มและส่ายหน้าไปมา เพราะตอนนี้หน้าของลูกสาวของเค้ามีแต่ข้าวติดอยู่เต็มไปหมดเริ่มตั้งแต่รอบปาก และตั้งแต่จมูกยันไปถึงแก้มจนเกือบจะถึงหูแล้วด้วย กินเสร็จคงจะได้ไปอาบน้ำต่อทันที
“ไงคะหลานสาวคนสวยของลุง กินข้าวอยู่เหรอคะ หืมม” อิฐที่เดินเข้ามาพร้อมกับข้าวปั้นพอเห็นหลานสาวกำลังกินข้าวที่ดินนั่งป้อนอยู่ก็รีบเดินเข้ามาหาทันที โดยที่ไม่ลืมจูงมือข้าวปั้นเข้ามาด้วย
“พี่วายุ พี่ดิน สวัสดีครับ” พอข้าวปั้นเดินมาถึงก็ยกมือไหว้ทั้งสองคน ดินก็พยักหน้าและยิ้มให้ ผิดกับวายุที่พยักหน้ารับเพียงเท่านั้น ซึ่งข้าวปั้นก็เริ่มที่จะชินกับนิสัยและท่าทางของรุ่นพี่คนนี้แล้ว
“เดี๋ยวปั้นขอตัวไปหาพี่ๆในครัวก่อนนะครับ” ข้าวปั้นบอกกับอิฐที่คุยกับน้องของขวัญอยู่ ซึ่งอิฐเองก็หันมาพยักหน้าเป็นอันรับรู้
“แอ๊ะๆ หม่ำๆๆ” น้องของขวัญยังคงร้องกินอยู่เมื่อเดินป้อนข้าวจนหมดถ้วยแล้ว
“หืออ ยังไม่อิ่มอีกเหรอคะลูก นี่หนูกินหมดถ้วยแล้วนะคะ เดี๋ยวหนูจะจ้ำม้ำไปมากกว่านี้นะคะรู้มั้ย เดี๋ยวหุ่นไม่สวยลุงไม่รู้ด้วยน๊า” ดินอดที่จะแซวหลานสาวตัวน้อยไม่ได้ ในเมื่อเค้าป้อนข้าวหลานสาวจนเกลี้ยงถ้วยไปแล้ว
“แอ๊ๆ แมะๆ” น้องของขวัญเริ่มที่จะปากเบ้ เมื่อลุงไม่ยอมป้อนข้าวต่อ
“เอาแล้วไงเฮียทำหลานผมร้องไห้แล้วเนี่ย ไหนใครบอกว่าหนูไม่สวยคะ หนูนี่สวยที่สุดแล้วเน๊าะ” อิฐรีบปลดล็อกเก้าอี้ที่น้องของขวัญนั่งอยู่ออกแล้วเอาหลานมาอุ้มเอาไว้เอง และรีบพูดเอาใจทันทีเมื่อเห็นว่าหลานสาเริ่มที่จะเบะปากแล้ว
“แอ๊ๆๆ” น้องของขวัญชี้ไปทางดินเหมือนกับว่ากำลังฟ้องอิฐอยู่ว่าดินนั้นว่าตัวเอง ในขณะที่อิฐก็กำลังเช็ดปากเช็ดหน้าให้หลานสาวอยู่
“โหหลานลุง ขี้ฟ้องตั้งแต่เด็กเลยเหรอคะเนี่ย หืมม นี่แน่ะ ง่ำๆๆๆ” ดินพูดออกมายิ้มๆพร้อมกับใช้ปากไล่งับนิ้วป้อมๆที่กำลังชี้มาที่ตัวเองอยู่
“เอิ๊กๆๆๆ” พอเห็นว่าลุงไล่งับนิ้วตัวเอง น้องของขวัญก็ทำท่ายืดมือหดมือเพื่อให้ดินไล่งับและหัวเราะออกมาเสียงดัง จนทำให้ทั้งพ่อและลุงพลอยหัวเราะตามไปด้วย
พอลุงๆและหลานสาวเล่นกันไปได้สักพัก น้องของขวัญก็เริ่มที่จะขยี้ตาง่วงนอน เพราะทั้งกินอิ่มและเล่นเหนื่อย พี่งามตาจึงขอเอาตัวน้องของขวัญขึ้นไปข้างบน เพื่อที่จะพาไปอาบน้ำนอนเพราะเริ่มได้เวลาแล้ว
พอประมาณสัก 4 โมงเย็นทุกคนก็เริ่มที่จะทยอยมากันเรื่อยๆเริ่มจากหินผากับวาริที่กลับคอนโดไปอาบน้ำกันมาเรียบร้อยแล้ว และตามด้วยเหนือและไฟที่เพิ่งกลับมาจากที่ทำงาน แล้วก็นัทและขนมพายที่โทรมาขอดินว่าขอพาไนท์มาด้วย ซึ่งดินก็อนุญาตและไม่ได้ว่าอะไร
