8 ตอน มิตรภาพ
โดย Beloved_Moouan
“พี่ดินสวัสดีครับ วันนี้เลิกงานเร็วนะครับ” สายน้ำที่เห็นดินเดินเข้ามาในบ้านก็เอ่ยทักขึ้น
“ครับ พอเลิกประชุมพี่ก็ออกมาเลยว่าจะมาดูบ้านด้วย แล้วนี่ไอ้อิฐอยู่ไหนครับพี่เห็นรถมันจอดอยู่” ดินถามพร้อมกับมองหารุ่นน้องคนสนิทไปด้วย
“อิฐพาน้องข้าวปั้นไปนั่งเล่นที่สวนน่ะครับ แล้วก็เบลกับกัสด้วย” พอสายน้ำพูดจบดินก็พยักหน้าเข้าใจ
“แล้วนี่เจ้าตัวเล็กไปไหนซะล่ะครับ”
“น้ำเพิ่งจะอาบน้ำให้เสร็จครับเลยให้พี่งามตาป้อนนมให้อยู่ ถ้าไม่หลับเดี๋ยวอีกสักพักก็คงลงมา”
“พี่ดินมีอะไรไม่สบายใจรึเปล่าครับ” สายน้ำที่เห็นดินไม่ค่อยยิ้มเหมือนเดิมแถมหน้าตายังดูเหมือนกับว่าคิดอะไรอยู่ตลอดเวลาอีกด้วยจึงเอ่ยถามขึ้น
“พี่มีเรื่องไม่สบายใจนิดหน่อยน่ะครับ แต่ไม่มีอะไรมากหรอกไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ งั้นเดี๋ยวพี่ขอตัวไปดูบ้านแป๊บนะครับเดี๋ยวคนงานจะกลับกันหมดซะก่อน” ดินพูดพร้อมกับโยกหัวของสายน้ำเบาๆแล้วหันหลังเดินออกไป สายน้ำก็ได้มองตามอย่างเป็นห่วง
“เป็นอะไรน้ำ ทำไมทำหน้าอย่างนั้น” อิฐที่พาข้าวปั้นเดินเข้ามาในบ้านพอเห็นสายน้ำนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่จึงถามขึ้น
“ก็พี่ดินน่ะสิไม่รู้เป็นอะไร ดูไม่ค่อยร่าเริงไม่ค่อยยิ้มเหมือนเดิมแถมยังดูเหมือนมีอะไรให้คิดอยู่ตลอดเวลาเลย” สายน้ำบอกเพื่อนด้วยสีหน้าเครียดๆ
“แล้วนี่เฮียไปไหนแล้ว”
“เห็นบอกว่าจะไปดูบ้านน่ะ”
“ไม่เป็นไรนะเดี๋ยวอิฐไปดูให้เอง ปั้นจะไปกับพี่ด้วยมั้ยครับหรือว่าจะอยู่ที่นี่กับน้ำ” อิฐหันไปถามคนที่นั่งอยู่ข้างๆ
“พี่อิฐไปเถอะครับจะได้ไปดูพี่ดินด้วย เดี๋ยวปั้นรอเล่นกับหลานอยู่ที่นี่ดีกว่า” ข้าวปั้นตอบขึ้นยิ้มๆ เพราะเค้ารู้ว่าอิฐคงอยากจะไปดูแล้วก็คุยกับรุ่นพี่ด้วย เพราะเท่าที่เค้าเข้าไปดูในเพจของมหา'ลัยมา กลุ่มแก๊งนี้เค้ารักกันเหนียวแน่นมากๆ หากมีคนใดคนหนึ่งไม่สบายใจหรือเป็นอะไรไปคนที่เหลือก็คงจะไม่อยู่นิ่งเหมือนกัน โดยเฉพาะดินกับอิฐที่พี่เบลเล่าให้ฟังว่าตัวติดกันแทบจะตลอดเวลาเลย
ตลอดเกือบอาทิตย์ที่ผ่านมาที่เค้าได้มาเป็นแฟนกับอิฐเค้าได้มีโอกาสคุยและทำความรู้จักกับกลุ่มของรุ่นพี่กลุ่มนี้มากขึ้นทั้งจากทางเพจของมหา'ลัย รวมไปถึงเรื่องราวและวีรกรรมต่างๆของรุ่นพี่ที่พี่เบลกับพี่ออกัสขยันเอามาเล่าให้เค้าฟังอย่างสนุกสนาน
เรื่องที่เค้าเป็นแฟนกับพี่อิฐนั้นจะมีแค่เพื่อนของพี่อิฐที่เป็นกลุ่มพี่ว๊ากด้วยกันและกลุ่มของพี่สายน้ำเท่านั้นที่รู้ แม้กระทั่งเพื่อนของเค้าเค้าก็ยังไม่ได้บอกใครเลย กะเอาไว้เซอร์ไพรส์ทีเดียวเลยแล้วกัน
“งั้นเดี๋ยวพี่มานะครับพี่ขอไปดูเฮียก่อน แล้วก็จะแวะไปดูบ้านด้วย เอาไว้ครั้งหน้าพี่จะพาปั้นมาดูบ้านของเราอีกทีนะครับ” อิฐพูดขึ้นยิ้มๆอย่างคนเจ้าเล่ห์ ข้าวปั้นถึงกับหน้าแดงกับคำว่าบ้านของเรา
“เลิกทำหน้าแบบนี้ได้แล้ว เดี๋ยวอิฐไปดูให้” อิฐพูดพร้อมกับโยกหัวของสายน้ำไปมาเบาๆ สายน้ำก็ได้แต่พยักหน้ารับ
“น้องปั้นหิวรึยังครับ กินของว่างรองท้องก่อนมั้ยเพราะกว่าพวกพี่ๆจะมากันครบคงจะมืดค่ำพอดี”
“ที่จริงก็เริ่มหิวนิดหน่อยแล้วล่ะครับ ผมรบกวนพี่น้ำด้วยนะครับ” ข้าวปั้นพูดออกมาอย่างเกรงใจ
“รบกวนที่ไหนกันล่ะครับคนกันเองทั้งนั้น อย่าลืมนะว่าตอนนี้เราเป็นพี่น้องกันเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว ขอแค่น้องปั้นไม่ทิ้งเพื่อนพี่ไปไหนแล้วก็ไม่ทำให้เพื่อนพี่คนนี้ต้องเสียใจก็พอแล้วล่ะครับ” สายน้ำพูดตอบกลับไปยิ้มๆแต่ในแววตานั้นบ่งบอกถึงความจริงจังที่ข้าวปั้นเห็นได้ชัดเจน
“ครับพี่น้ำผมสัญญาว่าผมจะไม่มีวันทำให้พี่อิฐต้องเสียใจเป็นอันขาดครับ” ข้าวปั้นเองก็ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่จริงจังด้วยเช่นเดียวกัน สายน้ำที่ได้ยินคำมั่นสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะขนาดนี้แล้วก็สบายใจขึ้นและส่งยิ้มกว้างไปให้กับรุ่นน้อง
“มานั่งทำอะไรตรงนี้เฮีย” อิฐเดินมาหาดินที่ตอนนี้นั่งเหม่อพิงหลังอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่หลังบ้านของตัวเองที่ยังสร้างไม่เสร็จ
“คิดอะไรไปเรื่อย” ดินตอบกลับมาแต่สายตายังทอดมองออกไปไกล
“ชวนแล้วเค้าไม่มาเหรอ” อิฐถามออกไปพร้อมกับหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ
“อือ ทั้งตื๊อทั้งชวนทั้งอ้อนเลยว่ะ หึๆ” ดินพูดออกมายิ้มๆแต่เป็นยิ้มที่เหมือนจะยิ้มเยาะตัวเองเสียมากกว่า
“เอาน่าเฮีย พี่ฟ้าเค้าอาจจะยังไม่พร้อมก็ได้ บางทีพี่เค้าอาจจะยังกลัวอะไรบางอย่างอยู่หรืออาจจะยังไม่แน่ใจในตัวเองหรือยังไม่ค่อยจะเชื่อมั่นในตัวเฮียก็ได้” อิฐพยายามพูดปลอบคนที่นั่งอยู่ข้างๆที่สีหน้านั้นนิ่งเรียบไม่บ่งบอกถึงความรู้สึกใดๆ
“ทำไมต้องกลัววะกูทำอะไรให้เค้าไม่มั่นใจในตัวกูงั้นเหรอวะ ที่ผ่านมากูแสดงออกมาอย่างชัดเจนตลอดว่ากูคิดยังไงกับเค้า แล้วจะมากลัวหรือมาไม่มั่นใจอะไรในตัวกู ขนาดกูพูดออกไปตรงๆว่าขอจีบเค้ายังไม่พูดไม่ตอบอะไรกูออกมาเลยสักคำ ขนาดกูขอร้องว่าให้ช่วยมาดูบ้านกับกูหน่อยได้มั้ย มาช่วยกูออกไอเดียบ้านให้กูหน่อยหรือมาเดินดูบ้านด้วยกันเฉยๆก็ได้เค้ายังไม่ยอมมาด้วยกับกูเลย บางทีกูอาจจะคิดผิดหรือคิดเข้าข้างตัวเองมากเกินไปก็ได้ว่าเค้ามีใจตรงกับกูทั้งที่ความจริงแล้วมันไม่ใช่” ดินพูดออกมาเสียงดังด้วยความอัดอั้นใจที่มีมาตั้งแต่บ่ายให้รุ่นน้องได้ฟัง รวมทั้งวายุ หินผา ไฟและเหนือที่ยืนฟังอยู่ข้างๆ ด้วย
วายุ หินผา ไฟ และเหนือได้แต่ยืนมองและฟังเพื่อนตัวเองนั่งปรับทุกข์อยู่กับรุ่นน้อง พวกเค้าไม่เคยเห็นดินเป็นแบบนี้มาก่อนเพราะปกติแล้วดินจะเป็นคนใจเย็นมีเหตุผลและมีสติมากที่สุดในกลุ่ม แต่ครั้งนี้เพื่อนของพวกเค้าคนนี้มันคงจะเหลืออดจริงๆถึงได้ระเบิดอารมณ์ออกมาแบบนี้
“เพื่อนกูคนเดิมหายไปไหนแล้ววะ” วายุเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหาและพูดถามขึ้น
“หึๆ พร้อมหน้าพร้อมตากับเชียวนะพวกมึง” ดินพูดขึ้นยิ้มๆเค้ารู้ว่าเพื่อนของเค้าคงได้ยินในสิ่งที่เค้าพูดหมดแล้ว
“ใจเย็นๆเว้ย ทุกอย่างมันมีเวลาของมัน ถ้าเค้าเป็นของมึงยังไงเค้าก็เป็นของมึงอยู่วันยังค่ำ เชื่อกู” หินผาเดินมาหยุดที่หน้าของดินและพูดขึ้น ดินถึงกับยิ้มออกมาได้ แต่ที่ยิ้มออกไม่ใช่เพราะอะไรแต่เป็นเพราะในยามที่เค้าทุกข์ใจหรือไม่สบายใจเค้ายังมีเพื่อนๆ และทุกคนที่เค้ารักยืนอยู่ตรงนี้กับเค้าเสมอ
“ไปเว้ยไปแดกเบียร์กันดีกว่า พรุ่งนี้วันหยุดเอาให้เต็มที่ไปเลย ไม่เมาไม่เลิกเว้ยคืนนี้” เหนือที่เห็นว่าสีหน้าของเพื่อนเริ่มดีขึ้นมาหน่อยแล้วจึงพูดเปลี่ยนเรื่องขึ้นมา
“ไปมึง ผู้ชายไม่ไร้เท่าใบพุทราหรอกโว้ย” อยู่ๆไฟก็พูดขึ้นมาทำให้ทุกคนพากันหัวเราะชอบใจกับสุภาษิตคำพังเพยที่เพื่อนของพวกเค้านั้นสรรหามาเปรียบเปรย
หมับ!