ทุกคนออกมารวมตัวนั่งคุยกันที่สวนน้ำตกระหว่างที่รอเหล่าบรรดาแม่ครัวทั้งหลายทำกับข้าวและของหวานกัน
“มาแล้วครับ บัวลอยไข่หวานกำลังร้อนๆเลย” สายน้ำเดินนำขบวนออกมาและตามด้วยข้าวปั้น เบลและฟ้าครามที่เดินถือถาดที่มีถ้วยบัวลอยไข่หวานออกมา
“หืออ น้องน้ำเสิร์ฟของหวานแต่หัววันเลยเหรอครับ” เหนือพูดขึ้นยิ้มๆแต่ก็ลุกขึ้นมาช่วยเบลถือถาดเอาไว้เช่นเดียวกันกับดินและอิฐที่ลุกขึ้นมาช่วยข้าวปั้นกับฟ้าครามด้วยเช่นกัน
“ไม่ได้หรอกครับ เดี๋ยวพอทุกคนดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปกันแล้วขนมของน้ำก็เป็นหม้ายกันพอดี ดังนั้นน้ำต้องรีบให้พี่ๆกับทุกคนได้กินกันก่อนครับ” สายน้ำพูดขึ้นยิ้มๆและเดินลงไปนั่งที่ตักของวายุที่ถือถ้วยบัวลอยไข่หวานอยู่ในมือ
วายุเองถึงแม้เจ้าตัวจะไม่ค่อยชอบของหวานสักเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นเมียตัวเล็กของเค้าทำแล้วล่ะก็ยังไงเค้าก็ต้องกิน และอีกอย่างสายน้ำก็ไม่ได้ทำหวานมากจนเกินไป เพราะรู้ว่าทุกคนไม่ชอบกินหวานกันมากนัก
“หืออ อร่อยมากเลยครับน้องน้ำ ไม่หวานมากแต่ว่ากลมกล่อมสุดๆแป้งนี่ก็นิ่มกำลังพอดีเลย สงสัยพี่จะต้องมาฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของน้องน้ำซะแล้วล่ะครับ” ฟ้าครามพูดชมขึ้นมาเมื่อได้ชิมขนมแล้ว เพราะตอนที่อยู่ในครัวเค้ามัวแต่ไปดูช่วยป้าเตือนเตรียมของเลยไม่ได้มาชิมด้วยกันกับทุกคน
ซึ่งพอทุกคนได้ชิมก็พากันพยักหน้าเห็นด้วยกันกับฟ้าครามในทันที ทั้งๆที่พวกเค้าไม่ค่อยจะชอบกินของหวานกันสักเท่าไหร่
“ได้เลยครับ เอาไว้น้ำจะบอกสูตรเด็ดเคล็ดลับให้นะครับ” สายน้ำพูดออกมาพร้อมกับยิ้มแก้มแทบปริที่ขนมของเค้าถูกปากทุกคน ไม่เสียแรงที่อุตส่าห์ฝึกและลองทำมาตั้งหลายครั้งหลายครา
“ฟอด! เมียพี่เก่งจังเลยครับ” วายุเองก็อดที่จะชมเมียของตัวเองไม่ได้ เมื่อเห็นอีกคนยิ้มจนตาหยีโชว์ลักยิ้ม
พอทุกคนนั่งคุยกันไปได้สักพักใหญ่ก็ได้เวลาอาหารเย็น ทุกคนจึงพากันย้ายไปที่โต๊ะอาหารเพื่อทานข้าว พอทานข้าวกันอิ่มเสร็จเรียบร้อยแล้วก็พากันย้ายออกมาที่สวนน้ำตกกันอีกรอบ เพื่อเป็นการเปิดงานวันเกิดของดิน