วายุยื่นมือมาตรงหน้าของดิน ดินก็ยื่นมือไปจับมือของเพื่อนเอาไว้ยิ้มๆ จากนั้นวายุจึงออกแรงดึงเพื่อให้ดินได้ลุกขึ้นมายืน ก่อนที่จะเดินกอดคอดินเพื่อกลับไปที่บ้านของตัวเอง โดยมีทุกคนเดินตามไปด้วย
“หลานสาวสุดที่รักของลุงอิฐตื่นแล้วเหรอคะ หืมม” อิฐพอเห็นน้องของขวัญที่ข้าวปั้นอุ้มอยู่ก็รีบเดินตรงดิ่งเข้ามาหาทันที
“เออนี่เฮียๆรู้จักแฟนผมยัง นี่น้องข้าวปั้นอยู่ปี 1 คณะเดียวกันกับเรา” อิฐลงไปนั่งข้างๆข้าวปั้นที่นั่งอยู่ที่พื้นแล้วแนะนำแฟนตัวเองให้พี่ๆได้รู้จัก
“มึงน่ะมันช้า น้องน้ำเค้าแนะนำให้พวกกูรู้จักแล้ว” เหนือพูดขึ้นและเดินไปนั่งข้างเบลที่หยอกล้อเล่นกับหลานอยู่
“แล้วนี่น้องวาไม่มาเหรอครับพี่หินผา” ออกัสถามหินผาขึ้นมาเพราะนี่ก็เย็นมากแล้ว
“เดี๋ยวคงจะมาครับ เห็นว่าจะแวะซื้อของกับพวกไอ้นัทแล้วก็ขนมพายน่ะ ฟอด!” หินผาบอกออกัสออกไปพร้อมกับเดินมานั่งลงข้างๆ น้องชายของตัวเองและก้มลงไปหอมที่แก้มนุ่มของน้องฟอดใหญ่ ส่วนสายน้ำเองก็หันไปหอมแก้มพี่ชายตัวเองตอบกลับด้วยเหมือนกัน
ข้าวปั้นก็ได้แต่นั่งมองสองคนพี่น้องกอดหอมกัน โดยที่มีวายุที่นั่งอยู่ข้างๆ ของสายน้ำอีกข้างด้วย เค้านึกย้อนกลับไปเหตุการณ์เมื่อสักครู่ที่พอทุกคนทยอยมาในเวลาที่ไล่เลี่ยกันสายน้ำก็เอ่ยแนะนำเค้าให้ได้รู้จักกับทุกคน ทุกคนก็เอ่ยต้อนรับเค้าอย่างเป็นกันเองจนทำให้เค้าหายเกร็งไปได้มากทีเดียว เพราะเท่าที่เค้าได้ยินมาจากคนรอบๆตัวล้วนแล้วแต่ไม่มีใครที่จะกล้าเข้ามายุ่งกับรุ่นพี่กลุ่มนี้รวมทั้งเพื่อนๆของเค้าด้วยเช่นกันที่ค่อนข้างจะกลัวจากที่ได้เห็นเหตุการณ์ในคลิป
“นั่งยิ้มอะไรอยู่คนเดียวครับ” อิฐที่เห็นแฟนของตัวเองนั่งยิ้มอยู่คนเดียวจึงถามขึ้น
“ปั้นแค่รู้สึกอบอุ่นน่ะครับ ปั้นชอบมิตรภาพแบบนี้ ปั้นโชคดีที่ได้มาเป็นแฟนกับพี่อิฐโชคดีที่ได้มาเจอกับทุกคน” ข้าวปั้นตอบอิฐไปยิ้มๆมันเป็นยิ้มที่ยิ้มทั้งใบหน้าและแววตา
“พี่ก็โชคดีเหมือนกันครับที่มีปั้นเป็นแฟน จุ๊บ!” อิฐพูดจบก็จูบไปที่หน้าผากของข้าวปั้น
“เฮ้ยๆ ไอ้อิฐมึงจะมาหวานอะไรกันตรงนี้วะ มึงเกรงใจคนไม่มีคู่อย่างไอ้ดินมันบ้างมันยิ่งเฮิร์ทอยู่” เป็นเหนือที่อุ้มน้องของขวัญอยู่พูดขึ้นมาเสียงดังจนหลานสะดุ้ง
ป้าบ!!
“มึงจะแหกปากทำเหี้ยอะไรไอ้เหนือหลานกูตกใจหมด เอาหลานกูมานี่เลย โอ๋ขวัญเอ๊ยขวัญมานะคะหลานลุง” ไฟยกมือขึ้นตบหัวของเหนือจนเสียงดัง และแย่งหลานสาวจากเหนือไปอุ้มไว้แทน ก่อนที่จะอุ้มหลานสาวตัวน้อยเดินออกไปพร้อมกับตบก้นคอยปลอบไปด้วยอย่างอ่อนโยน
“สมเลย ฮ่าๆๆ” อิฐได้แต่นั่งหัวเราะเหนือ
“ไอ้อิฐเดี๋ยวกูถีบไปนู่น” เหนือพูดพร้อมกับทำท่ายกเท้าขึ้นไปทางอิฐ จนอิฐรีบขยับไปนั่งหลบอยู่ด้านหลังของข้าวปั้นแทน ข้าวปั้นและทุกคนก็ได้แต่นั่งหัวเราะอิฐและเหนือที่ยังทะเลาะกันไม่เลิก
ดินนั่งมองอิฐและข้าวปั้นที่นั่งคุยและหยอกล้อกันอยู่ไปมาด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มแต่แววตานั้นหม่นเศร้าอย่างเห็นได้ชัด
“คนเราทุกคนไม่ได้เหมือนกันไปซะหมดหรอกนะ บางคนก็ยอมที่จะเปิดใจยอมรับมันอย่างง่ายดาย บางคนก็กลัวกับสิ่งที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงหรือกำลังจะเกิดขึ้น บางคนก็กลัวว่าจะไม่สมหวังถ้ามันเปลี่ยนแปลงหรือเกิดขึ้นมาแล้ว หรือบางคนก็เขินอายเกินกว่าที่จะพูดหรือแสดงออกมาให้ได้เห็น มึงคิดอย่างกูมั้ยวะ” จู่ๆวายุที่นั่งอยู่ข้างๆดินก็พูดขึ้นมาเมื่อเห็นท่าทางและสีหน้าของเพื่อน
“หึๆ มึงมีปรัชญาชีวิตตั้งแต่เมื่อไหร่วะ เท่าที่กูจำได้เมื่อก่อนมึงพูดแต่ละครั้งไม่เกิน 5 คำด้วยซ้ำไป” ดินพูดแซวเพื่อน
“หึๆ คงเพราะกูมีคนที่กูรักมีคนที่กูต้องคอยดูแลเทคแคร์ล่ะมั้งเลยทำให้กูเปลี่ยนไป กูจะมานั่งให้เค้าเดาอารมณ์กูอย่างเมื่อก่อนมันก็คงจะไม่ได้รึเปล่าวะ” วายุพูดพร้อมกับหันไปมองเมียตัวน้อยของเค้าที่ยังคุยอยู่กับพี่ชายไม่เลิก
“ก็คงจะจริง กูก็ไม่เคยคิดว่ากูจะมานั่งคิดเล็กคิดน้อยอะไรแบบนี้เลยแค่ถูกเค้าปฏิเสธไม่มากับกู อาจจะจริงอย่างที่มึงพูดก็ได้ เค้าอาจจะยังไม่พร้อมหรือยังเปิดใจให้กับกูไม่เต็มที่ก็ได้เค้าถึงได้ปฏิเสธคำชวนของกู”
“พยายามเข้าเว้ย ใครไม่เอามึงก็โง่เต็มทีแล้ว กูเชื่อว่ามึงจะสมหวังเร็วๆนี้” วายุพูดปลอบใจเพื่อนพร้อมกับตบไปที่ไหล่ของดินเบาๆอย่างให้กำลังใจ เค้าพูดจริงว่าถ้าใครไม่เอาหรือปฏิเสธเพื่อนของเค้าคนนี้ก็โง่เต็มทีแล้ว เพราะในบรรดาทุกคนในกลุ่มดินถือว่าเป็นคนที่ทั้งใจเย็นและมีเหตุผลมากที่สุดทั้งยังเป็นสุภาพบุรุษไหนจะยังรูปร่างหน้าตาที่เรียกได้ว่าเพอร์เฟค ทั้งยังมีฐานะและยังหน้าที่การงานที่พรั่งพร้อมไปซะทุกอย่างอีก
“พี่ๆ สวัสดีครับ” วาริ ขนมพาย และนัท ที่เพิ่งมาถึงก็เดินเข้ามาสวัสดีทุกคนที่นั่งกันอยู่ ทุกคนที่เห็นรุ่นน้องเดินเข้ามาก็ต่างพูดทักทายสวัสดีกัน รวมทั้งอิฐเองที่แนะนำให้คนมาใหม่ได้รู้จักกับข้าวปั้นอีกครั้ง
ข้าวปั้นได้แต่นั่งมองกะพริบตาปริบๆ เพราะตอนนี้คนในห้องโถงนั้นเยอะมาก เยอะจนเค้าตาลายและจำชื่อแทบจะไม่หมด เห็นทีเค้าจะต้องไปนั่งท่องชื่อของแต่ละคนแล้วสิ เพราะในนี้มีทั้งรุ่นพี่ที่จบไปแล้ว ทั้งยังมีทั้งรุ่นพี่ปี 2 และปี 3 ด้วยอีก
“คิดอะไรอีกน่ะเรา ทำไมถึงชอบทำหน้าแปลกๆอย่างนั้นล่ะครับ หืมม” อิฐถามแฟนตัวเองขั้นมาอีกครั้งพร้อมกับจับหัวของข้าวปั้นโยกไปมาด้วยความมันเขี้ยว