“พี่ดินครับ นี่ของขวัญของพี่กายกับน้ำครับ ขอให้พี่ดินมีความสุขในทุกๆวันและตลอดไปนะครับ” พอทุกคนเข้านั่งประจำที่และเริ่มดื่มเครื่องดื่มกันไปได้สักพัก สายน้ำก็เป็นคนเปิดเพื่อให้ของขวัญให้กับดินเพราะกลัวว่าถ้าดึกไปมากกว่านี้แล้วจะไม่ได้ให้และทุกคนจะมีสติกันไม่ครบเสียก่อน
“หืออ ความจริงน้องน้ำแล้วก็ทุกคนไม่ต้องให้พี่ก็ได้นะครับ แค่จัดงานวันเกิดให้พี่แค่นี้พี่ก็ดีใจแล้วครับ และอีกอย่างแค่พวกเรามานั่งกินมาสังสรรค์ด้วยกันแค่นี้พี่ก็มีความสุขมากแล้วด้วย” ดินพูดออกมาด้วยความตื้นตันใจและยิ้มออกมาทั้งสีหน้าและแววตา
“น้ำกับพี่กายแล้วก็ทุกคนอยากให้นี่ครับไม่อย่างนั้นเค้าจะเรียกว่าวันเกิดได้ยังไงล่ะครับ” สายน้ำตอบออกไปยิ้มๆ
“มานี่ครับมา” ดินพูดพร้อมกับขวักมือเรียกให้สายน้ำมาหาตัวเอง และกางแขนให้สายน้ำเข้ามากอดตัวเอง
สายน้ำเองที่เห็นวายุคลายวงแขนที่กอดเอวของตัวเองเอาไว้อยู่เพื่อเป็นการอนุญาตกลายๆก็รีบเดินไปกอดดินทันที
“ขอบคุณมากนะครับน้องรัก จุ๊บ!” พอสายน้ำเดินเข้ามากอด ดินก็พูดขอบคุณและจูบไปที่หน้าผากของสายน้ำเบาๆด้วยความเอ็นดู เพราะเค้านั้นรักสายน้ำเหมือนกับน้องแท้ๆก็ไม่ปาน
แต่พอสายน้ำเดินกลับไปหาวายุ วายุก็ก้มลงมาจูบที่หน้าผากของสายน้ำย้ำๆเป็นการทับรอยที่ดินจูบเอาไว้ทันที ทำให้ทุกคนต่างหัวเราะกับท่าทางหวงเมียของวายุกันยกใหญ่ ซึ่งวายุก็หาได้แคร์ไม่และยังคงยักไหล่กลับมาให้กับทุกคนอย่างโนสนโนแคร์และยังคงกอดเมียตัวเล็กเอาไว้แน่นอีกด้วย
ต่อจากนั้นมหกรรมการให้ของขวัญจึงเริ่มขึ้น โดยเริ่มจากคู่ของเหนือกับเบล ต่อด้วยคู่หินผากับวาริ ไฟกับออกัส อิฐกับข้าวปั้น ไนท์กับขนมพาย และตามด้วยนัทที่วันนี้ไม่ได้ควงคู่มาเปิดตัวกับเค้าด้วยเพราะยังจีบพี่นพเลขาของอิฐยังไม่ติด ต่อท้ายด้วยของขวัญของนุ่นและของไออุ่นที่ฝากมากับข้าวปั้นด้วย
“แล้วของขวัญของฟ้าล่ะครับ พี่ยังไม่เห็นได้เลยครับ หืมม” พอเริ่มที่จะกรึ่มๆ แล้วดินก็หันมาทวงของขวัญจากคนรักและเริ่มใช้จมูกคมปัดป่ายไปมาอยู่ที่แก้มใส
“เอ่อ..ของขวัญของฟ้าอยู่ที่ห้องน่ะครับเอาไว้ไปถึงห้องก่อนนะครับฟ้าถึงจะเอาให้พี่ดิน” ฟ้าครามตอบออกไปด้วยใบหน้าที่เริ่มแดง เพราะพอคิดว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นใจก็เริ่มที่จะไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว
“ก็ได้ครับ พี่จะรอนะครับคนดี ฟอด!” ดินบอกพร้อมกับหันมาส่งสายตาหวานหยดเยิ้มมาให้กับฟ้าคราม และอดที่จะกดจมูกคมลงมาสูดดมความหอมที่แก้มใสไม่ได้ ถึงจะอยู่ต่อหน้าเพื่อนๆก็ตามที
Comments (0)