“แหะๆ ปั้นกำลังพยายามจำชื่อของพี่ๆทุกคนอยู่น่ะครับ” ข้าวปั้นพูดพร้อมกับหันไปมองความวุ่นวายที่กำลังเกิดขึ้น เพราะตั้งแต่ที่ที่รุ่นพี่ที่มาใหม่สามคนมาถึง ก็เกิดการจลาจลกันขึ้นนิดหน่อย เพราะรุ่นพี่ที่ตัวพอๆกันกับเค้าแต่หน้าตาออกไปทางจะเรียกว่าหล่อก็เรียกไม่ได้เต็มปากมากนักจะว่าน่ารักก็ไม่เชิงพอมาถึงก็ยังพูดไม่หยุดเลย ยิ่งพอไปนั่งจับกลุ่มกับพี่เบล พี่เหนือและพี่ออกัสด้วยแล้วทำให้เสียงพูดคุยนั้นดังยิ่งกว่าเดิมและดูว่าจะเข้าขากันได้เป็นอย่างดี จนตอนนี้เค้าเริ่มที่จะเวียนหัวกับเสียงของแต่ละคนแล้ว ยังดีที่พี่เลี้ยงน้องของขวัญพาน้องขึ้นไปข้างบนแล้ว ไม่อย่างนั้นหลานสาวตัวน้อยคงจะเวียนหัวพอๆกันกับเค้าเป็นแน่ แต่ถึงยังไงเค้าก็ยังชอบมิตรภาพของรุ่นพี่กลุ่มนี้เอามากๆ
“หึๆ ปวดหัวหน่อยนะครับ นานๆจะรวมตัวกันได้ครบสักที ปกติแล้วจะผลัดกันมามากกว่า” อิฐยิ้มเอ็นดูไปให้แฟนที่มองคนนั้นคนนี้พูดที
“แล้วทุกคนนี่บ้านอยู่ไหนกันเหรอครับ แล้วถ้ามากันครบแบบนี้พี่ๆเค้าไปนอนที่ไหนกันเหรอครับ” ข้าวปั้นถามขึ้นอย่างคนสงสัย
“บ้านของเฮียไฟกับกัสอยู่หลังถัดไปทางด้านขวาครับ ส่วนทางด้านซ้ายเป็นบ้านของพี่แล้วก็ถัดไปเป็นบ้านของเฮียดิน ส่วนเฮียเหนือกับเบลยังตัดสินใจกันไม่ได้ว่าจะสร้างบ้านที่ไหนดี แล้วก็เฮียผาอยู่ที่คอนโดด้วยกันกับน้องวา แล้วก็ที่เดียวกับเฮียดิน แต่ถ้ามีสังสรรค์กันแบบนี้พี่เหนือกับเบลก็จะนอนที่นี่ครับ เฮียดินเฮียผาแล้วก็น้องวาก็เหมือนกัน ส่วนพี่นั้นนอนประจำอยู่ที่นี่อยู่แล้วกะว่าจะอยู่ที่นี่จนกว่าบ้านพี่จะเสร็จ ส่วนไอ้นัทกับขนมพายก็ไปนอนที่บ้านเฮียไฟครับ” อิฐพูดอธิบายให้ข้าวปั้นฟังอย่างยืดยาว ซึ่งข้าวปั้นก็คอยนั่งพยักหน้าตามและนั่งฟังอย่างตั้งใจ
หลังจากที่นั่งคุยกันไปได้สักพักก็ได้เวลาอาหารเย็นทุกคนจึงพากันย้ายไปที่โต๊ะอาหาร ซึ่งบรรยากาศนั้นก็เต็มไปด้วยความอบอุ่น เพราะนานๆทีพวกเค้าทุกคนจะมารวมตัวกันได้ครบคนแบบนี้
พอทุกคนอิ่มกันแล้วก็พากันย้ายมานั่งที่สวนน้ำตกข้างบ้าน ทุกคนต่างพากันนั่งกินเบียร์ไปด้วยคุยกันไปด้วยอย่างออกรสออกชาติโดยมีกับแก้มเล็กๆน้อยๆประกอบ จะมีก็แต่สายน้ำ ออกัส เบล วาริและข้าวปั้นเท่านั้นที่ไม่ได้ดื่มและเปลี่ยนมาดื่มน้ำอัดลมกันแทนแต่ก็ดื่มกันได้ไม่มากนักเพราะต่างก็พากันอิ่มข้าวกันมาแล้ว ส่วนใหญ่จะนั่งคุยกันซะมากกว่า
ข้าวปั้นนั่งคุยกับพี่ๆอย่างอารมณ์ดีโดยมีอิฐคอยนั่งมองอยู่ห่างๆ เค้าปล่อยให้แฟนของตัวเองได้ปรับตัวให้เข้ากับกลุ่มของเพื่อนเค้าโดยมีเค้าคอยนั่งมองอยู่
ข้าวปั้นอยากให้เพื่อนๆของเค้าได้มาซึมซับบรรยากาศแบบนี้บ้างจัง รุ่นพี่ที่เพื่อนเค้าและทุกคนกลัวเกรงกันแท้ที่จริงแล้วกลับกลายเป็นคนที่ใจดีคุยสนุกเป็นกันเองและรักพวกพ้องมาก แต่เค้าก็ไม่รู้ว่านั่นเป็นเพราะว่าเค้านั้นเป็นแฟนของอิฐด้วยรึเปล่าจึงทำให้เค้าได้รับสิทธิ์นี้
ดินที่นั่งมองเพื่อนคุยกันอยู่ก็กระดกเบียร์เข้าปากแก้วแล้วแก้วเล่าจนหลังๆ เปลี่ยนมาเป็นกระดกขวดแทน เพื่อนๆก็ได้แต่ปล่อยเลยตามเลยเพราะยังไงก็มีพวกเค้าคอยดูแลกันอยู่แล้ว
“ไอ้อิฐแล้วคืนนี้น้องข้าวปั้นนอนไหนวะ แล้วนี่มึงต้องขับรถไปส่งน้องเค้าที่บ้านรึเปล่า แล้วมึงก็เสือกกินเข้าไปซะเยอะเลย” หินผาหันไปถามอิฐ ทำให้ข้าวปั้นหันมามองหน้าอิฐทันที เพราะเค้าได้โทรไปบอกกับที่บ้านไว้แล้วว่ามีกินเลี้ยงสังสรรค์กับรุ่นพี่และอาจจะได้ค้างกับเพื่อนเลย เค้าเผื่อเอาไว้ถ้าเกิดว่าอิฐเมาและขับรถไปส่งเค้าไม่ไหว แล้วก็ดูท่าว่าจะจริงเพราะตอนนี้หน้าของแฟนเค้านั้นเริ่มที่จะแดงหน่อยๆแล้ว
“ปั้นนอนที่นี่ได้มั้ยครับ พี่น่าจะขับรถไม่ไหวแล้ว” อิฐหันมาถามข้าวปั้นด้วยตาที่เริ่มเยิ้มแล้ว
“ปั้นยังไงก็ได้ครับ ปั้นบอกกับที่บ้านไว้แล้วว่าอาจจะค้าง” ข้าวปั้นตอบออกมาอย่างเขินๆเมื่อเห็นว่าอิฐยิ้มพอใจกับคำตอบของเค้า
แป๊ะ!
ผลั๊วะ! ผลั๊วะ!
ไฟลุกขึ้นตบหัวอิฐและเหนือคนละทีเมื่อทั้งสองคนทำท่าไฮไฟท์กันทันทีที่ได้ยินข้าวปั้นตอบ
“มึงเลิกคิดไปเลยไอ้อิฐน้องเค้ายังเด็กเป็นลูกมีพ่อมีแม่ มึงเข้าไปขอน้องเค้าจากพ่อแม่เค้าก่อนแล้วค่อยมาคิด” ไฟที่แค่มองตารุ่นน้องและเพื่อนตัวเองก็รู้ได้ทันที ทำไมเค้าจะรู้ไม่ทันว่ามันพยายามกินให้เมาเพื่อที่จะไม่ต้องขับรถไปส่งและน้องจะได้นอนค้างกับมันที่นี่ เพราะปกติมันก็คอแข็งจะตายไป
“เฮียก็ ผมยังไม่ได้คิดอะไรไปไกลขนาดนั้นสักหน่อย ก็แค่อยากจะนอนกอดแฟนตัวเองบ้างเท่านั้นเอง” อิฐพูดพร้อมกับมองมาทางข้าวปั้นตาเยิ้ม ข้าวปั้นก็ได้แต่นั่งก้มหน้าที่ขึ้นสีจนแดงและลามไปถึงใบหูที่แดงด้วยความเขิน เค้าไม่คิดว่าพอเมาแล้วแฟนเค้าจะกล้าพูดกล้าเปิดเผยถึงขนาดนี้
…
“อื้อหือ! นี่ตั้งแต่กูคบกับมันมากูก็เพิ่งจะเคยเห็นมันเมาหนักขนาดนี้ว่ะ อะไรมันจะเฮิร์ทหนักขนาดนี้วะ นี่ขนาดยังไม่ได้อกหักเลยน่ะเว้ย” เหนือที่พยุงดินอยู่คนละข้างกับวายุพูดขึ้น
ตุบ!
“เห้อ! หนักฉิบหายเลยตัวแม่งก์โคตรใหญ่” เหนือพูดบ่นขึ้นหลังจากที่เค้าและวายุทิ้งตัวดินให้นอนลงบนเตียงอย่างคนหมดสภาพ
“มึงพูดอย่างกับว่ามึงตัวเล็กกว่ามัน มึงก็เคยเมาให้มันแบกเหมือนกันรึเปล่าวะ” วายุพูดว่าเพื่อนขึ้นมา
“เออๆกูก็บ่นไปอย่างนั้นแหละ มึงก็ไปช่วยน้องน้ำดูลูกเถอะเดี๋ยวกูอยู่จัดการมันเอง” เหนือพูดไล่วายุและหันมาจัดการถอดเสื้อของดินออกเพื่อที่จะเช็ดตัวให้ เพราะดินยังอยู่ในชุดทำงานอยู่เลยเพียงแต่ไม่ได้ใส่สูทผูกไทเท่านั้นเอง
ส่วนทางด้านข้าวปั้นที่ประคองอิฐเข้ามาถึงห้องที่อยู่ชั้นบนที่ไฟและออกัสเคยนอนแล้วก็ค่อยๆ จับอิฐให้นั่งลงบนเตียง
“ปั้นไปอาบน้ำก่อนเลยนะครับดึกแล้ว เดี๋ยวพี่ขอนั่งตั้งสติแป๊บหนึ่ง แล้วก็ปั้นหาดูเสื้อผ้าในตู้ได้เลยนะครับมันมีตัวเล็กๆ ที่พี่ซื้อเคยซื้อไซซ์ผิดมาด้วย พี่ว่าปั้นน่าจะพอใส่ได้” พออิฐพูดจบข้าวปั้นก็พยักหน้าและเดินตรงไปที่ตู้เสื้อผ้า หลังจากได้ชุดที่ต้องการแล้วข้าวปั้นก็เดินเข้าห้องน้ำไป
อิฐที่เห็นข้าวปั้นเดินหายเข้าไปในห้องน้ำแล้วก็ทิ้งตัวนอนลงบนเตียงพร้อมกับหลับตาลง เพราะตอนนี้เค้าเริ่มที่จะมึนๆบ้างแล้ว
“พี่อิฐครับ ตื่นไปอาบน้ำก่อนนะครับจะได้สบายตัว” ข้าวปั้นที่พออาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วก็เดินมาปลุกคนที่นอนหลับอยู่
“อื้ออ ครับ แป๊บนะครับ” อิฐพูดโดยที่ยังไม่ลืมตา
“เวียนหัวเหรอครับ” ข้าวปั้นถามด้วยความเป็นห่วง
“นิดหน่อยครับ เดี๋ยวได้น้ำเย็นๆก็ดีขึ้น ถ้าง่วงก็นอนก่อนได้เลยนะครับนี่ก็ดึกมากแล้ว” อิฐพูดพร้อมกับพยุงตัวลุกขึ้นนั่งโดยมีข้าวปั้นช่วยประคองคนตัวใหญ่
หลังจากที่อิฐเข้าไปในห้องน้ำแล้วข้าวปั้นก็มานั่งรออิฐอยู่ที่ปลายเตียง เค้าไม่รู้ว่าเค้าจะต้องนอนตรงไหนหรือยังไงดี เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เค้าได้นอนเตียงเดียวกันกับคนอื่น แถมคนนั้นยังเป็นอิฐคนที่เค้าแอบรักมาตั้งหลายปีอีกด้วย
ถึงเค้ากับอิฐจะเคยชินกันบ้างแล้วแต่มันก็น่าจะต้องตื่นเต้นอยู่บ้างมั้ยล่ะที่จะต้องมานอนห้องเดียวกันแล้วก็เตียงเดียวกันอีกด้วย ถึงแม้จะรู้ว่าอิฐคงจะไม่ฉวยโอกาสล่วงเกินเค้าอย่างแน่นอน เพราะที่ผ่านมาอิฐก็ให้เกียรติเค้ามาโดยตลอด
แกร็ก!!
ข้าวปั้นสะดุ้งขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงเปิดประตูห้องน้ำ แต่ก็ไม่ได้หันไปมองคนที่เดินออกมาจากห้องน้ำแต่อย่างใด
“อ้าว! ทำไมยังไม่นอนอีกล่ะครับ รอนอนพร้อมพี่เหรอครับ หืมม” อิฐถามและเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของข้าวปั้น
ข้าวปั้นพอเงยหน้าขึ้นไปก็ถึงกับต้องตกตะลึงตาโต เพราะคนที่อยู่ตรงหน้าเค้านั้นเล่นใส่บอกเซอร์แค่ตัวเดียวเพียงเท่านั้น และไหนยังจะมายืนโชว์กล้ามหน้าอกแน่นๆ กับซิกแพคที่เรียงตัวกันสวยอยู่ตรงหน้าเค้านั่นอีก ถึงแม้จะเป็นผู้ชายด้วยกันแต่มันก็ยังเขินอยู่ดี หุ่นของอิฐนั้นแตกต่างกับหุ่นของเค้าโดยสิ้นเชิงเลย
“หึๆ เขินเหรอครับเด็กดี” อิฐนั่งลงตรงหน้าของคนที่ตอนนี้นั่งก้มหน้าหน้าแดงอยู่ พอได้อาบน้ำอาการเมาอาการมึนก็หายไปจนเกือบหมด
“อะ เอ่อปั้นง่วงแล้วครับ” ข้าวปั้นพูดออกไปโดยไม่ยอมเงยหน้ามองคนตรงหน้า
“ครับๆ เดี๋ยวพี่เอาผ้าไปแขวนแป๊บนะครับ” อิฐพูดขึ้นยิ้มๆ ใจจริงเค้ายังอยากจะแกล้งคนตรงหน้าต่อแต่ว่านี้มันก็ดึกมากแล้วเลยพอแค่นี้ก่อน
“ตุบๆ มาครับมานอนกัน” อิฐที่เดินไปปิดไฟในห้องให้เหลือแต่ไฟหัวเตียงก็ขึ้นมานอนพร้อมกับตบที่นอนข้างๆเพื่อเรียกข้าวปั้นให้ไปนอนด้วยกัน
ข้าวปั้นขบเม้มริมฝีปากล่างของตัวเองเอาไว้แน่นและพยายามข่มความเขินอายของตัวเองเอาไว้ หลังจากนั้นจึงค่อยๆคลานขึ้นเตียงไป แต่เค้าเลือกที่จะนอนหันหลังให้คนพี่ที่นอนมองเค้าอยู่ก่อนแล้ว
อิฐได้แต่มองและยิ้มเอ็นดูให้กับแฟนของตัวเอง เค้าลุกและเอื้อมมือไปจับผ้าห่มมาห่มให้คนที่นอนหันหลังให้กับเค้าอยู่อย่างเบามือ
จากนั้นเจ้าตัวจึงค่อยๆสอดตัวเข้าไปในผ้าห่มผืนเดียวกันกับน้องและเข้าไปนอนกอดร่างนุ่มจากทางด้านหลังจนข้าวปั้นถึงสะดุ้งและนอนตัวเกร็ง
“พี่ขอนอนกอดน้องหน่อยนะครับ” อิฐพูดพร้อมกับกอดกระชับร่างบางให้เข้ามาหาตัวเอง จนด้านหลังของอีกคนแนบชิดติดกับหน้าอกแกร่ง ข้าวปั้นไม่พูดอะไรออกมาได้แต่นอนตัวเกร็งอยู่อย่างนั้น
“กู๊ดไนท์นะครับเด็กดีของพี่ จุ๊บๆ” อิฐพูดจบก็จูบซับไปที่ต้นคอของข้าวปั้นให้อีกฝ่ายได้ขนลุกเล่น
“กู๊ดไนท์ครับพี่อิฐ ฝันดีนะครับ” ข้าวปั้นพยายามพูดส่งเสียงออกไปให้เป็นปกติที่สุด ทั้งๆที่ในตอนนี้ใจเค้ามันไม่ปกติเลยสักนิด ตอนนี้ก้อนเนื้อที่อกด้านซ้ายของเค้ามันเต้นทั้งรัวและเร็วจนเค้าคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะได้ยินมัน
อิฐได้แต่นอนยิ้มอยู่อย่างนั้นเค้ารู้ดีว่าอีกคนนั้นตื่นเต้นและเกร็งมากขนาดไหนที่จะต้องมานอนเตียงเดียวกันกับเค้าทั้งๆที่เพิ่งจะเป็นแฟนกันไม่นาน แต่เค้าก็อยากที่จะสร้างความคุ้นเคยให้กับน้องไปเรื่อยๆ เสียงเต้นของหัวใจของอีกคนนั้นเต้นแรงจนเค้าสัมผัสและรู้สึกได้ แต่เค้าก็เลือกที่นอนกอดน้องอยู่เฉยๆและแกล้งหลับเพราะอยากให้อีกคนได้พักผ่อนเสียที
จนเวลาผ่านไปสักพักข้าวปั้นที่ไม่สามารถฝืนสังขารความง่วงและความเหนื่อยล้าของตัวเองได้นั้นก็หลับลงไปในไม่ช้า อิฐที่รับรู้ถึงลมหายใจที่เข้าออกสม่ำเสมอของอีกคน ก็ค่อยๆ ขยับตัวและพลิกร่างโปร่งบางของอีกคนให้หันมาทางเค้า จากนั้นเค้าก็สอดแขนเข้าไปไว้ใต้คอของอีกคนให้ได้นอนหนุนและกอดกระชับร่างบางให้มาแนบชิดกัน
จุ๊บ! จุ๊บ! จุ๊บ!
“ฝันดีนะครับ พี่รักข้าวปั้นนะครับ รักมากที่สุด” อิฐไล่จูบที่หน้าผากมน ลงมาที่จมูกโด่ง ไล่จนมาถึงริมฝีปากบางของคนที่นอนหลับอยู่อย่างนุ่มนวลก่อนที่จะกอดกระชับร่างบางในอ้อมและค่อยๆหลับตาลงไปด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม
…..
“น้องน้ำคะมีแขกมาค่ะ เห็นบอกว่ามาหาคุณดินน่ะค่ะ” น้ำหวานเดินมาบอกสายน้ำที่นั่งเล่นอยู่กับน้องของขวัญและวายุที่ห้องโถงใหญ่ โดยมี เหนือ เบล อิฐ ข้าวปั้น หินผา และวาริอยู่ด้วยเช่นกัน ทุกคนทยอยตื่นกันมาหมดแล้วจะเหลือก็แต่ดินที่ยังไม่ฟื้น
“หือ! มาหาพี่ดินเหรอครับ ให้เค้าเข้ามาเลยก็ได้ครับ” สายน้ำถามขึ้นมาอย่างแปลกใจเพราะร้อยวันพันปีที่ดินมาค้างที่นี่ไม่เคยมีแขกของดินมาหาเลย
พอน้ำหวานพาแขกของดินเดินเข้ามาถึงห้องโถงใหญ่ทุกถึงกับต้องตาโตกันเป็นแถวเพราะคนที่กำลังเดินตามพี่น้ำหวานมานั้นสวยมากถึงแม้จะเป็นผู้ชายก็ตามที ส่วนรูปร่างนั้นก็ค่อนข้างจะใกล้เคียงกับรูปร่างของข้าวปั้นแต่จะดูมีน้ำมีนวลกว่านิดหน่อยเท่านั้นเอง
ทุกคนหันมามองที่อิฐเป็นตาเดียวกันว่าคนนี้ใช่คนที่ทำให้ดินต้องตกอยู่ในสภาพแบบเมื่อคืนหรือเปล่า เพราะมีอิฐคนเดียวเท่านั้นที่เคยเห็น ส่วนอิฐนั้นก็พยักน้อยๆกลับไปให้ทุกคนเป็นอันว่าเข้าใจกัน ข้าวปั้นล่ะอดทึ่งความสัมพันธ์ของคนกลุ่มนี้ไม่ได้เพราะเพียงแค่มองตาก็รู้กันแล้ว
“สวัสดีครับ ผมรู้มาว่าพี่ดินเอ่อคุณดินอยู่ที่นี่น่ะครับเลยมาหา ขอโทษด้วยนะครับที่ต้องมารบกวนทุกคน” ฟ้าครามเอ่ยบอกทุกคนออกมาอย่างเกรงใจ
“พี่ฟ้าสวัสดีครับ พี่น่าจะจำผมได้” อิฐรีบลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นท่าทางเก้ๆกังๆของอีกคน
“จำได้สิครับ” ฟ้าครามยิ้มออกมาและพอที่จะใจชื้นขึ้นมาบ้างเมื่อยังมีคนรู้จักอยู่ที่นี่ด้วย เมื่อเช้าเค้าตัดสินใจโทรไปถามพ่อกับแม่ของดินเรื่องที่อยู่ เพราะเมื่อคืนเค้านอนไม่หลับเลย พอหลับตาลงก็เห็นแต่แววตาที่ตัดพ้อของอีกคน พ่อกับแม่ของดินบอกว่าส่วนใหญ่แล้วดินจะอยู่ที่คอนโดแต่ถ้าเป็นวันหยุดดินชอบจะมานอนค้างที่บ้านเพื่อนซึ่งอยู่ติดกับบ้านที่กำลังสร้างใหม่ของดินเอง เค้าจึงเลือกเสี่ยงที่จะไปหาดินที่คอนโดก่อน แต่พอสอบถามพนักงานและลองให้พนักงานโทรขึ้นไปให้แต่ปรากฏกว่าไม่มีใครรับสาย แล้วบวกกับที่ไม่เห็นรถของดินจอดอยู่ด้วยเค้าจึงเสี่ยงที่จะมาที่นี่ตามที่แม่ของดินบอก โดยเค้าอ้างว่ามีงานด่วนที่ดินจะต้องเซ็นด่วน
“งั้นเดี๋ยวผมไปดูไอ้ดินให้นะครับ เมื่อคืนมันเมามากไปหน่อยเลยยังไม่ฟื้น เห็นบ่นแต่ว่าเสียใจที่ถูกปฏิเสธอะไรนี่แหละครับ” เหนือได้ทีก็พูดขึ้นมาให้อีกฝ่ายได้รู้ว่าทำให้เพื่อนเค้านั้นต้องเสียใจขนาดไหนก่อนที่จะเดินตรงไปที่ห้องที่ดินนอนอยู่ ฟ้าครามถึงกับหน้าสลดลงทันทีที่ได้ยินเหนือพูดออกมา จนทุกคนนึกสงสารขึ้นมาทันที
Comments (0)